เรียนรู้การใช้เกียร์อย่างเซียน

เรียนรู้การใช้เกียร์อย่างเซียน

เรื่องของเกียร์รถมอเตอร์ไซค์นั้นยังมีหลายๆคนที่จะมีความเข้าใจผิดๆในเรื่องของจังหวะ การเดินรอบเครื่องยนต์ หรือแม้กระทั่งจังหวะในการปล่อยคลัทช์ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกจากการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลง วันนี้แอดมี  6 วิธีที่จะทำให้เพื่อนสามารถใช้งานเกียร์ ให้มีประสิทธิภาพ มาฝากกันครับ

วิธีที่ 1 เริ่มจากเบาๆก่อน
เบาๆในที่นี้หมายความถึงรอบของเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมากนักนะครับอย่าคิดไกล แน่นอนว่าการออกตัวของรถที่จอดอยู่นิ่งๆหรือใช้ความเร็วที่ต่ำอยู่นั้น จะต้องออกที่รอบความเร็วเครื่องยนต์ที่ต่ำแล้วค่อยๆไล่เรียงระดับรอบความเร็วของเครื่องยนต์ขึ้นไปหากเพื่อนๆคิดจะกระแทกคันเร่งส่งตัวในรอบที่สูงนั้นต้องมั่นใจว่าไม่มีอะไรขวางหน้ามิเช่นนั้นอาจะเกิดอุบัติเหตุได้

วิธีที่ 2 ความเร็วที่ดีที่สุดอยู่ที่เกียร์ที่เราเลือกใช้
เช่นจังหวะในการแซงหาก รอบความเร็วของเราเริ่มตกแต่ต้องการจะแซงเพื่อนๆหลายคนอาจจะเลือกที่จะใช้การกระแทกคันเร่งส่งเพื่อให้ได้รอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น แต่จะดีกว่าไหมหากเราปรับเกียร์ลง 1 เกียร์เพื่อให้รอบที่กำลังตกนั้นดีดขึ้นจากเดิมแล้วเร่งแซงเราจะได้ความเร็วที่เพียงพอและเปลี่ยนเกียร์ในรอบที่เครื่องยนต์พร้อมกว่า มันจะรวดเร็วและปลอดภัยกว่าการพยายามลาก รอบที่ต่ำเพื่อทำการแซง เช่นเดียวกับการเข้าโค้ง หากเพื่อนๆอยู่ในความเร็วที่สูงเกินไปอาจจะทำให้เข้าโค้งได้ลำบากหรืออาจจะหลุดโค้ง การตบเกียร์ลงก่อนโน้มตัวเพื่อเข้าโค้งก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมการตบเกียร์ลงรถอาจมีอาการสะบัดเล็กน้อยอย่าปล่อยคลัทช์เร็วไปนะครับ

วิธีที่ 3 อย่าคิดว่าการเปลี่ยนเกียร์คือการเบรก
การเปลี่ยนเกียร์นั้นเป็นการเปิดใช้เอนจิ้นเบรก แต่มันจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อ เราปล่อยคลัทช์ได้ถูกจังหวะและกดเบรกหน้าและหลังเข้าช่วย นั้นคือการใช้งานระบบเอนจิ้นเบรกที่มีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งหากเราใช้ไม่ถูกจังหวะก็ส่งผลเสียเช่นกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพื่อนๆต้องจำให้ขึ้นใจว่าเอนจิ้นเบรกคือการฉุดเครื่องยนต์ให้ช้าลงไม่ใช่การเบรก

 วิธีที่ 4 รอบต่ำในเกียร์สูง
สำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่ใหญ่นั้น หากเราจะเดินรถในรอบที่ต่ำนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เกียร์ต่ำเสมอไป ยกตัวอย่างหากเราจำเป็นต้องชะลอรถเพื่อผ่านทางแคบ เช่นด่านตรวจ การตบเกียร์ลงมานั้นจะดีดรอบเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นซึ่งแน่นอนว่าหากเราเปิดคันเร่งเพียงนิดเดียวตัวรถก็อาจจะพุ่งทะยานออกไปโดยที่เราไม่ตั้งใจ แต่ในทางกลับกันหากเรายังคงอยู่ในเกียร์ที่สูง โดยที่เราไม่ต้องกำคลัทซ์ ค่อยๆปิดคันเร่งและประคองคันเร่งในรอบความเร็วเครื่องที่ยังพอไปได้ จะทำให้รถไม่กระชากตัวออกไปแต่จะค่อยๆเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและควบคุมรถได้ง่ายนั่นเอง

วิธีที่ 5 ปล่อยให้รอบตกบ้างก็ได้
สำหรับกรณีที่มีผู้โดยสาร เพื่อนๆอาจจะเคยเจอเหตุการณ์หมวกกันน็อคโขกกันเอง ในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ นั้นก็เป็นเพราะเราเปลี่ยนเกียร์ในจังหวะที่รอบของเครื่องยนต์สูงเกินไปทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการสับในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ วิธีแก้ง่ายๆก็คือ เปลี่ยนเกียร์แล้วรอหนึ่งจังหวะให้รอบเครื่องยนต์ตกลงมานิดหน่อย  ยกตัวอย่างเช่นในจังหวะเปลี่ยนเกียร์นั้นรอบเครื่องยนต์เราอยู่ราวๆ 6500 รอบต่อนาที เราตบเกียร์ขึ้น แล้วรอหนึ่งจังหวะ ให้รอบของเครื่องยนต์ตกลงมานิดหน่อยให้เหลือประมาณ 5000 – 5500 รอบแล้วปล่อยคันเกียร์และค่อยๆปล่อยคลัทซ์ เราจะได้รอบเครื่องยนต์ที่สมูท  และกรณีนี้สามารถปรับไปใช้ในสถานการณ์ที่เราเจอฝนหรือถนนเปียกได้อีกด้วย

วิธีที่ 6 ก่อนการเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้งอย่าลืมปิดคันเร่ง
นี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ถึงแม้ว่าทุกครั้งที่เราบีบคลัทซ์นั้นเปรียบเสมือนกับการเข้าเกียร์ว่าง ต่อให้เร่งแค่ไหนรอบของเครื่องยนต์ก็จะยังไม่ทำงาน แต่ถ้าหากเราปล่อยตลัทซ์ล่ะรับรองได้เลยว่าหน้าสับกันแน่นอน ดังนั้น ทางที่ดีเราควรมีสติ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงความเร็วที่สูงนั้น รอบของเครื่องยนต์จะพุ่งสูงขึ้นตามความเร็วของตัวรถ ยิ่งต้องมีสติให้มากขึ้น ปิดคันเร่งแล้วเปลี่ยนเกียร์แล้วค่อยเปิดคันเร่งส่งไป นั้นจะปลอดภัยกว่านะครับ

นี้ก็คือ 6 วิธีง่ายๆที่จะทำให้เพื่อนๆใช้งานเกียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของส่วนอื่นๆประกอบกัน เช่นการฟังเสียงเครื่องยนต์ การฝึกการปล่อยคลัทช์ การเดินคันเร่งในรอบต่ำ เป็นต้น หากเพื่อนๆทำกันจนชำนาญแล้วรับรองได้เลยว่าการขับขี่ของเพื่อนๆจะสนุกขึ้นและปลอดภัยมากกว่าเดิมแน่นอนครับ