วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์

วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นส่วนสำคัญของรถยนต์และมีอายุการใช้งานที่จำกัด ขึ้นอยู่กับการใช้รถ เมื่อแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ก็ต้องหาซื้อใหม่ การเลือกซื้อของใหม่มีความสำคัญ ต้องใส่ใจเลือกของมีคุณภาพ ยังมีรายละเอียดการเลือกซื้ออีก มาดูกันว่า วิธีเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ ต้องทำยังไงบ้าง

1.เลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่มียี่ห้อ เชื่อมั่นได้ว่า แบรนด์เหล่านั้นต้องรักษาชื่อเสียงตัวเอง จึงได้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาขายอย่างมีมาตรฐาน

2.เลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่เพิ่งผลิตออกมาขาย จะซื้อมาแบบค้าง stock เพราะมีราคาถูก เพราะแบตเตอรี่ที่หมดอายุ เสื่อมคุณภาพเร็ว ซึ่งอาจจะทำให้รถเสียหาย เพราะซื้อของเก่าๆ มาใช้ เมื่อเทียบกับสินค้าที่เพิ่งผลิต ซื้อของค้างสต็อก ถูกแค่ตอนซื้อแต่สุดท้าย  อาจจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของใหม่ ที่เพิ่งออกขายมาใช้ด้วยซ้ำ การดูว่าเป็นของเก่าหรือของใหม่นั้นดูไม่ยากเลย ให้ดูวัน เดือน ปีที่ผลิตที่แบตเตอรี่ เพราะสินค้าแต่ละล็อตที่ผลิตออกมาขาย จะมีรหัสเหมือนกับยางรถยนต์

3.แบตเตอรี่รถยนต์นั้น มีทั้งแบบแห้งไม่ต้องเติมน้ำกลั่น และ แบบต้องเติมน้ำกลั่น สำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลรถ ควรเลือกใช้แบตเตอรี่แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นจะดีกว่า แต่มีข้อจำกัดต้องระวัง รถที่ใช้แบตเตอรี่แบบไม่เติมน้ำกลั่นต้องเป็นรถที่ไม่มีการแต่งอุปกรณ์ไฟฟ้าเกินกว่าสภาพดั้งเดิมตอนออกจากโรงงาน

4.สำหรับผู้ใช้รถที่นิยมแต่งเติม เสริมอุปกรณ์ไฟฟ้าเขาไปในภายหลัง เช่น ระบบเครื่องเสียง,ไฟตัดหมอก,ขนาดไฟหน้าที่กว้าง ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ชนิดที่ต้องเติมน้ำกลั่น เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใส่เพิ่มเข้าไปในรถทำให้ต้องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น การใช้ไฟฟ้ามากก็เป็นเหตุให้เกิดการประจุและการนำกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติ ซึ่งหากเลือก

แบตเตอรี่แบบแห้ง ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมากขึ้น การใช้รถที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องดี

5.ข้อนี้สำคัญมาก เวลาซื้อแบตเตอรี่ใหม่เพื่อแทนของเดิมที่ติดมากับรถ ต้องเลือกขนาด แอมแปร์เท่ากันหรือมากกว่าที่เคยติดมากับรถ

5.1 รถที่มีเครื่องขนาด 1300-1800cc ควรใช้แบตเตอรี่ขนาด 45 แอมป์ – 60 แอมป์

5.2 รถเครื่องยนต์ขนาด 2000cc-3000cc ควรใช้แบตเตอรี่ 75 แอมป์

5.3 รถกระบะ เครื่องยนต์ขนาด 2000cc-3000cc ให้ใช้แบตเตอรี่ขนาด 70 แอมป์– 90 แอมป์

*รถญี่ปุ่นขั้วลอย         *รถยุโรปขั้วจม

ข้อดีของแบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์มากก็คือ สามารถใช้งานได้นานกว่าแอมแปร์น้อย แต่ก็ควรดูความเหมาะสมและราคาประกอบด้วยบางครั้งการเลือกขนาดแอมแปร์สูง ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากขนาดเครื่องยนต์เล็กและไม่ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟฟ้า

6.กรณีเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้รถยนต์เก่าที่ใช้งานมานาน  เวลาซื้อแบตเตอรี่ต้องเพิ่มค่า Ah มากขึ้นกว่าเดิม เช่น แบตเตอรี่เดิมใช้ 12v 60Ah เมื่อซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนควรเลือก  12v 65Ah หรือ 12v 70Ah คือเพิ่มค่า Ah อีกสัก 5-10 เหตุผลเพราะว่า รถที่ใช้งานมานานๆ อุปกรณ์ต่างๆ ในรถจะมีความเป็นตัวนำไปฟ้าลดลง เป็นเหตุให้กระแสสูญเสียไปกับความร้อนที่เกิดขึ้น การเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่า Ah เพิ่มขึ้นนับเป็นการเผื่อกระจายการะแสมากขึ้น เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย เพราะกระแสไม่เพียงพอ

7.ควรเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ ที่มีตาแมวหรือช่องดูค่าความถ่วงจำเพาะหรือสถานะของแบตเตอรี่ เพราะจะช่วยให้เราดูสถานะของแบตเตอรี่ได้ง่าย การรู้สภาพปัจจุบันของแบตเตอรี่นั้น เป็นเรื่องที่ดีไม่ต้องเจอความเสี่ยงหรือเสียหายโดยไม่รู้ตัว

                การเลือกซื้อแบตเตอรี่นั้นควรเลือกซื้อแบบแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และไม่ควรซื้อแบบค้างสต็อก เวลาซื้อแบตเตอรี่ใหม่ต้องเลือกที่มีขนาดแอมแปร์เท่ากับหรือสูงกว่าอันเก่าที่เคยติดรถมา หากเป็นรถยนต์ที่ใช้มานานจะต้องเพิ่มค่า Ah ของแบตเตอรี่ให้มากกว่าเดิม และควรเช็คแบตเตอรี่ตลอดเวลาจะไปไหน