‘มิชลิน’ ผนึกพันธมิตรกับ ‘นีโอไลน์’ ยกระดับโลจิสติกส์สู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

มิชลินผนึกพันธมิตรกับ นีโอไลน์’ ยกระดับโลจิสติกส์สู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

          ล่าสุด ‘มิชลิน’ ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงให้ ‘นีโอไลน์’ (Neoline) บริษัทเจ้าของเรือสัญชาติฝรั่งเศส เป็นผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าทางทะเลบนเส้นทางระหว่างแคนาดาและฝรั่งเศส โดยถือเป็นก้าวสำคัญในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของมิชลิน เพื่อบรรลุเป้าหมายองค์กรที่ต้องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในทุกเขตพื้นที่ดำเนินงานภายในปี 2593

          ทั้งนี้ นีโอไลน์ เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่นำเสนอนวัตกรรมบริการขนส่งสินค้าทางเรือแบบปลอดคาร์บอนฯ (Carbon-Free Shipping Services) โดยเรือขนส่งสินค้าความยาว 136 เมตรใช้ระบบขับเคลื่อนหลักด้วยใบเรือขนาด 4,200 ตารางเมตรและพลังงานลมซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน ถือเป็นนวัตกรรมโซลูชั่นที่โดดเด่นซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางทะเลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้สูงถึงร้อยละ 90

          ปิแอร์-มาร์ติน ฮูเอท์ (Pierre-Martin Huet) ผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชนของกลุ่มมิชลิน เปิดเผยว่า “การร่วมพันธมิตรครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกในการขนส่งสินค้าแบบปลอดคาร์บอนฯ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของมิชลิน โดยจะมีส่วนผลักดันให้มิชลินบรรลุเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเกิดจากการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ระหว่างปี 2561 ถึงปี 2573 ลงให้ได้ร้อยละ 15

          ฌอง ซานุตตินี (Jean Zanuttini) ประธานบริษัท นีโอไลน์ กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการแก่กลุ่มมิชลินซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมและการสัญจรที่ยั่งยืน การร่วมพันธมิตรในระยะแรกนี้ครอบคลุมเส้นทางสายตะวันออกจากทวีปอเมริกาไปยังทวีปยุโรป และเส้นทางสายตะวันตกจากทวีปยุโรปไปยังทวีปอเมริกา ด้วยเรือขนส่งสินค้าแบบใช้ใบเรือของเรา เราได้พัฒนารูปแบบการขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและระบบโลจิสติกส์ในปัจจุบันของผู้ส่งสินค้า โดยไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล

          ภายใต้การลงนามเซ็นสัญญาครั้งนี้ มิชลินได้มอบหมายให้นีโอไลน์เป็นผู้ขนส่งผลิตภัณฑ์ยางมิชลินที่บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ทางเรือบนเส้นทางนำร่องจากเมืองฮาลิแฟกซ์ (Halifax) ประเทศแคนาดา ไปยังเมืองแซงต์-นาแซร์ และเมืองมงตัวร์ เดอ เบรอตาญ (Saint-Nazaire – Montoir de Bretagne) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะผ่านหมู่เกาะแซงต์-ปิแยร์ (Saint Pierre) และมีเกอลง (Miquelon) ตลอดจนเมืองบัลติมอร์ (Baltimore) ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

ทั้งนี้ นีโอไลน์ มีแผนที่จะเปิดเส้นทางเดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยเรือเดินสมุทรลำแรกในปี 2566 และมีกำหนดเปิดให้บริการเรือเดินสมุทรลำที่สองในปี 2567 โดยกลุ่มมิชลินจะทยอยมอบหมายให้ นีโอไลน์ เป็นผู้ดำเนินการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ผลิตภัณฑ์ยางมิชลินในสัดส่วนร้อยละ 50 ของตู้คอนเทนเนอร์สินค้าทั้งหมดที่กลุ่มมิชลินขนส่งทางเรือบนเส้นทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกนี้


ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine/
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB/