ช่วงล่างแบบถุงลมมันเป็นยังไงไปดูกัน…!!

ช่วงล่างแบบถุงลมมันเป็นยังไงไปดูกัน…!!

     จริงๆแล้วเรื่องราวของระบบช่วงล่างแบบถุงลมมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรมากนักเพราะว่าโดยปกติแล้วเราจะเห็นช่วงล่างแบบนี้อยูในรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถบัสขนาดใหญ่นั่นเอง แต่สำหรับในคอลัมน์นี้เราจะมาพูดถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ถูกนำมาใช้ในรถบ้านขับใช้งานกันหรืออีกประเภทหนึ่งที่ชอบทำกันคือกลุ่มของรถสไตล์ VIP การทำงานมันเป็นยังไง ต้องใช้อะไรบ้างในการปรับแต่งจากช่วงล่างเดิมให้เป็นระบบถุงลม การดูแลลักษามันยากมากมั้ยรวมถึงข้อดีและข้อเสียของระบบช่วงล่างประเภทนี้

     ช่วงล่างระบบถุงลมหรือ AIR SUSPENSION โดยส่วนมากแล้วเราจะพบเห็นช่วงล่างรูปแบบนี้อยู่ในรถ VIP ซึ่งระบบช่วงล่างแบบถุงลมนี้สามารถนำไปใช้กับรถยนต์ได้ทุกรุ่นและการเปลี่ยนแปลงระบบช่วงล่างมาเป็นระบบถุงลมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไกลตัวหรือเรื่องที่ยุ่งยากอะไรมากนัก รวมถึงเรื่องราคาค่าใช้จ่าย การบำรุงรักษาก็ไม่ได้ห่างไกลจากระบบช่วงล่างแบบโช้คอัพ/คอยล์สปริงตามปกติที่เราเห็นกันทั่วไป

ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้างถ้าอยากจะมีช่วงล่างแบบถุงลม (AIR SUSPENSION)

  1. ปั๊มลม มีไว้สำหรับปั๊มลมเข้าถังเพื่อเอาไว้ใช้ในการคอนโทลระบบโช้คอัพเมื่อระดับลมในถังลดน้อยลงปั๊มก็จะทำหน้าที่ในการอัดลมเข้าไปในถังนั่นเองครับ
  2. ถังลม ต่อเนื่องจากข้อ1 ซึ่งถังลมจะมีขนาดเท่าไหร่ก็ได้ขึ้นอยู่กับพื้นที่และความเหมาะสมในการใช้งาน ทำหน้าที่กักเก็บลมก่อนที่จะส่งผ่านไปยังถุงลมที่อยู่กับโช้คอัพทั้งสี่ต้น
  3. ถุงลม มาถึงตัวการหลักถ้าใครนึกไม่ออกว่าถุงลมมันอยู่ตรงไหน คิดง่ายๆครับตำแหน่งของถุงลมจะอยู่ที่เดียวกับสปริงนั่นเองครับ เพราะถุงลมจะเข้าไปแทนที่ของสปริง
  4. โช้คอัพ ตัวของโช้คอัพนั้นก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมจุดเดิมครับไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรอาจจะมีการปรับแต่ในเรื่องของระบบน้ำมันบ้างตามความเหมาะสมและการใช้งาน
  5. โซลินอยด์วาล์ว ซึ่งการทำงานก็จะเป็นไปตามขั้นตอนแหละครับ โซลินอยด์ทำหน้าที่เปิด-ปิดวาล์วจากสวิทช์ควบคุมจากห้องโดยสารส่งผ่านไปยังตัวถุงลมแต่ละใบ

     ประสิทธิภาพในการใช้งาน ระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถช่วยเพิ่มฟังก์ชั่น ในการยกตัวรถขึ้นและลงได้อย่างสะดวก ขณะที่การยึดเกาะถนน ยังสามารถให้ประสิทธิภาพได้เหมือนเดิมกับที่ใช้ระบบคอยล์สปริง แต่ที่จะดีขึ้นชัดเจนก็คือ ในขณะที่มีน้ำหนักบรรทุกมากขึ้น ระบบช่วงล่างแบบถุงลม สามารถให้ความนุ่มนวลได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญช่วงล่างแบบนี้สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ตามต้องการจะแยกสวิทช์ปรับทีละต้นหรือจะยกขึ้น-ลงเป็นคู่หน้า-คู่หลัง ก็สามารถทำได้
เรื่องของการบำรุงรักษาระบบช่วงล่างแบบถุงลมก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนัก เราควรปล่อยลมออกจากระบบหากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน เพื่อไม่ให้สายลมและจุดข้อต่อ รับภาระหนักตลอดเวลา เป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบสายลม ควรปิดสวิทช์ไฟทุกครั้งหลังจากการจอดรถเรียบร้อย เพื่อป้องกันในกรณีที่ปั๊มลมหรือระบบไฟเกิดความผิดปกติ ควรนำรถเข้าตรวจเช็คระบบทุกๆ 6เดือน เพื่อความสะอาดของถังลม และต้องไล่ความชื้นออกจากถังลมเพื่อป้องกันการเกิดคราบระกันหรือการเกิดสนิมในจุดต่างๆ

สำหรับระบบช่วงล่างแบบถุงลม AIR SUSPENSION จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรแต่สำหรับผู้ที่ต้องการมีช่วงล่างแบบนี้เมื่อทำการปรับเปลี่ยนมาแล้วสิ่งที่ต้องมีมากขึ้นก็คือเรื่องของการหมั่นดูแลตรวจเช็คให้เป็นระยะ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของระบบ เนื่องจากอุปกรณ์บางจุดจะต้องรับภาระแรงดันอยู่ตลอดเวลานั่นเองครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ท่านผู้อ่านสนุกสนานกับการปรับแต่งรถที่ท่านรักและอย่างลืมขับขี่กันด้วยความไม่ประมาทนะครับ….สวัสดีครับ

ขอบคุณที่รับชมจนจบเเละสามารถติดตามข่าวสารสดใหม่ ได้ที่ : realtime car magazine