-
News / News Motocycle1 Min Read
ลุ้นต่อส่งท้ายฤดูกาล!”ก้อง-สมเกียรติ” พร้อมบู๊ โมโตจีพี สนามสุดท้าย มุ่งมั่นล่าแต้มที่ บาเลนเซีย
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” พร้อมเต็มร้อยเพื่อลุยศึก โมโตจีพี 2025 สนามสุดท้าย รายการ บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ มุ่งมั่นเต็มเปี่ยมเพื่อล่าแต้มส่งท้ายฤดูกาล ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายนนี้ ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน
ศึก บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ คัมแบ็กสู่ปฏิทินการแข่งขัน โมโตจีพี และถูกบรรจุเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเว้นวรรค 1 ปี จากภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมา โดยนับเป็นหนึ่งในสนามที่ท้าทายความสามารถด้วยคาแร็กเตอร์แบบ “ความเร็วสูง” บวกกับสภาพอากาศเย็นของยุโรปในช่วงเวลานี้ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการยึดเกาะของรถแข่ง
ล่าสุด “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของรถแข่ง Honda RC213V หมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ พร้อมด้วยทีมงานได้เดินทางเข้าสู่สนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อลงซ้อมวันแรกตามโปรแกรมซึ่งจะมีขึ้นในบ่ายวันศุกร์นี้
“ก้อง-สมเกียรติ” นับเป็นนักแข่งรถชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ก้าวขึ้นสู่การแข่งขันโมโตจีพี รุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง “พรีเมียร์คลาส” โดยเจ้าตัวพยายามอย่างหนักในการต่อสู้บนสนามแข่งร่วมกับสุดยอดนักบิดแถวหน้าของโลก และสามารถเก็บมาได้ 7 แต้มจาก 21 สนามที่ผ่านมา ซึ่งนักบิดไทยวัย 26 ปี มุ่งมั่นอย่างมากที่จะคว้าแต้มในสนามสุดท้ายของฤดูกาลให้ได้
ทั้งนี้ ศึก บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจะควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายนนี้ และดวลความเร็วรอบ “สปรินต์เรซ” ในเวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ของวันเดียวกัน ส่วนการแข่งขันรอบ “เมนเรซ” จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้ เวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #ValenciaGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Motocycle1 Min Read
“ไทยฮอนด้า” จุดกระแสความมันส์! ชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตซื้อตั๋วชมเรซระดับโลก ร่วมหนุน “โมโตจีพี 2026” จัดเต็มกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ใน “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์”
“ไทยฮอนด้า” ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในงานแถลงข่าวเปิดตัวขายบัตรเข้าชมศึก โมโตจีพี 2026 สนามแรก รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ อย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลก เดินหน้าสนับสนุนอย่างเต็มร้อยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมชวนแฟนชาวไทยสัมผัสเรซระดับโลกฝีมือคนไทย ประกาศจัดหนักจัดเต็มกิจกรรมสุดตื่นตาตื่นใจแบบหาที่ไหนไม่ได้ตลอด 3 วันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2026 ในปีหน้า
เมื่อวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2025, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เข้าร่วมงานแถลงข่าวการเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2026 สนามแรกของฤดูกาล รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2026” (พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์)
ดร. อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ไทยฮอนด้า ให้ความสำคัญกับวงการมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง เราให้โอกาสและพัฒนานักแข่งไทยไปสู่การแข่งขันระดับโลก อย่าง โมโตจีพี ซึ่งมี “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เป็นโมเดลสำคัญ ในการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่ ที่จะเติบโตและก้าวขึ้นมาทำผลงานสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย”
“การแข่งขัน โมโตจีพี สนามประเทศไทยมีความสำคัญอย่างมากที่ช่วยพลิกโฉมวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และที่สำคัญยังส่งผลโดยตรงต่อการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาความเร็วในไทย โดยเฉพาะการพัฒนานักแข่งให้ก้าวสู่ระดับโลก อยากชวนแฟนๆ ชาวไทยซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก และแน่นอนว่า ไทยฮอนด้า ได้เตรียมกิจกรรมสุดพิเศษไว้มากมาย เตรียมรอทุกท่านเช่นเคย”
ไทยฮอนด้ามุ่งมั่นขับเคลื่อนวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง และในปี 2026 ก็พร้อมขนกิจกรรมของ ฮอนด้า ใน โมโตจีพี มาเสิร์ฟให้แฟนๆ ได้ร่วมประสบการณ์แบบที่หาที่ไหนไม่ได้ อาทิ ความยิ่งใหญ่ Honda Exhibition Hall ร่วมสัมผัส! รถแข่งระดับโลกที่นำมาโชว์ กิจกรรมพิเศษพร้อมของรางวัลในบูธ และ ชมถ่ายทอดสดการแข่งขันบนจอยักษ์พร้อมทีมผู้บรรยาย
สัมผัสประสบการณ์ Honda EV Experience ณ “Welcome area EV Station” กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda BENLY e: ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ และนวัตกรรมพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ฮอนด้า ให้ความสำคัญอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ก็ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า ฮอนด้า โดยเฉพาะ กับกิจกรรม Honda BigBike Road Trip to ThaiGP 2026 ร่วมเดินทางกับรถมอเตอร์ไซค์สุดรักของคุณไปกับเพื่อนๆ คอเดียวกัน สู่จุดหมายปลายทางแห่งความเร็วที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พร้อมกับ เปิดจุดพักรถ Honda Rest Station ไว้คอยให้บริการตลอดเส้นทาง
และแน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่บรรยากาศของ โมโตจีพี “ไทยฮอนด้า” จัดกิจกรรม Honda Race to The One Village 2026 โดยพาแฟนคลับ Honda Wing Center, Honda BigBike และ CUB House มาร่วมชมเชียร์ชิดติดขอบสนาม โมโตจีพี กับช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตได้เข้าร่วมกิจกรรม “มีตแอนด์กรี๊ด” (Meet and Greet) กระทบไหล่นักแข่งระดับโลกของฮอนด้าในศึก โมโตจีพี นำโดย “โจอัน เมียร์” และ “ลูก้า มารินี” คู่หูจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี รวมถึง “โยฮันน์ ซาร์โก” และ “ดิโอโก้ โมเรร่า” ในสังกัด ฮอนด้า แอลซีอาร์
สำหรับ บัตรเข้าชมการแข่งขัน พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026 จะยังคงจำหน่ายในราคาเดิม โดยลูกค้า ฮอนด้า จะได้รับส่วนลดพิเศษถึง 20% เมื่อโชว์กุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ณ จุดจำหน่าย
แฟนๆ ความเร็วสามารถซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.allticket.com เริ่มจำหน่ายวันอังคารที่ 11 พ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #PTGrandPrixofThailand2026 #Motorsport
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
ไทยฮอนด้า ส่งมอบหมวกกันน็อกครบทั่วทั้งภาคอีสาน ปิดท้ายที่อุบลราชธานีอีก 1,360 ใบ ตอกย้ำ 60 ปี แห่งการสร้างวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เดินหน้าสานต่อพันธกิจด้านความปลอดภัยทางถนนในวาระครบรอบ 60 ปี จัดกิจกรรมส่งมอบหมวกนิรภัยมาตรฐาน มอก. จำนวน 1,360 ใบ ให้แก่เยาวชนและประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้โครงการ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” นำโดย มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด พร้อมผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในพื้นที่ ร่วมเป็นผู้แทนมอบให้แก่ ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดยมี นายอภิรักษ์ นามบุตร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ผู้แทนหน่วยงานราชการ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้แทนสถาบันการศึกษา เข้าร่วมรับมอบ ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
ทั้งนี้ ไทยฮอนด้า ได้ส่งมอบหมวกนิรภัยครบทุกจังหวัดทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมปิดท้ายเส้นทางแห่งความห่วงใยที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นจังหวัดสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาค มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ และมีประชากรจำนวนมากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ การมอบหมวกนิรภัยในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากครอบคลุมกลุ่มเยาวชนและผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรและการใช้รถใช้ถนนสูง อันจะช่วยยกระดับความปลอดภัยทางถนนได้อย่างเป็นรูปธรรม
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีของไทยฮอนด้า เราอยากแสดงความขอบคุณและตอบแทนสังคมไทย ภายใต้แนวคิด ‘60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน’ ด้วยการส่งมอบหมวกนิรภัยจำนวน 60,000 ใบ มูลค่า 60 ล้านบาท ร่วมกับผู้จำหน่ายฮอนด้าทั่วประเทศที่สมทบเพิ่มเติมอีก 52,440 ใบ รวมเป็น 112,440 ใบ มูลค่ากว่า 112 ล้านบาท ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี เราได้มอบหมวกนิรภัยจำนวน 1,360 ใบ เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมการสวมหมวกกันน็อกให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเยาวชน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยที่ปลอดภัยในอนาคต ตอกย้ำเจตนารมณ์ของไทยฮอนด้าในการยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทย ส่งต่อความปลอดภัย ความห่วงใย และวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัยอย่างยั่งยืนในทุกภูมิภาค”
ณ ปัจจุบัน คาราวาน “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” ได้ทยอยส่งมอบหมวกนิรภัยมาตรฐาน มอก. ครอบคลุมเกือบครบทุกภูมิภาคในประเทศ และยังเหลืออีก 14 จังหวัด ที่จะเข้าร่วมรับมอบในช่วงโค้งสุดท้ายของคาราวาน ก่อนจะปิดภารกิจอย่างสมบูรณ์ที่กรุงเทพมหานคร ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568
โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ คาราวานหมวกกันน็อก 60 ปี ไทยฮอนด้า ที่เดินทางส่งมอบความห่วงใยทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมการขับขี่ปลอดภัยในกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง ไทยฮอนด้าเชื่อว่าการสวมหมวกนิรภัยเป็นเกราะป้องกันชีวิตที่ช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
เกี่ยวกับ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” ได้ที่เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA
#ไทยฮอนด้า60ปี #ThaiHonda60TH #ไทยฮอนด้าเคียงข้างสังคมไทย #HondaSafetyThailand #HaveAGoodRide #ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เผยโฉมจักรยานยนต์ต้นแบบ V3R 900 E-Compressor Prototype ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V3 พร้อมคอมเพรสเซอร์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ภายในงาน EICMA 2025รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เผยโฉม V3R 900 E-Compressor Prototype รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V3 พร้อมคอมเพรสเซอร์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ภายในงาน EICMA 2025 (Milan Motorcycle Shows) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 4–9 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา
เพื่อให้ความสุขและอิสรภาพแห่งการเคลื่อนที่เติมเต็มวิสัยทัศน์ “Honda 2030 Vision” ให้เป็นจริง ทีมพัฒนารถจักรยานยนต์ของฮอนด้าจึงได้ร่วมกันระดมสมองและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเหนือความคาดหวังของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดย V3R 900 E-Compressor Prototype ถือเป็นรถต้นแบบที่สร้างขึ้นเพื่อนำเสนอคุณค่าใหม่ให้กับลูกค้า ผ่านเทคโนโลยี
ที่ฮอนด้าเป็นผู้คิดค้นและไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนรถจักรยานยนต์ต้นแบบรุ่นนี้พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Non-rail rollercoaster” สื่อถึงความตั้งใจของฮอนด้าในการสร้างรถที่ผสานสองแนวคิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ Guaranteed thrill และ Reassuring peace of mind โดยรวมเอาเทคโนโลยีล่าสุดเข้ากับองค์
ความรู้ที่ฮอนด้าสั่งสมจากการพัฒนารถจักรยานยนต์มาอย่างยาวนานฮอนด้าพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ให้มีขนาดกะทัดรัด ด้วยความจุ 900 ซีซี โดยใช้พื้นฐานการออกแบบจากเครื่องยนต์ V3 ที่ตัวลูกสูบจัดเรียงในมุม 75 องศาแบบตัววีและระบายความร้อนด้วยน้ำ (Water-Cooled 75-Degree V3 Engine) ซึ่งเคยเปิดตัวเป็นต้นแบบแล้วในงาน EICMA 2024 ที่ผ่านมา
เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมคอมเพรสเซอร์ชนิดควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จากข้อมูลการวิจัย
ของฮอนด้านับเป็นครั้งแรกของโลกในรถจักรยานยนต์ ช่วยให้แรงบิดตอบสนองได้ฉับไวตั้งแต่รอบต่ำ ด้วยการควบคุมแรงอัดของอากาศที่ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์โดยไม่ขึ้นกับรอบการทำงาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ผลักดันให้ฮอนด้ามุ่งพัฒนาเครื่องยนต์ขนาด 900 ซีซี ที่ให้สมรรถนะเหนือระดับเทียบเท่าเครื่องยนต์ 1200 ซีซีได้ พร้อมทั้งยังคงไว้ซึ่งความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมV3R 900 E-Compressor Prototype โดดเด่นด้วยชุดครอบด้านข้างดีไซน์ไม่สมมาตร ถังน้ำมันประดับ
ด้วยตราสัญลักษณ์ “Honda Flagship WING” แบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มนำไปใช้กับรถระดับเรือธงของฮอนด้าทั้งหมดตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปฮอนด้าตั้งใจให้ V3R 900 E-Compressor Prototype เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในเส้นทาง
แห่งความท้าทาย เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุก ความตื่นเต้น และความภาคภูมิใจของการเป็น
เจ้าของในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากนี้ฮอนด้าพร้อมเดินหน้าสู่การผลิตจริงต่อไปอย่างเต็มรูปแบบติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
TikTok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
YouTube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า
#HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า
#V3R900 #EICMA2025
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle2 Min Read
ไทยแถลงความพร้อม! เจ้าภาพ “โมโตจีพี 2026” สนามเปิดฤดูกาล ใหญ่ขึ้น-สนุกขึ้น-ผู้ชมมากขึ้น ตั้งเป้าเป็นสนามที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทินแข่งขัน
รัฐบาลไทย นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย ประจำปี 2569 ภายใต้ชื่อ “PT Grand Prix of Thailand 2026” ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุด ขึ้นแท่นสนามเปิดฤดูกาล เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ตอกย้ำก้าวสำคัญสู่ปีที่ 7 ที่แข็งแกร่งของไทยบนแผนที่มอเตอร์สปอร์ตโลก พร้อมเดินหน้า สานต่อความสำเร็จ ดันไทยสู่ “ฮับมอเตอร์สปอร์ตภูมิภาค” และสร้างต้นแบบเมืองกีฬาอาเซียน จุดพลุคอนเซ็ปต์ ‘More Than a Race’ จัดใหญ่-สนุกขึ้น ตั้งเป้าเป็นสนามแข่งที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทิน MotoGP ลุ้นสร้างสถิติใหม่ผู้ชมสูงสุดทำลายสถิติเดิม พร้อมเปิดจำหน่ายบัตรวันแรก กระแสตอบรับดีเยี่ยม ที่นั่งแกรนด์สแตนด์ Sold Out ด้วยเวลา 3.21 นาที
11 พ.ย. 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ การกีฬาแห่งประเทศไทย (หัวหมาก) : แถลงข่าวจัดการแข่งขันและเปิดจำหน่ายบัตรชม ศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” รายการ “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026” (PT Grand Prix of Thailand 2026) โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล หรือ Pre-Season Test วันที่ 21-22 ก.พ. และ สนามที่ 1 เปิดฤดูกาล ระหว่าง วันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. 2569 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ งานแถลงข่าวจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพ พร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), ดอร์น่า สปอร์ต, จังหวัดบุรีรัมย์, สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมแถลงข่าว รวมทั้งตัวแทนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมการขนส่งทางบก, น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (ดูคาติ ไทยแลนด์) ทัพสื่อมวลชนและผู้ร่วมงานมากกว่า 400 คน ถือเป็นงานแถลงข่าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีของไทย
ภายในงานยังได้มีการเปิดจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน โมโตจีพี สนามประเทศไทย ประจำปี 2569 อย่างเป็นทางการ โดยปีนี้ปรับเวลาการจัดจำหน่ายให้เร็วขึ้นกว่าทุกปี รวมทั้งมีการเพิ่มกิจกรรมความสนุก ลุ้นรางวัลของที่ระลึกมากมาย รวมทั้งความพิเศษของบัตรชมการแข่งขัน ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษ ‘3-in-1 Global Exclusive’ ในการเข้าชมฟรี 3 กิจกรรมหลักทั้ง Pre-Season Test, Main Race และเป็นบัตรแอดมิชชั่นร่วมกิจกรรมบันเทิง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หลังเปิดจำหน่าย บัตรแกรนด์ สแตนด์ Sold Out ด้วยเวลา 3.21 นาที
รัฐบาล‘เดินหน้า’ สานต่อ ThaiGP ดันไทยสู่ ‘ฮับมอเตอร์สปอร์ตภูมิภาค’
ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพการจัดงาน กล่าวว่า การที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพ MotoGP เป็นปีที่ 7 และได้เป็นสนามเปิดฤดูกาลถึง 2 ปีติดต่อกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากการทำงานอย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง คือเอกลักษณ์ ความเป็นเจ้าบ้านที่อบอุ่น และการสร้างบรรยากาศที่แฟนๆ ไม่มีวันลืม เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสเสน่ห์ไทยอย่างแท้จริง และสร้าง “ภาพจำ” ที่แตกต่างจากทุกสนามทั่วโลก
“ ThaiGP เป็นมากกว่าสนามแข่งขัน แต่เป็นเครื่องมือเชิงนโยบายที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่าน “Sport Tourism” ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการท่องเที่ยว โรงแรม ขนส่งและซัพพลายเชนต่างๆ นี่คือ ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่ประเทศได้รับจากการเป็นเจ้าภาพ MotoGP”
“จากผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ไทยต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพออกไปอีก 5 ปี (พ.ศ. 2570–2574) สะท้อนว่า รัฐบาลมีเจตนาชัดเจนในการ “เดินหน้าต่อ” เพราะ ThaiGP เป็นทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน โดยมอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทยผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “ฮับของมอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาค” ผ่านการสนับสนุนการแข่งขัน การพัฒนานักแข่งเยาวชน และการใช้ Soft Power สื่อสารภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ของประเทศไปทั่วโลก”
ThaiGP คือ ‘การลงทุนในอนาคตของวงการกีฬาไทย’ สร้างต้นแบบเมืองกีฬาอาเซียน
นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กองทุนฯในฐานะหน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน MotoGP ได้เห็นถึงพัฒนาการและผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมของการจัดการแข่งขัน ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาสร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 25,000 ล้านบาท และดึงดูดนักท่องเที่ยวรวมแล้วกว่า 1.2 ล้านคน ชี้ให้เห็นว่าการจัดการแข่งขันระดับโลกนี้ คือ “เครื่องยืนยันถึงศักยภาพของประเทศ” ไม่เพียงในมิติของกีฬาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระดับโลก
การจัดการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงการจัดกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังเป็น “การลงทุนในอนาคตของวงการกีฬาไทย” สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน สร้างอาชีพใหม่ในอุตสาหกรรมกีฬา และส่งเสริมเศรษฐกิจของพื้นที่ในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในต้นแบบของเมืองกีฬาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นเวทีที่ช่วยต่อยอดศักยภาพของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ดอร์น่า ชู ThaiGP คือ “ประสบการณ์ครบวงจร” เป็นหนึ่งในสนามที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในปฏิทินโมโตจีพี
ด้าน อัมปาโร ปอร์โต ผู้อำนวยการอาวุโส ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณประเทศไทย ผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย สำหรับความร่วมมืออันยอดเยี่ยมและมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ThaiGP โดยต่อสัญญาไปอีก 5 ปี พร้อมทั้งขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้การแข่งขันประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
“ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมากของโมโตจีพีในภูมิภาคนี้ ด้วยฐานแฟนกีฬาที่แข็งแกร่งและมีความหลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต อีกทั้งยังมีศักยภาพในการขยายฐานผู้ชมได้อีกมาก โดยการแข่งขัน ThaiGP ถือเป็นหนึ่งในสนามที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในปฏิทินโมโตจีพี และประสบการณ์ของแฟน ๆ ในสนามก็เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของความสำเร็จในด้านการจัดงาน โดยพื้นที่แฟนโซนของประเทศไทย มีความโดดเด่นด้านกิจกรรม ความบันเทิง อาหาร และพื้นที่อเนกประสงค์ ทำให้การแข่งขัน ThaiGP เป็น “ประสบการณ์แบบครบวงจร” ทั้งในและนอกสนาม สะท้อนแนวคิดของโมโตจีพีที่มุ่งให้แฟน ๆ ได้สนุกตลอดช่วงสุดสัปดาห์การแข่งขัน และบุรีรัมย์ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้ประสบการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
PTG ทุ่มสุดตัว! มอบประสบการณ์ ‘PT GO FOR MAX’ ไตเติ้ล สปอนเซอร์ปีที่ 3
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ในฐานะ Title Sponsor ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เปิดเผยว่า “การสนับสนุนนี้เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เราเห็นผลลัพธ์เชิงบวกอย่างชัดเจน ทั้งการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ขยายโอกาสทางธุรกิจที่จับต้องได้, สร้างคุณค่าร่วมกันให้กับประเทศและคนไทย”
“ด้วยสโลแกน ‘PT GO FOR MAX’ เราตั้งใจมอบประสบการณ์พิเศษมากมายให้กับแฟนๆ เพื่อให้ได้รับความสุขแบบ ‘MAX’ ตั้งแต่ก่อนเริ่มงานไปจนถึงวันงาน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก PT Max Card Plus บัตรแดง หรือ สมาชิก PT Max Card Plus EV บัตรเขียวอ่อน รับส่วนลดซื้อบัตรเข้าชม 25% และ PT Max Card บัตรเขียว รับส่วนลด 20% นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษทั้ง ลด แลก แจก ช็อป จากทางผลิตภัณฑ์ในเครือ ไม่ว่าจะเป็น PT Maxnitron กาแฟพันธุ์ไทย ศูนย์บริการ Autobacs และผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งสินค้าลิขสิทธิ์สุดพิเศษเอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตให้เลือกซื้อมากมาย นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรม Fan Zone, Hero Walk และ Meet and Greet ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ที่ PT Pavilion ที่เดียวเท่านั้น เราจะทำให้การมาเยือนสนามช้างฯ เป็นมากกว่าการชมการแข่งขัน แต่เป็นการได้รับประสบการณ์ที่ครบถ้วนทั้งความมันส์ ความคุ้มค่า และความประทับใจที่แฟน ๆ ไม่มีวันลืม”
บุรีรัมย์ พร้อม 100% ชี้ MotoGP สร้างงานกว่า 46,000 ตำแหน่ง
นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเจ้าบ้าน กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานว่า “ความสำเร็จของ MotoGP นั้น ไม่ได้วัดเพียง 3 วันของการแข่งขัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน บุรีรัมย์ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ยังยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก และที่สำคัญคือการกระจายรายได้สู่ชุมชน สร้างงานให้แก่คนในพื้นที่ไปกว่า 46,000 ตำแหน่ง ในตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
ในฐานะเจ้าบ้าน เมืองหลวงแห่งมอเตอร์สปอร์ต จังหวัดบุรีรัมย์พร้อม 100% แล้ว ทั้งในเชิงโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับระบบสาธารณูปโภค การรักษาความปลอดภัย และหัวใจการเป็นเจ้าบ้านที่อบอุ่น เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สุดให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลก เราจะยังคงเดินหน้าต่อยอดสิ่งนี้ให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งการได้เป็นสนามเปิดฤดูกาลอีกครั้งคือโอกาสสำคัญที่ใช้ผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเต็มที่”
จุดพลุคอนเซ็ปต์ ‘More Than a Race’ จัดใหญ่-สนุกขึ้น ลุ้นสร้างสถิติใหม่ผู้ชมสูงสุด
ปิดท้ายด้วย นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต กล่าวว่า สำหรับ ThaiGP 2026 จัดในคอนเซ็ปต์ ‘More than a race’ สะท้อนบทบาทของสนามช้างฯ ที่เป็นมากกว่าสนามแข่งขัน แต่เป็นพื้นที่เคียงข้างชุมชนในทุกช่วงเวลา ทั้งศูนย์พักพิงช่วงโควิด-19, ศูนย์อพยพผู้ประสบภัย ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคมหลายรายการ โดยการจัดในปีนี้จะยกระดับให้ “ยิ่งใหญ่และสนุกขึ้น” ด้วยกิจกรรมเสริม เต็มรูปแบบตลอด 3 วัน ดังเช่นที่ดอร์น่ายกให้เป็นสนามที่มีกิจกรรมเสริมดีที่สุด โดยจะขยาย Fan Zone ให้ใหญ่และสนุกขึ้น จัดเต็มคอนเสิร์ตระดับประเทศจาก Chang Music Connection และยังคงรักษาความคุ้มค่าด้วยโปรโมชั่นตั๋ว MotoGP ที่ถูกที่สุดในโลก พร้อมสิทธิพิเศษในการเข้าชม Pre-season Test ฟรี ตั้งเป้าเป็นสนามแข่งที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทิน MotoGP และคาดหวังว่า ปีนี้จะเป็นปีที่สามารถล้มสถิติจำนวนผู้ชมสูงสุด 226,655 คน เมื่อปี 2019 ให้ได้” พร้อมตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีกในสัญญาใหม่ต่อจากนี้ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ทั้งนี้ “บัตรเข้าชม โมโตจีพี สนามประเทศไทย 2026” แบ่งเป็น 4 ประเภท เข้าชม Pre-Season Test ได้ฟรี และชม Main Race ได้ทั้ง 3 วัน ได้แก่ 1.แกรนด์ สแตนด์ (Grandstand) 5,000 บาท (เห็นทุกโค้งทั่วสนาม) 2.ไรเดอร์ สแตนด์ (Rider Stand) 3,000 บาท สำหรับกองเชียร์นักแข่ง ได้แก่ มาร์เกซ สแตนด์, กวาร์ตาราโร สแตนด์ (พร้อมของที่ระลึก ลิขสิทธิ์แท้จากนักบิดคนโปรด) 3. ไซด์ สแตนด์ (Side Stand) 2,000 บาท 4.แบรนด์ สแตนด์ (Brand Stand ) 2,000 บาท สำหรับกองเชียร์จากค่ายรถจักรยานยนต์ Honda, YAMAHA (พร้อมสิทธิ์ลุ้นชิงโชคและรับของที่ระลึกจากผู้สนับสนุน) โดยบัตร Honda Stand รับของที่ระลึก ได้แก่ Cheering Kit มูลค่ากว่า 800 บาททุกที่นั่ง ประกอบด้วย เสื้อยืดสุดพิเศษจากไทยฮอนด้า, หมวก, กระเป๋า, กระบองลมและพัด ส่วน บัตร YAMAHA Stand ลุ้นรับรางวัลใหญ่ 2 รางวัล ได้แก่ 1.รถจักรยานยนต์ออล นิว ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ และหมวกกันน็อกพร้อมลายเซ็น ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร 2.รถจักรยานยนต์ออล นิว ยามาฮ่า แอร็อกซ์ และหมวกกันน็อกพร้อมลายเซ็นของ อเล็กซ์ รินส์ รวมมูลค่าของรางวัล 238,700 บาท
ส่วนผู้ชมที่ต้องการซื้อเฉพาะ บัตรชม Pre-Season Test ทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล 21-22 ก.พ.2569 ราคาจำหน่ายบัตร แบ่งเป็น บัตร Grand Stand ราคา 500 บาทต่อวัน หรือเหมา 2 วัน 900 บาท, บัตร VIP 5,000 บาท ต่อวัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดจำหน่าย บัตร ‘VIP Lounge โค้ง 12‘ ครั้งแรก! ราคา 20,000 บาท ซึ่งมอบประสบการณ์เหนือระดับ เห็นทุกจังหวะตัดสินแชมป์ในโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ด้วยห้องรับรองติดแอร์ พร้อมอาหารระดับพรีเมียม เครื่องดื่มไม่อั้น Wi-Fi และทีวีถ่ายทอดสดแบบชิดติดสนามและสิทธิ์เข้าชม Pre-Season Test ฟรี! รวมทั้งยังมีการเปิดจำหน่าย “บัตร Paddock Pass” เข้าสู่โซนรับรองของนักแข่งระดับโลกอย่างใกล้ชิด ขอลายเซ็น และถ่ายรูปแบบเอ๊กซ์คลูซีฟ ในราคา 15,000 บาท ซึ่งเมื่อซื้อพร้อมบัตร Main Race จะได้รับส่วนลดพิเศษ 15% เหลือเพียง 12,750 บาท และสิทธิ์เข้าชม Pre-Season Test ฟรี!
สำหรับ ส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ยังคงจัดเต็มเช่นเคย โดย PTG มอบส่วนลดในการซื้อบัตรชมการแข่งขัน เพื่อเติมความสุขอย่างเต็ม Max ไม่ว่าจะเป็น บัตรแดง PT Max Card Plus เพียงโชว์บัตรที่ จุดจำหน่าย รับส่วนลด 25% ,บัตรเขียว PT Max Card ลด 20% และยังมีกิจกรรมพิเศษ ลด-แลก-แจก-ช้อปภายในงาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในเครือ PT Maxnitron กาแฟพันธุ์ไทย ศูนย์บริการ Autobacs ฯลฯ และยังมีของที่ระลึกโมโตจีพีลิมิเต็ดมากมาย ติดตามได้ที่แฟนเพจ PT Station หรือสิทธิ์ส่วนลด 20% จากผู้สนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ Chang International Circuit Friend Club, กุญแจรถจักรยานยนต์ Honda, กุญแจรถจักรยานยนต์ YAMAHA
แฟนความเร็วซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซด์ allticket ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram หรือรับข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID : @changcircuit
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
“ซาร์โก” โชว์ฟอร์มมั่นใจคว้าอันดับ 9 “ก้อง-สมเกียรติ” บิดคันเร่งเต็มที่ จบเรซที่ 17 โมโตจีพี โปรตุเกส
“โยฮันน์ ซาร์โก” ยอดนักแข่งชาวฝรั่งเศส หมายเลข 5 พารถแข่ง Honda RC213V เซฟผลงานกลุ่มหน้าหลังคว้าอันดับ 9 พร้อมเก็บแต้มสำคัญจากศึกโมโตจีพี สนามที่ 21 รายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ออกตัวกริด 21 จบเรซอันดับ 17 ที่สนามอัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
การแข่งขันรอบ “เมนเรซ” ดวลความเร็วทั้งสิ้น 25 รอบสนาม โดยผลปรากฏว่า “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดชาวฝรั่งเศสหมายเลข 5 เจ้าของรถแข่ง Honda RC213V จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ ออกสตาร์ตจากกริดที่ 6 ก่อนจะบิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 9 ด้วยเวลารวม 41 นาที 34.656 วินาที ตามหลังผู้ชนะ 21.040 วินาที
ด้าน “ลูก้า มารินี” นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 10 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ออกตัวจากกริดที่ 13 ขยับขึ้นมาจบเรซในอันดับ 11 ตามหลังผู้ชนะ 28.226 วินาที ส่วนทีมเมทชาวสเปนอย่าง “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 ไม่จบเรซจากปัญหาด้านเทคนิค
ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 นักบิดขวัญใจชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ออกสตาร์ตจากกริดที่ 21 เจอสถานการณ์ท้าทายเรื่องเบรก แต่ยังฮึดสู้บิดเข้าป้ายในอันดับ 17 ในเรซสุดหินด้วยเวลารวม 42 นาที 15.615 วินาที
สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายนนี้ ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม ประเทศสเปน ในรายการ บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลนี้
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #PortugueseGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ไอเทมสะสมระดับโลก! ไทยเปิดตัว คอลเลกชันบัตร MotoGP 2026 สนามแรกฤดูกาล สวยงาม น่าสะสม
ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ โมโตจีพี สนามประเทศไทย เผยโฉมบัตร ThaiGP คอลเลกชัน 2026 ที่จะเปิดจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลก 11 พ.ย. นี้ สวยงาม น่าสะสม ออกแบบด้วยเทคนิคคอลลาจและกราฟิกศิลปะร่วมสมัย ถ่ายทอดอารมณ์ ความทรงจำ และประสบการณ์ของการแข่งขัน ThaiGP ในฐานะเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตที่เป็น “มากกว่าสนามแข่ง” ผสานสองแนวคิดหลัก More Than A Race และ Thailand to The World เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะเจ้าภาพหลัก ได้เปิดเผยโฉม “บัตรเข้าชมการแข่งขัน” รถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี สนามประเทศไทย ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2026” อย่างเป็นทางการ โดยเป็นเจ้าภาพ Pre-Season Test (การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล) วันที่ 21-22 ก.พ. และ สนามเปิดฤดูกาล ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. 2569 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเตรียมเปิดจำหน่าย 11 พ.ย. นี้ เวลา 14.00 น. พร้อมกันทั่วโลก
ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จของโมโตจีพี สนามประเทศไทย หรือ ThaiGP ไม่ได้มีเพียงแค่ความเร้าใจของการแข่งขันในสนาม แต่เป็น ‘เทศกาลมอเตอร์สปอร์ต’ ที่มีเป็นแหล่งรวมความสนุก ความประทับใจ ความยิ่งใหญ่ ด้วยสีสันและเสน่ห์ในแบบไทย
“ThaiGP เป็น “มิติของประสบการณ์” ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่คือบรรยากาศ ความทรงจำ และเสน่ห์แบบไทยที่อยู่ในทุกช่วงเวลา รวมถึง “บัตรเข้าชมการแข่งขัน” ที่กลายเป็นของสะสมทรงคุณค่าและเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงออกและนำเสนออัตลักษณ์ที่งดงามสู่คนทั่วโลก”
“ในเวทีโลก ประเทศต่างๆ ก็มีการออกแบบบัตรเข้าชมแตกต่างกัน เพื่อแข่งขันด้านดีไซน์และสร้างมูลค่าเพิ่ม ขณะที่บัตร ThaiGP ก็มี เสน่ห์การออกแบบที่มี “เส้นเรื่อง” เฉพาะตัวที่ครองใจและแฟนทั่วโลกเฝ้ารอคอย กลายเป็น ของสะสมล้ำค่า ที่บ่งบอกถึงประสบการณ์แห่ง World Event ที่ประเทศไทย”
ในปี 2026 นี้ ทีมงานนักออกแบบได้สร้างสรรค์ลวดลายบนบัตร ให้กลายเป็น คอลเลกชันล้ำค่า โดยสื่อสารด้วยการผสาน 2 แนวคิดหลัก More Than A Race และ Thailand to The World นำเสนอว่า ThaiGP ไม่ใช่เพียงเกมความเร็วในสนาม แต่คือเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตที่มีตัวตน ความรู้สึก และประสบการณ์ร่วมของแฟนๆ ทั่วโลก
ดีไซน์บัตรในปีนี้จึงเป็นดั่ง ‘แคปซูลแห่งความทรงจำ‘ ที่บรรจุทุกองค์ประกอบสำคัญของ ThaiGP ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยก้าวออกจากกรอบอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการใช้เทคนิค คอลลาจ (Collage) และกราฟิกแบบ ศิลปะร่วมสมัย ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ Key Visual ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีก่อนหน้า โดยในบัตรได้บรรจุ
- มิติการแข่งขัน : บรรจุภาพนักบิดซูเปอร์สตาร์ อาทิ มาร์ค มาร์เกซ และ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และนักแข่งคนอื่นๆ รวมถึงถ้วยรางวัล สื่อถึงการช่วงชิง และเกียรติยศแห่งบัลลังก์เจ้าความเร็ว
- ประสบการณ์ที่จับต้องได้ : สะท้อนบรรยากาศสุดพิเศษอย่าง พิตวอล์ค (Pit Walk), ฮีโร่ วอล์ค (Hero Walk), และ ไรเดอร์ แฟน พาเหรด (Rider Fan Parade) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความใกล้ชิดระหว่างนักบิดกับแฟนคลับ ภาพจำของแฟนคลับที่เนืองแน่น รอยยิ้มและสีสันแห่งกองเชียร์ รวมถึงตัวแทนคนไทยที่ได้รับเกียรติโบกธงตราหมากรุก ด้วยความภาคภูมิ
- ความบันเทิงและวัฒนธรรมไทย : ความมันส์จาก คอนเสิร์ต และศิลปะการต่อสู้ มวยไทย ที่เติมเต็มประสบการณ์ในคอนเซ็ปต์ ‘More Than A Race’ ผสานอัตลักษณ์ไทยสู่สากล มีการนำ “ธงชาติไทย” และ “วัฒนธรรมท้องถิ่น” มาจัดวางร่วมกับภาพความตื่นเต้นในสนาม ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ThaiGP ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน แต่เป็น ประตูบานแรก ที่นำ Soft Power ของไทย เข้าสู่สายตาแฟนความเร็วมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก
จากกระแสตอบรับที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างมากในการนำเสนอบัตรชมการแข่งขัน กลายเป็นไอเทมสะสมที่แฟนทั่วโลกเฝ้ารอทุกปี และถูกจับตามองในด้านความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลกด้วยเช่นกัน
บัตรชมการแข่งขัน ThaiGP จึงไม่ใช่แค่บัตรผ่านประตู แต่คือ ของสะสมสุดล้ำค่า ที่บรรจุพลังและถ่ายทอดเรื่องราวในที่เป็นเสน่ห์ของไทยสู่ World Event ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
ซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซด์ allticket วันที่ 11 พ.ย.นี้ ตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram หรือรับข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID : @changcircuit
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News / News Motocycle1 Min Read
ไทยฮอนด้า ชวนชาว Forza และ ADV ลุยทริปเมืองรอง “THE 3FIFTY HIDDEN JOURNEY เขาค้อ – เชียงคาน” วันที่ 12 – 14 ธันวาฯ นี้
ไทยฮอนด้า เชิญชวนชาว Honda Forza และ Honda ADV รุ่น 350 ซีซี ร่วมปักหมุดครั้งใหม่ “THE 3FIFTY HIDDEN JOURNEY เขาค้อ – เชียงคาน” ทริปขับขี่ท้าลมหนาวบนเส้นทางสุดสายหมอก ระหว่างวันที่ 12–14 ธันวาคม 2568 นี้ สัมผัสเส้นทางธรรมชาติอันงดงาม สนุกกับโค้งทางคดเคี้ยว และค้นหาพิกัดลับเมืองรองสุดชิลตลอด 3 วัน 2 คืน
กิจกรรม THE 3FIFTY HIDDEN JOURNEY ครั้งนี้จะพาผู้ร่วมทริปขับขี่ขึ้นสัมผัสยอดเขาสูงของเขาค้อ เยือนวัดผาซ่อนแก้วและทุ่งกังหันลม ชื่นชมวิวธรรมชาติจากจุดเช็กอินไฮไลต์อย่างอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ก่อนแวะจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ท่ามกลางวิวภูเขา พร้อมสัมผัสประสบการณ์ Local แสนชิลในแบบเมืองรอง ที่ให้ลูกค้าได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่อย่างเต็มอิ่ม พร้อมปักหมุดเช็กอินแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง
ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรม “THE 3FIFTY HIDDEN JOURNEY เขาค้อ-เชียงคาน” ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะเต็ม จำนวนจำกัดเพียง 65 คันเท่านั้น สำหรับลูกค้ากลุ่ม Honda Forza350 และ Honda ADV350 ที่ศูนย์บริการ Honda Wing Center สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ พ.สหายยนต์ (1987), สุพศินฮอนด้า (2002), ชัยสวัสดิ์ มอเตอร์ไบค์, พรพิวัฒน์ยานยนต์ ขอนแก่น, ณัฐพงษ์มอเตอร์ (1989) และ เอส.พี.ไฮบริด
เว็บไซต์: www.thaihonda.co.th/honda
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: fb.com/hondamotorcyclethailand
IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA#THE3FIFTY #THE3FIFTYHIDDENJOURNEY #ทริปปักหมุดให้สุดคลาส
#เขาค้อ #Khaokho #เชียงคาน #Chiangkhan
#FORZA350 #Beyondtheexceptional #ADV350 #ExploreYourLimitless
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Motocycle1 Min Read
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เผยโฉม Honda WN7 จักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ที่งาน EICMA 2025
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดตัว Honda WN7 จักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน ภายในงาน EICMA 2025 (Milan Motorcycle Shows) ที่จัดขึ้น ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 4–5 พฤศจิกายน 2568 สำหรับสื่อมวลชน และวันที่ 6–9 พฤศจิกายน 2568 สำหรับผู้เข้าชมทั่วไป
Honda WN7
ฟีเจอร์หลักของ Honda WN7
แนวคิดการพัฒนา
Honda WN7 เป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Naked รุ่นแรกในซีรีส์ “FUN Category” ที่พัฒนาด้วยทิศทางใหม่ในฐานะรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าฮอนด้า ภายใต้แนวคิด “Be the Wind” ถ่ายทอดความสุขของการเคลื่อนไปอย่างอิสระดั่งสายลม พร้อมความเงียบเฉพาะตัวของรถพลังงานไฟฟ้า ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสเสียงและบรรยากาศรอบตัวได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดคุยหรือเสียงหัวเราะของผู้คนริมทาง หรือเสียงใบไม้ที่พลิ้วไหว ซึ่งไม่อาจสัมผัสได้บนจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE : internal combustion engine) Honda WN7 ถ่ายทอดความตั้งใจของทีมพัฒนาออกมาเป็นการเร่งความเร็วที่หนักแน่นด้วยแรงบิดเต็มพลัง และการควบคุมที่คล่องตัว มอบความรู้สึกของการเคลื่อนไปอย่างอิสระดั่งสายลมได้อย่างแท้จริง
การออกแบบ
Honda WN7 ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นการขัดเกลาฟังก์ชันการใช้งานให้สมบูรณ์แบบและสะท้อนตัวตน โดดเด่นด้วยพื้นผิวต่อเนื่องและเรียบลื่นในทุกจุดที่ผู้ขับขี่สัมผัส ผสานเข้ากับรูปทรงที่มีพลังและเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อม “แถบไฟหน้าแนวนอน” (horizontal light bar) ซึ่งจะกลายเป็น “ซิกเนเจอร์” ของจักรยานยนต์ไฟฟ้าฮอนด้าทุกรุ่นในอนาคต
นอกจากนี้ WN7 ยังเปิดตัวชุดสีเฉพาะสำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้าฮอนด้าเป็นครั้งแรก โดยใช้ตัวถังโทนสีดำตัดกับชิ้นส่วนประกอบที่ตกแต่งด้วยสีทอง ฮอนด้าจะใช้ชุดสีนี้กับจักรยานยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นทั่วโลก เช่นเดียวกับไฟซิกเนเจอร์
แชสซีแบบไร้เฟรม (Frameless Chassis)
จักรยานยนต์ทั่วไปใช้เฟรมเชื่อมต่อส่วนหน้าและส่วนท้ายของตัวรถเข้าด้วยกัน ในขณะที่โครงสร้างของ Honda WN7 ไม่ใช้เฟรม แต่ใช้กล่องแบตเตอรี่อะลูมิเนียมที่ติดตั้งอยู่กลางตัวรถทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างหลัก และเชื่อมต่อโดยตรงเข้ากับ “ส่วนคอ” (head pipe) ที่รองรับระบบบังคับเลี้ยวและ “ขายึดสวิงอาร์ม” (pivot bracket) ที่รับน้ำหนักด้านหลัง ช่วยให้ Honda WN7 มีน้ำหนักเบาเพราะไม่มีเฟรม รวมทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ตัวรถมีสัดส่วนที่เพรียวบางและกะทัดรัดได้
นอกจากนี้ การวางตำแหน่งแบตเตอรี่ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมากไว้บริเวณจุดศูนย์กลางแชสซี ยังช่วยเสริมสมดุลให้มวลน้ำหนักอยู่ตรงกลาง เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุม
ชุดมอเตอร์ผนวกอินเวอร์เตอร์ (Integrated Motor-Inverter Unit)
Honda WN7 มาพร้อมมอเตอร์แบบใหม่ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และผนวกอินเวอร์เตอร์เข้าไว้ด้วยกัน โดยให้กำลังสูงสุด 50 กิโลวัตต์ เทียบเท่าจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในขนาด 600 ซีซี พร้อมแรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับรถขนาด 1000 ซีซี มอบสมรรถนะอันทรงพลังทั้งยังควบคุมได้อย่างมั่นใจ สำหรับการขับขี่ในเมืองและบนทางโล่ง
กระปุกเกียร์ดีไซน์ใหม่ส่งต่อกำลังจากมอเตอร์ไปยังระบบสายพานขับเคลื่อน (belt-drive system) เพื่อถ่ายทอดกำลังสู่ล้อหลังได้อย่างราบรื่นและไม่ส่งเสียงดัง
แบตเตอรี่และมาตรฐานการชาร์จ
Honda WN7 มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแบบติดตั้งถาวร ขนาด 9.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รองรับทั้งการชาร์จเร็วแบบ CCS2[1] (Combined Charging System Type 2) และการชาร์จปกติแบบ Type 2[2] ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับเต้ารับไฟบ้านได้ในหลายประเทศ และหากใช้เครื่องชาร์จเร็ว แบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 20% ถึง 80% ได้ภายในเวลาประมาณ 30 นาที ช่วยให้เติมพลังระหว่างการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ลดความกังวลเรื่องเวลารอชาร์จ
สำหรับการชาร์จแบบปกติ สามารถชาร์จเต็มจาก 0% ถึง 100% ได้ในเวลาไม่ถึง 2.4 ชั่วโมง[3] เมื่อเต็มแล้วจะให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 140 กิโลเมตร (มาตรฐาน WMTC mode)
ระบบเบรกแบบชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative Braking), ระบบเลือกความหน่วง (Deceleration Selector) และโหมด Walking Speed Mode
ระบบเบรกแบบชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่[4] (Regenerative Braking) คือการที่มอเตอร์ของ Honda WN7 จะทำหน้าที่ชาร์จพลังงานคืนกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ (Energy Regeneration) ขณะชะลอความเร็วเมื่อปล่อยคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับความหน่วงด้วยสวิตช์ “Deceleration Selector” ที่แฮนด์ซ้าย เพื่อควบคุมความเร็วต่ำได้อย่างราบรื่นโดยแทบไม่ต้องใช้เบรก หรือหากเลือกแรงหน่วงน้อยลง จะรู้สึกเหมือนลอยเคลื่อนไป ซึ่งเป็นประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ Honda WN7 ยังมาพร้อมโหมด Walking Speed Mode ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขยับรถไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้อย่างช้า ๆ โดยควบคุมผ่านสวิตช์ที่แฮนด์ซ้ายและคันเร่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจอดรถหรือขยับรถในพื้นที่แคบ ๆ ในเมือง
Honda WN7 จะผลิตที่โรงงานของฮอนด้าในเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto Factory) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตจักรยานยนต์ทั่วโลกของบริษัท และจะทยอยเปิดตัวในตลาดประเทศใดก็ตามที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมไปกับการที่บริษัทผลักดันการใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
-
News Motocycle1 Min Read
“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ดันนักบิดดาวรุ่งไทยแสดงศักยภาพ คว้าท็อป 5 เอเชีย ศึก อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025 ฉายแววพัฒนาต่อยอดสู่ระดับโลก
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบรายการอิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ (Idemitsu Asia Talent Cup) คือรายการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหานักแข่งดาวรุ่งจากเอเชียและโอเชียเนีย โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างเส้นทางสู่โมโตจีพีสำหรับเยาวชนที่มีพรสวรรค์ เช่นเดียวกับ –“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา
ความท้าทายสำคัญของนักบิดที่ลงทำการแข่งขันในรายการนี้คือการใช้รถแข่ง Honda NSF250R แบบ One Make เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบกันในเรื่องของตัวรถ ทุกคนแข่งขันกันด้วยมาตรฐานที่เท่าเทียม นั่นหมายความว่าทุกความสำเร็จและทุกคะแนนจากการแข่งขันจะมาจากทักษะของนักแข่งเอง
อีกทั้งสนามที่ใช้ทำการแข่งขันก็เป็นสนามที่มีมาตรฐานระดับโลกและใช้ในการจัดการแข่งขันโมโตจีพี โดยในปี 2025 รายการอิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ทำหน้าที่เป็นเรซซัพพอร์ตของศึกโมโตจีพี สำหรับในฤดูกาล 2025 มีนักแข่งเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 27 คน โดย “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ส่ง “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ กับ “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง เข้าร่วมการแข่งขันในฐานะนักแข่งหลัก และผลักดัน “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร เข้าร่วมการแข่งขันในฐานะนักแข่งไวลด์การ์ด
โดยนักบิดไทยทั้ง 3 คน สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเริ่มจาก “อุ้ม-นพรุธพงษ์” หมายเลข 20 ที่ลงทำการแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นครั้งแรก สามารถเริ่มฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าโพเดียมอันดับ 3 มาครองได้ในเรซแรกของฤดูกาลที่จังหวัดบุรีรัมย์
จากนั้น “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ก็สามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่องในสนามที่ 2 ประเทศกาตาร์ เมื่อจบอันดับที่ 7 และ 4 ได้คะแนนสะสมเพิ่มอีก 22 คะแนน และสนามที่ 3 ประเทศมาเลเซีย นักบิดดาวรุ่งไทยก็โชว์ผลงานแซงดุเดือดจนคว้าอันดับที่ 4 และ 8 มาได้ พร้อมเก็บคะแนนสนามนี้ไปกว่า 21 คะแนน
สนามที่ 4 ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นสนามที่ “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ได้แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของจิตใจหลังจากที่ไม่จบการแข่งขันในเรซแรกแต่เรซที่ 2 นักบิดดาวรุ่งไทยสามารถจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 9 เก็บคะแนนสะสมเพิ่มมาอีก 7 คะแนน
สองสนามสุดท้าย “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมเมื่อสามารถจบอันดับที่ 6 และ 4 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เก็บคะแนนสะสมได้ 23 คะแนน ก่อนจะส่งท้ายฤดูกาลด้วยการจบอันดับที่ 5 และ 9 ในสนามสุดท้ายที่ประเทศมาเลเซีย เก็บคะแนนสะสมได้ 18 คะแนน
“อุ้ม-นพรุธพงษ์” มีคะแนนสะสมรวม 120 คะแนน คว้าอันดับที่ 5 ของรายการอิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025 มาครองได้อย่างน่าประทับใจเพียงแค่ฤดูกาลแรกที่ลงทำการแข่งขัน
ด้าน “ออสติน-ธนฉรรต” หมายเลข 5 ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นครั้งที่ 2 ก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน สนามแรกที่บุรีรัมย์ คว้าอันดับที่ 9 และ 6 เก็บคะแนนสะสมได้ 17 คะแนน จากนั้นแม้จะต้องพบกับสถานการณ์ไม่เป็นใจในสนามที่ 2 ประเทศกาตาร์ แต่นักแข่งดาวรุ่งไทยก็มุ่งมั่น และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนกลับมาได้ในสนามถัดมาที่มาเลเซีย โดยจบอันดับที่ 12 และ 9 เก็บคะแนนสะสมได้ 11 คะแนน
สนามที่ 4 ประเทศญี่ปุ่น “ออสติน-ธนฉรรต” ต้องพบกับสนามที่มีความท้าทายและการแข่งขันที่เข้มข้น แต่นักบิดดาวรุ่งไทยก็จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 13 และ 10 เก็บคะแนนสะสมได้ 9 คะแนน จากนั้นตามต่อด้วยสนามที่ 5 ประเทศอินโดนีเซีย “ออสติน-ธนฉรรต” แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่อสามารถไล่แซงจนจบอันดับที่ 8 และ 9 เก็บคะแนนสะสมไปกว่า 15 คะแนน
สนามสุดท้ายนักแข่งดาวรุ่งไทยต้องพบกับความร้อน และการจัดการยางอันเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่ด้วยเป้าหมายการคว้าท็อป 10 ทำให้ “ออสติน-ธนฉรรต” สู้ไม่มีถอยจนสามารถแก้ไขสถานการณ์ไล่แซงจนกลับมาจบอันดับที่ 14 และ 10 ได้ เก็บคะแนนสะสมเพิ่มไป 8 คะแนน “ออสติน-ธนฉรรต” มีคะแนนสะสมรวม 60 คะแนน คว้าอันดับที่ 11 ของรายการอิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025
ขณะที่ “เฟอร์-ปัญจรุจน์” หมายเลข 24 นักแข่งไวลด์การ์ดก็ทำผลงานได้ดีสามารถเรียนรู้และพัฒนาขึ้นมาได้หลังจากที่ต้องพบความผิดหวังในสนามแรกเมื่อไม่สามารถนำรถเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกได้ทั้งสองเรซ แต่สนามที่ 2 ประเทศกาตาร์ “เฟอร์-ปัญจรุจน์” บู๊ดุดันจนจบการแข่งขันด้วยอันดับ 8 และ 12 เก็บคะแนนไปได้ 12 คะแนน
จากนั้น “เฟอร์-ปัญจรุจน์” ก็ทำผลงานได้ดีจนเป็นที่จับตามองโดยสนามที่ 3 ประเทศมาเลเซีย นักบิดดาวรุ่งไทยทำผลงานรอบคัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนจะจบการแข่งขันด้วยอันดับ 10 และ 6 เก็บไปได้อีก 16 คะแนน
สนามต่อมาที่ประเทศญี่ปุ่น “เฟอร์-ปัญจรุจน์” ต่อสู้อย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะในเรซ 2 ที่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บคะแนนสะสมได้ท่ามกลางการแข่งขันสุดเข้มข้น โดยนักแข่งดาวรุ่งไทยจบการแข่งขันด้วยอันดับ 8 และ 15 เก็บคะแนนสะสมเพิ่มไป 9 คะแนน
สนามที่ 5 ประเทศอินโดนีเซีย เป็นสนามรองสุดท้ายของรายการแต่เป็นสนามสุดท้ายของ “เฟอร์-ปัญจรุจน์” โดยนักบิดดาวรุ่งไทยแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการจากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้อย่างยอดเยี่ยม แม้ต้องพบกับสถานการณ์ที่ท้าทายแต่ “เฟอร์-ปัญจรุจน์” ก็สามารถจบการแข่งขันด้วยอันดับ 16 และ 14 เก็บคะแนนสะสมส่งท้ายได้ 2 คะแนน “เฟอร์-ปัญจรุจน์” มีคะแนนสะสมรวม 39 คะแนน คว้าอันดับที่ 13 ของรายการอิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025 นับเป็นผลงานที่ได้รับการจับตามองอย่างมากสำหรับนักแข่งไวลด์การ์ดชาวไทย
การแข่งขันรายการอิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025 ได้ปิดฉากฤดูกาลลงไปเป็นที่เรียบร้อย นักแข่งดาวรุ่งไทยภายใต้การสนับสนุนของ “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่น แม้ต้องเจอการแข่งขันที่เข้มข้น แต่ทุกคนก็พิสูจน์ฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยม
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #AsiaTalentCup #IATC #Austin5 #Aum20 #Fer24
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
























































































































