ดาวเด่นรุ่นเก๋า

ดาวเด่นรุ่นเก๋า

 

       จากในครั้งที่แล้วที่เราทีมงาน Realtime พาทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับเรื่องของรุ่นเดอะ รุ่นเก๋า ต้องเก่าแค่ไหนถึงเรียกรถโบราณ ตามสัญญาในวันนี้ผมและทีมงาน Realtime จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ คุณปู่รุ่นเดอะ คันใดบ้างที่คงเป็นตำนานถึงทุกวันนี้

 

       เริ่มจากคันแรกอย่างเจ้า ก๊อตซิลลา หรือ Nissan Skyline GT-R – R32 1989

 

       ที่ได้ฉายาว่าก๊อตซิลลาอาจเป็นเพราะว่าเจ้า Nissan GTR R32 เนี่ยดุดันเหมือนดังปีศาจก็ว่าได้เพราะแบบนั้นแล้วชาวโลกจึงขนานนามเขาว่า ก๊อตซิลลา ฉายานี้ไม่ได้มีไว้เรียกเท่ๆอย่างเดียวคราวนี้เรามาดูถึงความดุดันของเขาบ้างว่าทำไมถึงถูกขนานนามแบบนี้ ด้วยความไม่หยุดพัฒนาของ Nissan จนทำให้ Nissan Skyline GTR – R32 คว้ากวาดล้างทุกรางวัลชนะเลิศ ทุกรายการของปี 1989 ของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบอย่าง Jtcc (JapaneseTouring Car Championship) เอาชนะไปได้ทั้งหมด 29 สนาม และการกำเนิดฉายา ก๊อตซิลลาที่แท้จริงเริ่มขึ้นเมื่อปี 1990 ทีมแข่ง Gibson Motorsport ที่เชี่ยวชาญในการปรับแต่ง Nissan ลงแข่งใน Australian Touring Car Championship Group A โดยทีมของ Nissan Skyline GTR – R32 Nismo นั้นอย่างจัดเต็มอย่างหนักหน่วง ถอดระบบที่ไม่จำเป็นทิ้ง ระบบปัดน้ำฝน ระบบแอร์ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มที่มากขึ้นและภายในทีมของNissanเองยังคงสร้างอะไหล่ภายในขึ้นมาใหม่ทั้งคันกันไปเลยทีเดียว เสมือนกับว่าเจ้าGTR – R32 เนี่ยมีแค่โครง คาน เครื่อง ที่เป็นของเดิมๆจาก Nissanและผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าภูมิใจเพราะ คว้าแชมป์ ATCC Group A ได้ 3 ปีติดต่อกัน 1990 – 1992จนมันถูกขนานนามว่าเป็น “ก็อดซิลลา” ที่มาจากญี่ปุ่น และพร้อมทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง โดย GTR – R 32 นั้นได้ออกมาถึง 2 รุ่นด้วยกัน Nissan Skyline GT-S R32 เครื่องยนต์ RB20DET และ Nissan Skyline GT-R R32 (BNR32) เครื่องยนต์ RB26DETT


Gibson MotorSport ทีมที่ทำให้ Nissan Skyline R32 ได้รับฉายาว่า ก๊อตซิลลา

หากชาว Reatime ท่านใดอยากทราบ ที่มาเต็มของตระกูล GTR ทางเราทีมงาน Realtime ได้ทำเนื่อหาในส่วนนี้ไว้แล้วสามารถรับชมได้ที่ https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/archives/15689

       เมื่อพูดถึงความรวดเร็วดุจดังสายฟ้าไปแล้วคราวนี้เรามาดูการควบคุมที่เหนือชั้นที่เคยได้รับคัดเลือกไปถ่ายทำในงานภาพยนต์หรืออนิเมะและมังงะในเรื่อง Initial Dหรือตำนานเทพเจ้าสายฟ้าบนเทือกเขาอากินะที่ได้โชว์สกิลการควบคุมรถโหดแบบสุดๆกันไปเลย โดยคันนี้จะมีชื่อจริงว่า Toyota Sprinter Trueno รหัสตัวถัง AE 86 และชื่อเล่นที่รู้จักกันในนาม Toyota AE 86 และมีอีกชื่อที่รู้จักกันในชื่อว่ารถส่งเต้าหู้

 

Toyota Sprinter Trueno รหัสถัง AE 86

       คราวนี้เรามาดูก่อนที่AE86คันนี้จะมาเป็นรถซุปเปอร์เต้าหู้ คู่ใจในเรื่อง Initial D ว่าเขามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ซึ่งอันที่จริงแล้วเจ้า AE 86 จะอยู่ในซีรี่ส์ Corolla toyota ได้ทำ Corolla มาถึงเจนที่5ในช่วงเวลานั้นทั่วโลกมักจะผลิตรถยนต์ขับหน้าเป็นหลักเพราะช่วยในเรื่องของการทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำลง แต่ด้วยความที่ Toyota คิดอะไรอยู่หรือใจเรียกร้องหาก็ไม่อาจรู้ได้ ได้ทำรถบ้านที่ขับหลังเพราะอยากให้รถในรุ่นนี้เป็นรถบ้านที่เหนือชั้นกว่ารถบ้านทางทีมของ Toyota จึงปรึกษากันว่าจะทำเจ้า Corolla ตัวนี้ออกมาเป็นรุ่นที่แตกต่าง แล้วชาว Realtime รู้หรือไม่ว่า A E 8 6 ไม่เป็นเพียงตัวย่อของรุ่นแต่มีความหมายในทุกตัวอักษร เดียวทีมงาน Realtime จะมาบอกที่มาของตัวอักษรเหล่านี้ให้ฟัง

A – รหัสตัวถังที่ผลิตในซีรี่ส์ A4

E – เป็นรหัสที่ใช้ในรุ่นของ Corolla

8 – เจเนอเรชั่นที่ 8

6- เลขที่บอกความพิเศษ

โดยเจ้า AE86 ได้ทำการผลิตมาสองรุ่นคือตัว 2 ประตู และ 3 ประตูแล้วการดีไซส์ก็มี 2 เวอร์ชั่นด้วยเช่นกัน Toyota Corolla Levin และ Toyota Sprinter Trueno โดยรุ่นLevinนั้นจะเป็นเพียงไฟหน้ารถแบบธรรมดาเท่านั้นแต่ Trueno จะเป็นไฟแบบป๊อปอัพที่เห็นในภาพยนตร์ในเรื่อง Initial D ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่เอามากๆ สำหรับเจ้าไฟที่เป็นแบบป๊อปอัพนี้แล้วไอเจ้าไฟป๊อปอัพนี้และที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเจ้าAE86จนถึงปัจจุบัน จะว่าเพียงแค่ดีไซส์สวยแล้วโดนคัดตัวไปเป็นรถคู่ใจของพระเอกในหนังเลยเป็นตำนาน ก็ไม่ใช่ AE86 มีผลงานในสนามที่ค่อนข้างน่าพอใจไม่แพ้ R32 AE86 เนื่องจากคว้าแชมป์ British Touring Car Championship สองปีซ้อนในหมายเลข66ในปี  1986 และ 1987รวมถึงในการแข่งขัน Rally ในยุคนั้น ก็นิยมใช้ AE86 แม้มันจะเป็นรถขับเคลื่อน 2 ล้อก็ตาม และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือมอเตอร์สปอร์ตที่ AE86 โด่งดังสุดๆ ซึ่งก็คือ ‘การแข่งดริฟท์’ ถ้าหากเราย้อนกลับไปในยุค 80 ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากการแข่งรถในสนามจะเป็นที่นิยมแล้ว ก็เริ่มมีคนเริ่มแข่งรถบนถนนจริงนอกสนามแข่งกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการแข่งรถบนภูเขาเรียกว่า ‘ไทโกะ’ในวงการไทโกะ ได้มีชายคนหนึ่งมีชื่อเสียงในวงการอย่างมากในการแข่งรถบนภูเขา ที่ต้องอาศัยทักษะการดริฟท์ขั้นสูง ชายคนนั้นมีชื่อว่า “เคอิชิ สึชิยะ”รถที่ เคอิชิ ใช้ในการแข่งขันนั้น ก็คือ Toyota AE86 นั่นเอง และฝีมือการดริฟท์ของเขาก็หาคนที่จะโค่นล้มเขายาก จนเคอิชิถูกตั้งฉายาว่าเป็น “ดริฟท์คิง”ต่อมา เคอิชิ ก็ถูกทาบทามไปแข่งในสนามแข่งบ้าง และเขาก็ยังเอาชนะมาได้เรื่อยๆ จนมีชื่อเสียงในวงการซึ่งก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้รถคู่ใจของเคอิชิอย่าง Toyota AE86 กลายเป็นที่เลื่องลือตามไปด้วย

       คราวนี้เรามาดูรถที่ค่อนข้างใหม่กว่านี้กันอีกหน่อยและยังเป็นที่ชื่นชอบ ถูกอกถูกใจของวัยรุ่นในยุค 90s แถมยังเป็นดาวเด่นไม่แพ้เจ้า AE 86 เพราะได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักแสดงคู่กับพระเอกแนวหน้าระดับโลกซึ่งเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากเรื่อง fast and Furious

Toyota Supra A80

       ถ้าได้พูดถึง Supra แล้วแน่นอนไม่มีใครไม่รู้จักแล้วก็เช่นเคยครับ ไม่ใช่แค่ได้เล่นหนังแล้วจะดังได้มันต้องมีความเป็นมาที่ค่อนข้างลึกซึ่งพอสมควรเดียวจะพาไปดูกันครับว่าเจ้าSupra มีความเป็นมาอย่างไร เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 กับ 2.6 ลิตร 6 สูบเรียง 12 วาล์ว 125 แรงม้า และ 111 แรงม้าตามลำดับ พร้อมระบบหัวฉีดไฟฟ้า ซึ่งถือว่าใหม่มากในยุค 70’s และสิ่งที่ทำที่ทำให้นักซิ่งทั้งหลายติดอกติดใจ คือเทคโนโลยีที่จัดเต็มทั้ง กระจกไฟฟ้า, ล็อกประตูไฟฟ้า พ่วงด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่สุดๆแล้วในยุคสมัยนั้น แต่ช่างน่าเสียดายที่ไม่เป็นที่นิยมในประเทศบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่นมากนั้นเพียงเพราะอาจจะด้วยเรื่องภาษี จากนั้นเมื่อปัญหานี้เกิด ทางToyota ไม่ได้นิ่งเฉยแต่กลับอัพเลเวลขึ้นมาโดยการยกเครื่องใหม่ ใส่เครื่องยนต์ระดับตำนานอย่าง 2JZ 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร (ด้วยเหตุนี้ ทำให้ปกติเราจะเรียก Supra โฉมนี้ในรหัสตัวถัง JZA80) และอัดแรงม้าขึ้นอีกด้วยเทอร์โบคู่ ทำอัตราเร่ง 0-97 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที กับความเร็วสูงสุด 257 กม./ชม. ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ (180 กม./ชม. ในญี่ปุ่น, 250 กม./ชม. ในทวีปยุโรปและอีกหลายประเทศ) เสียอีกจนทำให้เจ้า Supra A80 ดังระเบิดและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วทั้งโลกเลยก็ว่าได้

       เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับรุ่นเก๋าที่ยังคงเป็นตำนานไม่สามารถมีรถรุ่นไหนคันไหนมาแทนกันได้เลยจริงๆ ก็อย่างว่านะครับรถแต่ละรุ่นแต่ละคันก็มีเอกลักษณ์และความสามารถเฉพาะทางของตัวเองแถมเจ้ารุ่นเก๋าที่ทีมงาน Realtime หยิบยกขึ้นมากล่าวนั้นต่างมีสตอรี่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว คราวหน้ารับรองครับมีเรื่องราวที่น่าสนใจดุเดือดเหมือนเช่นเคยแน่นอนครับ หากชาวRealtime ชอบก็อย่าลืมมาเขียนมาเล่ากันได้นะครับไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนก็ตาม


แหล่งที่มาอ้างอิง

https://www.magcarzine.com/nissan-skyline-gtr-history/

https://sites.google.com/site/frongvolvo/nissan-skyline-r32

https://www.magcarzine.com/toyota-ae86-legend/

https://www.mainstand.co.th/catalog/

https://www.mainstand.co.th/