-
“เติ้น ทัศนพล” โชว์ฟอร์มดุ สู้ศึกเรดบูลล์ ริง คว้า P4!! เก็บแต้มเพิ่ม – FIA Formula 3 Championship 2025 Round 6
ออสเตรีย, จบศึกดวลความเร็วระดับเวิล์ดคลาส FIA Formula 3 Championship ฤดูกาล 2025 สนามที่ 6 ของ ”เติ้น” ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งดาวรุ่งตัวแทนประเทศไทย จาก AAS Motorsport ภายใต้สังกัดทีมคัมโปส เรซซิ่ง (Campos Racing) ได้ทำการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ สนามเรดบูลล์ ริง ประเทศออสเตรีย หลังลงสนามอุ่นเครื่องในรอบซ้อม (Practice) ได้เริ่มเปิดฉากโชว์ฟอร์มทำความเร็วให้แฟนๆได้เห็นตั้งแต่รอบ (Qualifying) กับเวลาดีที่สุด 1 นาที 20.965 วินาที คว้ากริดสตาร์ทอันดับที่ 5 มาครอง ส่งผลให้เติ้น ทัศนพล จะได้ออกสตาร์ทจากตำแหน่งที่ 8 ในรอบสปรินต์เรซ ตามกติกา “รีเวิร์ส กริด” (Reverse Grid) ซึ่งเป็นโอกาสดีที่นักแข่งไทยจะได้ลุ้นโพเดียมและจบผลงานในแถวหน้าอีกด้วย
เมื่อการแข่งขันรอบสปรินต์เรซ (Sprint Race) มาถึง สนามเรดบูลล์ ริง ก็ลุกเป็นไฟ ในนาทีที่ เติ้น ทัศนพล เปิดเกมความเร็วซัดเต็มสปีด โชว์ฟอร์มแข็งแกร่งไล่แซงจากกริดสตาร์ทที่ 8 ฝ่าทุกขีดจำกัดขยับต่อเนื่องจนทะลุเกาะกลุ่ม “Top 5” ก่อนปิดเกมเดือดคว้าอันดับที่ 4 (P4) เดินหน้าเก็บแต้มสะสมเข้าตารางเพิ่มอีก 7 คะแนนได้สำเร็จ นับเป็นอีกหนึ่งสนามที่ได้ใจแฟนชาวไทยไปแบบเต็มๆ กับไลน์การขับขี่ที่ดุดัน มั่นใจ และเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้
แม้ในรอบ ฟีเจอร์ เรซ (Feature Race) จะไม่เป็นไปตามคาด หลังรถหมายเลข 11 ของ “เติ้น ทัศนพล” เจอปัญหาระบบคลัตช์ขัดข้องตั้งแต่จังหวะออกสตาร์ท จนอันดับตกลงไปอยู่กลางขบวนอย่างน่าเสียดาย จบการแข่งขันในรอบนี้ด้วยอันดับที่ 15 (P15) อย่างเป็นทางการ ทำให้พลาดโอกาสเก็บคะแนนสำคัญไป แต่นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันมีค่า ที่สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ พร้อมฝ่าทุกอุปสรรคตลอดทั้งเรซ รวมถึงการพัฒนาทักษะการขับขี่ของนักแข่ง F3 ขวัญใจชาวไทยที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
บทสรุปสุดท้ายยังมาไม่ถึง! เตรียมตัวลุยต่อสนามที่ 7 ที่ซิลเวอร์สโตน, ประเทศอังกฤษ ในสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคมนี้ เพื่อไม่พลาดทุกข่าวสารรายงานความมันส์ และภาพบรรยากาศส่งตรงจากทางเพจก่อนใคร กดติดตามและถูกใจ ได้ที่ Facebook & Instagram : AAS Motorsport และเว็บไซต์หลัก https://www.aasautoservice.com/
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
The New Volvo EX30 Cross Country เปิดตัวแล้วที่ประเทศไทย ยนตรกรรมไฟฟ้าที่พร้อมพาคุณก้าวข้ามกรอบเดิม ๆ อย่างมีสไตล์
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดตัวรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ล่าสุด Volvo EX30 Cross Country ยนตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อให้ชีวิตคนเมืองเต็มไปด้วยพลังและสีสัน พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมก้าวไปข้างหน้า ด้วยดีไซน์ที่ผสานความคล่องตัวและเทคโนโลยีอัจฉริยะรุ่นใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์การค้นหาจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงสู่การผจญภัยนอกเมืองอย่างมีสไตล์ พบกับ Volvo EX30 Cross Country ได้ที่งาน Fast Auto Show Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา, ฮอลล์ BH102-103 บูธวอลโว่ (B4)
Volvo EX30 Cross Country รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ SUV ขนาดเล็ก พร้อมพาคุณออกไปสัมผัสทุกการผจญภัยในทุกช่วงจังหวะสำคัญของชีวิต ต่อยอดจากความสำเร็จของรุ่นมาตรฐานอย่าง EX30 สู่การออกแบบที่ลุยและมีพลังมากขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่พร้อมจะหลุดกรอบความจำเจ ออกเดินทางค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศฝนตกหรือแดดออก รถคันนี้จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่พร้อมจะลุยไปกับคุณทุกเมื่อ EX30 Cross Country พร้อมให้จับจองแล้ววันนี้บนเว็บไซต์ Volvo Car website
สรุปการอัปเกรดสำคัญใน EX30 Cross Country:
- ดีไซน์ภายนอกใหม่:
- กระจังหน้าแบบใหม่ที่เพิ่มลวดลายกราฟิกเฉพาะตัว ซึ่งแสดงภาพภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไคเซ ทางตอนเหนือของสวีเดน พร้อมแสดงตำแหน่งละติจูด ลองติจูดของเทือกเขาบนลวดลาย
- ล้อดีไซน์ใหม่สำหรับรุ่น Cross Country ขนาด 19” นิ้ว แบบ 5 ก้าน สีเทากราไฟต์ด้านและดำด้าน มาพร้อมยาง Summer tires ขนาดใหญ่ 720 มม. (235/50/19) เพิ่มมิติและลุคที่ดูลุย
- ดีไซน์แผ่นกันกระแทกหน้าและหลังด้วยสีเทา (Vapour Grey) แบบด้าน
- ดีไซน์แผงด้านหลังตกแต่งด้วยผิวสีดำด้าน
- กันชนล่างด้านหลังและบริเวณเสา C เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นด้วยโลโก้ Cross Country บ่งบอกความพิเศษของรุ่น
- ดีไซน์กันชนหน้าและส่วนขยายซุ้มล้อสีดำด้านรูปแบบใหม่
- ตัวเลือกสีเบาะใหม่: รุ่นนี้มาพร้อมเบาะใหม่ในสี “Pine” สีเขียวที่มอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ และยังมีตัวเลือกเบาะสี “Indigo” โทนน้ำเงินเข้ม ที่ให้ความรู้สึก สุขุม และมีเอกลักษณ์
- ยกสูงขึ้น: เพิ่มความสูงจากพื้นถนนถึง 19 มม. (12 มม. จากแชสซี และ 7 มม. จากล้อ) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์มากขึ้น
- ปรับจูนระบบการขับขี่ช่วงล่าง: เพิ่มความนุ่มนวลและความสบาย พร้อมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนในทุกรูปแบบการขับขี่
- เพิ่มฟีเจอร์ระบบทำความร้อน: ที่เบาะนั่งคู่หน้าและพวงมาลัย
- พลังการขับเคลื่อน: ระบบขับเคลื่อน Twin Motor Performance (พลังการขับเคลื่อนเท่ากับรุ่น EX30 Twin Motor Performance)
คุณคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วอลโว่เป็นผู้นำที่บุกเบิกยนตรกรรม Cross Country มากว่า 25 ปี และแนวคิดเรื่องสมรรถนะที่มาพร้อมความสะดวกสบาย ยังคงเป็นหัวใจหลักของเรามาตลอด ด้วยชีวิตของคนเมืองในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบและไม่เคยหยุดนิ่ง เราเข้าใจดีว่าผู้คนต้องการรถที่สามารถตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างลงตัว และยังต้องตอบโจทย์ชีวิตอิสระให้พวกเขาได้ออกไปทริปสั้น ๆ ในวันหยุด นั่นคือเหตุผลที่เราออกแบบ EX30 Cross Country ให้เป็นมากกว่ายานพาหนะ เพราะนี่คือรถที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เชื่อมโยงกับทุกจังหวะชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
จากวิวเมืองสู่เส้นทางธรรมชาติ
EX30 Cross Country เป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ที่สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 490 กิโลเมตร1 มาพร้อมระบบการชาร์จไวจาก 10 – 80% ภายในเวลาเพียง 28 นาที2 ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ สิ่งที่ทำให้รถคันนี้พิเศษยิ่งกว่าคือประสบการณ์การขับขี่ที่พร้อมพาคุณหลุดจากความวุ่นวายในเมือง สู่เส้นทางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสงบและความสดชื่น ให้ทุกที่ที่คุณไป กลายเป็นพื้นที่ของ Cross Country อย่างแท้จริง
รถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับทุกการเดินทางได้อย่างมั่นใจ พร้อมยกระดับดีไซน์ให้มีมิติและทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มความสูงจากรุ่นมาตรฐานอย่าง EX30 เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนผ่านหลากหลายสภาพถนนได้อย่างนุ่มนวลและมั่นคง ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 19” นิ้วแบบ 5 ก้าน มาพร้อมสีเทากราไฟต์ด้านและดำด้าน ที่จะช่วยเพื่ออารมณ์ของการผจญภัยให้ทุกเส้นทางน่าจดจำยิ่งกว่าเดิม
EX30 Cross Country มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive) ที่รองรับทุกเส้นทางการเดินทาง ไม่ว่าจะเจอสภาพถนนเปียกลื่นจากฝนหรือพื้นผิวที่ไม่แน่นอนเมื่อต้องออกนอกเมือง ก็พร้อมมอบสมรรถนะที่มั่นใจและทรงพลังในทุกการขับขี่ ดีไซน์ฝากระโปรงหน้าและท้ายที่ถูกตกแต่งด้วยสีดำเฉพาะตัว เสริมบุคลิกให้รถดูโฉบเฉี่ยวและมีมิติยิ่งขึ้น กระจังหน้ามาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ถูกแต่งเติมลวดลายกราฟิก ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไคเซ (Kebnekaise) ในเขตอาร์กติกของสวีเดน ถ่ายทอดสุนทรียภาพของธรรมชาติสู่รายละเอียดที่เปี่ยมไปด้วยด้วยเอกลักษณ์ โครงกันกระแทกด้านหน้า–ด้านหลัง และขอบล้อแบบเสริมดีไซน์พิเศษ ถ่ายทอดความพร้อมในการเดินทางอย่างมีระดับ เติมเต็มเสน่ห์ให้ EX30 Cross Country กลายเป็นพาหนะคู่ใจที่พร้อมเปิดทุกประสบการณ์ใหม่อย่างมีสไตล์
ครบเครื่องทั้งฟังก์ชัน และปลอดภัยในแบบฉบับวอลโว่
ภายในห้องโดยสาร EX30 Cross Country เรายังคงถ่ายทอดเทคโนโลยีอัจฉริยะจากรุ่นมาตรฐาน ทั้งการมอบทุกฟังก์ชันการใช้งานที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย, พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ, ดีไซน์เรียบหรู และหนึ่งในดีไซน์ที่น่าสนใจคือการย้ายลำโพงจากบริเวณแผงประตูมาติดตั้งรวมไว้บนซาวด์บาร์บริเวณคอนโซลหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ตรงประตูให้สามารถใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ได้มากขึ้น เหล่านี้คือการผสมผสานระหว่างดีไซน์และความสะดวกสบายที่ลงตัว
พื้นที่เก็บสัมภาระโซนหน้า
พื้นที่เก็บของส่วนกลางระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ที่วางแก้วสามารถเลื่อนพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน เพิ่มพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางได้มากขึ้น พร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่ส่วนล่างระหว่างเบาะหน้าผู้ขับและผู้โดยสาร และช่องเก็บของหน้ารถ (Glove compartment) ถูกย้ายมาไว้ใต้คอนโซลกลาง เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
พื้นที่เก็บสัมภาระโซนหลัง
บริเวณช่องใส่สัมภาระตรงกลางมีช่องเก็บของสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ อีกทั้งบริเวณพื้นที่ใส่สัมภาระท้ายรถยังมีรายละเอียดที่แสดงถึงความใส่ใจอย่างแผ่นป้าย “Will it fit?” ที่แสดงขนาดการจุสัมภาระ ให้ผู้ใช้รถได้กะขนาดสัมภาระที่ต้องการใส่ได้อย่างแม่นยำ
รถคันนี้พร้อมลุยไปกับคุณทุกทริปด้วย Google Built-in ที่ติดตั้งภายในรถ ไม่ว่าจะมุ่งหน้าออกไปสัมผัสธรรมชาติ หรือแวะร้านอาหารรูฟท็อปสุดเก๋ใจกลางเมือง EX30 Cross Country ก็สามารถพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างแม่นยำและราบรื่นผ่าน Google Maps ที่พร้อมใช้งานทันทีเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเพลิดเพลินกับการขับรถชมแสงไฟยามค่ำคืน หรือมีเปลี่ยนแผนกะทันหัน รถคันนี้ก็พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยความคล่องตัวที่ผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างลงตัว
เพราะความปลอดภัย คือหัวใจสำคัญของวอลโว่ EX30 Cross Country คันนี้มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงที่ออกแบบมาเพื่อดูแลทั้งคุณและคนที่คุณรัก ไม่เพียงแค่ให้การปกป้องเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด แต่ยังช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุผ่านเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ทั้งระบบเบรกและการควบคุมพวงมาลัยได้รับการออกแบบให้สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากด้านหน้า, รถที่สวนทาง, ผู้ใช้ถนน หรือจักรยาน รวมถึงระบบเซนเซอร์ตรวจจับความพร้อมของผู้ขับขี่ ที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อระบบพบสัญญาณของความเหนื่อยล้า หรือภาวะขาดสมาธิ เพราะทุกองค์ประกอบด้านความปลอดภัยที่เราใส่ใจออกแบบมา คือความตั้งใจของวอลโว่ ที่อยากให้ทุกการเดินทางของคุณ เริ่มต้นและสิ้นสุดอย่างมั่นใจและอุ่นใจในทุกเส้นทาง
รถคันเล็กที่พร้อมพาคุณออกไปใช้ชีวิตอย่างยิ่งใหญ่กว่าที่เคย
เพื่อถ่ายทอดแนวคิดของ EX30 Cross Country ทางวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Volvo Go แคมเปญไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ที่จะจุดประกายให้การใช้ชีวิตเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคย ผ่านกิจกรรมที่ชวนให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ให้คุณกล้าที่จะก้าวออกจากกรอบเดิม ๆ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแบบที่เป็นตัวคุณ เตรียมพบกับรายละเอียดเพิ่มเติมของโปรแกรม Volvo Go ได้เร็ว ๆ นี้
ราคา
- Volvo EX30 Cross Country ราคา 1,890,000 บาท
1 ข้อมูลจากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการภายใต้สภาพแวดล้อมควบคุม เพื่อยื่นขอ ECO-Sticker ตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยผลการใช้งานจริงอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อุณหภูมิภายนอก สภาพการขับขี่ และจำนวนผู้โดยสารในรถ
2 อ้างอิงจากการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จความเร็วสูงแบบ DC (175kW) โดยระยะเวลาในการชาร์จจริงอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการปรับอุณหภูมิของรถ การใช้พลังงานจากระบบอื่น ๆ และอุณหภูมิภายนอก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
default -
รถโบราณร่วมขบวน Love Pride Parade 2025
สมาคมรถโบราณฯ ส่งรถโบราณนับสิบคัน สร้างสีสันในงาน “LOVE PRIDE ♡ PARADE, BANGKOK 2025”
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จากัด และบริษัทในเครือ ในนามตัวแทนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ได้จัดงาน “LOVE PRIDE ♡ PARADE, BANGKOK 2025” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลระดับโลก “WORLD PRIDE 2025”
งานนี้ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ได้จัดรถโบราณ และรถคลาสสิคเข้าร่วมขบวนพาเหรด นำโดย MG TB ปี 1939, Chevrolet EI Camino ปี 1959, Ford Mustang ปี1965, Ford Mustang ปี1967, Volkswagen Karmann Ghia ปี1964, Volkswagen Karmann Ghia K1 Convertible ปี 1963, Mercedes-Benz E220 Cabriolet ปี 1996, Mercedes-Benz W107 SL ปี 1971 และ Fiat 500 ปี 1965
ขบวนพาเหรด เริ่มต้นจากกสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ไปตามถนนพระราม 1 ผ่านย่านปทุมวัน สยาม ราชประสงค์ สุขุมวิท ไปยังศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ รวมระยะทาง 5 กิโลเมตร นับเป็นขบวนพาเหรดการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride ที่มีความยาวมากที่สุดในเอเชีย ตลอดเส้นทางมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง
รถโบราณในขบวนพาเหรด “LOVE PRIDE ♡ PARADE, BANGKOK 2025” ถือเป็นเอกลักษณ์ของ “WORLD PRIDE MONTH” เทศกาลระดับโลก
ผู้สนใจสามารถติดตามภาพความประทับใจของขบวนพาเหรดครั้งนี้ เพิ่มเติมได้ที่ vintagecarclub.or.th และ facebook.com/VintageCarClub
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง กับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท จองและรับรถได้ภายใน 31 กรกฎาคมนี้
เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอสุดพิเศษครั้งสุดท้ายกับการเป็นเจ้าของ The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง หนึ่งในรถ MPV อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยข้อเสนอราคาสุดพิเศษ 2,590,000 บาท จากราคาจำหน่ายปกติ 2,990,000 บาท รวมส่วนลดสูงสุดมูลค่า 400,000 บาท โอกาสสุดท้ายในการเป็นเจ้าของรถ MPV ดีเซลที่ครบที่สุดในคลาส มาพร้อมแพ็กเกจความคุ้มครองระดับพรีเมียมจากเกีย โปรโมชันนี้สำหรับผู้ที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2568 เท่านั้น และจำนวนรถมีจำกัด
ความสะดวกสบายระดับลักซ์ชัวรี พร้อมห้องโดยสารอเนกประสงค์
The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวไทยที่ต้องการทั้งความกว้างขวางและความหรูหรา ประสบการณ์ในการเดินทางทั้งชีวิตประจำวันหรือสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัว
- ห้องโดยสารขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่กว้างขวางทุกแถว
- เบาะโดยสารแถวที่สองติดตั้งที่นั่งแบบ Relaxation Seat เพื่อมอบการนั่งที่สบายแบบผู้โดยสารชั้นธุรกิจ พร้อมฟังก์ชัน:
- ปรับเอนได้อัตโนมัติในปุ่มเดียว (One-touch Relaxation Mode)
- ที่พักขาปรับเอนได้
- ระบบระบายอากาศและระบบอุ่นเบาะ
- ระบบปรับเบาะด้วยไฟฟ้า
- พนักพิงปรับเอนได้
- มีพื้นที่ทางเดินระหว่างเบาะแถวสองเพื่อให้เข้า-ออกเบาะแถวสามได้สะดวกโดยไม่ต้องพับหรือปรับเบาะ เหมาะสำหรับเด็ก
และผู้สูงอายุ - เบาะแถวสามสามารถพับเรียบได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานและเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ รองรับได้ทั้งกระเป๋าเดินทาง
ขนาดใหญ่ กระเป๋ากอล์ฟ อุปกรณ์แคมป์
- หน้าจอแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ ประกอบด้วยจอขนาด 3 นิ้ว เชื่อมต่อจอแสดงผลหน้าคนขับและจอสัมผัสตรงกลางขนาด 12.3 นิ้ว ด้วยความละเอียดคมชัดสูง
- ติดตั้งระบบเสียงคุณภาพสูง BOSE Premium Sound System ลำโพงรอบคัน 12 ตำแหน่ง ทำให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งขึ้น
- จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ช่วยยกระดับประสบการณ์ระหว่างการเดินทางให้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น
- วัสดุพรีเมียมและพื้นผิวแบบสัมผัสนุ่มทั่วห้องโดยสาร พร้อมไฟตกแต่งภายใน (Ambient Lighting)
- หลังคาซันรูฟคู่ (Dual Sunroof) ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติ เพิ่มความโปร่งสบายให้ห้องโดยสาร
- ประตูสไลด์ไฟฟ้าและฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Power Sliding Door and Tailgate) เปิดให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีกุญแจ Smart Key
สมรรถนะดีเซลทรงพลัง ผสานความมั่นใจสไตล์ SUV
ภายใต้ดีไซน์เรียบหรู The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยพลังและความมั่นใจ พร้อมประสิทธิภาพสำหรับการเดินทางไกล:
- เครื่องยนต์ดีเซล ‘Smartstream’ ขนาด 2 ลิตร
- ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่สามารถเรียกใช้ได้ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้าง
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน
- ตำแหน่งนั่งขับถูกออกแบบให้คล้ายรถ SUV วิสัยทัศน์ชัดเจน ขับง่าย
- ระยะห่างจากพื้นสูงถึง 172 มิลลิเมตร ช่วยให้ขับขี่ได้คล่องตัวบนเส้นทางที่หลากหลาย
- ตัวถังน้ำมันมีขนาดใหญ่ถึง 72 ลิตร รองรับระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตรต่อการเติมหนึ่งครั้ง เหมาะกับการเดินทางทางไกลโดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมันบ่อย
เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำหน้า และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ครบครัน เพื่อความอุ่นใจในทุกเส้นทาง
The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบครบครัน เพื่อดูแลผู้โดยสารทุกคนตลอดการเดินทาง:
- ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตา (Blind Spot Collision Avoidance Assist) ระบบจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบหากมีรถคันอื่นปรากฏขึ้นในจุดบอดและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชนกัน
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง (Surround View Monitor) แสดงภาพรอบตัวรถผ่านหน้าจอ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจอดรถในพื้นที่จำกัดได้อย่างมั่นใจ
- ระบบควบคุมความเร็วตามรถคันหน้าอัตโนมัติ (Smart Cruise Control Stop & Go) ช่วยควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าแม้ในสภาพการจราจรติดขัด
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Occupant Alert) จะแจ้งเตือนเมื่อมีการลืมผู้โดยสารหรือสัตว์เลี้ยงไว้ด้านหลัง
- ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Collision Avoidance Assist) ระบบจะตรวจจับการชนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างรถ คนเดินถนน และคนขี่จักรยาน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและแจ้งเตือน พร้อมบรกโดยอัตโนมัติเพื่อลดผลกระทบจากการชนที่อาจเกิดขึ้น
- ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist) ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะเปิดประตู
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist and Lane Keeping Assist) โดยระบบจะช่วยหักพวงมาลัยโดยอัตโนมัติเพื่อให้รถอยู่ตรงกลางเลนเมื่อระบบตรวจจับได้ว่ารถกำลังเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
สีตัวถังภายนอกให้เลือกได้ 4 สี ประกอบด้วย
- สีดำ Jet Black
- สีขาว Snowflake White Pearl
- สีเทา Meteor Gray
- สีน้ำเงิน Astra Blue
มาพร้อมล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ที่ช่วยเสริมลุค The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง ให้ดูสง่างาม และทรงพลังบนท้องถนน
โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL Luxury Diesel (7 ที่นั่ง)
สำหรับผู้ที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2568 เท่านั้น จำนวนมีจำกัด
- ส่วนลดมูลค่า 400,000 บาท (จากราคาจำหน่ายปกติ 2,990,000 บาท)
ข้อเสนอราคาพิเศษนี้ มาพร้อมกับ
- ฟรี จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า (สินค้ามีจำนวนจำกัด) [4]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3] ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
โอกาสสุดท้ายที่จะได้เป็นเจ้าของ The Kia Carnival SXL Luxury Diesel รุ่น 7 ที่นั่ง รถยนต์ระดับพรีเมียมที่ครอบครัวทั่วประเทศไทยเลือกใช้และไว้วางใจ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยความสะดวกสบาย หรูหรา และสมรรถนะที่เป็นเลิศ
ข้อเสนอประจำเดือนกรกฎาคม 2568 สำหรับลูกค้า The Kia Carnival
บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอเสนอโปรโมชัน สำหรับวันที่ 1 ถึง 31กรกฎาคม 2568
- โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival EX (11 ที่นั่ง)
- เงินเพิ่มมูลค่ารถคันเก่า 100,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3] ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน
- อัตราดอกเบี้ย 0% 4 ปี [6]
- โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival LX (11 ที่นั่ง)
ราคาพิเศษ 1,599,000 บาท (ราคาจำหน่ายปกติ 1,892,000 บาท หักส่วนลดมูลค่า 293,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3] ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน
หรือ
___________________________________________________________
- เงินเพิ่มมูลค่ารถคันเก่า 100,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3]ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน
- อัตราดอกเบี้ย 0% 4 ปี โดยคำนวณจากราคาจำหน่ายปกติ [6]
- โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL (11 ที่นั่ง)
- เงินเพิ่มมูลค่ารถคันเก่า 100,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3] ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน
- อัตราดอกเบี้ย 0% 4 ปี [6]
- โปรโมชันสำหรับ The Kia Carnival SXL Luxury Diesel (7 ที่นั่ง)
- ส่วนลดมูลค่า 400,000 บาท (จากราคาจำหน่ายปกติ 2,990,000 บาท)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลานาน 1 ปี [1]
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง [2]
- การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร [3] ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน
- ฟรี จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า (สินค้ามีจำนวนจำกัด) [4]
หมายเหตุ:
[1] ประกันภัยชั้น 1 และ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับรุ่น LX, EX, SXL และ SXL Luxury โดยจำกัดเฉพาะ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[2] เงื่อนไขการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ตามเงื่อนไขของฝ่ายบริการหลังการขาย) โดยไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[3] เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน (ตามเงื่อนไขการรับประกันของฝ่ายบริการหลังการขาย)
[4] จอบนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ตามรุ่นที่บริษัทฯ กำหนด โดยรับประกันคุณภาพระยะเวลา 1 ปี
[5] สิทธิประโยชน์ข้อ [1], [2] และ [4] มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 90,000 บาท เฉพาะรุ่น SXL Luxury และ สำหรับรุ่น LX, EX, SXL สิทธิประโยชน์ข้อ [1], [2] มีมูลค่า 50,000 บาท ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
[6] อัตราดอกเบี้ยต้นงวดพิเศษ 0% 4 ปี สำหรับรุ่น EX, LX, SXL เฉพาะการจัดเช่าซื้อกับธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ บริษัท กสิกรลีสซิ่ง จํากัด หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ ธนาคารไทยธนชาต พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน สำหรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 4 ปี-
ข้อกำหนดและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯ
-
สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ถึง 31 กรกฎาคม 2568
-
โปรโมชันสำหรับการซื้อผ่านผู้จำหน่าย Kia อย่างเป็นทางการทั่วประเทศไทย
-
เฉพาะผู้จำหน่าย ฯ ที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น
-
ไม่รวมรถแท็กซี่, รถเช่า, รถที่ขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษ, และลูกค้ารถเช่า
-
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจะทำการแจ้งผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ
-
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อผู้จำหน่าย Kia ใกล้ท่าน หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์https://www.kia.com/th
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท เตรียมลงสนามศึก เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 ด้วยรถแข่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ รวม 3 คัน พร้อมแสดงสมรรถนะเหนือระดับของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ประกาศเปิดตัวกองทัพนักแข่ง ส่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคนิคจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ลงแข่งขันสู้ศึก เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 หรือ หรือ เอเอ็กซ์ซีอาร์ 2025 (AXCR 2025) ด้วยรถแข่งมิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ จำนวน 3 คัน โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 8 – 16 สิงหาคมนี้
การแข่งขัน AXCR ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันที่มีระยะเวลา 6 วัน ครอบคลุมระยะทางราว 2,000 กิโลเมตร ขณะที่ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 30 ของการแข่งขัน ได้ขยายระยะเวลาเพิ่มเป็น 8 วัน รวมระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตร ยกระดับความท้าทายให้กับนักแข่งมากยิ่งขึ้น ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ตั้งเป้าทวงคืนตำแหน่งแชมป์จากการแข่งขันแบบรวมทุกประเภท (Overall) อีกครั้ง หลังจากชัยชนะเมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมา โดยเตรียมส่ง รถแข่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ได้รับการปรับแต่งสมรรถนะให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ทั้งด้านความทนทานของเครื่องยนต์และการพัฒนาแชสซีส์ เพื่อรองรับสภาพเส้นทางสุดโหด และยกระดับสมรรถนะในการควบคุมรถให้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม
เว็บไซต์ AXCR:
https://www.mitsubishi-motors.com/jp/brand/ralliart/axcr/axcr2025/ช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของ มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท
แอปพลิเคชัน X: https://x.com/ralliart_jp
แอปพลิเคชัน Instagram: https://www.instagram.com/ralliart.official/ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท นำโดย มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท รับหน้าที่บริหารทีม พร้อมด้วย บริษัท ทันท์ สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับวิศวกรของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งรับหน้าที่พัฒนาและปรับแต่งรถแข่ง พร้อมลงพื้นที่ร่วมเดินทางไปกับทีมเพื่อให้การสนับสนุนด้านเทคนิคตลอดการแข่งขัน
สำหรับนักแข่งและผู้นำทาง ยังคงเป็น “ชยพล โยธา” และ “พีรพงษ์ สมบัติวงศ์” คู่หูชาวไทยเจ้าของแชมป์ AXCR 2022 พร้อมด้วย 2 นักแข่งคู่หูจากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ “คัตสึฮิโกะ ทากูชิ” และ “ทาคาฮิโระ ยาสุอิ” ผู้คว้าอันดับ 5 ในปี 2024 และ “คาสุโตะ โคอิเดะ” กับ “เออิจิ ชิบะ” ที่เปิดตัวด้วยผลงานแกร่งเมื่อปีที่ผ่านมา
สำหรับปีนี้ “ชยพล โยธา” และ “คัตสึฮิโกะ ทากูชิ” จะลงแข่งขันเพื่อชิงชัยในการแข่งขันประเภทโอเวอร์ออล (Overall) โดยใช้รถแข่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์ ที่ได้รับการอัปเกรดจากสเปกของปีที่แล้ว ในขณะที่ “คาสุโตะ โคอิเดะ” พนักงานและนักขับทดสอบของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะลงแข่งขันด้วยรถที่ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติซึ่งได้รับการปรับจูนให้เหมาะสมกับการแข่งขันโดยเฉพาะ พร้อมทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลเชิงเทคนิค เพื่อใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์รุ่นที่จะผลิตจริงในอนาคต และสนับสนุนสมาชิกในทีมคนอื่นๆ
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ได้จัดการทดสอบสมรรถนะและความทนทานอย่างหนัก รอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อจำลองสภาพเส้นทางการแข่งขันจริง โดยมีการปรับแต่งระบบช่วงล่างและชิ้นส่วนแชสซีส์อื่นๆ ควบคู่กับการตรวจสอบความทนทานของเครื่องยนต์และตัวถัง เพื่อเตรียมความพร้อมสูงสุดสำหรับการแข่งขันจริงที่กำลังจะมาถึง
“ปีนี้จะเป็นปีที่ 3 ที่เราลงแข่งขันด้วยรถไทรทันรุ่นใหม่” มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท กล่าว “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยมในหลากหลายสภาพการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็วบนเส้นทางความเร็วสูง การควบคุมบนเส้นทางที่ต้องใช้เทคนิคการขับขี่โดยเฉพาะ และการลุยบนสภาพถนนที่ท้าทาย เช่น โคลนและลำธาร ปีนี้เราได้เพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์ ปรับปรุงความทนทาน และปรับแต่งแชสซีส์ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นรถที่พร้อมคว้าชัยชนะอย่างแท้จริง ทีมของเรามีความแข็งแกร่งทั้งในด้านประสบการณ์และความเป็นหนึ่งเดียวมากกว่าที่เคย และเราก็อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดในการทวงแชมป์กลับคืนมาในรอบ 3 ปี ดังนั้น ผมจึงอยากขอให้ทุกคนร่วมติดตามเชียร์กันด้วยนะครับ พวกเราเชื่อมั่นว่าปีนี้จะมีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอนครับ”
ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท
ผู้อำนวยการทีม: ฮิโรชิ มาซูโอกะ (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส)
เจ้าของทีม: ชยุส ยังพิชิต (ทันท์ สปอร์ต)
ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค: ก่อพงษ์ อมาตยกุล (ทันท์ สปอร์ต)
ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค (ตัวถังและแชสซีส์): โนริโยชิ ไอบะ (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส)
ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค (เครื่องยนต์): เท็ตสึยะ มาคิตะ และ มาซาทากะ ซุยกิ (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส)นักแข่งและผู้นำทาง
ชยพล โยธา
ตัวแทนจาก: จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
เกิด: 16 สิงหาคม 2530 (อายุ 37 ปี)
ประวัติการแข่งขัน: ชยพล คร่ำหวอดในการแข่งขันแรลลี่และมอเตอร์สปอร์ตหลายรายการในประเทศไทย และเป็นผู้นำทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท คว้าแชมป์จากการแข่งขันเอเอ็กซ์ซีอาร์ครั้งแรกได้สำเร็จ
เมื่อปี 2022
ผู้นำทาง: พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ (ประเทศไทย)คัตสึฮิโกะ ทากูชิ
ตัวแทนจาก: จังหวัดโอคายาม่า ประเทศญี่ปุ่น
เกิด: 7 กุมภาพันธ์ 2515 (อายุ 53 ปี)
ประวัติการแข่งขัน: นักแข่งแรลลี่ระดับนานาชาติ ผู้คว้าแชมป์รายการ FIA Asia-Pacific Rally Championship ได้ถึง 2 สมัย โดยในการแข่งขัน AXCR 2024 เขาคว้าอันดับที่ 5 มาครอง และในปีนี้ถือเป็นการลงแข่งขัน AXCR ครั้งที่ 3 ของเขา ซึ่งตั้งเป้าว่าจะคว้าแชมป์จากการแข่งขันประเภทโอเวอร์ออล (Overall) ให้ได้
ผู้นำทาง: ทาคาฮิโระ ยาสุอิ (ประเทศญี่ปุ่น)คาสุโตะ โคอิเดะ
ตัวแทนจาก: จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น
เกิด: 19 มิถุนายน 2522 (อายุ 46 ปี)
ประวัติการแข่งขัน: คาสุโตะ โคอิเดะ เข้าทำงานกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในเดือนเมษายน 2541 ในฐานะนักทดสอบรถยนต์ จึงมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญการขับรถยนต์มากมาย อาทิ มิตซูบิชิ ปาเจโร และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ปัจจุบันเขายังเป็นผู้ฝึกสอนทักษะการขับขี่ให้แก่พนักงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมทั้งยังเป็นผู้สาธิตการขับขี่ในงานกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น เขาลงแข่งขัน AXCR เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา และสามารถเข้าเส้นชัยพร้อมทำหน้าที่สนับสนุนเพื่อนร่วมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม
ผู้นำทาง: เออิจิ ชิบะ (ประเทศญี่ปุ่น)ข้อมูลทางเทคนิคของรถ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่คาร์
รถของ ชยพล โยธา/พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ รถของ คัตสึฮิโกะ ทากูชิ/ทาคาฮิโระ ยาสุอิ
รถของ คาสุโตะ โคอิเดะ/เออิจิ ชิบะ มิติตัวถัง ยาว x กว้าง 5,070 มม. x 1,995 มม. 5,070 มม. x 1,865 มม. ระยะฐานล้อ 3,130 มม. ความกว้างช่วงล้อ (หน้า/หลัง) 1,730 มม. 1,570 มม. เครื่องยนต์ 4N16 (เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์) ระบบหัวฉีด หัวฉีดแรงดันสูง คอมมอนเรล ความจุกระบอกสูบ 2,439 ซีซี เทอร์โบชาร์จ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ เอนจิ้น แอนด์ เทอร์โบชาร์จเจอร์ เทอร์โบแปรผัน VG Turbo
กำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ หรือมากกว่า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร หรือมากกว่า ระบบท่อไอเสีย HKS AXCR สำหรับการแข่งขัน ระบบส่งกำลัง เกียร์ซีเควนเชียลแบบ 6 สปีด น้ำมันเกียร์ Moty’s
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูลไทม์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
Super Select 4WD-IIเฟืองท้าย CUSCO LSD หน้าและหลัง ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง ระบบกันสะเทือนหลัง คอยล์สปริงแบบ Rigid 4 link โช้คอัพ CUSCO โช้คอัพคู่ปรับระดับได้ทั้งหน้าและหลัง ชุดกันกระแทก ไฮโดรลิก ระบบบังคับเลี้ยว แรคแอนด์พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง ระบบเบรก ผ้าเบรก ดิสก์ระบายความร้อน และคาลิปเปอร์เบรกแบบชิ้นเดียว จาก ENDLESS
น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขันจาก FORTECล้อ ล้ออลูมินั่มอัลลอยจาก WORK (ขนาด 17 นิ้ว x 7J) ยาง YOKOHAMA GEOLANDAR M/T G003 (245/75R17) ฟีเจอร์อื่น ๆ · ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ · ซุ้มล้อหน้าคาร์บอนไฟเบอร์
· แผงข้างประตูหน้าและหลังคาร์บอนไฟเบอร์
· กระบะท้ายคาร์บอนไฟเบอร์
· ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ · แผงข้างประตูหน้าและหลังคาร์บอนไฟเบอร์
· กระบะท้ายคาร์บอนไฟเบอร์
บริษัทที่ร่วมให้การสนับสนุน (เรียงตามลำดับตัวอักษร ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568)
ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท จะเข้าร่วมการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตร ดังนี้
พันธมิตร การสนับสนุน CARROSSER Co., Ltd. สนับสนุนการพัฒนาระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง พร้อมเฟืองท้าย LSD รวมถึงระบบกันโคลง CARRY ART LLC สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขัน ENDLESS ADVANCE Co., Ltd. สนับสนุนคาลิปเปอร์เบรก ดิสก์เบรก และผ้าเบรก ENEOS Corporation สนับสนุนน้ำมันเครื่อง Fortec Motorsport Ltd สนับสนุนน้ำยาหล่อเย็น น้ำมันเบรกสำหรับการแข่งขัน HANKYU HANSHIN EXPRESS Co., Ltd. สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขัน HKS Co., Ltd. สนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับเครื่องยนต์รถแข่งแรลลี่ Mitsubishi Heavy Industries Engine & Turbocharger, Ltd. สนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับเทอร์โบชาร์จ Mitsubishi Motors Dealers Association สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขัน TPR Co., Ltd. สนับสนุนแหวนลูกสูบ และการเข้าร่วมแข่งขัน TriboJapan Co., Ltd. สนับสนุนน้ำมันเกียร์ Work Co., Ltd. สนับสนุนล้ออลูมินัมอัลลอยจาก (CRAG T-GRABIC II) The Yokohama Rubber Co., Ltd. สนับสนุนยาง GEOLANDAR M/T G003 เกี่ยวกับการแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025
เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ (AXCR) เป็นการแข่งขันแรลลี่ข้ามประเทศรายการใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 30 ของการแข่งขัน พิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม ณ เมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญริมชายฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย จากนั้น การแข่งขันจะดำเนินไปทั่วภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย และจะกลับมาสิ้นสุดเส้นทางที่เมืองพัทยาอีกครั้งในวันที่ 16 สิงหาคม 2568
ระยะทางการแข่งขันในปีนี้ได้ถูกเพิ่มไปอีกประมาณ 500 กิโลเมตรจากปีที่ผ่านมา รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 2,500 กิโลเมตร โดยเส้นทางจะเต็มไปด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศ ทั้งภูเขาสูง ป่าทึบ และทางข้ามแม่น้ำ ซึ่งนับเป็นบททดสอบที่ท้าทายมากกว่าเดิม ทั้งในด้านสมรรถนะการควบคุมรถบนถนน และความแข็งแกร่งทนทานของตัวรถ เนื่องจากการแข่งขันในปีนี้จะจัดขึ้นตลอดระยะเวลา 8 วันติดต่อกัน
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ AXCR2025:
https://asiacrosscountryrally.com/index_ja.html*ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะผู้จัดการแข่งขันได้ออกประกาศ เนื่องจากปัญหาการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา การแข่งขันในปีนี้จึงจะจัดขึ้นภายในประเทศไทยทั้งหมด โดยรายละเอียดเส้นทางที่ปรับเปลี่ยนใหม่จะมีการประกาศเพิ่มเติมในภายหลัง
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
สแกนเนีย เผยเบื้องหลัง 2 หัวใจหลักธุรกิจขนส่ง รถประสิทธิภาพสูง-นักขับมีคุณภาพล่าสุดเปิดความสำเร็จ Scania Driver Training สร้างนักขับรถคุณภาพลงถนนแล้วกว่า 45,000 คน เน้นขับถูกวิธี ปลอดภัย ใช้รถเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อผู้ใช้ถนน
นายอำนาจ ทองทัย ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมและที่ปรึกษาด้านการขับขี่ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะและประสิทธิภาพการขับขี่ของผู้ขับรถบรรทุกและรถขนส่งเชิงพาณิชย์ว่า หากมองถึงเบื้องหลังธุรกิจขนส่งที่ประสบความสำเร็จจะพบว่า 2 หัวใจหลักสำคัญประกอบด้วย ประสิทธิภาพของรถที่ใช้ในธุรกิจ ที่ต้องมีความพร้อมในทุกสถานการณ์ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่และใช้งานทั้งกำลังเครื่องยนต์ การประหยัดน้ำมัน ความทนทาน ความปลอดภัย การลดการเกินอุบัติเหตุและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง สแกนเนีย เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกส่วนและทุกรายละเอียดจนเป็นที่ยอมรับมากว่า 100 ปี สำหรับอีกหัวใจที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ นักขับรถที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่พนักงานขับรถเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้และทักษะทั้งในด้านการขับขี่ การดูแลรักษารถ การตรวจเช็คและการแก้ปัญหาเบื้องต้น รู้จักฟังก์ชันและเทคโนโลยีของรถ มีการขับขี่อย่างถูกวิธี เพื่อดึงเอาความสามารถของรถออกมาใช้ให้ได้มากสูงสุด
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพัฒนาทักษะและสร้างนักขับรถคุณภาพมืออาชีพสู่ธุรกิจขนส่ง สแกนเนีย จึงออกแบบบริการ Scania Driver Training ขึ้น โดยมีบทบาทหน้าที่ตั้งแต่ก่อนการขายอย่างการทดสอบรถกับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถร้องขอรถทดสอบสแกนเนีย นำไปขนส่งสินค้าที่ใช้ดำเนินธุรกิจจริง บนเส้นทางจริง ในราชอาณาจักไทย เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ประกอบการตัดสินใจซื้อ นอกจากนั้น บริการจาก Scania Driver Training ยังดูแลการส่งมอบรถอย่างมืออาชีพถึงมือลูกค้า พร้อมให้คำแนะนำอธิบายาเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวรถ อุปกรณ์ งานบริการต่างๆ ของสแกนเนีย และหลังจากการรับรถแล้ว ลูกค้าสามารถเข้าฝึกอบรมการใช้งานรถโดยละเอียดได้ เพื่อให้ใช้งานรถสแกนเนียอย่างถูกต้อง ปลอดภัย พร้อมเทคนิคเกี่ยวกับรถสแกนเนีย ให้สามารถใช้ศักยภาพของรถสแกนเนียได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับ Scania Driver Training ประเทศไทยนั้น ได้สร้างนักขับรถคุณภาพมาแล้วกว่า 45,000 คน ตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี ปัจจุบันการอบรมนักขับรถคุณภาพยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ รวมถึงการอบรมนอกสถานที่ทำให้มีนักขับรถคุณภาพที่ผ่านการอบรมฯ ปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน
การอบรมพื้นฐานสำหรับลูกค้าสแกนเนียที่จัดขึ้นประจำทุกสัปดาห์จะมีเนื้อหาจะเริ่มตั้งแต่การปูพื้นสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับรถและระบบต่างๆ รวมไปถึงการดูแลรักษารถเบื้องต้น การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และเทคโนโลยี ระบบต่างๆ ของรถสแกนเนีย รวมถึงเทคนิคการขับขี่รถสแกนเนียอย่างเหมาะสมในหลากหลายลักษณะ การขับขี่ประหยัดน้ำมัน การขับขี่ปลอดภัย การแก้ปัญหาเบื้องต้น อีกทั้งยังมุ่งเน้นเรื่องมารยาทและจริยธรรมในการขับรถเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ร่วมเดินทางบนท้องถนน โดยนักขับที่ผ่านการอบรมและทดสอบจะได้รับ Scania Driver Training Certificate นอกจากการสอนแบบเจอหน้ากันแล้ว ยังมีช่อง YouTube – Scania Thailand Group ที่ทุกคนสามารถเข้าไปดูเกร็ดความรู้การขับขี่รถสแกนเนียได้ด้วย สำหรับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกค้าสแกนเนีย จะมีมูลค่า 6 พันบาทต่อคนต่อ 1 คอร์ส
บริการ Scania Driver Training ยังครอบคลุมไปถึงหลังการขาย เมื่อลูกค้าใช้งานไปแล้ว พบว่าประสิทธิภาพการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ไม่ดีเหมือนเคย หรือ มีการเปลี่ยนสินค้า เส้นทางวิ่งงานใหม่ สแกนเนียก็มีผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาการขับขี่รถสแกนเนียให้ลูกค้า ซึ่งจะมีการนำข้อมูลรถมาวิเคราะห์ และปรับการใช้รถสแกนเนียให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพต่อไป
นอกจากประสิทธิภาพการใช้งานในเชิงธุรกิจแล้ว สแกนเนียยังใส่ใจ มุ่งมั่นขับเคลื่อนแนวคิดเกี่ยวกับการขนส่งอย่างยั่งยืน สร้างความตระหนักรู้ว่านักขับทุกท่านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบัน รถสแกนเนียที่ขายได้ปรับเป็นพลังงานยูโร 5 ทั้งหมดแล้ว รวมถึงการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพกว่า ปล่อยมลพิษน้อยกว่า ประหยัดต้นทุน พร้อมกับการรักษ์โลก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
NEX POINT ชูศักยภาพบริการหลังการขาย คือ รากฐานสำคัญ พัฒนาทักษะทีมช่างเน้นความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้ากรณีเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อเร็วๆ นี้ ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย โดย อาจารย์ธีระพล วงศ์เลิศพิชิต ที่ปรึกษาฝ่ายบริการหลังการขาย จัดอบรมหัวข้อ “การจัดการความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ (EV Accident Response and Safety Protocols) ได้รับเกียรติจากวิทยากร ดร.วิชญ์พล โมทนียชาติ ผู้จัดการแผนกวิศวกรรมโครงการพิเศษ ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ และวางแผนการลงทุน บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และ ทีมวิศวกรโรงงานประกอบ AAB ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค และได้การสนับสนุนจากโรงงาน Amita ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม มาช่วยเสริมศักยภาพความพร้อมด้านความปลอดภัยแก่ตัวแทนผู้จำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ NEX POINT ทั่วประเทศ, ทีมช่างมืออาชีพที่ให้บริการฉุกเฉิน (Roadside Assistance) และผู้ประกอบการศูนย์ซ่อมสีและตัวถังฯ และเตรียมความพร้อมบริหารจัดความปลอดภัยด้านยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้ง มาตรการรับมือการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทีมช่างผู้ปฏิบัติงาน ผู้เกิดอุบัติเหตุ และผู้ร่วมใช้รถบนท้องถนน
การอบรมครั้ง เพื่อต้องการสร้างความมั่นใจ และมัดใจลูกค้า NEX ทั่วประเทศ ด้วยเนื้อหาหลักในการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยสามารถนำไปปฏับัติงานได้จริง และส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย ได้แก่ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลให้บริการฉุกเฉินและศูนย์ซ่อมช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุยานยนต์ไฟฟ้า, เพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเหลือฉุกเฉินแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยลดความเสียหายและป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ถนน, สนับสนุนการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ช่วยให้ภาคธุรกิจปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยมากขึ้น, ส่งเสริมการเติบโตและการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า สร้างความมั่นใจในการจัดการอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพแก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ และการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดอันตรายจากไฟไหม้แบตเตอรี่หรือสารเคมีรั่วไหล ส่งเสริมการใช้งาน EV อย่างยั่งยืน
ที่สำคัญ ในการอบรมครั้งนี้ NEX ได้มอบใบรับรอง (Certificate) การจัดการความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เป็นเอกสารที่แสดงว่าผู้เข้ารับการอบรมนั้นมีความรู้ และทักษะในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่จะส่งผลดีกับงานทางด้าน “บริการหลังการขาย” ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญที่ NEX พร้อมจะดูแลผู้จำหน่าย และลูกค้าอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เสมือนเป็นมิตรแท้ทางธุรกิจที่อยู่เคียงข้างเสมอไป NEX POINT ทางเลือกที่ “คุ้มค่าที่สุด” สำหรับ “ผู้ประกอบการยุคใหม่” เพราะนี่คือ โลจิสติกส์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
PT Maxnitron Racing Series 2025 เปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ ดึงดูดนักแข่งไทยและต่างชาติคับคั่ง
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ PT Maxnitron Racing Series 2025 เปิดฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ โดยการตอบรับดีเยี่ยมในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยและระดับภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของจากนักแข่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บรรยากาศตลอด 2 วัน ของการแข่งขันเต็มไปด้วยความเร้าใจและสีสัน จากจำนวนรถที่เข้าร่วมหลากหลายรุ่น และการขับเคี่ยวที่เข้มข้น โดยประเดิมสนาม 1 – 2 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
PT Maxnitron Racing Series ยังคงมุ่งมั่น และยกระดับมาตรฐานการแข่งขันและส่งเสริมวงการมอเตอร์สปอร์ตในทุกปี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากพันธมิตรหลัก ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG), น้ำมันเครื่อง PT Maxnitron, ศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ครบวงจรออโต้แบคส์ (Autobacs), กาแฟพันธุ์ไทย, Subway, Kela, Yokohama, Nexzter, KG Solar, FBT, Max Wash, Wise, BK Clutch, BRD, และ S63 Project นอกจากนี้ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ยังให้การสนับสนุนรถ Safety Car และจัดกิจกรรมพิเศษอย่าง Ford Test Drive ให้ผู้สนใจได้ทดลองขับรถ Ford ในรูปแบบ จิมคาน่า (Gymkhana) เพื่อโชว์สมรรถนะของรถอย่างใกล้ชิด นับเป็นครั้งแรกของกิจกรรมในรูปแบบดังกล่าว และยังได้รับความร่วมมือจาก Media Partner ได้แก่ Mono29 , Monomax , Sports1 และ TV Pool สื่อประชาสัมพันธ์ในการเผยแพร่กิจกรรมไปสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง สำหรับความพิเศษชองการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ PT Maxnitron Racing Series 2025 ยังคงมีกิจกรรม Support Race จาก Honda City Hatchback One Make Race โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสันในสนามแข่งขัน รวมถึง Club Race จาก Honda Club, Special Racing Club และ TTR Academy Club ซึ่งเป็นรายการที่เหมาะสำหรับนักแข่งมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างเป็นระบบ โดยมีมาตรฐานการแข่งขันที่ชัดเจน และถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันและพัฒนานักแข่งรุ่นใหม่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย
สำหรับรายการ PT Maxnitron Racing Series 2025 ซึ่งจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 7 – 8 มิถุนายน 2568 มีการแข่งขันทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่
- Siam GT
- Siam Truck
- Siam 1500 Group A
- Siam Group N
- Siam Eco
การแข่งขันโดยเฉพาะรุ่น Siam Eco และ Siam Group N ได้สร้างสีสันและความเร้าใจอย่างมากจากจำนวนรถที่เข้าร่วมแข่งขัน ทำให้เป็นที่จับตาเป็นอย่างยิ่ง และเพื่อยกระดับความมันส์ ในสนามที่ 3 – 5 จะมีการปรับแผนการแข่งขันครั้งสำคัญ ด้วยการแยกการแข่งขันรุ่น Siam Eco และ Siam Group N อย่างเป็นทางการ และขยายเวลาการแข่งขันไปจนถึงช่วงค่ำในรูปแบบ “Twilight Race” ซึ่งจะเพิ่มประสบการณ์ความตื่นเต้นและเร้าใจยิ่งกว่าเดิม
เตรียมระเบิดความมันกับการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2025 สนามที่ 3 – 5 ระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ ก่อนจะปิดท้ายฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่กับสนาม 6 – 7 ในรายการ PT Songkhla Grand Prix 2025 ระหว่างวันที่ 16 – 19 ตุลาคม 2568 ณ พีที สงขลา กรังด์ปรีซ์ จ. สงขลา พบกับกิจกรรมความบันเทิงแบบจัดเต็มตลอดทั้งงาน อาทิ Songkhla Balance Bike, Slum Fight และของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Achi Giorno PTRS Edition 2025” ที่ยังคงเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ร่วมลุ้นเป็นเจ้าของได้เช่นเคย โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสด และติดตามได้ที่
Facebook: www.facebook.com/ptmaxnitronmotorsport
Instagram: /www.instagram.com/pt.maxnitron.motorsport
YouTube: www.youtube.com/@ptmaxnitronmotorsport87สำหรับผลการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2025 สนามที่ 1 – 2 มีดังนี้
ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการในแต่ละรุ่น (อันดับที่ 1–3)
RACE 1 วันที่ 7 มิถุนายน 2568
- Siam GT (Pro Class 1/2)
- พรรณภัทร พรรณทรัพย์ – หมายเลข 32 / R-Addict NTX Team
- CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team By ISM
- TIM ZIELINSKI – หมายเลข 12 / Rolling Monkey By AP Motorsport
- Siam GT (Pro Class 2)
- CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team By ISM
- TIM ZIELINSKI – หมายเลข 12 / Rolling Monkey By AP Motorsport
- จิตรประพันธ์ แป้นนาบอน – หมายเลข 95 / Phuket Kart Racing Team
- Siam GT (Amateur)
- เมธัส สวนศรี – หมายเลข 54 / Nexzter Rest Club
- วุฒา ใจสำราญ – หมายเลข 35 / Boxzaracing Motorsport Team
- กรเศก โคร์นิน – หมายเลข 78 / Wtech X Garage My Home By ///RPM Motorsport
- Siam Truck (Pro A/B)
- ธณพล ชูเจริญผล – หมายเลข 15 / ชาบูเถ้าแก่น้อย CNC รักกัญ By ฮู๊ดอ๋องระยอง
- บัณฑิต ลัดดาแย้ม – หมายเลข 91 / Fortron Racing Team
- ดนุวัศ วรกิติไชย – หมายเลข 45 / Zictunebyaot-Bendixsrt-BRD-Venomracinr
- Siam Truck (Pro B)
- ณัฐวุฒิ พึ่งพรหม – หมายเลข 5 / ทีมอาร์กการยางค์เกาะโพธิ์ชลบุรี
- ศรัณญู อ่อนใจเอื้อ – หมายเลข 54 / น้ำมันเครื่องโวโทรนิค อภิชาตฟาร์ม ชาบูเถ้าแก่บิ๊ก เจ๊เอ๋สั่งลุย By อู่ช่างวัฒน์
- อนุวัฒน์ มณีอินทร์ – หมายเลข 95 / Isuzu Suphan Yokohama Lioui Moly Racing
- Siam Truck (Amateur)
- กิตติศักดิ์ ชาตะพันธ์วิทยา – หมายเลข 52 / W-Tech Racing Team By Veloil
- พิชัย เจียงวิลาวัณย์ – หมายเลข 97 / BKC Motorsport
- พลกฤต แซ่เฮ้ง – หมายเลข 74 / Zictunebyaot-Bendixsrt-BRC-Venomracing
- Siam 1500 Group A (Overall)
- ชานน อัศวสังสิทธิ – หมายเลข 39 / IMC Motorsport By MRA
- ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
- อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ – หมายเลข 7 / YK Motorsport
- Siam 1500 Group A (Pro A/B)
- ชานน อัศวสังสิทธิ – หมายเลข 39 / IMC Motorsport By MRA
- ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
- อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ – หมายเลข 7 / YK Motorsport
- Siam 1500 Group A (Amateur)
- KENNETH HO – หมายเลข 22 / Team Supersonic By Rongpo Power Unit
- ฤทธิรงค์ บริหารธนานนท์ – หมายเลข 15 / Nailfie Studio บ้านเรือเล็ก สุกี้อินเลิฟ Wise The Hub
- ALEXANDER VM. – หมายเลข 93 / Fortron Racing Team
- Siam Group N (Overall)
- ณัฐฐวุฒิ ปลื้มดวง – หมายเลข 71 / Fast-Store
- นันทพันธ์ สิริสริตธรากุล – หมายเลข 32 / Wolver By Onlyyone
- Enzo Ng – หมายเลข 89 / Ndeo Racing
- Siam Group N (Pro A/B)
- ณัฐฐวุฒิ ปลื้มดวง – หมายเลข 71 / Fast-Store
- วงศพัทธ์ เกตุศิริ – หมายเลข 62 / Idemitsu Racing Teamยังไม่เพียงเท่านั่น Thailand By AP X BLC
- นิธิวัชร์ ทิพยทัศน์ – หมายเลข 78 / DC Garage With Kuroki Racing
- Siam Group N (Amateur)
- กรณ์ดนัย อมรศักดิ์วรกุล / หมายเลข 32 / Wolver By Onlyone
- ENZO NG – หมายเลข 89 / Ndeo Racing
- นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร – หมายเลข 90 / PT Maxnitron X Wise BRD Nexzter Venom By Pongpo Power Unit
- Siam Eco (Overall)
- เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
- บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / Nj Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
- รภัทกร วงษ์ศิริ – หมายเลข 87 / ฮอนด้าบางเขน Motul Thailand By Souad Racing Team
- Siam Eco (Pro A/B)
- เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
- ตรีภพ ศิริปุณย์ – หมายเลข 91 / Wise – Nexzter – 9Progress – อาไหลดี By อู่ลุงหนวด
- EITAN ZIDKILOV – หมายเลข 81 / Insane Motorsport By Zic
- Siam Eco (Amateur)
- บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / NJ Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
- รภัทกร วงษ์ศิริ – หมายเลข 87 / ฮอนด้าบางเขน Motul Thailand By Souad Racing Team
- พิศาล สาสะกุล – หมายเลข 65 / Caltex Racing Team Thailand By KTN
ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการในแต่ละรุ่น (อันดับที่ 1–3)
RACE 2 วันที่ 8 มิถุนายน 2568
- Siam GT PRO CLASS 1/2
- พรรณภัทร พรรณทรัพย์ – หมายเลข 32 / R-Addict NTX team
- CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team by ISM
- JAMES RUNACRES – หมายเลข 17 / PT Autobacs Rotary Revolution Team Thailand
- Siam GT PRO CLASS 2
- CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team by ISM
- TIM ZIELINSKI – หมายเลข 12 / Rolling Monkey By Ap Motorsport
- จิตรประพันธ์ แป้นนาบอน – หมายเลข 95 / PHUKET KART RACING TEAM
- Siam GT (Amateur)
- ธนกร ชัยภิรมย์ศรี – หมายเลข 45 / Rotary Revolution Thunder Slide On
- วุฒา ใจสำราญ – หมายเลข 35 / BoxzaRacing Motorsport Team
- Siam Truck Pro (A/B)
- บัณฑิต ลัดดาแย้ม- หมายเลข 91 /Fortron Racing Team By อู๊ด&อ๋อง ระยอง
- ณัฐวุฒิ พึ่งพรหม – หมายเลข 5 / ทีมอาร์ทการยางเกาะโพธิ์ชลบุรี
- อนุวัฒน์ มณีอินทร์ – หมายเลข 95 / ISUZU SUPHAN YOKOHAMA LIQUI MOLY RACING
- Siam Truck Pro (B)
- ณัฐวุฒิ พึ่งพรหม – หมายเลข 5 / ทีมอาร์ทการยางเกาะโพธิ์ชลบุรี
- อนุวัฒน์ มณีอินทร์ – หมายเลข 95 / ISUZU SUPHAN YOKOHAMA LIQUI MOLY RACING
- สุวัฒน์ ลิ้มจิรภิญญา – หมายเลข 59 / ISUZU SUPHAN YOKOHAMA LIQUI MOLY RACING
- Siam Truck (Amateur)
- วุฒิภัทร คงกฤติพงศ์ – หมายเลข 98 / รวมช่างเชียงกง 98Autooption HomeDreamDesign รับสร้างบ้าน นิติโรจน์ฟิตชิ่ง NTP เนี๊ยบรีเเมพ
- รุสตา มะลี – หมายเลข 84 / บังต้า จัดหนัก OSUKA OMC เบิร์ดเหม่งโปรการาจ
- พิชัย เจียงวิลาวัณย์ – หมายเลข 97 / BKC MOTORSPORT
- Siam 1500 Group A (Overall)
- ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
- ภูเมธา เพชรบดี – หมายเลข 86 / Tornto R Motorsport by Totachi
- กัณฐณัฎฐ์ ศักดิ์แพทย์ – หมายเลข 37 | Tuned by EAK Team
- Siam 1500 Group A Pro (A/B)
- ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
- โชติธนินท์ ไชยกิตติลักษณ์ – หมายเลข 66 / Nexzter X RMR Motorsport BY ร่มไม้ริมนา
- เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ – หมายเลข 16 / Nexzter & Mobil1 by GJmotorsport
- Siam 1500 Group A (Amateur)
- ภูเมธา เพชรบดี – หมายเลข 86 | Tornto R Motorsport by Totachi
- กัณฐณัฎฐ์ ศักดิ์แพทย์ – หมายเลข 37 | Tuned by EAK Team
- ฤทธิรงค์ บริหารธนานนท์ – หมายเลข 15 / Nailfie Studio บ้านเรือเล็ก สุกี้อินเลิฟ Wise The Hub
- Siam Group N (Overall)
- วงศพัทธ์ เกตุศิริ – หมายเลข 62 / Idemitsu Racing Tean Thailand By AP X BLC
- นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร – หมายเลข 90 / PT Maxnitron X Wise BRD Nexzter Venom By Pongpo Power Unit
- จตุพล ธารเลืองทอง – หมายเลข 10 / BK Clutch./Voltronic./ Bast Motorsport
- Siam Group N Pro (A/B)
- วงศพัทธ์ เกตุศิริ – หมายเลข 62 / Idemitsu Racing Team Thailand by AP x BKC Team
- จตุพล ธารเลืองทอง – หมายเลข 10 / BK Clutch./Voltronic./ Bast Motorsport
- ยศรัญ แสนสุข – หมายเลข 88 / DC Garage With Kuroki Racing
- Siam Group N (Amateur)
- นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร – หมายเลข 90 / PT Maxnitron X Wise BRD Nexzter Venom By Pongpo Power Unit
- ฐนันธร เพ็งอ้น – หมายเลข 24 / P1 Automotive S63 Nexzter Motul BK Clutch By Babyboss Garage
- ENZO NG – หมายเลข 89 / NDEO Racing
- Siam Eco Pro (Overall)
- บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / NJ Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
- เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
- ตรีภพ ศิริปุณย์ – หมายเลข 91 / Wise – Nexzter – 9Progress – อาไหลดี By อู่ลุงหนวด
- Siam Eco Pro (A/B)
- เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
- ตรีภพ ศิริปุณย์ – หมายเลข 91 / Wise – Nexzter – 9Progress – อาไหลดี By อู่ลุงหนวด
- โชคชัย จารุนงคราญ – หมายเลข 35 / BKC Motorsport
- Siam Eco (Amateur)
- บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / NJ Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
- ก้องเกียรติ ทรัพย์ศิริอยู่คง – หมายเลข 45 / Topnotch Glass กระจกรถยนต์ X Autopainting by keng
- กิตติศักดิ์ เสียงสลัก – หมายเลข 3 / BKC Motorsport
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน ผ่านกิจกรรม “เด็กไทย ใฝ่ดี” เพื่อส่งเสริมแนวคิด ‘‘TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน’’
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธาน ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้แก่เยาวชนไทย ภายใต้โครงการ “เด็กไทย ใฝ่ดี” พร้อมสนับสนุนและบริจาคสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งเสริมแนวคิด “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน’’ อย่างเป็นรูปธรรม ในการส่งมอบโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทย เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 ณ โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
โครงการ “เด็กไทย ใฝ่ดี” ดำเนินโครงการโดยคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสืบสานพระราชปณิธาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งเน้นพัฒนาเยาวชนไทยให้เติบโตเป็นคนดีของสังคม ด้วยการเสริมสร้างคุณธรรมพื้นฐาน 5 ประการ ได้แก่ ความพอเพียง วินัย ความซื่อสัตย์สุจริต จิตอาสา และความกตัญญู โดยมีเป้าหมายให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกันทางใจ รู้เท่าทัน และมีแนวทางดำเนินชีวิตที่เหมาะสม เพื่อวางรากฐานสังคมที่เข้มแข็ง
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เด็กไทย ใฝ่ดี” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย ผ่านการให้ความรู้และมอบอุปกรณ์การเรียนแก่เยาวชนจำนวน 150 คน ผ่านกิจกรรม “5 ฐานคุณธรรม” ดังนี้
1. ฐานความพอเพียง : เสริมความรู้ด้านการเงิน ออมเป็น เห็นเงินล้าน
โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
2. ฐานความซื่อสัตย์ สุจริต : ปรับพฤติกรรม ช่างเลือก เลือกเป็น
โดย ทีมวิทยากร คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
3. ฐานจิตอาสา : ปฏิบัติการกู้ชีพ
โดย ทีมวิทยากร คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
4. ฐานวินัย : วินัย น้ำใจ
โดย โครงการถนนสีขาว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
5. ฐานกตัญญู : รักชาติ ศาสนา กษัตริย์
โดย ทีมวิทยากร คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
โดยฐานวินัย ภายใต้โครงการถนนสีขาว ซึ่งเป็นหนึ่งใน “5 ฐานคุณธรรม” มุ่งให้ความรู้แก่เยาวชนและ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้เครื่องจำลองการขับขี่ที่ออกแบบสถานการณ์เสมือนจริง ผ่าน 3 รูปแบบ ได้แก่ การขับรถเร็ว การขับตัดหน้า และการเมาแล้วขับ เพื่อให้เยาวชนผู้เข้าอบรมตระหนักรู้ถึงอันตราย พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
พร้อมกันนี้ มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ได้ร่วมมอบสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสารจากโรงสีข้าวรัชมงคล จำนวน 450 กิโลกรัม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลแม่สอด และเรือนจำอำเภอแม่สอด ภายใต้เป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตามแนวพระราชปณิธาน
โตโยต้า มุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งมอบโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิต ภายใต้แนวคิด “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน” ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญขององค์กร ที่มุ่งสร้างความเท่าเทียมด้านความเป็นอยู่และโอกาสทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ การพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการ “ให้” ในทุกมิติ
ให้…สุขภาพที่ยั่งยืน
ให้…ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน
ให้…ภูมิปัญญาที่ยั่งยืน
ให้…การศึกษาที่ยั่งยืน
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทย มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
แลนด์โรเวอร์เปิดตัว Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษ พร้อมเปิดรับผู้กล้าร่วมการแข่งขันผจญภัยระดับโลก
แลนด์โรเวอร์เปิดตัว Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษล่าสุด เพื่อตอกย้ำการกลับมาสู่เวทีการแข่งขันผจญภัยระดับนานาชาติอีกครั้ง พร้อมอุปกรณ์เสริมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการเดินทางสุดท้าทายในทุกเส้นทาง
Defender Trophy – การผจญภัยครั้งใหม่สำหรับผู้กล้าที่ไม่หยุดนิ่ง
Defender เปิดตัวการแข่งขัน Defender Trophy โฉมใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกิจกรรม Trophy และ Challenge ในอดีต แต่จะสร้างตำนานบทใหม่ผ่านการฝึกอบรมและการแข่งขัน 3 รอบสุดเข้มข้น ผู้ที่กล้าท้าทายสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และมีใจรักการอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วโลกเท่านั้นที่เหมาะสมในการสมัครเข้าร่วมการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่นี้
Defender ยานยนต์ที่นักสำรวจและผู้รักการเดินทางเลือกใช้มาอย่างยาวนาน โครงการนี้เชิญชวนผู้สมัครจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยการคัดเลือกในประเทศไทยมีกำหนดเริ่มต้นช่วงปลายปี 2025 ก่อนจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคในช่วงต้นปี 2026 เพื่อเฟ้นหาตัวแทนเข้าชิงชัยในรอบสุดท้ายระดับโลก ที่จะจัดขึ้นร่วมกับ Tusk พันธมิตรด้านการอนุรักษ์ของ Defender ณ แอฟริกา ในปี 2026
Defender Trophy: การแข่งขันเหนือระดับ ที่ไม่เหมือนใคร
ผู้เข้าแข่งขันจะเผชิญบททดสอบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดไหวพริบ ความมุ่งมั่น และการทำงานเป็นทีม โดยรอบชิงชนะเลิศระดับโลกในแอฟริกาจะประกอบด้วย 3 ประเภทภารกิจหลัก
- Driving Challenges: ทดสอบทักษะการขับขี่และการนำทางบนเส้นทางสุดโหด
- Ingenuity Challenges: ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการวางกลยุทธ์
- Physical Challenges: ท้าทายความแข็งแกร่ง ความร่วมมือ และการประสานงานของทีม
การแข่งขันจะถ่ายทอดให้ผู้ชมทั่วโลกได้ติดตาม พร้อมแนะนำฮีโร่นักผจญภัยรุ่นใหม่ โดยผู้เข้าแข่งขันจะได้รับคะแนนในฐานะบุคคล แต่แข่งขันเป็นทีมสองคน และผู้ที่มีคะแนนต่ำสุดในแต่ละรอบจะได้สิทธิ์เลือกคู่แข่งขันก่อน ซึ่งผู้ชนะในรอบสุดท้ายจะได้รับโอกาสร่วมภารกิจด้านการอนุรักษ์ของ Tusk
สำหรับคุณสมบัติผู้สมัคร ได้แก่ ผู้สมัครต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่เข้าร่วม อายุ 23 ปีขึ้นไป ว่ายน้ำได้อย่างน้อย 50 เมตร มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และสามารถเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ experience@jaguarlandroverthailand.com
การสร้างตำนานบทใหม่: Defender 110 Trophy Edition
Defender 110 Trophy Edition ใหม่ เฉลิมฉลองการกลับมาของแบรนด์สู่เวทีการแข่งขันผจญภัยระดับนานาชาติ พร้อมทั้งมาพร้อมชุดอุปกรณ์เสริมแนะนำสำหรับการเดินทาง ที่ทำให้รถคันนี้กลายเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบในทุกภารกิจผจญภัย มาพร้อม 2 สีสุดพิเศษ ได้แก่ Deep Sandglow Yellow สีเหลืองอำพันสื่อถึงเอกลักษณ์ของรถแข่ง Trophy ในอดีต และ สี Keswick Green สีเขียวเข้มที่สื่อถึงการเดินทางสำรวจในชนบทของอังกฤษ
ตัวรถตกแต่งด้วยโทน Gloss Black ที่ฝากระโปรงหน้า ชายตัวถังด้านล่าง คาลิปเปอร์เบรก และห่วงลากด้านหลัง เสริมความแข็งแกร่งด้วยแผ่นฟิล์มป้องกันเนื้อสีแบบด้าน ที่สามารถเลือกติดตั้งเพิ่มเติมได้ เพื่อปกป้องพื้นผิวรถระหว่างการเดินทางแบบออฟโรด
Defender 110 Trophy Edition มาพร้อมชุดตกแต่งพิเศษสำหรับสายผจญภัยโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง All-Terrain เพื่อการยึดเกาะทุกพื้นผิว เสริมด้วยแผ่นกันรอยท้ายรถ คิ้วซุ้มล้อ และแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถด้านหน้าสีดำ เพิ่มความแกร่งและบุคลิกดุดัน
ไฮไลต์เพิ่มเติม ได้แก่ สติกเกอร์ Trophy ที่ฝากระโปรงหน้าและเสา C, ป้ายรุ่นด้านท้าย, แผ่นกันรอยบันไดส่องสว่างพร้อมโลโก้ Trophy, เบาะหนัง Windsor สีดำสุดหรู และคานขวางในห้องโดยสารสีเดียวกับตัวรถ พร้อมลวดลายเลเซอร์โลโก้ Trophy ที่ปลายคาน
ความพิเศษของ Defender Trophy Edition ในประเทศไทย
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Plug-in Hybrid (PHEV) ให้กำลังสูงสุด 404 แรงม้า พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครันทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ด้านสมรรถนะ มาพร้อม ชุดแต่งออฟโรดขั้นสูง และระบบ Terrain Response 2 ที่ช่วยปรับสมรรถนะให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวต่าง ๆ ยกระดับการขับขี่แบบออฟโรดให้มั่นใจยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารมอบประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ด้วยระบบปรับอากาศแบบแยก 3 โซน, ระบบฟอกอากาศ และเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ พร้อมด้วย กระจกมองหลังดิจิทัล ClearSight, Head-up Display, และ พวงมาลัยปรับไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสูงสุด
เสริมความสบายและปลอดภัยด้วย หลังคาพาโนรามาเลื่อนเปิดได้, ช่องแช่เย็นคอนโซลกลาง, ไฟหน้า Matrix LED พร้อมไฟ DRL, ระบบแจ้งเตือนความเหนื่อยล้า, และ อุปกรณ์ป้องกันล้อถูกขโมย เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย เตรียมเปิดจอง Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษอย่างเป็นทางการ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 10 คันเท่านั้น สำหรับผู้ที่หลงใหลในการผจญภัยและต้องการครอบครองยนตรกรรมที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความกล้า เปิดตัวด้วยราคาจำหน่าย 7,799,000 บาท ผู้สนใจสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.landrover.co.th
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine