-
“ลุงเนวิน” จัดใหญ่! ฉลอง “10 ปี บุรีรัมย์ มาราธอน” รางวัลกว่า 10 ล้าน เปิดสมัคร On-site พร้อมแถลงข่าวยิ่งใหญ่ 15 ก.ค.นี้ ที่ One Bangkok ลุ้นรับทองและของที่ระลึกลิมิเต็ด อิดิชั่น
ยิ่งใหญ่กว่าเดิม! “บุรีรัมย์มาราธอน” สุดยอดไนท์ รัน อันดับหนึ่งขวัญใจคนไทย เตรียมฉลองครบรอบ 10 ปี แจกของรางวัลกว่า 10 ล้านบาท” ตอบแทนนักวิ่งทุกคน ที่ทำให้ บุรีรัมย์มาราธอน เติบโตด้วยมาตรฐานการจัดงานระดับโลก เป็นงานวิ่งที่มากกว่างานวิ่ง และอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน เปิดแคมเปญพิเศษ “BRM Superfans” จัดเต็มเอาใจทั้งแฟนพันธุ์แท้บุรีรัมย์มาราธอนทุกคนให้ได้ใจฟูไปกับของรางวัลพิเศษมากมาย รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และกลับมาอีกครั้ง ตามคำเรียกร้องกับการเปิดรับสมัครแบบ On-Site “ลุงเนวิน” เชิญชวนนักวิ่งร่วมอีเว้นต์สุดพิเศษ ฉลองครบ 10 ปี และสมัครหน้างานแถลงข่าว วันที่ 15 ก.ค.นี้ ที่ลาน The Storeys Square (เดอะ สตอรี่ส์สแควร์) ชั้น G วันแบงค็อก ตั้งแต่เวลา 12.00 -14.00 น. สมัครแล้วรับทันที ถุงเท้าวิ่งรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ฉลอง 10 ปี มูลค่า 420 บาท ฟรี ทุกคน และยังมีสิทธิ์ลุ้นรับทองคำ 1 สลึง ถึง 10 เส้น พร้อมเผยวันรับสมัครออนไลน์ วันที่ 19 กรกฎาคม สำหรับนักวิ่งเก่าและวันที่ 20 กรกฎาคม สำหรับนักวิ่งใหม่
การจัดการแข่งขัน “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” ภายใต้แนวคิด Your Ultimate Destination สวรรค์ของนักวิ่ง ที่จะจัดแข่งขันในวันที่ 24 มกราคม 2569 ออกสตาร์ทจากสนามแข่งรถระดับโลก “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” และเข้าเส้นชัยที่สนามฟุตบอล”ช้าง อารีนา” แข่งขันทั้งสิ้น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะมาราธอน (42.195 กม.), ระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.), ระยะมินิมาราธอน (10 กม.), ระยะฟันรัน (4.554 กม.)
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผู้ริเริ่มจัดการแข่งขันบุรีรัมย์มาราธอน กล่าวว่า “ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า บุรีรัมย์มาราธอนเป็นงานมาราธอนฝีมือคนไทย ที่เคยก้าวไปสู่มาตรฐานระดับโลก ด้วยเหรียญทองของ World Athletics หรือสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติการันตีเป็นความภาคภูมิใจ สร้างความประทับใจมาแล้วด้วยกองเชียร์มากที่สุด นับหมื่นคน ความสนุกสนานของเทศกาลดนตรี ความยาว 42.195 กม. แสงสีเสียงจัดเต็มตลอดเส้นทาง และสร้างชื่อเสียงและรายได้เข้าสู่ประเทศมหาศาลตลอด 9 ปีที่ผ่านมา”
“ผมขอให้ความมั่นใจว่า “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” เราจะจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยมาตรฐานระดับโลกเช่นเคย พร้อมทั้งยังยืนหยัดในการมอบสิ่งที่ดีที่สุด มอบความสุขและความประทับใจมากที่สุดให้กับทุกคนที่รัก “บุรีรัมย์มาราธอน” และอยู่เคียงข้างกันตลอดมา โดยได้เตรียมการเฉลิมฉลองวาระการฉลองครบรอบ 10 ปี อย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยรางวัลพิเศษรวมสูงสุดกว่า 10 ล้านบาท”
“โดยปีนี้ภายในงานแถลงข่าวจะมีการเปิดรับสมัครตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป และภายในงานจะมีการแจกทอง 1 สลึง จำนวน 10 รางวัล สำหรับนักวิ่ง โดยประกาศผลบนเวทีแถลงข่าว เวลาประมาณ 14.30 น. ทั้งนี้ยังได้เตรียมของที่ระลึก “ลิมิเต็ด” เวอร์ชั่นฉลอง 10 ปี เป็นถุงเท้าจาก Warrix มูลค่า 420 บาท แจกจำนวนไม่จำกัด คุ้มที่สุดสำหรับผู้ที่มาสมัครในงานแถลงข่าวทุกคน”
และพิเศษสำหรับปีที่ 10 นี้ กับแคมเปญ “ BRM Superfans” แทนคำขอบคุณจากใจ โดยวันงานวิ่ง จะมีการมอบเหรียญสำหรับ “BRM Superfans” ผู้วิ่งครบรอบ 10 ปี, และมอบ “หมวก BRM Sub 3 ลิมิเต็ด เวอร์ชั่นฉลอง 10 ปี” เป็นรางวัลสำหรับนักวิ่งระยะ Marathon Sub 3 ภายในเวลาต่ำกว่า 3:00:00 ชม. และมอบของที่ระลึก “ไอเท็มลับ ฉลอง 10 ปี” สำหรับแจกนักวิ่งทุกคน (จัดส่งไปกับ Race pack)
นอกจากนี้ “ลุงเนวิน” และคณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขัน ยังยืนยันที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่งเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น รางวัลจากผู้สนับสนุนและเงินรางวัลการแข่งขัน รวมสูงที่สุดในประเทศไทยกว่า 1.65 ล้านบาท, และยังอัดฉีดเพิ่ม 1,300,000 บาท มอบเป็นเงินรางวัลพิเศษ สุ่มแจกให้กับนักวิ่งทุกระยะละ 50 รางวัลรวม 200 รางวัล เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา
และยังคงแจกภาพนักวิ่งฟรีทุกคนไม่ต้องซื้อรูปอีกต่อไป โดยหลังสแกน QR Code จะได้รับภาพแบบเรียลไทม์ โดยใช้ระบบที่ทันสมัยที่สุด ที่ถูกออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักวิ่ง เมื่อวิ่งผ่านช่างภาพ และช่างภาพทำการกดชัตเตอร์รูปจะปรากฎที่มือถือนักวิ่งทันที, สนับสนุนนักวิ่งต่อยอดไปยังงาน “โตเกียวมาราธอน” ทั้งค่าสมัคร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก สำหรับนักวิ่งชาวไทยที่ไม่ใช่ทีมชาติ และทำสถิติดีที่สุด 10 อันดับแรก ทั้งชายและหญิงของ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026 พรีเซนเต็ดบาย น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” และล็อตโต้งานโตเกียวมาราธอน 2027 ได้สำเร็จ
นอกจากนี้ยังยืนยันมอบรางวัลพิเศษ “นักวิ่ง New PB ฟรีหมูกระทะ” เปิดเตาตามคำเรียกร้อง สำหรับนักวิ่งระยะ “มาราธอน” ที่สามารถทำ NEW PB ของตัวเองได้ในปีนี้นอกจากของรางวัล Special Prize แล้วยังมีรางวัลพิเศษเติมสำหรับผู้พิชิตสถิติใหม่ Beat your Buriram Marathon Personal Best หรือ NEW PB รับไปเลยหมูกระทะ 1 ชุด โดยคูปอง 1 ใบ แลกหมูกระทะได้ 1 ชุด มูลค่า 250 บาท (สำหรับนักวิ่ง 1-3 ท่าน)
ทั้งนี้ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026 พรีเซนเต็ด บาย น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง” ประจำปี 2569 เปิดรับสมัครนักวิ่งจากทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 และ วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในต้นปี 2568 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากทั้ง นักวิ่งระดับท็อปจากทั่วทุกมุมโลก, ระดับแชมป์ประเทศไทยและผู้รักในการวิ่งมากกว่า 32,936 คน คาดว่าในปีนี้หลังเปิดรับสมัครออนไลน์ จะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม มีนักวิ่งสมัครเต็มทุกระยะอย่างรวดเร็วเช่นเดิม
นักวิ่งที่สนใจสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.burirammarathon.com และ www.runningconnect.com โดยแบ่งเป็น นักวิ่งเก่า (ปี 2017-2025) สมัครได้ตั้งแต่ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และนักวิ่งทั่วไปสมัคร วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และจะมีการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่ ลาน The Storeys Square (เดอะ สตอรี่ส์ สแควร์) ชั้น G วันแบงค็อก กรุงเทพ ภายในงานมีการรับสมัครนักวิ่งแบบ On-Site และของรางวัลพิเศษแก่นักวิ่งและสื่อมวลชนที่ร่วมงานมากมาย”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
พีทีที ลูบริแคนท์ส ปลุกร่างทองให้รถอีกครั้ง รุกตลาดน้ำมันเครื่อง Fully Synthetic มาตรฐานระดับโลก ดันสมรรถนะรถกลับมาฟิตเหมือนใหม่
พีทีที ลูบริแคนท์ส ผู้นำนวัตกรรม และผู้นำตลาดน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย เดินหน้าตอกย้ำความเป็น แบรนด์พรีเมียม เปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุดภายใต้แนวคิด “ปลุกร่างทองให้รถอีกครั้ง” ชูจุดเด่นของ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ขั้นสูง (Fully Synthetic) ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและมาตรฐานระดับโลก ที่จะมาปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่ โดยมุ่งยกระดับสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้กลับมา เป็นร่างทอง พร้อมตอบโจทย์รถทุกประเภทอย่างตรงจุด
คุณรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดเผยว่า แคมเปญ “ปลุกร่างทองให้รถอีกครั้ง” มุ่งสร้างการรับรู้ถึง คุณภาพระดับพรีเมียมของกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ขั้นสูง ภายใต้ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ได้แก่ Performa, Challenger และ Dynamic ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทางทั้งรถยนต์เบนซิน รถดีเซล และรถจักรยานยนต์ โดยเน้นการฟื้นคืนสมรรถนะ เสมือน “ปลุก” เครื่องยนต์ให้กลับมาทรงพลังและลื่นไหลดั่งวันแรกอีกครั้ง พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถในทุกกลุ่ม ด้วยสูตรที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานระดับโลก และเทคโนโลยีที่เราพัฒนามาเพื่อตลาดจริง ไม่ใช่แค่ในห้องแล็บ โดยทุกรุ่นผ่านการทดสอบโดยตรงจากนักแข่งมืออาชีพ อาทิ “พีท ทองเจือ”, “แอนดรูว์ โคนินทร์” “โรเตอร์ ทองเจือ” และอีกหลายท่าน ซึ่งร่วมทดสอบสมรรถนะและให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เพื่อการันตีว่าน้ำมันเครื่องกลุ่มนี้สามารถรองรับการใช้งานทั้งบนถนนและสนามแข่ง
สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Performa สำหรับรถยนต์เบนซิน ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานระดับโลก อาทิ API SQ, ILSAC GF-7A และ ACEA C3 พร้อมเทคโนโลยี EVOTEC และ SMART Molecules ที่ช่วยลดการสึกหรอ ยืดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง อีกทั้งยังมีสูตรเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฮบริด รถอีโคคาร์ และรถยนต์เทคโนโลยีใหม่จากยุโรป (Euro 6)
ในขณะที่กลุ่ม Challenger สำหรับรถจักรยานยนต์ สปอร์ต และบิ๊กไบท์ เน้นสมรรถนะและความเร้าใจในทุกการขับขี่ ด้วยสูตรเฉพาะสำหรับการแข่งขัน พร้อมเทคโนโลยี ESTER TECH ที่ช่วยเพิ่มความทนทาน ลดแรงเสียดทาน และรีดกำลังเครื่องยนต์ออกมาได้อย่างเต็มที่
และกลุ่ม Dynamic สำหรับรถยนต์ดีเซลสมัยใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ระบบคอมมอนเรล ด้วยเทคโนโลยี CLEAN AND LOCK ที่ช่วยทำความสะอาดทุกชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ให้สะอาดตลอดอายุการใช้งาน และเทคโนโลยี EVOTEC รองรับรถยนต์ดีเซลเทคโนโลยีใหม่ ยูโร 5 ที่ติดตั้งอุปกรณ์บำบัดไอเสีย ทั้ง DPF และ SCR พร้อมการปกป้องเต็มประสิทธิภาพ แม้ในสภาพแวดล้อมที่หนักหน่วง
พีทีที ลูบริแคนท์ส พร้อมเดินหน้าปลุก “ร่างทอง” ให้รถของคุณกลับมาโลดแล่นอย่างเต็มสมรรถนะอีกครั้ง ด้วยพลังจากน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ขั้นสูง กลุ่มกระป๋องสีทองที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้ง Performa, Dynamic และ Challenger ที่พร้อมฟื้นคืนชีวิตใหม่ให้กับเครื่องยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะขับรถเบนซิน ดีเซล หรือซูเปอร์ไบค์ ก็มั่นใจได้ว่า “ร่างทอง” ของรถคุณจะกลับมาแน่นอน
สัมผัส “ร่างทอง” ของรถคุณได้แล้ววันนี้ด้วยน้ำมันเครื่อง Fully Synthetic วางจำหน่ายที่ ฟิต ออโต้, พีทีที สเตชั่น สาขาที่ร่วมรายการ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ PTT Lubricants หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Shopee และ Lazada ใน FIT Auto Official สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1365 Contact Center
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage PTT Lubricants หรือ https://www.facebook.com/pttlubricantsthailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
NEW GWM TANK 300 DIESEL – ทางเลือกที่ใช่ สำหรับทุกสไตล์ชีวิต ทั้ง 2WD และ 4WD
GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” หลังจากได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ GWM ชาวไทยหลังเปิดตัวได้ไม่ถึงเดือน NEW GWM TANK 300 DIESEL รถ PPV สไตล์ Premium Boxy ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนฯ ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากการรับฟังเสียงของผู้ใช้งานจริงในประเทศไทย ที่มาพร้อมกับ 2 ระบบ ทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อ ในรุ่น 2.4T PRO และ รุ่น 2.4T ULTRA และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการขับหล่อ ๆ ในเมืองได้ทุกวัน หรือบุกลุยกับทริปผจญภัยสู่การค้นหาประสบการณ์ใหม่ในทุกสภาพถนน
เลือกรุ่นที่ใช่ 2WD หรือ 4WD?
เจาะลึกความต่างระหว่าง 2WD และ 4WD คันไหนใช่ เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง กับภาพรวมเปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละรุ่น
คุณสมบัติ NEW TANK 300 2WD NEW TANK 300 4WD เหมาะกับใคร ชีวิตในเมือง, ทางเรียบ, การเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ การขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน, ชอบเดินทางผจญภัย, ตั้งแคมป์, ลากพ่วง โหมดขับขี่ 3 โหมด (Normal, Sport, Eco) 9 โหมด (2H, 4H, 4L, รวมโหมดลุยหิมะ ทราย หิน โคลน ฯลฯ) ความนิ่ง เงียบ และนุ่มนวล ขับสบาย เงียบ นิ่ง ได้ความสบาย นิ่ง เงียบเช่นกัน พร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนนบนพื้นผิวหลากหลายประเภท ความสามารถลุยทางสมบุกสมบัน จำกัดอยู่ที่ถนนเรียบหรือทางลูกรัง พร้อมลุยป่า ขึ้นเขา ข้ามโคลน ลากเรือ ฟีเจอร์เด่น ซันรูฟไฟฟ้า, เบาะนวด, ดีไซน์เท่ในเมือง ระบบความปลอดภัย เพิ่มฟังก์ชั่นการขับขี่ออฟโรด Rear Diff Lock, TANK TURN, Off-road Cruise Control บรรทุก/ลากจูง เหมาะกับการใช้งานทั่วไป รองรับน้ำหนักและลากของได้มากกว่า ความคุ้มค่า ราคาดี คุ้มค่าคุ้มราคา ใช้เดินทางได้ในชีวิตประจำวัน คุ้มค่าระยะยาว ใช้ได้รอบด้าน ยืดหยุ่นทุกสถานการณ์ ขุมพลังเดียวกัน มอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
ทั้งรุ่น 2WD และ 4WD มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ให้พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติที่เปลี่ยนจากเกียร์ 1 ถึงเกียร์ 9 ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วเพียง 90 กม./ชม. ขับสนุก ประหยัดพลังงาน รองรับทุกการใช้งานบนถนนเมืองและนอกเมือง
ภายในหรูสไตล์พรีเมียม สะดวกสบายทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะอยู่บนถนนในเมืองหรือบนเส้นทางที่ท้าทาย ความสะดวกสบายยังคงอยู่ทุกวินาที ทุกเส้นทาง ในรุ่น 2.4 PRO แบบ 2WD มาพร้อมเบาะหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย ดูแลง่าย พร้อมระบบปรับเบาะไฟฟ้า 6 ทิศทาง ในรุ่น 2.4T ULTRA แบบ 2WD และ 4WD ยังยกระดับความหรูหราด้วยการใช้วัสดุ หนัง Nappa ผสมหนังสังเคราะห์ ให้สัมผัสที่ พรีเมียมและนุ่มนวลกว่าที่เคย เบาะคนขับมาพร้อมระบบปรับเบาะไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat และ Welcome Seat ระบบระบายอากาศ พร้อมดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทางและระบบนวดไฟฟ้า ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ช่วยให้ฝ่ารถติดในเมืองหรือฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายขณะผจญภัยได้อย่างสะดวกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีราวหลังคาสำหรับวางสัมภาระเพิ่มเติม เหมาะสำหรับการผจญภัย เพื่อประหยัดพื้นที่ภายในรถอีกด้วย
รุ่น 4WD ทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว สำหรับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อรุ่น 2WD หรือ 4WD จากการศึกษาของ GWM เกี่ยวกับลูกค้าที่ซื้อใช้งานจริง พบว่า 60% ของลูกค้าจะตัดสินใจซื้อรุ่น 4WD ถึงแม้จะขับขี่ในเมืองหรือบนทางเรียบเป็นหลักก็ตาม เนื่องจากหลากหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็น
- ใช้งานได้หลากหลายขึ้น ทั้งชีวิตเมือง ท่องเที่ยว ภารกิจหนัก หรือสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
- เทคโนโลยีออฟโรดอัจฉริยะ ล้ำหน้ากว่า ขับได้ทุกเส้นทางโดยไม่ต้องกังวล
- เหมาะกับผู้ที่มองหารถคันเดียวที่ “ทำได้ทุกอย่าง”
- ส่วนต่างของราคาของรุ่น 2WD และ 4WD คุ้มค่ากับออปชั่นที่ได้เพิ่มขึ้น คิดเป็นส่วนต่างค่าผ่อนงวดเพียงไม่กี่พันบาทต่อเดือน* (โดยมีเงื่อนไขดาวน์ 25% ผ่อนชำระ 48 เดือน)
พร้อมทดลองขับแล้ววันนี้
NEW GWM TANK 300 DIESEL ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ PPV เพื่อคนเมืองยุคใหม่ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการในชีวิตจริงและการขับขี่ที่หลากหลายสไตล์ของผู้ใช้ชาวไทย ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่จะยกระดับทุกประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งกว่า พร้อมการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ที่ยาวนานถึง 1,000,000 กิโลเมตร (หรือ 8 ปี) ฉีกกฏเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ ก้าวสู่ประสบการณ์ใหม่แห่งการเดินทางที่ดียิ่งกว่ากับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ NEW GWM TANK 300 DIESEL 2.4T รุ่น PRO ราคา 1,029,000 บาท NEW GWM TANK 300 DIESEL 2.4T รุ่น ULTRA ราคา 1,179,000 บาท และ NEW GWM TANK 300 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD ราคา 1,279,000 บาท ทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ 70 สาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน GWM เว็บไซต์ https://www.gwm.co.th/ หรือ GWM Contact Center หมายเลข 02-668-8888
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มาสด้าชวนลูกค้าร่วมค้นหาความสุขและสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านปรัชญา “JOY DRIVES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต”
ภายใต้ความสับสนวุ่นวายในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กำลังเกิดขึ้น หลายคนกังวลใจกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน มาสด้าเชิญชวนลูกค้าออกมาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจและค้นหาความสุขในแบบของตนเอง เพราะมาสด้าเชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ เฉกเช่นเดียวกับมาสด้าที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยปรัชญา “JOY DRIVES LIVES” หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต สื่อสารถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ และมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต
นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าเชื่อเสมอว่าความสุขคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต เราจึงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ความสุขให้กับผู้คนในทุกช่วงเวลาและพร้อมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อค้นพบความสุขที่มากกว่าการขับขี่ในทุกเส้นทาง ให้ทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเสมอ นั่นคือที่มาของปรัชญาใหม่ของแบรนด์ “JOY DRIVES LIVES” หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพื่อให้มั่นใจว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้าจะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุข เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นหัวใจหลักในการสร้างความเชื่อมโยง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Customer Experience Management หรือการบริหารประสบการณ์ลูกค้าที่มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถมาสด้า ที่ไม่ได้มีเพียงการขับขี่ที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์ในทุก ๆ Touchpoint เริ่มตั้งแต่การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านระบบออนไลน์ไปจนถึงประสบการณ์ที่ได้สัมผัสจากผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าและผู้คนได้ตระหนักถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ รอบตัว ตลอดจนมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์ เพื่อถ่ายทอดหลักปรัชญาการทำงาน สร้างความรักความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า ตามแนวทางการบริหารงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง (Customer Centric) สิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดลงไปในทุกองค์ประกอบของการทำงาน เพราะมาสด้าเชื่อว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) และมาสด้าตั้งใจส่งมอบความสุขเหล่านี้ไปยังลูกค้าทุกคน จะดีกว่าไหมถ้าคนเราค้นพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางโดยในบางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ลองหยุดพักจากการรอคอยความสุขที่ยิ่งใหญ่หรือสิ่งที่หวังไว้ในอนาคต แล้วมาเติมเต็มชีวิตด้วยความสุขเล็ก ๆ ที่เราก็สร้างขึ้นเองได้ เพื่อให้ทุกวันขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและใช้ชีวิตให้มีความหมายตามแบบฉบับของตนเอง
ดังนั้น มาสด้าจึงถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินชีวิตของครอบครัวอันแสนอบอุ่น ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง Joy Drives Lives เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมองหาความสุขในรายละเอียดของชีวิต และต่อยอดด้วยการมุ่งเน้นความเชื่อที่ว่า ความสุข คือพลังขับเคลื่อนชีวิต มาสด้าจึงสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการขับขี่ แต่เป็นการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความสุขในทุกช่วงเวลา ดังนั้น เพื่อสื่อสารแนวคิดนี้ให้ชัดเจนขึ้นจึงได้นำเสนอบทเพลง “Joy is in the details” บอกเล่าเรื่องราวจากหิ่งห้อยตัวน้อยผ่านสถานการณ์ของผู้คนต่าง ๆ หลากหลายมิติ เช่น การใช้เวลากับครอบครัวหรือคนรัก การก้าวข้ามขีดจำกัด และการนึกถึงอดีตที่น่าจดจำ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ล้วนดูธรรมดา แต่หากมองลึกลงไปในอริยาบททุกคนล้วนมีรอยยิ้มและกำลังมีความสุขในชีวิต
“บางครั้งความสุขอาจเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่มาสด้าเชื่อว่าเราจะค้นพบด้วยตัวเองได้ เพียงลองมองลึกลงไปในรายละเอียด เราอาจพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางที่บางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าได้ทำการสำรวจสถิติคนไทย ผ่านแบบทดสอบ Mazda Joy Research เพื่อทำความเข้าใจความสุขในรูปแบบต่าง ๆ ตามด้วยการสร้างการรับรู้ในความหมายใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พบว่า คนไทยกว่า 2 ใน 3 จากกลุ่มตัวอย่าง มีความสุขน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ เพราะเราสร้างเงื่อนไขการมีความสุขด้วยการผูกมัดไว้กับความคาดหวัง มาสด้าจึงได้สร้างความตระหนักถึงว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง และสร้างความเชื่อมโยงต่อการสื่อสารเพื่อให้เห็นรายละเอียดความสุขในชีวิต” นายภพนิพิฐ กล่าวเสริม
สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตามการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและบทเพลงอันไพเราะอันลึกซึ้งที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ JOY DRVIES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต รวมถึงการออกไปค้นหาความสุขของคุณร่วมกับแบรนด์มาสด้า สามารถกดเข้าผ่านลิงค์ดังต่อไปนี้
- รับชมภาพภาพยนตร์โฆษณาภายใต้สโลแกน “JOY DRIVES LIVES” ได้ตามช่องทาง
- Mazda official YouTube – Full VDO: ภาพยนตร์โฆษณาhttps://www.youtube.com/watch?v=wYhA68ocA8g
- Facebook: ถ่ายทอดเรื่องราวความสุขขับเคลื่อนชีวิตhttps://www.facebook.com/share/r/1EM8oLW4AR/
- TikTok บทเพลง “Joy is in the details”
Music : https://vt.tiktok.com/ZSkG28nHE/
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
จากสนามแข่งสู่อนาคตเส้นทาง Formula E ของนิสสัน กับภารกิจขับเคลื่อนอนาคตแห่งการเดินทาง
การเดินทางของทีม Nissan Formula E
Nissan เริ่มต้นเส้นทางแห่งการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในสนามแข่ง ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขัน ABB FIA Formula E Championship อย่างเป็นทางการในฤดูกาลที่ 5 (2018/19) กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายแรกและรายเดียวในรายการนี้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทีม Nissan Formula E ก็เดินหน้าพัฒนาทั้งสมรรถนะของรถและกลยุทธ์การแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยในฤดูกาลล่าสุด 2024/2025 ทีมนำโดย โอลิเวอร์ โรว์แลนด์ และนอร์แมน นาโต ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าชัยชนะมาแล้วถึง 4 สนาม และเป็นทีมเดียวที่สามารถขึ้นโพเดียมได้ในทุกสนามตั้งแต่เริ่มฤดูกาล
ผลงานอันโดดเด่นยิ่งได้รับการตอกย้ำในสนามที่ 9 ณ Tokyo E-Prix ซึ่งเป็นสนามเหย้าของนิสสัน ทีมสามารถคว้าชัยชนะ โพเดียม และดับเบิลโพลโพซิชันได้สำเร็จ พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำคะแนนสะสมสูงสุดในทั้งสามประเภท ได้แก่ ประเภททีม นักขับ และผู้ผลิต การแข่งขัน Formula E สำหรับนิสสันจึงไม่ใช่แค่เวทีโชว์สมรรถนะ แต่คือ “สนามทดสอบอนาคต” ที่สะท้อนจิตวิญญาณ “Dare to do what others don’t” กล้าที่จะคิดต่างและลงมือทำเพื่อผลักดันนวัตกรรม ทั้งในด้านเทคโนโลยี มอเตอร์สปอร์ต และการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้แผนวิสัยทัศน์ระยะยาว Nissan Ambition 2030 โดยนิสสันยังเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ประกาศเข้าร่วมการแข่งขันในยุค GEN4 อย่างเป็นทางการจนถึงปี 2030 ตอกย้ำบทบาทผู้นำในโลกของ EV และระบบขับเคลื่อน e-POWER อย่างแท้จริง
Formula E: ห้องทดลองของนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
การแข่งขัน Formula E คือสนามทดลองที่ท้าทายและไร้ข้อจำกัดที่สุดสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า Nissan ใช้เวทีนี้ในการทดสอบขีดความสามารถของระบบมอเตอร์ การจัดการพลังงาน และการควบคุมความร้อนในระดับที่ไม่สามารถทำได้ในการใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุค ของรถแข่ง รุ่นที่ 3 (GEN3) ที่ทุกทีมใช้แบตเตอรี่ร่วมกัน การบริหารพลังงานอย่างแม่นยำจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินชัยชนะ ซึ่งนิสสันมีจุดแข็งจากประสบการณ์ด้านขุมพลังแบบไฟฟ้ามายาวนาน ผสานกับข้อมูลจากการใช้งานจริงของผู้ใช้ Nissan LEAF ทั่วโลกที่รวมระยะทางกว่า 16 พันล้านกิโลเมตร ซึ่งถูกนำมาใช้ในการออกแบบและพัฒนารถแข่งของทีมในทางกลับกัน ข้อมูลจากสนามแข่ง ทั้งในด้านประสิทธิภาพของระบบฟื้นฟูพลังงานจากการเบรก หรือ regenerative braking การตอบสนองของมอเตอร์ และการกระจายแรงเบรก จะถูกส่งต่อไปยังทีมวิศวกรรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ และ e-POWER ขณะเดียวกันนิสสัน ยังได้ลงทุนสร้างสำนักงานใหญ่ใหม่ของทีม Formula E ทางตอนใต้ของกรุงปารีส พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ซึ่งช่วยยกระดับการวิจัยและพัฒนาตลอดทั้งกระบวนการ จากสนามแข่งสู่ท้องถนนอย่างแท้จริง
ข้อมูลคือหัวใจของความก้าวหน้า
ในโลกที่ข้อมูลคือขุมพลัง และทุกการตัดสินใจต้องอิงจากข้อมูลที่แม่นยำ ทีม Nissan Formula E จึงได้นำระบบ real-time telemetry มาใช้เพื่อวิเคราะห์รายละเอียดการแข่งขันในทุกๆ สนาม ซึ่งเปรียบเสมือน “สายตาและสติปัญญา” ของทั้งทีมวิศวกรรมและนักแข่ง ที่สามารถส่งข้อมูลจากตัวรถแข่งมากกว่า 1,000 จุดต่อรอบสู่ศูนย์ควบคุมได้แบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลเหล่านี้ครอบคลุมทั้งอุณหภูมิแบตเตอรี่ อัตราการใช้พลังงาน ระบบ regenerative braking การกระจายแรงเบรก น้ำหนักที่ถ่ายสู่ในแต่ละล้อ ไปจนถึงการตอบสนองของช่วงล่างและยางในแต่ละจังหวะของสนามสิ่งที่ทำให้ระบบ telemetry ของ Formula E มีความพิเศษคือ ความละเอียดและความรวดเร็วในการประมวลผล ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถ “มองเห็น” ทุกการตอบสนองของรถได้ในขณะที่นักแข่งยังอยู่บนแทร็ค ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์ระหว่างรอบ การ fine-tune พลังงานแบบเสี้ยววินาที ไปจนถึงการตัดสินใจเรื่องการใช้ Attack Mode หรือพลังงานสำรอง โดยทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดของพลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดในแต่ละสนาม
Cristina Mañas Fernández หัวหน้าฝ่าย Performance and Simulation ของทีม Nissan Formula E อธิบายว่า “การที่เรามีระบบ telemetry ที่แม่นยำ ช่วยให้วิศวกรสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องยนต์กับฟีดแบคจากนักแข่งได้ทันที ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจว่า รถควรถูกปรับค่าการขับขี่อย่างไรในรอบถัดไป เพื่อดึงสมรรถนะให้ถึงขีดสูงสุดโดยไม่สูญเสียความสมดุล
จากสนามแข่งสู่ศูนย์การวิจัยและพัฒนา
การร่วมแข่งขันใน Formula E ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างทีมมอเตอร์สปอร์ตและศูนย์วิจัยและพัฒนาของนิสสันในญี่ปุ่นอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในยุคยานยนต์ที่ 3 (GEN3) ที่ Nissan ได้เข้าควบคุมทีมแข่ง Formula E อย่างเต็มตัว และแต่งตั้งทาดาชิ นิชิคาวะ (Tadashi Nishikawa) วิศวกรผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปีจากฝั่งยานยนต์ ขึ้นเป็น Chief Powertrain Engineer เพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้ระหว่างสองโลกเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของกระบวนการนี้คือการพัฒนา ระบบขับเคลื่อน Nissan e-4ORCE 05 ที่ต่อยอดจากเทคโนโลยี e-4ORCE ในรถยนต์รุ่นเรือธงของแบรนด์ โดยถูกออกแบบให้มีความสามารถในการจัดการแรงบิดและพลังงานได้อย่างแม่นยำ รองรับการแข่งขันที่ต้องอาศัยความสมดุลและความเร็วในระดับสูง ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทีมนิสสันมีคะแนนขึ้นนำทั้งสามประเภทในฤดูกาลล่าสุด และตอกย้ำว่าเทคโนโลยีจากสนามแข่งสามารถต่อยอดสู่อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนได้อย่างแท้จริง
Formula E กับบทพิสูจน์วิสัยทัศน์ Ambition 2030 ของนิสสัน
การเข้าร่วมการแข่งขัน Formula E คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่นิสสันใช้ในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Ambition 2030 ให้เป็นรูปธรรม วิสัยทัศน์นี้มุ่งสร้างโลกที่ปลอดมลพิษ ปลอดอุบัติเหตุ และขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างทั่วถึง ไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยี แต่รวมถึงการปรับโครงสร้างความคิดและระบบนิเวศยานยนต์ทั้งระบบ
ภายใต้แรงกดดันและสภาพแวดล้อมสุดท้าทาย นิสสันมุ่งมั่นที่จะใช้เวทีนี้ในการพัฒนาโซลูชันที่สามารถต่อยอดสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โดยตั้งเป้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า และ e-POWER ทั่วโลกรวมกว่า 20 รุ่นภายในปีงบประมาณ 2569 และตั้งยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกราว 50% ภายในปี 2573
นิสสันยังต้องการวางรากฐานสู่อนาคตด้วยเทคโนโลยี แบตเตอรี่แบบ All-Solid State (ASSB) ซึ่งจะเริ่มนำมาใช้จริงภายในปีงบประมาณ 2571 และจะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม EV โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ที่การใช้ EV ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ประหยัด คุ้มค่า และใช้งานง่าย
เส้นทาง Formula E ของนิสสันจึงไม่ได้สะท้อนแค่ชัยชนะในสนามแข่ง แต่คือ ตัวเร่งการเชื่อมต่อของระบบ หรือ system accelerator ที่เชื่อมต่อระหว่าง “สนามแข่ง – ห้องวิจัย – สายการผลิต – และสังคม” ที่เดินหน้าด้วยจิตวิญญาณของ “Dare to do what others don’t” ความกล้าท้าทายกรอบเดิม ๆ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างมีเป้าหมาย ทุกการแข่งขันจึงไม่ใช่เพียงจุดหมาย แต่คือก้าวย่างที่ตอกย้ำว่านิสสันพร้อมจะนำพาอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อนาคตที่ฉลาด สะอาด และยั่งยืนกว่าที่เคย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
MG Primus ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรถไฟฟ้า ส่งมอบ MG IM6 ลูกค้าล็อตแรกในไทย
MG Primus ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรถไฟฟ้า จัดงานหรู “FIRST MOVE – START OF HAPPINESS “ ส่งมอบรถ MG IM6 ยนตรกรรม SUV ไฟฟ้า สุดพรีเมี่ยมให้แก่ลูกค้าล็อตแรกในไทย
จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เบส ออโต้เซลส์ จำกัด และบริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป เปิดเผยว่า MG Primus ได้จัดงานส่งมอบรถยนต์ MG IM6 ล็อตแรก ให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบรถ SUV คูเป้ ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่องาน “FIRST MOVE – START OF HAPPINESS” ที่ MG Primus สาขาเพชรเกษม 65
ทั้งนี้ เพื่อร่วมแสดงความยินดีและขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่น มอบความไว้วางใจในการเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ MG IM6 กับทาง MG Primus ในช่วงงาน Motor Show 2025 เมืองทองธานี พร้อมตอกย้ำความสำเร็จของ MG Primus ที่คว้าอันดับ 1 ยอดจองรถไฟฟ้าสูงสุด
ที่สำคัญ นโยบายหลักของ “Primus Group” มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ใหม่ที่เหนือระดับ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกมิติของการบริการ และทุกแบรนด์รถยนต์ในเครือของเรา ซึ่งการจัดงานในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งในการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษและความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่ก้าวสู่ครอบครัว MG Primus ทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง MG Primus และลูกค้า เพื่อการดูแลในทุกบริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ซื้อรถอะไร ไม่สำคัญเท่าซื้อกับใคร เพราะเราเชื่อว่า การซื้อรถ 1 คัน ไม่ใช่ดูเรื่องโปรโมชั่นแคมเปญเท่านั้น หากต้องดูในเรื่องการให้บริการและการดูแลเอาใจใส่ของดีลเลอร์แต่ละแห่ง เพราะเราต้องใช้รถเป็นเวลาหลายปี ดังนั้น การส่งมอบรถในวันนี้ จึงเป็นการแสดงความตั้งใจจริงของ MG Primus ที่จะส่งมอบ
ประสบการณ์ที่ดีในการใช้รถ ความประทับใจในการดูแลลูกค้าด้านการขายและบริการหลังการขายของทีมงานเรา รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นสำหรับลูกค้าในอนาคต เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ใหม่ ตามคำขวัญ คือ “เรื่องรถ ให้ไพรม์มัสดูแล”
นอกจากนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษ IM6 in Depth โดยได้รับเกียรติ “กิตติพัฒน์ สุนทรสัจบูลย์” ผู้จัดการอาวุโส แผนก Business Management & Sales Training บริษัท เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ ร่วมนำเสนอข้อมูลและวิธีการใช้งาน MG IM6 แบบเจาะลึก เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“มาโนช เพียรพิชยพงศ์” ลูกค้า MG IM6
“ผมได้ทดลองขับรถ MG IM6 ในงาน Motor Show แล้ว รู้สึกประทับใจในสมรรถนะ โดยเฉพาะช่วงล่างที่เกาะถนน และให้ความนุ่มนวลเหมือนกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และที่สำคัญ คือ การรับประกันตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ชุดมอเตอร์และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ทำให้เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้น และการที่เลือกซื้อกับทาง MG Primus ที่สาขาเพชรเกษม แม้จะไกลจากบ้านที่อยู่ย่านมีนบุรี แต่ด้วยพนักงานขายดูแลเป็นอย่างดี และผมเป็นลูกค้าของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคยใช้บริการที่ “เบนซ์ไพรม์มัส” สาขาเลียบด่วน รู้สึกประทับใจ และมั่นใจในเรื่องการบริการและการดูแลลูกค้าของกลุ่ม Primus Group ทำให้ผมตัดสินใจเลือก MG IM6 จากที่นี่”
“ครอบครัวบุญสิริสกุล” ลูกค้า MG IM6
“ปัจจุบันโลกมีการพัฒนาและกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องปรับเปลี่ยนตามโลก ด้วยการหันมาใช้รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีไฮเทค อย่างรถพลังงานไฟฟ้า แทนการใช้รถน้ำมัน ผนวกกับ IM6 มีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย ถูกใจเรามาก หลังจากทดลองขับแล้ว ชอบเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัยกับการใช้งานที่ง่าย ทั้งราคาจับต้องได้ ประกอบกับบริษัทในกลุ่มไพรม์มัสมีความมั่นคง เราจึงเชื่อมั่นและเลือกซื้อ MG IM6 กับทาง MG Primus
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
GAC AION ประกาศเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง “AION UT” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะครบครัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่และเปิดบทใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดไทย
พบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ของ AION UT รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก GAC Group บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก โดย AION UT ถือเป็นแบรนด์ยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำจากประเทศจีน ภายใต้แนวคิด “Let’s Play” ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผู้รักอิสระ ชอบความสนุก และมองหานวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับทุกการเดินทาง”
AION UT มาพร้อมดีไซน์ “Futuristic Minimalism” แรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมเสริมด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ระดับ L2 และฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็วจาก 30%-80% ในเวลาเพียง 24 นาทีและวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)
AION UT เป็นตัวแทนของความทันสมัยและเทคโนโลยี ในงาน Bangkok Motor Show ปีนี้ เราสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้ ติดอันดับที่ 2 ในหมวดแบรนด์พลังงานใหม่ และอันดับที่ 3 ในบรรดาแบรนด์รถยนต์ทั้งหมด ด้วยยอดสั่งจอง AION UT ถึง 4,568 คัน!
การเปิดตัว AION UT ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ One GAC 2.0 ของเรา ซึ่งเราได้ขับเคลื่อนโครงการในประเทศไทยในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น ทั้งผลิตภัณฑ์ การผลิต ช่องทางจำหน่าย บริการ และระบบพลังงาน & โมบิลิตี้ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีกว่า
ในด้านผลิตภัณฑ์ AION UT เป็นโมเดลกลยุทธ์ระดับโลกใหม่ของ GAC ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศไทย และจะมีผลิตภัณฑ์ระดับโลกเพิ่มเติมในอนาคต เรามอบคุณค่าหลัก 3 ประการ คือ
เทคโนโลยี: คุณค่าผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า
การเพลิดเพลินในไลฟ์สไตล์: มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
คุณภาพระดับชั้นยอด: เรานำมาซึ่งคุณค่าที่ยั่งยืนเกินความคาดหมายในด้านการผลิต เราจะเปิดตัวโมเดลดาวรุ่ง 2-3 รุ่นต่อปี ทั้ง EV และ Hybrid พร้อมส่งเสริมการผลิตในท้องถิ่น โดยร่วมมือกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่น อัตราการใช้ชิ้นส่วนท้องถิ่นปัจจุบันอยู่ที่ 51% และจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้
ในด้านช่องทางจำหน่าย ภายในปี 2025 เราจะจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายมาตรฐาน ONE GAC จำนวน 80 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมตลาดสำคัญทั้งหมด เรากำลังเร่งการนำมาตรฐานการขายและบริการระดับโลก (GSSW) มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวแทนจำหน่ายและคุณภาพการบริการ
ในด้านบริการ ในปีนี้จะมีการสร้างศูนย์บริการพรีเมียมมาตรฐาน 5 ดาวจำนวน 50 แห่ง พร้อมอะไหล่ในสต็อกท้องถิ่นกว่า 6,000 รายการ (มีพร้อมใช้ 90% สำหรับกรณีเร่งด่วน) บริการจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 2 วันสำหรับต่างจังหวัด มีช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองกว่า 300 คน พร้อมสนับสนุนศูนย์บริการแบตเตอรี่แห่งแรกของ GAC ซึ่งเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถซ่อมแซมชุดแบตเตอรี่ โมดูล และเซลล์ในทุกระดับได้
ในด้านระบบพลังงานและโมบิลิตี้ GAC เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวจากจีนที่มีระบบนิเวศพลังงานครบวงจรในต่างประเทศ โดยดำเนินการสถานีชาร์จ 58 แห่งแล้ว ผ่านแผน “ร้อยเมือง พันเครื่องชาร์จ” และ “ร้อยร้านพลังงานแสงอาทิตย์” ร่วมกับพาร์ทเนอร์และเรายังสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้าน EV อีกด้วย
AION UT คือนิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์สะท้อนตัวตนอย่างแท้จริง มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย ภายใต้แนวคิด “Futuristic Minimalism” ซึ่งผสานระหว่างความล้ำยุคและความเรียบง่ายอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่คมชัด พร้อมเส้นสายของตัวรถที่เฉียบคม ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดย AION UT มาพร้อม 4 จุดเด่น ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้าดังนี้
จุดเด่นที่ 1 : UTmost Design
Milan Design Aesthetics
แรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย เปลี่ยนทุกการเดินทางให้มีสไตล์เหนือระดับ พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม
Winky Headlight
แรงบันดาลใจจากดวงตาที่เปล่งประกายและสง่างาม เส้นสายที่โค้งไหลลื่นสะท้อนความล้ำสมัย เสมือนดวงตาที่มีชีวิต มอบเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความมีชีวิตชีวาให้กับทุกเส้นทาง
Matrix Cube Light
ไฟเลี้ยวหน้าและไฟท้ายทรงคิวบิก โชว์ดีไซน์ที่ผสานเทคโนโลยีกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว โดดเด่นสะกดทุกสายตา
จุดเด่นที่ 2 : UTmost Comfort
Playground Cabin Comfort Space
ห้องโดยสารแถวหลังมีพื้นที่กว้างถึง 1,385 มม. พร้อมพื้นที่วางขาที่สะดวกสบายมากขึ้นถึง 905 มม.รองรับผู้โดยสาร 3 คนได้สบายๆ กว้างขวางเกินคาดหมาย
Transformable Seat
สนุกกับการปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องโดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลังได้ตามความต้องการ หรือเลือกเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นเตียงขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ผสานความสนุกสนานเข้ากับประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
Butterfly-shaped Seat
สัมผัสประสบการณ์ความสบายด้วยเบาะรูปทรงผีเสื้อ โอบรับทุกสัมผัสได้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
จุดเด่นที่ 3 : UTmost Tech
L2 Intelligent Driving
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- เซนเซอร์กะระยะ ด้านหน้า 4 จุด / ด้านหลัง 4 จุด
- ระบบ AUTOHOLD
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
- ปิดเครื่องและปลดล็อคด้วยสัมผัสเดียวหลังจากการชน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC with Stop & Go)
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน (ELKA)
Voice Control
ระบบสั่งการด้วยเสียง รองรับ 2 ภาษา (ไทย / อังกฤษ) รับคำสั่งได้ทั้งจากผู้โดยสารแถวหน้าและแถวหลัง เพื่อความสะดวกสูงสุด
จุดเด่นที่ 4 : UTmost Safety
Global Safety Standard
ออกแบบตัวถังให้มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง คิดเป็น 71% ของตัวถัง พร้อมหลังคาที่สามารถรองรับแรงกดได้ถึง 7 ตัน
Magazine Battery 2.0
แบตเตอรี่ล้ำสมัยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทนทานต่อการบิดตัว 180 องศา โดยไม่เกิดประกายไฟหรือความร้อนสะสม
Long Driving Range
AION UT ขับสบาย เดินทางระยะไกลไร้กังวล พัทยา-โคราช ไป-กลับได้แบบไม่ต้องชาร์จระหว่างทาง มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ดังนี้
- AION UT Standard ระยะทางวิ่งสูงสุด 420 กม. มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 26 kWh
- AION UT Premium ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 00 kWh
Fast Charge
รองรับการชาร์จเร็วจาก 30%-80% ในเวลาเพียง 24 นาที
ภายในห้องโดยสารของ AION UT ได้รับการออกแบบอย่างประณีต เพื่อตอบสนองทั้งด้านความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยมาพร้อมแผงหน้าปัดแบบ Full Digital ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันปรับไฟฟ้า และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (ในรุ่น Premium) เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับและผู้โดยสาร
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มาสด้าชวนลูกค้าร่วมค้นหาความสุขและสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านปรัชญา “JOY DRIVES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต”
ภายใต้ความสับสนวุ่นวายในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กำลังเกิดขึ้น หลายคนกังวลใจกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน มาสด้าเชิญชวนลูกค้าออกมาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจและค้นหาความสุขในแบบของตนเอง เพราะมาสด้าเชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ เฉกเช่นเดียวกับมาสด้าที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยปรัชญา “JOY DRIVES LIVES” หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต สื่อสารถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ และมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต
นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าเชื่อเสมอว่าความสุขคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต เราจึงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ความสุขให้กับผู้คนในทุกช่วงเวลาและพร้อมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อค้นพบความสุขที่มากกว่าการขับขี่ในทุกเส้นทาง ให้ทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเสมอ นั่นคือที่มาของปรัชญาใหม่ของแบรนด์ “JOY DRIVES LIVES” หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพื่อให้มั่นใจว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้าจะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุข เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นหัวใจหลักในการสร้างความเชื่อมโยง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Customer Experience Management หรือการบริหารประสบการณ์ลูกค้าที่มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถมาสด้า ที่ไม่ได้มีเพียงการขับขี่ที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์ในทุก ๆ Touchpoint เริ่มตั้งแต่การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านระบบออนไลน์ไปจนถึงประสบการณ์ที่ได้สัมผัสจากผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าและผู้คนได้ตระหนักถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ รอบตัว ตลอดจนมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์ เพื่อถ่ายทอดหลักปรัชญาการทำงาน สร้างความรักความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า ตามแนวทางการบริหารงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง (Customer Centric) สิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดลงไปในทุกองค์ประกอบของการทำงาน เพราะมาสด้าเชื่อว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) และมาสด้าตั้งใจส่งมอบความสุขเหล่านี้ไปยังลูกค้าทุกคน จะดีกว่าไหมถ้าคนเราค้นพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางโดยในบางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ลองหยุดพักจากการรอคอยความสุขที่ยิ่งใหญ่หรือสิ่งที่หวังไว้ในอนาคต แล้วมาเติมเต็มชีวิตด้วยความสุขเล็ก ๆ ที่เราก็สร้างขึ้นเองได้ เพื่อให้ทุกวันขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและใช้ชีวิตให้มีความหมายตามแบบฉบับของตนเอง
ดังนั้น มาสด้าจึงถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินชีวิตของครอบครัวอันแสนอบอุ่น ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง Joy Drives Lives เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมองหาความสุขในรายละเอียดของชีวิต และต่อยอดด้วยการมุ่งเน้นความเชื่อที่ว่า ความสุข คือพลังขับเคลื่อนชีวิต มาสด้าจึงสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการขับขี่ แต่เป็นการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความสุขในทุกช่วงเวลา ดังนั้น เพื่อสื่อสารแนวคิดนี้ให้ชัดเจนขึ้นจึงได้นำเสนอบทเพลง “Joy is in the details” บอกเล่าเรื่องราวจากหิ่งห้อยตัวน้อยผ่านสถานการณ์ของผู้คนต่าง ๆ หลากหลายมิติ เช่น การใช้เวลากับครอบครัวหรือคนรัก การก้าวข้ามขีดจำกัด และการนึกถึงอดีตที่น่าจดจำ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ล้วนดูธรรมดา แต่หากมองลึกลงไปในอริยาบททุกคนล้วนมีรอยยิ้มและกำลังมีความสุขในชีวิต
“บางครั้งความสุขอาจเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่มาสด้าเชื่อว่าเราจะค้นพบด้วยตัวเองได้ เพียงลองมองลึกลงไปในรายละเอียด เราอาจพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางที่บางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าได้ทำการสำรวจสถิติคนไทย ผ่านแบบทดสอบ Mazda Joy Research เพื่อทำความเข้าใจความสุขในรูปแบบต่าง ๆ ตามด้วยการสร้างการรับรู้ในความหมายใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พบว่า คนไทยกว่า 2 ใน 3 จากกลุ่มตัวอย่าง มีความสุขน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ เพราะเราสร้างเงื่อนไขการมีความสุขด้วยการผูกมัดไว้กับความคาดหวัง มาสด้าจึงได้สร้างความตระหนักถึงว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง และสร้างความเชื่อมโยงต่อการสื่อสารเพื่อให้เห็นรายละเอียดความสุขในชีวิต” นายภพนิพิฐ กล่าวเสริม
สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตามการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและบทเพลงอันไพเราะอันลึกซึ้งที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ JOY DRVIES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต รวมถึงการออกไปค้นหาความสุขของคุณร่วมกับแบรนด์มาสด้า สามารถกดเข้าผ่านลิงค์ดังต่อไปนี้
- รับชมภาพภาพยนตร์โฆษณาภายใต้สโลแกน “JOY DRIVES LIVES” ได้ตามช่องทาง
- Mazda official YouTube – Full VDO: ภาพยนตร์โฆษณาhttps://www.youtube.com/watch?v=wYhA68ocA8g
- Facebook: ถ่ายทอดเรื่องราวความสุขขับเคลื่อนชีวิตhttps://www.facebook.com/share/r/1EM8oLW4AR/
- TikTok บทเพลง “Joy is in the details”
Music : https://vt.tiktok.com/ZSkG28nHE/
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ไปกับ TOYOTA ALIVE และพบความน่ารักเกินต้านของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ความสุขอีกมากมาย
TOYOTA ALIVE ศูนย์รวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์และศูนย์ทดสอบรถยนต์ของโตโยต้า พร้อมขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ กับการแนะนำกิจกรรมทดลองขับสุด EXCLUSIVE ภายใต้ชื่อ กิจกรรม “Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense” และ กิจกรรม “Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4 x 4” ในทุกวันอังคารและพุธ ตลอดปี 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการของโตโยต้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ให้เต็มอิ่มกับข้อมูลรถโตโยต้า ควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์ขับขี่ที่คุณพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านต้อนรับความสดใสเต็มพิกัดของมาสคอตสมาชิกใหม่ของ TOYOTA ALIVE “น้อง HEARTY” ออกแบบมาในรูปหัวใจพร้อมคาแรคเตอร์กระฉับกระเฉง สื่อถึงโตโยต้าที่พร้อมดูแลลูกค้าทุกเจนด้วยใจบริการ มาพร้อม เพลง I Feel Alive ทีมีเนื้อหา ท่วงทำนองน่ารัก กับความหมายดีๆ ภายใต้กิจกรรม LET’s DRIVE WITH HEARTY ในวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ณ TOYOTA ALIVE ถนนบางนา-ตราด กม.3 พร้อมเชิญชวนร่วมสนุกกับ TIKTOK CHALLENGE ลุ้นรับรางวัลกับท่าเต้นประจำตัว และเพลง I Feel Alive ของ HEARTY
TOYOTA ALIVE คือ Lifestyle Community หรือ ศูนย์รวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ และศูนย์ทดสอบรถยนต์ของโตโยต้า ที่พร้อมเชื่อมโยงและใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการแบบครบวงจร เปิดให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้บริการอย่างใกล้ชิดภายใต้ แนวคิด “Closer to Customer” บนพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร พร้อมสนามทดสอบรถมาตรฐาน รวมทั้งสิ้นกว่า 48,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่กิจกรรมเปิดบริการในทุกวันตั้งแต่ 08:30 – 18:00 น. และ TOGETA CAFÉ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 07:30 – 18:00 น.
ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ กับ TOYOTA ALIVE พบกิจกรรมใหม่
ทั้งคอร์สทดลองขับรถพิเศษ และมาสคอตสุดน่ารัก “น้อง HEARTY”
คอร์สทดลองขับรถโตโยต้าพิเศษ กับกิจกรรม “Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense” และ “Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4×4”
โดย INSTRUCTOR มืออาชีพ ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสสมรรถนะรถยนต์โตโยต้า ในวันอังคารและพุธ เวลา 9:30-11:30น. ตลอดปี 2568 ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมนี้เป็นต้นไป
- Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense
เปิดคอร์สพิเศษรับเพียง 20 ท่านต่อรอบ
ให้ข้อมูลระบบ Toyota Safety Sense เชิงลึก พร้อมทำความรู้จักรถยนต์โตโยต้าไฮบริดหลายรุ่น เต็มเวลากับการพูดคุยตอบทุกคำถาม มอบประสบการณ์การขับขี่จากการจำลองสถานการณ์จริง ที่คุณอาจพบเจอ พร้อมลองทดสอบฟังก์ชันการใช้งานจริง ให้คุณได้มั่นใจที่สุดกับทุกการใช้งานด้วยตัวคุณเอง
- Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4 x 4
เปิดคอร์สพิเศษรับเพียง 10 ท่านต่อรอบ
พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ทุกฟังก์ชันการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อย่างเต็มอิ่ม พิสูจน์ระบบส่งกำลัง 4 x 4 ในรถสมรรถนะเยี่ยมอย่าง FORTUNER และรถกระยะยอดนิยมสุดแกร่ง อย่าง HILUX REVO ทั้งบนถนนในรูปแบบ ON ROAD และสุดมันไปกับการทดสอบจริงในสนาม OFF ROAD ที่พร้อมมอบประสบการณ์จริงในการใช้ระบบ 4 x 4 ให้คุณอย่างเต็มรูปแบบ
สามารถดูตารางการจัดกิจกรรม และลงทะเบียนจองกิจกรรมทดลองขับได้แล้ววันนี้
แนะนำมาสคอตสุดน่ารัก “น้อง HEARTY” กับเพลง I feel Alive
พร้อมเชิญชวน ร่วมสนุกกับกิจกรรม TikTok Challenge
พบความน่ารัก สดใสเต็มพิกัด ของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่ ออกแบบมาในรูปหัวใจพร้อมคาแรคเตอร์กระฉับกระเฉง สื่อถึงโตโยต้าที่พร้อมดูแลลูกค้าทุกเจนเด้วยใจบริการ ที่ TOYOTA ALIVE ออกแบบผ่านคอนเซปต์ ดังนี้
- หัวใจแห่งแรงบันดาลใจ น้อง HEARTY ได้รับการอออกแบบมาเป็นรูปหัวใจ สื่อถึงตัวแทนของ TOYOTA ALIVE ที่มีใจบริการ พร้อมตอบรับทุกแรงบันดาลใจของทุกคนที่เข้ามา TOYOTA ALIVE สถานที่ที่เปิดรับความท้าทายและสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างพลังบวกให้กับทุกการเดินทางของคุณ
- หัวใจที่เปิดกว้าง TOYOTA ALIVE บ้านของ HEARTY เป็นพื้นที่กว้างขวาง เชื่อมโยงทุกเจเนอเรชัน ทั้งครอบครัวและคนรุ่นใหม่ พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยกิจกรรมความสนุกหลากหลายรูปแบบ และบริการรถทดลองขับที่ครบครันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
- หัวใจที่พร้อมบริการ ที่ TOYOTA ALIVE คุณจะได้รับบริการด้วยใจจากทีมงานมืออาชีพและน้อง HEARTY ที่คอยต้อนรับและเติมเต็มประสบการณ์ให้คุณประทับใจในทุกครั้งที่มาเยือน
นอกจากนี้ น้อง HEARTY ยังมาพร้อมเพลงประจำตัว ในชื่อ I feel Alive ที่มีเนื้อร้องสื่อความหมายดีๆ พร้อมท่าเต้นเก๋ๆ ที่ทุกคนสามารถเต้นตามได้ง่ายๆ
รวมทั้ง ผู้ที่สนใจยังสามารถร่วมสนุกง่ายๆกับกิจกรรม TikTok Challenge เพียงอัดคลิปตัวเองเต้นตาม แล้วโพสต์ลง TIKTOK พร้อมติดแฮชแท็ก #HEARTYDANCECHALLENGE #TOYOTAALIVE โดยผู้ที่ได้ยอดหัวใจสูงสุด จะได้รับของรางวัลเป็น บัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ประกาศผลผู้ได้รับรางวัลในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ผ่านช่องทาง เฟสบุคที่ https://www.facebook.com/toyotaalive
บริการอื่นๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจน
- PRODUCT SHOWCASE จัดแสดงรถรุ่นใหม่ๆ และรถรุ่นพิเศษหลากหลายตลอดปี ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หรือรถรุ่นพิเศษต่างๆ /รถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล GR / รถที่ใช้แข่งขันในรายการมอเตอร์สปอร์ต หรือรถ LIMITED EDITION
- สถานี ALIVE CHARGE พร้อมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR โดยมีด้วยหัวชาร์จ AC จำนวน 2 หัว ความแรงอัดประจุที่ 22kW ต่อชั่วโมง และหัวชาร์จ DC จำนวน 2 หัว ความแรงอัดประจุที่ 120kW ต่อชั่วโมง อัตราค่าบริการ การชาร์จ ช่วง On-peak อยู่ที่ 70 บาท/kW และช่วง Off-peak อยู่ที่ 6 บาท/kW สำหรับลูกค้าที่สนใจใช้บริการ สามารถจองเพื่อใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- TOGETA CAFE’ คาเฟ่เครื่องดื่ม หอมละมุมกาแฟจากโครงการพระราชดำริ “สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์” โดย TOGETA COFFEE ดำเนินการภายใต้แนวคิด “กาแฟดี ป่าดี และชุมชนดี” จากความตั้งใจของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่มีความมุ่งหวังจะส่งเสริมกาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเกษตรกร
- กิจกรรม Entertainment เติมเต็มความสนุกตลอดปี อัพเดทกิจกรรมสดใหม่ในแต่ละไตรมาส พบกับศิลปินที่เป็นกระแสและที่เป็นที่ชื่นชอบ กิจกรรม DIY Kid zone ถ่ายรูปสติกเกอร์ และอื่นๆ แบบไม่ซ้ำตลอดทั้งปี
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
เบนท์ลีย์ แบงค็อก ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยบนเวทีระดับภูมิภาคในงาน Asia Pacific Property Awards 2025
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับภูมิภาคด้วยการจัดแสดงยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์ รุ่น New Continental GT Speed ในงาน Asia Pacific Property Awards 2025 ให้เหล่าผู้ร่วมงานจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ยลโฉมกันอย่างใกล้ชิด ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันที่ 15 – 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ นอกเหนือจากการร่วมเชิดชูความเป็นเลิศด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยและร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของธุรกิจไทยบนเวทีระดับสากลแล้ว ยังถือเป็นการสานต่อแนวทางของแบรนด์ด้านที่อยู่อาศัย หรือ Real Estate ที่เป็นอีกหนึ่ง Passion Points ที่สำคัญของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์แบบเต็มรูปแบบ ในการนี้ได้มีการนำยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ล่าสุดอย่าง New Continental GT Speed มาถ่ายทอดความหรูหราและการออกแบบที่สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับโลก ซึ่งการจัดแสดงสุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ได้สร้างสีสันและดึงดูดแขกผู้ร่วมงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ได้สัมผัสกับความงดงาม ความหรูหรา และความประณีตที่บรรจงรังสรรค์ลงบนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบเดี่ยว กระจังหน้า ไฟท้าย และสปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น พร้อมกับภายในห้องโดยสารที่ได้รับการตกแต่งด้วย Dark Chrome สีเข้ม ขนานไปกับการออกแบบอย่างวิจิตรบรรจงให้มีลักษณะเสมือนรังไหมด้วยงานควิลท์แบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เวทีการประกาศผลรางวัล Asia Pacific Property Awards 2025 จัดขึ้นโดย IPAX Asia Pacific คือ หนึ่งในงานประกาศรางวัลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยาวนานกว่า 29 ปี ครอบคลุมมากกว่า 45 ประเภทรางวัลในด้านที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพานิชย์ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอสังหาริมทรัพย์จากหลากหลายประเทศในภูมิภาคร่วมพิจารณาและตัดสินด้วยหลักเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลที่รวมไปถึงการออกแบบ คุณภาพ การบริการ นวัตกรรม ความคิดริเริ่ม และความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน สำหรับในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 800 ราย ซึ่งธุรกิจอสังหาฯและโรงแรมในประเทศไทยคว้ารางวัลไปได้มากที่สุดถึง 109 รางวัล ตอกย้ำถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในประเทศไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine