• GWM (Thailand) เปิดสเปกสุดล้ำของ “WEY G9” New-Generation Luxury MPV ยกระดับสู่ความล้ำสมัย ด้วย Hi4 ระบบขับเคลื่อนไฮบริดสี่ล้ออัจฉริยะครั้งแรกของไทย พร้อมให้ชาวไทยสัมผัสพร้อมกัน 28 พฤศจิกายนนี้ ที่งาน Motor Expo 2025

    2 Min Read

    GWM (Thailand) เปิดสเปกสุดล้ำของ “WEY G9” New-Generation Luxury MPV ยกระดับสู่ความล้ำสมัย ด้วย Hi4 ระบบขับเคลื่อนไฮบริดสี่ล้ออัจฉริยะครั้งแรกของไทย พร้อมให้ชาวไทยสัมผัสพร้อมกัน 28 พฤศจิกายนนี้ ที่งาน Motor Expo 2025

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย เปิดสเปกรถ MPV ลักชัวรี่ระดับไฮเอนด์ ที่เป็นมากกว่ายานพาหนะในชีวิตประจำวัน แต่คือเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมที่ล้ำหน้าจากแบรนด์ WEY (เวย์) ซึ่งเป็นแบรนด์ลักชัวรี่ของ GWM โดย WEY G9 (เวย์ จีไนน์) ได้ถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตมากมายเพื่อยกระดับทุกการเดินทางได้แบบไร้ที่ติอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วย Hi4 Technology ระบบขับเคลื่อนไฮบริดสี่ล้ออัจฉริยะ ผสานพลังเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพื่อการขับขี่ที่มั่นคงและทรงพลัง พร้อม Coffee OS 3.3 ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับ AI เชื่อมต่อทุกฟังก์ชันอย่างล้ำสมัย เพิ่มความสบายเหนือระดับด้วยเบาะแถวสอง Zero-Gravity Seat พร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบายอากาศ มอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหรา ปลอดภัย และสะดวกสบายในทุกการเดินทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตรแบบไร้กังวล โดย WEY G9 คือยนตรกรรมที่เป็น New-Generation Luxury MPV อย่างแท้จริง โดยในเดือนตุลาคม 2568 WEY MPV มียอดขายกว่า 10,000 คัน ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของเซกเมนต์ MPV ในประเทศจีน แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะ คุณภาพ ความสะดวกสบาย และความน่าเชื่อถือของ WEY ในตลาดรถยนต์กลุ่มลักชัวรี่ไฮเอนด์

     

    Hi4 Technology ระบบขับเคลื่อนล้ำหน้าหนึ่งเดียวใน WEY G9

    WEY G9 รถยนต์ MPV ระดับลักชัวรี่หนึ่งเดียวของ GWM ที่ผสานสมรรถนะ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างครบครัน สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ MPV ในประเทศไทย ด้วยการออกแบบที่หรูหรา ฟังก์ชันล้ำสมัย และระบบขับเคลื่อนอันทรงพลังด้วย Hi4 Technology ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฮบริดอัจฉริยะครั้งแรกของโลกที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ของรถยนต์พลังงานใหม่ โดย Hi4 หรือ Hybrid Intelligent 4WD เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ผสาน “3 แหล่งพลังงาน + 9 โหมดการทำงาน” อันประกอบด้วย มอเตอร์คู่ที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลัง และเครื่องยนต์ที่อยู่ด้านหน้า ครอบคลุมทั้ง EV Mode, Series Range-Extending Mode, Parallel Hybrid Mode, Direct Engine Drive Mode และโหมดการฟื้นพลังงานจากทั้งเพลาหน้าและหลัง พร้อมระบบ iTVC (Intelligent Torque Vectoring Control) ที่สามารถเปลี่ยนแรงบิดของล้อหน้าและหลังตามสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด ได้ภายในเวลาเพียง 0.01 วินาที ช่วยลดการลื่นไถลและเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวลื่น เช่น น้ำ ทราย หรือกรวด ในแง่ของการใช้งาน โดย Hi4 ให้สมรรถนะของการขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ใช้พลังงานในระดับรถขับเคลื่อน 2 ล้อ

     

    มอบสมรรถนะไร้ขีดจำกัด สะดวกสบาย ไร้กังวลด้วยระยะทางการขับขี่มากกว่า 1,000 กิโลเมตร โดยไม่ต้องแวะชาร์จ

    นอกจากระบบขับเคลื่อน Hi4 แล้ว WEY G9 ให้สมรรถนะอันทรงพลังที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ Permanent-Magnet Synchronous ทำงานร่วมกับเกียร์อัจฉริยะ DHT ให้กำลังสูงสุด 325 kW หรือ 442 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 642 นิวตัน–เมตร ตอบสนองทันใจในทุกช่วงความเร็ว และยังรองรับการขับด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode) ไกลถึง 170 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) โดยมีแบตเตอรี่ Lithium Ternary ความจุ 44.28 kWh ชาร์จไวด้วย DC Fast Charging 60 kW และรองรับชาร์จ AC Slow Charging สูงสุด 6.6 kW พร้อมถังน้ำมันขนาด 58 ลิตร เดินทางได้ระยะไกลสูงสุดมากกว่า 1,000 กิโลเมตร โดยไม่ต้องเสียเวลาแวะชาร์จไฟ สามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดการขับขี่และระบบส่งกำลังที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกสภาพถนนและทุกสไตล์การใช้งานใน 2 ส่วนหลักคือ 1.) โหมดพลังงาน ประกอบด้วยโหมด EV, โหมดเน้น EV (EV Priority) และโหมด HEV และ 2.) โหมดการขับขี่ ได้แก่ Eco, Normal, Sport, Snow และ AWD Mode ยิ่งไปกว่านั้น ยังมอบความมั่นใจและความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ผสานเทคโนโลยีปรับน้ำหนักตามความเร็ว ช่วยให้ควบคุมง่ายทั้งในเมืองและทางไกล พร้อมการปรับพวงมาลัยได้ 4 ทิศทางและโหมดช่วยผ่อนแรง 3 แบบ ได้แก่ เบา สบาย และสปอร์ต เพื่อรองรับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย เสริมความปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกสี่ล้อพร้อมครีบระบายความร้อน เพิ่มประสิทธิภาพการหยุดรถและความมั่นใจในทุกสภาพถนน

     

    งดงามประดุจงานศิลปะชิ้นเอก

    WEY G9 โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามธรรมชาติแบบตะวันออก ทั้งน้ำตก ขุนเขา และต้นไผ่ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย เน้นเส้นสายเรียบหรู สงบนิ่ง และสมดุลอย่างไร้ที่ติ มีขนาดมิติตัวรถด้วยความยาว 5,050 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,985 มิลลิเมตร ความสูง 1,900 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร รองรับการใช้งานแบบ 7 ที่นั่ง (2+2+3) ได้อย่างลงตัว ส่วนความสูงใต้ท้องรถ 155 มิลลิเมตร พร้อมบันได 2 ระดับเพื่อก้าวขึ้นรถ พร้อมรองรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กและคนสูงอายุ ทำให้รถเหมาะกับการใช้งานจริงในทุกวันสำหรับทุกเพศทุกวัย ประตูท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ WEY G9 มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอกทั้งหมด 4 สีที่สะท้อนความหรูหราและทันสมัยในคราวเดียวกัน ช่วยเติมเต็มภาพลักษณ์ของรถให้โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในทุกมุมมอง ได้แก่ Nebula Black ที่นิ่งสงบและสง่างาม, Superior Gold หรูหราและโดดเด่นอย่างมีระดับ, Aurora White สีขาวละเอียดที่แตกต่างอย่างมีออร่า และ Wisdom Grey เทาเรียบหรูผสานความคลาสสิก

     

    รังสรรค์อย่างประณีต มอบความสบายเหนือระดับตั้งแต่สัมผัสแรก

      

    ด้านการออกแบบภายในเน้นความโปร่งโล่ง เดินได้สะดวกสบายด้วยความสูงภายใน 1,277 มม. ขณะที่ช่องทางเดินกลางกว้างถึง 170 มม. หรูหราด้วยวัสดุหนัง NAPPA สัมผัสนุ่ม หรูหรา ทนทาน ไม่ระคายเคืองผิว ระบายอากาศได้ดี และทำความสะอาดง่าย เบาะแถวสองแบบ Zero-Gravity ทำให้ผู้โดยสารแถวสองรู้สึกสบายเหมือนนั่งอยู่ในอวกาศที่ปราศจากแรงโน้มถ่วง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีการบินและอวกาศของ NASA โดยสามารถปรับองศาเบาะให้อยู่ใน “Golden Angle” ซึ่งเป็นมุมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสรีระมนุษย์ โดยมีมุมลำตัวที่ 127° และมุมต้นขา-น่องที่ 132° พร้อมจัดตำแหน่งหัวใจและหัวเข่าให้อยู่ในระดับเดียวกัน เพื่อช่วยกระจายแรงกดทั่วเบาะอย่างสมดุล โดยร่างกายของผู้โดยสารไม่ได้สัมผัสกับชิ้นส่วนหรือพื้นของรถ ลดแรงกดทับ ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มความผ่อนคลายในการโดยสาร ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ Luxury MPV อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า 6 รูปแบบ และระบบเบาะระบายอากาศที่พนักพิงและที่นั่ง มอบความผ่อนคลายขั้นสุดตลอดการเดินทาง ในขณะที่เบาะแถวที่ 1 เป็นเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งและระบบ Welcome Seat รวมถึงระบบดันหลังไฟฟ้าและระบบนวดไฟฟ้า 10 จุดที่ช่วยลดความเมื่อยล้า เบาะผู้โดยสารตอนหน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และมีระบบระบายอากาศที่พนักพิงและที่นั่ง และเบาะแถวที่ 3 พับได้แบบ 4:6 ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระเมื่อจำเป็น สะดวกสบายไปกับตู้เย็นภายในรถ (Car Refrigerator) ความจุ 12.5 ลิตร พร้อมดีไซน์ Double-Opening เปิดได้ทั้งด้านหน้า (Front Armrest) และด้านหลังแบบลิ้นชัก รองรับทั้งโหมดทำความเย็น 0–15°C และโหมดอุ่น 35–50°C ระบบไฟสร้างบรรยากาศ 64 สี หน้าจอ HUD และจอมัลติมีเดียขนาดใหญ่ รวมถึงการจัดวางพื้นที่ที่เอื้อต่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารทุกแถว เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับทั้งความหรูหราและฟังก์ชันล้ำสมัย

     

    เชื่อมต่อได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมยกระดับทุกการเดินทางด้วยแนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อม

    WEY G9 มาพร้อม Coffee OS 3.3 ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่เชื่อมต่อทุกฟังก์ชันในรถอย่างไร้รอยต่อ รองรับคำสั่งเสียง 21 ภาษา แสดงสถานะรถแบบ 3 มิติเรียลไทม์ พร้อมระบบนำทาง Petal Maps Global Navigation และการดาวน์โหลดแอปฯ ผ่าน GWM App Store ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมและตรวจสอบรถจากระยะไกลผ่านแอป GWM ไม่ว่าจะเป็นการสตาร์ตเครื่องยนต์ ล็อก–ปลดล็อกประตู เปิด–ปิดซันรูฟ ตั้งเวลาชาร์จ หรือเช็กสถานะพลังงานและแรงดันลมยางได้อย่างสะดวก นอกจากเทคโนโลยีล้ำสมัย WEY G9 ยังใช้วัสดุที่รักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้กาวในชิ้นส่วนภายในรถ ใช้พลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดกลิ่นและสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds หรือ VOC) ที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ WEY G9 ถือเป็นรถยนต์ MPV รุ่นแรกในประเทศจีนที่ได้รับการรับรอง “การปลอดฟอร์มาลดีไฮด์ (Zero Formaldehyde)” และ “China Green Car Assessment Program (C-GCAP) ระดับห้าดาว”

     

    เทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยสูงสุด มอบความอุ่นใจ มั่นใจ ทุกที่นั่ง

    WEY G9 มาพร้อมระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะมากถึง 28 รายการ เพื่อยกระดับมาตรฐานการขับขี่ให้มั่นใจและปลอดภัยสูงสุด ระบบจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ และจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX ทั้งแถวสองและแถวสาม เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในรถ นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยไซเบอร์ขั้นสูงเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจ ทำให้ WEY G9 เป็นมากกว่ารถ MPV แต่คือประสบการณ์การเดินทางที่หรูหรา ปลอดภัย และมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้านโครงสร้างตัวถังทำจากเหล็กกล้าเปอร์เซ็นต์สูงถึง 83.01% ถุงลมนิรภัย 6 จุด โดยมีถุงลมนิรภัยด้านข้างยาวเป็นพิเศษ ครอบคลุมจากที่นั่งแถวหนึ่งถึงแถวสาม พร้อมปกป้องคุณและคนที่คุณรักอย่างเต็มที่ แบตเตอรี่แรงดันสูงมีการปกป้องด้านข้างถึง 4 ชั้น ด้านล่างถึง 6 ชั้น มอบความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสถานการณ์

     

    New-Generation Luxury MPV ไลฟ์สไตล์เหนือระดับที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการงานและครอบครัว

    WEY G9 ไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อเป็นรถ MPV แต่เพื่อยกระดับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันให้เหนือระดับไปอีกขั้น ไม่ว่าในฐานะผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ หรือข้าราชการระดับสูง ที่ต้องเดินทางเพื่อเจรจาทางธุรกิจ ต้องอาศัยภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ และสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ ทั้งระยะใกล้และระยะไกล โดยยังได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยแบบเหนือระดับ โดยไม่ต้องกังวลกับการแวะชาร์จหรือแวะเติมน้ำมัน เพราะสามารถขับขี่ได้ไกลมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อน้ำมันหนึ่งถังและการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ รถยนต์คันนี้ยังเหมาะกับครอบครัวระดับไฮเอนด์ ที่ต้องการใช้รถในการเดินทางท่องเที่ยว รับส่งลูกหลานไปโรงเรียน หรือมีผู้สูงอายุที่ต้องดูแล โดยสามารถเปิดระบบปรับอากาศได้ในระหว่างที่อยู่ในรถ โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย

     

    ตั้งแต่การเดินทางในเมืองที่ต้องการความนิ่ง เงียบสงบ หรูหรา ไปจนถึงทริปทางไกลที่ต้องการความผ่อนคลายขั้นสุด ทุกฟังก์ชันในรถถูกออกแบบให้ใช้งานได้จริง ผสานความลักชัวรี่กับความอเนกประสงค์ไว้ในคันเดียว ใช้ได้ทั้งวันทำงาน วันพักผ่อน หรือโอกาสพิเศษที่ต้องการความสมบูรณ์แบบเป็นพิเศษ พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นและสง่างามในทุกมุมมอง GWM (Thailand) พร้อมมุ่งสร้างมาตรฐานเพื่อยกระดับตลาด MPV ลักชัวรี่ไปอีกขั้น ทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี ความปลอดภัย และความสบายที่เหนือชั้น โดย WEY G9 พร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้สัมผัสอย่างเป็นทางการภายในงาน Motor Expo 2025 วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2568 นี้ ณ บูธ GWM หมายเลข A05 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

    #GWM #GWMThailand #WEY #WEYG9 #MotorExpo2025


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • 3 ดาวรุ่งฮอนด้าเดือดสนั่นบุรีรัมย์! บิด Honda CBR พาเหรดขึ้นโพเดียม NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4  เรซแรก

    1 Min Read

    3 ดาวรุ่งฮอนด้าเดือดสนั่นบุรีรัมย์! บิด Honda CBR พาเหรดขึ้นโพเดียม NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4  เรซแรก

    ทีมแซทเทิลไลท์จากฮอนด้า รุ่นท็อปสุดของรายการ รุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1 Pro) นำโดย “มิกซ์-ธนัช” แบกประสบการณ์ดวลความเร็วคว้าโพเดียมอันดับที่ 2 ทำผลงานให้ฮอนด้า ควงรุ่นน้อง “ไฮเปค-กฤษฎา” และ “ข้าวกล้อง-จักรีภัทร” รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1 Pro) ในศึก NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4 เรซ 1 ทำผลงานพาเหรดขึ้นโพเดียมก่อนดวลความเร็วลุ้นแชมป์ในเรซสุดท้าย วันอาทิตย์นี้

    รุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1 Pro)  ไฮไลท์ของรายการที่ดวลกันด้วยรถแข่งที่เร็วและแรงที่สุด ดาวรุ่งไทยฮอนด้า “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31  จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส บิด Honda CBR1000RR-R ทำเวลาในการควอลิฟายมาในกริดที่ 2 เริ่มต้นเกมได้อย่างแข็งแกร่งชาร์จความเร็วขึ้นมาเป็นผู้นำได้ทันที โดยปักหลักดวลความเร็วกับคู่แข่งที่มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อลุ้นชัยชนะ “มิกซ์-ธนัช” ขึ้นนำและรักษาอันดับที่ 1 มาจนถึงรอบสุดท้าย โดยรับมือกับความกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยโค้งสุดท้ายซึ่งเป็นโค้งตัดสินในเรซนี้ เข้ามาด้วยไลน์ที่ค่อนข้างเสียเปรียบ ก่อนคว้าชัยชนะเก็บอันดับที่ 2 มาครอง

    การแข่งขันรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1 Pro) ยอดนักบิดดาวรุ่งไทยพัฒนาผลงานและรักษามาตรฐานความเร็วในแถวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง “ไฮเปค” กฤษฎา ธนะโชติ หมายเลข 18 ควบ Honda CBR600RR จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส ฮอนด้า ทีม ออกสตาร์ตการแข่งขันจากกริดที่ 2 ขึ้นมารั้งในกลุ่มพร้อมกับสลับและแซงคู่แข่งขึ้นมาครองอันดับที่ 1 ได้ทันทีตั้งแต่ต้นเรซ แต่โค้งสุดท้ายเป็นช่วงจังหวะที่ติดรถน็อครอบ ทำให้การเดินคันเร่งออกจากโค้งเสียเปรียบคู่แข่งเล็กน้อย พลาดชัยชนะไปเพียงเสี้ยววินาที เข้าเส้นชัยขึ้นโพเดียมอันดับที่ 2 ตามมาติด ๆ ด้วย “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 20 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส ที่เริ่มต้นจากกริดที่ 3 ดวลความเร็วกันที่กลุ่มหน้าอย่างดุเดือด ตามมาบนโพเดียมเป็นอันดับที่ 3 ยังรักษาโอกาสในการลุ้นแชมป์ประจำปี

    รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี (SS1)  2 ดาวรุ่ง จาก โปร ฮอนด้า สิทธิพล ไออาร์ซี ดีไอดี ซีบี อาชิ กิตติ เรซซิ่ง บิด Honda CBR250RR ลงแข่งขันในเกมสุดท้าทายดวลความเร็วกันสุดเข้มข้น ด้วยประสบการณ์ที่เป็นรองแต่ดาวรุ่งฮอนด้าใช้เป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันในอนาคต “ต้นกล้า” ภคภัคร พึ่งเจริญ หมายเลข 78 เริ่มต้นจากกริดที่ 17 ก่อนเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 18 โดยที่ “เฟรม” ภูริทัต จันจาด หมายเลข 98 ควอลิฟายมาเป็นอันดับที่ 16 จบการแข่งขันในอันดับที่ 20

    ทั้งนี้ ศึก NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4 เรซที่ 2 จะดวลความเร็วกันต่อและตัดสินแชมป์ประจำซีซั่นนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี. เวลา 09.30 น. ต่อด้วย รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี SS1 Pro เวลา 13.25 น. และ รุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1 Pro) เวลา 14.25 น. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

    แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

    #ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #BRICSuperBike2025 #NexzterBRICSuperBike2025 #HondaCBR #Mix31 #Kaowkong20 #HiPeck18 #ChangInternationalCircuit


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Post Image

    บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฉลองครบรอบ 55 ปี แห่งพลังที่ไม่มีวันหยุดยั้ง “UNSTOPPABLE 55: 55 Years of Endless Drive” พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตของวงการยานยนต์ไทย

    1 Min Read

    บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฉลองครบรอบ 55 ปี แห่งพลังที่ไม่มีวันหยุดยั้ง “UNSTOPPABLE 55: 55 Years of Endless Drive” พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตของวงการยานยนต์ไทย

    บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน Bangkok International Motor Show งานแสดงยานยนต์นานาชาติครั้งแรกของประเทศไทย และผู้นำด้านสื่อยานยนต์ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ นำโดย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายกิจกรรมพิเศษ คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายการผลิต และ คุณปิยนุช แจ่มศิริพรหม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้า/ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี แห่งพลังที่ไม่มีวันหยุดยั้ง “UNSTOPPABLE 55: 55 Years of Endless Drive” การดำเนินธุรกิจอย่างภาคภูมิ ท่ามกลางความไว้วางใจและการสนับสนุนอันยาวนานจากพันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ และสื่อมวลชน ซึ่งมีส่วนสำคัญผลักดันให้กรังด์ปรีซ์ฯ เติบโตและยืนหยัดอย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน งานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ รอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
    บรรยากาศภายในงานอบอุ่นและเป็นกันเอง เริ่มตั้งแต่แขกผู้ทรงเกียรติทยอยมาลงทะเบียน โดยมีคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ก่อนเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยง ทุกท่านได้ชมนิทรรศการ “GRANDPRIX Unstoppable 55th” ซึ่งบอกเล่าเส้นทางความมุ่งมั่นของกรังด์ปรีซ์ฯ จากจุดเริ่มต้นในอดีตสู่การเติบโตและเปลี่ยนผ่านในแต่ละยุคสมัยจนถึงปัจจุบัน ภายในงานยังมี THE SOCIAL LOUNGE “Connect & Celebrate”, งานเลี้ยงอาหารค่ำพร้อมการแสดงสดชุด “Symphony of Motion” และการแสดงแสงสีเสียง “Drive Beyond Time” ก่อนเข้าสู่การนำเสนอ VTR ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ

    หลังจากนั้นเป็นพิธีมอบรางวัล “Grand Prix 55th Excellence in Automotive Manufacturing Awards” เพื่อเชิดชูผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และช่วงสำคัญของงาน “The Journey Continues – CEO Transition” การส่งต่อมรดกสู่ผู้นำรุ่นใหม่ พร้อมการบรรยายพิเศษ “CEO Talk” โดย คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะผู้บริหารทุกท่านร่วมกันกล่าวขอบคุณพันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ และสื่อมวลชนทุกท่านที่อยู่เคียงข้างบริษัทฯ มาโดยตลอด

    สำหรับงานฉลองครั้งประวัติศาสตร์นี้ นับเป็นความปลาบปลื้มและเป็นเกียรติอย่างยิ่งแก่คณะผู้บริหารและพนักงานของ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) อีกทั้งยังตอกย้ำพันธกิจขององค์กรในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรม ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และมุ่งสู่ความเป็นเลิศในอนาคต ด้วยพลังที่ไม่มีวันหยุดยั้งต่อไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า ร่วมลงนามข้อตกลง “มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5)” เดินหน้าพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้า สู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ปี 2593

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า ร่วมลงนามข้อตกลง “มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5)” เดินหน้าพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้า สู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ปี 2593

     ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทยเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึก “พิธีลงนามข้อตกลงการรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถจักรยานยนต์ระยะที่ 2” ระหว่างกรมสรรพสามิตและผู้ประกอบอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมทั้งผลักดันการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอน และขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว ตามวิสัยทัศน์ของฮอนด้าที่มุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี พ.ศ. 2593

     

    พิธีการลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ นำโดย มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เป็นผู้ลงนามร่วมกับ ดร.พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต พร้อมด้วย นายบัญชร ส่งสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี 2 และนางสุภาพร วัฒนเจริญ ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี 3

     

    มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตผู้บริโภคชาวไทยและสภาพแวดล้อมของประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ทำงานร่วมกับภาครัฐมาโดยตลอด ทั้งในด้านการวิจัย พัฒนา และการส่งเสริมให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง รวมถึงการเข้าร่วมในมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ระหว่างปี พ.ศ. 2566–2568 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล การลงนามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5) ครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสานต่อพันธกิจดังกล่าว

     

    ฮอนด้ายืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมมือกับภาครัฐและพันธมิตรทุกฝ่าย เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรับคนไทยและประชาชนทั่วโลก”

     

    สำหรับมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5) จะมีผลใช้บังคับในช่วงปี พ.ศ. 2567 – 2570 โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยสิทธิประโยชน์ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เงินอุดหนุน การลดอัตราอากรขาเข้ารถยนต์สำเร็จรูป และการลดอัตราภาษีสรรพสามิต โดยเงินอุดหนุนจะเป็นไปตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่  สำหรับกรณีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV ราคาไม่เกิน 150,000 บาท ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน ระหว่าง 5,000 – 10,000 บาท/คัน โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อมุ่งลดต้นทุนการเป็นเจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ควบคู่กับการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค

     

    ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่

    เว็บไซต์ : https://www.thaihonda.co.th/honda/news

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/

     

    #EV #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ยามาฮ่าปลุกพลังไทย! รวมใจเชียร์ทีมชาติ ล่าเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ยามาฮ่าร่วมสนับสนุนทัพนักกีฬาไทยสู่จุดสูงสุดบนเวทีกีฬาอาเซียน

    1 Min Read

    ยามาฮ่าปลุกพลังไทย!  รวมใจเชียร์ทีมชาติ ล่าเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ยามาฮ่าร่วมสนับสนุนทัพนักกีฬาไทยสู่จุดสูงสุดบนเวทีกีฬาอาเซียน

    บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ.2568 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งแรงใจให้ทัพนักกีฬาไทยก้าวสู่ความสำเร็จสูงสุด พร้อมร่วมสร้างประวัติศาสตร์การเป็น “เจ้าเหรียญทอง” ภายใต้แนวคิดหลัก “เชียร์ไทยคว้าชัยซีเกมส์ สานพลังไทยเจ้าเหรียญทอง” สะท้อนพลังความสามัคคีของคนไทยที่พร้อมรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อประเทศ

    สำหรับการเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้ ทางยามาฮ่ามอบรถจักรยานยนต์ YAMAHA FAZZIO HYBRID จำนวน 60 คัน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย และแฟนกีฬาชาวไทย โดยมอบให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น รางวัลสำหรับนักกีฬาที่คว้าตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” จำนวน 50 คัน และรางวัลสำหรับผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จำนวน 10 คัน

    นอกจากนั้น ยามาฮ่ายังได้จัดกิจกรรมเชียร์ไทยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อสร้างประสบการณ์ FEEL THE UNIQUE EXPERIENCE ให้กับลูกค้ายามาฮ่า พร้อมเดินหน้าเชื่อมโยงพลังแรงเชียร์ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ตลอดช่วงการแข่งขันซีเกมส์ 9 – 20 ธันวาคม 2568 และอาเซียนพาราเกมส์ ซึ่งประกอบด้วย

    • การร่วมวิ่งอัญเชิญไฟพระฤกษ์ ที่นำโดยผู้บริหาร ผู้จำหน่าย พนักงาน สื่อมวลชน นักแข่งจาก YAMAHA THAILAND RACING TEAM และลูกค้ายามาฮ่า กว่า 295 คน ร่วมวิ่งคบเพลิงใน 4 จังหวัดเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), ชลบุรี (แหลมแท่น), สงขลา (หอนาฬิกาหาดใหญ่) และนครราชสีมา (อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี) เพื่อส่งต่อพลัง และประกาศความพร้อมสู่มหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่
    • เชิญชวนชาวยามาฮ่าร่วมชมพิธีเปิด–ปิดกีฬาซีเกมส์ และคาราวานเฉลิมฉลองนักกีฬาไทย สุดยิ่งใหญ่
    • การเตรียมตัวจัด “คาราวานและพิธีฉลองชัยชนะแก่ทัพนักกีฬาไทย” เพื่อร่วมแบ่งปันความภาคภูมิใจไปทั่วประเทศ

    รวมถึงการกิจกรรมสนุกเต็มรูปแบบที่ร้านผุ้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ ที่ตกแต่งโชว์รูมด้วยธีมซีเกมส์สุดเท่ พร้อมมาสคอส YAMAHA FAZZIO ATHLETE MONSTERสุดน่ารัก ร่วมชมถ่ายทอดสดการแข่งขันแมตช์สำคัญผ่านจอใหญ่ และสนุกกับกิจกรรมลุ้นของรางวัลมากมาย อีกทั้งยังได้มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้ายามาฮ่าโดยเฉพาะ โดยการเชียร์นักกีฬาไทยติดขอบสนามในการแข่งขันที่กรุงเทพฯ ชลบุรี สงขลา และนครราชสีมา

    สำหรับท่านที่เดินทางไปชมและเชียร์นักกีฬาไทยติดขอบสนามราชมังคลาฯ ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ยามาฮ่ายังได้เตรียมบูธ YAMAHA FAZZIO สุดยูนีคให้ร่วมสนุกใน FAN ZONE เพื่อให้แฟนกีฬาสามารถร่วมสนุกกับยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด และร่วม EXCLUSIVE MEET & GREET กับ YAMAHA THAILAND RACING TEAM,  กิจกรรมของรางวัลลิมิเต็ดเฉพาะในงาน พร้อมเครื่องดื่ม และขนมเติมพลังตลอดวัน

     

    ชาวยามาฮ่าสายออนไลน์หน้าจอ ยังสามารถร่วมสนุกบน FACEBOOK: YAMAHA SOCIETY THAILAND และ YAMAHA LINE OFFICIAL ACCOUNT: @YAMAHA SOCIETY THAILAND เพื่อเชื่อมโยงพลังแรงเชียร์จากคนไทยทั่วประเทศ อาทิ

     

    • “ร่วมส่งแรงเชียร์…เป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทย” คัดเลือก 20 ข้อความร่วมเชียร์นักกีฬาไทยสุดเจ๋งจาก FACEBOOK: YAMAHA SOCIETY THAILAND มาโชว์บนจอ LED ขนาดใหญ่บนเส้นถนนบางนาตราด
    • สนุกกับ “PHOTO HUNT ตามล่าหา YAMAHA FAZZIO” รถคู่ใจวัยฟาส สำหรับ 20 ท่านที่ถูกคัดเลือก ได้รับ ของรางวัล RARE ITEM
    • ชวนชาว YAMAHA FAZZIO มาแชร์ “ขี่ YAMAHA FAZZIO ไปเชียร์ที่ไหนกัน” เพียงแชร์ภาพคู่กับ YAMAHA FAZZIO คันโปรด ภาพที่โดนใจ 20 ภาพ รับเสื้อ #ยามาฮ่าเชียร์ไทยคว้าชัยซีเกมส์ ฟรี!
    • พิเศษสุด…สำหรับลูกค้ายามาฮ่าทุกรุ่นที่เป็นสมาชิก LINE OFFICIAL ACCOUNT: @YAMAHA SOCIETY THAILAND รับบัตรเข้าชมพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ฟรี! จำนวนจำกัด สิทธิพิเศษนี้เฉพาะลูกค้า LINE Official Account ของยามาฮ่าเท่านั้น

    บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ภูมิใจที่ได้ร่วมหนุนทัพนักกีฬาไทยสู่เวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญ “FEEL THE UNIQUE EXPERIENCE – สุดทุกทาง…ต่างทุกฟีล” และขอเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ให้ทีมชาติไทยในการแข่งขันซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ปีนี้ ร่วมสร้างพลังแห่งความภาคภูมิใจให้กึกก้องทั่วประเทศ “เชียร์ไทยคว้าชัยซีเกมส์ สานพลังไทยเจ้าเหรียญทอง”

     

    #YAMAHAFAZZIOสานพลังไทยเจ้าเหรียญทอง

    #YAMAHAเชียร์ไทยคว้าชัยซีเกมส์

    #YAMAHASOCIETYTHAILAND #REVSYOURHEART

    #ยามาฮ่า #เร่งชีวิตให้เร้าใจ

    #ซีเกมส์ครั้งที่33 #ซีเกมส์2025 #ซีเกมส์ #SEAGAMESTHAILAND2025

    #SEAGAMES2025 #SEAGAMES33


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ทัพนักแข่งฮอนด้า CBR Series ลุ้นแชมป์ประเทศไทย พร้อมดวลความเร็ว 2 เรซรวดใน NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4 ปิดฤดูกาล

    1 Min Read

    ทัพนักแข่งฮอนด้า CBR Series ลุ้นแชมป์ประเทศไทย พร้อมดวลความเร็ว 2 เรซรวดใน NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4 ปิดฤดูกาล

     

    “ฮอนด้า” พัฒนานักบิดและมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง ในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ NEXZTER BRIC Superbike 2025 ด้วยการส่ง 4 แซทเทิลไลท์ทีม ลงดวลความเร็วใน 3 รุ่นท็อป เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักบิดไทยลงสนามแข่งขัน รวมถึงพัฒนาศักยภาพการทำงานของเมคคานิกส์และทีมแข่งไทย เพื่อพัฒนาการแข่งขันอย่างกว้างขวาง โดยผลงานดาวรุ่งไทยในซีซั่นนี้ ใช้โอกาสในการเรียนรู้และเก็บผลการแข่งขันลุ้นแชมป์ประจำฤดูกาล  โดยจะไปตัดสินในสนามที่ 4 2 เรซรวด ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล

    รุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1 Pro) ไฮไลท์ของรายการที่ดวลกันด้วยรถแข่งที่เร็วและแรงที่สุด ดาวรุ่งไทยฮอนด้า  “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31  จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส บิด Honda CBR1000RR-R ลงเก็บประสบการณ์รุ่นใหญ่ พร้อมโชว์ผลงานได้ทันที ดวลความเร็วกับนักแข่งรุ่นพี่อย่างต่อเนื่อง เก็บแต้มรั้งอันดับที่ 2 ของตารางด้วยคะแนนสะสมมา 49 คะแนน (ตาม 21 คะแนน) โอกาสยังเปิดในการลุ้นแชมป์ประจำฤดูกาลนี้ ขณะที่ จอมเก๋า “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี หมายเลข 10 จาก โปร ฮอนด้า บริดจสโตน อันเดรียนี เบกดิกซ์ เอเอ็น เรซซิ่ง ทีม จะไม่สามารถลงสนามสุดท้ายได้จากอาการบาดเจ็บ

    รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1 Pro) ยอดนักบิดดาวรุ่งไทยผลผลิตจาก “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะดรีม” แจ้งเกิดด้วยผลงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง  “ไฮเปค” กฤษฎา ธนะโชติ หมายเลข 18 กับรถแข่ง Honda CBR600RR จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส ฮอนด้า ทีม เปิดตัวอย่างร้อนแรง คว้าชัยชนะ 2 สนามแรกติดต่อกัน แต่อุบัติเหตุในสนามที่ 3 ทำให้พลาดโอกาสบวกคะแนนทิ้งห่างไปอย่างน่าเสียดาย ล่าสุดรั้งอันดับที่ 2 ด้วยคะแนนสะสม 50 คะแนน (ตาม 11 คะแนน) ก่อนเข้าสู่สนามตัดสินแชมป์ประจำปี ขณะที่ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 20 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส อยู่ที่อันดับ 4 มี 36 คะแนน (ตาม 25 คะแนน)

    รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี (SS1) ที่ฮอนด้ามอบโอกาสให้กับ 2 ดาวรุ่งจาก โปร ฮอนด้า สิทธิพล ไออาร์ซี ดีไอดี ซีบี อาชิ กิตติ เรซซิ่ง ซึ่งลงเก็บประสบการณ์ในคลาสรองอย่าง SS1 โดยสามารถโชว์พัฒนาการและทำผลงานขึ้นมาอยู่หัวแถวของรุ่น สลับกับการยกระดับขึ้นไปสู้กับรุ่นโปรได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลงานจาก 3 สนามแรก  “เฟรม” ภูริทัต จันจาด หมายเลข 98 รั้งอันดับที่ 3 ของรุ่นด้วยคะแนนสะสม 37 คะแนน ขณะที่ “ต้นกล้า” ภคภัคร พึ่งเจริญ หมายเลข 78 มีอยู่ 24 แต้ม อยู่ในอันดับที่ 9 ของตารางคะแนนสะสม

    ทั้งนี้ ศึก NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนามที่ 4 สนามปิดท้ายฤดูกาลจะดวลความเร็วกัน 2 เรซรวด โดยเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมและควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันศุกร์ที่ 21 และแข่งขันชิงชนะเลิศเรซที่ 1 ในวันเสาร์ที่ 22 ก่อนปิดท้ายรอบชิงชนะเลิศ เรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

    แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #BRICSuperBike2025 #NexzterBRICSuperBike2025 #HondaCBR #Mix31 #Kaowkong20 #HiPeck18 #ChangInternationalCircuit


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • All New YAMAHA NMAX TECH MAX คว้ารางวัลใหญ่ “Motorcycle of The Year 2025” จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย

    1 Min Read

    All New YAMAHA NMAX TECH MAX คว้ารางวัลใหญ่ “Motorcycle of The Year 2025” จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย

    All New YAMAHA NMAX TECH MAX สร้างความภาคภูมิใจให้ยามาฮ่า คว้ารางวัล Thailand Motorcycle of The Year 2025 มาครองได้สำเร็จ จากงานประกาศผลรางวัล Thailand Car, EV & Motorcycle of The Year 2025 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย

    นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เป็นรับเกียรติขึ้นรับรางวัล Thailand Motorcycle of The Year 2025 จาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย

    โดยในปีนี้ มีรถจักรยานยนต์ผ่านเข้าสู่รอบทดสอบขั้นสุดท้ายจำนวน 6 รุ่น โดย All New YAMAHA NMAX TECH MAX และ All New YAMAHA AEROX ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งคู่ ซึ่ง All New YAMAHA NMAX TECH MAX สามารถทำคะแนนรวมจากการทดสอบ และได้รับผลโหวตจากสื่อมวลชนสูงสุด คว้าตำแหน่ง Thailand Motorcycle of The Year 2025 ไปครองอย่างสง่างาม สะท้อนถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ความคุ้มค่าคุ้มราคา และเทคโนโลยีครบครันที่ยามาฮ่าตั้งใจพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างแท้จริง อาทิ ดีไซน์ที่ได้รับความนิยมจากยุโรป และมีโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับได้ 2 โหมด ทั้ง Sport Mode และ Town Mode พร้อมระบบ YECVT เทคโนโลยีควบคุมชุดส่งกำลังอัตโนมัติด้วยอิเล็กทรอนิกส์ที่มีกล่อง ECU เป็นตัวประมวลผล และส่งคำสั่งไปยังชุดส่งกำลัง YECVT เพื่อส่งต่อไปยังมอเตอร์และปรับอัตราทด ระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล๊อคเพิ่มความปลอดภัย ระบบ Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่จะช่วยรักษาแรงฉุดลากเมื่อเร่งความเร็วบนพื้นผิวที่ลื่น ถนนที่ไม่ได้ลาดยางหรือถนนเปียก


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กไทยทั่วประเทศ มอบทุนกว่า 6 ล้านบาท

    1 Min Read

    มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กไทยทั่วประเทศ มอบทุนกว่า 6 ล้านบาท

    มูลนิธิกลุ่มอีซูซุเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์มอบ “อนาคตทางการศึกษา” แก่เยาวชนที่มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเรียน ได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา รวมทั้งสิ้น 694 ทุน มูลค่ารวม 6,090,000 บาท ยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชนให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของสังคมในอนาคต

    มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ ประธานกรรมการมูลนิธิกลุ่มอีซูซุ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 68 ปีที่กลุ่มอีซูซุดำเนินธุรกิจ   ในประเทศไทย เราได้ยึดมั่นในวิสัยทัศน์องค์กรคือ “วิถีอีซูซุ : ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ช่วยให้สังคมพัฒนา” เป็นหลักในการดำเนินงาน เราประสบความสำเร็จอย่างสูงตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ได้ด้วยความไว้วางใจและการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากประชาชนชาวไทย ดังนั้น    เราจึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างประโยชน์และคุณค่าต่อสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว “มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ” จึงได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 โดยเป็นการสมทบทุนร่วมกันของ 3 บริษัทในกลุ่มอีซูซุ ได้แก่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท อีซูซุเอ็นยิ่น แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายด้าน อาทิ การสนับสนุนด้านการศึกษา การส่งเสริมด้านการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ การสนับสนุนเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมถึง การสนับสนุนทางการเงินและการบริจาคอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ  เพื่อสาธารณประโยชน์ ด้วยเจตนารมณ์ของการเป็น “นิติบุคคลที่ดีของสังคมไทย” ที่พร้อมจะร่วมสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้แก่เยาวชนในสังคมไทยอย่างยั่งยืนสืบไป”

    มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ ยังคงยึดมั่นในการเดินหน้าสานต่อโครงการมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทั้งบุคคลและสังคม โดยในปีนี้ได้มอบทุนให้แก่นักเรียนและนักศึกษาที่มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 694 คน    มูลค่ารวม 6,090,000 บาท ทุนนี้จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษา ให้เยาวชนสามารถใช้ศักยภาพด้านการศึกษาได้อย่างเต็มที่ เดินหน้าสานต่อความฝัน สู่การเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต โดยมีมูลนิธิกลุ่มอีซูซุพร้อมร่วมสร้างสังคมไทยที่เข้มแข็งและยั่งยืนไปด้วยกัน

    นายเกียรติศักดิ์ เหลือบกลาง นักศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา ผมรู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งใจมากที่ได้รับทุนนี้ ทุนการศึกษานี้ มีความหมายกับผมมากเพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ทำให้ผมมีเวลาโฟกัส กับการตั้งใจเรียนมากขึ้น ความฝันของผมตอนนี้คือเรียนจบสาขาที่ผมรัก สามารถนำความรู้ที่ผมเรียนมาไปต่อยอดและสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม ขอขอบคุณมูลนิธิกลุ่มอีซูซุและผู้สนับสนุน    ทุกท่านที่ได้ให้โอกาสผมได้รับทุนนี้ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผม เพราะต่อไปผมก็อยากจะมอบโอกาสดี ๆ แบบนี้ให้กับคนอื่นเหมือนกับที่ผมได้รับจากมูลนิธิกลุ่มอีซูซุครับ”

    นางสาวณัฐวดี แรกคำนวณ นักเรียนจากโรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ฯ วันนี้รู้สึก   ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ทุนนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้หนูเข้ามหาวิทยาลัยที่หนูใฝ่ฝันได้ หนูอยากเข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งทุนนี้เป็นส่วนช่วยให้หนูปล่อยวางจากความเครียดเรื่องการเงิน สามารถโฟกัสกับการเรียนและการเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ ขอบคุณมูลนิธิกลุ่มอีซูซุที่สร้างโครงการนี้ขึ้นมา รู้สึกขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • Post Image

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พาชาว CUB House เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ออกทริปขับขี่รอบเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ในกิจกรรม “CUB House Let’s Ride Over JAPAN”

    1 Min Read

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พาชาว CUB House เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ออกทริปขับขี่รอบเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น  ในกิจกรรม “CUB House Let’s Ride Over JAPAN”

    CUB House by Honda เดินหน้ามอบประสบการณ์การขับขี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้า จัดทริป “CUB House Let’s Ride Over JAPAN” พาสมาชิก CUB House และสื่อมวลชนร่วมออกเดินทางขับขี่รถจักรยานยนต์ CUB House กว่า 35 คัน ตะลุยเส้นทางรอบเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ตลอดระยะเวลา 6 วัน 5 คืน ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา

    ทริปนี้มีชาว CUB House ทุกรุ่นเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ทั้ง Honda Monkey125, C125, CT125 และ DAX125 พร้อมขับขี่กระทบไหล่ไปกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังคุณซาบอล และคุณอาร์ม จาก Ohana อีกทั้งได้สัมผัสเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามที่สุด อากาศเย็นสบายเพียง 10 องศา พร้อมวิวภูเขา ทุ่งหญ้า และวัฒนธรรมหลากหลายที่รอให้ค้นหา สร้างมิติใหม่ของการขับขี่ท่องเที่ยวที่ผสานทั้งความงามของธรรมชาติและเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว

    เส้นทางการขับขี่เริ่มต้นจากเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) มุ่งหน้าสู่คุมาโมโตะ (Kumamoto) เอโสะ (Aso) ยูฟุอิน (Yufuin) เบปปุ (Beppu) และนาคัตสึ (Nakatsu) รวมระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ผู้ร่วมทริปได้สัมผัสพื้นที่หลากหลายแบบ “เจแปนไลเดอร์” ตั้งแต่ถนนในเมืองอันเป็นระเบียบ ไปจนถึงเส้นทางภูเขาที่มีโค้งสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น

    ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่

    • การขับขี่ขึ้นสู่ ยอดเขา Daikanbo ผ่านเส้นทางทุ่งหญ้า Milk Road ที่นักขี่ทั่วโลกยกให้เป็นเส้นทางโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่ง
    • การช้อปอุปกรณ์ขี่รถ และของแต่งสุดเท่ที่ Ricoland แหล่งรวมของแต่งมอเตอร์ไซค์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
    • การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่ Aso Farm Land พร้อมบรรยากาศอันเงียบสงบ
    • การเรียนรู้ประวัติศาสตร์รถจักรยานยนต์ที่ Iwashita Museum พร้อมชมรุ่นในตำนานอย่าง Honda Monkey 50, Honda Dax 50 และ Batabata
    • ปิดท้ายด้วยกิจกรรมแช่ออนเซ็น Beppu Jigoku และเวิร์กช็อปรังสรรค์น้ำหอมที่ Oita Fragrance Museum

    กิจกรรม “LET’S RIDE OVER JAPAN 2025” สะท้อนตัวตนของ CUB House ที่มุ่งสร้างคอมมูนิตี้คนรักรถที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ผ่านการเชื่อมโยงผู้ขับขี่ให้ได้ออกเดินทาง เปิดโลกใหม่ และแบ่งปันความสนุกไปพร้อมกัน ไม่เพียงแต่เป็นทริปท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในต่างประเทศให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสอย่างแท้จริง

    ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สามารถติดตามกิจกรรมครั้งต่อไป ได้เร็ว ๆ นี้ที่

    เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/cubhouse

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand

    เฟซบุ๊ก CUBhouse : fb.com/cubhousebyhonda

     

    #Monkey125 #C125 #CT125 #Dax125 #CUBHouseRoadTrip2025 #RideOverJapan #ThaiHondaMotorcycle #CUBHouse #CUBHousebyHonda

    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou


    No Comment
  • ชาร์จพลังใหม่ให้ฟุตบอลไทย! สมาคมฯ จับมือ BYD เปิดคอร์สอบรมโค้ช B License สร้างเครือข่ายโค้ชคุณภาพสู่วงการฟุตบอลไทย

    1 Min Read

    ชาร์จพลังใหม่ให้ฟุตบอลไทย! สมาคมฯ จับมือ BYD เปิดคอร์สอบรมโค้ช B License สร้างเครือข่ายโค้ชคุณภาพสู่วงการฟุตบอลไทย

    BYD ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของทีมชาติไทย เดินหน้าสานต่อพันธกิจ “ชาร์จพลังฟุตบอลไทย” ต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมมือกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดโครงการ “AFC ‘B’ Coaching Certificate Course by BYD” หลักสูตรพัฒนาโค้ชฟุตบอลระดับ B License โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับโค้ชจำนวน 24 คนจากทั่วประเทศ

              โครงการนี้มุ่งสร้างเครือข่ายโค้ชคุณภาพ เพื่อยกระดับศักยภาพบุคลากรในลีกระดับ T2 และ T3 ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานสากล พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนานักฟุตบอลไทยในอนาคต นอกจากสนับสนุนในด้านเทคนิคแล้ว BYD ยังตั้งเป้าเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนของวงการฟุตบอลไทย ด้วยแนวคิด “Charge the Power of Thai Football” ที่เชื่อว่า “พลัง” ไม่ได้มาจากเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมาจาก
    “คน” ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา

              โอกาสสำคัญในการยกระดับมาตรฐานโค้ชไทยสู่สากล จำนวนจำกัดเพียง 24 คนเท่านั้น (ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ผ่านการคัดเลือก) โดยแบ่งการคัดเลือกจากสโมสรในไทยลีก 3 ทั่วประเทศ เป็นจำนวน 6 โซน โซนละ 4 คน

    คุณสมบัติผู้สมัคร

    1. ผู้ฝึกสอน สัญชาติไทย (เท่านั้น)
    2. สำหรับผู้ฝึกสอนนักฟุตบอล หรือ อดีตนักฟุตบอล (ที่ทำทีมรุ่นอายุ 16–21 ปี)
    3. ผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนระดับ C Coaching Certificate และมีประกาศนียบัตรรับรองโดย AFC
    4. มีประสบการณ์ฝึกสอนอย่างน้อย 1 ปี และยังคงทำหน้าที่ฝึกสอนอยู่ในปัจจุบัน
    5. มี Log Book ในช่วง 1 ปี หลังจบการอบรมระดับ C Coaching Certificate
    6. สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าอบรม รวมไปถึงสามารถลงเป็นผู้เล่นได้ในการปฏิบัติ (ภาคสนาม)
    7. เข้าอบรมได้ครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนดในกรอบเวลาที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นผู้กำหนด
    8. มีพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการอบรมที่ดี ให้เกียรติ มุ่งมั่น ใฝ่เรียนรู้
    9. มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอล
    10. มีความสามารถในการสอนฟุตบอลในระดับรากหญ้า / เยาวชน / ทีมสมัครเล่น
    11. มีความสามารถในการอ่านและเขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
    12. เป็นผู้มีพฤติกรรม จริยธรรมที่ดี ไม่มีประวัติอาชญากรรม (ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

    Additional Documents (แจ้งส่งเป็นไฟล์ PDF เท่านั้น)

    1. บัตรประชาชน
    2. Log Book ระยะเวลาย้อนหลัง 3 เดือน (ในสถานการณ์ทำงานย้อนหลังจริงก่อนถึงวันสมัคร)
    3. ประวัติส่วนตัว
    4. หนังสือรับรองจากต้นสังกัด
    5. ใบ CERTIFICATE C Diploma
    6. ใบ CERTIFICATE ด้านอื่นๆ
    7. ใบรับรองแพทย์และอาการบาดเจ็บที่มีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนนับจากวันสมัครเรียน

              เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 12 ธันวาคม 2568 โดยจะประกาศรายชื่อในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ซึ่งจะต้องยืนยันสิทธิ์ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2568 สามารถกรอกใบสมัครได้ที่ https://edu.fathailand.org/login (ต้องส่งหลักฐานการอบรมผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น) ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขการสมัครได้ทางช่องทางของสมาคมฯ และ BYD Thailand

    #BYDNewEnergyNewEra #BYDชาร์จพลังบอลไทย #AFCBCoachingCertificate CoursebyBYD #BYDชาร์จพลังโค้ชไทย #Thaileague #Thaileague3 #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #NewEnergyNewEra


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment