รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า “ขัดข้อง”ผู้โดยสารต้องทำอย่างไร?

รถไฟฟ้าสายโมโนเรลสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า “เดี้ยง”ผู้โดยสารต้องทำอย่างไร?

สวัสดีชาว Realtime car magazine ทุกท่านนะครับ วันนี้เรามีสาระดี ๆ มาฝาก เกี่ยวกับเรื่อง รถไฟฟ้าสายสีชมพู และ สายสีเหลือง ที่มีรางวิ่งแค่รางเดียว แคบๆ มีอะไรน่าสนใจ ลองไปดูกัน

            ดร.สามารถ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง มีรางเดียว แคบๆ ” ถ้า “ขัดข้อง”ผู้โดยสารต้องทำอย่างไร ?

          ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า….รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า “ขัดข้อง”ผู้โดยสารต้องทำอย่างไร

           ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ได้อธิบายดังนี้ “ โดยทั่วไปรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล มีขบวนรถไฟฟ้าวิ่งคร่อมราง ไม่มีทางเดินให้ผู้โดยสารเดินในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน แล้วผู้โดยสารจะออกจากโมโนเรลซึ่งวิ่งอยู่ที่ระดับความสูงไม่น้อยให้ปลอดภัยได้อย่างไร หาคำตอบได้จากบทความนี้

           น่าดีใจที่เมื่อเร็วๆ นี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานรับมอบขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล “แบบไร้คนขับ” สำหรับใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ชี้ให้เห็นว่าอีกไม่นานเราจะได้ใช้โมโนเรลกันแล้ว นับว่าเป็นการพัฒนาระบบรางของเมืองไทยไปอีกก้าวหนึ่ง

          โมโนเรลเหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีผู้โดยสารไม่มากนัก มีขีดความสามารถในการขนผู้โดยสารได้ประมาณ 30,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ในขณะที่รถไฟฟ้าขนาดหนักดังเช่น บีทีเอส และ เอ็มอาร์ที สามารถขนผู้โดยสารได้ประมาณ 50,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ต้นทุนการก่อสร้างโมโนเรลถูกกว่ารถไฟฟ้ายกระดับขนาดหนัก ประมาณ 30%-40%

          มีหลายคนถามผมว่าถ้าโมโนเรลสายสีชมพูหรือสายสีเหลืองจอดเสียอยู่บนรางที่สูงจากพื้นดินเกือบ 20 เมตร ผู้โดยสารจะออกจากโมโนเรลให้ปลอดภัยได้อย่างไร? ผมขอตอบดังนี้

          ทั้งโมโนเรลสายสีชมพูและสายสีเหลืองเป็นโมโนเรลที่วิ่งสวนทางกัน กล่าวคือสายสีชมพูมีรางรองรับโมโนเรล ขาไป 1 ราง และขากลับอีก 1 ราง สายสีเหลืองก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากเกิดเหตุขัดข้องที่สายใดสายหนึ่งผู้โดยสารจะต้องทำดังนี้

  1. กรณีมีโมโนเรลกู้ภัยมารับ

โมโนเรลกู้ภัยจะมาจอดเทียบหรือขนานกับโมโนเรลที่เสีย เจ้าหน้าที่จะวางสะพานเชื่อมระหว่างโมโนเรลกู้ภัยกับโมโนเรลที่เสีย จากนั้นผู้โดยสารจะต้องเดินจากโมโนเรลที่เสียไปสู่โมโนเรลกู้ภัยซึ่งจะขนผู้โดยสารไปสู่สถานี

  1. กรณีไม่มีโมโนเรลกู้ภัยมารับ-ต้องเดินบนทางเดินฉุกเฉิน

ในกรณีฉุกเฉินที่ผู้โดยสารจะต้องออกจากโมโนเรลอย่างรีบด่วน ไม่สามารถรอโมโนเรลกู้ภัยมารับได้ ในกรณีนี้ผู้โดยสารจะต้องลงจากโมโนเรลไปที่ทางเดินระหว่างรางทั้งสอง ทางเดินเป็นตะแกรงเหล็กกัลวาไนซ์เพื่อให้ผู้โดยสารเดินไปสู่สถานีที่ใกล้ที่สุด ความสูงจากพื้นโมโนเรลถึงทางเดินเกือบ 2 เมตร ดังนั้น จะต้องลงทางบันไดที่พาดจากประตูโมโนเรลไปที่ทางเดิน บันไดดังกล่าวจะถูกเก็บไว้บนรถและบนทางเดินตลอดทาง ส่วนผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์จะต้องช่วยกันอุ้มลงมาที่ทางเดินแล้วเข็นไปที่สถานี

อ้างอิงจาก เฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์

รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง มี “รางเดียว แคบๆ” ถ้า…

โพสต์โดย ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2020

ทุกท่านได้รู้อย่างนี้แล้ว สบายใจได้เลยว่าสามารถนั่งโมโนเรลได้อย่างปลอดภัยแน่นอนครับ

ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine/
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB/