• วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการสาขาแรกในประเทศไทย

    1 Min Read

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการสาขาแรกในประเทศไทย

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการแห่งแรกในประเทศไทย บริเวณพื้นที่ย่านบางบัวทอง ซึ่งจะบริหารงานโดย บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด เพื่อขยายความสามารถในการให้บริการให้มีความครอบคลุม และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพการบริการและการซ่อมบำรุงหลังการขายเพื่อเสริมความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในพื้นที่ บางบัวทองปากเกร็ด, นนทบุรี และ บางใหญ่ โดยศูนย์บริการแห่งใหม่นี้คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้ในไตรมาสที่สามของปี

    คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอันมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการยกระดับการบริการเพื่อสร้างความพึ่งพอใจอันสูงสุดแก่ลูกค้าเป็นเรื่องที่วอลโว่ คาร์ให้ความสำคัญเสมอมา  การเปิดศูนย์บริการแห่งแรกในประเทศไทยคือการสานต่อความมุ่งมั่นดังกล่าว เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของรถวอลโว่ให้แก่ลูกค้าผ่านการบริการที่รวดเร็ว สะดวกในการเข้าถึงเนื่องจากศูนย์บริการมีพื้นที่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์บริการแห่งนี้จะเป็นศูนย์นำร่อง และเราได้มีการวางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ”

    ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นโดยลูกค้าสามารถนำรถเข้าไปรับบริการบำรุงรักษาและงานซ่อมทั่วไปจากช่างผู้ชำนาญการ ซึ่งผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่มีมาตรฐานจากวอลโว่ โดยศูนย์บริการสาขาบางบัวทองนี้ ให้บริการบนพื้นที่ขนาด 3,200 ตารางเมตร ซึ่งนอกเหนือจากการบำรุงรักษาและงานซ่อมแล้ว ศูนย์บริการดังกล่าวยังมีพื้นที่รับรองลูกค้า และพื้นที่จำหน่าย รถผู้บริหารและรถออกศูนย์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของวอลโว่ คาร์ – Volvo Selekt certified used cars โดยหลังจากเปิดบริการคาดว่าจะรองรับการให้บริการลูกค้าได้มากถึง 130 – 150 คันต่อเดือน

    ศูนย์บริการ สาขา บางบัวทอง โดย  บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด ตั้งอยู่ที่ 19/11  หมู่5  ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ที่

    Websitewww.volvocars.com/th
    Facebookhttps://www.facebook.com/volvocarsth
    Youtubehttps://www.youtube.com/user/VolvoCarsThailand
    LINEhttps://page.line.me/002olnns?oat_content=url&openQrModal=true

    เยี่ยมชม Volvo Studio ICONSIAM ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม และ เยี่ยมชม Volvo Studio EmSphere ได้ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่ สำหรับสอบถามข้อมูลทั่วไป กรุณาโทร 02-544-0446
    สำหรับลูกค้าวอลโว่ปัจจุบันสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าได้ที่ https://bit.ly/459u6HD


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • GWM ชูคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซล ผ่านการวิจัยและพัฒนากว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้งานเกือบ 2 ล้านคนทั่วโลก

    1 Min Read

    GWM ชูคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซล ผ่านการวิจัยและพัฒนากว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้งานเกือบ 2 ล้านคนทั่วโลก

    GWM ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” มุ่งหน้าขับเคลื่อนทั้งตลาดในประเทศไทยและในระดับโลก ด้วยความสำเร็จในความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นขุมพลังที่ GWM ได้วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 30 ปี โดยเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของความสำเร็จของแบรนด์ที่ถือกำเนิดในประเทศจีน สู่การได้รับการยอมรับจากนานาชาติถึงคุณภาพ สมรรถนะ และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์หลากหลายรุ่นของ GWM การันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ 2 ล้านคน ใน 170 ประเทศและทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัสเซีย รวมถึงในประเทศไทยที่มีการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากผู้บริโภคคชาวไทย ซึ่งเป็นอีกบทพิสูจน์คุณภาพของเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ในเวทีระดับโลก ที่พร้อมจะยกระดับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเพื่อตอบโจทย์การเดินทางในทุกรูปแบบ

    ในฐานะผู้นำตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีออฟโรดจากจีน GWM ที่เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ปี 2527 และก้าวเข้าสู่วงการรถกระบะอย่างเต็มตัวในปี 2539 ด้วยการเปิดตัวรุ่น “Deer” ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ทำให้ GWM ครองแชมป์ยอดขายรถกระบะอันดับ 1 ในประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนขยายสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2540 ความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนำมาสู่การเปิดตัว “GWM POER” ในปี 2562 รถกระบะยุคใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายถล่มทลาย โดยเป็นรถกระบะเรือธงที่ครองความนิยมในประเทศจีนมาอย่างยาวนานถึง 26 ปี ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ความทนทานสูง และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายตลาดทั่วโลก ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอเมริกาใต้ จนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในจีน และติด 1 ใน 3 แบรนด์รถกระบะยอดนิยมของโลก จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็นผู้นำระดับโลก ความสำเร็จของ GWM สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่มองไกล และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้พัฒนาและสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สะท้อนแนวคิด “GWM Go With More” ที่ GWM ยึดถือ ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถยนต์คุณภาพ แต่คือส่งการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์ระดับโลก

     

    เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ความเชี่ยวชาญระดับโลกที่พิสูจน์แล้ว

    เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ ของ GWM เป็นผลงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ลงทุนไปแล้วกว่า 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ได้รับการพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด โดยมีคุณสมบัติเด่นที่พิสูจน์แล้วในตลาดจริง ซึ่งมีจุดเด่น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

    • ด้านสมรรถนะเหนือระดับ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดที่สูงถึง 260 นิวตันเมตร ในรอบเครื่องต่ำ และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรแบบต่อเนื่องหรือแฟลตทอร์คที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ทำให้การออกตัวและการขับขี่ในพื้นที่ที่มีความท้าทายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและออฟโรด
    • ด้านประหยัดพลังงาน เครื่องยนต์ดีเซล 4T ใหม่นี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่ดีกว่า ทำให้การใช้พลังงานจากน้ำมันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น โดยอัตราการบริโภคน้ำมันของ NEW GWM TANK 300 DIESEL อยู่ที่ 14 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ Eco sticker ในประเทศไทย) สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งน้ำมันหนึ่งถัง (ดีเซล B7) สามารถขับขี่ได้ระยะทางไกลมากกว่า 1,000 กิโลเมตร
    • ด้านความเงียบและนุ่มนวลเหนือชั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และการพัฒนาเทคโนโลยีในการลดเสียงรบกวน NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้ห้องโดยสารมีระดับเสียงต่ำกว่า 68 เดซิเบลในช่วง idle speed ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ นิ่ง ไม่สั่น เทียบเคียงได้กับเครื่องยนต์เบนซิน
    • ด้านความทนทานรับประกันคุณภาพยาวนานถึง 1 ล้านกิโลเมตร GWM มั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์เซ็ตนี้ จึงกล้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานด้วยการมอบการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ที่ยาวนานและครอบคลุมมากขึ้นถึง 1 ล้านกิโลเมตร (หรือ 8 ปี) สำหรับรถยนต์รุ่น NEW GWM TANK 300 DIESEL ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์

    เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “จากความสำเร็จของการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL GWM (Thailand) ยังคงเดินหน้าส่งมอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ให้กับแฟน ๆ ชาวไทย เราเชื่อมั่นว่าขุมพลังดีเซล 2.4T เจอเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ มอบการขับขี่ที่เงียบและนุ่ม พร้อมมสมรรถนะ การประหยัดพลังงาน และความทนทาน ฉีกกฏของเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เข้ามาให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นประเทศแรก ๆ ในโลก ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของตลาดในประเทศไทยและการนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคนไทยมาให้คนไทยได้เป็นเจ้าของ และในปีนี้เราจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ของ GWM อีกหลากหลายรุ่นที่จะเข้าสร้างมาตรฐานใหม่แห่งสมรรถนะการขับขี่ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเอนกประสงค์ และความคุ้มค่าที่เหนือความคาดหมาย พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GWM ในการเป็นแบรนด์ระดับโลกที่พัฒนายานยนต์เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างแท้จริง”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • โตโยต้าสานต่อความมุ่งมั่น พัฒนาเยาวชนไทยสู่ฟุตบอลระดับโลก จัดโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025

    1 Min Read

    โตโยต้าสานต่อความมุ่งมั่น พัฒนาเยาวชนไทยสู่ฟุตบอลระดับโลก จัดโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025” เดินสายเฟ้นหา 23 นักเตะเยาวชนไทย  สู่ Training Camp และร่วมแข่งขันในรายการ Surf Cup Tournament & Johan Cruyff Tournament ที่ประเทศสเปน

    บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้าสนับสนุนเยาวชนไทยสู่เวทีฟุตบอลระดับโลก จัดโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ภายใต้แนวคิด “IGNITE PRIDE TO WIN จุดประกายความฝันสู่ชัยชนะ” โดยปีนี้ได้ร่วมมือกับ EKKONO Academy สถาบันพัฒนาฟุตบอลเยาวชนระดับโลกจากประเทศสเปน และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เฟ้นหา 23 นักเตะเยาวชนไทยที่มีความสามารถในกีฬาฟุตบอล เข้าร่วม Training Camp ที่ประเทศสเปน และร่วมแข่งขันในรายการ Surf Cup Tournament & Johan Cruyff Tournament   ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติที่จะเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานระดับโลก

     

              นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “โครงการ TOYOTA Junior Football Clinic ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2013 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 โดยมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนากีฬาฟุตบอลในประเทศไทย และเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เข้าร่วมพัฒนาทักษะด้านฟุตบอล โดยจะผ่านการคัดเลือกจากทีมโค้ชระดับนานาชาติ และในปีนี้ โตโยต้าได้ร่วมมือกับ “EKKONO Academy” สถาบันพัฒนาฟุตบอลเยาวชนระดับโลกจากประเทศสเปน ที่มีประสบการณ์ในการฝึกสอนให้กับสโมสรชั้นนำทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาเยาวชนไทยที่มีศักยภาพสูงสุด และพัฒนาให้พร้อมสำหรับการแข่งขันระดับโลก โดยโตโยต้าจะเดินสายจัดกิจกรรมคัดเลือกเยาวชนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ สุพรรณบุรี / เชียงใหม่ / ขอนแก่น / นครศรีธรรมราช / สงขลา / เชียงราย และนนทบุรี เพื่อคัดเลือกนักเตะเยาวชนไทย 23 คน เข้าสู่ Training Camp ที่ประเทศสเปน และเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Surf Cup Tournament & Johan Cruyff Tournament ซึ่งเป็นเวทีระดับนานาชาติที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีเท้า และพัฒนาศักยภาพในสนามมาตรฐานระดับโลก

                สำหรับโครงการ TOYOTA Junior Football Clinic 2025 ยังได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (FA Thailand) เข้าร่วมเป็นทีมคัดเลือก ซึ่งจะทำให้การคัดเลือกมีความเข้มข้นมากขึ้น อีกทั้งสำหรับเยาวชน 23 คนที่ได้รับคัดเลือกและผ่านการฝึกอบรมนั้น จะได้รับโอกาสเข้าสู่ฐานข้อมูลของสมาคมฯ เพื่อใช้ในการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลเยาวชนไทยสู่ระดับมืออาชีพ โดยจะได้รับการติดตามพัฒนาการ เพื่อเป็นโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ “Talent Identification หรือ Talent ID” ของสมาคมฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เพื่อค้นหาและคัดเลือกนักฟุตบอลเยาวชนที่มีศักยภาพสูงทั่วประเทศไทย เข้าสู่ฐานข้อมูลทีมชาติ เพื่อเป็นช้างศึก U17 ในอนาคต

     

              เราเชื่อว่าฟุตบอลเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างวินัย ความรับผิดชอบ และความสามารถในการทำงานเป็นทีม ซึ่งโตโยต้าภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันวงการฟุตบอลเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้เยาวชนที่มีความสามารถได้รับโอกาสที่ดีที่สุด และสามารถก้าวไปสู่ฟุตบอลอาชีพ และทีมชาติไทยในอนาคต”

     

    โตโยต้าขอเชิญชวนเยาวชนไทยที่มีความฝันสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพ เข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกนักเตะ ในโครงการ “TOYOTA Junior Football Clinic 2025” ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 8-13 ปี จากทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพ และพัฒนาทักษะฟุตบอลภายใต้  การฝึกสอนของโค้ชระดับโลกจาก EKKONO Academy โดยสามารถสมัครได้ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ในจังหวัดที่รับสมัคร และที่ Facebook page : Toyota Spirit of Football ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


     

    No Comment
  • SPRC และ คาลเท็กซ์ โดย สตาร์ ฟูเอลส์ สนับสนุนโครงการทุนการศึกษา สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ

    1 Min Read

    SPRC และ คาลเท็กซ์ โดย สตาร์ ฟูเอลส์ สนับสนุนโครงการทุนการศึกษา สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ร่วมกับ คาลเท็กซ์ โดยบริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SFL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SPRC และเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อ “คาลเท็กซ์” ในประเทศไทย นำโดย นางสาวภิญญดา ธนาติณณภพ ผู้จัดการฝ่ายกิจการองค์กร SFL (ที่ 3 จากขวา) และ นางสาวนิดา ลีลาภิรมย์ชัย เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กร SPRC    (ที่ 3 จากซ้าย) มอบทุนการศึกษาจำนวน 60,000 บาท ให้แก่ นางสาวดวงพร อุดมทิพย์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาบุตร และสวัสดิการสมาชิกฯ ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นการส่งเสริมด้านการศึกษา รวมถึงแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่บุตรธิดาของครอบครัวสมาชิกสมาคมฯ ณ สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ อาคารช้าง กรุงเทพฯ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ค็อกพิทจัดงานประชุมประจำปี 2568 เสริมแกร่งสมาชิกแฟรนไชส์ทั่วประเทศ พร้อมพาเปิดประสบการณ์สัมผัสสมรรถนะยางรถยนต์ ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE TURANZA 6

    1 Min Read

    ค็อกพิทจัดงานประชุมประจำปี 2568 เสริมแกร่งสมาชิกแฟรนไชส์ทั่วประเทศ พร้อมพาเปิดประสบการณ์สัมผัสสมรรถนะยางรถยนต์ ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE TURANZA 6

    บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การนำทัพ โดยคุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการ พร้อมทีมผู้บริหาร ผนึกสมาชิกค็อกพิทแฟรนไชส์ทั่วประเทศกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุมใหญ่ในงาน “ประชุมสมาชิกค็อกพิทแฟรนไชส์ ประจำปี พ.ศ. 2568” ที่โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ต แอนด์ สปา จังหวัดชลบุรี ลุยยกระดับการบริหารจัดการอย่างเข้มข้น เผยพัฒนาแบรนด์ให้แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ เดินหน้าสร้างประสบการณ์ที่ดีและความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยแนวคิด Customer Centric พร้อมกันนี้ยังพาสมาชิกค็อกพิทแฟรนไชส์เข้าร่วมทดสอบสมรรถนะของยางรถยนต์พรีเมียม BRIDGESTONE TURANZA 6 มาตรฐานใหม่แห่งความนุ่มสบายเหนือระดับในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ โดยใช้เส้นทางพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นแนวทางนำเสนอผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าจากประสบการณ์การใช้งานจริง

    ค็อกพิทได้จัดประชุมสมาชิกค็อกพิทแฟรนไชส์ประจำภูมิภาคในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ในโอกาสนี้เพื่อเสริมแกร่งเน้นย้ำกลยุทธ์การบริหารจัดการสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และประสานพลังเดินหน้าไปพร้อมกันกับสมาชิกค็อกพิทแฟรนไชส์ทั่วประเทศ ค็อกพิทจึงจัดประชุมใหญ่ประจำปีขึ้น

    สำหรับกลยุทธ์หลักในการยกระดับแบรนด์ค็อกพิทประจำปีนี้ มี 4 ประการสำคัญ ได้แก่ 1) เดินหน้าปรับปรุงสาขาปัจจุบันพร้อมนำเสนอภาพลักษณ์ที่ทันสมัย และรุกขยายสาขาให้ครอบคลุมการใช้บริการของลูกค้าทั่วประเทศ 2) สร้างมาตรฐานการให้บริการจากทีมงานและทีมช่างมืออาชีพผ่านแผนการอบรมตลอดทั้งปี เพื่อยกระดับประสบการณ์ ทักษะ และความชำนาญ ให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา 3) สร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดูแลรักษารถยนต์อย่างครบวงจร และ 4) ยกระดับแบรนด์ค็อกพิทด้วยการพัฒนาระบบ และกิจกรรมการตลาดออนไลน์ ได้แก่ เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ด้วยการสร้างระบบร้านค้าออนไลน์และการครีเอทคอนเทนต์ให้น่าสนใจ เน้นโปรโมทโปรโมชั่นผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เป็นต้น และทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความตั้งใจของค็อกพิทที่พร้อมยกระดับและเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางครอบคลุมในทุกมิติ ด้วยการยึดมั่นในปณิธานการเป็นเพื่อนรู้ใจที่พร้อมจะอยู่คู่ชีวิตรถยนต์ตลอดการเดินทาง จนเกิดเป็นความประทับใจ กลับมาใช้บริการซ้ำ สู่การเป็นแบรนด์เป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรชั้นนำที่ครองใจลูกค้าชาวไทย


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • นายก สรยท. ประกาศแผนงานปี 2568 รุกกิจกรรมเสริมแกร่งวิชาชีพ หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

    1 Min Read

    นายก สรยท. ประกาศแผนงานปี 2568 รุกกิจกรรมเสริมแกร่งวิชาชีพ หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

    สรยท.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA เป็นประธาน พร้อมเปิดแผนการทำงานของปีที่ 2 มุ่งยกระดับความเข้มข้นของทุกกิจกรรมขึ้นจากปีที่ผ่านมาให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ เดินหน้าจัดงานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 โดยทุกกิจกรรมล้วนยึดผลประโยชน์ที่ทางสมาคมฯ และสมาชิกของสมาคมฯ จะได้รับผ่านทางกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อันหลากหลายเพื่อเสริมแกร่งทักษะวิชาชีพสื่อมวลชนสายยานยนต์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย พร้อมขอบคุณสมาชิกสมาคมที่เข้าร่วมประชุมคับคั่ง และให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่สมาคมจัดขึ้นมาโดยตลอด

    นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสมาชิก ที่มองเห็นความสำคัญของการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของทางสมาคมฯ ซึ่งในปีนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมถึง 145 คน แน่นอนว่านอกเหนือจากการรายงานการทำงานของคณะกรรมการวาระปี 2567-2569 ในช่วงปีแรกแล้ว ในโอกาสเดียวกันสมาคมฯ ยังประกาศแผนในการทำงานของปีที่ 2 ออกมาอีกด้วย โดยยังยึดหลักในเรื่องที่ยึดผลประโยชน์ที่ทางสมาคมฯ และสมาชิกของสมาคมฯ จะได้รับผ่านทางกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้งการสัมมนาเชิงวิชาการ และโปรเจกต์ฝึกอบรมต่างๆ ที่สมาคมฯ จะจัดขึ้นมาเพื่อเพิ่มพูนทักษะในหลายๆ ด้านให้กับสมาชิก ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสื่อยุคปัจจุบัน” นายสุรศักดิ์ กล่าว

    นอกจากนั้น ในเรื่องของการจัดงาน THAILAND CAR OF THE YEAR, THAILAND EV OF THE YEAR และ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR ปี 2025 นั้น ทางสมาคมฯ ได้เร่งกระบวนการทำงานให้เร็วขึ้น พร้อมกับมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสินขึ้นมาทำงานจำนวน 26 ท่าน ในการพิจารณาถึงกฎและกติกาที่จะใช้ในการคัดเลือกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งในปี 2025 นี้ ทางคณะอนุกรรมการมีความเห็นตรงกันในการพิจารณาถึงการปรับปรุงกฎระเบียบที่จะให้มีการครอบคลุมถึงรถที่ “ปรับโฉม” หรือ “Minor Change” ด้วย แต่จะต้องมีกรอบในการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

    “ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราได้มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ไทย จำนวนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นโมเดลเชนจ์ (Model change) ซึ่งทางสมาคมใช้เป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณา

    นั้นเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และบริษัทรถยนต์เริ่มขยายระยะเวลาในการทำตลาดรถยนต์รุ่นเดิมนานขึ้น ทำให้คณะอนุกรรมการทำงานในปีนี้มีความเห็นว่าน่าจะต้องนำหัวข้อนี้มาพิจารณาใหม่เพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในปีนี้และในอนาคต”

    วัตถุประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงกติกาในปี 2025 คือ

    ๏ เพื่อสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในปัจจุบัน ซึ่งรถยนต์สันดาปภายใน และรถจักรยานยนต์มีรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นการเปลี่ยนโฉมหรือ Model Change มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ ในแต่ละปี และมีแนวโน้มว่าบริษัทรถยนต์จะยืดอายุในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้นานขึ้น

    ๏ เพื่อให้รถยนต์ที่เป็นแค่การปรับโฉม หรือ Minor Change แต่มาพร้อมกับการเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือนวัตกรรมที่น่าสนใจได้มีโอกาสเข้าเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าเกณฑ์ของการตัดสินในแต่ละปี

    ๏ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้นำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีความทันสมัยมาใช้กับรถยนต์ที่จำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผู้บริโภคชาวไทยที่จะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้

    “รถยนต์ใหม่ที่เป็นโมเดลเชนจ์ยังเข้าเกณฑ์เหมือนเดิม แต่เราคิดว่าจะต้องเพิ่มหัวข้อเพื่อเปิดโอกาสรถยนต์รุ่นปรับโฉมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณา แต่ทั้งนี้ในกรอบการพิจารณาจะมีความเข้มงวดกว่าด้วยการกำหนดให้รถยนต์รุ่นปรับโฉมจะต้องมีความเปลี่ยนแปลง 3 ใน 5 หัวข้อที่ทางอนุกรรมการตั้งเอาไว้ นั่นคือ ระบบขับเคลื่อน (Powertrain), ความเปลี่ยนแปลงภายนอกหรือภายใน (Exterior/Interior) ระบบความปลอดภัย (Safety System) นวัตกรรมที่น่าสนใจ (Innovation System) และระดับค่ามลพิษที่ลดลง-ความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น (Emission/Fuel Consumption) ซึ่งเกณฑ์ในแต่ละหัวข้อ ทางอนุกรรมการปีนี้กำลังเร่งทำงานในการกำหนดเป็นกรอบในการพิจารณา และจะมีการประกาศอีกครั้งในเร็วๆ นี้” นายสุรศักดิ์ กล่าวสรุป

    ด้านนายสุรมิส เจริญงาม อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย กล่าวว่า การจัดงานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ THAILAND CAR EV & MOTORCYCLE OF THE YEAR 2025 ในปีนี้ยังยึดหลักการเดิมในการพิจารณาคัดเลือกตามที่เคยถือปฏิบัติมา แต่ในปีนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้หยิบยกประเด็นพิจารณาถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่จะให้มีการครอบคลุมถึงรถยนต์รุ่น “ปรับโฉม” (Minor Change) โดยเพิ่มหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกให้มีความเหมาะสมเป็นธรรมกับรถทุกรุ่น

    “การคัดเลือกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 ยังยึดระยะเวลารถที่เปิดตัวในช่วง 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 พร้อมเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสู่ตลาด นอกจากนี้ต้องเป็นไปตามกติกาที่คณะอนุกรรมการกำหนด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแก้กติกาเงื่อนไขการคัดเลือก

    รถที่จะเข้าร่วมรับรางวัลให้สอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับตลาดรถยนต์ในบ้านเราเป็นอย่างมาก” นายสุรมิส กล่าวในที่สุด


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2025 พร้อมระเบิดศึกออฟโรดยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน

    1 Min Read

    Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2025 พร้อมระเบิดศึกออฟโรดยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน

    Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน เป็นการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการที่มีเสน่ห์โดดเด่น จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานถึง 23 ปี นับตั้งแต่จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ Grand Prix Motor Park ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดประสงค์ในการรวบรวมเหล่านักแข่งออฟโรดระดับแถวหน้าของประเทศจากทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงนักแข่งชาวต่างชาติ เพื่อเข้าร่วมประลองฝีมือในสนามเดียวกันเพื่อเฟ้นหา 10 อันดับเซียนออฟโรดของประเทศ โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12–15 มิถุนายน 2568 ณ สนาม Grand Prix Motor Park อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

    Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน เดิมใช้ชื่อว่า “10 เซียนประจัญบาน” เมื่อได้รับการสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจากโตโยต้า จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “Toyota Hilux Vigo 10 เซียนประจัญบาน” ต่อมาเปลี่ยนชื่อรายการอีกครั้งเป็น “Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน” จนถึงปัจจุบัน  มีการพัฒนารูปแบบการแข่งขัน กฎ กติกา อย่างมีมาตรฐานสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนา และยกระดับการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมก้าวสู่มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับอาเซียน มีนักแข่งเข้าร่วมในรายการมากกว่า 150 คน จาก 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย เมียนม่า กัมพูชา มาเลเซีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 รุ่น ได้แก่

    1. Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2025
    2. Super Open 10 เซียนประจัญบาน 2025
    3. เที่ยวป่า Open 10 เซียนประจัญบาน 2025
    4. Off Road Club Team 10 เซียนประจัญบาน 2025

    สนามสุดโหด ที่วัดใจทั้งนักแข่ง รถแข่ง ทีมเซอร์วิส  บอกเลยว่าศึกนี้ไม่ได้วัดแค่พละกำลัง ความพร้อม ความอึด แต่คือบทพิสูจน์ของ “จิตวิญญาณนักแข่งออฟโรดตัวจริง” ใครจะเป็นหนึ่งในตำนาน 10 เซียนประจัญบาน 2025 ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ไปพร้อมกัน วันที่  12–15 มิถุนายน 2568  ณ สนาม Grand Prix Motor Park อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี  และคุณจะไม่พลาดทุกวินาทีของการแข่งขัน โดยชมการถ่ายทอดสดผ่านทางทีวีดิจิตอล และ Live Streaming กันสดๆ แบบเกาะติดขอบสนามจากกล้องหลากหลายมุมตลอดทั้ง 4 วันทาง Facebook : GRAND PRIX MOTOR PARK, Off Road Magazine รวมทั้งช่อง YouTube ของ GRAND PRIX MOTOR PARK  และสื่อพันธมิตรต่างๆ  


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ แบงค็อก ประมวลภาพบรรยากาศ ‘Extraordinary Week in Phuket 2025’ จัดเต็ม 7 วันกับโชว์เคสยนตรกรรมหรูโฉมใหม่ พร้อมจัดแคมเปญเซอร์วิสส่งทีมช่างดูแลถึงที่ ณ เมืองภูเก็ต

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก ประมวลภาพบรรยากาศ ‘Extraordinary Week in Phuket 2025’ จัดเต็ม 7 วันกับโชว์เคสยนตรกรรมหรูโฉมใหม่ พร้อมจัดแคมเปญเซอร์วิสส่งทีมช่างดูแลถึงที่ ณ เมืองภูเก็ต

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ประมวลภาพบรรยากาศงาน ‘Bentley Bangkok Extraordinary Week in Phuket 2025’ จัดเต็ม 7 วันกับโชว์เคส New Continental GT Speed และ New Flying Spur Speed แกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ เจ้าของขุมพลัง Ultra Performance Hybrid ที่ทรงสมรรถนะที่สุด พร้อมเปิดประสบการณ์การขับขี่ Bentayga Hybrid กิจกรรมทดลองขับรถยนต์เบนท์ลีย์แบบอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับสมรรถนะและความสะดวกสบายในการขับขี่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ต่อเนื่องด้วยแคมเปญ ‘Service Clinic in Phuket’ โดยความร่วมมือจาก บี-ควิก โลตัส ฉลอง กับทีมช่างมากประสบการณ์พร้อมเครื่องมือเฉพาะที่ได้มอบบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบนท์ลีย์ของลูกค้าในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 – 29 เมษายนที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับอัลตราลักชูรีของเมืองไทยที่ให้ความสำคัญกับการบริการและการดูแลหลังการขายเพื่อลูกค้าคนสำคัญทุกคนในประเทศไทย

    สำหรับการจัดแสดงสุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ในจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ถือเป็นการจัดแสดงนอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดภูเก็ตถือเป็นจุดหมายหลักในการเปิดตลาด เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งหัวเมืองสำคัญของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการลงทุนของกลุ่มนักธุรกิจทั้งไทยและเทศ เหล่านี้ถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ของประเทศไทย ซึ่งตลอด 7 วัน ชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสสัมผัสกับ New Continental GT Speed และ New Flying Spur Speed แกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ที่มาพร้อมสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ด้วยขุมพลังแบบ Ultra Performance Hybrid ที่ทรงพลังที่สุด ผู้ที่สนใจสัมผัสสมรรถนะและประสิทธิภาพในการขับขี่ในแบบฉบับรถยนต์เบนท์ลีย์ยังได้มีโอกาสทดลองขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid รถยนต์แบบอเนกประสงค์ที่ออกแบบอย่างหรูหราและร่วมสมัย โดยผู้ที่สนใจทดลองขับได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นจากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 แบบไฮบริดตลอดเส้นทางการทดลองขับขี่ในตัวเมืองภูเก็ต

    อีกทั้ง เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย ยังคงเน้นย้ำถึงการบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตที่ถือเป็นหัวใจหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญสูงสุดด้วยการจัดแคมเปญ ‘Service Clinic in Phuket’ โดยร่วมมือกับ บี-ควิก สาขา โลตัส ฉลอง ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ที่มอบบริการแบบครบวงจรด้วยอุปกรณ์ที่ครบครัน พร้อมด้วยทีมช่างจากเบนท์ลีย์ แบงค็อกผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรบอย่างเข้มข้นจากโรงงานผู้ผลิตที่ได้มอบบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบนท์ลีย์ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-VHC) ระบบเบรก ช่วงล่าง การตรวจเช็คระบบปรับอากาศ และแบตเตอรีด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะที่ทันสมัยให้แก่ลูกค้ารถยนต์เบนท์ลีย์ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและได้เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการหลังการขายที่ดีที่สุดเพื่อสร้างมั่นใจและยังคงความเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้ารถยนต์เบนท์ลีย์ในประเทศไทยเสมอมา

    ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดแข่งขัน BMW Golf Cup 2025 ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 12 เฟ้นหาสุดยอดนักกอล์ฟสมัครเล่นคนไทยสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

    1 Min Read

    บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดแข่งขัน BMW Golf Cup 2025 ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 12 เฟ้นหาสุดยอดนักกอล์ฟสมัครเล่นคนไทยสู่รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

    บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เตรียมส่งตัวแทนนักกอล์ฟสมัครเล่นไทยสู่เวทีระดับโลก จัดการแข่งขัน BMW Golf Cup 2025 ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟสมัครเล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก รอบคัดเลือก ณ สนามกอล์ฟนิกันติ จังหวัดนครปฐม ในปีนี้ มีนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วประเทศกว่า 1,900 คนเข้าร่วมแข่งขันใน 16 ทัวร์นาเมนต์ทั่วประเทศ โดยจะมี 120 ท่านที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เพื่อเฟ้นหาสุดยอด นักกอล์ฟเพียง 3 ท่าน เป็นตัวแทน บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศระดับโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2026

    BMW Golf Cup 2025 รอบคัดเลือก เริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึง อุบลราชธานี พิษณุโลก เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต ชลบุรี และนครปฐม ไปจนถึงกรุงเทพฯ และจะสิ้นสุดในวันที่ 21 พฤษภาคม 2025 รวม 16 ทัวร์นาเมนต์ เสริมทัพความพิเศษสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำผลงาน
    พิชิตโฮล-อิน-วัน รับรางวัลพิเศษ ประกอบด้วย

    • ทริปสุดพิเศษสำหรับ 2 ท่าน สู่มิวนิค ประเทศเยอรมนี สนับสนุนโดยบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
    • ลำโพง Bowers & Wilkins สนับสนุนโดย โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ (Bowers & Wilkins) โดยมีผู้พิชิตรางวัลแล้วจากทัวร์นาเมนต์เชียงใหม่
    • GARMIN Golf Launch Monitor สนับสนุนโดยการ์มิน (GARMIN) แบรนด์นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ชั้นนำ
    • ชุดเหล็ก T-Series 1 ชุด สนับสนุนโดยไทเทิลลิสท์ (Titleist) แบรนด์ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กอล์ฟและอุปกรณ์เสริมระดับโลก โดยมีผู้พิชิตรางวัลแล้วจากทัวร์นาเมนต์ภูเก็ต

    นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังคงเชิญชวนนักกอล์ฟทุกท่านร่วมในการกุศลอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ ส่วนหนึ่งจากการแข่งขัน BMW Golf Cup 2025 จะถูกนำไปสมทบทุนให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อสนับสนุน การดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

    ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้นักกอล์ฟสมัครเล่นไทยบนเส้นทางสู่การแข่งขันระดับโลก พร้อมรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน BMW Golf Cup 2025 ได้ที่เว็บไซต์ www.bmw.co.th


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ลัมโบร์กินี เผยธุรกิจโตต่อเนื่องในไตรมาสแรกปี 2568

    1 Min Read

    ลัมโบร์กินี เผยธุรกิจโตต่อเนื่องในไตรมาสแรกปี 2568

    ผู้ผลิตรถเมืองซัง’อกาตา โบโลนเญส เปิดศักราชใหม่ด้วยผลประกอบการดีเยี่ยม ทั้งด้านรายรับ กำไร และยอดส่งมอบรถยนต์ ท่ามกลางความท้าทายของตลาดโลกวันนี้

    ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) แบรนด์ซูเปอร์คาร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากอิตาลี เดินหน้าสร้างผลประกอบการดีเยี่ยมในไตรมาสแรกของปี 2568 ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยรายงานยอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกรวม 2,967 คัน กวาดรายได้รวม 895.2 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 29.6% และทำกำไรจากการดำเนินงานแตะ 248.1 ล้านยูโร เติบโตขึ้นกว่า 32.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “เราสร้างอนาคตด้วยมือเรา และสิ่งนั้นเกิดขึ้นจากการดำเนินงานที่ยืดหยุ่น ผลลัพธ์ไตรมาสแรกถือเป็นเครื่องพิสูจน์ที่เด่นชัดถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ ซึ่งแม้จะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน หากความต้องการรถยนต์ของเราในตลาดโลกยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขผลประกอบการทั้งหมดนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าการผสานสมรรถนะ นวัตกรรม และความเอ็กซ์คลูซีฟ โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพและการปรับแต่งเพื่อลูกค้าเฉพาะรายนั้น เป็นแนวทางที่ถูกต้อง”

    หนึ่งในปัจจัยหนุนที่ส่งให้ลัมโบร์กินีสามารถทำผลงานไตรมาสนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม คือการเดินสายการผลิตรถยนต์ตระกูล Revuelto [1] ซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด V12 รุ่นแรกของค่ายอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการเปิดตัว Urus SE [2] รุ่นไฮบริดใหม่ในกลุ่ม Lamborghini Super SUV ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ และตอกย้ำการยืนหนึ่งของแบรนด์ในตลาดโลก

    มร.เปาโล โพมา กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวเสริมว่า เราเริ่มต้นปี 2568 ได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งตอกย้ำทิศทางการเติบโตทางการเงินของแบรนด์ที่ยั่งยืน แม้จะอยู่ในบริบทโลกที่ผันผวน โดยเฉพาะมิติด้านการค้าระหว่างประเทศ แต่เป้าหมายของเราก็ยังคงชัดเจน นั่นคือการสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผ่านการยึดมั่นในวิสัยทัศน์ระยะยาวซึ่งสร้างขึ้นบนรากฐานทางการเงินที่มั่นคงและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”

    สำหรับไตรมาสแรก ลัมโบร์กินีสามารถรักษาสมดุลการกระจายยอดส่งมอบรถยนต์ได้ดีทั้งใน 3 ภูมิภาคหลัก ได้แก่ EMEA (ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) จำนวน 1,368 คัน (+7%), ทวีปอเมริกา 1,034 คัน (+21%) และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 565 คัน (+14%) โดยประเทศที่มียอดส่งมอบสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา (933 คัน) ตามมาด้วยเยอรมนี (366 คัน) สหราชอาณาจักร (272 คัน) ญี่ปุ่น (187 คัน) อิตาลี (143 คัน) เกาหลีใต้ (134 คัน) ตะวันออกกลาง (104 คัน) สวิตเซอร์แลนด์ (95 คัน) ออสเตรเลีย (85 คัน) และฝรั่งเศส/โมนาโก (76 คัน)

    การกระจายตัวของยอดขายทั่วโลกสะท้อนถึงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งของลัมโบร์กินีในการสร้างสมดุลระหว่างการขยายตลาดโลกโดยยังคงยึดมั่นบนรากฐานอันแข็งแกร่งในอิตาลี ทั้งนี้ คิวจองรถยนต์ Revuelto ในปัจจุบันยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง และมีระยะเวลารอรับรถนานกว่า 2 ปี

    ลัมโบร์กินีสามารถทำตัวเลขผลประกอบการอันยอดเยี่ยมนี้ได้ท่ามกลางความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของบริบททางการค้า และถึงแม้มาตรการทางการค้าล่าสุดระหว่างยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาสแรกของออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี แต่บริษัทฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินแนวโน้มในอนาคตและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อธุรกิจ โดยลัมโบร์กินียังคงยืนยันจุดยืนในการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกติกาสากล ตลาดที่เปิดกว้าง และความสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างเขตเศรษฐกิจทั่วโลก บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่ามาตรการกีดกันทางการค้าอาจส่งผลเสียต่อการเติบโต ความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาในระยะยาวของผู้ประกอบการทั่วโลก


    [1] ค่าการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียของ Revuelto: อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.86 ลิตร/100 กม. การใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 10.1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กม. การปล่อยก๊าซ CO₂ เฉลี่ย 276 กรัม/กม. ระดับประสิทธิภาพการปล่อย CO₂ ระดับ G อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด 17.8 ลิตร/100 กม. ระดับประสิทธิภาพการปล่อย CO₂ และแบตเตอรี่หมด ระดับ G (ตามมาตรฐาน WLTP)

    [2] ค่าการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียของ Urus SE: อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 2.08 ลิตร/100 กม. การใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 39.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กม. การปล่อยก๊าซ CO₂ เฉลี่ย 51.25 กรัม/กม. ระดับประสิทธิภาพการปล่อย CO₂ ระดับ B อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด 12.9 ลิตร/100 กม. ระดับประสิทธิภาพ CO₂ เมื่อแบตเตอรี่หมด ระดับ G (ตามมาตรฐาน WLTP)


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment