“เอ.พี.ฮอนด้า” ประกาศก้อง “Race to the Dream สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน” ชวนคนไทยร่วมภูมิใจกับนักแข่งหนึ่งเดียวของไทยที่ลงแข่งแบบเต็มฤดูกาล ในศึก “โมโตทรี เวิลด์ แชม เปี้ยนชิพ” 

“เอ.พี.ฮอนด้า” ประกาศก้อง “Race to the Dream สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน” ชวนคนไทยร่วมภูมิใจกับนักแข่งหนึ่งเดียวของไทยที่ลงแข่งแบบเต็มฤดูกาล ในศึก “โมโตทรี เวิลด์ แชม เปี้ยนชิพ” 

          บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด โชว์ความเป็นที่หนึ่งของฮอนด้าระดับโลกในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยการเป็นเจ้าของแชมป์การแข่งขันระดับโลกสูงสุดมากกว่า 750 แชมป์  และได้จุดประกายความฝันอันยิ่งใหญ่ของเอพีฮอนด้า “เรซ ทู เดอะ ดรีม” (Race To The Dream) สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน” หวังสร้างความภูมิใจให้กับ คนไทยในการส่งนักแข่งไทยเข้าร่วมการแข่งขัน MotoGP ปี 2025 อย่างเต็มฤดูกาล โดยถือโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด MotoGP 3 ปี (ค.ศ. 2018-2020) ชวนคนไทยร่วมเชียร์กระหึ่มสนามให้กับเจ้าชิพ นครินทร์ อธิรัฐภูภัทร์ นักบิดตัวจริง หนึ่งเดียวของไทยที่ลงแข่งแบบเต็มฤดูกาล ในศึก “โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” และเจ้าก้อง สมเกียรติ จันทรา  นักบิด  ดาวรุ่งฟอร์มดีที่ได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ด ให้ลงบิดในรุ่นเดียวกันในสนาม โฮมเรซ (Home Race) พร้อมลุ้นมันส์ไปกับลีลาการขับขี่ระดับโลกของเจ้าหนูมหัศจรรย์เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุด มาร์ค มาเกซ สังกัดทีมเรพโซลฮอนด้า ที่มีคะแนนรวมปัจจุบันสูงถึง 201 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งมากถึง 59 คะแนน มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 5 จากการแข่งขันในรุ่น MotoGP เป็นปีที่ 6 ต่อหน้าแฟนๆ ความเร็วชาวไทย ระหว่าง 5-7 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

          มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ถือเป็นค่ายรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ของวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก จากผลงานที่คว้าชัยชนะมากที่สุดจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ได้มากกว่า 750 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มมีการแข่งขันชิงแชมป์ความเร็วระดับโลกเกิดขึ้น   และได้สร้างนักแข่งระดับตำนานมาแล้วมากมาย โดยล่าสุดในปี 2018 นี้นักแข่งรุ่นใหม่ฟอร์มสด เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัยชาวสเปนที่อายุน้อยที่สุด กับรถแข่งคู่ใจ “Honda RC213V” มาร์ค มาเกซ สังกัดทีมเรพโซลฮอนด้า กำลังมีคะแนนนำลุ้นแชมป์พรีเมียร์คลาส MotoGP สมัยที่ 5 ในฤดูกาล 2018 นี้อีกด้วย  และในโอกาสที่ประเทศไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการระดับโลกครั้งนี้ ทาง เอ.พี. ฮอนด้า   ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าอันดับหนึ่งในประเทศไทย และผู้บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงมุ่งหวังที่จะเป็นสะพานเชื่อมให้คนไทยได้มีโอกาสใกล้ชิดกับรายการระดับโลกนี้มากขึ้น และเข้าใจในแนวคิด “Race to the Dream สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน” ที่แสดงถึงความมุ่งหวังของเอพีฮอนด้า ในการสร้างนักแข่งไทยเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันระดับ Premiere Class รุ่น MotoGP ในปี 2025”

          “ภายใต้คอนเซ็ปต์ เอ.พี. ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม (Race To The Dream ) สปิริตไทย ท้าทายสู่ฝัน  คือ แนวคิดสำคัญในการปั้นนักแข่งไทยไปสู่สนามระดับโลก “โมโตจีพี” ในปี 2025 โดยเราได้วางโร้ดแม็ปเอาไว้อย่างชัดเจนจากโครงสร้างที่ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน ทุกระดับ นับตั้งแต่ ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ สำหรับนักแข่งอายุ 9-14 ปี     เพื่อเรียนรู้พัฒนาทักษะการขับขี่ และความแข็งแกร่งของร่างกาย ก่อนก้าวสู่ความท้าทายในการแข่งขันรายการ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนท์ คัพ เมื่อเติบโตขึ้นมีอายุระหว่าง 15-20 ปี และเด็กที่มีฝีมือจะถูกคัดเลือกไปแข่งขันที่รายการ เอเชีย ทาเลนท์ คัพ ก่อนจะผลักดันสู่ ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ ซึ่งมีปลายทางที่การแข่งขันระดับโลกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโต ทรี, โมโตทู และจุดสูงสุดคือ โมโตจีพี นั่นเอง”

          นอกจากนั้นในการสนับสนุนนักแข่งไทยที่มีความสามารถในระดับโลก ปัจจุบันเรามี  “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดตัวจริง หนึ่งเดียวของไทยที่ลงชิงชัยในศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “รุ่นโมโตทรี” เต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รวมถึงล่าสุดเราได้สิทธิ์ (ไวด์การ์ด) ส่ง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ดาวรุ่งที่ผ่านสังเวียนระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย     ให้ลงแข่งขันในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 ต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยในแผ่นดินเกิดด้วยเช่นกัน”

          ทั้งนี้ ในศึกโมโตจีพีครั้งแรกบนผืนแผ่นดินไทย จะมีนักบิดไทยลงแข่งขันในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นเวทีที่รวมเอายอดนักบิดดาวรุ่งจากทั่วโลกมาไว้ในเรซเดียวกันมากที่สุด นำโดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดตัวจริงที่ลงดวลความเร็วแบบเต็มฤดูกาลกับสังกัด ฮอนด้า ทีม เอเชีย เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน โดยใช้รถแข่ง Honda NSF250RW หมายเลข 41 ในการแข่งขัน และนี่คือการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในโฮมเรซครั้งแรกของนักบิดไทยรายนี้ รวมถึง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในรายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ฉายแววยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่สองกับการแข่งขันในยุโรป จะได้รับสิทธิ์ (ไวด์การ์ด) ลงดวลความเร็วในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในนามทีมเอพีฮอนด้าเรซซิ่งไทยแลนด์

          นอกจากนี้ รายการเอเชีย ทาเลนท์ คัพ 2018 ซึ่งเป็นหนึ่งใน Road Map การพัฒนานักแข่งไทยสู่สนามโมโตจีพีในปี 2025 ยังถูกบรรจุเป็นซัพพอร์ตเรซให้กับรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งนี้อีกด้วย โดยเอพีฮอนด้าจะส่ง 3 นักบิดสายเลือดใหม่จากรายการไทยแลนด์ทาเลนต์คัพที่ผ่านการคัดเลือกจากดอร์น่าสปอร์ต ผู้จัดการแข่งขันระดับโลกให้ลงสู้ศึกในนามประเทศไทย นำโดย  “ไอซ์” นิติพงษ์ แสงสว่าง, “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว โดยรายการนี้นับเป็นบันไดสำคัญที่ทางดอร์นาสปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์โมโตจีพี มุ่งหวังที่จะเปิดโอกาสให้นักบิดทั่วเอเชียที่อายุไม่เกิน 19 ปี ร่วมแข่งขันเพื่อเก็บประสบการณ์ร่วมกับนักบิดระดับโลก ก่อนพัฒนาตัวเองให้ก้าวขึ้นสู่ศึกโมโตจีพีต่อไปในอนาคต

          สำหรับในรุ่นโมโตจีพี ซึ่งเป็นเรซสูงสุดในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก ฮอนด้ามีคะแนนนำสูงสุด โดยเจ้าหนูมหัศจรรย์เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุด มาร์ค มาเกซ สังกัดทีมเรพโซลฮอนด้า กับรถแข่งคู่ใจ Honda RC213V ซึ่งปัจจุบันมีคะแนนนำอยู่ที่ 201 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งในอันดับสองถึง 59 คะแนน มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 5 จากการลงแข่งขันในรุ่น MotoGP เป็นปีที่ 6 ถือเป็นนักแข่งรุ่นใหม่ ฟอร์มสด ที่มีอายุน้อยที่สุดที่สามารถเป็นแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัยในปัจจุบัน จึงอยากให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ได้มาเห็นลีลาการขับขี่ระดับโลกของ มาร์ค มาเกซ นักแข่งดาวรุ่งเลือดใหม่ไฟแรงของฮอนด้าแบบติดขอบสนามในครั้งนี้