BOSCH เปิดโรงงานผลิตแห่งที่ 3 ในไทย ผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์ระบบแก๊สโซลีน

BOSCH เปิดโรงงานผลิตแห่งที่ 3 ในไทย ผลิตชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์ระบบแก๊สโซลีน

02 Bosch GS Plant Launch_02

  • เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 2 พันล้านบาท (80 ล้านยูโร) นับเป็นการลงทุนที่สูงที่สุดของบ๊อชในไทย
  • โรงงานผลิตแห่งใหม่ติดตั้งเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง พร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนายานยนต์แห่งแรกของบ๊อชในไทย
  • บ๊อชเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 ที่สอดรับกับนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล

 

ระยอง บ๊อชได้ฤกษ์เปิดโรงงานผลิตแห่งที่ 3 ของบริษัทในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โรงงานผลิตแห่งใหม่ของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำระดับโลกนี้ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยจะเริ่มการผลิตเพื่อป้อนตลาดทั้งในประเทศและทั่วโลก อาทิ ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์แก๊สโซลีนและเครื่องยนต์ดีเซล ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ (compressed natural gas – CNG) รวมทั้งเซลล์เชื้อเพลิง

บ๊อชลงทุนทั้งสิ้นมากกว่า 3.2 พันล้านบาท (ประมาณ 80 ล้านยูโร) สำหรับโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 130 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมกว่า 10,000 ตารางเมตร

01 Bosch GS Plant Launch_01

มร.ยาน แชร์ อัครราชทูตและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย ร่วมกับ มร.สเตฟาน ไซเบิร์ธ ประธานฝ่ายระบบเครื่องยนต์แก๊สโซลีน และ
มร.มาร์ติน เฮยส์ ประธานภูมิภาคบ๊อชอาเซียน และผู้บริหารบ๊อช ให้เกียรติร่วมทำพิธีเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่นี้อย่างเป็นทางการ

มร.แชร์ กล่าวระหว่างพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่นี้ว่า “การขยายกิจการของบ๊อชเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยตอกย้ำเรื่องราวความสำเร็จเกี่ยวกับคุณลักษณะเด่นของสินค้าต่างๆ ที่ “ผลิตในเยอรมนี” ซึ่งผู้บริโภคให้ความไว้วางใจทั้งในด้านของวิศวกรรม นวัตกรรม และการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือ
ทั่วโลกเองก็ตาม คุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าที่ “ผลิตในเยอรมนี” นี้คือเหตุผลหลักๆ
ที่บริษัทสัญชาติเยอรมันสามารถส่งออกสินค้าไปทั่วโลก และกระผมเองรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เห็นประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้”

 

การเสริมศักยภาพในการแข่งขันด้วยโรงงานผลิตที่มีความทันสมัย ซึ่งรวมถึงการดำเนินงานตามแนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 ของบ๊อช

โรงงานผลิตที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จของบ๊อชแห่งนี้ ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ส่วนแรกประกอบด้วย สายการผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก (scooter) และพาวเวอร์สปอร์ต (power sport) เช่น รถเล็กสำหรับวิ่งบนหิมะ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีห้องปลอดเชื้อ (clean room technology) เพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นหรืออนุภาคเล็ก ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของหัวฉีดเชื้อเพลิง ส่วนที่สอง สำหรับสายการผลิตตัวคอนเน็คเตอร์หรือตัวเชื่อมต่อ (connector) ซึ่งสามารถมองเห็นกระบวนการผลิต ตั้งแต่เป็นเม็ดพลาสติก จนถึงขั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์ และส่วนสุดท้ายประกอบด้วยสายการผลิตน็อคเซ็นเซอร์ (knock sensor) หรือเซนเซอร์ตรวจจับการน็อค

 

บ๊อชเป็นผู้นำในตลาดเจ้าสำคัญด้านการให้บริการโซลูชั่นส์อุตสาหกรรม 4.0 และนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อการผลิต และกรุยทางไปสู่การพัฒนานวัตกรรมต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านในระดับโลก โรงงานผลิตของบ๊อชที่จ.ระยองคืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ติดตั้งระบบการทำงานแบบอัตโนมัติที่ประสานกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในสายการผลิตโดยใช้โซลูชั่นส์อุตสาหกรรม 4.0 ที่เป็นเอกสิทธิ์ของบ๊อช

04 Bosch GS Plant Launch_04

“การเปิดโรงงานแห่งใหม่นี้ ช่วยให้บริษัทมีศักยภาพในการรองรับการเติบโตของบริษัทผู้รับจ้างผลิตยานยนต์ (OEM) ทั้งในประเทศและทั่วโลก และยังช่วยเสริมภาพความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของเราในอุตสาหกรรมนี้” มร.ไซเบิร์ธ กล่าว “นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนายานยนต์ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงานแห่งนี้ นับเป็นศูนย์ศึกษาและพัฒนาแห่งแรกของเราในประเทศไทย ซึ่งช่วยตอกย้ำบทบาทและความสำคัญอย่างยิ่งยวดของประเทศไทยต่อกลุ่มบริษัทบ๊อช ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนไทยไปสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมในที่สุด”

มร.เฮย์ส กล่าวสรุปว่า “นับว่าการลงทุนของเราในประเทศไทยขานรับกับนโยบายส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญเพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และ ณ ตอนนี้ ประเทศไทยก็เป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานผลิตที่มีความทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง
ผมตั้งตารอที่จะเห็นนวัตกรรมและการพัฒนาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้าจากโรงงานแห่งใหม่นี้”