“นิค ไฮด์เฟลด์” นักแข่งรถระดับตำนาน ทดสอบรถต้นแบบแบตติสตา ระหว่างเร่งพัฒนารถยนต์ไฮเปอร์ จีที

“นิค ไฮด์เฟลด์” นักแข่งรถระดับตำนาน ทดสอบรถต้นแบบแบตติสตา ระหว่างเร่งพัฒนารถยนต์ไฮเปอร์ จีที

     – นิค ไฮด์เฟลด์ อดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน และ ฟอร์มูล่า อี ใช้ความเชี่ยวชาญของเขาในโครงการทดสอบรถยนต์ไฮเปอร์ จีที พลังงานไฟฟ้า 100% ของแบตติสตา

     – ไฮด์เฟลด์เข้าร่วมทีมพัฒนายานยนต์ที่ศูนย์เทคนิคนาร์โด (Nardo Technical Center) ในอิตาลีสำหรับการทดสอบรถแบตติสตาครั้งแรกของเขา ในขณะที่วิศวกรกำลังปรับแต่งส่วนประกอบไดนามิกตามคำสั่งทำ

     – ไฮด์เฟลด์กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจจริง ๆ คือความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติของแบตติสตาในสนามแข่ง แม้เราจะกำลังสร้างรถไฮเปอร์ จีที เพื่อให้ใช้งานได้ในทุกความเร็ว แต่ที่นาร์โด การควบคุมการเข้าโค้งและความเร็วที่เราทำได้นั้นมีความยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ

– การติดตามการทดสอบช่วยให้สามารถปรับแต่งและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งค่าปรับแต่งโครงรถยนต์ ส่วนประกอบแอโรไดนามิกส์ การควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง และกำหนดโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 5 โหมด

รับชมการทดสอบต้นแบบรถไฮเปอร์ จีที แบตติสตาครั้งแรกของนิค ไฮด์เฟลด์ ได้ที่ youtube.com/watch?v=jyY95MUhBa4

นิค ไฮด์เฟลด์ นักแข่งรถระดับตำนานและนักขับเพื่อทดสอบและพัฒนาของ Automobili Pininfarina ได้นำรถไฮเปอร์ จีที แบตติสตา (Battista Hyper GT) รุ่นใหม่มาขับขี่เป็นครั้งแรก ในฐานะส่วนหนึ่งของการพัฒนารถต้นแบบต่อเนื่องที่ศูนย์เทคนิคนาร์โด (Nardo Technical Center) ในอิตาลี

ไฮด์เฟลด์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนารถยนต์แบตติสตามาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ เขาได้เข้าร่วมกับนักออกแบบและวิศวกรของ Automobili Pininfarina เพื่อให้คำติชมด้านการยศาสตร์ต้นแบบเชิงกายภาพมากกว่าต้นแบบเสมือนจริงเป็นครั้งแรกในปี 2562 และหลังจากนั้นไม่นาน นิคก็ได้มีบทบาทสำคัญในการจำลองกลไกลไดนามิกขั้นสูงในอิตาลี พร้อมกับได้รับมอบหมายให้สนับสนุนการตั้งค่าไดนามิกของรถยนต์ไฮเปอร์ จีที พลังแรงม้า 1,900 PS ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทุกล้อ

เขายังนำความรู้ที่ไม่มีใครเทียบเท่าและประสบการณ์มากกว่า 25 ปีในวงการมอเตอร์สปอร์ตสมรรถนะสูงมาช่วยสนับสนุนการปรับแต่งการตั้งค่าโครงรถยนต์และการเทียบซอฟต์แวร์ตามความต้องการของแบตติสตา ก่อนที่รถไฮเปอร์ จีที จะเข้าสู่กระบวนการผลิตในอิตาลีช่วงฤดูร้อนปี 2564 นี้

นิค ไฮด์เฟลด์ กล่าวว่า “เป็นสิ่งพิเศษอย่างยิ่งที่ได้สัมผัสรถยนต์แบตติสตาในสนามแข่งเป็นครั้งแรกด้วยรถต้นแบบที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระดับสูง เราอยู่ระหว่างการทดสอบรถแบตติสตาด้วยศักยภาพประมาณ 80% ของรถ ซึ่งประสิทธิภาพและอัตราเร่งนั้นเกินกว่าที่ผมจะจินตนาการได้

 สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจจริง ๆ คือความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติของแบตติสตาในสนามแข่ง แม้เราจะกำลังสร้างรถไฮเปอร์ จีที เพื่อให้ใช้งานได้ในทุกความเร็ว แต่ที่นาร์โด การควบคุมการเข้าโค้งและความเร็วที่เราทำได้นั้นยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ ส่วนระบบป้องกันการหมุนฟรีและการควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งนั้นก็สามารถใช้งานได้ในขั้นตอนการพัฒนาต้นแบบนี้ อีกทั้งยังมีการควบคุมที่ใช้ประโยชน์ได้อีกมาก “

 นี่เป็นครั้งแรกที่ผมขับขี่ในพื้นที่การควบคุมของนาร์โด ดังนั้น ผมจึงต้องใช้เวลาดูคลิปออนบอร์ด แลปส์ (Onboard laps) ออนไลน์บ้างเพื่อทำความคุ้นเคยกับผังสนาม และผมก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่า คลิปเหล่านั้นมีประโยชน์แค่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากการเร่งความเร็วของแบตติสตาอยู่ในอีกขั้นหนึ่งของระดับรถยนต์ขับขี่บนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก “

 เรากำลังพัฒนารถแบตติสตาที่มี 2 ชุดยางเพื่อตอบสนองเป้าหมายของเราในการส่งมอบรถไฮเปอร์ จีที ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลินในทุกที่และทุกสภาวะ Michelin Pilot Sport Cup 2R เป็นยางสมรรถนะเยี่ยมที่เราต้องการและเมื่อรวมเข้ากับยาง “Impulso” ที่มีน้ำหนักเบาแล้ว ล้อรุ่นนี้จะมอบการผสมผสานที่โดดเด่นระหว่างการยึดเกาะสูงสุดและความรู้สึก เข้ากับสนามแข่งรถได้อย่างไร้ที่ติ “

 ผมต้องบอกตามตรงว่า การขับรถต้นแบบแบตติสตานั้นเหนือความคาดหมายของผม มันไม่เหมือนกับสิ่งที่ผมเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ผมรอที่จะลองขับแบตติสตานอกสนามแข่งเพื่อเข้าโค้งตามถนนบนภูเขาแทบไม่ไหวแล้ว “

Automobili Pininfarina Battista เป็นผู้พัฒนารถขับขี่บนท้องถนนที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีการออกแบบและสร้างขึ้นในอิตาลี โดยรถยนต์แบตติสตาจะถูกสร้างด้วยงานประกอบมือทีละคันที่โรงงาน Pininfarina S.p.A ในเมืองตูริน อิตาลี และจะมีจำนวนไม่เกิน 150 คัน ซึ่งรถคันแรกจะถูกส่งมอบให้กับลูกค้าในช่วงสิ้นปีนี้Automobili Pininfarina ตั้งอยู่ในสำนักงานใหญ่ด้านปฏิบัติการในเมืองมิวนิก เยอรมนี โดยมีทีมผู้บริหารยานยนต์ที่มีประสบการณ์จากแบรนด์รถยนต์ระดับหรูหราและระดับพรีเมียม รถยนต์ไฮเปอร์ จีที แบตติสตา ได้รับการออกแบบ กำหนดโครงสร้าง และผลิตด้วยมือในอิตาลี และรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมดในอนาคตจะจำหน่ายและให้บริการในตลาดหลักๆ ทั่วโลกภายใต้ชื่อแบรนด์ Pininfarina บริษัทใหม่แห่งนี้มีเป้าหมายที่จะเป็นแบรนด์รถยนต์หรูหราที่ยั่งยืนที่สุดในโลกAutomobili Pininfarina เป็นผู้ลงทุน 100% ให้กับ Mahindra & Mahindra Ltd และได้รับการตั้งชื่อว่า Automobili Pininfarina หลังจากที่มีการลงนามในข้อตกลงใบอนุญาตเครื่องหมายการค้าระหว่าง Pininfarina S.p.A. และ Mahindra & Mahindra Ltd. ทั้งนี้ Pininfarina S.p.A. จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการออกแบบและความสามารถด้านการผลิตโดยใช้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งสั่งสมมานาน 90 ปีของพวกเขาในการผลิตรถยนต์ที่โด่งดังที่สุดในโลกหลายรุ่น

 


ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine/
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB/