-
News / News Motocycle1 Min Read
“ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” นักบิดดาวรุ่งไทย “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” คว้าท็อป 6 ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี รุกกีส์คัพ” สนามแรก ที่ สเปน
“ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 19 ปี จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” มุ่งปูทางสู่ระดับโลก โชว์ศักยภาพบิดคว้าท็อป 6 ประเดิมสนามแรก ในศึกชิงแชมป์นักบิดดาวรุ่งระดับโลก รายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์คัพ ที่ เซอร์กิโต เด เฮเรซ ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 25-27 เมษายนที่ผ่านมา
ศึก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 สนามแรก ถูกบรรจุเป็นซัพพอร์ตเรซของการแข่งขันโมโตจีพี รายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนับเป็นฤดูกาลแรกที่ “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” นักบิดเลือดใหม่ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล เพื่อดวลกับสุดยอดดาวรุ่งจากทั่วโลกกว่า 25 คน ในสนามที่ท้าทาย ซึ่งสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยคว้ากริดสตาร์ตอันดับที่ 6 มาครองจากรอบควอลิฟาย
การแข่งขันเรซแรก นักบิดไทยหมายเลข 85 เจอบททดสอบอย่างหนักจากการปะทะกับคู่แข่งหลังออกตัวในรอบแรกหลุดออกไปนอกแทร็กรูดลงไปถึงอันดับที่ 23 จบการแข่งขันด้วยการทะยานคว้าอันดับ 12 จากการสามารถนำรถแข่งขึ้นไล่แซงคู่แข่งอย่างสุดมันส์นับสิบคัน
การแข่งขันเรซที่ 2 “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” แก้ไขสถานการณ์การออกตัวได้ดีเกาะกลุ่มนำได้อย่างเหนียวแน่นไล่บี้ลุ้นโพเดียมกับคู่แข่ง จบคว้าอันดับ 6 ตามหลังผู้ชนะเพียง 1.788 วินาที โดยรั้งอันดับที่ 9 บนตารางคะแนนสะสม มีคะแนนทั้งสิ้น 14 คะแนน
ทั้งนี้ ศึก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์คัพ 2025 โดยสนามถัดไป จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ ที่ เลอ มองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นซัพพอร์ตเรซ ของโมโตจีพีสนามที่ 6 รายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์
แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ต ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ยอดนักบิดดาวรุ่งไทย และติดตามข่าวสารของ นักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กเฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
“ฮอนด้า” เดินหน้าสร้างผลงาน “มารินี” ท็อปเท็น “ก้อง-สมเกียรติ” อาร์มปั๊มเล่นงาน โมโตจีพี เฮเรซ
“ทัพนักบิดฮอนด้า” เดินหน้าสร้างผลงานคงที่ในศึก โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 โดยล่าสุด ลูก้า มารินี นักบิดอิตาเลียนจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี คว้าท็อปเท็น จากสนาม 5 รายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ที่ เซอร์กิโต เด เฮเรซ – อังเคล นิเอ็ตโต้ ประเทศสเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ เริ่มเกมได้ดีก่อนโดนอาการ “อาร์มปั๊ม” เล่นงาน
ศึก สแปนิช กรังด์ปรีซ์ นับเป็นอีกหนึ่งสนามที่ท้าทายอย่างมากในแง่ทักษะการขับขี่ “ฮอนด้า” ยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักในการพัฒนารถแข่ง Honda RC213V ด้วยการส่ง อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร นักบิดทดสอบชาวสแปนิชลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดเป็นครั้งแรก เพื่อเก็บข้อมูลตัวรถที่ได้รับการอัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ลูก้า มารินี ที่เริ่มเกมจากกริดที่ 16 ไต่เก็บอันดับขึ้นมาในอันดับที่ 10 ด้วยเวลารวม 41 นาที 13.613 วินาที ตามด้วย โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดชาวฝรั่งเศสจาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในอันดับ 11 เก็บคะแนนได้ทั้งคู่
ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 นักบิดไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ เริ่มเกมจากกริดที่ 21 ทะยานเริ่มต้นการแข่งขันอย่างดุดัน ก่อนจะต้องรีไทร์ในช่วงกลางเรซเนื่องจากปัญหา “อาร์มปั๊ม” กำเริบ ส่วน โจอัน เมียร์ นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ไม่จบการแข่งขัน
ทั้งนี้สนามถัดไปของศึก โมโตจีพี 2025 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ ที่ เลอมองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส ในรายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #LCRHondaTeam #LCRHonda #JZ5 #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #SpanishGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ จับมือพันธมิตร เปิดตัวโครงการ “TRUST” ร่วมขับเคลื่อนความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทย
มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และพันธมิตรหลายภาคส่วน ได้แก่ โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) เพื่อเปิดตัวโครงการ TRUST (Thailand Road Users Safety through Technology) อย่างเป็นทางการ เพื่อทดสอบแนวทางในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงระบบและการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568
นำโดย ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, มร. ซูซุมุ มัตสึดะ ผู้อำนวยการมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้, มร. ศรีนิวาสะ โปปุริ ผู้อำนวยการโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ สำนักงานโครงการกรุงเทพมหานคร, ศาสตราจารย์ ดร.มนูกิจ พานิชกุล รองอธิการบดีของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และ นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้เทคโนโลยีมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการขับขี่บนท้องถนน เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุและยกระดับความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทย
โครงการ TRUST มีจุดเริ่มต้นจากความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน โดยถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มขึ้นจาก การประชุม Tateshina*¹ ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัทโตโยต้า ณ ประเทศญี่ปุ่น ในการประชุมดังกล่าว โตโยต้าได้เชิญผู้นำจากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความปลอดภัยบนท้องถนน โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนสังคมสู่ “Vision Zero” หรือ เป้าหมายลดอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือศูนย์ในระดับโลก
จากอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในประเทศไทย ประกอบกับความมุ่งมั่นของโตโยต้าที่ต้องการก้าวสู่การเป็น “Best in Town” มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ จึงได้ริเริ่ม โครงการ TRUST โดยผนึกความร่วมมือกับหลากหลายภาคส่วน เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน การดำเนินงานของโครงการแบ่งออกเป็นหลายระยะ โดยเน้นการนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์เพื่อระบุสาเหตุของอุบัติเหตุ ผ่าน 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ผู้ใช้ถนน ยานพาหนะ ถนนและโครงสร้างพื้นฐาน
ความคิดริเริ่มที่สำคัญ: ระยะนำร่อง (เฟส 1) และการขยายผลสู่เฟส 2
โครงการทดลองระยะที่ 1 (เมษายน 2567 – มิถุนายน 2568)
ในระยะเริ่มต้นของโครงการ มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) ได้ร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ทดลองดำเนินงานในพื้นที่จังหวัด ฉะเชิงเทรา โดยใช้ ข้อมูลจากยานพาหนะของโตโยต้า (Probe Data) เพื่อระบุพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย การศึกษานี้มุ่งเน้นไปที่ 5 จุดเสี่ยง ในอำเภอพนมสารคามและอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดยวิเคราะห์พฤติกรรมต่างๆ เช่น การเบรกกะทันหัน การเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว การเลี้ยวกระทันหัน
ผลการศึกษาในระยะแรกแสดงให้เห็นว่า Probe Data มีศักยภาพในการระบุจุดเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ยังคงมุ่งเน้นไปที่ยานพาหนะสี่ล้อเป็นหลัก ขณะที่อุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักเกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์ ซึ่งยังคงต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถทำการวิเคราะห์ได้อย่างครอบคลุมและพัฒนาวิธีการการแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ระยะที่ 2 (พฤษภาคม 2568 – เมษายน 2570)
ในระยะที่ 2 ของโครงการ TRUST มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้จะขยายการใช้แหล่งข้อมูล และเครือข่ายความร่วมมือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงและออกแบบมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่เป้าหมายหลักในระยะนี้คือ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง เนื่องจากลักษณะการจราจรที่หนาแน่น และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ครอบคลุมอย่างทั่วถึง
ในระยะนี้ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (RVP) จะเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ โดยให้ ข้อมูลอุบัติเหตุ ซึ่งจะช่วยเสริมความแม่นยำในการวิเคราะห์ พร้อมนำไปสู่การพัฒนาแนวทางจัดการความปลอดภัยบนท้องถนนที่เหมาะสมกับบริบทของเมืองอย่างแท้จริง
ความสำเร็จของโครงการ TRUST เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของกลุ่มพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน โดยบทบาทที่ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) และแบ่งบทบาทที่ชัดเจน ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร (BMA) – สนับสนุนด้านฐานข้อมูล, ภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV), และดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งเป็นผู้ผลักดันโครงการโดยรวม
- โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (UN-Habitat) – พัฒนาศักยภาพ, สร้างเครือข่ายระดับโลก, และให้ข้อมูลเชิงลึกด้านความปลอดภัยระดับนานาชาติ
- สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) – บริหารจัดการโครงการ, ให้การสนับสนุนทางเทคนิค การวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง รวมถึงกำกับดูแลด้านวิชาการ
- โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) – ให้ข้อมูล probe data และองค์ความรู้จากโครงการ
- โตโยต้าถนนสีขาว เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน มุ่งเน้นการรณรงค์ ส่งเสริม พัฒนาทักษะจากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ที่เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ
- มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) – สนับสนุนเงินทุนและเทคโนโลยี รวมถึงการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Probe Data, ข้อมูลที่บันทึกเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ และข้อมูลอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ยังได้รับการสนันสนุนข้อมูลจากพันธมิตร ได้แก่
- บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (RVP) – ให้การสนับสนุนข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในอดีตเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย
ระยะเวลาดำเนินโครงการและแนวทางการขยายผลในอนาคต
โครงการ TRUST จะเริ่มดำเนินการในดือนพฤษภาคม 2568 ถึง เดือนเมษายน 2570 (ระยะเวลา 2 ปี) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการป้องกันอุบัติเหตุที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ความสำเร็จและข้อมูลเชิงลึกจากโครงการ TRUST จะถูกนำเสนอในเวทีนานาชาติเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาความปลอดภัยบนท้องถนนในระดับสากลต่อไป
มร. ซูซูมุ มัตสึดะ ผู้อำนวยการมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ (TMF) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ TRUST ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย โดยอาศัยการใช้ข้อมูลจากยานพาหนะร่วมกับการวิเคราะห์ขั้นสูง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมบนท้องถนนในกรุงเทพมหานครให้ ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีความตั้งใจที่จะ ขยายรูปแบบโครงการนี้ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศไทยในอนาคต วิสัยทัศน์สูงสุดของเราคือการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นศูนย์ ด้วยพลังของ ความร่วมมือ และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์”
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นวาระสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานคร และเราต้องดำเนินมาตรการอย่างจริงจังเพื่อลดอุบัติเหตุและรักษาชีวิตผู้คน การจำกัดความเร็ว, ส่งเสริมการสวมหมวกกันน็อกในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และการปรับปรุงสภาพถนน ล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำให้ท้องถนนของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น มาตรการเหล่านี้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการปกป้องผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน
นอกเหนือจากนโยบาย เรายังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้น ปรับปรุงทางข้ามถนน และใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายจราจร การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ผู้ขับขี่ และประชาชนผู้ใช้ทางเท้า หากเราร่วมมือกัน กรุงเทพมหานครจะกลายเป็นเมืองที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกคน”
มร. ศรีนิวาสะ โปปุริ ผู้อำนวยการโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ สำนักงานกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “เมืองต่างๆ จำเป็นต้องเร่งความพยายามในการพัฒนาความปลอดภัยทางถนนอย่างเร่งด่วน ที่องค์การยูเอ็น-ฮาบิแทต เราเชื่อว่าการใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เมืองมีความปลอดภัยและครอบคลุมมากขึ้น เช่น ความเร็วของยานพาหนะ ปริมาณการจราจร ประเภทของยานพาหนะ และสถานการณ์เสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ
ศาสตราจารย์ ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จากการดำเนินงานระยะแรกในจังหวัดฉะเชิงเทรา เราได้ใช้ข้อมูลจาก Probe Data ของยานพาหนะร่วมกับเทคโนโลยี AI ในการรวบรวมและวิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุ ควบคู่ไปกับวิธีการดั้งเดิมที่ใช้กันในการศึกษาการเกิดอุบัติเหตุทางจราจร (RC – EXPAND) ซึ่งพบว่ามีข้อได้เปรียบหลายประการที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ หนึ่งในนั้นคือการมีข้อมูลที่ครอบคลุมระยะเวลานานกว่า ซึ่งแตกต่างจากการเก็บข้อมูลโดยมนุษย์ที่มักจำกัดอยู่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ อีกทั้งยังช่วยลดอคติจากการประเมินของมนุษย์ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้ยังให้รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับจราจร เช่น ความเร็วของยานพาหนะ ปริมาณการจราจร ประเภทของยานพาหนะ และสถานการณ์เสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ”
“อย่างไรก็ตาม เรายังคงเผชิญกับความท้าทายบางประการในการเก็บรวบรวมข้อมูลประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ความรู้และความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ข้อมูล อีกทั้งในระยะนี้ เรายังขาดข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การวิเคราะห์ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
OMODA & JAECOO สร้างนิยามใหม่ของตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของโลก นำเสนอรถยนต์ตระกูล Super Hybrid System (SHS) พร้อมประกาศกลยุทธ์ในงาน Shanghai Auto Show 2025
Shanghai International Automobile Industry Exhibition หรือ Shanghai Auto Show 2025 เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 23 เมษายน 2025 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 2 ปีของ OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ที่จัดขึ้นในหัวข้อ “อยู่ด้วยกัน 2 ปี จากก้าวแรกสู่ก้าวกระโดด – 2 Years 2gather: From Seed to Speed” ในงานครบรอบดังกล่าวนี้ OMODA & JAECOO นำเสนอรถยนต์ Super Hybrid System (SHS) หลายรุ่น เช่นรุ่น OMODA C7 SHS, OMODA C5 SHS และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างรุ่น JAECOO 5 BEV โดยบริษัทฯ พร้อมดำเนินตามวิสัยทัศน์ “Born Global, Born NEV” แม้ว่าจะเป็นแบรนด์รถยนต์ใหม่ในท้องตลาด แต่เป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
ในโอกาสเดียวกันนี้ คุณชอว์น ฉู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโอโมดา แอนด์ เจคู่ ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาของบริษัทฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การเริ่มเข้าสู่ตลาดทวีปยุโรปและขยายตลาดไปทั่วโลก รวมไปจนถึงการได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องตามแนวคิด “Global Standard, Global Quality” ไปจนถึงการก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดของโลก OMODA & JAECOO ยกระดับตนเอง “จากก้าวแรกสู่ก้าวกระโดด” นับตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์เป็นครั้งแรกในโลกในงาน Shanghai Auto Show 2023 จนมาถึงหลักชัยสำคัญในงาน Shanghai Auto Show 2025 กล่าวโดยสรุปแล้ว OMODA & JAECOO ก้าวสู่
ยุคสมัยใหม่ของการยกระดับความก้าวหน้าในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ไปอีกขั้นอย่างเป็นทางการOMODA & JAECOO สร้างนิยามใหม่ของตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดโลก พร้อมปฏิวัติด้านระยะทางการขับขี่
ด้วยความตั้งใจให้เห็นถึงสมรรถนะของ JAECOO 7 SHS ในการขับขี่ที่สามารถขับได้ไกล จึงถูกพิสูจน์ด้วยการจัดกิจกรรมการขับขี่โกลบอลซุเปอร์ไฮบริดมาราธอน นับถึงปัจจุบัน รถยนต์รุ่น JACOO 7 SHS บรรลุเป้าหมายการขับขี่ตามกิจกรรมซุเปอร์ไฮบริดมาราธอนแล้วใน 16 ประเทศ โดยในประเทศไทยได้มีการเข้าร่วมซุปเปอร์ไฮบริดมาราธอน สามารถวิ่งได้ถึง 1,433 กิโลเมตร รวมครบสะสมระยะทางได้กว่า 1 แสนกิโลเมตร ตามสภาพการทดสอบบนท้องถนนจริง เบื้องหลังระยะทางที่เยี่ยมยอดนี้คือเทคโนโลยีระบบซุปเปอร์ไฮบริด Super Hybrid System (SHS) ซึ่ง OMODA & JAECOO เป็นผู้นำของโลกในตลาดปลั๊กอินไฮบริด ที่จะสร้างนิยามใหม่ของการเดินทางด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อัตราการใช้พลังงาน และนวัตกรรม
ในฐานะโซลูชั่นพลังงานใหม่ที่ดีที่สุดของโลก เทคโนโลยี Super Hybrid System (SHS) เกิดจากการผสาน 3 แกนหลักอันล้ำหน้าในอุตสาหกรรมมาสู่หนึ่งแพลตฟอร์ม ได้แก่ เครื่องยนต์ไฮบริดแบบเฉพาะ (DHE) 1.5 ทีดีจีไอรุ่นที่ 5 ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า สำหรับการวิ่งด้วยไฟฟ้า และ 240 แรงม้า สำหรับการวิ่งด้วยน้ำมัน ระบบส่งกำลังไฮบริดต่อเนื่องแบบอัจฉริยะ (DHT) และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ การผสานเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้รถยนต์ JAECOO 7 SHS มีประสิทธิภาพด้านการระบายความร้อนดีขึ้นร้อยละ 44.5 มีอัตราการใช้พลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ต่ำ
ที่ 3.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 151.6 กิโลเมตร หรือใช้ขับขี่ไปทำงานและกลับบ้านนานประมาณ 1 สัปดาห์จากการประจุไฟเพียงครั้งเดียว นอกเหนือไปจากอัตราการใช้พลังงานที่ต่ำ เทคโนโลยีซุเปอร์ไฮบริดยังมีเสียงการทำงานเงียบเทียบเท่ารถพลังงานไฟฟ้า มีอัตราเร่งดี สร้างนิยามใหม่ของการขับขี่รถยนต์ไฮบริดให้เป็นประสบการณ์ที่เหนือข้อจำกัด“เราพร้อมจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังแล้ว”
ในปี 2025 OMODA & JAECOO จะดำเนินการตามกลยุทธระดับสากลสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีโดยมีระบบ Super Hybrid System (SHS) เป็นแกนกลาง และนำเสนอรถยนต์ที่ใช้ระบบ Super Hybrid System (SHS) ใหม่ตลอดทั้งปีนี้เพื่อเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่นตามกลยุทธก้าวไปสู่ระดับโลก คือรถยนต์รุ่น OMODA C7 SHS และ JAECOO 5 EV ที่จะวางจำหน่ายในช่วงเวลาหลังจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นกลจักรสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตไปอีกขั้น
นอกเหนือไปจากนี้ จากการประกาศกลยุทธ์ในงาน Shanghai Auto Show 2025 ทาง Chery และ OMODA and JAECOO ยังเตรียมจัดงานนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดในประเทศไทย วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยรายละเอียดของงานจะประกาศในโอกาสต่อไป
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ผถห.PTG ไฟเขียวจ่ายปันผลเพิ่มอีก 0.25 บ./หุ้น เตรียมรับทรัพย์ 16 พ.ค.นี้-ปักหมุดลุย Non-Oil รุกขยายสาขาพันธุ์ไทย ดันเป้าสิ้นปีแตะ2 พันสาขา
ผู้ถือหุ้น บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ขานรับมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 เพิ่มอีกในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 16 พ.ค.นี้ ฟากซีอีโอ “พิทักษ์ รัชกิจประการ”ระบุแนวโน้มธุรกิจปี 68 สดใส รับอานิสงส์จากธุรกิจ Non-Oil เติบโตโดดเด่น ชูธงกาแฟพันธุ์ไทยเป็นธุรกิจขับเคลื่อนสำคัญ จากแผนขยายสาขาตั้งเป้าสิ้นปีแตะกว่า 2,000 สาขา และยอดสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus เพิ่มขึ้น พร้อมตั้งเป้ายอดขายน้ำมันเติบโต 5-10 %
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2567 (1 มกราคม -31ธันวาคม 2567) ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (1 มกราคม – 30 กันยายน 2567) ให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับงวดปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 584,500,000 บาท ซึ่งกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568
“การจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ถือเป็นการจ่ายที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ยังเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นและไว้วางใจในผู้บริหาร ธุรกิจ และผลประกอบการที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร เพื่อเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม และสามารถใช้ชีวิตภายใต้ระบบนิเวศของบริษัทฯ ได้อย่าง อยู่ดี มีสุข ซึ่งในส่วนของผู้ถือหุ้นอยากให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งขอให้เชื่อมั่นในทีมผู้บริหารว่าจะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาบริษัทฯ ก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นายพิทักษ์ กล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 เชื่อว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นการขยายเครือข่ายธุรกิจในทุกมิติ พร้อมพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งตั้งเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันธุรกิจ Oil ไว้ที่ 5-10% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการ PT อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการ Renovate สถานีบริการและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบวงจรและทันสมัย รองรับระบบบดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเติบโตของฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 25 ล้านคน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานีบริการให้ครบ 2,279 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ 2568
นอกจากนี้ ยังได้รับอานิสงส์จากธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจจากการขยายสาขาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีอยู่กว่า 2,000 สาขา โดยยังคงพัฒนาแคมเปญส่งเสริมการขายรวมถึงเมนูใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้บริการซ้ำ
อีกทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการของลูกค้าสมาชิกและบุคคลทั่วไปที่เพิ่มขึ้น และบริษัทฯ ยังเดินหน้าขยาย Autobacs, Max Mart และ Subway ซึ่งเป็น Touchpoints สำคัญที่ช่วยเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ (ไม่รวม LPG) ธุรกิจ Non-Oil ไว้ที่ 40-50% จากปีก่อน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
เบนท์ลีย์ แบงค็อก จัดแสดง Bentayga Hybrid พร้อมยกระดับความหรูหราในงาน Forbes Thailand CEO Golf Tournament 2025
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดแสดง Bentley Bentayga Hybrid อัครยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ที่จะยกระดับความหรูหราไปอีกขั้น พร้อมเปิดสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟในงาน Forbes Thailand CEO Golf Tournament 2025 การแข่งขันกอล์ฟระดับพรีเมียมที่ได้รวบรวมเอาผู้นำ CEO และผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายแวดวงอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศไทยเข้ามาไว้ในงานเดียวเพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง จัดโดยนิตยสารฟอร์บสไทยแลนด์ ณ สนามกอล์ฟ Riverdale Golf Club สนามคุณภาพระดับแชมเปี้ยนชิพในจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา
แขกผู้ร่วมงานได้มีโอกาสยลโฉม Bentley Bentayga Hybrid อัครยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ระดับ Ultra Luxury SUV ที่มาพร้อมกับสมรรถนะและประสิทธิภาพในการขับขี่จากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ไฮบริดที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ของเหล่าผู้นำยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยผู้สนใจทดลองขับยังได้ลองสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ในแบบ The Finest Drive ที่ผสานเอาความเร้าใจและความสะดวกสบายในการขับขี่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวร่วมกับที่ปรึกษาการขายผู้เชี่ยวชาญที่ค่อยกำกับดูแลและให้ข้อมูลรถยนต์ในขณะขับขี่อย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทางการทดลองขับเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงประสบการณ์การขับขี่ทีเหนือชั้นได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ เบนท์ลีย์ แบงค็อกได้นำคอลเลกชันเบนท์ลีย์ สินค้าของที่ระลึกจากแบรนด์นำเข้าจากโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่หลงใหลในแบรนด์ไลฟ์สไตล์หรูสัญชาติอังกฤษมาให้ได้เลือกสรรกันภายในงาน
สำหรับงาน Forbes Thailand CEO Golf Tournament 2025 ถือเป็นครั้งแรกของฟอร์บสไทยแลนด์กับการแข่งขันกอล์ฟระดับพรีเมียม พร้อมดินเนอร์ทอล์คสุดพิเศษในหัวข้อ “โปรกอล์ฟกับการดูแลตัวเอง” โดย อ.นพ.กันตพงศ์ ทองรงค์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและผู้ก่อตั้งคลินิก PYONG Rehabilitation Clinic ซึ่งนำเสนอแนวคิดเรื่องสุขภาพในมุมของผู้นำองค์กรที่ต้องพร้อมทั้งกายและใจท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้นำจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รวมตัวกันเพียงเพื่อการแข่งขัน แต่เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสัมพันธ์ พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมอง และต่อยอดความร่วมมือในอนาคต พร้อมปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากวงทรีโอ Royal Bangkok Symphony Orchestra: RBSO ที่มาร่วมขับกล่อมเสียงเพลงในบรรยากาศสุดพิเศษนี้
สำหรับการเปิดรับคำสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดด้วยเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตที่มาพร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต บริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) และ Service Package (สำหรับเครื่องยนต์รุ่น V8 Hybrid เท่านั้น) นาน 3 ปีเต็ม พร้อมสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
“ก๊องส์-ธัชกร” แซงโหดคว้าท็อป 15 เฮเรซ ปลดล็อคคว้าแต้มแรก “โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ”
“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สร้างผลงานยอดเยี่ยม ออกสตาร์ตกริดที่ 19 ไล่แซงคู่แข่งสุดมันส์ขยับสูงสุดในอันดับ 11 ก่อนบิดเข้าป้ายอันดับ 15 ตามหลังผู้ชนะ 37.469 วินาที ปลดล็อคคว้าแต้มแรกของชีวิตได้สำเร็จ ในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 สนาม 5 รายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ที่ เซอร์กิโต เด เฮเรซ – อังเคล นีเอ็ตโต้ ประเทศสเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในฤดูกาล 2025 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยเจ้าของหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยกระดับความเร็วขึ้นอย่างมาก ก่อนจะคว้าแต้มได้สำเร็จในเรซนี้ โดยสนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ ที่ เลอมองส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส ในรายการ เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #SpanishGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News / News Motocycle1 Min Read
“ชิพ-นครินทร์” บิด Honda CBR1000RR-R ย้ำชัยชนะอย่างเหนือชั้น คว้าดับเบิ้ลวิน เก็บคะแนนเต็มจาก 2 เรซ รั้งจ่าฝูงรุ่นใหญ่สุด ASB1000 สนามแรก ARRC 2025 บุรีรัมย์
“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ระเบิดผลงาน Honda CBR Series โดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ บิด Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 ย้ำชัยชนะอย่างเหนือชั้น คว้าชัยชนะต่อเนื่องในเรซที่ 2 รุ่นใหญ่สุดแรง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2025 สนามแรก ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา
ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง 2025 สนามแรก เรซที่ 2 “ชิพ-นครินทร์” ยอดนักบิดไทย หมายเลข 41 จาก “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ตอกย้ำผลงานเหนือชั้นอย่างต่อเนื่อง บิดรถแข่ง Honda CBR1000RR-R คว้าชัยชนะ รุ่นเอเชียซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี. (ASB1000) หลังจากคว้าชัยชนะในเรซที่ 1 มาครองได้อย่างสุดสะใจกองเชียร์ ครองจ่าฝูงรุ่นใหญ่สุดแรงที่สุด โดยเก็บคะแนนเต็มได้ทั้ง 2 เรซ มีทั้งสิ้น 50 คะแนน
รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) ดาวรุ่งนักบิดไทย “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 บิดรถแข่ง Honda CBR600RR โชว์ผลงานขึ้นนำต่อสู้ลุ้นโพเดียมจนถึงรอบสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 6 ด้าน “ไฮเปค” กฤษฎา ธนโชติ หมายเลข 18 พัฒนายกระดับคว้าอันดับที่ 8 ได้สำเร็จ
รุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) 2 ดาวรุ่งเยาวชน สิทธิ์ไวล์ดการ์ด บิดรถแข่ง Honda CBR250RR บิด เก็บประสบการณ์ต่อสู้กับนักแข่งระดับท็อปของเอเชียที่มีชั่วโมงบินมากกว่า “ชินโจ” ณภัทร จาตูม หมายเลข 86 จบอันดับที่ 11 ตามด้วย “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร หมายเลข 12 จบอันดับที่ 23
ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ดเรซซิ่ง 2025 สนามที่ 2 จะแข่งขันที่ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน นี้
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC #ARRC2025 #AsiaRoadRacingChampionship2025 #HondaCBR #Chip41 #Mix31 #HiPeck18 #Fer12 #Shinjo86
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX การันตีความเป็นที่สุด!!! คว้ารางวัลระดับโลก Red Dot Design Award 2025 ยืนยันความเป็นผู้นำด้านดีไซน์ต่อเนื่อง 14 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2012
บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อ All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX สกู๊ตเตอร์พรีเมียมรุ่นล่าสุดของค่าย สามารถคว้ารางวัล Red Dot Award: Product Design 2025 หนึ่งในรางวัลด้านการออกแบบระดับโลกที่ทรงเกียรติที่สุด ซึ่งนับเป็นปีที่ 14 ติดต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ของยามาฮ่าได้รับรางวัลนี้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2012
โดย All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากพื้นฐานของ NMAX ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยยังคงรักษา DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล MAX Series ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผสมผสานสไตล์สปอร์ตที่โดดเด่นเข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ในขนาดตัวรถที่กะทัดรัดได้อย่างลงตัว
All New YAMAHA NMAX 125 Tech MAX ปี 2025 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Condensed Elements” หรือ “การออกแบบอย่างลงตัว” เพื่อยกระดับทั้งในเรื่องของความสะดวกสบาย ความคล่องตัว และฟังก์ชันการใช้งาน โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ด้วยไฟหน้า – ไฟท้ายแบบ LED โดยมีขนาดที่เล็กลง และหน้าจอเรือนไมล์แบบ TFT ที่ล้ำสมัย ช่วยลดขนาดตัวรถโดยรวมลงได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยเบาะนั่งดีไซน์หรูและโทนสีพิเศษที่ยกระดับความ พรีเมียมเหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน
สำหรับรางวัล Red Dot Design Award จัดขึ้นโดย Design Zentrum Nordrhein Westfalen ประเทศเยอรมนี และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดรางวัลด้านการออกแบบระดับโลก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
“ชิพ-นครินทร์“ คว้าแชมป์สุดยิ่งใหญ่ บิด Honda CBR1000RR-R กระหึ่มโฮมเรซ สนามแรก นำทีม “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์“ พาธงชาติไทยโบกสะบัดในศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย ARRC 2025 จ. บุรีรัมย์
“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทย หมายเลข 41 จาก “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” บิดรถแข่ง Honda CBR1000RR-R ออกสตาร์ตจากกริดที่ 2 ระเบิดฟอร์มการแข่งขันอย่างสุดเดือด คว้าชัยชนะในการแข่งขันรุ่นท็อปสุดอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) พาธงชาติไทยขึ้นฉลองชัยชนะบนโพเดียม มอบความสุขให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยในโฮมเรซ สนามแรก ศึกชิงเจ้าความเร็วระดับทวีปเอเชีย รายการ “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ“ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ขณะที่รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) นักบิดดาวรุ่ง The Next Successor ลงสนามด้วยรถแข่ง Honda CBR600RR สามารถเก็บคะแนนได้สำเร็จหลังต่อสู้กับงานท้าทาย เมื่อสายฝนเทกระหน่ำท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งทำให้การแข่งขันต้องดีเลย์ และเริ่มต้นการแข่งขันในสนามเปียกกึ่งแห้ง โดยลดระยะทางการแข่งขันเหลือ 8 รอบสนาม ซึ่ง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 4 บิดสู้กับคู่แข่งในกลุ่มนำจนถึงโค้งสุดท้ายก่อนคว้าท็อป 4 มาครอง นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของนักแข่งไทยในรุ่นนี้ ส่วนทีมเมท “ไฮเปค” กฤษฎา ธนโชติ หมายเลข 18 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 12 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 11
ด้านรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) 2 ดาวรุ่งเยาวชน สิทธิ์ไวล์ดการ์ด เก็บประสบการณ์ด้วยรถแข่ง Honda CBR250RR ทำผลงานยอดเยี่ยม สามารถเก็บคะแนนสะสมได้ทันที โดย “ชินโจ” ณภัทร จาตูม หมายเลข 86 ออสตาร์ตจากกริดที่ 21 ไล่แซงคู่แข่งเข้าเส้นชัยในอันดับท็อป 10 ขณะที่ “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร หมายเลข 12 ออกสตาร์ตจากกริดที่ 16 เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 20
ทั้งนี้ การแข่งขันเรซที่ 2 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน นี้ เริ่มด้วยรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) เวลา 14.05 น. ต่อด้วยรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) เวลา 14.55 น. และรุ่นเอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) เวลา 15.50 น. ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC #ARRC2025 #AsiaRoadRacingChampionship2025 #HondaCBR #Chip41 #Mix31 #HiPeck18 #Fer12 #Shinjo86
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine