-
News Car1 Min Read
โตโยต้าร่วมแสดงความยินดี “ธนภัทร – ไชยภัทร – ไหมจักรี” ผู้ชนะ TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ESPORT GT CHAMPIONSHIP 2025 พร้อมคว้าสิทธิ์ตัวแทนประเทศไทยลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอแสดงความยินดีกับ “ธนภัทร พวงพัฒน์ – ไชยภัทร ลิปิกรโกศล – ไหมจักรี อารีกิจเสรี” 3 นักแข่งอีสปอร์ตชาวไทย ผู้คว้าชัยรอบคัดเลือกระดับประเทศ ในการแข่งขัน TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ESPORT GT CHAMPIONSHIP 2025 บนเกม Gran Turismo 7 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 พร้อมสิทธิ์ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมชิงแชมป์ระดับเอเชีย รายการ TOYOTA GAZOO RACING ASIA ESPORT GT CHAMPIONSHIP 2025 ที่จะจัดขึ้น ณ Toyota Alive บางนา ระหว่างวันที่ 22 – 23 พฤศจิกายน 2568
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬา e-Motorsport มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 ในโครงการ TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ESPORT GT CHAMPIONSHIP ภายใต้วัตถุประสงค์ เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลก พร้อมเปิดโอกาสผู้มีความชื่นชอบในกีฬาแข่งรถ ได้สัมผัสประสบการณ์อันตื่นเต้น เร้าใจ กับความท้าทายใหม่ๆ ในโลกเสมือนจริง โดยในปี 2025 นี้ นับเป็นปีที่ 5 ของการจัดการแข่งขันในประเทศไทย สะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการพัฒนาวงการ e-Motorsport ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับการแข่งขันปีนี้ ได้มีการนำรถ Toyota GR Supra สายพันธุ์สปอร์ตระดับตำนาน มาใช้ในการแข่งขัน รอบควอลิฟาย และรถ Toyota GR Yaris รถสปอร์ตแฮชแบ็ก สายพันธุ์แรง แชมป์แรลลี่โลก มาใช้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ตอกย้ำ DNA ความแรงและสมรรถนะของรถยนต์ภายใต้แบรนด์ GR (Toyota Gazoo Racing)
รายชื่อนักแข่งที่ทำคะแนนสะสมสูงสุด 3 คน ในรอบคัดเลือกระดับประเทศ รายการ TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ESPORT GT CHAMPIONSHIP 2025 ได้แก่- รางวัลชนะเลิศ ธนภัทร พวงพัฒน์
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ไชยภัทร ลิปิกรโกศล
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ไหมจักรี อารีกิจเสรี
การแข่งขันระดับเอเชีย TOYOTA GAZOO RACING ASIA ESPORT GT CHAMPIONSHIP 2025 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปีนี้ ระหว่างวันที่ 22 – 23 พฤศจิกายน 2568 นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับบทบาทเจ้าภาพ โดยขอเชิญชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตและผู้ที่สนใจ ร่วมส่งแรงใจให้นักกีฬาไทย ในการก้าวสู่เวทีระดับเอเชียได้ที่ Toyota Alive บางนา
วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568
- กิจกรรมการแข่งขันพิเศษ E-Sport Team Exhibition Race ระหว่างเวลา 14:45 – 15:15 น.
ร่วมส่งแรงเชียร์นักแข่งเยาวชนไทย 15 คน ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในการแข่งขัน เพื่อเข้าร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาทักษะในเวทีระดับภูมิภาค
- การแข่งขัน TOYOTA GAZOO RACING ASIA ESPORT GT CHAMPIONSHIP 2025
รอบชิงแชมป์ระดับเอเชีย ระหว่างเวลา 17:00 – 20:30 น.
ร่วมส่งแรงเชียร์ตัวแทนจากประเทศไทยทั้ง 3 คน สู่เวทีการแข่งขันระดับนานาติ
นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ผมขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน รวมทั้งผู้ชนะการแข่งขันทั้ง 3 คน ที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันในรอบเอเชียต่อไป ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสประสบการณ์และแสดงพลังความแรงของรถแข่งโตโยต้า ที่ผ่านสนามแข่งระดับโลกมาอย่างโชกโชน อีกทั้งยังเป็นการแสดงทักษะการขับขี่และการควบคุมรถอันยอดเยี่ยมของผู้เข้าแข่งขัน และหวังว่าในอนาคตจะได้เห็นตัวแทนประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นสุดยอดนักกีฬา E-sport ในเวทีโลกต่อไป”
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวการแข่งขันได้ที่เพจ Toyota Gazoo Racing Thailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ได้เวลา! สร้างปรากฏการณ์ “คัสต้อมไบค์ไทย” สู่สายตาชาวโลก Bangkok Hot Rod Custom Show เปิดตัวโปรเจกต์ “Bangkok Boy” ส่งผลงานไทย ลุยเวทีระดับโลก! ที่ประเทศญี่ปุ่น

ถึงเวลาส่งพลังสร้างสรรค์ของช่างไทยให้โลกรู้จัก! Bangkok Hot Rod Custom Show นำโดย นันทพัฒน์ อุ่นพิกุล เจ้าแห่งงานคัสตอมที่ใหญ่ที่สุดในไทย ผนึกกำลังแบรนด์พันธมิตร อาทิ Harley-Davidson, โซดาสิงห์ และ Idemitsu เปิดตัวโปรเจกต์พิเศษ “Bangkok Boy” คัสต้อมไบค์คันแรกที่สร้างในนามประเทศไทย พร้อมประกาศศักดาฝีมือคนไทยบนเวทีระดับโลกที่ 33rd Yokohama Hot Rod Custom Show ประเทศญี่ปุ่น

ในวาระ ครบรอบ 10 ปี ของ Bangkok Hot Rod Custom Show (2016–2026) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ Thailand Custom Culture สู่เวทีสากล สื่อสารถึงความสามารถด้านการออกแบบ สร้าง ประกอบ และศิลปะที่หลอมรวมอยู่ในคัสต้อมไบค์คันนี้

“Bangkok Boy” หรือ “เด็กเทพ” คือผลงานที่รวมสุดยอดฝีมือช่างไทยจากทั่วประเทศ นำทีมโดย มาร์ค แห่ง Fat Boy Design แชมป์คัสต้อมยุคบุกเบิกของไทย ซึ่งมาร่วมสร้างรถคันนี้ในคอนเซ็ปต์ “เก่ง เท่ มีสไตล์ และมีหัวใจเป็นไทยแท้”

ชื่อ “Bangkok Boy” มาจากความร่วมมือระหว่าง Bangkok Hot Rod และ Fat Boy Design พร้อมสื่อถึง “เด็กไทยที่มีพรสวรรค์ระดับเทพ” ด้วยรูปลักษณ์ โครงสร้าง สี และลายเส้น ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน

รถคันนี้ใช้หัวใจเป็นเครื่องยนต์ Harley-Davidson และได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับโลกที่เห็นศักยภาพของช่างไทยอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่รถโชว์ แต่เป็นผลงานที่สะท้อนวัฒนธรรม Custom ไทย ที่พร้อมเข้าสู่เวทีการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

“Bangkok Boy” จึงเป็นก้าวสำคัญของวงการคัสต้อมไทย ที่พร้อมประกาศให้โลกรู้ว่า ฝีมือคนไทยไปได้ไกลกว่าที่คิด

ติดตามการเดินทางของ “Bangkok Boy” สู่เวทีโลก และร่วมส่งแรงใจให้ช่างไทยก้าวไกลไปพร้อมกัน กับแคมเปญ #คัสต้อมไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก / สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/BangkokHotrod
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มาสด้ามอบรางวัลอันทรงเกียรติให้ผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี Driven to Distinction ขับเคลื่อนสู่ความเป็นหนึ่งด้วยความแตกต่างเหนือระดับ

มาสด้าจัดงาน Mazda Dealer of Excellence Awards 2024 เพื่อเชิดชูความสำเร็จของผู้จำหน่ายที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมตลอดปี 2567 ภายใต้ธีม “Driven to Distinction ขับเคลื่อนสู่ความเป็นหนึ่ง ด้วยความแตกต่างเหนือระดับ” ถ่ายทอดความเป็นเลิศอันเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ตั้งมั่นด้วยปณิธานอันแน่วแน่คือการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า พร้อมมอบรางวัลทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายบริการยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ Mazda Guild Sales and Servies Awards 2024 ให้กับทีมงานของผู้จำหน่ายที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดตลอดปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และแทนคำขอบคุณที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยการส่งมอบการบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้ามาสด้าในประเทศไทย โดยงานฯ จัดขึ้นที่โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีผู้บริหารจากมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ผู้จำหน่ายมาสด้าทั่วประเทศ และทีมงานของผู้จำหน่ายเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมแสดงความยินดี ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประสบการณ์ความสุขในการขับขี่และความสุขในดำเนินชีวิตทุกด้าน คือสิ่งที่มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน ในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าได้นำแนวคิด Brand Value Management และ Retention Business Model มาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ส่งผลให้แบรนด์มาสด้าสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบ และมีจำนวนลูกค้าครอบครัวมาสด้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าตลอดทั้งปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการแข่งขันที่รุนแรง ความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง และความจำเป็นในการปรับตัวสู่โลกธุรกิจใหม่ ๆ แต่สิ่งที่ทำให้มาสด้ายืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง คือความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกภาคส่วน ควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ ความเชื่อมั่นในพันธมิตร และความมุ่งมั่นระยะยาว ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป สิ่งสำคัญคือการทำงานร่วมกันโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท เพราะ “แบรนด์ คือ ประสบการณ์” และผู้จำหน่ายมาสด้าคือผู้ถ่ายทอดประสบการณ์อันทรงคุณค่าเหล่านั้นไปสู่ลูกค้า
ทั้งนี้ ผู้จำหน่ายมาสด้า ทีมงานขาย และทีมงานบริการหลังการขาย ถือเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการถ่ายทอดคุณค่าหลักของแบรนด์ไปสู่ลูกค้า นั่นคือ การส่งมอบประสบการณ์ความสุขในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าให้กับลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่มาสด้ามุ่งมั่นในการทำงานและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน มาสด้าและผู้จำหน่ายมาสด้าทุกคนจะยังคงเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้มั่นใจได้ทุก ๆ ครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และมั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าตลอดไป ภายใต้ปรัชญา Joy Drives Lives ความสุขขับเคลื่อนชีวิต
นายธีร์ กล่าวเสริมว่า “พิธีมอบรางวัลในวันนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อมาอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อรับรางวัลแห่งความสำเร็จเท่านั้น แต่นี่คือการรวมพลังของคนที่มีใจรักในแบรนด์มาสด้า เชื่อมั่นในศักยภาพ มีปณิธานร่วมกันพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน และสะท้อนถึงความร่วมมือ ความไว้วางใจ และความทุ่มเทร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์ความสำเร็จนี้ขึ้นมา ผมขอแสดงความชื่นชมและยกย่องผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ เพราะผู้จำหน่ายทุกท่านคือแรงบันดาลใจ และเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เรามั่นใจว่า เส้นทางธุรกิจของมาสด้าจะมั่นคงและยั่งยืนไปด้วยกันไม่ใช่แค่ในวันนี้ แต่รวมถึงวันข้างหน้าที่เรายังมีเป้าหมายร่วมกันรอเราอยู่ เพราะความสุขของทุกคน ทั้งของผู้จำหน่าย ลูกค้า และทีมงานทุกท่าน คือความสุขของทุกคน เพราะเราคือครอบครัวมาสด้า”
สำหรับรางวัลอังทรงเกียรติ Mazda Dealer of Excellence Awards 2024 แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย รางวัลสูงสุด คือ ประเภท Gold จำนวน 5 รางวัล, รางวัลประเภท Silver จำนวน 5 รางวัล และรางวัลประเภท Bronze จำนวน 5 รางวัล นอกจากนี้ ภายในงานฯ ยังได้มีพิธีมอบรางวัล Guild Awards ประเภทฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขายยอดเยี่ยม ให้กับทีมงานของผู้จำหน่ายที่ปฏิบัติงานด้วยความเป็นเลิศอีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจของผู้จำหน่ายและทีมงาน ที่ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันภายใต้ปณิธานเดียวกัน “One Mazda One Team” เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในประเทศไทย ภายใต้บรรยากาศแห่งความอบอุ่น เป็นกันเอง ซึ่งมีทั้งบุคลากรจากมาสด้า เซลส์ และผู้จำหน่ายมาสด้า ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ผู้จำหน่ายมาสด้าที่ได้รับรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ประจำปี 2567
รางวัล รายชื่อผู้จำหน่าย ระดับ Gold บริษัท บิซ มอเตอร์ส จำกัด กลุ่มบริษัท มาสด้า ชลบุรี จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัท พระราม 7 กรุ๊ป จำกัด กลุ่มบริษัท 14 ออโต้กรุ๊ป จำกัด บริษัท กฤษฎา ออโต้ จำกัด ระดับ Silver กลุ่มบริษัท อนุภาษธุรกิจและการค้าภูเก็ต จำกัด กลุ่มบริษัท มาสด้าเชียงใหม่ จำกัด บริษัท เจริญศรีนครพนม (2012) จำกัด บริษัท เคพีออโต้คลองหลวง จำกัด กลุ่มบริษัท พระนคร เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ระดับ Bronze บริษัท ชูเกียรติยนต์ จำกัด กลุ่มบริษัท ช.เอราวัณออโตเซลส์ จำกัด กลุ่มบริษัท แอลบาทรอส ออโต้ จำกัด กลุ่มบริษัท วี แอนด์ พี มอเตอร์เซลส์ จำกัด กลุ่มบริษัท ชูเกียรติยนต์ หาดใหญ่ จำกัด
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
นักบิดดาวรุ่งไทยฟอร์มร้อนแรง รั้งท็อป 5 “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025” สนาม 5 อินโดนีเซีย

นักบิดดาวรุ่งไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ควบรถ Honda NSF250R ในรอบคลอลิฟาย “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง หมายเลข 5 สตาร์ตลำดับที่ 8 ตามติดมาด้วย “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ หมายเลข 20 สตาร์ตลำดับที่ 9 ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร หมายเลข 24 ต้องพบกับความท้าทายในการล่าแต้มสะสม คว้ากริดสตาร์ตลำดับที่ 20

เรซแรกท่ามกลางการแข่งขันที่สุดดุเดือด สถานการณ์พลิกไปมา “อุ้ม-นพรุธพงษ์” โชว์ฟอร์มการขี่สุดแกร่งจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 6 เก็บแต้มสะสมเพิ่มไป 10 แต้ม ขณะที่ “ออสติน-ธนฉรรต” ต่อสู้อย่างเต็มกำลังจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 8 เก็บแต้มสะสมเพิ่มไป 8 แต้ม ด้าน “เฟอร์-ปัญจรุจน์” ที่สนามนี้ต้องพบกับความท้าทายเป็นอย่างมาก สามารถจบการแข่งขันที่อันดับ 16 เกือบเก็บแต้มสะสมได้อย่างเฉียดฉิว

เรซสองนักบิดดาวรุ่งไทยสร้างผลงานโดดเด่น “อุ้ม-นพรุธพงษ์” ขี่สุดมันส์แย่งชิงอย่างดุเดือดก่อนเข้าเส้นชัยด้วยอันดับที่ 4 เก็บแต้มไปอีก 13 แต้ม ด้าน “ออสติน-ธนฉรรต” ก็ทำผลงานได้ดีเช่นกันจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 9 เก็บแต้มสะสมได้อย่างต่อเนื่อง รับเพิ่มไป 7 แต้ม ขณะที่ “เฟอร์-ปัญจรุจน์” สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมพุ่งทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 14 เก็บแต้มสำเร็จ โดยรับเพิ่มไป 2 แต้ม

การแข่งขัน “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025” ผ่านมาแล้ว 5 สนาม 10 เรซ “อุ้ม-นพรุธพงษ์” มีแต้มสะสม 102 แต้ม รั้งอยู่อันดับที่ 5 ตามมาด้วย “ออสติน-ธนฉรรต” ที่มีแต้มสะสม 52 แต้มรั้งอยู่อันดับที่ 10 ด้าน “เฟอร์-ปัญจรุจน์” เก็บแต้มสะสมไปได้ 39 แต้ม อยู่อันดับที่ 12
สำหรับการแข่งขัน “อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025” สนามที่ 6 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายจะแข่งขันกันที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซียระหว่างวันที่ 25-26 ตุลาคมนี้
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #AsiaTalentCup #IATC #Austin5 #Aum20 #Fer24
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
YADEA Thailand รับใบรับรองจาก BOI พร้อมปักหมุดสู่แบรนด์
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ในไทย 
YADEA Thailand แบรนด์ผู้นำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลก ได้รับ ใบรับรองส่งเสริมการลงทุน (Investment Promotion Certificate) จาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการ BOI เป็นผู้มอบ นับเป็นก้าวสำคัญด้านกลยุทธ์การลงทุนและขยายฐานการผลิตของ YADEA ในประเทศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึง มาตรฐานความปลอดภัยและเทคโนโลยีของโรงงาน YADEA Thailand เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ YADEA สามารถจดทะเบียนได้ตามกฎหมายในไทย และรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี พร้อมปักหมุดก้าวสู่แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย
แบรนด์อันดับหนึ่งของโลก : ทุก 25 วินาที มีรถ YADEA ประกอบแล้วเสร็จ 1 คันในสายการผลิต
YADEA (ออกเสียงว่า ยา-เดีย) เป็น แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดในโลกติดต่อกัน 8 ปีซ้อน (ตั้งแต่ปี 2017– ปี 2024) มียอดขายสะสมกว่า 120 ล้านคัน และมีโรงงานกว่า 10 แห่งทั่วโลก ทั้งในประเทศจีน ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม เม็กซิโก และบราซิล โดยมีสายการผลิตอัจฉริยะรวมกว่า 100 สาย ผลิตได้สูงสุด 30 ล้านคันต่อปี ด้วยระบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูงและความเร็วในการผลิตที่เหนือชั้นจึงสามารถผลิตรถได้ 1 คันในทุกๆ 25 วินาที และคุณภาพผ่านเกณฑ์การผลิตกว่า 99.9% สะท้อนมาตรฐานการผลิตระดับโลก

โรงงานอัจฉริยะในไทย : ศูนย์กลางการผลิตอาเซียน กำลังการผลิต 500,000 คัน/ปี
โรงงาน YADEA Thailand ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตและเทคโนโลยีของ YADEA ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ระบบการผลิตอัจฉริยะเหมือนกับ “Super Factory” ในจีน และมีแผนการขยายกำลังการผลิตรวม 600,000 คันภายใน 3 ปี มีสัดส่วนพนักงานไทยมากกว่า 80% และสร้างงานให้คนไทยมากกว่า 500 ตำแหน่ง และในเชิง กลยุทธ์ยังตั้งเป้าให้เป็นศูนย์นวัตกรรมและการผลิตอัจฉริยะสำหรับตลาดอาเซียน

เทคโนโลยี TTFAR: แบตเตอรี่รับประกันนานถึง 2 ปี อึดขึ้น 3 เท่า ทนทุกสภาพอากาศ
เทคโนโลยีหลัก TTFAR (YADEA’s Technology helps you to Travel FAR) ได้รับการพัฒนาจากห้องทดลองขนาด 6,600 ตารางเมตรในประเทศจีน ผ่านการทดสอบกว่า 220 ชิ้นส่วน และการทดสอบทั้งคัน 41 รายการ เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมสุดโหดจากทั่วโลก สำหรับประเทศไทยที่มีลักษณะภูมิอากาศร้อน ชื้น ฝนตกบ่อย และสภาพถนนที่ไม่เรียบ YADEA ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงในประเทศ โดยเฉพาะแบตเตอรี่กราฟีน TTFAR ที่ทนความร้อนได้สูงถึง 55 องศา มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดทั่วไป และมาพร้อมการรับประกันนาน 2 ปี นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ YADEA ยังผ่านมาตรฐานกันน้ำ IPX7 สามารถป้องกันน้ำได้ดีในช่วงฤดูฝน ตัวโครงรถผลิตจากเหล็กคาร์บอนความแข็งแรงสูง ผ่านการทดสอบการสั่นสะเทือนกว่า 300,000 ครั้ง และผ่านการทดสอบการป้องกันน้ำเกลือ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความทนทานต่อสนิมและการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะสมกับสภาพถนนของประเทศไทยอย่างแท้จริง

ขับขี่มั่นใจทุกคัน : จดทะเบียนได้ตามกฎหมาย
หลังจากได้รับ BOI Certification มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ YADEA ที่ผลิตในไทยทุกคัน สามารถจดทะเบียนได้ตามกฎหมายและรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและบริการ รุ่นเด่น เช่น Velax, VoltGuard, RS20, Ova ตอบโจทย์การเดินทางทั่วไป และในเมือง
ขยายช่องทางจำหน่าย : ครอบคลุมทั่วไทย 100 สาขาภายในปี 2025
ปัจจุบัน YADEA Thailand มีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 70 สาขา พร้อมโซนทดลองขับ และ ศูนย์บริการครบวงจร และภายในปี 2025 ตั้งเป้าให้มีสาขาครอบคลุมกว่า 100 แห่งเพื่อให้ผู้บริโภคทั่วประเทศสามารถเข้าถึงร้านค้าและบริการหลังการขายได้อย่างสะดวกและทั่วถึง
“การได้รับ BOI Certification เป็นก้าวสำคัญของ YADEA Thailand เราไม่เพียงแค่สร้างโรงงาน แต่ยังผสานนวัตกรรมระดับโลกกับการวิจัยเชิงลึกเพื่อนำเสนอมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่สร้างสรรค์มาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ” นายแจ็ค หยาง (Mr.Jack Yang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท YADEA Technology (Thailand) จำกัด สรุปทิ้งท้ายต่อความมุ่งมั่นในนำเสนอทางเลือกการเดินทางที่ปลอดภัย อัจฉริยะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
MOTOR EXPO 2025 รวมใจสานสายสัมพันธ์สื่อมวลชน ครั้งที่ 15

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” จัดกิจกรรม “รวมใจสานสายสัมพันธ์สื่อมวลชน – MOTOR EXPO ครั้งที่ 15” เพื่อกระชับสัมพันธ์ และขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ณ เดอะ แบงเควท ฮอลล์ แอท นาทอง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ประวัติศาสตร์ของ Yamaha จากเครื่องดนตรีสู่รถมอเตอร์ไซค์

ทุกท่านต่างรู้จัก Yamaha กันเป็นอย่างดี แต่ว่าความเป็นมาของแบรนด์ของรถมอเตอร์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อย่าง Yamaha ที่กำลังเล่าถึงนั้นว่าเคยผลิตเครื่องดนตรีมาก่อน แล้วได้ขยายมาเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ได้ยังไง?

จุดเริ่มต้นทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อนาย Torakusu Yamaha ก่อตั้งบริษัทผลิตเครื่องดนตรีที่เมือง Hamamatsu จังหวัดชิซุโอกะ ในชื่อว่า บริษัท Nippon Gakki ก่อนจะจดทะเบียนใหม่ในชื่อ Yamaha Corporation ในปี 1987 หรือ 100 ปีให้หลัง เพื่อผลิต Reed Organ โดยเฉพาะ จนในช่วงปี 1900 บริษัท Nippon Gakki ก็เริ่มผลิตเปียโนรุ่นแรก และเริ่มผลิตแกรนด์เปียโนรุ่นแรกในสองปีต่อมา ทำให้ Nippon Gakki กลายเป็นบริษัทผลิตเปียโนเจ้าแรกของญี่ปุ่น และกลายมาเป็นแบรนด์เครื่องดนตรีที่ยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลาต่อมา จนมาถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Nippon Gakki มีบทบาทในการผลิตใบพัดเครื่องบินรบป้อนให้กับกองทัพจักรวรรดิ ซึ่งประธานในตอนนั้นอย่าง Kaichi Kawakami ก็ได้มีการไหว้วานให้นาย Soichiro Honda ออกแบบและประดิษฐ์เครื่องจักรที่ช่วยทุ่นแรงให้ผลิตได้ทีละเยอะๆ ในเวลาต่อมาเขาคนนี้ก็กลายมาเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ Honda

จนกระทั่งหลังสิ้นสุดสงคราม Genichi Kawakami ประธานคนต่อมาและเป็นลูกชายของ Kaichi ก็ตัดสินใจฟื้นฟูโรงงานขึ้นมาใหม่ และหันมาผลิตรถมอเตอร์ไซค์สำหรับขับขี่ในชีวิตประจำวัน จนมาถึงวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1955 แผนกรถมอเตอร์ไซค์ของ Nippon Gakki ก็แยกตัวออกมาต่างหากในชื่อ Yamaha Motor

โดยรถคันแรกที่ผลิตคือรุ่น YA-1 ซึ่งเป็นรถ 2 จังหวะขนาด 125 cc และหยิบเอาต้นแบบมาจากรถมอเตอร์ไซค์เยอรมันรุ่น RT125 ของ DKW มาผลิต ความพิเศษของรถรุ่นนี้คือเปิดตัวมาก็ประสบความสำเร็จในวงการแข่งขัน ด้วยการคว้าแชมป์รุ่น 125 cc ในการแข่งขันไต่ภูเขาไฟฟูจิ, คว้าโพเดียมตั้งแต่อันดับที่ 1-3 ในรายการ All Japan Autobike Endurance Road Race และชนะการแข่งไต่เขาอาซามะ ภายในปีเดียวกัน และจากความสำเร็จตั้งแต่ต้นครั้งนี้ก็กลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญในการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ของ Yamaha ไปอีกนานแสนนานจนถึงปัจจุบัน แถมยังได้รับฉายาว่า Aka-tombo (赤トンボ, “Red Dragonfly”) หรือแมลงปอแดง

ในปี 1956 Yamaha ส่งรถ YA-1 ไปเยือนต่างประเทศครั้งแรกในสนาม Catalina Grand Prix บนเกาะซานตา คาตาลินา ที่อยู่นอกชายฝั่งทางใต้ของนครลอสแอนเจลิส และได้อันดับที่ 6 ในการแข่งขัน ต่อมาในปี 1957 Yamaha เปิดตัวรถ YA-2 ซึ่งเป็นการปรับปรุง YA-1 ในส่วนของเฟรมกับช่วงล่าง และ YD-1 ซึ่งเป็นรถเครื่องยนต์ 2 สูบขนาด 250cc ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่และทรงพลังกว่าเดิม แถมยังผลิตมาในเวอร์ชั่นรถแข่งอย่าง YDS-1 ที่เฟรมรถเป็นแบบเปลคู่ และระบบเกียร์ 5 สปีด และในช่วงยุคนี้นี่เองครับที่ Yamaha ยังผลิตเครื่องยนต์เรืออีกด้วย

ในปี 1963 Yamaha ส่งรถรุ่น RD56 ไปแข่งขันในสนาม Belgian GP คลาส 250cc ถึง 4 คัน และคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกโดย Fumi Ito และตามมาด้วย Yoshikazu Sunako คว้าอันดับที่ 2 จนในปีต่อมาปี 1964 Yamaha ต่อยอดความสำเร็จด้วยการก่อตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศ โดยเริ่มจากประเทศไทยเป็นแห่งแรกภายใต้ชื่อ บริษัท สยามยามาฮ่า จำกัด หรือในปัจจุบันก็คือ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นี่เอง และเลือกให้ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นฐานการผลิตแห่งแรกในยุโรปเมื่อปี 1968

ในปี 1965 Yamaha เปิดตัวรถรุ่นเรือธงอย่าง YM1 ที่ให้เครื่องยนต์ 2 จังหวะขนาด 305 cc พร้อมเทคโนโลยีใหม่ในยุคนั้นอย่างระบบจ่ายน้ำมันออโตลูปเข้าไปในเครื่องยนต์โดยตรง ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผสมน้ำมันออโตลูปเข้าไปในถังน้ำมันเชื้อเพลิงอีกต่อไป และยังประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย และในปี 1967 Yamaha เปิดตัวรถสองสูบคู่เรียงรุ่น R1 ที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 350cc

ในปี 1969 Yamaha เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 4 จังหวะรุ่นแรกในชื่อ XS650 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สองสูบคู่เรียงขนาด 650cc 4 วาล์ว ที่ใหญ่และทรงพลังมากกว่าเดิม ถึงแม้รถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นจะเริ่มหันมาทำรถ 4 สูบเรียงตามเทรนด์แล้วก็ตาม แต่ Yamaha ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองด้วยการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ สูบเดียว 2 จังหวะ และ สูบคู่เรียง 4 จังหวะอยู่เหมือนเดิม
ในช่วงปี 1970 Yamaha เพิ่ม Reed Valve ให้กับเครื่องยนต์ 2 จังหวะทั้งสองสูบคู่เรียงของรถตระกูล RD และ สูบเดี่ยวของรถตระกูล RS ซึ่งรถทั้งสองตระกูลนี้ก็จะลากขายยาวมาจนถึงยุค 1980 นอกจากนี้ Yamaha ยังผลิตรถขนาดเล็กอย่างรุ่น FS1 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สองจังหวะขนาด 50cc พร้อม Rotary-Disk Valve และรถวิบากตระกูล DT จนมาถึงปี 1976 Yamaha เริ่มพัฒนาและเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่แหกออกไปจากความตั้งใจดั้งเดิมอย่าง XS750 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบขนาด 750cc ก่อนที่ต่อมาในปี 1978 Yamaha ก็เปิดตัวรถ 4 สูบเรียงรุ่นแรกขึ้นมาในชื่อ XS1100 หรือ XS Eleven ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,100cc

ในช่วงยุคนี้เองก็เป็นช่วงที่ Yamaha ได้สร้างตำนานไว้อีกหนึ่งอย่างครับนั่นก็คือการเอารถรุ่น XT500 ไปพิชิตและคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Dakar Rally เมื่อปี 1979 จนมาถึงช่วงยุค 1980 ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนเริ่มมีความต้องการรถมอเตอร์ไซค์ 4 จังหวะมากขึ้น Yamaha ก็ยังไม่สนใจเทรนด์นี้ และยังเดินหน้าผลิตรถ 2 จังหวะต่อไป ตัวอย่างเช่น RZ-350 ที่กลายเป็นรถยอดนิยมในช่วงยุคนั้น

ในปี 1981 Yamaha ปล่อยรถ Cruiser รุ่นแรกในชื่อ XV750 หรือในอีกชื่อว่า Virago 750 มาพร้อมเครื่องยนต์ V-Twin สี่จังหวะขนาด 750cc และในปี 1984 รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha ที่ดัดแปลงจากรถแข่งในสนาม กลายมาเป็นรถวิ่งบนท้องถนน ก็เปิดตัวเป็นครั้งแรกนั่นก็คือรุ่น RSV500R ซึ่งมีต้นแบบมาจากรถรุ่น YZR500 ที่อดีตนักแข่ง MotoGP ระดับตำนานยุคก่อน MotoGP อย่าง Kenny Roberts เคยขี่ และยังเป็นรถที่ทำขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงสนามสุดท้ายที่แข่งขันและคว้าแชมป์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะยุติบทบาทในฐานะนักแข่งรายการนี้เมื่อปี 1983 ซึ่งเจ้า RSV500R คันนี้ให้เครื่องยนต์ 4 สูบวี 2 จังหวะ 500cc

ในปีต่อมา ปี 1985 Yamaha เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่สมรรถนะสูงกว่าเดิม และมีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กันนั่นก็คือ FZ750 มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 4 จังหวะ 750cc และเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้คือฝาสูบที่มีถึง 5 วาล์ว และอีกรุ่นหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ RX-Z รถเน็คเก็ตในตำนาน พร้อมเครื่องยนต์สูบเดียว 2 จังหวะ 133cc และผลิตออกมาหลายต่อหลายรุ่น มีความเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ จนสิ้นสุดการผลิตไปในปี 2011

Yamaha YZF-R1 (1998)
กระโดดข้ามมาจนถึงปี 1995 Yamaha ก่อตั้งแบรนด์ใหม่เพื่อเจาะกลุ่มตลาดรถ Cruiser ในสหรัฐอเมริกา Star Motorcycles และในปี 1998 Yamaha เริ่มเจาะกลุ่มตลาด 4 สูบเรียงขนาด 1,000cc ด้วยการเปิดตัว YZF R1 โฉมแรก แถมยังดีไซน์ชุดเกียร์ให้สั้นลง ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
ผ่านมาจนถึงยุค 2000 Yamaha ก่อตั้งฐานการผลิตเพิ่มที่ประเทศฟิลิปปินส์ และผ่านมาจนถึงปี 2015 Yamaha ลงทุนไปทั้ง 150 ล้าน USD หรือ 5 พันล้านบาท เพื่อตั้งฐานการผลิตในเขตท่าเรือกาซิม นครการาจี ประเทศปากีสถาน และในเดือนตุลาคม ปี 2017 Yamaha เข้าซื้อแผนกผลิตเครื่องยนต์ขนาดเล็กของ Subaru ซึ่งเครื่องยนต์ว่ามานี้ก็เอาไว้ใช้กับเครื่องตัดหญ้า เครื่องปั่นไฟ และปั๊มน้ำ พร้อมกับขายภายใต้แบรนด์ Yamaha นอกจาก Yamaha จะผลิตรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ก็ยังมีผลิตอย่างอื่นอีกเยอะแยะอยู่เหมือนกันครับเช่น รถ ATV ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ยุค 80, สโนว์โมบิล, เรือยนต์, เรือใบ, เจ็ทสกี

Fabio Quatararo (ซ้าย) และ Alex Rins (ขวา) สองนักแข่ง MotoGP จากทีม Monster Energy Yamaha MotoGP Team
ในส่วนของวงการมอเตอร์สปอร์ตนั้นหลายๆ คนต่างก็รู้กันว่า Yamaha เป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่แจ้งเกิดมาตั้งแต่ผลิตรถรุ่นแรกๆ โดยในปัจจุบันที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ MotoGP ที่ Yamaha ฟอร์มทีมโรงงานขึ้นมาตั้งแต่ปี 1999 ก่อนเข้าสู่ยุค MotoGP ประมาณ 1 ปี และนักแข่งคู่แรกที่เซ็นสัญญาเข้าทีมก็คือ Max Biaggi และ Carlos Checa

Valentino Rossi
และยุคที่เป็นตำนานขนาดว่า โลกต้องจดจำนั่นก็คือยุคของ VR46 นั่นเอง เมื่อ Valentino Rossi เข้ามาขี่รถ YZR-M1 ให้กับทีมเมื่อปี 2004 และคว้าแชมป์ฤดูกาลในปีนั้นทันที และเป็นเจ้าของแชมป์ 9 สมัย จนยุติบทบาทนักแข่งหลังจบฤดูกาลปี 2021

Ben Spies (ปี 2009)
ในส่วนของ WorldSBK Yamaha เข้ามาแข่งขันตั้งแต่ฤดูกาลแรกสุดเมื่อปี 1988 โดยมี Ben Spies เป็นแชมป์โลกคนแรกของ Yamaha ในฤดูกาลปี 2009 และแชมป์โลกคนล่าสุดของทีมคือ Toprak Razgatlıoğlu เมื่อปี 2021

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจและควรรู้คือ Yamaha เคยทำรถยนต์มาก่อน แถมเป็นรถสปอร์ตซะด้วย โดยแผนการพัฒนารถยนต์ของ Yamaha นั้นเริ่มขึ้นจากการทดสอบรถยนต์ต้นแบบที่ชื่อ YX-30 ซึ่งเอาต้นแบบมาจากรถ MGA และใช้ออกแบบเครื่องยนต์ให้มีขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 4 จังหวะ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างจึงทำให้ไปได้ไม่สวยครับ เพราะเจอปัญหากันไม่หยุดไม่หย่อนตลอดการทดสอบ

จนในวันที่ 5 มิถุนายน ปี 1961 รถต้นแบบ YX-30 คันที่ 2 ก็ประกอบจนเสร็จ โดยจะมีการดีไซน์ตัวถังใหม่ และทำเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2 ลิตร ตามแบบของ Tice Engineering แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้เครื่องยนต์ตามที่อยากได้ เจอปัญหาอยู่เรื่อยๆ เพราะเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตยังไม่แม่นยำมากพอ โปรเจคการพัฒนารถของ Yamaha ที่ทำให้ตายยังไงก็ไม่สำเร็จสักทีทำให้เสียเงินทุนไปมหาศาลมากเลยครับ และทีมวิจัยก็ต้องถูกยุบไปในที่สุด

Nissan A550X รถต้นแบบที่ Yamaha มีส่วนร่วมในการพัฒนา
แต่ Yamaha ก็ยังไม่ยอมแพ้ และขอความร่วมมือกับ Nissan ที่อยากจะทำรถสปอร์ตเหมือนกัน และยังได้รับความร่วมมือกับ Albrecht Goertz ที่ตอนนั้นทำงานกับ BMW ช่วยกันพัฒนารถสปอร์ตออกมาเป็น A550X แต่สุดท้ายแล้วความร่วมมือนี้ก็ไม่ได้ไปต่อ ทิ้งให้ Yamaha ต้องพัฒนาโปรเจคนี้ต่อเพียงลำพัง ในขณะที่ทีมวิศวกรของ Nissan ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคนี้ก็เอามาต่อยอดจนกลายมาเป็น Nissan Silvia โฉมแรก

Toyota 2000GT
เมื่อสัญญาความร่วมมือระหว่าง Yamaha กับ Nissan หมดอายุลง ทาง Yamaha จึงหันหน้าไปหา Toyota ทันทีและเอาแบบของรถ A550X คันนี้ไปพัฒนาต่อยอดโดย Yamaha จะรับผิดชอบในเรื่องของการทำเครื่องยนต์ โรงงานและเครื่องไม้เครื่องมือก็ใช้ของ Yamaha หมดเลย จนออกมาเป็น Toyota 2000GT และนั่นทำให้ Toyota และ Yamaha มีมิตรภาพที่ดีอยู่เหมือนกัน

จนกระทั่งต้องมาหยุดชะงักจากการพัฒนารถแข่ง Toyota 7 โดยที่ Yamaha รับผิดชอบการพัฒนาแชสซีส์ ซึ่งในตอนนั้น Toyota มีเป้าหมายที่จะเอารถรุ่นนี้ไปแข่งใน Le Mans และ Canadian-American Challenge Cup แต่ในระหว่างการทดสอบที่สนามของ Yamaha นักขับ Sachio Fukuzawa ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปี 1969 Toyota ปฎิเสธการส่งมอบภาพถ่ายอุบัติเหตุครั้งนี้ให้เป็นหลักฐานกับทางตำรวจ ด้วยเหตุผลที่เป็นความลับทางการค้า และกล่าวหาว่าเป็นเพราะความผิดพลาดของ Sachio ในเวลาต่อมา Shintaro Fukuzawa พ่อของ Sachio ก็ยื่นฟ้องกับทาง Toyota ว่าประมาทเลินเล่อ และขัดขวางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างฝ่ายต่างสู้คดีกันยืดเยื้อนานมากถึง 12 ปี จนทางครอบครัว Fukuzawa ชนะคดีในปี 1981 และทาง Toyota ต้องจ่ายค่าเสียหายถึง 61 ล้านเยน
และนักแข่งอีกคนที่ต้องประสบชะตากรรมคล้ายๆ กันก็คือ Minoru Kawai โดยที่เขามาขับทดสอบที่สนาม Suzuka Circuit ในวันที่ 26 สิงหาคม 1970 และประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ นั่นจึงทำให้ Toyota กับ Yamaha ต้องแยกทางกัน และถอนตัวจากโครงการนี้ไปในที่สุด

ปี 1984 Yamaha กลับมาทำเครื่องยนต์รถแข่งใหม่ นั่นก็คือ OX66 เพื่อเอาไปใช้กับรถแข่ง Formula 2 โดยเป็นเครื่องยนต์ V6 ทำมุม 75 องศา ขนาด 2 ลิตร 330 แรงม้า ก่อนจะขยับมาทำเครื่องยนต์ OX77 สำหรับรถแข่ง Formula 3000 ในปี 1987 โดยเป็นเครื่องยนต์ V8 ทำมุม 90 องศา ขนาด 3 ลิตร ราวๆ 450 แรงม้า รวมถึงในช่วงยุคนี้เอง Yamaha ก็มีส่วนร่วมในการทำเครื่องยนต์ร่วมกับ Ford อีกด้วย เช่น เครื่องยนต์ Zetec-SE สำหรับรถยนต์ Ford หลายๆ รุ่น

จนกระทั่งในปี 1989 Yamaha ก็ทำเครื่องยนต์ OX88 สำหรับรถแข่ง Formula 1 ป้อนให้กับทีม West Zakspeed Racing เอาไปใส่ในรถ Zakspeed 891 โดยเป็นเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.5 ลิตร ผลตอบรับที่ได้นั้นกลายเป็นว่าน่าผิดหวังมาก เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา และทีม Zakspeed ก็ถอนตัวไปในปีต่อมา ก่อนที่ในเวลาต่อมาในปี 1991 Yamaha ก็ย้ายไปทำเครื่องยนต์ให้กับทีม Brabham ออกมาเป็นเครื่องยนต์ OX99 โดยเป็นเครื่องยนต์ V12 ทำมุม 70 องศาขนาด 3.5 ลิตร พละกำลังสูงตั้งแต่ 560-700 แรงม้า และยังเป็นเครื่องยนต์ที่รับผิดชอบโดยทีมพิเศษที่ Yamaha ตั้งขึ้นสำหรับ Formula 1 โดยเฉพาะ
ในปี 1992 Yamaha ก็เอาเครื่องยนต์นี้ไปใส่รถของทีม Jordan และตั้งแต่ปี 1993-1996 Yamaha ก็หันไปทำเครื่องยนต์ให้กับทีม Tyrell ซึ่งก็แน่นอน อยู่ท้ายตารางยาวๆ ก่อนจะย้ายไปทำเครื่องยนต์ให้กับทีม Arrows ในปี 1997 เป็นปีสุดท้าย และยุติบทบาทใน Formula 1 ไปในที่สุด

Yamaha OX99-11
ในช่วงแรกๆ ที่ Yamaha ก้าวเข้าสู่ Formula 1 เป็นช่วงที่กระแสเอารถ Formula 1 มาทำเป็นรถซูเปอร์คาร์ที่สามารถวิ่งได้บนท้องถนนกำลังมา จากการมาถึงของ McLaren F1 นั่นจึงทำให้ Yamaha อยากทำบ้างจึงได้มีการ Assign งานให้ทีม Ypsilon Technology และ IAD ออกแบบรถของตัวเอง และยังได้ Takuyu Yura เจ้าของบริษัทผลิตรถแข่ง Mooncraft มาคุมงานออกแบบ จนออกมาเป็นรถหน้าตาตลกๆ ที่มีชื่อว่า OX99-11 ซึ่งเป็นรถที่ขึ้นจากแชสซีคล้ายๆ กับ F1 เลยครับ แต่ด้วยความที่อยากให้เป็นรถ 2 ที่นั่ง จึงมีเบาะเล็กๆ อยู่ด้านหลังคนขับ มีพละกำลังสูงถึง 400 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 3 วินาที และ Yamaha ตั้งใจจะผลิตขายออกมา 50 คัน และเปิดให้จองในปี 1994 แต่สุดท้ายก็หลับไปอีกจนได้ เพราะวิกฤตเศรษฐกิจญี่ปุ่นจึงทำให้ Yamaha ต้องถอยออกมาจากโครงการนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้รถที่ผลิตจริงมีเพียงต้นแบบจำนวน 3 คันเท่านั้น

Yamaha MOTIV

Yamaha Sport Ride Concept

Yamaha Cross Hub Concept
วันเวลาผ่านไปจนถึงงาน Tokyo Motor Show ปี 2013 Yamaha เปิดตัวรถ MOTIV ซึ่งเป็นรถคอนเซ็ปท์ ซิตี้คาร์ ที่ผลิตจากแชสซีที่มีชื่อว่า iStream ซึ่งเป็นผลงานของ Gordon Murray พ่อมดแห่งวงการยานยนต์นี่เอง และในงานเดียวกันปี 2015 Yamaha ก็เปิดตัวรถ Sports Ride Concept จนมาถึงปี 2017 Yamaha ก็เปิดตัวรถ Cross Hub Concept ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่วางที่นั่งคนขับอยู่ตรงกลาง

จนในปี 2022 Yamaha ก็เข้ามามีส่วนร่วมกับ Subaru เพื่อพัฒนารถแข่งไฟฟ้า STI E-RA โดยการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า และ อินเวอร์เตอร์มาให้ถึง 4 ตัวให้พละกำลังรวม 1,100 แรงม้า เพื่อใช้ในการสร้างสถิติทำเวลาต่อรอบที่สนาม Nuburgring โดยเฉพาะ และตั้งเป้าไว้ว่าจะทำเวลาให้ต่ำกว่า 6 นาที 40 วินาที และเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา Yamaha กลายมาเป็นซัพพลายเออร์ให้กับทีมแข่งรถสัญชาติอังกฤษ Lola Cars ที่ก้าวเข้าสู่สนามแข่งขัน Formula E โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025

จากรากฐานดนตรีสู่จักรยานยนต์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก ยืนยันวิสัยทัศน์แห่งความเป็นเลิศและความกล้าท้าทาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้โลกก้าวไปข้างหน้า สำหรับสกู๊ปนี้พวกเราขอฝากติดตาม Realtime Car Magazine ด้วยนะครับ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
คาลเท็กซ์ เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดใช้พลังงาน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เยี่ยมชมบูธร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนลดใช้พลังงานที่พัฒนาโดยวิสาหกิจชุมชนในเขตภาคอีสาน ซึ่งได้รับคัดเลือกให้จัดแสดงและจำหน่ายผ่านร้านกาแฟในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ในจังหวัดอุดรธานี ที่ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดใช้พลังงาน โดยใช้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นช่องทางจัดจำหน่าย ภายใต้แนวคิด “กินพี่…แล้วหมีหนาว” จัดโดย สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้มีการซื้อขายสินค้าชุมชนลดใช้พลังงานในวงกว้างผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มากขึ้น ยกระดับสินค้าไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับวิสาหกิจชุมชน โดยมี นายชาแชงค์ นานาวาติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการพาณิชย์ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ซึ่งมีบริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือ และเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อ “คาลเท็กซ์” ในประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและตัวแทนชุมชน ให้การต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ณ ลานกิจกรรมศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) อาคาร C เมื่อเร็ว ๆ นี้
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
โตโยต้าเปิดเวทีให้นักศึกษาวิศวกรรมรุ่นใหม่ ประชันไอเดียสร้างสรรค์ ใน “TOYOTA YOUNG ENGINEER CAR CONTEST สตาร์ตแพชชัน ปั้นไอเดีย” ชิงทุนรวมกว่า 600,000 บาท

นายสมุทร ตังคชวนะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถยนต์นั่ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเปิดโครงการ “TOYOTA YOUNG ENGINEER CAR CONTEST สตาร์ตแพชชัน ปั้นไอเดีย” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อมุ่งเดินหน้าสนับสนุนศักยภาพคนรุ่นใหม่ ผ่านการเชิญชวนนิสิตนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ร่วมประกวดออกแบบชุดแต่งรถยนต์ ที่ผสานดีไซน์สวยงาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์ พร้อมหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ที่เหมาะสม ชิงทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ณ TOYOTA ALIVE ถนนบางนา-ตราด กม.3
โครงการ “TOYOTA YOUNG ENGINEER CAR CONTEST สตาร์ตแพชชัน ปั้นไอเดีย” คือโครงการที่โตโยต้าได้เริ่มจัดขึ้นเป็นปีแรกใน พ.ศ. 2568 โดยได้ทำการเปิดรับสมัครนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อให้โครงการนี้เป็นเวทีสำคัญในการปลุกพลังและแรงบันดาลใจของนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะความเข้าใจในศาสตร์ด้านอากาศพลศาสตร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาและออกแบบรถยนต์สมัยใหม่ นำไปสู่การสร้างสรรค์ชุดแต่งที่มีทั้งความสวยงามและสมรรถนะที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานยุคใหม่อย่างแท้จริง

ในกิจกรรมครั้งนี้ โตโยต้าได้นำรถยนต์ยอดนิยม 2 รุ่น ได้แก่ YARIS ATIV (รถยนต์แบบซีดาน 4 ประตู) และ YARIS CROSS (รถยนต์แบบ SUV 5 ประตู) มาเป็นโจทย์หลักในการออกแบบ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพทางวิศวกรรมควบคู่กับแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสามารถต่อยอดสู่ธุรกิจหรือนวัตกรรมด้านยานยนต์ในอนาคต
สำหรับเกณฑ์การตัดสิน และการให้คะแนน ทางคณะกรรมการจะพิจารณาในหัวข้อต่างๆ ประกอบด้วย
1. Styling โดยมีหัวข้อในการให้คะแนนย่อย ดังนี้
1.1 Design & Perspective มุ่งเน้นให้ผู้ออกแบบชิ้นส่วนนำเสนอที่มาและคอนเซปต์ รวมถึงความคิดสร้างสรรค์และความโดดเด่นของชิ้นงาน
1.2 Regulations โดยคณะกรรมการจะให้คะแนนทั้งในส่วนของจำนวนชิ้นแต่ง ที่ครบตามกำหนด จำนวน 5 ชิ้น, น้ำหนักของชิ้นงานทุกชิ้นรวมไม่เกิน 10 กิโลกรัม และขนาดชิ้นงานโดยรวมยื่นจากตัวรถไม่เกิน 10 เซนติเมตร
1.3 User Value เพื่อประเมินว่าชุดแต่งที่สร้างขึ้นสามารถใช้งานได้ในสภาวะการขับขี่จริง
2. Engineering ประกอบด้วย การวัดค่า Drag Coefficient และการวัดค่า Downforce
3. Product Development Plan ความสอดคล้องของการตั้งเป้าหมายการออกแบบและผลลัพธ์

โดยในปี 2568 ได้มีมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ จำนวน 7 แห่งที่แสดงความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- มหาวิทยาลัยสยาม
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
- โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
นอกจากทุนการศึกษาแล้ว ผู้เข้าร่วมยังมีโอกาสพิเศษในการเข้าร่วม หลักสูตรอบรมขับขี่จาก Toyota Gazoo Racing Academy Thailand เพื่อพัฒนาทักษะด้านยานยนต์อย่างรอบด้าน
- รายละเอียดของรางวัล แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ YARIS ATIV และ YARIS CROSS
รุ่นละ 3 รางวัล รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล ชิงทุนการศึกษามูลค่ารวม 600,000 บาท ดังนี้
1. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ในแต่ละรุ่น
ทุนการศึกษา 150,000 บาท พร้อมเข้าร่วมโครงการ Toyota Gazoo Racing Academy Thailand
2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่1 ในแต่ละรุ่น
ทุนการศึกษา 100,000 บาท
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในแต่ละรุ่น
ทุนการศึกษา 50,000 บาท

สำหรับกิจกรรมนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยเติมเต็มการเรียนรู้และยกระดับผลงานให้มีคุณภาพสูงสุดแล้ว โตโยต้ายังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม การออกแบบชุดแต่งสำหรับรถยนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านซอฟแวร์จาก CADFEM (Thailand) ผู้นำด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่ลงทุนในสตาร์ทอัพและผลักดันเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยดำเนินการในกว่า 40 ประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการแต่งรถ อาทิ คุณเบียร์ ใบหยก และคุณแบงค์ Streetmetal มาร่วมเป็นที่ปรึกษาและกรรมการในกิจกรรมครั้งนี้
ทั้งนี้ โตโยต้าเชื่อมั่นว่าแนวคิดสร้างสรรค์จากคนรุ่นใหม่ในวันนี้ คือพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในอนาคต
ขอเชิญทุกท่านร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้กับเหล่านักออกแบบรุ่นใหม่ ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 5 ตุลาคม – 13 ธันวาคม 2568
ผ่านทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ Toyota Motor Thailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ไทยยาม
าฮ่ามอเตอร์ คว้าประกาศนียบัตรการจัดการ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมี ประสิทธิภาพ ผ่านมาตรฐานสากล ISO 14064-1 : 2018 Greenhouse Gases ยกระดับองค์กรมุ่งสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่ อการเติบโตอย่างยั่งยืน 
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นางสาวบัวทิพย์ จันทร์ดำรงกุล ผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน วางแผน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ นายศราวุธ ศุภรัตนชาติพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการให้การรับรอง บริษัท บูโร เวอริทัส ประเทศไทย จำกัด ในการรับมอบประกาศนียบัตรรับรองระบบมาตรฐาน ISO 14064-1 : 2018 Greenhouse Gases การันตี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ว่าเป็นองค์กรที่มีการจัดการ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนใน Scope 1 – 2 ในปี พ.ศ. 2578 และ Scope 3 ในปี พ.ศ. 2593 ถือเป็นบริษัทเบิกร่องเจ้าแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์สองล้อในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้
โดยความสำเร็จในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โปร่งใส รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร และทีมงานที่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์สองล้อที่ไม่เพียงแค่มุ่งสร้างผลประกอบการทางธุรกิจ แต่ยังยืนหยัดบนพื้นฐานของความยั่งยืน ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม
โดยการรับรางวัลประกาศนียบัตรในครั้งนี้มีขึ้น ณ อาคารสำนักงาน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
DCIM100MEDIADJI_0016.JPG


































































































































