ฮอนด้า ส่ง ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 เปิดโลกใหม่แห่งยนตรกรรม พร้อมประมาณราคาก่อนประกาศอย่างเป็นทางการวันจำหน่ายจริง

ฮอนด้า ส่ง ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 10 เปิดโลกใหม่แห่งยนตรกรรม พร้อมประมาณราคาก่อนประกาศอย่างเป็นทางการวันจำหน่ายจริง

          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชันที่ 10 สู่ตลาดประเทศไทย อีกขั้นแห่งยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน ที่พาคุณก้าวข้ามข้อจำกัด ด้วยการท้าทายความเชื่อและขอบเขตเดิมๆ สู่โลกบทใหม่แห่งยนตรกรรม มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน ขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO 190 แรงม้า และระบบ Sport Hybrid i-MMD มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังแต่คงไว้ซึ่งอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม อีกขั้นของความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda Sensing) และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียมที่ครบครัน มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ผสมผสานเอกลักษณ์ความหรูหราและความสปอร์ตไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย โดยฮอนด้า เผยราคาประมาณการ ก่อนประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมการวางจำหน่าย ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ในเดือน พฤษภาคม 2562

          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บรษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนดา แอคคอร์ด เป็นรถยนต์ที่สำคัญรุ่นหนึ่งของฮอนด้าที่ได้รับการตบอรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลกรวมถึงลูกค้าชาวไทย และได้ทำการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงเจเนอเรชันที่ 9 โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นรถยนต์ที่เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดเพื่อต่อยอดการพัฒนายนตรกรรมเสมอมา ในปัจจุบันโลกและเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่ง ครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนายนตรกรรมให้เหนือระดับไปอีกขั้น เพื่อก้าวนำเทคโนโลยี ด้วยการก้าวข้ามข้อจำกัด และท้าทายความเชื่อแบบเดิมๆ ครั้ง ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชันที่ 10 จะยังความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แห่งยนตรกรรมยุคใหม่ ทั้งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณความสปอร์ตพรีเมียมผ่านดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อพาคุณสัมผัสโลกบทใหม่แห่งยนตรกรรม

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่

  

          เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด 243 นิวตัน-เมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรงและ เทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbocharger) ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้สมรรถนะการขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย

          ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid intelligent Multi Mode Drive ( i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัต่อเนื่องไฟฟ้า ( E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ( EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) และยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนานเร้าใจ โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นรรบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร

          สู่อีกระดับของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda Sensing )ที่ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่

          และช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่ และเพื่อนร่วมงานทางบนท้องถนน ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น

-ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก

-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ

-ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ

-ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ

-ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

           พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ด้วยเสียงและสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอ เมื่อมีรถยนต์คันอื่นขับสวนเข้ามาทางด้านซ้ายหรือขวาขณะรถถอย ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) จะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้ง 4 จุดรอบคัน (ด้านหน้า หลัง ซ้าย และขวา) สามารถแสดงภาพได้ครบทุกมุมมอง รวมถึงภาพจำลองจากมุมสูงเพื่อให้เห็นทุกทิศทางรอบคัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างชัดเจน ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) ระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ โดยเพียงแค่เดินหน้าหรือถอยหลังไปตามคำแนะนำ และตามตำแหน่งบนหน้าจอ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ทั้งการจอดรถแนวขนานและการถอยหลังเข้าจอดได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น

          ดีไซน์ภายนอกผสานความหรูหราสง่างามกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว ผ่านการออกแบบที่เรียบหรูแต่ประณีตในทุกรายละเอียด ด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียวและเฉียบคม สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียมอย่างเหนือระดับ มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายดีไซน์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ แบบ LED พร้อมด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเทอร์โบ และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นไฮบริด

          อีกขั้นของดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต ผสมผสานความความสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว ผ่านการใช้โครงสร้างเส้นสายในแนวนอน เพื่อทำให้บริเวณคอนโซลกลางโปร่งโล่ง และส่งผลให้มีพื้นที่ช่วงขามากขึ้น อีกทั้งมอบทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น ซึ่งครั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ได้รับการพัฒนาในเรื่องความเงียบภายในห้องโดยสารไปอีกขั้น เพื่อมอบสุนทรียภาพในทุกการเดินทางอย่างเหนือระดับยิ่งขึ้น

          ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) มาพร้อมสีภายห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีไอวอรี่เบจ สีดำ และ สีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก

มีให้เลือก 3 รุ่นได้แก่

  • รุ่น HYBRID TECH ราคาไม่เกิน 1,800,000 บาท
  • รุ่น HYBRID ราคาไม่เกิน 1,650,000 บาท
  • รุ่น TURBO EL ราคาไม่เกิน 1,500,000

          ทางฮอนด้า จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมการวางจำหน่าย ฮอนด้า แอคคอร์ดใหม่ ในเดือน พฤษภาคม 2562