ตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์กับประวัติอันล้ำค่า

ตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์กับประวัติอันล้ำค่า

สวัสดีชาว Realtime car magazine ทุกท่าน เราจะพาทุกท่านไปได้ความรู้ใหม่ๆ ที่บางคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน เหมือนผม ผมจะพาทุกท่านไปดูเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของ รถตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์กัน ว่าเป็นมายังไงบ้าง ถ้าพร้อมกันแล้วไปอ่านกันได้เลย

             ปี พ.ศ.2500 ประเทศญี่ปุ่นเริ่มจำหน่ายรถบรรทุกสามล้อ ยี่ห้อไดฮัทสุ ( Daihatsu ) รุ่นมิดเจ็ท ดีเค ( Midget DK ) เป็นรถสองจังหวะ ( ZA 250CC ) มีไฟหน้าหนึ่งดวง และมีที่จับบังคับเหมือนรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นรถต้นแบบรถตุ๊กๆของประเทศไทย

ปี พ.ศ 2503 ประเทศไทยเริ่มมีการนำเข้ารถบรรทุกสามล้อ ยี่ห้อไดฮัทสุ รุ่น มิดเจ็ท ดีเคจากญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก    เป็นจำนวน 30 คัน บรรทุกมาทางเรือ และนำออกจำหน่ายกัน อย่างแพร่หลายในย่านเยาวราช โดยคนไทยในยุคนั้นเรียกกันว่า “สามล้อเครื่อง” ต่อมาภายหลังเศรษฐกิจไทยดีขึ้น จึงเพิ่มการนำเข้ารุ่นมิดเจ็ท เอ็มพี 4 ( Midget MP4 ) ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่เพิ่มส่วนประตูสองข้าง โดยได้ทำการขยายการจำหน่าย ไปยังจังหวัด พระนครศรีอยุธยาและจังหวัดตรังด้วย รถรุ่นนี้จึงเป็นรถต้นแบบของรถตุ๊กตุ๊ก ที่วิ่งกันอยู่ในปัจจุบันของทั้งสองจังหวัด และเมื่อรถบรรทุกสามล้อได้รับความนิยมจากคนไทยจึงมีการนำเข้ารถยี่ห้ออื่นๆ ตามมา อาทิ ฮีโน่ มิตซูบิชิ เป็นต้น

          ปี พ.ศ. 2515 ประเทศญี่ปุ่นเลิกผลิตรถบรรทุกสามล้อ ยี่ห้อไดฮัทสุ รุ่นมิดเจ็ท ดีเค ทำให้อะไหล่ของรถรุ่นนี้ขาดตลาด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าของรถเป็นอย่างมาก ทำให้อู่รถต่างๆเริ่มผลิตอะไหล่ทดแทนเอง

ในประเทศไทยยุคแรก รถตุ๊กตุ๊ก ที่มีใช้คือยี่ห้อฮอนด้า ไดฮัทสุ ฮีโน่ มาสด้า มิตซูบิชิ ซึ่งตกอยู่ราวคันละ เกือบ 2 หมื่นบาท ปัจจุบันราคาปาไป หลักแสนบาท และปัจจุบัน เหลือเพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น คือ ไดฮัทสุในยุคแรกๆ ของรถตุ๊กตุ๊กมีทางให้ผู้โดยสารขึ้นลง 2 ด้าน แต่ต่อมาเพื่อความปลอดภัย เลยให้ปิดทางขึ้น-ลง ทางขวาของตัวรถ เหลือเพียงแค่ทางซ้าย

มีวิวัฒนาการจากการนำรถสามล้อเครื่องกระบะบรรทุกจากญี่ปุ่น โดยเอามาต่อหลังคาเพิ่มไว้สำหรับผู้โดยสาร และ ขนของได้ แต่พอช่วงปี 2508 รถตุ๊กตุ๊กกเกือบจะต้องหายไปจากเมืองไทย เพราะทางราชการเตรียมยุบ โดยเห็นว่าเป็นรถที่มีกำลังแรงม้าต่ำ วิ่งช้า เกะกะกีดขวางจราจร แต่ก็สู้จนรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม รถตุ๊กตุ๊ก ก็ยังคงโดนจำกัดจำนวน เหลือเพียง 7405 คันใน กทม. และ 3 หมื่นกว่าคันทั่วประเทศ โดยปี 2503 ทางราชการก็ออกกฎห้ามจดทะเบียนรถตุ๊กตุ๊กเพิ่ม โดยเฉพาะ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ นครราชสีมา แต่อนุโลมให้รถที่นำไปใช้ในอาชีพต่างๆ

ที่มาของชื่อเรียก “ตุ๊กตุ๊ก” 

เพราะเดิมทีชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยไม่รู้จะเรียกรถสามล้อเครื่องว่า อะไร เลยอาศัยเรียกชื่อตามเสียงท่อไอเสียของรถ กลายเป็นชื่อ “รถตุ๊กตุ๊ก” ติดปากมาถึงวันนี้

รถตุ๊กตุ๊ก ในต่างประเทศ
รถตุ๊กตุ๊ก มีกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1948 โดยชาวอิตาเลียนชื่อ ปิอาจโจ อาเป (Piaggio Ape) ซึ่งเป็นผู้ผลิต รถตุ๊ก ๆ และนับแต่นั้นรถตุ๊กตุ๊ก ก็ได้เผยแพร่และได้รับความนิยมในหลายประเทศทางแถบเอเชีย มาจนถึงปัจจุบัน และเริ่มจะได้รับความนิยมมากขึ้นในบางประเทศแถบแอฟริกา, อเมริกาใต้ และตะวันออกกลางด้วย

         รถตุ๊กตุ๊ก ในอินเดีย มีสีส่วนใหญ่เป็นสีเขียวเหลือง หรือสีเขียวดำ ขณะที่ในอียิปต์เป็นสีดำ ที่บังกลาเทศเป็นสีเขียว อันหมายถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไทยเป็นสีเขียวเหลือง รถตุ๊กตุ๊ก ในแต่ละประเทศมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ที่เอกวาดอร์เรียกว่า Mototaxi ที่ศรีลังกาเรียก Three-wheeler ที่บังกลาเทศเรียก Baby taxi ขณะที่คิวบาเรียก Coco Taxi เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายลูกมะพร้าว

ขอขอบคุณนะครับที่เข้ามารับชมรับฟัง เเละยังสามารถติดตามเราต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่ Realtime car magazine