-
เอ็มจี เปิดตัว NEW MG S5 EV ตอบโจทย์ SUV มหาชน ชูจุดเด่น คุ้มค่า พร้อมความมั่นใจ ใช้ยาว ไร้กังวล
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย นำเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าให้กับผู้บริโภค พร้อมเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวี เปิดตัวโกลบอลโมเดลรุ่นที่ 2 ของปี ด้วย NEW MG S5 EV บุกตลาดและสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่ม B-SUV ไฟฟ้า กับจุดเด่น “ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จไว นั่งสบาย พร้อม Lifetime Warranty” ตอกย้ำการเป็น e-SUV ที่คุ้มค่าและครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนไทย ด้วยยนตรกรรมไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ
NEW MG S5 EV นับเป็น e-SUV รุ่นแรกที่พัฒนาบน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายเซกเมนต์ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยเริ่มใช้งานครั้งแรกใน NEW MG4 ELECTRIC และได้รับการพัฒนาช่วงล่างให้เหมาะกับรูปแบบ SUV มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและมั่นใจในทุกเส้นทาง ภายใต้แนวคิด “Make Anywhere Possible” ที่เข้ามายกระดับมาตรฐานรถ e-SUV ในประเทศไทยให้ก้าว ไปอีกขั้น ซึ่งรถรุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง “โกลบอลโมเดล” ที่จะทำตลาดในหลายประเทศทั่วโลก รถรุ่นนี้ยังเป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่ เอ็มจี ได้เริ่มเดินสายการผลิตในประเทศไทย (CKD) ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล รองรับทั้งตลาดในประเทศและแผนการส่งออกในอนาคตอีกด้วย
NEW MG S5 EV มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า (180 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที ถือเป็น e-SUV ที่มีการตอบสนองที่ฉับไว ขับสนุก นุ่มนวล ทั้งยังให้การควบคุมที่แม่นยำด้วยระบบพวงมาลัย Dual Pinion ที่ทำให้การควบคุมการขับขี่มีความคล่องตัว ผสานการทำงานของระบบช่วงล่างอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า และ 5-Link Suspension ด้านหลัง ที่ปรับจูนมาเป็นพิเศษ ทำให้เกาะถนนดียิ่งขึ้น ลดแรงสั่นสะเทือนระหว่างการขับขี่ พร้อมเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคมแม้ในความเร็วสูง มีการออกแบบให้ กระจายน้ำหนักที่สมดุลระหว่างล้อหน้าและล้อหลังในอัตรา 50:50 ควบคู่กับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (Low Centre of Gravity) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ลดอาการโคลง และเสริมความมั่นคงขณะเข้าโค้ง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ One Pedal ที่ให้คุณเร่งและชะลอความเร็วได้ในแป้นคันเร่งเดียว มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด ช่วยการใช้งานสั่งการต่าง ๆ ภายในรถเป็นเรื่องง่าย และยังมีจุดเด่นที่ขับได้ไกลยิ่งขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ NMC ขนาดความจุ 64 kWh ให้ระยะทางการขับขี่ 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ที่สำคัญ รถรุ่นนี้ ยังมาพร้อมความมั่นใจในการใช้งานในระยะยาวด้วยการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน ทั้งหมดนี้ ทำให้ NEW MG S5 EV เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการ e-SUV ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และสามารถตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างดีเยี่ยม
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “NEW MG S5 EV ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของ เอ็มจี ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะ เทคโนโลยี และความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดย เอ็มจี มีกำหนดส่งมอบรถให้ลูกค้าภายในเดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป และเนื่องจากรถรุ่นนี้เป็น “โกลบอลโมเดล” หลังจากที่เปิดตัวและประกาศราคาที่ประเทศไทย จะมีการทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องในสหราชอาณาจักร ประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป เป็นต้น การเข้ามาทำตลาดของ NEW MG S5 EV รุ่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ที่ต้องการให้คนไทยได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ควบคู่กับการสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ เอ็มจี ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ตรงจุดให้กับผู้บริโภคชาวไทยและยกระดับยนตรกรรมไฟฟ้าให้มีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังตอกย้ำถึงภาพความเอาจริง เอาจังของ เอ็มจี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่ไม่เพียงแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังให้ความพร้อมในเรื่องระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าและดูแลลูกค้าในระยะยาว”
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและทดลองขับเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ e-SUV ในมุมมองใหม่ กับ NEW MG S5 EV ได้ที่บูธ เอ็มจี ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 6 เมษายน 2568 หรือ ที่โชว์รูมและศูนย์บริการคุณภาพของ เอ็มจี ทั้ง 140 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
-
News Motocycle1 Min Read
โรยัล เอ็นฟีลด์ ยกทัพรุ่นเก๋า Classic 350 ไว้ในงาน Bangkok International Motor Show 2025
โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก ยกขบวนสีใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์อันมีเสน่ห์เหนือกาลเวลารุ่นที่ขายดีที่สุด และเป็นไอคอนของแบรนด์ นั่นคือ Classic 350 ฉบับปรับโฉมและฟีเจอร์ใหม่มาไว้ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 ด้วยความสำเร็จอันโดดเด่นจากการคว้ารางวัลล่าสุดถึง 3 รางวัลอันทรงเกียรติจาก Bike of The Year 2025 และ 2 รางวัลอันทรงคุณค่าจาก Asia’s Prestigious Brand Honor โรยัล เอ็นฟีลด์ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านการออกแบบเหนือกาลเวลา การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่เข้าถึงได้ และนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมด้วยการจับมือกับแบรนด์อุปกรณ์สื่อสารอย่าง SENA 50S Mesh Communicator เป็นครั้งแรกในประเทศไทย!
โรยัล เอ็นฟีลด์ Classic 350 โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เหนือกาลเวลา ที่มาพร้อมกับสัดส่วนที่ลงตัว ทำให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์โรยัล เอ็นฟีลด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ลูกค้าชาวไทย ด้วยการออกแบบที่ไร้เทียมทาน สไตล์ที่โดดเด่น งานฝีมือที่เหนือชั้น และเอกลักษณ์ที่หาได้ยาก อีกทั้งการผสมผสานระหว่างวิศวกรรมสมัยใหม่และงานฝีมือแบบดั้งเดิม Classic 350 จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน รวมถึงทริปสั้น ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์
ภายในงานจะได้สัมผัสกับการเปิดตัวสีสันใหม่สุดตื่นตาตื่นใจสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นไอคอนิกอย่าง Classic 350 ด้วยการสานต่อตำนานแห่งความสง่างามและเสน่ห์ Classic 350 จะมาพร้อมกับ 5 เฉดสีใหม่ ได้แก่ Medallion Bronze, Commando Sand, Gun Grey, Stealth Black และ Emerald โดยผสานรวมการอัปเกรดคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพอย่างลงตัว เช่น ไฟ LED รอบคัน ไฟบอกตำแหน่งเกียร์บนแผงหน้าปัด ก้านคลัตช์และเบรกที่ปรับได้เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้นและช่องชาร์จ USB Type C ในขณะที่ยังคงรักษาความสวยงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ รุ่นท็อปอย่างสี Emerald, Gun Grey และ Stealth Black จะมาพร้อมระบบนำทางTripper เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และไฟLED รอบคัน
นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวสีใหม่ของ Super Meteor 650 ที่ทุกคนรอคอย รถมอเตอร์ไซค์ครูซเซอร์เรือธงที่ทรงพลังและมีสไตล์ เปิดตัวสีใหม่อีก 2 สีและพร้อมที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับโรยัล เอ็นฟีลด์ในเซกเมนต์ 650cc
พบกับ โรยัล เอ็นฟีลด์ ที่บูธ M8 ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 เพื่อสัมผัสเฉดสีใหม่ของ Classic 350 อย่างใกล้ชิด พร้อมพบกับความร่วมมือสุดพิเศษ Royal Enfield x SENA และเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมแท้สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่จะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของคุณให้เหนือชั้น
วางจำหน่ายในประเทศไทย ด้วยราคาดังนี้:
สี ราคา (บาท) Medallion Bronze 147,500.- Commando Sand 152,500.- Gun Grey, Stealth Black 160,500.- Emerald 161,500.- -
DARE TO LIVE MORE: LAMBORGHINI URUS SE REDEFINES LUXURY SUPER SUV DYNAMIC DRIVE EXPERIENCE ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ปลุกแพชชั่นชาวกระทิงดุ กับกิจกรรม Test Drive สัมผัสความทรงพลังครั้งแรกของ Urus SE ซูเปอร์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกจากลัมโบร์กินี
ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งปี DARE TO LIVE MORE: LAMBORGHINI URUS SE REDEFINES LUXURY SUPER SUV DYNAMIC DRIVE EXPERIENCE เติมเต็มประสบการณ์การขับขี่พร้อมปลุกแพชชั่นของเหล่าแฟนพันธุ์แท้กระทิงดุในประเทศไทยให้ร้อนระอุ กับกิจกรรม Test Drive เพื่อสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของจ้าวแห่งสมรรถนะที่มาพร้อมความทรงพลังเหนือระดับครั้งแรกของ Urus SE ซูเปอร์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกจากลัมโบร์กินี หลังเปิดตัวให้ยลโฉมอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยสถานที่ทดสอบจัดขึ้นบนพื้นที่สุดชิลบริเวณอิมแพ็ค เลคไซด์ 1 ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ซึ่งยังได้รับการสนับสนุนขนมและเครื่องดื่มสุดอร่อยจาก 6 Zero Garage & Roaster และโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย (Lenôtre Culinary Arts School Thailand) ซึ่งนับเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้แฟนพันธุ์แท้ลัมโบร์กินีเข้าร่วมสัมผัสความทรงพลังอย่างคับคั่ง อาทิ วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์, ทนง ลี้อิสสระนุกูล, ธีระ ซอโสตถิกุล, ปริญ มาลากุล ณ อยุธยา, วสุ วิรัชศิลป์, ฐิตวัฒน์ วัชโรทัย, ปิติพัฒน์ ปรีดานนท์, เอกชัย สุขุมวิทยา, ณวพรรณ พรประภา, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา เมื่อเร็วๆ นี้
โดยภายในงานผู้ร่วมกิจกรรมต่างเอ็นจอยและผ่อนคลายไปกับการต้อนรับแสนอบอุ่นอีกทั้งบรรยากาศวิวทะเลสาบ ณ บริเวณโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ก่อนได้เวลาออกไปสัมผัสสมรรถนะอันเยี่ยมยอดของ URUS SE ที่การันตีความสนุกแบบครบครันและความปลอดภัยสูงสุดโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญการขับขี่รถยนต์
ลัมโบร์กินี หรือ Lamborghini Instructor ที่คอยดูแลและให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การทดสอบเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งนี้ URUS SE นับเป็นรถยนต์ซูเปอร์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ในเวอร์ชั่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา นำเสนอดีไซน์รถยนต์แนวใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ที่เหนือชั้น และระบบส่งกำลัง 800 CV ที่ไร้คู่แข่ง ผสานหัวใจสำคัญทั้ง 2 ด้านของแบรนด์อย่างระบบการเผาไหม้และระบบไฟฟ้าเพื่อให้ได้แรงบิดและกำลังเครื่องสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพและพลศาสตร์ของยานยนต์ให้โลดแล่นได้อย่างเต็มกำลังบนทุกเส้นทางและการขับขี่ทุกรูปแบบ มาพร้อมเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 4.0 ที่ถูกนำมาพัฒนาใหม่เพื่อให้สามารถทำงานกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 312 กม./ชม. มีมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร ซึ่งติดตั้งอยู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 ระดับ ช่วยบูสต์เครื่องยนต์สันดาป V8 ทำให้ Urus SE เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบไฟฟ้า 100% ที่สามารถเดินทางได้ไกลกว่า 60 กม.เมื่อขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้า (EV Mode) เพียงอย่างเดียว
ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
ETON GROUP ขนขบวนรถนำเข้าสุดหรู MPV – SUV ลุยงานมอเตอร์โชว์ 2025 อัดแคมเปญแน่น แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl ชื่อดังจากญี่ปุ่น
ETON GROUP (อีตั้น กรุ๊ป) ผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมนำเข้าสำหรับครอบครัวและผู้บริหาร พร้อมศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร นําโดย คุณพีรศุษม์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการและ คุณอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อํานวยการฝ่ายขายและการตลาด ขนขบวนรถนำเข้าสุดหรู ลุยงานโชว์ครั้งใหญ่ต้นปี กับงาน Bangkok International Motor Show 2025 เริ่มแล้วตั้งแต่ – 6 เมษายน นี้ ณ Forum Hall 4 เมืองทองธานี อัดแคมเปญแน่น แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl ชื่อดังจากญี่ปุ่น
ETON GROUP (อีตั้น กรุ๊ป) ลุยงานโชว์ครั้งใหญ่ต้นปี กับงาน Bangkok International Motor Show 2025 ยกขบวนรถยนต์นำเข้า พร้อมมอบสิทธิพิเศษมากมาย ภายใต้แคมเปญมอเตอร์โชว์ 2025 ที่สุดของความคุ้มค่า ยนตกรรมสำหรับครอบครัว ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง มาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสำหรับรถยนต์ทุกคันที่จองในช่วงแคมเปญดังกล่าว รับทันที…
- รถ MPV ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท
- ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปีเต็ม (Alphard / Vellfire)
- ฟรี ชุดแต่ง Black Pearl แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น
- รับประกัน ETON HYBRID WARANTY แบตเตอรี่ไฮบริด 5 ปี ระบบไฮบริด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- ฟรี! เข้าร่วมเป็นสมาชิก ETON FAMILY
- มีรถพร้อมส่งมอบทุกรุ่น
พิเศษ! เมื่อท่านจองรถกับอีตั้น ไม่ว่าจะรุ่นใด ภายในงาน มอเตอร์โชว์ 2025 รับ ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม. หรือเลือกรับ POPMART THE MONSTERS LABUBU-I FOUND YOU Zimomo
โดยรถที่นำเข้าร่วมงานนั้น อีตั้น กรุ๊ป จะเป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ครอบครัวทุกขนาด ทั้งครอบครัวใหญ่และครอบครัวขนาดกลาง รวมถึงรถยนต์ SUV สไตล์สปอร์ต งานนี้ อีตั้น กรุ๊ป ได้มอบสิทธิพิเศษทั้งลด ทั้งแถม กับราคาสุดว้าว อาทิเช่น
กลุ่ม MPV – รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดใหญ่
- Toyota Alphard 40 MPV ยอดนิยม สะท้อนความสมบูรณ์ ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความสง่างาม หรูหรา ภายในห้องโดยสารติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 3.xx ล้านบาท แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น
- Toyota Vellfire 40 รถยนต์ MPV คู่แฝด Alphard ที่หรูหราผสมผสานความสปอร์ต ด้วยกระจังหน้าที่ให้ความสปอร์ต รูปลักษณ์ภายนอกดูเท่ สวยทรงพลัง แต่ภายในตกแต่งแบบ Luxury ให้ความสะดวกสบายและครอบคลุมทุกการใช้สอย ราคาพิเศษเฉพาะในงาน แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น
กลุ่ม MINI MPV – รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดกลาง
- Honda Step Wagon รถครอบครัวสไตล์มินินอลทรงกล่อง เรียบง่าย แต่ดูโดดเด่น เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 21.3 กม. ประตูข้างแบบสไลด์ไฟฟ้า ขับขี่คล่องตัว ช่วงล่างเยี่ยม พร้อมออฟชั่นความปลอดภัยแบบจัดเต็ม และยังมีสีพิเศษให้เลือกมากมาย ผ่อนเริ่มต้นเพียง 17,xxx บาท แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น
- Toyota Voxy รถครอบครัวขนาดกลาง ให้ลุคเท่ สปอร์ต โฉบเฉี่ยว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน ผ่อนเริ่มต้นเพียง 17,xxx บาท แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น
- Toyota Noah รถครอบครัวขนาดกลาง รุ่นเริ่มต้น ในราคาประหยัดไม่ถึง 2 ลบ. เป็นรถขนาด 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับหรับครอบครัวขนาดกลาง ที่มาในรูปโฉมแบบสปอร์ต โฉบเฉี่ยว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยของการก้าวขึ้นห้องโดยสารด้วยบันได Universal Step ยื่นออกมาโดยอัตโนมัติ ขับปลอดภัย Toyota Safety Sense ราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท แถมฟรีชุดแต่ง Black Pearl แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น หรือเลือกเป็นล้อแม็กสุดเท่
ทั้งหมดนี้ ETON GROUP (อีตั้น กรุ๊ป) พร้อมรอให้ท่านจะได้พิสูจน์ ได้ที่งาน Bangkok International Motor Show 2025 เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน นี้ ณ Forum Hall 4 เมืองทองธานี หรือสอบถามรายละเอียด โทร. 02-7899998 หรือ www.eton-import.com, https://www.facebook.com/ETONIMPORTGROUP, Instargram: etongroup และ Line: @etongroup
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
OMODA & JAECOO เผยโฉมยนตรกรรมสุดล้ำ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System)พร้อมประกาศแผนเตรียม Chery บุกตลาดไทย ปลุกพลังแห่ง New Energy เพื่ออนาคตใหม่ของวงการยานยนต์ ในงาน Motor Show 2025
OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการยานยนต์ไทยด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมสุดล้ำของ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) นวัตกรรม Super HEV + EV เอสยูวีสุดล้ำที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย ไปจนถึงภาพรวมการตลาดของ OMODA & JAECOO และแผนการนำ Chery แบรนด์ชั้นนำระดับโลกมาการทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “NEW ENERGY, NEW ECO, NEW ERA” สะท้อนความมุ่งมั่นในการร่วมสร้างระบบนิเวศพลังงานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงโลกอย่างยั่งยืน พร้อมยกทัพเทคโนโลยียนตรกรรมสุดล้ำและดีไซน์ทันสมัยจากโมเดลใหม่ล่าสุดหลากหลายรุ่นทั้งจาก OMODA & JAECOO และ Chery มาจัดแสดงให้ทุกท่านได้สัมผัส รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี บูธ OMODA & JAECOO หมายเลข A23
OMODA & JAECOO มุ่งเน้นที่การสร้างการรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างตรงจุด โดยได้นำเสนอยนตรกรรมที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล อย่าง OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในประเทศจีน) จากความสำเร็จของ OMODA & JAECOO ในตลาดไทยที่ผ่านมา ได้เป็นแรงผลักดันสำคัญให้บริษัทแม่อย่าง Chery Automobile ตัดสินใจเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว โดยจะเข้ามาเพิ่มฐานลูกค้าและเครือข่ายการตลาดที่ OMODA & JAECOO สร้างไว้ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น
“จากความสำเร็จของ OMODA & JAECOO ในตลาดไทยที่ผ่านมา ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเตรียมนำแบรนด์ Chery ที่เป็นแบรนด์แม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle) ที่มีคุณภาพสูงและเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในทุกกลุ่ม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการที่เป็นเลิศและเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุม การเข้ามาของ Chery ในครั้งนี้จะถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเราพร้อมที่จะนำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำการส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของจีน มาปรับใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในตลาดไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงโรงงานการผลิตที่จังหวัดระยองที่เริ่มรันการผลิตได้ภายในไตรมาส 3 ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในประเทศไทย” ฉี เจี๋ย ประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าว
โดยในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งนี้ Chery จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นมาจัดแสดงเป็นครั้งแรก ได้แก่ Chery Arrizo 8L รถซีดานปลั๊กอินไฮบริดสุดลักชัวรี่, Chery Tiggo 9 เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดสำหรับครอบครัว และ Chery Tiggo Cross คอมแพคเอสยูวีไฮบริดสำหรับคนรุ่นใหม่ การขยายตลาดในประเทศไทยของ Chery นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ผ่านหลักการ “Green, Technology, Family, Companionship” และให้ความสำคัญ
กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกเปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) อย่างยิ่งใหญ่อลังการด้วยออเครสตราจากวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ
ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ OMODA&JAECOO ได้เปิดตัว JAECOO 7 SHS อย่างอลังการด้วยบทเพลงบรรเลงออเครสตราจาก
วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ สมศักดิ์ศรีแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำ ด้วยนิยาม Classic Beyond Classic สร้างความตื่นตาตื่นใจและเป็นไฮไลท์สำคัญของงานได้อย่างน่าชื่นชมJAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ) นวัตกรรม Super HEV + EV รถปลั๊กอินไฮบริดเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำและดีไซน์ทันสมัย เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile ตอบสนองทุกความต้องการด้วยสมรรถนะและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ที่พลิกโฉมการทำงานของระบบ Plug in Hybrid ให้เปลี่ยนไปจากเดิม ประหยัดกว่าด้วยค่าบำรุงรักษาที่คุ้มค่า เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) ทำให้การทำงานระหว่างระหว่าง EV และ HEV เป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ชม. เมื่อมีแบตเตอรี่มากกว่า 25% พละกำลังสูงสุด 347 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 525 นิวตัน-เมตร ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูง (Thermal Efficiency) ช่วยให้เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้ในสภาวะการใช้งานหนัก และมอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมมากกว่า 21.28 กิโลเมตรต่อลิตร ด้วยระบบที่สามารถปรับการจ่ายเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่แบบเรียลไทม์ ทำให้การใช้พลังงานทุกหยดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ JAECOO 7 SHS มอบสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ที่ไกลกว่า 1,300 กิโลเมตร โดยมีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และแบตเตอรี่ของ JAECOO 7 SHS มีความปลอดภัยสูงด้วยระบบป้องกันแบตเตอรี่รอบด้านทั้งการทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำ พร้อมระบบป้องกันด้วยการปิดเครื่องภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชนช่วยตัดแหล่งจ่ายไฟได้อย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ในกรณีฉุกเฉินด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกได้ 3.3 กิโลวัตต์ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย
พิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “JAECOO 7 SHS เป็นยนตรกรรมที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของรถปลั๊กอินไฮบริดทั่วไป เรามอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานจุดเด่นของทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดไว้ในคันเดียว ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการความเงียบและประหยัดพลังงานสำหรับการเดินทางในเมือง หรือสมรรถนะอันทรงพลังสำหรับการเดินทางไกล JAECOO 7 SHS พร้อมตอบสนองทุกความต้องการอย่างลงตัว นี่คือตัวอย่างชัดเจนของปรัชญาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นนวัตกรรม ล้ำสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ เรายังใส่ใจไปจนถึง After sale service ด้วยค่าบำรุงรักษาระยะยาวที่มีค่าใช้จ่ายเข้าถึงได้ง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ ในตลาด”
OMODA & JAECOO นำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดภายในงาน (เฉพาะวันที่ 24-25 มีนาคมเท่านั้น)
นอกจากนี้ภายในงาน แบรนด์ยังได้นำเสนอ JAECOO 5 EV ที่มาพร้อมกับการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด “จุดกำเนิดจากธรรมชาติ” ผสานความแข็งแกร่งและความสวยงามในทุกเส้นสาย โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม “Human – Pet Friendly Travel” สร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ทั้งผู้โดยสารและสัตว์เลี้ยง โดยมีระบบกันสะเทือนอิสระที่ติดตั้งมาด้วยความเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง พร้อมซันรูฟพาโนรามาขนาด 1.45 ตารางเมตร และจอแสดงผลอัจฉริยะ 13.2 นิ้ว ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะโลดแล่นบนถนนในเมืองใหญ่ หรือผจญภัยในเส้นทางธรรมชาติ JAECOO 5 EV จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหายานยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ผสานนวัตกรรมและการออกแบบอย่างลงตัว (สเปคนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อนำเข้ามาในประเทศไทย) อีกรุ่นที่นำมาจัดแสดงได้แก่ OMODA C7 SHS การออกแบบภายใต้แนวคิด “Global Co-creation, Unlimited Enjoyment” ที่จะนำผู้บริโภคก้าวสู่ยุคใหม่ของการออกแบบยนตรกรรมแห่งยุค ด้วยการร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่ข้ามพรมแดนตลอดจนแรงบันดาลใจจากอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัด โดยยึดหลักปรัชญา “ART IN MOTION” ผสมผสานความนิ่งสงบของงานศิลป์และพลังแห่งการเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน ผลงานดีไซน์ของ C7 สะท้อนความคมชัดในทุกมุม ด้วยแนวหน้าตะแกรง X-shaped ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น ด้วยการเล่นแสงเงาอย่างลงตัวจากเส้นโค้งและพื้นผิวที่ถูกสลักอย่างประณีต รวมถึงระบบไฟจังหวะอัจฉริยะที่ค่อยๆ ส่องประกาย เปรียบเสมือนพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา นวัตกรรมเหล่านี้สื่อถึงการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย New LOHAS ผู้ที่รักแฟชั่นล้ำสมัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคต OMODA C7 SHS ไม่เพียงเปลี่ยนมาตรฐานความงามของ SUV เท่านั้น แต่ยังเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความสะดวกสบาย เทคโนโลยีและสไตล์เข้าด้วยกันอย่างลงตัวกว่าใคร
OMODA & JAECOO ขยายกลุ่มผู้บริโภคให้เข้าถึงรถ JAECOO 6 EV ด้วยรถรุ่นเริ่มต้น
หลังจากที่ได้ส่งมอบ JAECOO 6 EV ให้ทุกคนเป็นเจ้าของตั้งแต่สิงหาคม 2567 และได้รับการตอบรับอย่างดี ในปีนี้ได้ JAECOO ได้นำเสนอรุ่นเริ่มต้น JAECOO 6 EV Long Range 2WD PRO เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนในเมืองที่หลงใหลในรูปทรง One Box Style และต้องการขับรถที่ลดมลภาวะทางอากาศ ด้วยราคาคาดการณ์ 899,000 บาท และสีใหม่ Cyber Yellow ที่สร้างความโดดเด่นสะดุดตา
บนท้องถนนOMODA & JAECOO เตรียมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้าที่จองรถยนต์ภายในงาน Motor Show 2025
OMODA C5 EV Model Year 2025 รถไฟฟ้าที่ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่โลกอนาคต สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต ผสมผสาน
การออกแบบที่ทันสมัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับส่วนลดสูงสุด 220,000 บาท (จำนวนจำกัด)OMODA C5 EV Long Range Ultimate Model Year 2025 ราคาหลังหักส่วนลด 729,000 บาท (จาก 949,000 บาท)
OMODA C5 EV Long Range Plus Model Year 2025 ราคาหลังหักส่วนลด 679,000 บาท (จาก 899,000 บาท)
พร้อมรับข้อเสนออื่นๆ
เพียงจอง ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน และออกรถ OMODA C5 EV ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568
โปรโมชั่นพิเศษ Motor Show Deal สำหรับ JAECOO J6 EV (หรือ iCAR 03 ในจีน) รถพลังงานไฟฟ้าสไตล์ออฟโรดโดดเด่นด้วยดีไซน์ “ONE BOX STYLE” ควบคู่ไปกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย ทำให้ได้รับรางวัล “BEST OFF ROAD EV” มาพร้อมกับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท
JAECOO 6 EV มีให้เลือก 2 รุ่น
- รุ่น Long Range 4WD: สมรรถนะ 279 แรงม้า ระยะทางขับขี่ 418 กม. (NEDC) พร้อม 9 โหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, Custom, All road, Slippery, Beach, Muddy, Bumpy) ราคาหลังส่วนลด 1,149,000 บาท (จาก 1,249,000 บาท)
- รุ่น Long Range 2WD: สมรรถนะ 184 แรงม้า ระยะทางขับขี่ 426 กม. (NEDC) พร้อม 4 โหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, Custom) ราคาหลังส่วนลด 999,000 บาท (จาก 1,099,000 บาท)
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี*
- ฟรี! Home Charger พร้อมติดตั้ง มูลค่า 25,000 บาท*
เพียงจองและออกรถ JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในจีน) ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568
พร้อมรับข้อเสนออื่นๆ
*หมายเหตุ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และบางข้อเสนอพิเศษนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการโปรโมชันอื่นๆ ได้
จากคอนเซปต์ ONE BOX TRENDY ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากมาย JAECOO ได้จัดแคมเปญ “ONE BOX DESIGN” Contest สำหรับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบแต่งรถ JAECOO 6 EV ร่วมประกวดชุดแต่งที่ถูกใจมหาชนมากที่สุด ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้งาน โดยมีรางวัลที่ 1 มูลค่า 100,000 บาท, รางวัลที่ 2 มูลค่า 50,000 บาท, รางวัลที่ 3 มูลค่า 25,000 บาท และ รางวัลที่ 4-10 อีก 7 รางวัล มูลค่า 10,000 บาท ต่อรางวัล โดยเริ่มส่งรูปเข้าประกวดตั้งแต่ 24 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2568 และ เริ่ม Vote วันที่ 1-26 สิงหาคม 2568 ประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ OMODA & JAECOO ในวันที่ 27 สิงหาคม
และเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานใหม่ และตอกย้ำวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์ที่ยั่งยืน OMODA & JAECOO จึงนำเสนอแคมเปญใหม่ล่าสุด “Eco Bonus” Campaign โดยมอบเงินสนับสนุน 10,000 บาท เพียงนำเล่มจดทะเบียนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือ HEV มาแสดงเมื่อซื้อรถไฟฟ้ารุ่น OMODA C5 EV หรือ JAECOO 6 EV ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 30 เมษายนนี้ และ JAECOO 7 SHS ตั้งแต่ 24 มีนาคม – 6 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับลูกค้าในงานมอเตอร์โชว์เท่านั้น
“การเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ไม่เพียงแค่นำเสนอยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำพันธกิจของเราในการผลักดันประเทศไทยสู่ยุคแห่งการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ฉี เจี๋ย ประธานบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยที่ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน”
พบกับกองทัพยนตรกรรมสุดล้ำและโปรโมชั่นพิเศษจาก OMODA & JAECOO ได้ที่บูธหมายเลข A23 ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 และที่ผู้แทนจำหน่าย 34 แห่งทั่วประเทศ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ยามาฮ่าส่งมอบความมั่นใจทุกการเดินทาง จับมือ ทิพยประกันภัย จัดแคมเปญ “แคร์สุดx2” มอบประกันอุบัติเหตุ พร้อมชดเชยรายได้สูงสุดรวม 3 หมื่นบาทต่อปี
ยามาฮ่ามอบความมั่นใจในทุกการเดินทางร่วมมือกับพันธมิตรทิพยประกันภัย จัดแคมเปญ “แคร์สุดx2” มอบประกันอุบัติเหตุ พร้อมชดเชยรายได้สูงสุดรวม 3 หมื่นบาทต่อปี #แคร์รถ #แคร์คุณ เมื่อซื้อยามาฮ่าฟาซซิโอ้ หรือยามาฮ่า ฟินน์ วันที่ 26 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 2568
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่งมอบประสบการณ์สุดมั่นใจ ให้กับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ หรือยามาฮ่า ฟินน์ ในแคมเปญ “แคร์สุดx2” #แคร์รถ #แคร์คุณ รับฟรี! ประกันอุบัติเหตุ (จากอุบัติเหตุทั่วไปหรืออุบัติเหตจากการขับขี่ หรือโดยสาร) สูงสุด 5,000 บาท/ปี และคุ้มครองชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 1,000 บาท/วัน (สูงสุด 3 วัน/อุบัติเหตุแต่ละครั้ง และไม่เกิน 30 วัน/ปี) จากทิพยประกันภัย นาน 1 ปี เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้ายามาฮ่า นอกเหนือจากการรับประกัน 5 ปี เจ้าแรกในวงการรถจักรยานยนต์ที่ยามาฮ่า #แคร์รถ แล้ว เรายัง #แคร์คุณ ด้วยการมอบประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองชดเชยรายได้ ตอบสนองทุกประสบการณ์การเดินทางของลูกค้า ให้ลูกค้ายามาฮ่าได้ท่องเที่ยว และใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวล ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 2568 นี้
แคมเปญ “แคร์สุดx2” #แคร์รถ #แคร์คุณ สอบถามรายละเอียดเงื่อนไขการรับประกันภัยเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dhipaya.co.th / TIP INSURE Call Center: 1736
ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ โปรโมชัน และข้อมูลข่าวสารบนช่องทางออนไลน์ของยามาฮ่า ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th / Facebook: @Yamaha Society Thailand / LINE official: @Yamaha Society
#Yamaha#RevsyourHeart #แคร์สุดx2 #แคร์รถ #แคร์คุณ
รายละเอียดเงื่อนไขการประกันอุบัติเหตุ และคุ้มครองชดเชยรายได้ แคมเปญ “แคร์สุดx2”
- ข้อตกลงคุ้มครองประกอบไปด้วย
- กรณีเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากอุบัติเหตุ
- กรณีอุบัติเหตุทั่วไป จำนวนเงินเอาประกันภัย 5,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ 3,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท/ปี)
- การชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ วันละ 1,000 บาท สูงสุด 3 วันต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ไม่เกิน 30 วันต่อปี
- แคมเปญนี้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อและรับรถ ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ หรือยามาฮ่า ฟินน์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งลูกค้าจะได้รับ SMS จากทิพยประกันภัย เมื่อการประกันภัยได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
- สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยอายุ 18-60 ปี มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรือวิกลจริต และจะต้องมีใบขับขี่เท่านั้น
- ไม่คุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือถูกทำร้ายร่างกาย และ/หรือ การก่อการร้าย
- ข้อตกลงคุ้มครองการชดเชยอุบัติเหตุทั่วไป และขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ เฉพาะรถจักรยานยนต์คันที่เอาประกันภัยเท่านั้น
- กรณีชาวต่างชาติ จะต้องพำนัก ในราชอาณาจักรไทยมากกว่า 1 ปี อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มี passport หรือ visa หรือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
- แคมเปญ “แคร์สุดx2” นี้ ไม่สามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน ทอนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถใช้ร่วมรายการส่งเสริมการขายอื่น ๆ ได้
เงื่อนไขการรับประกัน เป็นไปตามที่บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กำหนด โปรดศึกษาข้อมูลการรับประกันภัยโดยละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อรถ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.dhipaya.co.th หรือ โทร. 1736
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine - ข้อตกลงคุ้มครองประกอบไปด้วย
-
News Car2 Min Read
GEELY RIDDARA เดินหน้าแผนกลยุทธ์ในประเทศไทย เพิ่มทางเลือกรถกระบะไฟฟ้าที่มอบความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงาน Bangkok International Motor Show 2025
GEELY RIDDARA แบรนด์รถกระบะพลังงานไฟฟ้าในเครือ GEELY AUTO GROUP เปิดแผนกลยุทธ์ดันประเทศไทยเป็นตลาดหลัก พร้อมแนะนำ RIDDARA RD6 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 86kWh ซึ่งให้ระยะทางในการขับขี่ที่สูงถึง 503 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เป็นทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำฟังก์ชันหลังคาซันรูฟ (Sunroof) เป็นตัวเลือกพิเศษ สำหรับ RIDDARA RD6 รุ่น 86kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเชิญทุกท่านมาสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของ GEELY RIDDARA พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.59%* หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,888 บาท และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อจอง RIDDARA RD6 ทุกรุ่นในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” หรือที่ผู้จำหน่าย GEELY RIDDARA ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568
ประเทศไทยขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับสากลของ GEELY RIDDARA
มร. จาง ชง ผู้จัดการทั่วไป GEELY RIDDARA ประเทศไทย เปิดเผยว่าหลังจาก GEELY RIDDARA ได้เปิดตัว RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาด้วยแนวติด “Drive Like An SUV, Function Like A Pickup : สะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบกระบะ “ ด้วยการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ประกอบกับประสิทธิภาพในการขับขี่อัจฉริยะที่โดดเด่น ทำให้ RIDDARA RD6 ได้รับความสนใจรวมทั้งการชื่นชอบอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคและสื่อมวลชนในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับรางวัล “รถกระบะไฟฟ้ายอดเยี่ยม : Best Pickup EV” จากเวที Car Of The Year 2025 ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของแบรนด์ GEELY RIDDARA
ปัจจุบัน GEELY RIDDARA มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของตลาดรถกระบะไฟฟ้า100%ในประเทศจีน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่าร้อยละ 50 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งตะวันออกกลาง เอเชียแปซิฟิก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และยุโรปตะวันออก
“ ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ระดับสากลของ GELLY RIDDARA ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งเน้น 4 ด้านหลักเพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครอบคลุมทั้ง การพิจารณาการลงทุนสร้างโรงงานประกอบในประเทศไทยเพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับตลาดในประเทศและรองรับตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ; การพัฒนาและผสานเครือข่ายผู้จำหน่ายของ GEELY RIDDARA ให้เกิดการเสริมศักยภาพซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยตั้งเป้ามีโชว์รูมและศูนย์บริการ 40 แห่ง ทั่วประเทศ ; การแนะนำรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุม และขยายทางเลือกด้านพลังงานใหม่ให้มีความหลากหลาย รวมไปถึงการพัฒนาระบบบริการหลังการขายเพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อบริการของ GEELY RIDDARA ผ่านการขยายเครือข่ายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่ววประเทศเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมจัดเตรียมอะไหล่สำรองให้เพียงพอและสามารถจัดส่งอะไหล่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด” มร. จาง ชง กล่าว
ไฮไลท์ของ GEELY RIDDARA ในงาน Bangkok International Motor Show
ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 นี้ นอกเหนือจากการนำ RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้ามาจัดแสดงและจำหน่ายครบทุกรุ่นแล้ว GEELY RIDDARA ได้แนะนำรถกระบะพลังงานไฟฟ้า RIDDARA RD6 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 86kWh ซึ่งให้ระยะทางในการขับขี่ที่สูงถึง 503 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ระยะทางไกลได้มากขึ้นอีกทั้งยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป จึงเป็นทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแนะนำหลังคาซันรูฟ (Sunroof) เป็นตัวเลือกพิเศษ สำหรับ RIDDARA RD6 รุ่น 86kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบเอาท์ดอร์ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ GEELY RIDDARA ยังมีชุดอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันของ RIDDARA RD 6 มาแสดงและจัดจำหน่าย
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง RIDDARA RD6
GEELY RIDDARA มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถกระบะพลังงานไฟฟ้า RIDDARA RD6 ในงาน Bangkok International Motor Show หรือที่ผู้แทนจำหน่าย GEELY RIDDARA อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568
- ดอกเบี้ยพิเศษ 59%* หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,888 บาท** (เมื่อดาวน์ 30% นาน 48 เดือน)
- รับประกันคุณภาพรถใหม่ 6ปี หรือ150,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กม.
- ฟรี RIDDARA โฮมชาร์เจอร์พร้อมติดตั้ง
- ฟรี ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1
- ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษา 6 ครั้งแรก
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 6 ปี
- ฟรี แพ็คเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet usage) 2 GB นาน 1 ปี
- ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่
- ฟรี ค่าจดทะเบียน มูลค่า 5,000 บาท
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
**เมื่อคำนวณจากรุ่น RD6 2WD63 kWh ราคา 899,000 บาท
RIDDARA RD6:
Drive Like An SUV, Function Like A Pickup: สะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบกระบะ
RIDDARA RD6 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม M.A.P (Multiplex Attached Platform) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรถยนต์ที่พัฒนาเอาจุดเด่นของรถกระบะและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาผสมผสานกัน ทำให้ RIDDARA RD6 มีความโดดเด่นทั้งในด้านของการออกแบบ สมรรถนะและความอัจฉริยะในแบบฉบับของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดใหญ่และมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย และติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยในการขับขี่ที่ครบครัน พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับทั้งการเดินทาง และการทำกิจกรรมแบบเอาท์ดอร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป
RIDDARA RD6 ให้สมรรถนะที่โดดเด่นด้วยอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที และแรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร มาพร้อมช่องจ่ายกระแสไฟตามมาตรฐานยุโรปขนาด 6KW ที่กระบะท้าย รวมไปถึงการเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือทำให้สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน
RIDDARA RD6 มอบความสะดวกสบายระดับ SUV ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่เงียบสงบด้วยเทคโนโลยี Pure Electric NVH Silent พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายขนาด 50W ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ CN95 filter ที่สามารถกรองฝุ่นPM2.5และไอเสียจากภายนอกห้องโดยสารได้ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะหนังคุณภาพสูงดีไซน์เอกลักษณ์สามารถปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศที่เบาะโดยสาร เบาะหน้าเอนราบได้แบบ 180 องศา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกครบครัน
RIDDARA RD6 ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 แบบอัตโนมัติ โดยมีโหมดการขับขี่ 7 โหมด สำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกัน (Sand / Mud / Off-road / Wading / Economy / Comfort / Sport) อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยความสามารถในการลุยน้ำลึกได้สูงสุด 815 มิลลิเมตร มีพื้นที่บรรทุกกระบะท้ายขนาด 1,200 ลิตร ช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 70 ลิตร และพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังอีก 48 ลิตร อีกทั้งยังมีความสามารถในการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,000 กิโลกรัม
RIDDARA RD6 มีระบบความปลอดภัยรอบคัน ซึ่งรวมถึงระบบช่วยในการขับขี่ ADAS (Advanced Driving Assistance Systems) สูงสุด 14 ระบบ และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 540 องศา รวมไปถึงถุงลมนิรภัย 6 จุดช่วยปกป้องทั่วทั้งห้องโดยสาร ยิ่งไปกว่านั้นตัวรถสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของโครงสร้างรถ
RIDDARA RD6 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- RIDDARA RD6 2WD 63kWh ราคา 899,000 บาท
- RIDDARA RD6 2WD 73.9 kWh ราคา 999,000 บาท
- RIDDARA RD6 4WD 73.9 kWh ราคา 1,149,000 บาท
- RIDDARA RD6 4WD 86kWh ราคา 1,299,000 บาท
- RIDDARA RD6 2WD 86kWh ราคา 1,159,000 บาท
- RIDDARA RD6 4WD 86kWh (Sunroof) ราคา 1,335,000 บาท
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์งาน Motor Show 2025 ดอกเบี้ย 0% 6 ปี สำหรับลูกค้า The Kia EV5 และดอกเบี้ย 0% 5 ปี สำหรับ The Kia Carnival จองและรับข้อเสนอพิเศษได้แล้ว ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568
เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์ ภายใต้แคมเปญ “Join The Kia Family” ในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งที่ 46 ด้วยโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับ The Kia EV5 (ยกเว้นรุ่น The Kia EV5 GT-Line AWD) และอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับ The Kia Carnival ทุกรุ่นย่อย หรือเลือกรับข้อเสนอราคาพิเศษสุดเร้าใจ ครอบคลุมยนตรกรรมทั้ง 4 รุ่นหลัก ได้แก่ The Kia Carnival กับราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท* มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 11 ที่นั่ง The Kia EV5 มาพร้อมราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1,099,000 บาท* The Kia Sorento เอสยูวีพลังไฟฟ้าที่มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังแบบ Plug-in Hybrid และ Hybrid กับราคาสุดเร้าใจเริ่มต้นที่ 1,699,000 บาท* และ The Kia EV9 ที่มาพร้อมแพ็กเกจคุ้มครองแบบจัดเต็มด้วยโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ต่อเนื่องนาน 10 ปี* นอกจากนี้รถยนต์เกียทุกรุ่นยังมาพร้อมแพ็กเกจคุ้มครองสุดคุ้ม ด้วยการรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 7 ปี สำหรับ The Kia EV5, The Kia EV9, The Kia Sorento และรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 5 ปี สำหรับ The Kia Carnival ให้ลูกค้าและเจ้าของรถเกียทุกคนสบายใจไร้กังวล เชิญสัมผัสยนตรกรรมเกียทั้ง SUV และ MPV หลากหลายรุ่นได้ ณ บูทเกีย หมายเลข A12 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 หรือรับข้อเสนอเดียวกันได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายเกียทั่วประเทศ ถึง 30 เมษายน 2568
นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และขยายการรับรู้แบรนด์เกียผ่านแคมเปญการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างครอบครัวเกียของเราให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น และสำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งที่ 46 บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ที่ได้นำรถยนต์ SUV และ MPV มาจัดแสดงอย่างครบครัน พร้อมมอบข้อเสนอราคาสุดพิเศษ ข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์ และหลากหลายโปรโมชัน ภายใต้แคมเปญ ‘Join The Kia Family’ ให้ลูกค้าได้เลือกข้อเสนอที่ตรงใจ ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมถึงโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะฟรี 10 ปี สำหรับ The Kia EV9”* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kia.com/th
ข้อเสนอจาก เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)
ข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์งานมอเตอร์โชว์ สำหรับ The Kia Carnival วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival LX (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 1,599,000 ล้านบาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,892,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 293,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
__________________________________________________________
- อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival EX (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 1,999,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,234,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 235,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 2,349,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,594,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 245,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL Luxury (7 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 2,699,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,990,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 291,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- ฟรี จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า [4]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [6]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
หมายเหตุ:
[1] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับรุ่น LX, EX, SXL และ SXL Luxury โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[2] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย
[4] จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ตามรุ่นที่บริษัทฯ กำหนด โดยรับประกันคุณภาพระยะเวลา 1 ปี
[5] สิทธิประโยชน์ข้อ [1],[2] และ [4] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 90,000 บาท เฉพาะรุ่น SXL Luxury และ 50,000 บาทสำหรับรุ่นอื่นๆ ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[6 ] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 5 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับทุกรุ่น เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ ธนาคารไทยธนชาต พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน สำหรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 5 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
ข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์งานมอเตอร์โชว์ สำหรับ The Kia EV5 วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Light
ราคาพิเศษ 1,099,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,299,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 200,000 บาท)
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Air
ราคาพิเศษ 1,229,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,399,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 170,000 บาท)
- ส่วนลดพิเศษมูลค่า 170,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Earth Long Range
ราคาพิเศษ 1,429,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,599,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 170,000 บาท)
- ส่วนลดพิเศษมูลค่า 170,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 Earth Exclusive AWD
ราคาพิเศษ 1,629,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,799,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 170,000 บาท)
- ส่วนลดพิเศษมูลค่า 170,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่สถาบันการเงินกำหนด
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
หรือเลือกรับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรส์
___________________________________________________________
อัตราดอกเบี้ย 0% 6 ปี โดยคำนวณจากราคาขายปกติ [8]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ [6]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV5 GT-Line AWD
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
หมายเหตุ:
[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 0% สำหรับรุ่น GT-Line AWD เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ 1.99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือธนาคารไทยธนชาต
[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[4] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[5] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[6] ชุดพรมปูพื้นรถยนต์
[7] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [4] และ [6] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50,000 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[8] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 6 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น GT-Line AWD) เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ ธนาคารไทยธนชาต พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 72 เดือน สำหรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 6 ปี (โดยคำนวณจากราคาขายปกติ) สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia EV9 GT-Line AWD
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- ฟรี Kia Home Charger 1 ชุด และ ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า [3]
- ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 10 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร [4]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [5]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [6]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [7]
หมายเหตุ:
[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] Kia Home Charger 1 ชุด พร้อมค่าติดตั้ง ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[4] เงื่อนไข ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรง และค่าอะไหล่) ตลอด 10 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[5] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[6] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[7] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[8] สิทธิประโยชน์ข้อ [2], [3], [4], และ [6] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 136,000 บาท สำหรับรุ่น EV9 ทุกรุ่น ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia Sorento Premium Plus PHEV
ราคาพิเศษ 1,899,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 2,099,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 200,000 บาท)
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
โปรโมชันสำหรับลูกค้า The Kia Sorento Premium HEV:
ราคาพิเศษ 1,699,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,959,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 260,000 บาท)
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน [1]
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [4]
- การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร [5]
หมายเหตุ:
[1] อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.99% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ จํากัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
[2] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) และไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[4] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[5] เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[6] สิทธิประโยชน์ข้อ [2 และ [4] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50,000 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯ
- สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568
- โปรโมชันสำหรับการซื้อผ่านผู้จำหน่าย Kia อย่างเป็นทางการทั่วประเทศไทย
- ไม่รวมรถแท็กซี่, รถเช่า, รถที่ขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษ, และลูกค้ารถเช่า
- ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจะทำการแจ้งผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อผู้จำหน่าย Kia ใกล้ท่าน หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.kia.com/th
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
Uncategorized1 Min Read
OR คว้า 9 รางวัลจากงาน 2025 Thailand’s Most Admired Brand & Company ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจมากที่สุด
OR ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยการคว้า 9 รางวัล จากเวที 2025 Thailand’s Most Admired Brand & Company โดย OR ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุดในกลุ่มธุรกิจสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากรางวัล 2024-2025 Thailand’s Most Admired Company พร้อมด้วยรางวัล 2025 Thailand’s Most Admired Brand รวม 8 รางวัล จากแบรนด์ PTT Station, PTT Lubricants, Café Amazon และก๊าซหุงต้ม ปตท. สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้เครือ OR
คุณวิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน พร้อมด้วย คุณพรรณวดี พุฒยางกูร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณทรงพล เทพนำโสมนัสส์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจเอนเนอร์ยี่โซลูชัน คุณฐิติ สุวรรณศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจคาเฟ่อเมซอนต่างประเทศ และคุณธีระ วีระวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายตลาดหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ร่วมรับรางวัลในงาน 2025 Thailand’s Most Admired Brand & Company ซึ่ง OR คว้ารางวัล 2024-2025 Thailand’s Most Admired Company ในฐานะบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุดในกลุ่มธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน พร้อมกันนี้ยังได้รับรางวัล 2025 Thailand’s Most Admired Brand จากแบรนด์ภายใต้เครือ OR รวม 8 รางวัล โดย PTT Station สถานีเติมเต็มทุกความสุข ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจมากที่สุดในหมวดช่องทางขายสมัยใหม่ กลุ่มสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 พร้อมรางวัลพิเศษ Market Leader Brand Award ซึ่งเป็นปีแรกที่ขยายหมวดรางวัลนี้ ด้าน PTT Lubricants ผู้นำตลาดน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ ยังคงได้รับการยอมรับในหมวดยานยนต์ กลุ่มน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เป็นปีที่ 16 พร้อมรางวัลพิเศษ Innovation Brand Award ขณะที่ Café Amazon ปัจจุบันมีมากกว่า 4,300 สาขาทั่วโลก คว้ารางวัลหมวดช่องทางขายสมัยใหม่ กลุ่มแฟรนไชส์ร้านกาแฟ พร้อมรางวัลพิเศษ Market Leader Brand เช่นเดียวกับ ก๊าซหุงต้ม ปตท. ร่วมรับรางวัลหมวดพลังงาน กลุ่มก๊าซหุงต้ม พร้อมรางวัลพิเศษ Market Leader Brand ที่ครองใจผู้บริโภคด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
Thailand’s Most Admired Brand & Company โดย BrandAge จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 และเป็นโครงการสำรวจด้านความน่าเชื่อถือของแบรนด์รายแรกของไทยที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง โดยใช้เกณฑ์การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมทุกมิติขององค์กร ทั้งการรับรู้เกี่ยวกับองค์กร ความมีชื่อเสียง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ อิทธิพลขององค์กร ตลอดจนภาพลักษณ์ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สำหรับปีนี้ โครงการได้ปรับปรุงกระบวนการสำรวจให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและสะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
การได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OR ในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
‘Yadea Velax’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมปฏิวัติการขับขี่ในเมืองด้วยเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะ ราคาเริ่มต้น 63,000 บาท
ยาเดีย (Yadea) แบรนด์ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ (BIMS) ครั้งที่ 46 พร้อมเผยโฉม ‘Yadea Velax’ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ถือเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งภายในงาน ทางยาเดียได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมได้รับความสนใจในเทคโนโลยีและโซลูชันการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอันล้ำสมัยจากผู้ขับขี่และนักลงทุนชาวไทย ตอกย้ำความมั่นใจของยาเดียในศักยภาพการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในไทย จากความต้องการยานยนต์ที่มีความอัจริยะที่มาพร้อมกับความยั่งยืนเพิ่มขึ้น
โดยหนึ่งในวิสัยทัศน์ระยะยาวสำหรับประเทศไทยนั้น ทางยาเดียมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างการเติบโตในการลงทุนทั้งการผลิต รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาในประเทศ (R&D) โดยโรงงานผลิตในประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตและการวิจัยแห่งที่ 9 ของยาเดียทั่วโลก ซึ่งมีกำหนดเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นในการเติบโตทางธุรกิจในไทย ซึ่งมีเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตให้ถึง 600,000 คันภายในสามปีข้างหน้า และจากความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์รักษ์โลกผนวกกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ยาเดียยังตั้งเป้าหมายให้เกิดอัตราการจ้างงานบุคลากรในประเทศไทยมากกว่า 80% ในฐานการผลิตในไทยและจะใช้ทรัพยากรในประเทศกว่า 70% เพื่อการพัฒนายานยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย
มร.หวัง เจียจง รองประธานอาวุโส บริษัท ยาเดีย เทคโนโลยี กรุ๊ป กล่าวว่า “ที่ยาเดีย เราไม่เพียงเชื่อมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แต่ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้ที่เราให้บริการ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอโซลูชันการเดินทางที่ชาญฉลาดและยั่งยืน ที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงอนาคตของผู้ขับขี่ชาวไทยอีกด้วย ซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น Yadea Velax นี้ สะท้อนให้เห็นถึงการรวมเอาวิสัยทัศน์ของเรา ผสานเข้ากับเทคโนโลยี สมรรถนะ รวมถึงประสบการณ์การขับขี่แบบยั่งยืนได้เป็นอย่างดี”
ภายในงานมอเตอร์โชว์ ยาเดียได้เปิดตัว Yadea Velax อย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเหนือชั้นและสมรรถนะที่ทรงพลัง มอบนิยามใหม่ของการขับขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยระบบชาร์จเร็วอัจฉริยะของยาเดีย ผู้ขับขี่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 20 นาที ช่วยลดเวลาที่ไม่จำเป็นในการรอชาร์จให้น้อยลง Yadea Velax ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ขนาด 74V28Ah*2 ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 110 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ Yadea Velax ยังมาพร้อมกับมอเตอร์กำลังสูง 4900W ที่ให้การเร่งความเร็วทันทีทันใดและการขับขี่ที่ราบรื่นทรงพลัง[1]
เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น Yadea Velax ยังมาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ (Smart Battery Management System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีขึ้นพร้อมสร้างความสบายใจให้ผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบผู้ช่วยการขับขี่อัจฉริยะพร้อมระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) ยังช่วยรักษาระดับความเร็วให้คงที่ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เพื่อให้การขับขี่สะดวกสบายและง่ายดายยิ่งขึ้น
Yadea Velax ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ชาญฉลาด สะดวกสบาย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้สามารถควบคุมได้อย่างราบรื่น มั่นคง และง่ายดาย เพื่อให้ทุกการขับขี่มีประสิทธิภาพและเพลิดเพลินไปพร้อมกัน ด้วยการผสานความยั่งยืนเข้ากับการขับขี่สมรรถนะสูง Yadea Velax พร้อมที่จะปฏิวัติการเดินทางส่วนบุคคลสำหรับอนาคต
ระบบ AiGo ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการปลดล็อกผ่านแอปพลิเคชัน Yadea และบลูทูธ การแชร์บัญชีครอบครัว และฟังก์ชันรีโมทคอนโทรล ในขณะที่ระบบ AiSafety มอบความอุ่นใจด้วยการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์สำหรับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เช่น การชน การล้ม และการเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยฟีเจอร์ Geofencing เพื่อติดตามตำแหน่งของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ฟังก์ชันป้องกันการโจรกรรม ควบคู่กับการตรวจสอบแบตเตอรี่อัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชัน Yadea ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ส่วนประกอบหลักของ Yadea Velax ยังได้รับการออกแบบที่ได้มาตรฐานในการกันน้ำ IPX7 เพื่อความทนทานและทำให้มั่นใจในการขับขี่ในสภาพอากาศที่หลากหลาย
ระบบ Smart ECO รับประกันการขับขี่ที่เงียบ ช่วยลดมลพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากขึ้น โดยประมาณการว่าจะสามารถประหยัดได้ถึง 71,750 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี[1]
ในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อ ยาเดียยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันการเดินทางที่ล้ำสมัยและยั่งยืนที่ปรับให้เข้ากับตลาดประเทศไทย โดยยาเดียพร้อมร่วมมือกับประเทศไทยในการส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าและสร้างสรรค์โซลูชันการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดของยาเดียในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางของแบรนด์ในประเทศไทยเท่านั้น โดยยาเดียมุ่งมั่นที่จะเสนอนวัฒกรรมใหม่ ๆ แก่ผู้ขับขี่ชาวไทยในอนาคตด้วยเช่นกัน
ในการเปิดตัว Yadea Velax ครั้งนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอัจฉริยะสมรรถนะสูงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับกิจกรรมสุดพิเศษภายในบูธของยาเดียให้ผู้เยี่ยมชมได้ร่วมสนุกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมหมุนวงล้อเสี่ยงโชค ซุ้มถ่ายภาพที่ระลึก และ กิจกรรมพบปะผู้เยี่ยมชมบูธ พร้อมลุ้นรับของรางวัลสุดเอ็กคลูซีฟจากยาเดียร่วมกับนักแสดงชื่อดัง
‘ดีแลน หวัง’ หรือ ‘หวัง เฮ่อตี้’ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษที่ยาเดียขนทัพมาให้ผู้เข้าเยี่ยมชมบูธได้ร่วมสนุกไปพร้อมกับนำเสนอเทคโนโลยีการเดินทางอย่างยั่งยืนให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยทุกท่านภายในงาน[1] อ้างอิงการคำนวณเมื่อขับขี่ถึง 50 กิโลเมตรต่อวัน รวมถึงการคำนวณจากค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาปในประเทศไทย โดยเป็นข้อมูลเพื่อใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างไปตามการใช้งานจริงของผู้ใช้
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine