ขุดตำนาน! K.I.T.T. รถสมองกลขวัญใจวัยรุ่นยุค 80

ขุดตำนาน! K.I.T.T. รถสมองกลขวัญใจวัยรุ่นยุค 80

       หากจะให้พูดถึงวงการภาพยนตร์ และซีรีส์ยุค 80 ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์แล้วละก็ แน่นอนว่าหลายคนจะนึกถึง “Knight Rider“ หรือในชื่อไทยว่า “อัศวินคอมพิวเตอร์” นั่นเองครับ แต่เอ๊ะ! วัยรุ่นในสมัยนี้อาจจะสงสัยว่ารถที่นำมาออกแบบตัวละครรถสมองกลคันนี้มีที่มาจากรถรุ่นอะไร ทำไมหน้าตาดูล้ำเกินยุคจังเลย พวกเรามาหาข้อมูลเพื่อไขกระจ่างให้แล้วครับ

Knight Rider เป็นซีรีส์เกี่ยวกับอะไร?

       “Knight Rider หรือ อัศวินคอมพิวเตอร์ เป็นซีรีส์ที่ออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ NBC ตั้งแต่ปี 1982-1986 สร้างสรรค์โดย เกลน เอ. ลาร์สัน ออกฉายทั้งหมด 4 ซีซั่นจำนวนตอนทั้งสิ้น 90 ตอน ในประเทศไทยออกฉายในสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกๆ บ่ายวันเสาร์ ให้เสียงพากย์โดยทีมพากย์ “อินทรี”

เรื่องราวของอัศวินคอมพิวเตอร์จะว่าด้วยเรื่องราวของ ไมเคิล ไนท์ (แสดงโดย เดวิด ฮัสเซลฮอฟฟ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจมากฝีมือที่พลาดท่าถูกยิงในขณะปฏิบัติภารกิจ โชคดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากมหาเศรษฐีนามว่า วิลตัน  ไนท์ ด้วยการผ่าตัดแปลงโฉมพร้อมเปลี่ยนประวัติต่างๆ เพื่อให้เขาได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอิสระ และช่วยเหลือทางการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในนาม The Foundation for Law and Government (FLAG) รวมถึงได้สร้างรถคู่ใจให้ไมเคิลไว้ใช้ปฏิบัติงานอย่าง K.I.T.T. หรือ Knight Industries Two Thousand เพื่อใช้ในการสืบสวนอาชญากรรมเทคโนโลยี และปราบปรามวายร้าย

สเปคของ K.I.T.T. ในซีรีส์

       K.I.T.T. มีชื่อเต็มว่า Knight Industries Two Thousand เป็นรถสปอร์ตสีดำมี AI อัจฉริยะที่สามารถคิด เรียนรู้ และพูดโต้ตอบกับ ไมเคิล ได้จนถึงขั้นบางทีก็มีกวนประสาทกันเลยทีเดียว ซึ่งเสียงพากย์ของ K.I.T.T. ได้ วิลเลียม แดเนียลส์ เป็นคนให้เสียงพากย์ จุดเด่นของรถคันนี้คือมีแถบสแกนเนอร์สีแดงอยู่บนกระจังหน้าเปรียบเสมือนดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ สามารถสแกนภาพตรงหน้าหรือรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เป็นรถที่อึดถึกทน รับแรงกระแทกได้ทุกรูปแบบ กระสุนปืนจะแรงขนาดไหนก็เจาะไม่เข้า สามารถล็อคตัวเองอัตโนมัติเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ใครเข้ามาขับได้ง่ายๆ สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองเพื่อให้ความช่วยเหลือ ไมเคิล ในสถานการณ์คับขัน ภายในรถเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ล้ำยุค มีอุปกรณ์สแกนวิเคราะห์สารเคมี รถคันนี้ยังสามารถปล่อยออกซิเจน ให้อากาศในรถหากรถจมน้ำหรือถูกฝัง และที่ขาดไม่ได้คือท่าไม้ตายที่เป็นทีจดจำอย่าง Turbo Boost ซึ่งติดไว้ที่บริเวณล้อหน้า ช่วยให้สามารถกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง และยังใช้ในการเร่งความเร็วถึง 418.5 กม./ชม. พุ่งชนทำลายสิ่งกีดขวางได้อีกด้วย

รถต้นแบบของ K.I.T.T.

       สำหรับรถต้นแบบที่นำมาออกแบบ K.I.T.T. คือ Pontiac Firebird Trans Am เจน 3 เป็นรถสปอร์ต 2 ประตูที่ผลิตโดย Pontiac ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของ General Motors สำหรับ Firebird Trans Am เป็นรถในตระกูล Firebird ที่ผลิตมาตั้งปี 1969 จนถึงปี 2002 โดยรวมเป็นรถที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยม (แต่ก็แลกมากับการซดน้ำมัน) ในช่วงเวลานั้น ยอดขายของ Pontiac สามารถเทียบชั้นกับ “Chevrolet Camaro” รถร่วมสถาบันจากผู้จัดจำหน่ายเดียวกันอีกด้วย

        Pontiac Firebird Trans Am รุ่นปี 1982 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V8 ขนาด 5.0 ลิตร ล่งพละกำลังสูงสุดได้ถึง 145 แรงม้า ที่ 4,000 rpm แรงบิดสูงสุด 325.4 Nm ที่ 2,000 rpm ทำความเร็วได้สูงสุด 209 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 8 วินาที และเพราะด้วยความที่เป็นรถร่วมสถาบันกับ Chevrolet Camaro ทำให้ชิ้นส่วน 60% จากทั้งคันสามารถใช้อะไหล่ร่วมกันได้ มีการออกแบบที่คำนึงแอโรไดนามิกออกมาได้ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ Pontiac Firebird รุ่นปี 1987 ที่ออกมาไล่เลี่ยกันยังถูกนำมาใช้เป็นรถของพระเอกในซีรีส์เมทัลฮีโร่ของญี่ปุ่นอย่าง “ตำรวจเหล็กจีบัน” อีกด้วย ทำให้กลายเป็นภาพจำว่ารถ Firebird คือรถ “พระเอก” ไปแล้วนั่นเอง

        สำหรับ K.I.T.T. ในฉบับภาคต่อกึ่งรีบูตในปี 2008 รถที่นำมาเป็นต้นแบบของ K.I.T.T. เป็นรถ Ford Mustang Shelby GT500 และได้วัล คิลเมอร์ (บรูซ เวย์น จาก Batman Forever / พลเรือเอกทอม “ไอซ์แมน” คาซานสกี้ จาก Top Gun) มาให้เสียงพากย์

และนี่คือเรื่องราว และที่มาของรถสมองกลอัจฉริยะ K.I.T.T. จากซีรีส์ Knight Rider ที่เรานำมาฝากกันครับ


ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB