- 
	
	News / News Motocycle1 Min Read
สงกรานต์นี้ เตรียมเชียร์! “ก้อง-สมเกียรติ” พร้อมลุย “โมโตจีพี ไนท์เรซ” ที่ “กาตาร์”

ช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ไทยนี้ แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตเตรียมเชียร์ “ก้อง”สมเกียรติ จันทรา กับรถแข่ง Honda RC213V หมายเลข 35 ที่พร้อมเดินหน้าเพื่อเรียนรู้และทำงานอย่างเต็มที่ ร่วมกับต้นสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 4 “กาตาร์ กรังด์ปรีซ์” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 เมษายนนี้ ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตจะได้เชียร์นักแข่งระดับโลกบิดดวลความเร็วกันในรูปแบบ “ไนท์เรซ” ยามค่ำคืนภายใต้แสงสปอร์ตไลท์ ณ ลูแซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งผลงานที่ผ่านมากับสนามแห่งนี้ของนักบิดขวัญใจชาวไทย ในรุ่มโมโตทู คือ การคว้าอันดับ 7 เมื่อปี 2023

ด้าน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ก็มีความพร้อมลงแข่งขันในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สนามนี้แล้ว หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ “เอ็นหัวเข่า” จากสนามที่ผ่านมา ที่ สหรัฐอเมริกา
ศึก กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ จะลงซ้อมในวันศุกร์ที่ 11 เมษายน ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและสปรินต์เรซในคืนวันเสาร์ที่ 12 เมษายน (คืนข้ามเข้าสู่วันที่ 13 เมษายน) จากนั้นจะชิงชัยรอบ เมนกรังด์ปรีซ์ ในคืนนวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายนนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 21.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 22.15 น. และปิดท้ายด้วยรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย (ข้ามเป็นวันที่ 14 เมษายน) ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV และ TrueVisions Now
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #HondaHRCCastrol #JM36 #LM10 #LCRHondaTeam #LCRHonda #JZ5 #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP #HondaTeamAsia #TB5 #Gonz #QatarGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
“เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)” แท็กทีม “เจฟ ซาเตอร์” และ “ททท.” ชวนครอบครัวคนรุ่นใหม่สัมผัสประสบการณ์ พิเศษจากการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางสุด BOLD ผ่านแคมเปญสุดสร้างสรรค์ “เดอะ โบลด์ เจอร์นีย์” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆไปกับ The Kia EV5 รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์เกีย “Movement that Inspires” ได้อย่างชัดเจน

เพราะเกียเชื่อว่า ทุกการเดินทาง คือ โอกาสที่จะได้ค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญเชิงสร้างสรรค์ “เดอะ โบลด์ เจอร์นีย์” (THE BOLD JOURNEY) ชวนครอบครัวรุ่นใหม่ร่วมออกผจญภัยและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหาในประเทศไทย ไปกับ The Kia EV5 รถเอสยูวีขนาดกลาง ไฟฟ้า 100% ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้การเดินทางของครอบครัวทั้งสะดวกสบาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้น โดยมี “เจฟ ซาเตอร์” ศิลปินชื่อดังและพรีเซนเตอร์ The Kia EV5 มาร่วมถ่ายทอดความหลงใหลในการขับรถท่องเที่ยวที่พาไปสู่การได้ค้นพบตัวเองในมุมใหม่ๆ ผ่านวิดีโอออนไลน์ เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนออกมาร่วมสัมผัสการเดินทางสุด BOLD ไปด้วยกัน ประเดิมกิจกรรมแรก “The BOLD Destination” ชวนครอบครัวออกไปผจญภัยในสถานที่สุดพิเศษตามเส้นทางตะวันออกของไทย ผู้สนใจร่วมกิจกรรมสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://www.kia-campaign.com/EV5-bolddestination ได้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน – 8 พฤษภาคม 2568 เพื่อลุ้นรับสิทธิ์เป็นครอบครัวผู้โชคดีร่วมโร้ดทริปในวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2568 THE BOLD JOURNEY ไม่ใช่แค่ทริปท่องเที่ยว แต่เป็นโอกาสให้ทุกคนออกเดินทางสู่การผจญภัยที่จะเปลี่ยนนิยามของการสำรวจใหม่ และเปิดรับความงดงามของความหลากหลายในทุกสายสัมพันธ์ของครอบครัว ไม่ว่าคุณจะเป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ คู่รัก LGBTQ+ หรือสายเที่ยวที่รักสัตว์เลี้ยง แคมเปญนี้พร้อมต้อนรับทุกคนให้มาสร้างช่วงเวลาสุดประทับใจบนเส้นทางแห่งการเดินทางร่วมกัน

“เกีย” (Kia) เชื่อว่าพลังของการขับเคลื่อนสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้ ซึ่งความเชื่อนี้ได้ถูกสะท้อนผ่านปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า ‘Movement that Inspires’ โดยในปีที่ผ่านมาเกียได้มีการเปิดตัว The Kia EV5 ผ่านแคมเปญ ‘ไม่กล้า ไม่เกิด – Make A Bold Move’ ที่ชวนทุกคนให้กล้าที่จะก้าวไปสู่สิ่งใหม่ เพื่อสานต่อแนวคิดดังกล่าว ในปีนี้ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จึงได้ริเริ่มแคมเปญ “THE BOLD JOURNEY” เชิญชวนครอบครัวรุ่นใหม่ พักจากการใช้ชีวิตปกติในทุกวันออกมาผจญภัย สำรวจความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามของประเทศไทยไปกับ The Kia EV5 ที่มีระยะทางวิ่งสูงสุด 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย มั่นใจได้ว่าทุกช่วงเวลาที่อยู่บนท้องถนนจะปลอดภัย สะดวกสบาย และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ซึ่งการร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเกียในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพราะ ‘เกีย’ เชื่อว่าการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เรื่องของความตื่นเต้น แต่ควรสร้างความทรงจำอันงดงาม พร้อมรักษาเสน่ห์ของทุกจุดหมายปลายทางให้คงอยู่ตลอดไป โดยกิจกรรม The BOLD Destination จะพาผู้โชคดี 5 ครอบครัวร่วมโร้ดทริปไปยังเกาะมันใน จ. ระยอง สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งในภาคตะวันออก และเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นเกียได้เชิญ 10 ครอบครัวจาก เกีย พัทยา และ เกีย ระยอง มาร่วมเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ด้วย

เจฟ ซาเตอร์ พรีเซนเตอร์ The Kia EV5 เล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อแคมเปญนี้ว่า “สำหรับผมการขับรถไม่ใช่แค่การเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่เป็นการได้ใช้เวลาไตร่ตรองในเรื่องต่างๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ผมชอบการเดินทางด้วยรถ ไม่ว่าจะเดินทางคนเดียวหรือกับเพื่อน เพราะทุกการเดินทางคือโอกาสที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งผมเองก็เป็นเจ้าของ The Kia EV5 ที่พูดได้เลยว่านี่คือเพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทาง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและออกแบบมาอย่างดีทำให้รู้สึกสะดวกสบายระหว่างการเดินทางไกล พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างทำให้สามารถนำทุกอย่างที่ต้องการติดตัวไปได้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเพิ่มเติมสำหรับทริปครอบครัวหรือสิ่งของจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง ความสูงของรถก็ทำให้ผมมั่นใจในการขับขี่บนถนนทุกประเภท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกการเดินทางของผมราบรื่นไร้กังวล สุดท้ายนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘THE BOLD JOURNEY’ เพราะผมเชื่อในพลังของการออกไปสำรวจโลกภายนอก และขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมผจญภัยไปกับแคมเปญฯ ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน ยอมรับในความหลากหลายของครอบครัว และออกไปสัมผัสจุดหมายปลายทางสุด Unseen ในเมืองไทย ซึ่งจะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นความทรงจำที่น่าจดจำที่สุดกันครับ”
 
 
แคมเปญ “THE BOLD JOURNEY” ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.The BOLD Destination กิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษไปสู่จุดหมายปลายทางสุด BOLD 2. The BOLD Honeymoon กิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับคู่รัก LGBTQ+ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเดือน Pride Month และ 3. The BOLD Friend กิจกรรมซีเอสอาร์สำหรับคนรักน้องหมา น้องแมวที่ร่วมกับมูลนิธิเดอะวอยซ์ โดยผู้ร่วมกิจกรรมสามารถแสดงความประสงค์รับเลี้ยงน้องหมา น้องแมว เพื่อนสุด BOLD จากมูลนิธิฯ สำหรับกิจกรรมแรก The BOLD Destination จะพาผู้โชคดี 5 ครอบครัวร่วมโร้ดทริปไปยังเกาะมันใน จ. ระยอง สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งในภาคตะวันออก และเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น เกียได้เชิญ 10 ครอบครัวจาก เกีย พัทยา และ เกีย ระยอง มาร่วมเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ด้วย ผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://www.kia-campaign.com/EV5-bolddestination ได้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน – 8 พฤษภาคม 2568 เพื่อลุ้นรับสิทธิ์เป็นครอบครัวผู้โชคดีร่วมเดินทางแบบโร้ดทริปบนเส้นทางสุด BOLD ไปด้วยกันในวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2568 ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดของทั้ง 3 กิจกรรมภายใต้แคมเปญ THE BOLD JOURNEY’ ได้ที่ช่องทาง Official ของ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) : www.kia.com
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
สงกรานต์นี้ ฉลองไปกับโรยัล เอ็นฟีลด์

เดือนเมษาฯ นี้ ปลดปล่อยใจไปกับสงกรานต์บนมอเตอร์ไซค์คู่ใจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ชวนคุณนำทางความสุขทุกโมเมนต์ พร้อมเคล็ดลับดูแลรถให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ออกไปสร้างประสบการณ์สงกรานต์ที่น่าประทับใจกัน!
นำทางพิกัดความสุข ทุกโมเมนต์สำคัญในวันสงกรานต์
ประเทศไทยในช่วงสงกรานต์นั้นเต็มไปด้วยสีสันและความครึกครื้น แต่ละภูมิภาคก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ลองมาดูไอเดียสถานที่เที่ยวที่เราสามารถบิดมอเตอร์ไซค์ไปสนุกกันได้เลย:
- เชียงใหม่: เมืองเหนือสุดฮิตที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ด้วยบรรยากาศสงกรานต์ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ มีการแห่พระพุทธสิหิงค์ การประกวดเทพีสงกรานต์ และแน่นอนว่าการสาดน้ำรอบคูเมืองยังคงเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด เส้นทางขับขี่ไปยังดอยสุเทพก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจสำหรับนักบิด
 - ขอนแก่น: สงกรานต์ถนนข้าวเหนียวที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาวและความคึกคัก ผู้คนออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและการแสดงต่างๆ มากมายให้ได้ชมกัน การขับขี่ในตัวเมืองอาจจะหนาแน่นหน่อย แต่รับรองว่าความสนุกจะทำให้ลืมความเหนื่อยไปเลย
 - พระนครศรีอยุธยา: สัมผัสสงกรานต์แบบไทยๆ ที่ยังคงมีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ มีการสรงน้ำพระสำคัญ การแสดงพื้นบ้าน และการละเล่นต่างๆ ที่น่าสนใจ การขับขี่มอเตอร์ไซค์ชมโบราณสถานต่างๆ ในช่วงสงกรานต์ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
 - กรุงเทพมหานคร: แม้จะมีการจัดงานสงกรานต์ในหลายพื้นที่ แต่ที่พลาดไม่ได้คือถนนสีลมและถนนข้าวสาร ที่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ออกมาสาดน้ำกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง การขับขี่ในเมืองอาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่รับรองว่าความมันส์นั้นคุ้มค่าแน่นอน
 - พัทยา: สำหรับสายปาร์ตี้และชอบความคึกคัก สงกรานต์พัทยาถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด มีการจัดงานริมชายหาด คอนเสิร์ต และกิจกรรมทางน้ำต่างๆ มากมาย การขับขี่เลียบชายหาดในช่วงเย็นๆ ก็เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ
 
เตรียมความพร้อมให้รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ…เดินทางอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์
ก่อนออกเดินทางไกลในช่วงสงกรานต์ การตรวจเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์อย่างละเอียดถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อความปลอดภัย ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องใส่ใจ:

- ระบบเบรก: ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก ผ้าเบรก และการทำงานของเบรกหน้า-หลัง ให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
 - ยางรถ: เช็คลมยางให้ได้ตามมาตรฐาน เติมลมยางให้เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุก ตรวจสอบดอกยางว่ายังมีความลึกเพียงพอหรือไม่ หากดอกยางสึกมาก ควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อป้องกันการลื่นไถล
 - โซ่/สายพาน: ตรวจสอบความตึงของโซ่หรือสภาพของสายพาน หากโซ่หย่อนเกินไปหรือสายพานมีรอยแตก ควรปรับตั้งหรือเปลี่ยนใหม่
 - น้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆ: ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น และน้ำมันเบรก หากระดับต่ำกว่ามาตรฐาน ควรเติมให้เรียบร้อย
 

- ระบบไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟ: ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และแตร ให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติ
 - กระจกมองข้าง: ปรับกระจกมองข้างให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มองเห็นทัศนียภาพด้านหลังได้ชัดเจน
 - อุปกรณ์ความปลอดภัย: เตรียมหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐาน ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าหุ้มส้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุ
 
หรือเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถโดยผู้เชียวชาญที่ศูนย์บริการของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ทั่วประเทศ

คำแนะนำเพิ่มเติม:
- หากเดินทางไกล ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง และแวะพักเป็นระยะๆ เพื่อคลายความเมื่อยล้า
 - ศึกษาเส้นทางและสภาพการจราจรล่วงหน้า
 - ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
 - พกพาเอกสารประจำรถและใบขับขี่ติดตัวเสมอ
 - เตรียมชุดกันฝนและถุงกันน้ำสำหรับเก็บสัมภาระและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
 
ดูแล โรยัล เอ็นฟีลด์ ของคุณ…ให้คงความสง่างามหลังการเดินทาง
หลังจากการผจญภัยในเทศกาลสงกรานต์ การดูแล โรยัล เอ็นฟีลด์ คู่ใจของคุณคือการแสดงความขอบคุณสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ:
- ทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน: ล้างรถให้สะอาดหมดจดจากคราบน้ำ คราบแป้ง และสิ่งสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณที่เข้าถึงยาก
 - เช็ดให้แห้งสนิท: หลังจากล้างแล้ว เช็ดรถให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและความเสียหายต่อชิ้นส่วนต่างๆ
 - ดูแลโซ่/สายพาน: หล่อลื่นโซ่ด้วยน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพ หรือตรวจสอบสภาพสายพานอีกครั้ง
 - ตรวจสอบระบบเบรกและไฟส่องสว่าง: สังเกตการทำงานของเบรกและระบบไฟต่างๆ
 - รักษาสีรถให้เงางาม: เคลือบสีรถเพื่อปกป้องและรักษาความเงางามของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ของคุณ
 
โรยัล เอ็นฟีลด์ เชื่อว่าทุกการเดินทางคือเรื่องราว และรถมอเตอร์ไซค์ของเราคือเพื่อนคู่ใจในการออกสำรวจ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ปลอดภัยทุกเส้นทาง และอย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของคุณกับเรา โดยติด #RoyalEnfieldTH #RoyalEnfieldThailand #RidePure
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	News / News Motocycle1 Min Read
Repsol Honda HRC ผลงานหรูเปิดฤดูกาล “โทนี่ โบ” คว้าชัยชนะทะยานขึ้นนำตารางชิงแชมป์โลก TrialGP 2025 ที่สเปน

ทัพนักบิด Repsol Honda HRC “โทนี่ โบ” และ“กาเบียล มาเซลลี่” เปิดฤดูกาลด้วยผลงานสุดหรูในการแข่งขันรายการ TrialGP 2025 สนามแรกที่ประเทศสเปน จากชัยชนะของ “โทนี่ โบ” เก็บแต้มทะยานขึ้นไปครองอันดับที่ 1 ในตารางคะแนนชิงแชมป์โลกได้ทันที ที่ เบนาฮาวิส ประเทศสเปนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แชมป์โลกคนปัจจุบันจาก Repsol Honda HRC อย่าง “โทนี่ โบ” หมายเลข 1 เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่งในการแข่งขันเรซที่ 1 ได้อย่างลงตัวและควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้หมด ก่อนที่จะคว้าชัยชนะไปครอง ขณะที่ทีมเมท “กาเบียล มาเซลลี่” หมายเลข 38 รั้งอยู่ในอันดับที่ 4

การแข่งขันเรซที่ 2 “โทนี่ โบ” เริ่มต้นได้ไม่ดีนักต้องรีดผลงานเพื่อไล่กวดในช่วงหลังของการแข่งขัน แต่ยอดนักบิดสเปนก็ทำได้ดี กดดันเข้าหาคู่แข่งก่อนที่จะคว้าอันดับที่ 2 มาครอง โดย “กาเบียล มาเซลลี่” ยกระดับผลงานขึ้นมาในเรซนี้ คว้าโพเดียมอันดับที่ 3 จบการแข่งขันสนามแรก “โทนี่ โบ” ขึ้นรั้งอันดับที่ 1 ของตารางคะแนนชิงแชมป์โลก ด้วยคะแนนสะสม 77 คะแนน นับเป็นการเปิดฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ “กาเบียล มาเซลลี่” เก็บไป 62 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 3

ทั้งนี้ ศึก TrialGP 2025 จะไปแข่งขันสนามที่ 2 กันที่วีอานา โด กัสเตโล ประเทศโปรตุเกส (Viana do Castelo, Portugal) ในระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน นี้
#ThaiHonda #HRC #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #MotorSport #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #HondaRacingCorporation #FIMTrailGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ มอบประสบการณ์แห่งการเดินทางเหนือระดับด้วยบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7

จากการสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมในประเทศไทยติดต่อกัน เป็นปีที่ 5 พร้อมด้วยผลงานอันโดดเด่นในการครองส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้าโรงแรมถึง 70% ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จด้วยการส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ให้แก่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ มอบทางเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมความสะดวกสบายเหนือระดับใจกลางกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานความสะดวกสบายที่เหนือชั้นเข้ากับประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาส ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์ในการเดินทางที่แขกของโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ จะได้รับตลอดการเข้าพัก แต่ยังเป็นการผนึกกำลังของสองแบรนด์พรีเมียมที่ให้ความสำคัญกับการมอบคุณภาพระดับพรีเมียมและความมีสไตล์ในทุกการเดินทาง

มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู และโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ครั้งนี้ว่า “ในฐานะผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมของประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์การเดินทางและนวัตกรรมที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา ด้วยความสำเร็จในการนำเสนอบริการรถยนต์ระดับพรีเมียมให้แก่องค์กร เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในด้านความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ เพื่อมอบประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้นแก่แขกผู้เข้าพัก การส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของแขกผู้เข้าพักยังโรสวูดแห่งนี้ ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับการเดินทางด้วยความหรูหราที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย”

บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบขนาด 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์ / 489 แรงม้า และให้แรงบิดรวมสูงสุด 700 นิวตันเมตร มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่สวยงามจากกระจังหน้า ‘Iconic Glow’ และชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ หรูหรา ภายในห้องโดยสารประกอบไปด้วยเบาะนั่งตอนหลังแบบ Executive Lounge พร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง และระบบบันเทิงที่ล้ำสมัย พร้อมหน้าจอ BMW Theatre Screen ขนาด 31.3 นิ้ว บนความละเอียดระดับ 8K และระบบเสียงรอบทิศทางจากแบรนด์ Bowers & Wilkins ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความบันเทิง

โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ พร้อมมอบประสบการณ์ที่เกินความคาดหมายเสมอ ในฐานะผู้นำด้านความหรูหราในวงการโรงแรมของไทย โรงแรมสูง 30 ชั้นแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ได้รับ แรงบันดาลใจจากท่า “ไหว้” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสื่อถึงความอบอุ่นและการต้อนรับแบบไทย การออกแบบภายในผสมผสานสุนทรียศาสตร์ไทยร่วมสมัยเข้ากับองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่หรูหรา ในฐานะโรงแรมแห่งที่ 27 ภายใต้ Rosewood Hotels & Resorts® โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นของเมืองหลวงแห่งนี้ อย่างรวดเร็ว และยังสื่อถึงมรดกทางวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า โดยได้รับการยกย่องจากสื่อท่องเที่ยวระดับโลกมากมาย รวมถึงรางวัลอันทรงเกียรติ Forbes Travel Guide Star Award ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงชื่อเสียงในด้าน
การบริการระดับโลกสิ่งที่ทำให้โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ แตกต่าง คือความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการให้บริการ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยูในด้านการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแห่งอนาคต และความเป็นเลิศในยนตรกรรมระดับไฮเอนด์ ก่อนที่แขกจะเดินทางมาถึง จะได้รับการติดต่อจากฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของโรงแรม เพื่อปรับแต่งทุกรายละเอียดของ การเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหารสำหรับมื้อพิเศษ การปรับแผนการเดินทางให้ตรงตามความต้องการ หรือ การจัดทัวร์ส่วนตัว ทีมงานของโรงแรมพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แขกทุกท่านได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและไร้กังวล ด้วยห้องพักที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันจำนวน 158 ห้อง รวมถึงสกายพูลวิลล่าที่มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของกรุงเทพฯ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ยังโดดเด่นด้วยองค์ประกอบที่บ่งบอกถึงการพักผ่อนอย่างหรูหรา ตั้งแต่ห้องพักที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ไปจนถึงการบริการไร้ที่ติ แขกผู้เข้าพักยังสามารถผ่อนคลายที่ Sense, A Rosewood Spa ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล หรือลิ้มลองอาหารรสเลิศที่ร้านอาหารระดับโลกของโรงแรม สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของเมืองแห่งนี้ที่รู้จักกันว่าเป็น “The City of Angels”
มิสซิส แซนดร้า วอเทอร์มาน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ เราเชื่อมั่นในการสร้างประสบการณ์พิเศษซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแขกแต่ละท่าน และความมุ่งมั่นในการมอบความหรูหราที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย ความร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในครั้งนี้ สะท้อนถึงปรัชญาดังกล่าว ด้วยการนำยนตรกรรมอันโดดเด่นเหล่านี้มาให้บริการ บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport จะช่วยให้เราสามารถขยายบริการสุดพิเศษสำหรับแขกแต่ละท่าน อันเป็นเอกลักษณ์ของเราออกไปนอกพื้นที่โรงแรม สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่วินาทีแรกที่แขกของเรามาถึงกรุงเทพมหานคร ความร่วมมือครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความอบอุ่นแบบไทย ความหรูหราอย่างยั่งยืน และนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงประสบการณ์ของโรสวูดที่แขกของเราจะได้รับ”
ความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ เป็นมากกว่าแค่การส่งมอบยานยนต์ นับเป็นการผสานนวัตกรรมยานยนต์เข้ากับการบริการระดับโลกอย่างไร้ที่ติ ด้วยยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตและเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของวงการ ซึ่งจะมาวางมาตรฐานใหม่ให้แก่ประสบการณ์การเดินทางอันหรูหรา บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport พร้อมให้บริการรับ-ส่งแขกวีไอพี ไม่ว่าจะเป็น จากสนามบินหรือการเดินทางภายในเมือง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกประสบการณ์การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น หรูหรา และน่าจดจำ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
โตโยต้า ครองใจ Gen Z คว้ารางวัล GEN Z TOP BRAND AWARD 2025

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คว้ารางวัล GEN Z TOP BRAND 2025 “แบรนด์ที่สามารถครองใจ Gen Z” ในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ จากการประกาศรางวัล GEN Z TOP Brand Award 2025 โดยในโอกาสนี้ มีนายสมุทร ตังคชวนะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถยนต์นั่ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนจากสายงานการตลาด เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัล เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ณ SCBX NEXT TECH ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

รางวัล GEN Z TOP Brand Award 2025 เป็นรางวัลที่มอบให้กับ 10 แบรนด์จาก 10 อุตสาหกรรมที่สามารถครองใจผู้บริโภค Gen Z (ผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2540 – 2555) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดในปัจจุบันและจะกลายเป็นกำลังซื้อหลักของทั้งตลาดในอนาคตอันใกล้ โดยโตโยต้า เป็นแบรนด์ที่ได้รับเลือกในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ อ้างอิงจากผลการสำรวจในงานวิจัยชุด “The Z Impact : Decode Insight & Celebrating Brands Gen Z Loves” จัดทำขึ้นโดยเว็บไซต์ด้านการตลาด BrandBuffet.in.th ร่วมกับบริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ INTAGE (Thailand) ในการวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ในผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ (ผู้ที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.brandbuffet.in.th/2025/04/brand-buffet-ana-intage-announced-gen-z-top-brand-award-2025/)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากลูกค้าทุกท่าน โดยเฉพาะ GenZ ที่ได้โหวตให้กับแบรนด์ จนได้รับรางวัลนี้
ทั้งนี้ เรามีความมุ่งมั่น พัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์และ บริการที่ครบวงจร พร้อมตอบโจทย์ ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทุกเจเนอเรชันต่อไป
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
มาสด้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย ร่วมมือผู้จำหน่ายทั่วประเทศยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกบริบท

มาสด้าหลอมรวมดีลเลอร์ทั่วประเทศเป็นหนึ่งเดียว ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในประเทศไทย จัดประชุมผู้จำหน่ายประจำปีงบประมาณ 2568 “Mazda Mirai 2025” ภายใต้ธีม Joyful Driving into a New Era เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และนโยบายการบริหารธุรกิจให้เกิดผลกำไร รวมทั้งเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนเพื่อก้าวสู่ยุคสมัยใหม่ ทั้งเทคโนโลยีแห่งอนาคตและรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวลงสู่ตลาดในปีนี้ เน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งภายใต้กลยุทธ์ Brand Value Management และแนวคิด Stakeholder Centric Approach โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับพนักงาน ผู้จำหน่าย และลูกค้า พร้อมวางรากฐานที่สำคัญ ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็น Top Retention Brand ทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยประสานความร่วมมือกับผู้จำหน่ายทั่วประเทศที่มีศักยภาพสูงทั้งหมด 80 แห่ง พร้อมยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกบริบท ตามปรัชญาใหม่ “Joy Drives Lives” ความสุขขับเคลื่อนชีวิต โดยมีผู้จำหน่ายมาสด้าจากทั่วประเทศ ผู้บริหารระดับสูงจาก มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และคณะผู้บริหารจาก มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ณ โรงแรมแอทธินี กรุงเทพฯ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การประชุมผู้จำหน่ายประจำปีนี้ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทย รวมถึงเป็นการถ่ายทอดนโยบายและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของปีประจำปีงบประมาณ 2568 ให้กับผู้จำหน่ายเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติในการผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยงานประชุม “Mazda Mirai 2025” จัดขึ้นภายใต้ธีม Joyful Driving into a New Era แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม นำเสนอวิสัยทัศน์เพื่อก้าวสู่อนาคตที่สดใสและมั่นคง ตามแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาว ทั้งด้านการตลาด การขาย การบริการหลังการขาย การขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ โดยเฉพาะแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้ ที่จะมาพร้อมกับพลังงานทางเลือกหลากหลายรูปแบบ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตามกลยุทธ์ Multi-solution เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาวไทย ด้วยการส่งมอบความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน

วันนี้ มาสด้าพร้อมเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุดในทุกประสบการณ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และมุ่งมั่นเดินหน้าเต็มกำลัง ภายใต้กลยุทธ์ Brand Value Management (BVM) เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ลูกค้ามองหา พร้อมสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรด้วยการถ่ายทอดปรัชญาใหม่ Joy Drives Lives หรือ ความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพราะมาสด้าเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความสุขที่เกิดจากการขับขี่รถยนต์จะนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต รวมถึงปรับเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้าและสร้าง Customer Journey รูปแบบใหม่ เพื่อนำมาพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้า จะนำมาซึ่งคุณค่าและประสบการณ์ความสุขจากการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงกลยุทธ์ที่เป็นมาตรฐานของการทำงาน ซึ่งคือ Stakeholder Centric Approach โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พนักงาน ผู้จำหน่าย และลูกค้า พร้อมความสำคัญของการทำงานโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกบริบท

สำหรับการปรับเปลี่ยนของมาสด้าในปีนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรด้วย “ผู้คน” โดยมีเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่คล่องตัว และขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึก พร้อมสนับสนุนเพื่อปรับวัฒนธรรมองค์กรของผู้จำหน่ายด้วยโปรแกรมพัฒนาทักษะของพนักงาน กลยุทธ์ที่สอง คือ การให้ความสำคัญกับการวางรากฐานด้านเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการฟังเสียงของลูกค้าเพื่อนำมาเพิ่มประสิทธิภาพและการสื่อสาร หรือ Voice of Fan และกลยุทธ์ที่สาม คือ การสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบไร้รอยต่อทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ คือการปรับโครงสร้างและพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีอยู่ทั้งหมด 80 แห่ง ให้พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามารับบริการ ด้วย PMA ใหม่ การกำหนดขอบเขตให้ผู้จำหน่ายที่มีศักยภาพสูงขยายพื้นที่ในการดูแลลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้มาสด้าสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ มาสด้ายังคงมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ 2030 ด้วยการเป็นบริษัทที่รักรถยนต์ และขับเคลื่อนความสุขผ่านประสบการณ์ในการขับขี่ให้กับลูกค้า เพราะมาสด้าเชื่อเสมอว่า ความสุขคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต นั่นคือเหตุผลที่มาสด้ามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีความหมาย และส่งมอบความสุขให้กับผู้คน หัวใจหลักสำคัญล้วนเกิดจาก Customer Centric Mindset ปรัชญาที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกในทุกสิ่งที่เราทำ ส่งผลให้มาสด้าสามารถส่งมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่อง สร้างความไว้วางใจ และยืนยันได้ว่าลูกค้าจะเกิดความภาคภูมิใจที่เลือกใช้รถยนต์มาสด้า ทั้งวันนี้และต่อไปในอนาคต เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ที่เติบโตเคียงข้างคนไทยและสังคมไทยอย่างยั่งยืน

นางสาวจันทรา โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี, มร. โชอิจิ ฮิโรตะ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจ, นายพิเชษฐ์ ปุณณารักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย, มร. ทาเคชิ ซาโตะ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน, มร. ฮิโรชิ ชิบะ ผู้จัดการทั่วไปสำนักงานธุรกิจภูมิภาคอาเซียน มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น, นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ, นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล, นายศราวุฒิ บรรยงค์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า, มร. ทาคายูกิ อิชิฮาร่า ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพอาเซียน และนางสาวชลทิชา ทาระบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
EV Station PluZ ฉลองครบ 1,000 แห่งทั่วไทย เปิดตัว Ultra Fast Charge ชาร์จเร็ว แรง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

EV Station PluZ ฉลองเปิดบริการครบ 1,000 แห่ง พร้อมเปิดตัว Ultra Fast Charge นวัตกรรมการชาร์จเร็ว ด้วยกำลังไฟแรงสูงสุด 480 kW และรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้พร้อมกันถึง 6 คัน โดยมี คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และพันธมิตร ร่วมเปิดให้บริการสถานีชาร์จ ณ พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี (สวัสดิการ ร.1 รอ. ตรงข้ามมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย)

คุณพิมาน เปิดเผยว่า EV Station PluZ มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จให้ตอบสนองความต้องการผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตอกย้ำความมั่นใจด้วยการขยายสถานีชาร์จครบ 1,000 แห่ง เพื่อให้ผู้ใช้งาน EV เดินทางได้สะดวกและรวดเร็ว พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวสถานี Ultra Fast Charge เทคโนโลยีชาร์จที่เร็วและแรงที่สุดของ EV Station PluZ ในปัจจุบัน สามารถรองรับการชาร์จได้พร้อมกันสูงสุดถึง 6 คัน ให้ผู้ใช้รถ EV ชาร์จไฟได้เต็มประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายใน พีทีที สเตชั่น ให้ทุกการชาร์จเป็นเรื่องง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

สำหรับนวัตกรรม Ultra Fast Charge ช่วยให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเร็วขึ้นกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยี Liquid-Cooled ที่บริหารจัดการการจ่ายไฟอย่างมีประสิทธิภาพและระบายความร้อนในการชาร์จได้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถเรียกกำลังไฟได้สูงในพื้นที่มีความต้องการหนาแน่น พร้อมให้บริการที่ พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี (สวัสดิการ ร.1 รอ.) เป็นสาขาแรก มีทั้งหมด 4 แท่นชาร์จ รวม 6 หัวชาร์จ โดยแบ่งเป็น Ultra Fast Charge จำนวน 2 แท่นชาร์จ (2 หัวชาร์จ DC CCS2) ที่สามารถจ่ายกำลังไฟแรงสุด 480 kW ต่อหัวชาร์จ ให้กระแสไฟ 425-500 A รองรับการชาร์จต่อเนื่องได้นาน 30 นาที และ Fast Charge อีก 2 แท่นชาร์จ (4 หัวชาร์จ DC CCS2) ที่มีกำลังไฟสูงสุด 480 kW ต่อหัวชาร์จ ให้กระแสไฟ 375-500 A รองรับการชาร์จต่อเนื่อง 10 นาที เพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งาน EV เดินทางต่อได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 15 นาที สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ตามความสามารถในการเรียกกำลังไฟของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น นอกจากนี้ สถานีแห่งนี้ยังรองรับการชาร์จได้ 2 รูปแบบ โดยเปิดให้เข้าชาร์จรูปแบบ Walk-in สำหรับ 2 แท่นชาร์จ และ อีก 2 แท่นชาร์จ สามารถจองคิวล่วงหน้าได้ผ่านแอป EV Station PluZ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของการชาร์จ
EV Station PluZ ชาร์จความมั่นใจไปได้ทุกที่ ผู้ที่สนใจสามารถค้นหาสถานีชาร์จใกล้คุณได้ผ่านแอป EV Station PluZ ดาวน์โหลดได้ทั้งบน Play Store และ Apple Store หรือเข้าไปที่ https://bit.ly/3V3xu2U
#EVStationPluZ #Ultrafastcharge
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 - 
	
	
แอกซ่า แนะนำเคล็ดลับขับขี่อย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ใกล้เข้ามาถึงอีกครั้งในปีนี้ และสิ่งที่ต้องใส่ใจอย่างมากเพื่อการฉลองเทศกาลปีใหม่ไทยได้อย่างเต็มสุขไร้กังวลก็คือเรื่องของความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่นำไปสู่ความพิการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7 และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564*
ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงที่มีการเดินทางสูง** ได้แก่ ความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความประมาท การขาดความใส่ใจในด้านมาตรการความปลอดภัย และสิ่งต่าง ๆ ที่รบกวนสมาธิขณะขับขี่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ ผู้ขับขี่จึงควรใส่ใจในทุกรายละเอียดก่อนเดินทาง พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ มีสมาธิในขณะขับรถ และและหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือส่งข้อความต่าง ๆ และที่สำคัญ ผู้ขับขี่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยนต์ของตนอยู่ในสภาพดีพร้อมขับขี่อย่างปลอดภัย
ก่อนออกเดินทาง แอกซ่า แนะนำให้ตรวจสอบระบบรถยนต์ที่สำคัญทั้ง 4 ระบบเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพื่อให้การเดินทางปลอดภัยมากยิ่งขึ้น:
- เบรก – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบรกตอบสนองได้ดีและอยู่ในสภาพที่ดี สังเกตหากมีเสียงผิดปกติเมื่อเหยียบเบรก หรือรู้สึกนิ่มเกินไป หรือมีไฟขึ้นเตือน ควรเข้ารับการตรวจเช็คทันที
 - ยาง – ตรวจสอบความดันลมยางด้วยเครื่องวัดเพื่อให้ตรงตามระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ และตรวจสอบความลึกของดอกยางเพื่อให้มีการยึดเกาะที่เพียงพอ รวมทั้งดูสัญญาณความเสียหาย เช่น รอยขีดข่วนหรือปูด และอย่าลืมตรวจสอบยางสำรองด้วย
 - แบตเตอรี่ – ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ชาร์จเต็มและใช้งานได้ดีอยู่ ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เพื่อเช็คดูว่าเชื่อมต่อแน่นและมีการกัดกร่อนหรือไม่ หากแบตเตอรี่ของคุณมีอายุมากกว่า 3 ปี ควรนำไปอู่บริการเพื่อตรวจสอบ
 - น้ำมันเครื่องและของเหลวต่าง ๆ ในรถ – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับน้ำมันเครื่องว่ายังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม และอยู่ในสภาพสะอาด หากน้ำมันเครื่องสกปรก อาจทำความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบน้ำหล่อเย็น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ และน้ำยาล้างกระจก ควรเติมหากอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ผู้ผลิตแนะนำ หากพบการรั่วไหลควรนำรถเข้าอู่บริการเพื่อซ่อมให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง
 
เพียงแค่ปฏิบัติตามขั้นตอนเบื้องต้นง่าย ๆ ผู้ขับขี่ก็สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย และลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมากยิ่งขึ้น

แอกซ่า พร้อมเสริมความมั่นใจในการเดินทางให้ผู้ขับขี่ในทุกโอกาสสำคัญ เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยและหายห่วง ผ่านประกันรถยนต์ที่มอบความคุ้มครอง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และคุ้มค่า โดยมาพร้อมกับ “AXA Preferred Garage” หรือ อู่คัดสรร ที่มีอู่รถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการมากมายพร้อมสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น บริการซ่อมทันทีโดยไม่ต้องรอคิว, บริการรับ-ส่งรถภายในรัศมี 10 กิโลเมตร, รับประกันคุณภาพการซ่อม ภายในระยะเวลา 1 ปีหลังซ่อม, รับประกันงานซ่อมตัวถังด้วยสีคุณภาพสูง และบริการล้างทำความสะอาด ก่อนส่งมอบรถ
นอกจากนี้ แอกซ่ายังมีบริการ AXA Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง และสิทธิพิเศษ AXA 4 U ไม่หักค่าเสื่อมราคา 4 รายการหลัก ในกรณีอุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายต่อยาง แบตเตอรี่ (ยกเว้นระบบไฟฟ้า/ไฮบริด) น้ำมันเครื่อง สารหล่อลื่น สารหล่อเย็นของระบบแอร์ วิทยุ และเครื่องเสียงที่ติดตั้งมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ อีกด้วย
แอกซ่า มุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่นของลูกค้าและให้ความคุ้มครองกับสิ่งที่สำคัญในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ ทุกสถานการณ์บนท้องถนนที่คุณอาจต้องเผชิญ ซึ่งพร้อมที่จะส่งมอบความมั่นใจในการขับขี่ และความคุ้มครองเพื่อเส้นทางการขับขี่ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นของคุณ สำหรับข้อมูลด้านประกันรถยนต์ หรือบริการอื่น ๆ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของเรา https://u.axa.co.th/mtpkeytips
เงื่อนไขการรับประกันภัยเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
สำหรับอัพเดทเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ของแอกซ่าด้านล่าง
เว็บไซต์: https://www.axa.co.th
ศูนย์บริการลูกค้า: 02-118-8111
Facebook : AXA Thailand
Official LINE: @AXAThailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine - 
	
	News / News Motocycle1 Min Read
“Honda Academy Thailand 2025” เปิดฤดูกาล บิดล่าฝัน ปูทางสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก

“ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เปิดฤดูกาล สนามแรก บิดล่าฝัน “Honda Academy Thailand 2025” ก้าวสู่ปีที่ 8 บันไดก้าวแรกตามโร้ดแม๊ป “Honda Race to The Dream” เผยโฉมหน้า The Next Successor 11 นักแข่งเยาวชนไทยและ 2 เยาวชนนักแข่งจากประเทศเวียดนามและประเทศญี่ปุ่น เข้าโปรแกรมปูพื้นฐานอย่างเข้มข้นเพื่อฝึกฝนทักษะการขับขี่และพัฒนาสมรรถภาพร่างกาย เพื่อเป้าหมายสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างถูกต้องในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักแข่ง ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพ และความรู้วิทยาศาสตร์การกีฬา ประเดิมสนามแรก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่แก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี

“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวชาวไทย เฮดโค้ช “Honda Academy Thailand 2025” กล่าวว่า “บันไดขั้นแรกเป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างมาก นักแข่งจึงจำเป็นต้องได้ฝึกฝนทักษะการขับขี่และพัฒนาสมรรถภาพร่างกาย ฝึกฝนทักษะในทุกมิติด้วยการวางโครงสร้างมาตรฐานทุกขั้นตอน โดยมีที่ปรึกษาอย่าง มร.ชินอิจิ อิโต อดีตนักแข่งระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ มาร่วมวางแผนการฝึกที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากนักแข่งมากฝีมือจากทีม “Honda Racing Thailand” อย่าง โค้ช “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง, “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร ที่ผ่านศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกโซนยุโรปมาแล้วทั้ง “FIM JuniorGP World Championship” และ “Red Bull MotoGP Rookies Cup” รวมถึง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว เจ้าของผลงานฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย 1 Win 8 Podiums โดยเป็น 1 Win จาก MSBK และ 1 Podium จาก ARRC ที่จะคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

นักแข่งเยาวชนทั้ง 11 คน จะได้ฝึกฝนอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการจำลองการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ อาทิ จิมคานา ด้วย Racing Machine อย่าง “Honda NSF100” ที่ถูกผลิต และพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ พร้อมดีไซน์ขึ้นมาเพื่อใช้ขับขี่ในสนามแข่งขันโดยเฉพาะที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ซึ่งถ่ายทอด DNA มาจากรถแข่ง 2 จังหวะ ในคลาสระดับโลกอย่าง Honda NSF250 ที่ให้พลังพอเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกควบคุมรถและเรียนรู้ไลน์การขับขี่ที่ถูกต้อง ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หรือแม้แต่ “โยฮัน ซาร์โก” ต่างก็เคยมีประสบการณ์กับรถแนวนี้มาก่อน

นอกจากนี้ยังต้องควบคู่กับการการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ ที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งทางโค้ชจะมีการถ่ายทอดต่อยอดให้ทางผู้ปกครองนำกลับให้นักแข่งได้ดูแลแลพัฒนาตนเองที่บ้านอีกด้วย โดยตลอดทั้งฤดูกาลรวมทั้งสิ้น 6 สนาม จะมีการฝึกฝนที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น Racing Training/ Dirt Training และ Race Program ซึ่งทาง “ไทยฮอนด้า” เป็นผู้ดูแลสนับสนุนให้ทั้งหมด เพื่อสนับสนุนให้นักแข่งที่มีพรสวรรค์ได้มีความสามารถอย่างสมบูรณ์แบบ
จาก “Honda Academy Thailand” โครงการแรกในประเทศไทยที่จัดขึ้นเพื่อฝึกฝนและพัฒนานักแข่งรถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปสู่นักแข่งมืออาชีพระดับโลก เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งตลอดระยะเวลา ได้ผลิตนักแข่งไทยที่สร้างชื่อเสียงทั้งในประเทศและระดับโลกมากมาย

ทั้งนี้ “Honda Academy Thailand 2025” สนามถัดไปจะฝึกในรูปแบบ Drit Training ระหว่างวันที่ 26-27 เมษายนนี้ ที่ สนามวิบาก สะพานเลือก จังหวัดจันทบุรี
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaAcademy #ThaiHonda #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #HondaRacingThailand
#idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #KELA #Kushitani #ยำยำ #Arai #IRC #RCB #DID #NGK #KOWA #โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ #DiosDesign #GariGari #HondaChemicals #HondaBigBike #SAT #NSDF #FMSCT
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
 

                                               
 




 


 
 







 









 











 








 











 


















 






 

 





















