ของเหลวในรถมีอะไรบ้างแล้วควรถ่ายเมื่อไหร่ ?

ของเหลวในรถมีอะไรบ้างแล้วควรถ่ายเมื่อไหร่ ?

รถยนต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหน รถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งยานพาหนะที่ช่วยให้เราไปถึงที่หมายได้ด้วยความสะดวกสบาย เพราะฉะนั้นเรามาดูแลรถยนต์ให้อยู่กับเราไปนานๆ กันดีกว่าครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าสำหรับในคอลัมน์นี้ ผู้ที่ใช้รถอยู่เป็นประจำหรือนานๆใช้ทีก็ไม่ควรพลาดครับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถ่ายของเหลวที่อยู่ในรถคู่ใจของเรา มีอะไรบ้างและควรจะถ่ายในระยะกิโลที่เท่าไหร่นั้นต้องไปติดตามดูกันครับ

หลายคนอาจมองข้ามหรือไม่รู้เลยก็ว่าได้ว่าในรถหนึ่งคันนั้นมีอะไรที่เป็นของเหลวบ้างและของเหลวเหล่านี้ที่เป็นกลไกลในการขับเคลื่อนรถมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายตามระยะกิโลที่กำหนด ถ้าไม่มีการเปลี่ยนถ่ายตามระยะที่กำหนดอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรืออาจจะทำให้การทำงานด้อยประสิทธิภาพลง เพราะฉะนั้นแล้วจึงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผู้ที่ใช้รถไม่ควรมองข้าง ถามว่าของเหลวที่อยู่ในรถมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันทีละอย่างเลยครับ

  • น้ำมันเครื่อง

ch1

น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา 5,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่อง กึ่งสังเคราะห์ 7,500-8,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 10,000-15,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่อง น่าจะเป็นของเหลวลำกับต้นๆ ที่คนทั่วไปรู้จักกันอีก เนื่องจากน้ำมันเครื่องยนต์มีรอบ/การเปลี่ยนถ่ายค่อนข้างบ่อย ประกอบกับมีการโฆษณาคุณสมบัติน้ำมันเครื่องยนต์โดยแต่ละผู้ผลิตจำนวนมากตาม สื่อต่างๆ จนทำให้คนเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น น้ำมันเครื่องยนต์ปัจจุบัน มีหลายเกรด สิ้นค้า โดยพื้นฐานที่สุด คือน้ำมันเครื่องยนต์ธรรมดา เป็นเกรดแบบที่ใช้พื้นฐานจากน้ำมันตามธรรมชาติมาผสมเพื่อให้ได้การหล่อลื่น และลดความร้อนในระหว่างการทำงานที่ดี ปัจจุบันน้ำมันแบบนี้มีขายน้อยมากแล้วในตลาด แต่ก็ยังมีขายอยู่และได้รับความนิยมบ้างเนื่องจากราคาไม่แพงน้ำมันเครื่องเกรดต่อมา คือ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ น่าจะเรียกว่าเป็นพื้นฐานของน้ำมันเครื่องยนต์ในยุคนี้ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ คือการเอาน้ำมันเครื่องเกรดปกติมาผสมสูตรด้วยส่วนผสมที่ปรุงแต่งขึ้นมา ทำให้ มีราคาแพงกว่าเกรดปกติ แต่มีข้อดี คือระยะเปลี่ยนถ่ายยาวนานขึ้น

  • น้ำยาหม้อน้ำ

ch3

น้ำยาหม้อน้ำ เปลี่ยนทุกระยะ 50,000 กิโลเมตร น้ำยาหม้อน้ำ หรือบางคนอาจจะเรียกน้ำยาหล่อเย็น เป็นของเหลวที่คุณควรจะใส่ใจเนื่องจากเป็นระบบที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องยนต์ และบ้านเราก็อยู่ในสภาวะพื้นที่อากาศค่อนข้างร้อนพอสมควรน้ำยาหม้อน้ำคือปราการด่านสำคัญ ช่วยลดอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ โดยปกติแล้ว น้ำยาหม้อน้ำ จะต้องเปลี่ยนทุกๆ 50,000 กิโลเมตร เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด ที่สำคัญราคาค่าเปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำ ไม่แพงเท่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์ จึงอยากแนะนำให้เปลี่ยนเมื่อถึงเวลา เพราะสามารถป้องกันเครื่องยนต์ฮีทได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • น้ำมันเบรก

ch4

ระยะเปลี่ยนน้ำมันเบรก ทุก 80,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี น้ำมันเบรก ในรถทุกคัน ใช้เพื่อเป็นแรงดันส่งไปดันแม่ปั้มเบรกเพื่อกดผ้าเบรก ลงบนจานเบรกให้เกิดแรงเสียดทาน และหยุดรถได้โดยสำเร็จ ช่างบางคนมักจะบอกว่า น้ำมันเบรกควรเปลี่ยนเมื่อสกปรก หรือเริ่มดำไม่ใส ทว่าในความเป็นจริงน้ำมันเบรกไมได้สัมผัสกับความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเบรก โดยตรง ทำให้ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเมื่อมีคราบดำในน้ำมัน  ผิดกับน้ำมันเครื่องที่ชะและถ่ายเทความร้อนจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์โดย ตรง จนบางคนเข้าใจผิดว่าน้ำมันเบรกต้องเปลี่ยนทันทีเมื่อมีคราบดำในน้ำมัน หรือมีสีไม่ใส เว้นแต่เบรกคุณเริ่มมีอาการแปลกๆในการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะ อาการ “เบรกจม” ซึ่งเหมือนคุณเหยียบเบรกแล้วเบรกไม่อยู่ ต้องย้ำเบรก แบบนี้อาจจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกก่อนระยะตามกำหนด หรือ ในบางพื้นที่เบรกถูกใช้งานหนักบ่อยๆ เช่นการขึ้นลงเขา  น้ำมันเบรกอาจจะเสื่อมคุณภาพ หากเริ่มมีอาการเบรกเฟดบ่อยขึ้นในระหว่างการใช้งาน ก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกอย่างไรก็ดี ถ้าคุณโชคดีว่า ไม่เคยพบปัญหาอะไรในการใช้งาน โดยมาก น้ำมันเบรกจะมีอายุได้ถึง 80,000 กิโลเมตร หรือ ประมาณ 3 ปี แล้วแต่ว่าอะไรถึงก่อน (ถ้าพ้น 3 ปีแล้ว ควรเปลี่ยนทันทีเนื่องจากน้ำมันเบรกอาจจะเสื่อมคุณภาพในการใช้งาน)

  • น้ำมันเพาเวอร์

ch6

ระยะเปลี่ยนน้ำมัน พาวเวอร์ทุก 80,000 กิโลเมตรน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ปัจจุบันอาจจะไม่มีในรถบางรุ่นแล้ว เนื่องจากรถยนต์ในปัจจุบัน หันมาใช้พวงมาลัยไฟฟ้าแทน แต่ถ้ารถคุณยังมีอยู่ โดยเฉพาะรถรุ่นเก่าๆ อย่าละเลยเด็ดขาด คุณควรจะเปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ ทุก 80,000 กิโลเมตร แม้ว่าน้ำมันพาวเวอร์อาจจะไม่ส่งผลอะไรอย่างชัดเจน จนเป็นอันตรายถ้าไม่เปลี่ยนถ่าย .. แต่ถ้าคุณละเลย โดยมากชุดแร็คพาวเวอร์ก็จะพังไปก่อน อย่างไรเสียก็เปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ให้ไวด้วย

  • น้ำมันเกียร์ –น้ำมันเฟืองท้าย

ch5

น้ำมันเกียร์-เฟืองท้าย ระยะเปลี่ยนถ่าย 40,000 กิโลเมตรน้ำมันเกียร์ คือน้ำมันที่ทำหน้าที่ในการลดการสึกหรอและความร้อนระหว่างการทำงานของชุด เกียร์ ซึ่งปกติน้ำมันเกียร์ควรจะเปลี่ยนถ่ายโดยช่างผู้เชี่ยวชาญในศูนย์บริการรถ ยนต์ยี่ห้อที่คุณใช้อยู่ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จะกระทำทุกๆ 4 หมื่นกิโลเมตร และไม่ควรจะเกินระยะการเปลี่ยนถ่ายดังกล่าว เนื่องจากน้ำมันเกียร์เดิม อาจจะมีคราบเขม่าสะสมจากการใช้งานจำนวนมาก และทำให้การหล่อลื่นอาจจะด้อยประสิทธิภาพในการใช้งานลงไป แถมถ้าเกียร์พังขึ้นมายกเปลี่ยนใหม่ราคานับแสนไม่คุ้มกันหรอกครับจึงไม่แปลกที่บางครั้งคุณเข้าไปเช็คระยะกับศูนย์บริการก่อนระยะ 40,000 กิโลเมตร จะโดนบังคับให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์โดยทันที ไม่ว่าในรถคุณจะเป็นเกียร์ออโต้ คลัทช์คู่  CVT  หรือเกียร์ธรรมดา จะอยู่ในระยะเดียวกันนี้หมด ส่วนน้ำมันเฟืองท้าย คือน้ำมันของชุดขับเกียร์ลงล้อ หรือเฟืองขับสุดท้ายก่อนจะยังเพลา ซึ่งจะต้องเปลี่ยนในระยะเดียวกัน แต่จะมีสูตรน้ำมันต่างจากน้ำมันเกียร์ ให้ศึกษาจากศูนย์บริการ หรือคู่มือประจำรถให้ดี

อ่านคอลัมน์นี้จบแล้วทางทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะมีหลายๆท่านต้องวิ่งไปเช็คระยะกิโลรถคันโปรดกันบ้างไม่มากก็น้อยแหละครับ ถ้าเราสามารถเปลี่ยนถ่ายของเหลวในระยะที่กำหนดก็จะช่วยให้รถคันโปรดอยู่กับเราไปได้นานและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ท้ายที่สุดก็อย่าลืมขับขี่กันด้วยความไม่ประมาทด้วยนะครับ….สวัสดีครับ…!!