เกิดเหตุรถชน!!! ควรทำอย่างไร

เกิดเหตุรถชน!!! ควรทำอย่างไร

                   เราจะเห็นกันได้ว่า คนในสังคมปัจจุบันมีใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามากมาย ทำให้ทุกสิ่งรวดเร็วมาขึ้น การรอสำหรับมนุษย์ปัจจุบันจึงน้อยลง และทำให้กลายเป็นคนใจร้อน ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อยในสังคมไทยปัจจุบันนี้ ขับรถด้วยความรีบร้อนและทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันควบคู่ไปด้วยเช่น เล่นโทรศัพท์ในขณะที่ตนเองขับรถอยู่ หรือ การแต่งหน้าบนรถที่สาวๆ ส่วนใหญ่จะมีการหยิบมาแต่งเติมกันอย่างแน่นอน เพราะคุณอาจคิดว่ามันช่วยประหยัดเวลาคุณไปได้เยอะ ทำให้ไม่ได้จดจ่อและมีสติกับการขับรถเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงอาจส่งผลให้คุณขับรถโดยประมาท จนเกิดอุบัติเหตุมากมายบนท้องถนน.

เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นจะมีวิธีรับมือเวลาเกิดเหตุได้อย่างไร…

ในกรณีแรก  

1.ขับชน โดยไม่ได้เจตนา ท่านไม่ต้องกลัว หรือกังวล


สิ่งแรกที่ท่านควรทำหลังเกิดเหตุมีดังนี้

1.1.หยุดรถทันที ไม่ทำการหลบหนี ตั้งสติให้ดี

1.2. กล่าวขอโทษ และยอมรับผิดที่ขับรถโดยประมาท

1.3.หากมีคนเจ็บ ให้เรียกรถพยาบาทช่วยเหลือคนเจ็บให้ไวที่สุด

1.4.พูดความจริง ไม่พูดบิดเบือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

1.5.โทรแจ้งตำรวจในท้องที่ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องและทำการช่วยเหลือ

1.6.ท่านต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำคดี

1.7.โทรแจ้งประกันภัยของรถท่าน (ถ้าท่านมี)

1.8.จ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณีที่ (หากท่านมีประกัน  ประกันจะทำการรับผิดชอบให้)

 

จากที่ได้ศึกษากรณีแรกกันมาแล้ว  เรามาดูในกรณีที่สองกันต่อเลยค่ะ

2.โดนชนแล้วหนี

ให้ท่านจำวิธีหาคนชดใช้นี้ไว้ให้ดี เป็นหลักฐานสำคัญกับทางเจ้าหน้าที่อย่างมากที่จะตามตัวคนผิดมาได้

2.1 สิ่งแรกที่ท่านควรรีบทำเลยก็คือ จำทะเบียนรถของคู่กรณี

2.2 แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทันที

2.3 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาชื่อ เจ้าของรถคู่กรณี จากทะเบียนรถที่เราจดจำไว้ก่อนหน้านี้

2.4 ติดต่อประกันภัยของรถเรา (ถ้ามี)

              ในกรณีที่ท่านจำทะเบียนรถของคู่กรณีไม่ได้ ให้ท่านรวบรวมหลักฐานที่มีทั้งหมดส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ภาพถ่าย  หรือพยานที่เห็นเหตุการณ์  เช็คจากกล้องวงจรในระแวกนั้น  หรือจากกล้องCCTV กล้องติดรถ นั้นเอง

มาดูในกรณีสุดท้ายกันเลยกว่าค่ะ

3.ชนแล้วหนี  มีความผิดอย่างแน่นอน

ข้อ 1-2 จะเป็นกฎหมายทาง พ.ร.บ. จราจร ทางบก

1. ชนแล้วหนี จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.หากคู่กรณีได้รับบาดเจ็บ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ5,000 –     20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อ 3-6 จะเป็นความผิดทางอาญา

3.หากขับโดยประมาทและมีคนได้รับบาดเจ็บ จำคุกไม่เกิน 1เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.หากขับโดยประมาทและทำให้คู่กรณีถึงแก่ชีวิต จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

5.หากทรัพย์สินของคู่กรณี ได้รับความเสียหาย จำคุกไม่กิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งทั้งปรับ

ข้อ  6  เป็นกฎหมายความผิดทางแพ่ง

6.ขับโดยประมาทหรือเจตนาละเมิดต่อคนและทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหาย

ต้องทำการจ่ายชดใช้ทรัพย์สินใหม่ให้แก่ผู้เสียหาย

 เรามาดูวิธีการลดโทษของศาลหากเรากระทำความผิด ในสถาณการดังที่ได้กล่าวมากันบ้างดีกว่าคนผิดแล้วรู้จักการแก้ไข เราก้มีอภัยให้ มาดูกันเลยว่าควรปฏิบัติอย่างไรบ่างหลังเกิดเหตุ

– หากผิดแล้วต้องยอมรับผิด หากไม่มีการรยอมรับผิด ศาลคงไม่เห็นใจลดโทษให้เป็นอย่างแน่นอน

– จ่ายค่าเสียหาย หรือทำการ ชดใช้ให้คู่กรณีให้เรียบร้อยและครบถ้วน

– มีการเข้าไปเยี่ยมเยียนคู่กรณี หากคู่กรณีได้รับบาดเจ็บ หรือยังมีการรักษายังไม่หายเป็นปกติ เรียกได้ว่าเป็นน้ำใจของเรา ที่ไปทำไม่ดีกับเค้าแล้วทำให้เค้าบาดเจ็บและเสียหาย เราควรดูแลและให้ความช่วยเหลือเค้าเป็นอย่างดี

 

          สำหรับคอลัมน์นี้ คงไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเองอย่างแน่นอน  แต่ถ้าหากมันเกิดขึ้นจริง เชื่อว่าทุกท่านสามารถรับมือในเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง และทางเราขอให้ทุกท่านเดินทางขับขี่อย่างปลอดภัย มีสติในการขับรถ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง  คอลัมน์ต่อไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรฝากทุกท่านติดตามกันด้วยนะคะ