• กลุ่มสิทธิผล พร้อมมอบ 1 ล้านบาท สนับสนุน แอลซีอาร์ ฮอนด้า หลังคว้าแต้มแรกในศึกดัตช์ กรังด์ปรีซ์ !!

    1 Min Read

    กลุ่มสิทธิผล พร้อมมอบ 1 ล้านบาท สนับสนุน แอลซีอาร์ ฮอนด้า หลังคว้าแต้มแรกในศึกดัตช์ กรังด์ปรีซ์ !!

    กลุ่มสิทธิผล โดยคุณทนง ลี้อิสสระนุกูล ประกาศมอบเงิน 1 ล้านบาท ให้กับ แอลซีอาร์ ฮอนด้า เพื่อแสดงความยินดี และเป็นขวัญกำลังใจ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และทีม สามารถคว้าแต้มแรก ในศึกดัตช์ กรังด์ปรีซ์ ได้สำเร็จ

    พร้อมกันนี้ จัดงานแฟนมีต เพื่อส่งแรงใจให้ก้องหายไวๆ หลังมีข่าวอาการบาดเจ็บจากการซ้อม และเตรียมเข้ารับการผ่าตัดในเร็วๆ นี้

    สามารถติดตามกิจกรรม Exclusive Fan Meet Somkiat Chantra by Sittipol Group วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพฯ ได้ที่ Facebook: Sittipol 1919

    #SC35ExclusiveFanMeet
    #SittipolGroup


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • นิสสันเสริมทัพนาวารา รุ่นปี 2025 เพิ่ม 3 รุ่นใหม่ ราคาเร้าใจ

    1 Min Read

    นิสสันเสริมทัพนาวารา รุ่นปี 2025 เพิ่ม 3 รุ่นใหม่ ราคาเร้าใจ

    นิสสันเพิ่มทางเลือกให้กับนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงยอดนิยม 3 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT รุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6 MT และรุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบ “ทน พร้อม ลุย” กับราคาที่โดนใจ ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น

    โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน นาวารา เป็นหนึ่งในรถกระบะยอดนิยมรวมถึงรถยนต์รุ่นหลักของนิสสันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อถือ และวางใจได้ กับความทนทาน และมากด้วยประโยชน์ใช้สอย พร้อมดีไซน์ทันสมัย การเปิดตัวนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อยใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะที่ “ทน พร้อม ลุย” ได้เป็นเจ้าของรถกระบะที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือการใช้งานในด้านธุรกิจ ภายใต้ราคาที่ดีมากๆ”

    นิสสัน นาวารา ทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมราคาที่เร้าใจ ได้แก่

    • คิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 758,000 บาท
    • ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT ราคา 792,000 บาท
    • ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 842,000 บาท

    โดยทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมสมรรถนะ และความทรงพลัง ในแบบฉบับของรถกระบะยกสูง ด้วยเครื่องยนต์ที่เรียกแรงบิดมหาศาลได้ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที โดยรุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT และ ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้พละกำลัง 190 แรงม้า (PS) แรงบิดมหาศาล 450 นิวตัน-เมตร (Nm)  ขณะที่รุ่น ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลัง 160 แรงม้า (PS) แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm) ด้วยพละกำลัง สมรรถนะการใช้งาน และความอเนกประสงค์ ทำให้นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งทางธุรกิจ และการเดินทางสำหรับครอบครัว

    นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเสริมความดุดัน กันชนสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยขอบสีดำสุดเท่ และล้อขนาด 17 นิ้ว

    นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อย ในเกรด SL ยังมาพร้อมความทนทาน ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน นาวารา  ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลงด้านหลังเป็นแหนบพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกด้านหลัง ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะบรรทุกน้ำหนักมากก็ตาม

    นอกจากนี้ ยังคงให้ความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะออกตัวบนเนิน ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA  ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip – ABLS)  เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC)  เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System – TCS)   เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (Trailer Stability Assist – TSA) แผงลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง  ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่ให้ความปลอดภัย และมองเห็นได้ชัดเจน  และเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ

    นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ ทั้ง 3 รุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ระบบ Push Start และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Star  สีขาว White Pearl สีเงิน Brilliant Silver สีเทา Twilight Grey และสีทองแดง Forged Copper

    ทั้งนี้ นิสสันมอบโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดตัว* สำหรับลูกค้านิสสัน นาวาราทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนสบาย รายเดือนเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษเริ่มต้นที่ 0.89%  พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเงินดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 19,999 บาท ผ่อนนาน 84 เดือน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2401-9600

    ‘*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • Post Image

    คาเฟ่ อเมซอน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกาแฟไทย ดันฮีโร่ Product ใหม่ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” พร้อมดึง “อิ้งค์ วรันธร” ร่วมสร้างประสบการณ์กาแฟพรีเมียมของคนรุ่นใหม่

    1 Min Read

    คาเฟ่ อเมซอน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกาแฟไทย ดันฮีโร่ Product ใหม่ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” พร้อมดึง “อิ้งค์ วรันธร” ร่วมสร้างประสบการณ์กาแฟพรีเมียมของคนรุ่นใหม่

    คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) เดินหน้าผลักดัน “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่คัดสรรคุณภาพเยี่ยม ชูจุดเด่นด้านกลิ่นหอมอโรม่าและรสชาตินุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์กาแฟระดับพรีเมียมในชีวิตประจำวัน พร้อมประเดิมกลยุทธ์พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้ง ดึงนักร้องสาว อิ้งค์ – วรันธร เปานิล เป็นพรีเซนเตอร์เป็นครั้งแรก สะท้อนรสนิยมใหม่ของคอกาแฟที่ให้ความสำคัญทั้งคุณภาพ กลิ่นหอมละมุนของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่พรีเมียม ไม่เหมือนใคร เพื่อขยายฐานคอกาแฟและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง

              คุณไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดกาแฟในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ผู้บริโภคมีความรู้และความคาดหวังต่อประสบการณ์การดื่มกาแฟที่สูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เห็นได้จากวิวัฒนาการของตลาด ซึ่งในอดีตเป็นยุคที่ผู้บริโภคต้องการกาแฟที่เข้าถึงง่าย ดื่มได้ทุกที่ ทุกเวลาในราคาจับต้องได้ ซึ่ง คาเฟ่ อเมซอน เองก็เติบโตและเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนตลาดในยุคนี้ ในปัจจุบัน เราได้เข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคเริ่มก้าวข้ามจากความสะดวกสบาย มาสู่การใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพของกาแฟมากขึ้น ทั้งในเรื่องของรสชาติที่ซับซ้อน แหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ กระบวนการคั่วที่พิถีพิถัน และวิธีการชงที่หลากหลาย ผู้บริโภคเริ่มมองหากาแฟที่สะท้อนรสนิยมและมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดกาแฟพรีเมียมที่เน้นคุณภาพของสินค้ากำลังเติบโตอย่างมีศักยภาพ

              คาเฟ่ อเมซอน ได้นำเสนอฮีโร่โปรดักต์ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟ พรีเมียม ที่ตอบรับเทรนด์ของตลาดในปัจจุบัน ปีนี้เราจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” อย่างครบวงจร เพื่อเข้าถึงคอกาแฟและกลุ่มลูกค้าในวงกว้างยิ่งขึ้น  ชูจุดเด่นในการคัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% คุณภาพเยี่ยมผ่านกระบวนการคั่วและชงอย่างพิถีพิถันโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รสชาติที่พรีเมียม นุ่มลึก หอมละมุน ไม่เหมือนใครและมีมิติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แตกต่างและน่าประทับใจในทุกสัมผัส ตั้งแต่กลิ่นหอมแรกที่แตะจมูก ไปจนถึงรสชาติที่อบอวลอยู่ในปากยาวนาน มีเมนูให้เลือกหลากหลาย โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ คาเฟ่ อเมซอน “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” ไม่เพียงมอบรสชาติกาแฟพรีเมียม แต่ยังสื่อถึงความใส่ใจในคุณภาพ และรสนิยมที่เหนือระดับ แค่ถือแก้ว ก็สัมผัสได้ถึงความมีรสนิยม Selected Cup คือไอเท็มใหม่ของคนรักกาแฟที่ต้องการเติมความพรีเมียมในทุกจังหวะของชีวิตประจำวัน

              นอกจากนี้ Café Amazon ยังได้เปิดตัว “อิ้งค์ – วรันธร เปานิล” เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ Selected Cup เพื่อถ่ายทอดบุคลิกของกาแฟพรีเมียมแก้วนี้ได้อย่างมีมิติ — ทั้งความหอมละมุน รสนุ่มลึก และเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยในแคมเปญนี้ อิ้งค์ได้ปรับลุคสู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูสมาร์ท โฉบเฉี่ยว และเต็มไปด้วยเสน่ห์ในแบบพรีเมียม สะท้อนตัวตนของ Selected Cup ได้อย่างลงตัว  

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                    

    ตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อคอกาแฟพรีเมียม

                  “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” นำเสนอ 8 เมนูสุดพิเศษ ที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% คุณภาพเยี่ยม ที่ระดับการคั่วกลาง-เข้ม เพื่อตอบโจทย์ทุกรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟคลาสสิก หรือจะเพิ่มความพิเศษด้วยเมนูใหม่ Peach Americano Sparkling และ Yuzu Americano Sparkling ที่พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นได้อย่างลงตัว

              สัมผัสประสบการณ์ความหอมละมุน พรีเมียม ไม่เหมือนใคร กับ Café Amazon Selected Cup ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน คาเฟ่ อเมซอน สาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • เคลื่อนพลทัพตัวแรง B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik สู่ บางแสน สตรีท เซอร์กิต … เปิดโปรแกรมเดือด สัปดาห์มอเตอร์สปอร์ต Bangsaen Grand Prix 2025

    2 Min Read

    เคลื่อนพลทัพตัวแรง B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik สู่ บางแสน สตรีท เซอร์กิต … เปิดโปรแกรมเดือด สัปดาห์มอเตอร์สปอร์ต Bangsaen Grand Prix 2025

    บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันกีฬารถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ภายใต้การรับรองโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) และใช้กฎของสมาพันธ์แข่งขันรถยนต์นานาชาติ หรือ International Sporting Code of FIA ซึ่งมีมาตรฐานระดับสากลที่ทั่วโลกยอมรับ เดินเกมส์ความมันส์เอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง

    ส่งทัพรถแข่ง B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik พร้อมด้วย Support Race รายการ “Formula 4 South East Asia” (F4SEA) และ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) สู่เทศกาลความเร็ว ระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Bangsaen Grand Prix 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Revs the Wave … กระหึ่มเสียง “เครื่องยนต์” กลบเสียง “เกลียวคลื่น” ตลอด 5 วันเต็ม

                    เปิดฉากด้วยโปรแกรมการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series กับรุ่นเล็ก Thailand Super Eco สนาม 4 อันดุเดือดจน Safety Car ต้องปฏิบัติหน้าที่ถึง 3 รอบ ก่อนจะจบลงโดย หมายเลข 98 ชินวิช รมยานนท์ จาก PT Maxnitron Wise BRD Nexzter Venom secret koh kood by Rongpo Power Unit เป็นผู้คว้าแชมป์

    ส่วนสนามที่ 5 ซึ่งดุดันไม่น้อยไปกว่ากัน และทำเอาลุ้นจนนั่งไม่ติด ตั้งแต่เริ่ม จนรับธงตาหมากรุก ก็จบลงด้วยชัยชนะของ หมายเลข 82 Aaron Haikal (อารอน ไฮคาล) จาก V-Are Pro Garage Racing Team

     

    ขยับไปที่รุ่น Super Touring ศึก 60 นาที ในสนามที่ 3 กับ “ความสงบก่อนพายุใหญ่จะมา” ด้วยการชิงตำแหน่งผู้นำอย่างดุดันช่วงท้ายเกม ทำเอาผู้นำซึ่งรักษาอันดับมากกว่าครึ่งทาง อย่าง หมายเลข 14 จาก YK Motorsports ต้องอกหัก จากการที่ หมายเลข 18 อานนท์ รอดประเสริฐ จาก Rongpo power unit …. Original kansai เก็บชัยชนะไปอย่างสวยงาม

    ส่วนสนามที่ 4 แม้ หมายเลข 14 จาก YK Motorsports จะมีโอกาสกลับมาแก้มืออีกครั้ง รวมถึง หมายเลข 18 จาก Rongpo power unit …. Original kansai ที่หวังจะเก็บไปอีกหนึ่งแชมป์ ก็ไม่สำเร็จตามคาดหมาย จากหลากหลายตัวแปร ทำให้ท้ายที่สุด หมายเลข 55 M&M Racing Team By Nexzter and Liqui Moly ที่จับคู่โดย ชนกนันท์ นันทมานพ และ ฐนภัทร สุทธิสว่าง มีโอกาสโชว์ฟอร์ม และคว้าแชมป์กลับบ้านไป

     

    ต่อกันที่รุ่น Thailand Super Pickup D2 (Class C) สนามที่ 4 กับผลงานที่ยอดเยี่ยมของ หมายเลข 17 จักรพันธ์ วรรณรัตน์ จาก Trane Lubricant Racing Team อมรยนต์กลการ อาร์ตมอเตอร์สปอร์ตกรุ๊ป อ๊อฟการาจ รวมช่างเชียงกง ซึ่งออกสตาร์ทจากกริดที่ 2 ก่อนส่งตัวเองขึ้นนำ ม้วนเดียวจบการแข่งขัน คว้าชัยชนะไปครอง

    สำหรับเกมส์ในสนามที่ 5 เรียกว่าดุเดือดสุดๆ จนต้องหยุดการแข่งขันด้วย “ธงแดง” เมื่อครบ 75% ของการแข่งขัน ภายใต้การนำของ หมายเลข 30 อิทธิศักดิ์ แก้วดี จาก SSK Factory OMC-racing ครัวบุษกร บ้านฉาง อู๊ด-อ๋องระยอง ซึ่งเป็นผู้ที่ครองแชมป์ในสนามนี้ไป

                    ขยับขึ้นไปรุ่น Thailand Super Pickup D1 (Class A-B) ที่เรียกได้ว่าเป็นการแก้มือของ หมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล จาก Nexzter, MKSport, HYB, Speed Oil, Motul, AKANA by อู๋ดอ๋องระยอง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ทั้ง 2 สนามจะไม่ได้สตาร์ทจากโพล โพสิชั่น แต่ก็ขึ้นออกตัวขึ้นนำได้ดีตั้งแต่ต้นการแข่งขัน ซิ่งม้วนเดียวจบรับธงตาหมากรุกเหมาแชมป์กลับบ้านไปทั้ง 2 สนาม

     

    อัพเกรดดีกรีความเดือดด้วยโปรแกรมการแข่งขัน 60 นาทีของเหล่ารุ่นใหญ่ TSS The Super Series by B-Quik ที่ลงสนามพร้อมๆ กัน นำโดยรุ่น TSS Supercar GT4 ประกบ TSS Supercar GTC ก่อนส่งไม้ต่อให้รุ่น TSS Supercar GT3 ประกบ TSS Supercar GTM รูดม่านปิดฉาก Bangsaen Grand Prix 2025

                    สำหรับผลประกอบการสนามที่ 3 ของรุ่น TSS Supercar GTC ยกให้หนึ่งเดียวในรุ่น คือ หมายเลข 23 Team Supersonic by Rong Po Power Unit โดย Chong yi Kenneth Ho (เคนเนธ โฮ) / Shiyuan Shane Ang (เชน อัง) ที่จบการแข่งขัน และรับตำแหน่งแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

    รวมไปถึงแข่งขันสนามที่ 4 ซึ่งหลายทีมรถมีปัญหา ยกเว้น หมายเลข 9 Toyota Gazoo Racing Thailand โดย อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ และ กฤษฏิ์ วสุรัตน์ ที่สามารถผ่านพ้นมาได้ และกลายเป็นผู้นำ เก็บตำแหน่งแชมป์ไปครอง

    ทางด้าน TSS Supercar GT4 สนามที่ 3 เรียกได้ว่าสถานการณ์พลิกผันตลอดเวลา จนถึงช่วงไฮไลต์ไม่ถึง 15 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน กับฝีมือของ หมายเลข 95 INGING AUTOWERKS RACING โดย ประคุณ พรประภา และ Kazuhisa Urabe (คาซูฮิสะ อุราเบะ) ที่ใช้จังหวะปล่อยตัว หลังหมดหน้าที่ Safety Car สร้างโอกาสเฉือนเอาตำแหน่งผู้นำมาครอง และจบการแข่งขันไปอย่างสะใจ

    ส่วนสนามที่ 4 ต้องเรียกว่าเป็น “ศึกล้างตา” ของ หมายเลข 1 AAS Motorsport โดย คมิก กรรณสูต และ กันตธีร์ กุศิริ ก็ว่าได้ ทั้งจากการออกสตาร์ทในตำแหน่งโพล โพสิชั่น และขึ้นเป็นผู้นำตลอดการแข่งขันโดยไม่มีข้อผิดพลาด แม้จะต้องผ่านช่วง Pit Window Open/Closed จนกระทั่งปิดเกมส์อย่างสวยงาม คว้ารับธงตาหมากรุก และตำแหน่งแชมป์กลับไปอย่างสมบูรณ์แบบ

     

    รุ่น TSS Supercar GTM ในสนามที่ 3 เปิดศึกซิ่งฝ่าสายฝนฉ่ำ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องลุ้นตลอดเวลา ภายใต้การนำของ หมายเลข 10 Sye Wai Simon Chan (ไซม่อน ชาน) จาก Fire Monkey Motorsport จนถึงท้ายเกมส์การแข่งขัน ก่อนที่ หมายเลข 77 PSC MOTORSPORT โดย สราวุธ เสรีธรณกุล และ Afiq Yazid (อะฟิค ยาซิด) จะพลิกเกมส์ขึ้นมาเป็นผู้นำ และเก็บตำแหน่งแชมป์ไปครอง

    ส่วนสนามที่ 4 สภาพอากาศสดใส เป็นใจให้เดินคันเร่งเต็มสปีด นำโดย หมายเลข 77 PSC MOTORSPORT จาก สราวุธ เสรีธรณกุล และ Afiq Yazid (อะฟิค ยาซิด) ซึ่งสตาร์ทจากตำแหน่งผู้นำรุ่น ครองหัวแถวไว้โดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ จนกระทั่งเก็บชัยชนะไปครองได้อีกสนาม

                    ท้ายสุดกับรุ่น TSS Supercar GT3 สนาม 3 ที่ต้องโชว์ความเหนือชั้น ในการซิ่งฝ่าสายฝนเช่นกัน โดยมี หมายเลข 37 Winhere By BQAR ครองผู้นำมาถึงครึ่งทาง ก่อนจะโดน หมายเลข 18 AAS Motorsport By EBM โดย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และ Laurin Heinrich (ลอริน ไฮน์ริช) โชว์ฟอร์มเดือดเฉือนขึ้นมาเป็นผู้นำ และคว้าชัยชนะไปอย่างสวยงาม

    สำหรับสนามที่ 4 หมายเลข 18 AAS Motorsport By EBM ยังคงแสดงความเหนือชั้น สตาร์ทจากโพล โพสิชั่น และครองตำแหน่งผู้นำไว้ถึงครึ่งทางการแข่งขัน ก่อนจะพลาดอย่างหนักหน่วงในแบบที่คาดไม่ถึง ทำให้ หมายเลข 37 Winhere By BQAR โดย Akash Nandy (อาคัช แนนดี้) และ Yi Deng (ยี เติ้ง) ล้างตา ด้วยการขึ้นมาครองผู้นำ และเก็บแชมป์ไปครองในท้ายที่สุด

                    นอกจากความเดือดของโปรแกรมการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik แล้ว … Bangsaen Grand Prix 2025 ในครั้งนี้ยังเป็นเจ้าบ้านต้อนรับอีก 2 โปรแกรม Support Race ระดับโลกที่เดินทางมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน

    เริ่มจาก Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) สนามที่ 8 และ 9 อีกหนึ่งรายการแบบ One Make Race ที่โด่งดัง และนักแข่งต่างชาติให้ความสนใจลงแข่งขัน หลายต่อหลายสัญชาติ รวมถึงนักแข่งไทยเพียงหนึ่งเดียว “เทอร์โบ – มั่นคง เสถียรถิระกุล” สังกัด EBM หมายเลข 76 ที่สามารถติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวได้ที่ www.carreracupasia.com/en/

    พร้อมด้วยอีกหนึ่งโปรแกรมการแข่งขันที่เดือดไม่แพ้กัน “Formula 4 South East Asia” (F4SEA) การแข่งขันรถล้อเปิด (Open Wheeler) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโปรแกรมการแข่งขันที่พัฒนานักแข่งเยาวชนที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งมีนักแข่งไทย ร่วมลงแข่งขันในนาม Pakelo Star Performance ถึง 2 คน คือ “ไอตั้น – อัษฎาธร” หมายเลข 51 และ “พัตเตอร์ – วรพงศ์” หมายเลข 44

                    ซึ่งหลังจากยกทัพไปร่วมสนุกในนัดเปิดฤดูกาล TSS The Super Series by B-Quik และ B-Quik Thailand Super Series 2025 ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อย ก็เดินทางมาร่วมเสิร์ฟความมันส์อย่างต่อเนื่องทันทีกับสนามที่ 4 และ 5 ของฤดูกาล ณ “บางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี” โดยแฟนๆ สามารถติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวได้ที่ www.f4sea.com/

    ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนความสำเร็จของ “บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025”

    รายการบางแสน กรังด์ปรีซ์ ปีที่ 19 ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์และน่าประทับใจ และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมืออย่างเต็มกำลังจากทุกภาคส่วน

          ทั้งนี้เราขอขอบคุณอย่างยิ่งต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดชลบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองแสนสุข การกีฬาแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้สนับสนุนจากภาคเอกชนทุกหน่วยงาน ที่สำคัญยิ่งคือแรงสนับสนุนจากพี่น้องในชุมชนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นชุมชนบ้านแหลมแท่น ชุนชนเขาสามมุข ชุมชนมุขแสนเจริญ 1 ชุมชนมุขแสนเจริญ 2 ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ทุกภาคส่วนที่กล่าวมานี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนของบางแสน กรังด์ปรีซ์ ให้สามารถเติบโตและจัดต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 19 ในปีนี้

    ขอขอบคุณทีมงานเรซซิ่ง  สปิริต ทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการก่อสร้างและดูแลสนามแข่งระดับ FIA Grade 3 แห่งนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่มาร์แชล ทีมกู้ภัย และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวช ที่มอบการดูแลอย่างดีที่สุดให้กับนักแข่ง ทีมงาน ผู้ชม และชุมชนในพื้นที่ตลอดช่วงการจัดงาน

    เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ ที่หล่อหลอมกีฬา มอเตอร์สปอร์ต การท่องเที่ยว และชุมชนเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์

    สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตที่พลาดความมันส์ Bangsaen Grand Prix 2025 สามารถติดตามชมความดุเดือดย้อนหลัง ได้ผ่านช่องทาง www.thailandsuperseries.net และ www.facebook.com/ThailandSuperSeries

    ก่อนจะพบกันอีกครั้งในโปรแกรมหน้า ซึ่งฝูงรถแข่งจากรายการ B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series by B-Quik จะเคลื่อนพลสู่ “ประเทศมาเลเซีย” นำร่องด้วยรุ่นใหญ่ TSS The Super Series by B-Quik กับ Event 3 ของฤดูกาล ในวันที่ 8 – 10 สิงหาคม

    ก่อนเสริมทัพด้วย B-Quik Thailand Super Series กับ Event 4 ในวันที่ 19 – 21 สิงหาคม ณ “สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” โดยสามารถรับชมได้แบบ Live สด ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ เช่น www.thailandsuperseries.net และ www.facebook.com/ThailandSuperSeries


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • GWM เปิดสเปกจัดเต็มของ NEW GWM TANK 500 DIESEL หรูหรา สง่างาม และสะดวกสบาย มอบนิยามใหม่ของ PPV พรีเมียมอัจฉริยะ พร้อมรุ่นย่อยสุดดุดัน “Black Warrior”

    2 Min Read

    GWM เปิดสเปกจัดเต็มของ NEW GWM TANK 500 DIESEL หรูหรา สง่างาม และสะดวกสบาย มอบนิยามใหม่ของ PPV พรีเมียมอัจฉริยะ พร้อมรุ่นย่อยสุดดุดัน “Black Warrior”

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด เผยสเปกพรีเมียมและอัจฉริยะแบบรอบด้าน รวมถึงสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ใน NEW GWM TANK 500 DIESEL ที่ให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม สานต่อความสำเร็จต่อเนื่องจาก NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากบรรดา TANKER ชาวไทยทั่วประเทศ นอกเหนือจากเครื่องยนต์ดีเซลใหม่และลุคพรีเมียมที่หล่อ ดุดัน ด้วยสีใหม่อย่าง Black Warrior แล้ว NEW GWM TANK 500 DIESEL คือ ยนตรกรรมที่พร้อมมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะแบบครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน 2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย 3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย และ 4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย โดย NEW GWM TANK 500 DIESEL คือ นิยามมาตรฐานใหม่ของรถ PPV 7 ที่นั่ง ระดับโลกอย่างแท้จริง

    NEW GWM TANK 500 DIESEL พร้อมลบภาพจำเดิมของรถดีเซล PPV อย่างสิ้นเชิง ทั้งเสียงดัง แรงสั่นสะเทือน และการสิ้นเปลืองด้วยขุมพลังดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ เทอร์โบแปรผัน (VGT), หัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์, ระบบ EGR อิเล็กทรอนิกส์ และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์สูงได้แม้ในความเร็วต่ำ ผลลัพธ์คือการส่งกำลังที่ลื่นไหล ตอบสนองทันใจ พร้อมให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำเพียง 1,500–2,500 รอบ/นาที ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมือง นุ่มนวลเมื่อเร่งแซง และมั่นคงบนทางไกล

    NEW GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่

    • รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO
    • รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA*
    • รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD*
      (*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior)

    พร้อมตัวเลือกสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา และรุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD) ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำสุดหรู ตอกย้ำตัวตนของยนตรกรรมที่หลอมรวมความพรีเมียมเหนือระดับไว้อย่างลงตัว เพื่อยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด PPV อย่างแท้จริง

     

    นอกจากสมรรถนะที่น่าทึ่ง NEW GWM TANK 500 DIESEL ยังมาพร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่สะดุดตา กว้าง 1,934 มม. ยาว 4,886 มม. สูง 1,905 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม. เสริมภาพลักษณ์ของรถ PPV หรูหราที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งและมั่นคงในทุกมิติ โดยในรุ่น 2.4T PRO มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว จับคู่กับยาง Westlake ขนาด 265/60 R18 พร้อมยางอะไหล่ ขณะที่รุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่เช่นกัน

     

    4 นิยามใหม่ของยนตรกรรมพรีเมียมระดับผู้นำ กับ NEW GWM TANK 500 DIESEL

    • ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน: NEW GWM TANK 500 DIESEL ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงความหรูหราและความทันสมัย ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง Nappa ที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและหรูหราอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันจอ 6 นิ้ว Touch screen infotainment ขนาดใหญ่ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันได้อย่างง่ายดายและทันสมัย การติดตั้ง Multi-color ambient lighting ช่วยเพิ่มบรรยากาศสุดพิเศษภายในห้องโดยสารที่สามารถปรับเปลี่ยนสีแสงได้ตามความต้องการ ระบบเสียงระดับพรีเมียมจากลำโพง 12 ตัว พร้อมระบบ Surround sound ให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่ลึกซึ้งและชัดเจนที่สุด พร้อมการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกสองชั้นแบบ Double Layer Laminated Glass ที่ทำให้การเดินทางเงียบสงบไร้กังวล นอกจากนี้ ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ยังช่วยลดเสียงรบกวนเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ

    • ความสบายเหนือระดับ: มอบความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยในรุ่น 4T ULTRA และ ULTRA 4WD เริ่มต้นด้วยเบาะที่นั่งสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบ Welcome Seat, Massage Seat และ VIP Switch ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการปรับเบาะให้เหมาะสมตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และระบบเบาะระบายอากาศทั้งในที่นั่งแถว 1 และแถว 2 (เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD) ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง ห้องโดยสารกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,850 มม. และ พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 795 ลิตร ทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือท่องเที่ยว พร้อมด้วย ซันรูฟพาโนรามา ที่ช่วยเติมเต็มความโปร่งสบายให้ห้องโดยสาร นอกจากนี้ เทคโนโลยีความบันเทิงภายในรถได้รับการออกแบบให้ทันสมัยด้วยหน้าจอสัมผัสที่รองรับมัลติมีเดียได้อย่างครบครัน พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางที่มีลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง (รุ่น PRO 8 ตำแหน่ง) เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่สมจริงและเต็มอิ่ม ห้องโดยสารยังมีระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศด้านหลัง พร้อมด้วยระบบกรองอากาศ N95 และ ระบบ ionizer ที่ช่วยฟอกอากาศและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นภายในรถ เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับด้วยม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร

    • เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย: เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น เริ่มจากหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 3 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ที่รองรับระบบ Smart Dual Screen Interaction ช่วยให้การใช้งานทั้งสองจอมีความสะดวกและเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Windshield Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนหน้ากระจกเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ผู้ขับขี่ยังสามารถเพลิดเพลินกับ Wireless Charging ขนาด 50 วัตต์ ที่ด้านหน้า และระบบกล้องแสดงภาพ 540 องศา (กล้อง 360 องศา และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ) เพิ่มความสะดวกในการมองเห็นรอบทิศทางอย่างครบถ้วน ระบบการควบคุมรถจากทางไกลผ่านแอปพลิเคชัน GWM และระบบสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้การควบคุมรถง่ายและทันสมัย สำหรับรุ่น 2.4T PRO และ ULTRA มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 8 โหมด ได้แก่ โหมด 2H 4H 4L โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน และโหมดผู้เชี่ยวชาญ พร้อมฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำ เช่น Tank Turn ที่ช่วยให้การกลับรถในที่แคบเป็นเรื่องง่าย, Off-road Cruise Control, และ ระบบล็อกเฟืองหน้า-หลัง ให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง สำหรับการจอดรถ NEW GWM TANK 500 DIESELรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบอีกด้วย

    • ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง: NEW GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่รวมระบบ ACC, Lane Change Assist, Forward Collision Warning, Lane Keeping Assist, และ Intelligent Cruise Assist/Traffic Jam Assist ช่วยให้การขับขี่ในเมือง, ทางด่วน, และการจราจรติดขัดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบเตือนการชนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ RCTA + RCTB, MEB, กล้องรอบคัน 540 องศา, และเซนเซอร์ 12 จุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้านโครงสร้างตัวถังของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ถูกออกแบบให้แข็งแกร่งและทนทาน สามารถทนต่อแรงยุบ แรงชน แรงบิด และแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยตัวถัง Cage-Type ผลิตจากเหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษ รองรับแรงกดหลังคาได้ถึง 58 กิโลนิวตัน และแรงบิดสูงสุด 23,076 นิวตันเมตร พร้อมระบบปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มอบความปลอดภัยแบบครบวงจร เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง

     

    ขุมพลังดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด เอกสิทธิ์เดียวจาก GWM ที่มาพร้อม 4 จุดเด่น ฉีกกฏเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิมๆ

    • แรง ประหยัด คุ้มค่า: ขุมพลัง 4T พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT และหัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์ ให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ลดไอเสีย ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
    • นิ่ง เงียบ นุ่มนวล: เทคโนโลยี NVH ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม มีระดับเสียงในห้องเครื่องที่ idle time ต่ำกว่า 68 เดซิเบล
    • ตอบสนองฉับไว: กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ ขับขี่คล่องตัวในเมือง และมั่นใจทุกเส้นทาง
    • ทนทาน มั่นใจ: ผ่านการทดสอบสมรรถนะกว่า 6 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก รับประกันเครื่องยนต์นานถึง 1 ล้านกิโลเมตร หรือ 8 ปี

     

    NEW GWM TANK 500 DIESEL สีดำ Black Warrior อัศวินรัตติกาล หล่อ เข้ม ดุดัน ลึกลับ และสง่างาม

    “สีดำ (Black Warrior)” มีให้เลือกเฉพาะใน NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA และรุ่น 2.4T ULTRA 4WD โดยถ่ายทอดอารมณ์ของความหล่อเข้ม  ลึกลับ สง่างาม และทรงพลังได้อย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านดีไซน์ภายนอกสีดำเงาเข้มขรึม กระจังหน้าสีดำพิเศษ ผสานกับล้ออัลลอยสีดำ และห้องโดยสารภายในโทนสีดำที่สะท้อนความพรีเมียมและความดุดันในทุกมุมมอง ความโดดเด่นของสีดำ (Black Warrior) ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ที่ดูสง่างามและน่าเกรงขาม แต่ยังเสริมคาแรคเตอร์ให้รถดูนิ่ง สุขุม และทรงพลังในแบบที่แฝงความลึกลับไว้อย่างมีชั้นเชิง ยามโลดแล่นบนท้องถนนจะยิ่งเผยเสน่ห์เฉพาะตัวที่สะกดทุกสายตาได้อย่างไม่ค้านสายตา NEW GWM TANK 500 DIESEL สีดำ (Black Warrior) จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้นำหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตที่มีบุคลิกชัดเจน ชอบความแตกต่างที่ไม่ตามใคร แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในแบบพรีเมียม อัศวินรัตติกาลคันนี้พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เต็มไปด้วยความภูมิฐาน นุ่มลึก และเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างแท้จริง

     

    เหนือกว่าในทุกมิติ! สิ่งที่ NEW GWM TANK 500 DIESEL พัฒนาจากรุ่นไฮบริด

    NEW GWM TANK 500 DIESEL ได้รับการพัฒนารุ่น 2WD โดยเฉพาะสำหรับตลาดไทย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยการปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ในประเทศ จึงมั่นใจได้ว่า NEW GWM TANK 500 DIESEL จะมอบความสะดวกสบายและการขับขี่ที่นุ่มนวลทั้งในเมืองและเส้นทางต่าง ๆ การออกแบบภายในห้องโดยสารยังคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสาร โดยเฉพาะในเบาะแถวที่ 2 ซึ่งได้รับการปรับปรุงการใส่วัสดุโฟมเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายในการนั่ง ทำให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้ยาวนานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้านอกจากนี้ ยังมีการย้ายตำแหน่งยางอะไหล่ไปไว้ที่ด้านใต้ตัวรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเปิดประตูหลังและการจอดรถในพื้นที่ที่จำกัด รวมถึงช่วยให้การจัดเก็บสัมภาระภายในรถมีความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาทั้งด้านการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งาน NEW GWM TANK 500 DIESEL จึงพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าราชาออโต้เซลส์หนึ่งเดียวในโคราชฉลองครบรอบ 58 ปี ทุ่มลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ 4 สาขา

    1 Min Read

    มาสด้าราชาออโต้เซลส์หนึ่งเดียวในโคราชฉลองครบรอบ 58 ปี ทุ่มลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ 4 สาขา

    มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ประสานความร่วมมือกับกลุ่มราชาออโต้เซลส์ ผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าในจังหวัดนครราชสีมาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานในประเทศไทย จัดพิธีเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ พร้อมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 58 ปี จัดกิจกรรมพิเศษมอบข้อเสนอที่ดีที่สุด รับส่วนลดพิเศษ ฟรีประกันชั้นหนึ่ง ฟรีบัตรน้ำมัน ฟรีของพรีเมี่ยม และลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย เมื่อจองรถทุกรุ่นภายในงานฯ หรือที่โชว์รูมทั้งสี่สาขาในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ไฮไลท์สุดพิเศษ New Mazda CX-3 Essential มาให้ลูกค้าได้สัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของก่อนใคร ในระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค. 68 พร้อมกันทั้ง 4 สาขา การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ครั้งนี้ยังถือเป็นการยกระดับศักยภาพของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามกลยุทธ์การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของผู้จำหน่ายมาสด้าในประเทศไทย เพื่อส่งมอบการบริการอันแสนประทับใจให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน

    นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดโชว์รูมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และมาสด้าราชาออโต้เซลส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเก่าแก่ที่สุดของแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบบริการที่ครอบคลุมให้กับลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเมื่อมาเข้ารับบริการ เนื่องด้วยจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มีประชากรมากกว่า  2 ล้านคน และมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น การเปิดโชว์รูมใหม่ครั้งนี้ จึงส่งเสริมแผนธุรกิจของมาสด้าในการก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้แบรนด์มาสด้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตามนโยบายการส่งเสริมเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพสูงให้สามารถขยายพื้นที่การให้บริการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญของแบรนด์ นั่นคือ การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้าน Customer Retention ที่มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ความสุขในทุกช่วงเวลาให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน

    มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ถือเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการแห่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพสูงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเส้นทางสัญจรของผู้คน และมีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก มีประสบการณ์การทำงานอันเป็นเลิศและมีประวัติความเป็นมายาวนานมากที่สุดในประเทศไทย โดยมาสด้าราชาออโต้เซลส์เริ่มเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายมาสด้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานถึง 58 ปี จึงทำให้มาสด้าราชาออโต้เซลส์มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้าเป็นอย่างดีทั้งด้านการขายและการบริการ พรั่งพร้อมไปด้วยทีมช่างเทคนิคและที่ปรึกษาการขายที่มีความรู้ความสามารถสูง พร้อมให้การดูแลรถยนต์ของลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้ามั่นใจอย่างยิ่งว่ามาสด้าราชาออโต้เซลส์ทุกสาขาในโคราชจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันแบรนด์มาสด้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน และส่งมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี

    พิธีเปิดโชว์รูมอย่างเป็นทางการของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นางสาวอัญรินทร์ วงศ์อัครพัฒนา รองประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ มร. ทาเคชิ ซาโตะ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน และคณะผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ และทีมผู้บริหาร บริษัท ราชาออโต้เซลส์ จำกัด พร้อมด้วยทีมงานสตาฟโค้ชและนักฟุตบอลจากสวาทแคท รวมทั้งลูกค้าและผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง

    พร้อมกันนี้ ทางผู้บริหารมาสด้าราชาออโต้เซลส์ ยังได้มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลเทพรัตน์ โรงพยาบาลพิมาย และโรงพยาบาลปากช่อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเนื่องในโอกาสการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าแบบอัดแน่นตลอดทั้งวัน อาทิ การจับฉลากรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อรถมาสด้าทุกรุ่น พร้อมด้วยไฮไลท์พิเศษกับกิจกรรม Meet & Greet นักเตะจากทีมสวาทแคท อาทิ เดนนิส มูริลโล่, ธณชัย หนูราช, ณัฐวุฒิ เจริญบุตร และนักเตะดาวรุ่งอีกมากมาย ที่มาสร้างสีสันด้วยการเล่นเกมส์มอบรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าและแฟนคลับที่มาร่วมงาน ซึ่งสร้างสีสันให้กับงานในช่วงบ่ายได้เป็นอย่างดี

    นางสาวทัศนียา พัฒนจิตวิไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชา ออโต้เซลส์ จำกัด กล่าวว่า มาสด้าราชาเป็นธุรกิจที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อสานต่อธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและเอื้อประโยชน์ต่อสังคมตามเจตนารมณ์ของ คุณเลอพงศ์ พัฒนจิตวิไล ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ พร้อมส่งมอบรถยนต์มาสด้าและการบริการที่ดีที่สุด เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้ความเชื่อถือและไว้วางใจต่อมาสด้าราชามาตลอดเกือบ 60 ปี จากการดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพียงยี่ห้อเดียวในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ครั้งนี้ทำให้มาสด้าราชาออโต้เซลส์มีโชว์รูมและศูนย์บริการรองรับลูกค้ามาสด้าในจังหวัดรครราชสีมา ถึง 4 สาขา และเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ในตัวเมือง ใกล้กับอนุสาวรีย์ย่าโม สาขาอำเภอพิมาย สาขาอำเภอปากช่อง และสาขาสามแยกปักธงชัย ซึ่งในปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่มาสด้าราชาออโต้เซลส์ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 58 ปี ในประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นและมั่นคงของบริษัทฯ ในการเดินหน้าเพื่อส่งมอบงานขายและงานบริการที่มีคุณภาพให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคนในโคราชและพื้นที่ใกล้เคียง

    “การขยายการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ทางบริษัทได้เพิ่มเงินงบประมาณอีกกว่า 200 ล้านบาท ประกอบด้วยการเพิ่มโชว์รูมแห่งใหม่สองสาขา คือ สาขาอำเภอปากช่องและสาขาสามแยกปักธงชัย รวมทั้งสิ้น 4 สาขา รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท แน่นอนว่าทางบริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งที่มีกลุ่มลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์มาสด้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ตลอดระยะเวลากว่า 58 ปี ที่บริษัทฯ ได้เข้ามาเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าทำให้เรามั่นใจในแบรนด์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปรัชญาของแบรนด์มาสด้าที่ไม่ได้มุ่งเพียงแต่เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์เพื่อการขับขี่ แต่ยังพัฒนาการขับขี่รถยนต์เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานในทุก ๆ ด้าน พร้อมส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ และปรัชญาการพัฒนารถยนต์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงการประกาศเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมของ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ครั้งล่าสุดอีก 5,000 ล้านบาท ในประเทศไทย ทำให้ลูกค้าและผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของมาสด้าทุกภาคส่วนมีความมั่นใจในแบรนด์มาสด้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ในครั้งนี้ จึงตอกย้ำถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของมาสด้าราชาออโต้เซลส์ที่มีต่อแบรนด์มาสด้าได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่ามาสด้ากำลังเดินหน้าตามแผนธุรกิจระยะยาวเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย” นางสาวทัศนียา กล่าวเกี่ยวกับการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้

    ปัจจุบัน มาสด้าราชาออโต้เซลส์ เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้าหนึ่งเดียวในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีทั้งหมด 4 สาขา สามารถรองรับงานบริการได้ถึง 2,000 คันต่อเดือน ทั้งนี้ยังพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ด้วยศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐาน มีช่องบริการตรวจเช็กตามระยะแบบเร่งด่วน (Fast Track) และมีรถยนต์ Mazda CPO (Certified Pre-Owned) ไว้เป็นทางเลือกเพื่อบริการลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์มาสด้ามือสองคุณภาพดีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากมาสด้าอีกด้วย

    มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และ มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกส่วนงาน ด้วยการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ เพื่อให้รถยนต์มาสด้าเป็นมากกว่ายานพาหนะ และกลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความสุขในการใช้ชีวิตทุกด้านให้กับลูกค้ามาสด้าทุกคน เพื่อสร้างความรัก ความผูกพัน และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้าและครอบครัวไปตลอดอายุการใช้งาน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • จับตาอินไซต์ยานยนต์ไทย! กรุงศรี ออโต้ เผยพฤติกรรมผู้ใช้รถใหม่ทั่วภูมิภาค พบคนกรุงนิยมอีวี – กระบะครองใจอีสาน – ดิจิทัลบูมภาคใต้ – เก๋งและกระบะตอบโจทย์คนเหนือ

    1 Min Read

    จับตาอินไซต์ยานยนต์ไทย! กรุงศรี ออโต้ เผยพฤติกรรมผู้ใช้รถใหม่ทั่วภูมิภาคพบคนกรุงนิยมอีวี – กระบะครองใจอีสาน – ดิจิทัลบูมภาคใต้ – เก๋งและกระบะตอบโจทย์คนเหนือ

          “กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยอินไซต์ผู้ใช้รถตามภูมิภาค อ้างอิงจากข้อมูลการขอสินเชื่อยานยนต์ ชี้กรุงเทพฯและปริมณฑล นำเทรนด์ใช้รถอีวี  เน้นผ่อนสั้น-จบไว ภาคเหนือนิยมรถกระบะและรถเก๋งขนาดกลางเน้นความคุ้มค่าและความทนทาน ภาคอีสาน ใช้กระบะเป็นเครื่องมือสร้างรายได้ของคนทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นสร้างตัว ขณะที่ภาคตะวันออกขับเคลื่อนด้วยรถเก๋งขนาดกลางและขนาดใหญ่ในเขตเมืองอุตฯ ส่วนภาคใต้ใช้กระบะฝ่าภูเขา–ชายฝั่ง พร้อมขึ้นแท่นภูมิภาคที่มีการใช้บริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลสูงเป็นอันดับสองของประเทศ

    นายคงสิน คงคา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศไทยมีความหลากหลายในเชิงภูมิประเทศและโครงสร้างประชากร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแนวโน้มการเลือกซื้อและการขอสินเชื่อยานยนต์ ซึ่งจากการที่ กรุงศรี ออโต้ ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้รถในแต่ละภูมิภาค พร้อมนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่า รถเก๋งขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มไฮบริด ได้รับความนิยมมากขึ้น ในขณะที่ผู้ใช้รถ Gen X อายุระหว่าง 45-60 ปี ที่มีรายได้ตั้งแต่ 45,000 บาทขึ้นไป ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มเลือกใช้รถเก๋งขนาดใหญ่และรถกระบะ เพื่อความสะดวกสบาย ใช้งานในครัวเรือนและการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม”

     

    “จากอินไซต์ความแตกต่างของผู้ใช้รถในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยม อาชีพ รายได้ พฤติกรรมการขอสินเชื่อ หรือแม้แต่การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้กรุงศรี ออโต้ ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถทั่วประเทศ เพื่อเป้าหมายในการเป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถ ที่สามารถออกแบบโซลูชันให้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ครอบคลุม และเข้าใจบริบทของผู้ใช้รถในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง” นายคงสิน กล่าวเสริม

     

    เมืองหลวงนำเทรนด์! คนกรุงนิยมรถใหม่ พร้อมเทใจให้รถอีวี

    กรุงเทพมหานครยังคงเป็นหัวใจของธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทย โดยครองอันดับหนึ่งของประเทศในด้านยอดขายรถยนต์ ด้วยสัดส่วนที่สูงกว่าภูมิภาคอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างชัดเจนคือ รถยนต์ไฟฟ้า และรถเก๋งขนาดใหญ่ โดยในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า มีแบรนด์ยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ BYD, AION, MG, Deepal (CHANGAN) และ GWM ORA ส่วนหนึ่งมาจากการติดตั้งสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่กว่า 1,500 แห่ง รวมถึงการติดตั้งที่ชาร์จภายในบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับความต้องการนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องเผชิญกับการจราจรหนาแน่นในชีวิตประจำวัน ขณะที่รถเก๋งขนาดใหญ่ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากมีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและยุโรป และในหลากหลายรูปแบบขุมพลัง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ไฮบริด (HEV) หรือปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้รถ นอกจากนี้ พฤติกรรมการขอสินเชื่อของผู้ใช้รถในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มเลือกผ่อนชำระในระยะเวลาที่สั้นกว่าภูมิภาคอื่น โดยส่วนใหญ่เลือกผ่อนในช่วง 4-5 ปี สะท้อนถึงศักยภาพในการชำระหนี้และการวางแผนปิดภาระทางการเงินภายในระยะเวลาที่สามารถควบคุมได้

     

    รถเล็ก-ใหญ่ครองใจ คนภาคกลางเลือกรถตอบโจทย์ทั้งชีวิตและธุรกิจ

    นอกเหนือจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ความนิยมในรถเก๋งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพิ่มขึ้นในเขตภาคกลางเช่นกันซึ่งรวมกันคิดได้เป็นสัดส่วนสูงถึง 43.3% ของทั้งภูมิภาค สะท้อนถึงพฤติกรรมการเลือกใช้รถที่หลากหลายและตอบโจทย์ตามลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน สำหรับรถเก๋งขนาดใหญ่ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าของกิจการ นิยมเลือกใช้รถที่รองรับการเดินทางไกลและใช้งานในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รถเก๋งขนาดเล็กก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด คล่องตัว และประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

     

    คนเหนือใช้งานจริงจัง กระบะ–เก๋งขนาดกลางตอบโจทย์

    ภาคเหนือเป็นภูมิภาคที่มียอดขายรถกระบะและรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางสูงที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยไม่นับรวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล สะท้อนพฤติกรรมการเลือกใช้รถที่สอดคล้องกับลักษณะการใช้ชีวิตและภูมิประเทศของพื้นที่ โดยรถกระบะได้รับความนิยมสูงสุดจากความสามารถในการรองรับการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่ภูเขา หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์และธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของภาคเหนือในฐานะหัวเมืองท่องเที่ยวและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ขณะเดียวกัน รถเก๋งขนาดกลางก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหลัก จากความอเนกประสงค์ในการใช้งานที่เหมาะกับทั้งชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล นอกจากนี้ ภาคเหนือยังเป็นภูมิภาคที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในประเทศเมื่อไม่รวมกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าประเภทซีดาน ซึ่งเริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น

     

     

     

    อีสเทิร์นซีบอร์ดไลฟ์สไตล์ครบครัน! รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่และรถไฟฟ้ารุกตลาด

    ภาคตะวันออก ประกอบด้วยจังหวัดสำคัญที่ผสานศักยภาพด้านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กับการท่องเที่ยวอย่างลงตัว โดยเฉพาะจังหวัดระยองที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 165 แห่ง และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อย่างจังหวัดชลบุรีและฉะเชิงเทรา พร้อมกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งมีประชากรแฝงและความต้องการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคลในระดับสูง โดยรถเก๋งขนาดกลางและใหญ่ได้รับความนิยมและมีสัดส่วนถึง 51.7% ของยอดขายรถทั้งหมด และภาคนี้ยังมีการเติบโตของรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ ที่มากที่สุดอยู่ที่ 62% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

     

    กระบะคือของมันต้องมี! อีสาน Gen Z ใช้สร้างตัว

    ภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่กว้างใหญ่และครอบคลุมหลายจังหวัด ทำให้ผู้ใช้รถ นิยมทั้งรถเก๋งขนาดใหญ่และรถกระบะเพื่อรองรับการเดินทางและการใช้งานที่หลากหลาย โดยรถเก๋งขนาดใหญ่ได้รับความนิยมในฐานะตัวเลือกที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทางระยะไกล ขณะที่รถกระบะยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักของผู้ใช้รถในภาคอีสาน โดยมีสัดส่วนยอดขายรองลงมาจากภาคเหนือ ด้วยความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z (อายุไม่เกิน 28 ปี) ที่มักเลือกใช้รถกระบะตอนเดียวสำหรับประกอบอาชีพ และกลุ่ม Gen X (อายุ 45-60 ปี) รวมถึง Baby Boomer (อายุมากกว่า 61 ปี) ที่นิยมรถกระบะสองตอนซึ่งใช้งานได้หลากหลาย ทั้งกิจกรรมครอบครัวและการเดินทางส่วนตัว โดยทั้งสองประเภทนี้รวมกันมีสัดส่วนถึง 43.1% ของยอดขายทั้งหมด

     

    ภาคใต้ขับกระบะลุยภูเขา–ชายฝั่ง คล่องเทคโนโลยีติดอันดับ 2 สินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล

    ภาคใต้เป็นภูมิประเทศที่มีความหลากหลายทั้งภูเขาและชายฝั่งทะเล ทำให้ผู้ใช้รถในภาคใต้นิยมใช้รถกระบะและรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (PPV) ที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งานในพื้นที่ ทั้งในชีวิตประจำวันและในบริบทของการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งมีสัดส่วนถึง 40.6% ของยอดขายรถทั้งหมด สะท้อนถึงความต้องการใช้งานรถที่เน้นความทนทานและสมรรถนะ นอกจากนี้ อีกหนึ่งพฤติกรรมเด่นของผู้ใช้รถในภาคใต้ คือ การเปิดรับช่องทางดิจิทัล เห็นได้จากสัดส่วนการขอสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลถึง 80% เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ ที่ 94% แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้รถในภาคใต้ไม่เพียงมีความคุ้นเคยกับการใช้งานออนไลน์ แต่ยังไว้วางใจบริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลเป็นอย่างมาก


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ฟอร์มเดือดไม่แผ่ว ขึ้นโพเดียมศึก Thailand Super Series 2025 อีเว้นท์ 2 ที่บางแสน

    1 Min Read

    “TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ฟอร์มเดือดไม่แผ่ว ขึ้นโพเดียมศึก Thailand Super Series 2025 อีเว้นท์ 2 ที่บางแสน

    TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ทีมแข่งรถยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลงสนามประกาศศักดาต่อในศึก “Thailand Super Series 2025” อีเว้นท์ที่ 2 ฟอร์มเจ๋งรับถ้วยแชมป์  GTM –GTC- Super Touring turbo  นำทีมโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, มานัต กุละปาลานนท์, กรัณฑ์    ศุภพงษ์, อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ, กฤษฎิ์ วสุรัตน์, ณ ดล วัฒนธรรม, นรรัศมิ์ อภิวาท, ทรงศักดิ์ กรศิริสืบสกุล และ ไอตั้น อัษฎาธร ในระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2568 ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จ.ชลบุรี

    ทีมนักแข่ง TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ฟอร์มแรงต่อเนื่องเดินหน้าลงสนามเทศกาลความเร็วระดับอินเตอร์ “Bangsaen Grand Prix 2025” ในรายการ Thailand Super Series Event 2 ทั้งรถและนักแข่งพร้อมทีมงานจัดเต็มพิกัดลงสนามทั้งหมด 5 รุ่น

     รุ่น Supercar GTM ลงสนาม 2 คัน ด้วยรถ TOYOTA GR Supra รถหมายเลข 24 ขับโดย แมดคาว-ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ โชว์ความเก๋าเจนสนามคว้าถ้วย Supercar GTM Am อันดับ 2 และอันดับ 1  ด้านรถหมายเลข 9  ขับโดย แมน-ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ ต้น-มานัต กุละปาลานนท์ ใส่เต็มที่แท็กทีมสร้างผลงานรับถ้วย Supercar GTM Pro ในอันดับ 2 ทั้ง 2 เรซ

    รุ่น Supercar GTC ใช้รถ Corolla Altis GR Sport หมายเลข 9 ขับโดย เอ็กซ์-อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ และ ต้นกล้า-กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ฝ่าทุกอุปสรรควัดใจแกร่งจบการแข่งขันรับถ้วยอันดับ 1 ในเรซ 4

              รุ่น Super Touring  ทีมส่งรถลงสนาม 2 คัน โดยรถ YARIS HB Turbo หมายเลข 25 ขับโดย ณ ดล วัฒนธรรม และ เน็กซี่-นรรัศมิ์ อภิวาท จบการแข่งขันอันดับ 3 ทั้ง 2 เรซ และรับถ้วยอันดับ 1 ในรุ่น Super Touring Turbo และทำเวลา Best time 01.53.207 นาทีต่อรอบอีกด้วย  ด้านรถ YARIS ATIV หมายเลข 51 ขับโดย ไอตั้น-อัษฎาธร นักแข่งน้องใหม่ จบการแข่งขันในอันดับ 5 และอันดับ 2  ในรุ่น

    รุ่น Supercar GT4 ใช้รถ TOYOTA GR Supra GT4 หมายเลข 19 ขับโดย อาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติ และ จั้ม-กรัณฑ์ ศุภพงษ์ จบการแข่งขันในรุ่น GT4 Am อันดับ 4

    รุ่น Super Pickup D1 ด้วยรถ Hilux Champ หมายเลข 92 โดยการขับของ เฮียซ้ง-ทรงศักดิ์ กรศิริสืบสกุล สนามนี้จบการแข่งขัน 2 เรซ เก็บคะแนนไปด้วยอันดับ 7 และ 8 ในคลาส A

    หลังจบการแข่งขัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่ง TOYOTA GAZOO Racing Thailand กล่าวว่า “สนาม TSS ที่บางแสนปีนี้ยังคงไว้ซึ่งความท้าทายทั้งในด้านเทคนิคและสภาพแวดล้อม แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาทั้งรถและศักยภาพของทีมต่อเนื่อง ทุกคนทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมภายใต้ข้อจำกัดในสนาม ทีมยังรักษามาตรฐานมีโพเดียมในรุ่นที่ลงแข่งขัน ขอขอบคุณแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกท่านที่ติดตามและส่งกำลังใจให้พวกเราครับ”

    ร่วมติดตามชมและเชียร์ TOYOTA GAZOO Racing Thailand” ที่เตรียมพร้อมลุยต่อในรายการมาราธอนทางเรียบ “RAAT Thailand Endurance Championship 2025” สนามแรกของฤดูกาล ในระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ติดตามผลงานชมและเชียร์ทีมแข่งรถสัญชาติไทยที่มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand


    าง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” สตาร์ตแถว 8 “จูเนียร์จีพี” สนาม 3 ที่ ฝรั่งเศส

    1 Min Read

    “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” สตาร์ตแถว 8 “จูเนียร์จีพี” สนาม 3 ที่ ฝรั่งเศส

    ศึก จูเนียร์จีพี ผ่านการควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ตเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา  “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ เจ้าของหมายเลข 85 ดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงแข่งขันที่สนามนี้เป็นครั้งแรก ก่อนจะคว้ากริดที่ 22 มาครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 45.498 วินาที ตามหลังเพียง 0.243 วินาทีเท่านั้น

    ทั้งนี้ ศึก เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 สนาม 3 จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคมนี้ เวลา 18.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง https://www.youtube.com/@FIMJuniorGP

     

    แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

    #ThaiHonda #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #Motorsport #JuniorGP #Maikiw #Maikiw85 #KS85


    าง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ไทยฮอนด้า เผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ‘New Honda CUV e:’ เพื่อคนเมืองยุคใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัย ขับขี่สบาย ไร้มลพิษ พร้อมให้คนไทยเช่าใช้งานแล้ววันนี้!

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า เผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ‘New Honda CUV e:’ เพื่อคนเมืองยุคใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัย ขับขี่สบาย ไร้มลพิษ พร้อมให้คนไทยเช่าใช้งานแล้ววันนี้!

    ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดประสบการณ์ใหม่ของการเดินทางในเมือง ด้วย New Honda CUV e: รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด Smart Ride, Future Ready ที่ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคดิจิทัลโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะไปทำงาน เที่ยวคาเฟ่ หรือใช้ชีวิตในทุกวัน ก็พร้อมตอบโจทย์ด้วยดีไซน์ทันสมัย เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และบริการที่รองรับการใช้งานอย่างครบวงจร

    New Honda CUV e: คือตัวแทนของวิถีชีวิตคนเมืองยุคดิจิทัล ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ และการเชื่อมต่ออัจฉริยะ โดยพร้อมให้คนทั่วไปสามารถเช่าใช้งานได้แล้ววันนี้ ในราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 3,500 บาท/เดือน

    ขับขี่คุ้มค่า ไร้มลพิษ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100%

    New Honda CUV e: ให้การขับขี่ที่นุ่ม เงียบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีไอเสียและเสียงรบกวน ขับขี่สบายใจได้ในทุกพื้นที่ โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน Honda Mobile Power Pack e: จำนวน 2 ลูก ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล UNR 136 และสำหรับ Honda e: SWAP STATION มีระบบควบคุม BMS ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิและการจ่ายพลังงานให้เสถียรอีกด้วย ไม่ต้องจ่ายค่าบำรุงรักษา ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน สะดวกและคุ้มค่า

    สลับแบตไวใน 1 นาที ขับขี่ได้ไกลมากกว่า 70 กิโลเมตรต่อการชาร์จ

    New Honda CUV e: รองรับระยะทางการขับขี่ได้มากกว่า 70 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วภายใน 1 นาที ที่ Honda e: SWAP STATION ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมแล้วกว่า 44 ตู้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสามารถค้นหาเส้นทางไปยังสถานีใกล้ที่สุดผ่านแอปพลิเคชัน Honda e: SWAP STATION ได้ทันที

    ไปไหนก็สนุก ดีไซน์ล้ำสมัย ขับขี่ง่าย พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ

    New Honda CUV e: ออกแบบมาให้ขับขี่ง่าย เหมาะกับการใช้งานในเมือง มาพร้อมไฟหน้า-ท้ายแบบ LED โดดเด่น นวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของยานยนต์ไฟฟ้าและหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว
    (รุ่น Standard) และ 7 นิ้ว (รุ่น Connectivity) ที่รองรับโหมดกลางวัน-กลางคืน หรือปรับอัตโนมัติ อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบอัจฉริยะ Honda RoadSync Duo (เฉพาะรุ่น Connectivity) ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับตัวรถผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi เพื่อใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ บนหน้าจอ TFT ได้ เช่น การนำทาง รับสายเข้า-ออก ฟังเพลง การแจ้งเตือน และค้นหาสถานีแบตเตอรี่ใกล้ตัว

    ขับขี่ได้หลายโหมด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่

    New Honda CUV e: มีโหมดขับขี่ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ ECON, Normal และ Sport ยังมาพร้อม ระบบ Reverse Assist สำหรับช่วยถอยหลังในพื้นที่จำกัด และขับขี่มั่นใจด้วยระบบช่วยกระจายแรงเบรก CBS (Combine Braking System)

    New Honda CUV e: มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard และ รุ่น Connectivity มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และ สีขาว (Pearl Jubilee White) ราคาเช่าเริ่มต้น 3,500 บาท/เดือน โดย New Honda CUV e: พร้อมให้คนไทยสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ได้จริงแล้ววันนี้ ลงทะเบียนเช่าใช้งานและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4hvNzqD

    ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Honda e:Swap Thailand สำหรับค้นหาสถานี e:SWAP
    iOS: https://bitly.cx/8ptzI
    Android: https://bitly.cx/2TEt

    #CUVe #SmartRideFutureReady #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment