Honda CBR series จากรถยอดนิยมสู่โฉมใหม่ที่ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของ

Honda CBR series จากรถยอดนิยมสู่โฉมใหม่ที่ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของ

                สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Realtime Carmagazine ทุกท่านวันนี้จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์ที่พูดไปก็มีแต่คนรู้จักกัน นั่นก็คือเจ้า CBR นั่นเอง ซึ่งเราจะมาปูทางต้นกำเนิดให้ทราบกันว่ากว่าจะมาเป็นเจ้า CBR ในทุกวันนี้มาได้อย่างไรและจากตัวแข่งในสนามนั้นมาสู่ตัวขับบนท้องถนนที่ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของกัน พร้อมแล้วก็มาดูด้วยกันเลย

               เมื่อพูดกันถึงรถจักรยานยนต์รุ่นหนึ่งที่เหล่าสาวกผู้รักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจไม่มีใครไม่รู้จักเจ้า CBR รถจักรยานตระกูลหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากๆจากค่ายฮอนด้า ที่มีประวัติมาค่อนข้างยาวนาน เริ่มกันตั้งแต่ ปี 1983 ที่เรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดหรือบรรพบุรษรุ่นแรกเลยคือ CBR400F ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ
4 จังหวะ ระบบคาบูเรเตอร์ พร้อมพกพาน้ำหนักที่เห็นแล้วบอกได้เลยว่าหนักมากถึง 187 กก. ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหนักที่เอา
เรื่องมากๆในสมัยนั้น

             จากนั้นก็ได้มีการพัฒนารูปร่างและรูปทรงต่อมาเรื่อยๆ จนได้มาถึงตัวปัจจุบัน All New CBR-150R ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่หมดจด สมกับการรอคอยจากแฟนมาถึง 9 ปีจากรุ่นก่อนหน้า(CBR-150R 2010)

            ทำเอาแฟนที่ติดตามรถในตระกูล CBR ต้องร้องว้าวถูกใจกัน เพราะได้นำเทคโนโลยีเดียวกันกับตัวแข่งในสนามอย่าง RC213V ที่เป็นตัวแข่งของทีมแข่งระดับ MotoGP และที่เป็นแชมป์การแข่งสดๆร้อนๆของทางค่ายคือการแข่งขันซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 (“Suzuka 4 Hours Endurance 2019”)  อย่าง New CBR-250RR  โดยผู้ขับคือ  มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวจากทีม  A.P. Honda Racing Thaillandเอาหละอย่ารอช้าเรามาดูกันเลยว่า All New CBR-150R จะมีอะไรบ้าง

1.รูปทรงที่ปราดเปรียว พร้อมดีไซน์สปอร์ตเต็มขั้น
ที่บอกได้เลยว่าออกแบบมาตามหลักอากาศพลศาสตร์ ที่จัดเต็มเรื่องความสปอร์ต เฉียบคมทุกองศาด้วยดีไซน์ที่รับเข้ากับสรีระผู้ขับขี่ และมาพร้อมลวดลายพิเศษสุดๆ อย่าง  REPSOL Honda: CBR Series ที่ออกลายนี้มาเพื่อฉลองการเป็นแชมป์โลกสมัยล่าสุดให้ผู้ขับขี่ได้อารมณ์การขับขี่ในสไตล์แบบแชมป์อีกด้วยและอีกหนึ่งลายสุดพิเศษอย่างลาย Racing Thailand Styling ที่เป็นลายประจำทีมแข่ง เอ.พี. ฮอนด้าไทยแลนด์ที่บ่งบอกถึงความมีดีกรีแชมป์ในสายเลือดและสีปกติให้ได้เลือกกันเลย

2.เครื่องยนต์ยกเครื่องมาใหม่สายพันธุ์สนามแข่ง

            ยกเครื่องมาอย่างใหม่หมดจดด้วย NEW ENGINE 150 CC. DOHC 4 Valve Liquid-Cooled เครื่องยนต์ใหม่ 150 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ลูกสูบเคลือบโมลิบดีนั่ม ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้มีประสิทธิภาพได้ดีตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูงๆกันเลยทีเดียว พร้อมเกียร์ 6 สปีด บนพื้นฐานเครื่องที่มาจากตัว RC213V และ New CBR-250 RR แห่งสายเลือดแชมป์ ทำให้รีดความแรงออกมาใช้งานกันได้ถึงใจแน่นอน

3.ระบบกันสะเทือนสุดเยี่ยมที่ปรับตั้งค่าได้
จัดเต็มด้วยโช้คหน้าแบบที่ยกมาจากตัวแข่งและตัวรุ่นพี่คือสามารถปรับตั้งค่า Preload ได้ เท่านั้นยังไม่พอยังมีโช้คหลังแบบ Pro-Link ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ถึง 7 ระดับ โดยที่ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับการขับขี่ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

และยังมีออฟชั่นต่างๆที่เพิ่มและปรับเปลี่ยนเข้ามาเสริมให้เจ้า All New CBR-150R ได้เป็นสายพันธุ์สปอร์ตและระบบที่ให้ความปลอดภัยเป็นเยี่ยมอย่าง

1.เรือนไมค์ดิจิตอลสุดเท่ให้ความล้ำเต็มขั้น
ด้วยเรือนไมค์แบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ พร้อมบอกรอบเครื่องและไฟแสดงสถานะต่างๆ พร้อมด้วยฟังก์ชั่นจัดทริป ดีไซน์สปอร์ตเต็มรูปแบบ

2.เฟรมแบบใหม่ น้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน
ด้วยเฟรมใหม่แบบถักที่น้ำหนักเบา แข็งแรง ช่วยให้มีสมดุลในการขับขี่

3.ไฟหน้าแบบใหม่ สปอร์ตเร้าใจทุกเส้นทาง

          ไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ที่เรียกกันว่า ทรงพญาอินทรีย์ให้ความสว่างและส่องได้ไกลกว่าเดิม พร้อมความมั่นใจทุกการขับขี่

4.ท่อไอเสียแบบใหม่และถังขนาดใหญ่
ท่อไอเสียแบบใหม่ที่ได้รับการปรับรูปแบบให้เข้ากับรูปแบบของรถและถังน้ำมันขนาด 12 ลิตร พร้อมดีไซน์เข้ากับรูปแบบของตัวรถ ทำให้มั่นใจทุกการเดินทางไม่ว่าใกล้ไกลก็เอาอยู่

5.เบาะนั่งแบบ Tamdam seat
ให้ความสะดวกมากขึ้นในการขับขี่พร้อมรับเข้ากับสรีระของผู้ขี่และผู้ซ้อนได้อย่างลงตัว พร้อมการขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

6.ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม เสริมความมั่นใจได้มากขึ้น

          ด้วยระบบเบรค ABS(เฉพาะรุ่น)ที่ให้ความมั่นใจทุกการหยุดรถที่เบรกพร้อมด้วยจานดิสก์เบรคแบบลอนคลื่น(Wave Disc) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมด้วยระบบไฟกระพริบที่จะทำงานเมื่อมีการเบรกแบบกะทันหัน เสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับเจ้า CBR ที่มีประวัติที่ยาวนานที่สืบทอดความแรงและความสปอร์ตรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงตัวปัจจุบันนี้ที่ได้นำเทคโนโลยีมาจากตัวแข่งในสนามอย่าง RC213V และ New CBR-250RR อีกด้วย พร้อมทั้งเอาความสดใหม่มาเสริมให้เจ้า All New CBR-150R ตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นรถที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่ได้รับการถ่ายทอดความสปอร์ตเร้าใจมาจากรุ่นพี่อย่างตัวแข่งมาอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อนๆคนไหนสนใจเจ้า All New CBR-150R ตัวนี้ก็สามารถเป็นเจ้าของกันได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของทาง เอ.พี. ฮอนด้าได้แล้วทั่วประกาศ

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *