ฮอนด้า เปิดตัว “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” เจเนอเรชั่นที่ 5 ครั้งแรกในโลก สร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่เปิดทุกความเป็นไปได้

ฮอนด้า เปิดตัว “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” เจเนอเรชั่นที่ 5 ครั้งแรกในโลก  สร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่เปิดทุกความเป็นไปได้

       ครั้งแรกกับขุมพลังเทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร 122 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่ยังประหยัดน้ํามันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร

  • ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหรา และภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายเหนือระดับรถซิตี้คาร์
  • เพิ่มความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานและอุปกรณ์อํานวยความสะดวก ที่มาพร้อมราคาที่ปรับลดลงในทุกเกรด
  • ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตเร้าใจไปอีกขั้น
  • สัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 และพบกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ 24 ธ.ค. 2562

       (กรุงเทพฯ – 25 พฤศจิกายน 2562) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัด เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย อีกขั้นแห่งยนตรกรรมซิตี้คาร์ที่พร้อมขับเคลื่อนพาคุณให้ไป ไกลเกินกว่าทุกความคาดหมายและเปิดทุกความเป็นไปได้ ด้วยอีกขั้นแห่งความสปอร์ตหรูหราของดีไซน์ภายนอก ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและหรูหราเกินคลาส พร้อมท้าทายทุกการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ครบครัน ด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย พิเศษครั้งแรกกับรุ่น RS ที่พร้อมตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน อีกทั้งนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่าง ผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เจเนอเรชั่นล่าสุด มาพร้อมสีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) ร่วมสัมผัสฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 (The 36” Thailand International Motor Expo 2019) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 และพบกันที่โชว์รูม ฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป สําหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 พร้อมรับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black มูลค่า 6,490 บาท

       มร.มาซายูคิ อิงาราชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจําภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จํากัด ประเทศญี่ปุ่น และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จํากัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ซิตี้ นับเป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สําคัญของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็น ยนตรกรรมสําหรับภูมิภาค (Regional Model) โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2539 และ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชั้น 4 ด้วยยอดขายสะสม

       ใน 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียเป็นตลาดที่สําคัญของฮอนด้า ซิตี้ เห็นได้จาก ยอดขายกว่า 100,000 คัน ในปี 2562 มกราคม – กันยายน 2562) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% จากยอดขาย ฮอนด้า ซิตี้ ทั่วโลก และประเทศไทย ถือเป็นตลาดหลักของ ฮอนด้า ซิตี้ ทั้งในแง่ของการเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคอีกด้วย ในวันนี้ลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลก โดยจะเป็นยนตรกรรมที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าและ สร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไทยได้อีกครั้งหนึ่ง”

       นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัด เผยว่า “ฮอนด้า ซิตี้ เป็นยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระดับรถซิตี้คาร์ ด้วยการสร้าง มาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถครองตําแหน่งผู้นําในตลาดซับคอมแพคท์ จากความสําเร็จของ ฮอนด้า ซิตี้ กว่า 2 ทศวรรษ การพัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชั่นใหม่ จึงถือเป็นความท้าทายครั้งสําคัญ โดยจะเป็น รถซิตี้คาร์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมและเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันในทุกด้าน แต่ยังเพิ่มความคุ้มค่าด้วย ฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมราคาที่ปรับลดลงในทุกเกรด ด้วยคุณค่าใหม่นี้ ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 จะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง”

     

       ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตและสง่างาม สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคม โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสําหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

     

     

       ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนทุกสุนทรียภาพให้กว้างขวางกว่าที่เคย ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับ สรีระ เพื่อความสะดวกสบายในทุกที่นั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มาพร้อมความหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทน สีดํา หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดํา (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิด ประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดเรืองแสง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการ เชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมระบบ เครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

       ครั้งแรกกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รุ่น RS ที่เปลี่ยนมุมมองรถซิตี้คาร์ให้สปอร์ตหรูหรามากกว่าที่เคย ด้วยชุดแต่งสไตล์ สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและ กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสําหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดําแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง สีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

       ท้าทายข้อจํากัดทุกการขับขี่ด้วยขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กําลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด สูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทํางานกับระบบ เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบาย ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

 

       เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตําแหน่ง ระบบเบรก ป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HII Start Assist – HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่

  • รุ่น RS
  • รุ่น SV
  • รุ่น V
  • รุ่น S

       และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะ รุ่น RS และรุ่น SV สีดําคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น V และรุ่น S โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สําหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 รับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black มูลค่า 6,490 บาท

     

       เสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับ แนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก ราคา 8,150 บาท แป้นคันเร่งและเบรกดีไซน์สปอร์ต ราคา 1,300 บาท คิ้วบันได LED ราคา 4,400 บาท ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายสปอร์ต ราคา 3,600 บาท (ราคาต่อ 1 วง ไม่รวมยาง) ไฟตัดหมอกแบบ LED ราคา 5,500 บาท และ กล้องหน้ารถ ราคา 3,850 บาท

นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจ ทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่ 

  • Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ต หลัง แบบ 2 ชิ้น 
  • Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น 
  • Modulo Aero Sport Package ราคา 23,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก

       ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า (A14) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36″ Thailand International Motor Expo 2019) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562  ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และพบกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้า ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/city โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive