• ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ คว้าประกาศนียบัตรการจัดการ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมาตรฐานสากล ISO 14064-1 2018 Greenhouse Gases

    1 Min Read

    ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ คว้าประกาศนียบัตรการจัดการ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมาตรฐานสากล ISO 14064-1 : 2018 Greenhouse Gases ยกระดับองค์กรมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นางสาวบัวทิพย์ จันทร์ดำรงกุล ผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน วางแผน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ นายศราวุธ ศุภรัตนชาติพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการให้การรับรอง บริษัท บูโร เวอริทัส ประเทศไทย จำกัด ในการรับมอบประกาศนียบัตรรับรองระบบมาตรฐาน ISO 14064-1 : 2018 Greenhouse Gases การันตี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ว่าเป็นองค์กรที่มีการจัดการ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนใน Scope 1 – 2 ในปี พ.ศ. 2578 และ Scope 3 ในปี พ.ศ. 2593 ถือเป็นบริษัทเบิกร่องเจ้าแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์สองล้อในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้

    โดยความสำเร็จในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โปร่งใส รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร และทีมงานที่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์สองล้อที่ไม่เพียงแค่มุ่งสร้างผลประกอบการทางธุรกิจ แต่ยังยืนหยัดบนพื้นฐานของความยั่งยืน ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม

    โดยการรับรางวัลประกาศนียบัตรในครั้งนี้มีขึ้น ณ อาคารสำนักงาน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “เมียร์” แซงสุดมันส์! คว้าท็อป 5 “มารินี” ตามติดคว้าอันดับ 6 สปรินต์ โมโตจีพี มันดาลิกา

    1 Min Read

    “เมียร์” แซงสุดมันส์! คว้าท็อป 5 “มารินี” ตามติดคว้าอันดับ 6 สปรินต์ โมโตจีพี มันดาลิกา

    “โจอัน เมียร์” ยอดนักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี โชว์ฟอร์มดุไล่แซงจากกริดที่ 12 บิดคว้าท็อป 5 ในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 18 อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ในรอบ “สปรินต์เรซ” หลังดวลกันอย่างสุดมันส์เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนาม เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย

    เกมเรซนี้ชิงชัยทั้งสิ้น 12 รอบสนาม ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนและลมแรงที่ มันดาลิกา โดยผลปรากฏว่า “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 ที่เริ่มเกมจากกริดที่ 12 ไล่แซงคู่แข่งอย่างดุดันขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ตามหลังผู้ชนะ 8.759 วินาที โดยมี “ลูก้า มารินี” หมายเลข 10 ทีมเมทชาวอิตาเลียนเป็นอันดับ 6 ตามหลัง 9.621 วินาที เก็บแต้มจากการแข่งขัน สปรินต์เรซ ได้ทั้งคู่

    ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา  หมายเลข 35 นักบิดชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ รวมถึงทีมเมทชาวฝรั่งเศสอย่าง “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 พลาดล้มออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

     

    ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของศึก อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #IndonesianGP


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ศึกจักรยานทรงตัว Grandprix Runbike Championship 2025 สนาม 5-6 นักปั่นตัวน้อยมุ่งสู่เป้าหมาย ชิงแชมป์ “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา”

    1 Min Read

    ศึกจักรยานทรงตัว Grandprix Runbike Championship 2025 สนาม 5-6 นักปั่นตัวน้อยมุ่งสู่เป้าหมาย ชิงแชมป์ “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา”

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (27-28 กันยายน 2568) การแข่งขันจักรยานทรงตัวระดับประเทศ Grandprix Runbike Championship Partnership with R.C.S. 2025” สนาม 5-6 (Event 3) ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตร R.C.S. ซึ่งได้รับความสนใจจากนักปั่นรุ่นเยาว์หลายช่วงอายุและครอบครัวทั่วประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก จนแน่นขนัดเต็มพื้นที่จัดงาน

    บรรยากาศในสนามอบอวลไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นของนักปั่นตัวน้อย ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกึกก้องจากผู้ปกครองและผู้เข้าชม ที่ร่วมกันส่งกำลังใจให้เยาวชนทุกคนมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การเข้าชิงเกียรติยศสูงสุด “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณและความภาคภูมิใจสูงสุดของ คณะผู้จัดฯ นักกีฬา และครอบครัว

    การแข่งขันในแต่ละรุ่นเต็มไปด้วยสีสัน ทั้งความจริงจังดุเดือดในแบบมืออาชีพ และความน่ารักสดใสที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมรอบสนาม น้อง ๆ นักปั่นได้แสดงให้เห็นถึงสมาธิ ความคล่องแคล่ว และความกล้าหาญที่น่าชื่นชม ขณะเดียวกันยังได้เรียนรู้คุณค่าของการเป็นนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ควบคู่ไปกับการใช้เวลาคุณภาพร่วมกันของครอบครัว

    ภายในงานยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสร้างความสุขและความคึกคัก ทั้งบูธกิจกรรมจากผู้สนับสนุนที่มอบทั้งสาระ ความสนุก และของรางวัลมากมาย รวมถึงการแสดงโชว์จาก About P Training Center โดยนักเรียนในหลักสูตร Pre-Trainee Program ที่โชว์ความสามารถได้อย่างเข้มข้นและน่าประทับใจ จนเรียกเสียงกรี๊ดจากเด็ก ๆ และแฟนคลับ T-Pop อย่างต่อเนื่อง

    ไฮไลต์สำคัญของงาน อยู่ที่พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ ซึ่งนักกีฬาเยาวชนที่ทำผลงานโดดเด่นในแต่ละรุ่น ได้รับทั้งถ้วยรางวัล เหรียญ และของที่ระลึก โดยเฉพาะรอยยิ้มและความภาคภูมิใจที่สะท้อนชัดบนใบหน้าของเด็ก ๆ และครอบครัว นับเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่มีคุณค่าตลอดชีวิต

     

    และทันทีที่ปิดสนาม 5-6 ความตื่นเต้นพร้อมพุ่งตรงสู่ สนามปิดฤดูกาล (Event 4) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2568 ณ สวนกีฬากมล ซึ่งจะเป็นรอบชี้ชะตาครั้งสำคัญในการลุ้นแชมป์ประจำปี และชิงเกียรติยศสูงสุด “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” สามารถติดตามรายละเอียดการแข่งขันและบรรยากาศเพิ่มเติมได้ทาง เพจ Grandprix Runbike Championship และช่องทางโซเชียลมีเดียในเครือกรังด์ปรีซ์ฯ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ก้อง-สมเกียรติ” ผงาดซิวท็อป 13 คว้า 3 แต้มสำคัญ โมโตจีพี มันดาลิกา “มารินี” ฮอตต่อเนื่องเข้าป้ายที่ 5

    1 Min Read

    “ก้อง-สมเกียรติ” ผงาดซิวท็อป 13 คว้า 3 แต้มสำคัญ โมโตจีพี มันดาลิกา “มารินี” ฮอตต่อเนื่องเข้าป้ายที่ 5

    “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยหมายเลข 35 สร้างผลงานในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 18 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ หลังออกตัวจากกริดที่ 19 ทะยานเข้าป้ายอันดับ 13 เดินหน้าเก็บแต้มต่อเนื่องโดยคว้าเพิ่ม 3 แต้ม ขณะ “ลูก้า มารินี” นักบิดทีมโรงงานฮอนด้าบู๊คว้าอันดับ 5 จากเรซสุดหินที่ เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา

    การแข่งขันรอบเมนเรซดวลกันทั้งสิ้น 27 รอบสนาม ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนระอุ ซึ่งในเรซนี้ “ลูก้า มารินี” นักบิดอิตาเลียน หมายเลข 10 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี เริ่มเกมจากกริดที่ 6 ออกตัวอย่างยอดเยี่ยมทะยานขึ้นไปถึงอันดับ 2 ก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 5 ตามหลังผู้ชนะ 9.129 วินาที ส่วนทีมเมทชาวสเปนอย่าง “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 พลาดล้มไม่จบเรซ

    ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ที่เจอปัญหา “การยึดเกาะ” ของยางเล่นงานในวันเสาร์ ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 19 ก่อนสร้างผลงานยอดเยี่ยมจะขยับขึ้นเข้าเส้นชัยในอันดับ 13 ตามหลังผู้ชนะ 48.035 วินาที เก็บเพิ่มอีก 3 แต้ม ส่วน “โยฮันน์ ซาร์โก” ทีมเมทชาวฝรั่งเศสหมายเลข 5 จบเรซอันดับ 12 ตามหลัง 27.597 วินาที

     

    ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคมนี้ ในศึก ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่ ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #IndonesianGP


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ก้อง-สมเกียรติ” ยังมุ่งมั่นเต็มที่ในศึก โมโตจีพี พร้อมลุยต่อที่อินโดฯ หวังซิวแต้มสนามแห่งความทรงจำ

    1 Min Read

    “ก้อง-สมเกียรติ” ยังมุ่งมั่นเต็มที่ในศึก โมโตจีพี พร้อมลุยต่อที่อินโดฯ หวังซิวแต้มสนามแห่งความทรงจำ

    “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ตั้งใจมุ่งมั่น พร้อมลุยศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 18 อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้ หวังเก็บแต้มที่ เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย สนามที่เคยคว้าชัยชนะมาครองในรุ่น โมโตทู

    ศึก อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ เตรียมระเบิดความมันส์ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคมนี้ ซึ่งจัดขึ้นในโซนเอเชียและได้รับความสนใจจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวเอเชียอย่างมาก มันดาลิกาถือเป็นอีกหนึ่งในสนามที่ “ก้อง-สมเกียรติ” มีความทรงจำที่ดี โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “สุดสัปดาห์นี้เราจะไปแข่งกันที่ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามที่ผมเคยทำได้ดีใน โมโตทู อยากให้ทุกคนตามเชียร์ ผมจะเต็มที่กับสนามที่เหลือในปีนี้ ฝากแฟนๆ ชาวไทยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ”

     

    ทั้งนี้ศึก อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและ “สปรินต์เรซ” ในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยจะดวลความเร็วรอบ “เมนเรซ” ในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง True Visions SPOTV

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #IndonesianGP


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตำนานบทใหม่ครั้งแรกในไทย! Royal Enfield Classic 650

    1 Min Read

    โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตำนานบทใหม่ครั้งแรกในไทย! Royal Enfield Classic 650

    Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในตลาดมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc–750cc) ประกาศเปิดตัว Royal Enfield Classic 650 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ถ่ายทอด DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Classic ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Royal Enfield 650 Twin ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในโชว์รูมทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้นที่ 249,900 บาท

     

    ตลอดทุกยุคสมัย ‘Classic’ ยังคงเป็นตัวแทนและตอกย้ำ DNA แห่ง Royal Enfield นอกจากจะเป็นรากฐานสำคัญของ หลายโมเดลแล้ว Classic ยังเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สะท้อนความสง่างามเหนือกาลเวลา เสน่ห์แบบดั้งเดิม และคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน ที่มาพร้อมงานประกอบที่ประณีตในทุกรายละเอียด ทำให้ Classic กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมการออกแบบยานยนต์คลาสสิก ทั้งในด้านสุนทรียะและวิศวกรรม Classic 650 ใหม่ ถ่ายทอดจิตวิญญาณของตระกูล Classic ได้อย่างเด่นชัด แต่ยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยขุมพลัง 650 Twin อันเลื่องชื่อของ Royal Enfield ที่มอบทั้งความนุ่มนวลและพละกำลังในการขับขี่ที่เร้าใจ ตัวรถมีเส้นสายที่สง่างามและคลาสสิก ขี่ง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของตระกูล Classic ไว้อย่างครบถ้วน Classic 650 มอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความงามแบบ
    วินเทจ ดูทรงพลังและสง่างาม

     

    นายมาโนช กาจาร์ลาวาร์ หัวหน้าธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของโรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า “ตลอดเวลาที่โรยัล เอ็นฟีลด์ ทำการตลาดในประเทศไทย รุ่น Classic คือมอเตอร์ไซค์ที่ครองใจนักขับขี่มาโดยตลอด ไม่เพียงสร้างรากฐานให้แบรนด์ แต่ยังปลูกฝังปรัชญา Pure Motorcycling ให้หยั่งรากลึกในสังคมนักขี่ Classic คือสัญลักษณ์ที่ทำให้เรายืนหยัดบน DNA ความเป็นโรยัล เอ็นฟีลด์อย่างไม่เปลี่ยนแปลง และวันนี้ Classic 650 ก็คือการสานต่อจิตวิญญาณนั้นให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมบนแพลตฟอร์ม 650 Twin ระดับโลก เรารักษาทุกอย่างที่เป็นตัวตนของ Classic ตั้งแต่สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ งานดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาไปจนถึงความสง่างามบนท้องถนน ผสานกับงานประกอบที่ประณีตและเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นอย่างลงตัว เรามั่นใจว่ามอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะเข้าถึงหัวใจนักขับขี่ชาวไทย และยิ่งเติมเต็มความผูกพันที่มีต่อแบรนด์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

    เสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (Double the charm)

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Classic คือรากฐานสำคัญของหลายโมเดลจากโรยัล เอ็นฟีลด์ โดยถ่ายทอดทั้งมรดกและแรงบันดาลใจที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบของแบรนด์ไว้ครบถ้วน Classic 650 สานต่อดีเอ็นเอนี้อย่างชัดเจน ด้วยโครงสร้างเฟรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับรุ่นในอดีต ตั้งแต่ OG Classic, Thunderbird ไปจนถึง Super Meteor และ Shotgun รุ่นล่าสุด แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะ Classic 650 ก้าวไปไกลกว่านั้นด้วยเสน่ห์และคาแรกเตอร์ที่เหนือชั้นกว่าเดิม

     

    สมรรถนะที่ยกระดับขึ้นอีกขั้น (Double the capability)

    หัวใจสำคัญของ Classic 650 คือเครื่องยนต์ 648 ซีซี parallel twin ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ปรับจูนใหม่เพื่อการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น ให้แรงบิดจัดตั้งแต่รอบต่ำ คันเร่งตอบสนองไว และยังคงสไตล์การขี่ที่สง่างามและเป็นเอกลักษณ์แบบ Classic ระบบเกียร์ที่ปรับจูนมาอย่างประณีต เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นไม่มีสะดุด แชสซีบาลานซ์ลงตัว ช่วยให้มั่นใจแม้บนเส้นทางที่ไม่เรียบ เครื่องยนต์ 650 Twin ที่ขึ้นชื่อเรื่องแรงบิดรอบต่ำ ทำให้การเร่งแซงทำได้มั่นใจ เติมพลังต่อเนื่องแบบไม่ต้องเค้นหนัก แต่ยังให้ความเร้าใจ ทุกครั้งที่บิด

     

    คาแรกเตอร์ที่เข้มข้นกว่าเดิม (Double the character)

    แม้ Classic 650 จะสืบทอดสายเลือดเดียวกับตระกูล Classic แต่ตัวรถถูกออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รุ่นนี้ใช้เส้นสายและสัดส่วนตัวรถที่ออกแบบให้รับกับเครื่องยนต์ Twin ที่วางทำมุมเฉียงไปข้างหน้า ทำให้ได้บุคลิกทรงพลังและมีท่าทางที่ดูดุดันขึ้น มาพร้อมบังโคลนสั้นทรงคลาสสิค ยางหน้าหลังไซส์ใหญ่ที่ขึ้นช่วยเสริมสมรรถนะ รวมถึงสัดส่วนตัวรถที่บึกบึนกว่าเดิม สอดรับกับเครื่องยนต์ความจุ 650 ซีซี ได้อย่างลงตัว

    Classic 650 ใหม่ ใช้เฟรมหลักร่วมกับ Super Meteor และ Shotgun 650 มาพร้อมเบาะคู่แบบ Dual Seat ที่สามารถถอดเบาะซ้อนท้ายและแร็กออกได้เพื่อเพิ่มรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น งานดีไซน์ยังคงกลิ่นอายสไตล์อังกฤษยุคหลังสงคราม ด้วยรายละเอียดโครเมียมและอะลูมิเนียมขัดเงาบริเวณโคมไฟหน้าและชุดไฟเลี้ยวด้านหน้า ตัวรถเน้นเส้นสายที่ไหลลื่นตั้งแต่หัวจรดท้าย มาพร้อมถังน้ำมันทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ และชุดฟแบบ ‘nacelle’ ที่ติดตั้งไฟหน้า LED ใหม่ ควบคู่กับไฟ ‘Tiger Lamps’ หรือไฟหรี่คู่ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Enfield มาตั้งแต่ปี 1954

    ท่านั่งในการขับขี่ที่ถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ แฮนด์บาร์วางตำแหน่งได้พอดี จับถนัด และเบาะกว้างนุ่มสบาย ช่วยให้
    ผู้ขับขี่ผ่อนคลายตลอดการเดินทางไกล ช่วงล่างหน้า–หลังจาก Showa ถูกปรับเซ็ตมาอย่างละเอียด ซับแรงสะเทือนบนถนนได้อย่างนุ่มนวล พร้อมมอบความมั่นใจทั้งในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว และบนทางไกลที่ต้องการความมั่นคง

    แผงหน้าปัดออกแบบเรียบง่ายไม่รกสายตา มาพร้อมหน้าจอ LCD ดิจิทัล แสดงข้อมูลครบทั้งมาตรวัดระยะทาง ทริปมิเตอร์ ระดับน้ำมัน เตือนการเข้ารับบริการ ตำแหน่งเกียร์ และนาฬิกา ช่วยให้ผู้ขี่โฟกัสและเพลิดเพลินกับการเดินทางได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้ (Genuine Motorcycle Accessories) ให้เลือกทั้งสไตล์ Classic และ Classic Tourer เพื่อการปรับแต่งรถให้ตรงกับสไตล์ของผู้ขี่มากยิ่งขึ้น Classic 650 คือการผสมผสานเสน่ห์เหนือกาลเวลาของมอเตอร์ไซค์เข้ากับความแม่นยำและความสะดวกสบายของเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

    สีสันคลาสสิกกับเส้นสายเหนือกาลเวลา (Classic colours for classic contours)

    Royal Enfield Classic 650 มาพร้อมเฉดสีที่หวนรำลึกถึง Classic 500 อันเป็นที่รักของชาวคลาสสิค เลิฟเวอร์ พร้อมเพิ่มสีใหม่ ได้แก่ Bruntingthorpe Blue, Vallam Red และ Black Chrome ซึ่งแต่ละสีช่วยขับเส้นสายตัวถังที่โค้งสวยสง่างามให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ราคาจำหน่ายเริ่มต้น Bruntingthorpe Blue และ Vallam Red ที่ 249,900 บาท ส่วน Black Chrome อยู่ที่ 259,900 บาท มาพร้อมการรับประกัน 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด จัดหนักผนึกกำลังการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นผู้สนับสนุน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13

    1 Min Read

    ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด จัดหนักผนึกกำลังการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นผู้สนับสนุน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในงานแถลงข่าว เปิดตัวผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยมี ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด สนุกไม่ซ้ำใคร สไตล์…ฟาซซิโอ้ ร่วมเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 อย่างเป็นทางการ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยจะจัดการแข่งขึ้นใน 3 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี จ.สงขลา และ จ.นครราชสีมา

     

    สำหรับการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี จ.สงขลา และอาเซียนพาราเกมส์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 26 มกราคม 2569 ที่ จ.นครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ

     

    โดยมี ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด สนุกไม่ซ้ำใคร สไตล์…ฟาซซิโอ้ ขอร่วมส่งแรงใจให้ทัพนักกีฬาไทยได้เป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังได้สนับสนุนรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด ให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย ในการมอบให้นักกีฬาที่สร้างผลงาน และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และให้กับผู้โชคดีในกิจกรรมของทางการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยการแถลงข่าวเปิดตัวผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 มีขึ้น ณ ลานเซ็นทรัลคอร์ท ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ เมื่อเร็วๆ นี้


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น แต่งตั้ง สมเกียรติ จันทรา และ เจค ดิกสัน ร่วมทีมสู้ศึก FIM ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2026

    1 Min Read

    ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น แต่งตั้ง สมเกียรติ จันทรา และ เจค ดิกสัน ร่วมทีมสู้ศึก FIM ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2026

    ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์ปอเรชั่น (Honda Racing Corporation – HRC)  ประกาศแต่งตั้ง สมเกียรติ จันทรา และ เจค ดิกสัน (Jake Dixon) เข้าร่วมเป็นนักแข่งของทีมในการแข่งขัน FIM ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ (Superbike World Championship: WorldSBK) ฤดูกาล 2026 โดยทั้งคู่ถือเป็นนักบิดมากฝีมือในรายการโมโตทู ที่ได้รับการพิสูจน์ฝีมือแล้ว และมีประสบการณ์ระดับโลกมาอย่างโชกโชน

     

    การผนึกกำลังกันของ สมเกียรติ ตัวแทนจากวงการมอเตอร์สปอร์ตเอเชีย และ ดิกสัน นักบิดสายเลือดอังกฤษผู้มากประสบการณ์จากยุโรป นับเป็นการสร้างทีมที่เปี่ยมด้วยความเร็ว ทักษะ และความมุ่งมั่น ในการผลักดันฮอนด้าให้กลับสู่แถวหน้าของการแข่งขัน WorldSBK

     

    ไทอิจิ ฮอนด้า (Taichi Honda) – ผู้จัดการทั่วไปทีม Honda Racing Corporation (HRC) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับสมเกียรติและเจค ดิกสันเข้าสู่ทีม Honda HRC WorldSBK ตั้งแต่ฤดูกาล 2026 สมเกียรติคือนักบิดไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในโมโตทู และได้ก้าวขึ้นสู่การแข่งขัน โมโตจีพี และตอนนี้เขากำลังก้าวไปอีกขั้นที่สำคัญในครอบครัวฮอนด้า ด้วยมุ่งหน้าสู่เส้นทางอาชีพระดับสูงสุดในเวทีนานาชาติ ในฐานะนักแข่งชาวไทยคนแรกที่ลงแข่งเต็มฤดูกาลในรายการ Superbike World Championship ให้กับทีมของเรา ขณะเดียวกัน เจค ดิกสัน เจ้าของชัยชนะในโมโตทู หลายสนาม ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแน่วแน่ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จในรายการระดับสูงอย่าง WorldSBK มาโดยตลอด ความสามารถ ประสบการณ์ และจิตวิญญาณนักแข่งของทั้งสองคนจะเป็นทรัพยากรอันมีค่าสำหรับเรา ในการเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมในรายการนี้ ทั้งสองจะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับทีมของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเรายังคงมุ่งมั่นกับรายการ WorldSBK อย่างเต็มที่ ด้วยเป้าหมายชัดเจน คือ พาฮอนด้ากลับสู่ตำแหน่งแชมป์อีกครั้ง”

     

    ประวัติของนักแข่ง

    สมเกียรติ จันทรา เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ปัจจุบันลงแข่งขันในรายการ โมโตจีพี  กับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ โดยก้าวขึ้นสู่ระดับพรีเมียร์คลาสในฤดูกาล 2025 สมเกียรติเป็นนักแข่งที่เติบโตมาจากรายการ Asia Talent Cup ซึ่งเขาคว้าแชมป์ได้ในปี 2016 จากนั้นพัฒนาเส้นทางอาชีพผ่านรายการ FIM CEV โมโตทรี Junior World Championship ก่อนเข้าร่วมการแข่งขัน โมโตทู กับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในปี 2019

     

    สมเกียรติสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในรายการโมโตทู ด้วยผลงานที่โดดเด่นใน อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ – มันดาลิกา ฤดูกาล 2022 และ เจแปนนิส กรังด์ปรีซ์ – โมเตกิ ฤดูกาล 2023 โดยในฤดูกาล 2024 ทำคะแนนรวมได้ 104 คะแนน จบอันดับที่ 12 ของตาราง

     

    ด้าน เจค ดิกสัน เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ที่เมืองโดเวอร์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันแข่งขันในรายการโมโตทู  กับทีมเอลฟ์ มาร์ค วีดีเอส เรซซิ่ง  (Elf Marc VDS Racing Team) เขาเคยเป็นรองแชมป์ใน การแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์ไบค์แห่งสหราชอาณาจักร (British Superbike Championship) ปี 2018 และได้สร้างชื่อในฐานะหนึ่งในนักแข่งแถวหน้าของโมโตทู ด้วยชัยชนะรวม 6 สนาม ได้แก่

    • 2023 – อัสเซ่น (Dutch TT) และ คาตาลุนญา (บาร์เซโลนา)
    • 2024 – บริติช กรังด์ปรีซ์ (ซิลเวอร์สโตน) และ อารากอน (MotorLand)
    • 2025 – อาร์เจนตินา (เทอมาส เด ริโอ ฮอนโด) และ อเมริกาส์ (COTA, ออสติน)

    เขายังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วย 21 โพเดียม (รวม 6 ชัยชนะ) และ 8 โพลโพซิชัน ตลอดเส้นทางในโมโตทู


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ฮอนด้า” ยกระดับ “ก้อง-สมเกียรติ” ขึ้นสู่ทีมโรงงานลุยศึก “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์” ปี 2026 รุ่นใหญ่สุด

    1 Min Read

    “ฮอนด้า” ยกระดับ “ก้อง-สมเกียรติ” ขึ้นสู่ทีมโรงงานลุยศึก “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์” ปี 2026 รุ่นใหญ่สุด

    “ฮอนด้า” ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ ยกระดับ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดชาวไทยสู่ความท้าทายใหม่ในระดับโลก ร่วมทีมโรงงาน “ฮอนด้า เอชอาร์ซี” สร้างอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ ในฐานะนักแข่งชาวไทยคนแรกที่ได้ร่วมทีมโรงงานระดับโลก เพื่อแข่งขันรุ่นใหญ่สุดในศึก “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2026” ที่ยังไม่เคยมีคนไทยคนไหนได้ก้าวสู่จุดนี้ เคียงข้างทีมเมทฝีมือดี “เจค ดิกสัน” นักบิดชาวอังกฤษ ภายใต้โปรเจ็กต์บิดรถแข่งในตำนานอย่าง Honda CBR1000RR-R เตรียมสร้างความยิ่งใหญ่ในเวทีโปรดักชั่นไบค์

     

    ก้อง-สมเกียรติ นักบิดชาวไทยวัย 26 ปี เติบโตจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ ไทยฮอนด้า และสร้างผลงานอย่างโดดเด่นในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น โมโตทู นับตั้งแต่ฤดูกาล 2019-2024 ด้วยการคว้าชัยชนะได้ 2 ครั้ง และคว้าโพเดียมมาครองได้ 6 ครั้ง ก่อนจะเข้าร่วมการแข่งขันโมโตจีพี เต็มฤดูกาลในปี 2025

     

    ก้อง-สมเกียรติ กล่าวว่า “รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ 2026 ที่จะได้ทำงานกับทีมโรงงานอย่าง ฮอนด้า เอชอาร์ซี ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับผม ต้องขอแรงเชียร์จากแฟน ๆ ชาวไทยทุกคน ร่วมส่งกำลังใจให้ผมในรายการใหม่ปีหน้า ที่เราจะออกเดินทางไปด้วยกันอีกครั้ง แรงเชียร์จากแฟนๆ เป็นส่วนผลักดันที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ อยากให้ทุกคนตามเชียร์ผมกันนะครับ ส่วนผมก็จะเต็มที่กับทุกๆ รายการเหมือนเดิม ทั้งสนามที่เหลือในปีนี้ และ รายการใหม่ในปีหน้าครับ“

     

    ทั้งนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์เปอเรชั่น (HRC) โยกไปร่วมสังกัด “ฮอนด้า เอชอาร์ซี” (Honda HRC) เพื่อลุยศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2026 เป็นต้นไป สำหรับ “ฮอนด้า เอชอาร์ซี” มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการยกระดับรถแข่ง Honda CBR1000RR-R เพื่อก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ และการดึง “ก้อง-สมเกียรติ” และ ร่วมกับทีมเมทชาวสหราชอาณาจักรอย่าง “เจค ดิกสัน” หนึ่งในดาวบิดชื่อดังในรุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้ก็ถือเป็นหนึ่งในการขยับตัวครั้งสำคัญของ ฮอนด้าเพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ให้กลับมากระหึ่มอีกครั้ง

     

    ศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ นับเป็นหนึ่งในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ โมโตจีพี โดยใช้รถแข่งซูเปอร์ไบค์ที่ดัดแปลงเพิ่มสมรรถนะจาก “โปรดักชั่นไบค์” ที่มีจำหน่ายจริงในท้องตลาด เพื่อการแข่งขันในสนามแข่ง ซึ่งถือเป็นการประชันความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีของแบรนด์จักรยานยนต์ในสนามแข่งอย่างแท้จริง

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #HondaBigBike #HondaHRC #HondaCBR1000RR-R #SC #Kong


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า พาอัพสกิลสายลุย เปิดประสบการณ์ขับขี่สุดท้าทาย ณ จ.ขอนแก่น ในกิจกรรม ‘DIRT Xperience 2025 R.2’

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า พาอัพสกิลสายลุย เปิดประสบการณ์ขับขี่สุดท้าทาย ณ จ.ขอนแก่น ในกิจกรรม ‘DIRT Xperience 2025 R.2’

    ฮอนด้าบิ๊กไบค์ จัดเต็มอีกครั้งกับกิจกรรม “DIRT Xperience 2025 R.2” พาไบค์เกอร์สายลุย และ ชาว CUB House เปิดประสบการณ์การขับขี่ทางฝุ่นสุดเร้าใจ ณ ภูคำแคมป์ปิ้ง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 20-21 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ มีการจัดติวพื้นฐานการขับขี่โดยครูฝึกมากประสบการณ์จาก Honda Safety Riding รวมถึงโอกาสได้ใกล้ชิด ฝึกอัพสกิลแบบเข้มข้นจากอดีตนักแข่งระดับโปรเพลย์เยอร์

    ภายในงานครั้งนี้ เต็มไปด้วยความคึกคักจากเหล่ารถจักรยานยนต์สายลุย ทั้งสาย Adventure และ Enduro ที่ขนโมเดลยอดนิยมมาให้สัมผัสอย่างพร้อมเพรียง กลุ่มแอดเวนเจอร์ยกทัพมาทั้ง Honda CRF1100L, CRF1000L, XL750, X-ADV, NC750X, CB500X และ NX500 ส่วนฝั่ง Enduro ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยไลน์อัปตระกูล CRF Series ครบครัน ทั้ง CRF450L, CRF300L, CRF250L, CRF300 RALLY และ CRF250 RALLY โดยผู้เข้าร่วมจะได้ทดลองขี่บนเส้นทางธรรมชาติสุดเร้าใจ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แนวแอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง

    และสำหรับชาว CUB House ที่พารถจักรยานยนต์คู่ใจมาร่วมลุยอย่าง Honda CT125 รถสายเทรลรุ่นฮิตมาเติมสีสันให้กับการผจญภัยในงาน DIRT Xperience 2025 นับเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ขับขี่สาย CUB House ได้สัมผัสประสบการณ์ออฟโรดอย่างเต็มรูปแบบ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการต่อยอดคอมมูนิตี้สาย CUB House ให้ก้าวสู่โลกการขับขี่แอดเวนเจอร์อย่างมั่นใจ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ที่สนุกสนาน ปลอดภัย และอัดแน่นด้วยการเรียนรู้ในทุกช่วงการขับขี่

    ภายในกิจกรรม มีการแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 2 กลุ่ม คือ Rookie สำหรับนักบิดสายเริ่มต้น และ Experience สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานและทักษะมาก่อน โดยทุกคนจะได้ฝึกฝนทักษะจากครูฝึกอย่างใกล้ชิดในสนาม ก่อนออกไปทดสอบจริงบนเส้นทางธรรมชาติ

    โดยเส้นทางในครั้งนี้ มีการเพิ่มอุปสรรคที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลุยป่าทึบที่เต็มไปด้วยต้นไม้และกอไผ่ การฝ่าดินโคลนลึกที่มีน้ำขังเป็นช่วง ๆ ซึ่งต้องอาศัยทักษะการควบคุมรถและการทรงตัว นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคอื่น ๆ เช่น การขับบนร่องลึก ขอนไม้ และการข้ามทางน้ำ ที่ท้าทายทั้งร่างกายและทักษะของผู้ขับขี่ มอบความมันส์ สะใจ ให้กับผู้เข้าร่วมเป็นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ ยังมีกิจกรรม “All in Xperience ออลทุกค่าย อินทุกแพสชัน” ชวนผู้ขับขี่จากทุกค่าย ทุกรุ่น ทุกระดับ เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในทุกกิจกรรมจากฮอนด้าบิ๊กไบค์ พร้อมรับสิทธิพิเศษในการเลือกเช่ารถ ฮอนด้าบิ๊กไบค์ กับ Moto Package สำหรับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทั้งปี

     

    สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมครั้งถัดไปได้ที่

    เว็บไซต์ : https://bit.ly/thaihondabigbike

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/

    เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : www.facebook.com/HondaBigBikeTH/

    My Honda Moto App

    iOS : https://bitly.cx/W8of

    Android : https://bitly.cx/qTKBZ

     

    #DIRTXPERIENCE #HondaBigBike #HondaBigBikeThailand #ExcitesTheWorld

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou #CUBHouse #CUBHousebyHonda


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment