-
เอ็มจี ส่ง NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER
โชว์ศักยภาพ “อีวีตัวจี๊ด” บนสนามแข่ง
ในรายการ Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By Harson Tyresบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกวงการยานยนต์ไฟฟ้าไทย
สร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ขยายการรับรู้สู่กลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ล่าสุด นำ NEW MG4 ELECTRIC
รุ่น XPOWER ลุยสนามแข่ง Gymkhana ในรายการ Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By Harson Tyres ประเดิมแข่งแมทช์แรกในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของขุมพลังยานยนต์ไฟฟ้าของ “อีวีสายพันธุ์แท้” อย่าง NEW MG4 ELECTRIC ในสภาพเส้นทางที่ท้าทาย
โดยมี “คุณหน่อง-เอมอมร” นักแข่งรถตัวแทนจาก เอ็มจี ร่วมลงสนามคู่กับ NEW MG4 ELECTRIC
รุ่น XPOWER และพันธมิตรยางล้อจาก Yokohama และ Maxion Wheels ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญในการ ลงแข่งขันครั้งนี้ สำหรับรายการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบความสามารถและโชว์ศักยภาพอันทรงพลังของ รถเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของแบรนด์ เอ็มจี ในการก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต
ในประเทศไทย ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของผู้ขับขี่ยุคใหม่ ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนให้กับวงการยานยนต์ไทยในอนาคตอย่างต่อเนื่องสำหรับการแข่งขันจิมคาน่า (Gymkhana) เป็นการแข่งขันที่สามารถใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ในการแข่ง
ด้วยการใช้ความเร็วรถระดับต่ำถึงปานกลางในการแข่งขัน โดยไม่เน้นความเร็วรถเป็นหลักแต่จะเน้นเรื่องทักษะเทคนิคการขับขี่ในแต่ละจุดทดสอบแทน และใช้ระยะเวลาที่ทำได้เป็นตัวชี้วัดในการตัดสินการแข่งขันในแต่ละครั้ง
ซึ่งการแข่งขัน Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By Harson Tyres เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหว ครั้งสำคัญของแบรนด์ เอ็มจี ในการส่ง “อีวีสายพันธุ์แท้” อย่าง NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER
ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “อีวีตัวจี๊ด” โดดเด่นด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร โดยสามารถทำอัตราเร่ง
จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.8 วินาที เพื่อทดสอบสมรรถนะบนสนามแข่ง และส่งเสริมให้นักแข่งสามารถสร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมี “คุณหน่อง-เอมอมร” นักแข่งรถตัวแทนจากแบรนด์ เอ็มจี กับผลงาน การแข่งขันที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น รางวัลรองแชมป์อันดับที่ 4 จากการแข่งขัน Auto Special Gymkhana Thailand 2002 รางวัลอันดับที่ 2 จากการแข่งขัน Gymkhana By Under Up 2022 การคว้ารางวัลอันดับที่ 1 รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง จากการแข่งขัน Gymkhana Classic Revival 2024 มาครองได้ และล่าสุด
กับการแข่งขัน Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By Harson Tyres สนามแรกในปีนี้ ที่สามารถคว้ารางวัลอันดับที่ 1 ในรุ่น GC9 มาได้ ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของ “คุณหน่อง-เอมอมร” และทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำแบรนด์ในฐานะผู้สนับสนุนสำคัญที่มีบทบาทในการผลักดันนักแข่งให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในวงการมอเตอร์สปอร์ต แม้จะต้องเผชิญกับบททดสอบที่ท้าทายและการแข่งขันอันดุเดือดก็ตามเผยมุมมองของคุณหน่อง-เอมอมร กับประสบการณ์การขับ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ลุยสนามแข่ง
คุณหน่อง-เอมอมร กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เพราะการแข่งขันครั้งนี้ ลงแข่งในรุ่น GC 9 รถพลังงานไฟฟ้า100% ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตที่ผลักดันให้ผมพัฒนาความสามารถตัวเองมากยิ่งขึ้น และการขับ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ลงแข่งขันในรายการนี้ ทำให้ผมมั่นใจในทุกเส้นทางการแข่งขัน ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลัง ทั้งความเร็ว แรง และเร้าใจ เป็นรถที่โดดเด่น และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างด้วยการกระจายน้ำหนักที่สมดุลแบบ 50:50 และจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (Low Centre of Gravity) พร้อมระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และช่วงล่างหลังแบบ 5-Link Suspension ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะและการควบคุมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน ทำให้สามารถควบคุมรถไปตามเส้นทางการแข่งขันในสไตล์ Gymkhana ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น สำหรับการแข่งขันในปีนี้ ตัวรถที่ใช้แข่งไม่ได้มีการปรับจูนใหม่ใดๆ จะมีเพียงแค่การปรับมาใช้ยางล้อจาก Yokohama และ Maxion Wheels ที่ช่วยยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี สำหรับการแข่งขันในแมทช์ต่อไป ผมตั้งใจที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้มากยิ่งขึ้น พร้อมสนุกไปกับการแข่งขันฤดูกาลใหม่ และหวังว่าจะได้มีโอกาสขับรถจากแบรนด์ เอ็มจี รุ่นใหม่ๆ ลงสนามอีกครั้ง”
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี จากจุดเริ่มต้นในการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ต
ที่ประสบความสำเร็จในสนามแข่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดยานยนต์ระดับนานาชาติ ซึ่งในปัจจุบัน เอ็มจียังคงมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาและผลักดันแบรนด์เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่อย่างจริงจัง ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี อันล้ำสมัยเข้ากับสมรรถนะยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสะท้อนจิตวิญญาณและดีเอ็นเอความเป็นสปอร์ต
ของแบรนด์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เอ็มจี ไม่เพียงแต่ถ่ายทอดกลิ่นอายความเป็นสปอร์ตจากอดีตสู่ปัจจุบัน
แต่ยังมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อให้ลูกค้า
ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด สำหรับ NEW MG4 ELECTRIC เป็นโกลบอลอีวีรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้น
บน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM และยังถือเป็นโกลบอลอีวีรุ่นยอดนิยมที่ได้รับกระแสตอบรับ
อย่างดีเยี่ยมจากผู้ใช้อีวีทั่วโลก โดย ณ ปัจจุบันมียอดขายในประเทศไทยรวมแล้วว่า 13,000 คัน และยอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 200,000 คัน ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะดีเยี่ยม เทคโนโลยีที่ทันสมัย
และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รวมถึงยังเป็นโมเดลที่ได้รับการการันตีคุณภาพด้วยรางวัล THAILANDEV OF THE YEAR 2023 และคว้ารางวัลในระดับสากลจากเว็บไซต์ผู้เชี่ยวชาญรถยนต์อีวี และยนตรกรรมรุ่นนี้ ยังผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) อีกด้วย NEW MG4 ELECTRIC เป็นโมเดลที่ผมเชื่อว่าจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ ในวงการมอเตอร์สปอร์ตยุคใหม่ พร้อมขับเคลื่อนแบรนด์ เอ็มจี ให้ก้าวไกลไปในทิศทางที่ใหญ่ยิ่งขึ้นและเป็นหนึ่ง ในผู้นำของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในระดับสากลมากขึ้นด้วยเช่นกัน”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
Scoop / SCOOP MOTOCYCLE1 Min Read
โรยัล เอ็นฟีลด์ย้ำความเชื่อมั่น เผยโครงการส่งมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อแก่ผู้ขับขี่ด้วยบริการหลังการขาย
● ศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ดำเนินการโดยโรยัล เอ็นฟีลด์ จัดให้มีทั้งการฝึกอบรมภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รองรับการฝึกอบรมสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
● โรยัล เอ็นฟีลด์ จัดการแข่งขันทักษะทางเทคนิค “Supersquad” สำหรับช่างเทคนิคจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
● ปัจจุบัน โรยัล เอ็นฟีลด์ มี Exclusive Stores จำนวน 60 แห่ง และร้านค้าแบบ MBO จำนวน 135 แห่ง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (รวม 27 ร้านค้า + 9 MBO ในประเทศไทย)โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำระดับโลกด้านรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-750cc) เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริการหลังการขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมทั้งริเริ่มโครงการใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ราบรื่นและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
ล่าสุด Royal Enfield ได้เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ศูนย์ฝึกอบรม “POWERTRAIN” นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการฝึกอบรมเชิงเทคนิคในห้องเรียน โดยเน้นไปที่ทีมช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ รวมถึงที่ปรึกษาการบริการ ผู้จัดการฝ่ายบริการ ผู้จัดการรับประกันและอะไหล่ ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมภาคปฏิบัติที่ครบครันด้วยรถจักรยานยนต์รุ่นปัจจุบันและเครื่องยนต์เฉพาะรุ่นสำหรับการฝึกใช้งานจริง
นอกจากการฝึกอบรมเชิงเทคนิคแล้ว ศูนย์ฝึกอบรม POWERTRAIN ยังมีระบบการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) ซึ่งเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยในการฝึกอบรมออนไลน์และการสนับสนุนการประเมินรถตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันทั้งปี มากไปกว่านั้นศูนย์แห่งนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการฝึกอบรมด้านการขายและการตลาดให้กับดีลเลอร์และพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติงานที่เป็นเลิศของโรยัล เอ็นฟีลด์ และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ โดยโรยัล เอ็นฟีลด์ได้จัดโครงการ Supersquad สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการแข่งขันทักษะประจำปีในหมู่ช่างเทคนิคจากดีลเลอร์ทั่วภูมิภาค เพื่อทดสอบความสามารถด้านเทคนิค การแก้ไขปัญหา และการประเมินสภาพรถ โดยมีช่างเทคนิคจำนวน 314 คนจาก 11 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน และผู้ชนะในแต่ละประเทศจะเข้าร่วมแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ศูนย์ฝึกอบรม POWERTRAIN ณ ประเทศไทย
โครงการ Supersquad ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการยกระดับความสามารถทางเทคนิคและมาตรฐานการดำเนินงาน โดยการให้โอกาสแก่เหล่าช่างเทคนิคในการแสดงความเชี่ยวชาญของตน งานนี้ได้เสริมสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่น และความภักดีในกลุ่มลูกค้าทั่วโลกของโรยัล เอ็นฟีลด์ นอกจากนี้ ผู้ชนะและรองชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลและของที่ระลึก เพื่อเฉลิมฉลองการมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์
การแข่งขัน Supersquad 2025 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ที่มุ่งมั่นในการเสริมพลังให้กับทีมงานบริการ และการกำหนดมาตรฐานใหม่ในความเป็นเลิศทางเทคนิค โดยการรวมผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภูมิภาคและส่งเสริมการเติบโตในวิชาชีพ กิจกรรมนี้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการมอบมาตรฐานการบริการที่ไม่มีใครเทียบได้
โรยัล เอ็นฟีลด์ขอแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน รวมถึงผู้ชนะและรองชนะเลิศสำหรับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมใน Supersquad 2025 ความมุ่งมั่นและทักษะของพวกเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจและยกระดับตำนานความเป็นเลิศของโรยัล เอ็นฟีลด์
Supersquad 2025 เป็นเวทีกำหนดมาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของโรยัล เอ็นฟีลด์ โดยส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด ช่วยเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้กับดีลเลอร์และผู้จัดจำหน่าย ส่งต่อความไว้วางใจและความพึงพอใจของลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผู้เข้าร่วมยังได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการบริการขั้นสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพการบริการที่มีประสิทธิภาพ ยืนยันความเป็นผู้นำของโรยัล เอ็นฟีลด์ในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม
โดยล่าสุด ช่างเทคนิคจากเกาหลีใต้ได้รับตำแหน่งชนะเลิศในระดับเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ช่างเทคนิคจากประเทศไทยได้รับรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ทั้งสองท่านจะเป็นตัวแทนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการแข่งขัน Supersquad 2025 ระดับโลกที่ประเทศอินเดียในอนาคต โครงการนี้มุ่งเน้นในการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ “First Time Right” และ “Reasonable Service Time” ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของโรยัล เอ็นฟีลด์ในการมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า และสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งในตลาดหลักทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเพิ่มการเข้าถึงให้ดียิ่งขึ้น
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Car
OMODA & JAECOO ประกาศผู้โชคดีแคมเปญ “Motor Expo Deal ซื้อรถชิงรถ” มอบรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
1 Min ReadOMODA & JAECOO ประกาศผู้โชคดีแคมเปญ “Motor Expo Deal ซื้อรถชิงรถ”
มอบรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท(เรียงจากซ้ายไปขวา) พิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด,
ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) และ อลิศา ลำเทียน เจ้าหน้าที่ปกครอง กรมการปกครองกรุงเทพฯ, 17 กุมภาพันธ์ 2567 – OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก จัดพิธีมอบรางวัลแคมเปญ “Motor Expo Deal ซื้อรถชิงรถ” จากงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Thailand International Motor Expo 2024) โดยมีผู้โชคดีร่วมลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,539,000 บาท
แคมเปญนี้จัดขึ้นสำหรับลูกค้าที่จอง และ ส่งมอบรถ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในประเทศจีน) ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2567 และจดทะเบียนภายใน 17 มกราคม 2568 โดยมีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,539,000 บาท แบ่งเป็น
1. รถ OMODA C5 EV Long Range Plus จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 899,000 บาท
2. สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 30 รางวัล มูลค่า 390,000 บาท
3. บัตรชาร์ตรถไฟฟ้า มูลค่า 2,500 บาท จำนวน 100 รางวัล มูลค่า 250,000 บาทผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล:
• รางวัลที่ 1: นายเจษฏากรณ์ จันครา ได้รับรถ OMODA C5 EV Long Range Plus
• รางวัลที่ 2 และ 3: ผู้โชคดีท่านอื่นๆ จำนวน 130 ท่าน ซึ่งได้รับการติดต่อจากทาง OMODA & JAECOO โดยตรงนายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “แคมเปญ Motor Expo Deal ซื้อรถชิงรถ นับเป็นการ
ตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ความสำเร็จของแคมเปญนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของ OMODA & JAECOO ทำให้เรามีกำลังใจเต็มเปี่ยม พร้อมมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยี
ยานยนต์ที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าชาวไทย”“นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมและแคมเปญพิเศษอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2568 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำ
ด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมส่งมอบนวัตกรรมและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา” นายฉี เจี๋ย กล่าวเสริมสำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ OMODA & JAECOO สามารถสอบถามได้ที่
โชว์รูม OMODA & JAECOO ทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ทาง www.omodajaecoo.co.th และ
เพจ Facebook: Omoda & Jaecoo Thailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
โตโยต้า เชิญชวนชาวขอนแก่น ร่วมตระหนักเรื่องโลกเดือด พร้อมลดเปลี่ยนโลก
ผ่านนิทรรศการ Multiverse Future Thailand “ทางเลือก” หรือ “ทางรอด”นายสิริวิทย์ ปรีชาศุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนองค์กร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด และ นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติในงานนิทรรศการ “Multiverse Future Thailand ทางเลือก หรือ ทางรอด” ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัล ขอนแก่นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568นิทรรศการ Multiverse Future Thailand คือการจำลองอนาคตประเทศไทยออกเป็นโลกคู่ขนานใน 2 โซน ได้แก่ โซน “ทางเลือก” ที่เน้นสร้างความตระหนักถึงผลกระทบจากสถานการณ์ภาวะโลกเดือดผ่านร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และ โซน “ทางรอด” ที่มุ่งเน้นในการสร้างจิตสำนึกผ่านการให้ความรู้ในแง่มุมต่าง ๆ ตลอดจนชักชวนผู้คนมาร่วมปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันผ่านกิจกรรม “ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” โดยโตโยต้าได้มีการจัดนิทรรศการฯ ครั้งแรก ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่17 – 19 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา และได้ขยายความสำเร็จมายังจังหวัดขอนแก่นต่อไปภายในงาน มีกิจกรรม Workshop นำขยะมารีไซเคิลทำเป็นสิ่งประดิษฐ์ โดย TAMDA Studioที่มีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์สิ่งของเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นผลงาน และยังมีความสนุกกับกิจกรรมมินิทอล์คและมินิคอนเสิร์ต โดยศิลปิน “บิวบองและด้งเด้ง ไทบ้าน” และ “หญิงลี ศรีจุมพล”โตโยต้าคาดหวังว่างานในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมาย “สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน” อันจะเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “เมืองสีเขียว” อย่างยั่งยืนต่อไป“นิทรรศการ Multiverse Future Thailand “ทางเลือก” หรือ “ทางรอด” จัดขึ้นณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัล ขอนแก่น ตลอดวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
สแกนเนีย ปฏิวัติวงการสิบล้อ ส่งรถ Scania Rigid Euro 5 ลงตลาด
ชูจุดเด่นรถบรรทุก 10 ล้อ มาตรฐานยุโรป ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดราคาเร้าใจ 3.5 ล้าน เผยผู้ประกอบการสนใจจำนวนมากตลาดสิบล้อสะเทือน สแกนเนีย ประกาศปฏิวัติวงการ ส่งรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 มาตรฐานยุโรปลงตลาด ชูจุดเด่นประสิทธิภาพสมรรถนะเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมัน ระบบความปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีช่วงล่างให้เลือกทั้งแบบแหนบและถุงลม เปิดราคาจอง (Pre Booking) เร้าใจแค่ 3.5 ล้านบาท ดาวน์ต่ำ 5% ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% พร้อมแพ็คเกจดูแลรักษารถนาน 3 ปี มั่นใจคุณสมบัติเด่นจับใจผู้ประกอบการ ชิงส่วนแบ่งตลาดรถบรรทุกได้แน่ ล่าสุดเผยผลตอบรับดีเกิดคาดผู้ประกอบการให้ความสนใจจำนวนมาก
นางสาวดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการงานขายและกลยุทธ์ประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการเดินหน้ารุกตลาดรถบรรทุก 10 ล้อ ในประเทศไทยว่า หลังการเปิดตัวรถบรรทุกหัวลาก Scania Euro 5 ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ผลตอบรับถือว่าดีมาก จากทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ พร้อมแนวโน้มการซื้อซ้ำอีกจำนวนมากในปีนี้ ผลดังกล่าวเกิดจากการยอมรับในประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์ การประหยัดน้ำมันในอัตราขาไปบรรทุกหนักและขากลับบรรทุกเบาสูงสุดถึง 4.8 กิโลเมตร / ลิตร และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จุดเด่นที่ถูกพูดถึงในวงกว้างทำให้เกิดกระแสเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้ารถบรรทุก 10 ล้อ ว่าต้องการรถ Euro 5 มาใช้งานด้วยเช่นกัน เนื่องจากมองเห็นถึงโอกาสและความสำคัญของรถ Euro 5 โดยเฉพาะในช่วง PM 2.5 พุ่งสูง ทำให้ กรุงเทพมหานคร ยกระดับมาตรการควบคุมฝุ่น ห้ามรถบรรทุกที่ไม่อยู่ในบัญชีสีเขียวเข้าพื้นที่เขตควบคุม ทำให้รถที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ แต่รถ Euro 5 เป็นหนึ่งในรถที่ได้รับการยกเว้นให้เข้าในพื้นที่ได้
สัญญาณที่ดีและแนวโน้มความต้องการรถบรรทุก 10 ล้อ Euro 5 ผนวกกับตลาดรถบรรทุก 10 ล้อ ของไทย มีขนาดใหญ่มาก โดยรถบรรทุกน้ำหนักเกิน 7 ตัน ขึ้นไป ที่จดทะเบียนใหม่ในปี 2567 ที่ผ่านมามีประมาณ 11,000 คัน เป็นรถบรรทุก 10 ล้อ ถึงประมาณ 50% หรือ 5,500 คัน ทำให้ สแกนเนีย ศึกษาตลาดอย่างจริงจัง โดยทีมสนับสนุนการขายและฝ่ายขายร่วมกันออกหาลูกค้า ศึกษาหาความต้องการที่แท้จริง และนำข้อมูลที่ได้มาหาโซลูชั่นร่วมกับบริษัทฯ แม่ที่สวีเดน เพื่อพัฒนาและยกระดับรถบรรทุก 10 ล้อ ที่เป็น Euro 5 ให้เหมาะสมกับตลาดประเทศไทย มีสมรรถนะสูงสุด ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป เป็น DNA สแกนเนีย ที่ทุกคนมั่นใจ พิเศษสุดเพราะมีระบบช่วงล่างให้เลือกทั้งแบบแหนบ และ ถุงลม ซึ่งได้รับความนิยมในยุโรปและอเมริกา เนื่องจากบำรุงรักษาง่ายใช้เวลาไม่นาน ปรับระดับความสูงต่ำได้ มีความนิ่มนวล รักษาสินค้าได้ดี ช่วยยืดอายุการใช้งานอะไหล่ส่วนอื่นๆ ได้ นอกจากนั้นยังสามารถยกเพลาตามได้มาจากโรงงานเพื่อประหยัดหน้ายาง ช่วยในการขับขี่และการขนส่งได้โดยไม่เสียสมดุลของตัวรถเพราะเป็นมาตรฐานมาจากโรงงาน นอกจากระบบต่างๆ แล้ว ยังเป็นครั้งแรกในรถสิบล้อกับจอแสดงผลดิจิทัลอัจฉริยะเต็มรูปแบบ ทั้งหน้าปัดมาตรวัดและวิทยุ (Smart Dash) ทั้งหมดนี้ถูกใส่ไว้ใน Scania Rigid Euro 5 อย่างเต็มที่ เพื่อการพัฒนาและพลิกโฉมวงการรถบรรทุก 10 ล้อไทยอย่างแท้จริง ในราคาที่เหมาะสม โดยวันนี้รถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 พร้อมลงตลาดแล้วและถือเป็นรถบรรทุก 10 ล้อ Euro 5 เจ้าแรกของไทยอีกด้วย
ส่วนการใช้งานของรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 นั้น ครอบคลุมในหลายประเภทการขนส่งไม่ว่าจะเป็นขนส่งตู้ ขนส่งที่ต้องการความปลอดภัยสูง ขนส่งรถ รถติดฮุกลิฟท์ ขนส่งแท็งค์ของเหลวต่างๆ น้ำมัน อาหารสัตว์ สินค้าที่คุมอุณหภูมิ ฯลฯ โดยมุ่งเน้นทำตลาดกับทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้รถสแกนเนียและมีบริการรถบรรทุก 10 ล้อ กลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นผู้ให้บริการรถบรรทุก 10 ล้อ แต่ยังไม่เคยใช้รถของสแกนเนีย และกลุ่มที่ต้องการใช้รถในงานเฉพาะทาง อาทิ รถดับเพลิง รถขุดเจาะ รถที่ใช้ในกิจกรรมพิเศษ ฯลฯ
ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปี สแกนเนีย ได้มีการแนะนำรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 แก่กลุ่มลูกค้าบางส่วนไปบ้างแล้วและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด ดังนั้น สแกนเนีย จึงได้เปิดจอง (Pre Booking) รถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 อย่างเป็นทางการขึ้น ด้วยราคาพิเศษเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท พร้อมทั้งร่วมมือกับ สแกนเนีย ไฟแนนซ์ มอบข้อเสนอพิเศษดาวน์เริ่มต้นที่ 5% ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ผ่อนสูงสุด 72 งวด ขับฟรี 60 วัน พร้อมรับฟรี AdBlue 500 ลิตร และแพ็คเกจดูแลรักษารถ ได้แก่ ฟรีงานซ่อม 2 ปี หรือ 270,000 กม. และ บำรุงรักษาอีก 3 ปี หรือสูงสุด 380,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน) จากคุณสมบัติที่แตกต่างและราคาที่เหมาะสม ทำให้เชื่อว่ารถบรรทุก Scania Rigid Euro 5 จะสร้างปรากฏการใหม่ในการพลิกโฉมและสร้างภาพลักษณ์ให้กับวงการรถบรรทุก 10 ล้อของไทย และจะเป็นเรือธงในน่านน้ำใหม่ให้กับ สแกนเนีย ในการชิงแชร์ตลาดรถบรรทุก 10 ล้อ ได้อย่างแน่นอน
สำหรับจุดเด่นและรายละเอียดของรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 นั้น นายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้อำนวยการสนับสนุนการขายและโลจิสติกส์ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เผยว่ารถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 มีจุดเด่นที่เช่นเดียวกับรถหัวลาก สแกนเนีย โดยรุ่นที่เปิดตัวครั้งนี้ คือ P360 มีเครื่องยนต์ขนาด 360 แรงม้า กำลังแรงบิด 1,700 นิวตันเมตร เพลาเดียว มาพร้อมกับ 12 เกียร์เดินหน้า ช่วงล่างมีให้เลือกทั้งแบบแหนบและถุงลม พร้อมกับ 2 ช่วงความยาว 6.6 เมตร และ 7.7 เมตร เพื่อทางเลือกที่หลากหลายในการต่อตัวถังของลูกค้า
โดยการเป็นรถเพลาเดียวที่มีกำลังเครื่องและแรงบิดสูง มีข้อได้เปรียบกว่ารถ 2 เพลาในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดน้ำมันที่มากกว่า น้ำหนักตัวรถที่น้อยกว่า สามารถยกเพลาตามได้ทำให้ประหยัดหน้ายาง อีกทั้งยังถ่ายเทน้ำหนักกดลงเพลาจักรเพื่อเพิ่มกำลังขับได้ ส่วนระบบความปลอดภัยนั้น ในระบบเบรกถ้าเป็นช่วงล่างแบบแหนบจะเป็นดรัมเบรก แต่ถ้าเป็นช่วงล่างแบบถุงลมจะเป็นดิสก์เบรก ซึ่งเวลาเบรกผ้าเบรกจะจับได้เต็มกว่าและกระจายความร้อนได้ดีกว่า ในกรณีที่ต้องมีการเบรกนานๆ อย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 ระบบ ยังคงมาตรฐานเบรก ABS และ EBS และเบรกไอเสีย
ส่วนระบบเกียร์เป็นระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ หัวเก๋งมีความปลอดภัยสูง ให้มุมมองวิสัยทัศน์ที่ดี ภายในห้องโดยสารควบคุมระบบต่างๆ ของรถผ่านหน้าจออัจฉริยะ เป็นเบาะลมปรับระดับ ปรับความหนืดได้ ช่วยให้การขับขี่สบายขึ้น ในด้านสิ่งแวดล้อมรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Rigid Euro 5 สามารถลด PM2.5 ได้มากถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับรถยูโร 3 อีกด้วย สำหรับผู้สนใจรายละเอียดรถบรรทุก 10 ล้อ Scania Regi Euro 5 หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scania.co.th หรือ โทร 02 017 9200 หรือ LINE OA: Scania TH Group หรือ www.facebook.com/scaniathailandgroup
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
PTT Station และ Café Amazon คว้ารางวัล World Branding Awards ต่อเนื่องปีที่ 8 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับโลก
ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดเผยว่า รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อ PTT Station และ Café Amazon เรามุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา PTT Station เป็นผู้นำสถานีบริการน้ำมันที่ผู้บริโภคไว้วางใจด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 และมาตรฐานคุณภาพน้ำมันระดับสากลที่ผ่านการคัดสรรสารเติมแต่งจากบริษัทชั้นนำระดับโลก พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการควบคุมคุณภาพน้ำมันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่น้ำมันออกจากโรงกลั่นจนถึงมือผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพระดับสากลและมาตรฐานเดียวกันใน PTT Station ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ครบครันภายในสถานีบริการ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และเป็นพื้นที่ดูแลผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ขณะที่ Café Amazon แบรนด์กาแฟที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดขายที่สูงที่สุดในตลาดกว่า 400 ล้านแก้วต่อปี พร้อมสร้างประสบการณ์การบริโภคที่ครบวงจรและตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างรอบด้าน จากแนวคิด “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งแฟร์กับสิ่งแวดล้อม ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ แฟร์กับผู้ขาดโอกาส ผ่านการสนับสนุนเกษตรกรและการจ้างงานผู้ด้อยโอกาส และแฟร์กับผู้บริโภค ด้วยเครื่องดื่มคุณภาพ
สำหรับ World Branding Awards จัดขึ้นโดย World Branding Forum องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลก ซึ่งพิจารณารางวัลจาก การประเมินคุณค่าของแบรนด์ (Brand Valuation) การได้รับการยอมรับจากสาธารณชน ผ่านการโหวตออนไลน์ (Public Online Voting) และการวิจัยผู้บริโภคในตลาดนั้น ๆ (Consumer Market Research) โดย PTT Station และ Café Amazon เป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียว ที่ได้รับรางวัลในหมวดของตน สะท้อนถึงการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั่วโลก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
ทัพนักบิดฮอนด้า บิด Honda CRF450R ระเบิดผลงาน! “นีโม่-จิรัฎฐ์” ครองชัยชนะสนามแรก Premier MX-1 ประเทศไทย
นักบิดพร้อมยอดรถแข่งทางฝุ่น “นีโม่” จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ สังกัดทีม Honda Racing Thailand Idemitsu Wannalak Motorsport ทะยาน Honda CRF450R หมายเลข 177 ระเบิดผลงานสุดเหนือชั้น คว้าควอลิฟาย ครองชัยชนะ การแข่งขันรถจักรยานยนต์โมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย (FMSCT Thailand Motocross 2025) สนามที่ 1 ในรุ่นท็อปสุดของรายการอย่าง Premier MX-1 บันทึกประวัติศาสตร์วินเนอร์แรกของรุ่นท็อปสุดของรายการ ที่ขยับรถแข่งขึ้นเป็นพิกัด 450 ซีซี. เทียบเท่ากับการแข่งขันระดับชิงแชมป์โลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ สนาม Silver Rock จ.เลย
การแข่งขันทางฝุ่น ในศึกโมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย ทัพนักบิดทางฝุ่น จาก Honda Race to The Champion ลงแข่งขันภายใต้ทีมอิสระ กับยอดรถแข่งทางฝุ่น Honda CRF450R ประกอบด้วย กฤษฎา จำรูญจารีต สังกัดทีม Honda 17 พรนุภาพ Dritshop Idemitsu Dunlop หมายเลข 17 , ภานุพงศ์ สมสวัสดิ์ สังกัดทีม Honda ส.จ.โก๋ WRC ชาญยนต์ Idemitsu Drtc Drirtshop หมายเลข 93, จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ สังกัดทีม Honda Racing Thailand Idemitsu Wannalak Motorsport หมายเลข 177 และ พัสกร ปริยวงศธร สังกัดทีม Honda Racing Thailand S Motor หมายเลข 3
ผลการควอลิฟายเพื่อหาอันดับการออกสตาร์ต “นีโม่-จิรัฎฐ์” ทำเวลาอันดับที่ 1 แชมป์ประเทศไทย 4 สมัย ”แซงค์-กฤษฎา” ทำเวลาอันดับที่ 3 “โยอิชิ-พัสกร” ทำเวลาอันดับที่ 4 และ “ยศ-ภานุพงศ์” ทำเวลาอันดับที่ 9
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น “โออิชิ” พัสกร ปริยวงศธร ทะยานตัวแข่ง Honda CRF450R คว้าโฮลช็อตได้ทันที พร้อมไล่ล่าหัวแถวของนักแข่งฮอนด้าด้วยกัน ขณะที่ “นีโม่-จิรัฎฐ์” เริ่มต้นเกมได้ไม่ดีนัก แต่บิดไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาจากด้านหลังขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ และทะยาน Honda CRF450R เข้าเส้นชัยคว้าชัยชนะในการแข่งขันรุ่น Premier MX-1 มาครอง ขณะที่ ”ยศ-ภานุพงศ์” รั้งอันดับที่ 7 ตามด้วย ”แซงค์-กฤษฎา” รั้งอันดับที่ 8 และ “โออิชิ-พัสกร” รั้งอันดับที่ 11
ทั้งนี้ ศึกโมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 2 และ 3 จะดวลกันในระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ ที่สนามขนอมโมโตครอส (บ้านน้ำโฉ) จ.นครศรีธรรมราช
#ThaiHonda #Motorsport #RaceToTheChampion #ThailandMotocross
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน
ติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่ โรงพยาบาลพรเจริญ และ โรงพยาบาลสระใคร
ภายใต้โครงการ ‘Solar For Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้า โครงการ ‘Solar For Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่โรงพยาบาลชุมชนเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่โรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ และโรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย ซึ่งช่วยให้จำนวนโรงพยาบาลชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 12 แห่ง รวมกำลังไฟฟ้าทั้งหมด 600 กิโลวัตต์ และช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 360 ตันต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายและความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้แก่โรงพยาบาลชุมชน 40 แห่งทั่วประเทศภายใน 10 ปี นับตั้งแต่เริ่มโครงการนี้ในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน
มร. ชิน คุโบะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารองค์กรและการเงิน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ ‘Solar For Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุน
การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในประเทศไทย การติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ให้กับโรงพยาบาลชุมชน จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พร้อมยกระดับบริการด้านการแพทย์สำหรับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่ดีได้มากขึ้น เราคาดว่าจะลงทุนจำนวน 60 ล้านบาท ในการติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ในโรงพยาบาลชุมชนจำนวน 40 แห่ง ภายในระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับโรงพยาบาล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย”นายแพทย์ ตฤณกฤต สิทธิศร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ กล่าวแสดงความขอบคุณว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘Solar for Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์นี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของเราได้อย่างมาก ทำให้เราสามารถจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อยกระดับบริการทางการแพทย์สำหรับชุมชนของเรา โครงการนี้ยังช่วยผลักดันเรา
สู่เป้าหมายความยั่งยืน โดยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต พร้อมนำพลังงานสะอาด
มาสู่ชุมชนท้องถิ่นของเรา”นายแพทย์ อลงกฏ ดอนละ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของพลังงานสะอาดในการพัฒนาบริการด้านการแพทย์ ระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์จะช่วยลดค่าไฟฟ้าของเราได้อย่างมาก ทำให้เราสามารถนำทรัพยากรไปลงทุนเพิ่มเติมในด้านการดูแลผู้ป่วยและโครงการด้านสุขภาพ การสนับสนุนจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความสามารถของโรงพยาบาลของเรา แต่ยังช่วยสนับสนุนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย”
โครงการ ‘Solar for Lives: พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานเพื่อสังคมของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ และหลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยได้ทำการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ในโรงพยาบาลชุมชนแล้วทั้งหมด 12 แห่ง ประกอบด้วย
1. โรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
2. โรงพยาบาลพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย
3. โรงพยาบาลเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
4. โรงพยาบาลวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
5. โรงพยาบาลปง จังหวัดพะเยา
6. โรงพยาบาลชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ
7. โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
8. โรงพยาบาลบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
9. โรงพยาบาลนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
10. โรงพยาบาลนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
11. โรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ
12. โรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคายมร. ชิน คุโบะ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารองค์กรและการเงิน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้แก่ นายแพทย์ตฤณกฤต สิทธิศร (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในภาคสาธารณสุข และช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้รับเกียรติจาก นายดนุเดช ใจศรี
(ที่ 4 จากขวา) ปลัดอาวุโส อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ และ พันธมิตรร่วมโครงการ นายแพทย์ภมร ดรุณ (ที่ 4 จากซ้าย) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นางธิดาวรรณ แสวงการ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน-2 ฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน และ นายสไกร คงธรรม (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม-1 ฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในจังหวัดบึงกาฬ ดร. พงษ์ศักดิ์ สกุลคู (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร และ ดร. กิตติพงษ์ สกุลคู (ขวาสุด) กรรมการบริหาร บริษัท มิตซูเจียงหนองคาย จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบภาพข่าว (โรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย)
มร. ชิน คุโบะ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารองค์กรและการเงิน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบระบบไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้แก่ นายแพทย์ อลงกฏ ดอนละ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระใคร จังหวัดหนองคาย เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในภาคสาธารณสุข และช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้รับเกียรติจาก นายทวีป ไทยสวี
(ที่ 4 จากขวา) นายอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย และ พันธมิตรร่วมโครงการ นายแพทย์ บรรจบ อุบลแสน (ที่ 4 จากซ้าย) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นางธิดาวรรณ แสวงการ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย
กลยุทธ์ความยั่งยืน-2 ฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน และ นายสไกร คงธรรม (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายจัดการ
ด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม-1 ฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง
ประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในจังหวัดหนองคาย ดร. พงษ์ศักดิ์ สกุลคู (ที่ 2 จากขวา)
ประธานกรรมการบริหาร และ ดร. กิตติพงษ์ สกุลคู (ขวาสุด) กรรมการบริหาร บริษัท มิตซูเจียงหนองคาย จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
‘ไทร์พลัส’ จัดโปรแรงร่วมแคมเปญ ‘Easy E-Receipt 2.0’
ลุ้นรับส่วนลด 2,568 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาทไทร์พลัส ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร จัดโปรโมชั่นร่วมแคมเปญ ‘Easy E-Receipt 2.0’ ให้ลูกค้าคนพิเศษ เพียงซื้อยางมิชลินรุ่นใดก็ได้ (ยกเว้น MICHELIN XCD2) จำนวน 4 เส้น ลุ้นรับส่วนลดมูลค่า 2,568 บาท และ 800 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์บริการไทร์พลัสทั่วประเทศ
‘ไทร์พลัส’ จัดโปรแรงร่วมแคมเปญ ‘Easy E-Receipt 2.0’
ลุ้นรับส่วนลด 2,568 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
SCOOP MOTOCYCLE1 Min Read
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ต้อนรับเดือนแห่งความรัก
จอง New Honda Wave วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมัน 600 รางวัล! รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาทรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จัดโปรโมชันสุดพิเศษต้อนรับเดือนแห่งความรักกับครอบครัวเวฟ ครอบครัวใหญ่ สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ New Honda Wave ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 รับสิทธิ์ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 500 บาท จำนวน 600 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 300,000 บาท โดยถ่ายภาพคู่กับ ‘ใบทะเบียนสมรถเวฟ’ ที่หน้าร้าน และโพสต์ลงเฟซบุ๊กพร้อมกับติดแฮชแท็ก #ใบทะเบียนสมรถเวฟ ตามรายละเอียดและกติกา ดังนี้
1. ถ่ายภาพคู่กับรถ New Honda Wave พร้อมใบทะเบียนสมรถเวฟ
2. โพสต์ลง Facebook และเขียนบอกเหตุผลที่เข้ามาเป็นครอบครัวเวฟ ครอบครัวใหญ่ พร้อมเปิดโพสต์เป็นสาธารณะ และติดแฮชแท็ก #ใบทะเบียนสมรถเวฟประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลในวันที่ 10 มีนาคม 2568 เวลา 18.00 น. ที่แอปพลิเคชัน My Honda Moto
อ่านละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
https://bit.ly/NewHonDaWaveValentineMonthเว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA#ใบทะเบียนสมรถเวฟ #ครอบครัวเวฟครอบครัวใหญ่เชื่อใจที่1 #NewHondaWave #HondaWave125i #HondaWave110i #ที่1ผู้นำที่ทุกคนเชื่อมั่น
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #Thaihonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine