ประวัติ Benelli แบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี
Benelli ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ชื่อดังของอิตาลี ได้สร้างมรดกอันแข็งแกร่งนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1911 โดยมีชื่อเสียงในเรื่องการออกแบบที่ประณีตและความเป็นเลิศในการแข่งขัน ประวัติศาสตร์ของแบรนด์นี้เต็มไปด้วยนวัตกรรมอันทะเยอทะยานและความสำเร็จที่โดดเด่น
โดยเรื่องราวเริ่มต้นกำเนิดในปี ค.ศ. 1911 เมืองเปซาโรของอิตาลี ได้ก่อกำเนิดแบรนด์รถจักรยานยนต์ Benelli ขึ้นจากหญิงสาวที่มีชื่อว่า เทเรซา โบนี เบเนลลี ได้นำเงินทุนทั้งหมดของครอบครัวไปลงทุนในโรงรถ Benelli Garage ต้องรับช่วงต่อธุรกิจจากสามีที่ล่วงลับ และคาดหวังให้ลูกๆ ของเธอทั้ง 6 คน ได้แก่ จูเซปเป, จิโอวานนี, ฟรานเชสโก, ฟิลิปโป, โดเมนิโก และ อันโตนิโอ ซึ่งเธอได้ส่งพี่ใหญ่ทั้งสองอย่าง จูเซปเป และ จิโอวานนี ไปเรียนวิศวะที่สวิตเซอร์แลนด์ และกลับมาก่อตั้งร้านซ่อมจักรยานและมอเตอร์ไซค์ รวมถึงยังผลิตอะไหล่เองอีก
จนสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มขึ้น พวกเขาก็รับงานซ่อมเครื่องจักรต่างๆ ให้กับกองทัพอิตาลี และต่อมาในปี 1920 เหล่าพี่น้อง Benelli ทั้ง 6 ก็ประกอบรถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบคันแรกขึ้นมาด้วยเครื่องยนต์ 1 สูบ สองจังหวะ 75 cc บนเฟรมรถจักรยาน ก่อนที่ในปีต่อมาได้ประกอบรถมอเตอร์ไซค์คันแรกจริงๆ ด้วยเครื่องยนต์ที่พัฒนาเองขนาด 98 cc
- ความสำเร็จแรกของ Benelli
ในปี 1927 เครื่องยนต์รุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จของ Benelli และทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 175 cc ระบบวาล์ว Cascade และ OHC ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ จูเซปเป ได้ศึกษาและนำไปต่อยอดมาจากบทความของ Edward Turner ผู้ออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ Triumph และถูกตีพิมพ์บนนิตยสาร Moto Revue จากฝรั่งเศส และ อันโตนิโอ น้องคนเล็กสุดของพี่น้อง Benelli ก็เริ่มเฉิดฉายในสนามแข่งเป็นครั้งแรก โดยการขี่รถ Benelli 175 ไปคว้าแชมป์ระดับประเทศ ด้วยเครื่องยนต์แคมเดี่ยวในปี 1927, 1928, 1930 และด้วยเครื่องยนต์แคมคู่ในปี 1931 แต่ความสำเร็จของเขาก็อยู่ได้ไม่ยั่งยืน เพราะในปี 1932 อันโตนิโอ ประสบอุบัติเหตุรุนแรงบนสนามจนต้องเลิกแข่งและยังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตในวันที่ 27 กันยายน ปี 1937
ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 Benelli เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 4 สูบเรียง Supercharged คลาส 250 cc 52 แรงม้า ที่สามารถทำความเร็ว 230 กม./ชม. และหมายมั่นปั้นมือว่าจะลงแข่ง Isle of Man TT ปี 1940 เพื่อเอาชนะต่อเนื่องจากปี 1939 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แข่ง เพราะถูกแบนจากชาติพันธมิตร
- บาดแผลจากหายนะ
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานหลายแห่งของ Benelli ถูกทำลาย ความเสียหายทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาฟื้นฟู 3-4 ปี ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจของอิตาลีที่ไม่มั่นคง เพราะแพ้สงครามและประจวบกับปัญหาหลังบ้านของ Benelli เมื่อ จูเซปเป มีความเห็นเรื่องแผนการผลิตที่ขัดแย้งกับน้องๆของเขาจนไม่คุยกัน ก่อนจะแยกตัวมาก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ BBC Automobili ในปี 1946 ร่วมกับ ปิเอโร่ บาเร็ตต้า ผู้ก่อตั้งแบรนด์อาวุธปืนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และก่อตั้งแบรนด์มอเตอร์ไซค์อีกเจ้าคือ MotoBi ในปี 1952
ทาง Benelli ต้องเปลี่ยนมือ CEO ให้ จิโอวานนี พี่คนรองที่ถึงแม้จะไม่ชำนาญการออกแบบเท่า จูเซปเป แต่ก็มีทักษะการบริหารที่ดีมาดูแลแทน รถรุ่นใหม่ๆ ในช่วงยุคนี้จึงถูกออกแบบภายใต้วิสัยทัศน์ที่ เน้นน้ำหนักเบา น่าเชื่อถือ และราคาจับต้องง่าย จนเกิดรถรุ่น Letizia ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 98 cc กลายเป็นรถ Benelli ยุคหลังสงครามโลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ก่อนที่จะเปิดรถรุ่นต่อมาอย่าง Leoncino และผลิตตั้งแต่ปี 1950-1960 เป็นจำนวนมากกว่า 45,000 คัน ที่มีทั้ง 2 ล้อ และ 3 ล้อ และยังเป็นรถที่ Leopoldo Tartarini ได้รับชัยชนะในการแข่งขันรายการ Motogiro d’Italia
- เมื่อแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ มาจับปืน
ในช่วงยุค 60 ก็ยังเป็นช่วงที่เศรษฐกิจยังคงย่ำแย่อยู่ Benelli จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการส่งออกรถไปขายในตลาดสหรัฐอเมริกา หลายรุ่น ได้แก่ Tornado 650, Mojave 260/360, Buzzer, Hurrican, Dynamo, Hornet หรือแม้กระทั่ง Volcano และด้วยความที่เหล่าพี่น้องตระกูล Benelli มีรสนิยมชอบกิจกรรมล่าสัตว์ ทำให้ จิโอวานนี ได้ก่อตั้งแบรนด์อาวุธปืนขึ้นมาในปี 1967 หนึ่งในผลงานของแบรนด์นี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด คือ ปืนลูกซอง Benelli M4 Super 90 อาวุธคู่บุญจากหนังเรื่อง John Wick หรือยังมี Supernova ที่ตำรวจไทยบ้านเราใช้กันอยู่
จนกระทั่งมาถึงช่วงยุค 70 การมาของรถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่น ทำให้แบรนด์รถอิตาลีในยุคนั้นเสื่อมความนิยมมากกว่าเดิม จน Benelli และ Moto Guzzi ต้องขายแบรนด์ให้กับ อเลฮานโดร เดอ โทมาโซ อดีตนักแข่ง Formula 1 ชาวอาร์เจนติน่าเชื้อสายอิตาลี ในปี 1971 และเอาแบบของ Honda CB500 มาผลิตมาเป็นรถของตัวเองในชื่อ Benelli Quattro และพัฒนาต่อออกมาเป็น Sei รถ 6 สูบเรียงรุ่นแรกของโลกที่ขับขี่ได้บนท้องถนน ซึ่งก็ได้รับรางวัล Moto dell’anno ในปี 1974 และทำยอดผลิตไปได้ 3,200 คันในปี 1977
- ยุคฟื้นฟู และความท้าทาย
ในช่วงยุค 80 การรุกคืบของรถญี่ปุ่นเริ่มรุนแรงมากขึ้นจนเข้าขั้นวิกฤต ทำให้ยอดขายของ Benelli ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องจนในปี 1989 Benelli ต้องถูกขายให้กับ จิอันคาร์โล เซลชี ก่อนที่ในปี 1995 ก็จะส่งไม้ต่อให้ อันเดรอา เมอร์โลนี่ ในวัย 28 ปีที่มีความฝันอยากจะชุบชีวิต Benelli ขึ้นมาอีกครั้ง โดยเริ่มจากการตั้งโรงงานแห่งใหม่ริมถนน Strada della Fornace Vecchia และในปีต่อมาก็เปิดตัวรถสกูตเตอร์รุ่นต่างๆ ในช่วงยุค 2000
ในปี 1999 Benelli ก็ได้จ้างช่าง ริคคาโด้ โรซ่า ให้มาออกแบบรถสปอร์ต Tornado Tre ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงขนาด 900 cc ที่มีความประหลาดมาก เพราะหม้อน้ำถูกวางไว้ใต้เบาะแทนที่จะวางไว้บริเวณด้านหน้า พร้อมติดตั้งใบพัดระบายความร้อนอีก ซึ่งต่อมารถรุ่นนี้ก็เปิดตัวในปี 2002 ก่อนจะตามมาด้วยรถ Naked Bike ที่หลายๆ หรือ TNT จนในปี 2001-2002 นาย เมอร์โลนี่ ได้ส่งทีมของตัวเองและรถ Tornado Tre รุ่นนี้เข้าแข่งขันในสนาม WorldSBK โดยที่มี ปีเตอร์ ก็อดเดิร์ด อดีตนักแข่ง MotoGP ยุค 90 เป็นคนขี่
- ก้าวสู่แผ่นดินจีน
ถึงแม้ว่าการมาถึงของ Benelli Tornado Tre จะทำให้กลับมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ยอดขายรถก็ยังสวนทางอยู่ครับจนทำให้ เมอร์โลนี่ ตัดสินใจถอนตัวและขายกิจการให้กับกลุ่มทุนใหญ่จากจีน นั่นก็คือ Qianjiang Motor Group ภายใต้การบริหารของ Yan Haimei ก่อนจะถูกยุบรวมกับ Geely ในปี 2015 ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือการออกแบบรถที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของจีน กับหน้าตาที่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นรถอิตาลีบ้านเกิดอย่าง TRK 500 และ TRK 502X
- Benelli ในวงการสนามแข่ง
ในวงการมอเตอร์สปอร์ต Benelli นับได้ว่าค่อนข้างจะมีผลงานน้อยอยู่พอสมควร เช่น MotoGP ที่เคยคว้าแชมป์โลกมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้นในคลาส 250 cc ได้แก่ ปี 1950 และปี 1969, Isle of Man TT ที่คว้าแชมป์มา 3 ครั้งในรุ่น Lightweight TT ได้แก่ปี 1939, 1950 และปี 1969 ทั้งสองรายการนี้นักแข่งที่ตึงที่สุด ได้แก่ Dario Ambrosini และ Kelvin Carruthers รายการแข่งขันที่จะดูเยอะเป็นพิเศษนั้นก็มีเพียง Italian Speed Championship เท่านั้นที่คว้าแชมป์ทั้งหมด 16 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1927 ถึง 1969
ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้เรื่องราวของ แบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่เก่าแก่ที่สุดของอิตาลีที่สุดใน Benelli นี้ ที่หลายท่านอาจเคยสงสัยหรือไม่รู้มาก่อน สำหรับ Scoop นี้พวกเราขอฝากติดตาม Realtime Car Magazine ด้วยนะครับ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine