ประกันรถยนต์ ฉบับเข้าใจง่าย

ประกันรถยนต์ ฉบับเข้าใจง่าย

           ปัจจุบันนี้รถบนท้องถนนมีเยอะมาก จนเราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง นั่นก็คือการคุ้มครองรถยนต์ หรือการทำประกันรถยนต์ ก่อนอื่นเรามาแบ่งกันอย่างง่ายๆ ก่อน

Traffic accident scene of car collision with bicycle isometric composition with drivers involved and ambulance vector illustration

การทำประกันรถยนต์ตามที่กฎหมายบังคับให้เราต้องทำ

           ก็คือกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ. รถยนต์ ส่วนนี้ให้ความคุ้มครองทุกคนที่ประสบภัยอุบัติเหตุจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคนเดินถนน โดย พ.ร.บ. รถยนต์ จะจ่ายค่าเสียหายแก่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุให้ ดังนี้

– กรณีบาดเจ็บ จ่ายให้ไม่เกิน 50,000 บาท/คน (หากเกินต้องจ่ายเอง)

– กรณีเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ จ่ายให้ไม่เกิน 200,000 บาท/คน (หากเกินต้องจ่ายเอง)

– กรณีค่าซ่อมรถยนต์ ส่วนตรงนี้จะไม่ได้รับการคุ้มครอง ไม่จ่ายให้ โดยเราต้องเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด

** แล้วค่าเสียหายส่วนที่เหลือ ที่เกิน ใครจ่าย ?? คำตอบคือ ผู้ที่เป็นฝ่ายผิด ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนที่เหลือนั่นเอง

การทำประกันรถยนต์ตามที่กฎหมายไม่บังคับ

ก็คือ การทำประกันโดยความสมัครใจของเจ้าของรถ ซึ่งจะมีความคุ้มครองมากกว่า

– การคุ้มครองร่างกาย

– การคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

– คุ้มครองความเสียหายของรถคนเอาประกัน

– คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ

Accident scene with car crash illustration

 

การทำประกันแบบความสมัครใจ

มีหลายประเภท ส่วนที่นิยมที่สุดคือ

– ประกันชั้น 1 (ประกันชั้นหนึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด)

ให้ความคุ้มครองแก่ตัวรถของผู้เอาประกันโดยสามารถเคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนกำแพง ชนกระจก ชนสิ่งกีดขวางต่างๆ และยังคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น ประภันชั้น 1 เหมาะสำหรับรถใหม่สภาพดี รถมีอายุไม่เกิน 7 ปี

– ประกัน 2+ (ประกันสองพลัส)

ให้ความคุ้มครองแก่ตัวรถผู้เอาประกัน แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น (คือรถชนรถเท่านั้น) และยังคุ้มครองกรณีรถหาย และรถไฟไหมด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรองรับอุบัติเหตุใหญ่ (รถชนรถ) ป้องกันรถหาย ป้องกันรถไฟไหม้ หรือรถที่ไฟไหม้จากการติดถังแก๊ส นอกจากนี้ประกันสองพลัส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำประกันชั้นหนึ่ง แต่ติดเงื่อนไขบริษัทนั่นเอง

– ประกัน 3+ (ประกันสามพลัส)

มีความคุ้มครองรถของผู้เอาประกันในกรณีรถชนรถ แต่จะไม่คุ้มครองรถหาย หรือรถไฟไหม้

– ประกันชั้น 3

ให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี ไม่มีวงเงินซ่อมรถของผู้เอาประกัน เหมาะสำหรับป้องกันความเสียหายจากการขับรถไปชนคนอื่น โดยเราต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถตนเอง

นี่เป็นเพียงพื้นฐานสำหรับการทำประกันรถยนต์ Realtime Car Magazine หวังว่าทุกท่านจะเลือกทำประกันได้เหมาะสมกับตนเองนะครับ