-
Porsche 911 Turbo S ยนตรกรรมสปอร์ตที่เหนือกว่าในทุกด้าน

ปอร์เช่เผยโฉมยนตรกรรมรุ่นสูงสุดของตระกูล 911 ในงาน IAA Mobility ที่กรุงมิวนิก ด้วยระบบขับเคลื่อน T-Hybrid สุดล้ำพร้อมกับเทอร์โบคู่ไฟฟ้า ทำให้ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) รุ่นใหม่ กลายเป็นรถในตระกูล 911 ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมกับขุมกำลัง 523 กิโลวัตต์ (711 แรงม้า) ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ผสานสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่น ความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
สตุ๊ทการ์ท. 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ ก้าวตามรอยตำนานที่ยิ่งใหญ่ของรุ่นก่อนหน้า ที่ถือเป็นมาตรฐานในโลกของรถสปอร์ต ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล ความพิเศษเฉพาะตัว และการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดย 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ พร้อมที่จะยกระดับมาตรฐานขึ้นไปอีกขั้นในทุกมิติ โดยมีให้เลือกทั้งตัวถังแบบคูเป้และคาบริโอเลต พร้อมกับสมรรถนะที่สูงขึ้น ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ระบบแอโรไดนามิกที่อัจฉริยะมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พิเศษมากยิ่งขึ้น
แฟรงค์ โมเซอร์ (Frank Moser) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์รถยนต์ 911 และ 718 กล่าวว่า “911 เทอร์โบ เอส คือการขับปอร์เช่ 911 ที่สมบูรณ์แบบและใช้งานได้หลากหลายที่สุด ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน การขับขี่ระยะไกล หรือบนสนามแข่ง 911 เทอร์โบ เอส ใหม่นี้ มอบความสะดวกสบาย มีเอกลักษณ์ และรวดเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน
ขุมพลังเทอร์โบคู่พร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid สุดล้ำ
ขุมพลังสมรรถนะสูงที่ี่พัฒนาขึ้นมาใหม่ให้กำลังรวม 523 กิโลวัตต์ (711 แรงม้า) ทำให้ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ กลายเป็นยนตรกรรมในตระกูล 911 ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ซึ่งพร้อมใช้งานในช่วงรอบเครื่องกว้างตั้งแต่ 2,300 – 6,000 รอบต่อนาที และยังมีจุดพีคกำลังที่ต่อเนื่องเป็นพิเศษระหว่าง 6,500 – 7,000 รอบต่อนาที ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเรียกใช้พลังสูงสุด 711 แรงม้าได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี T-Hybrid น้ำหนักเบา 400 โวลต์ ซึ่งทำให้มีกำลังเพิ่มขึ้น 61 แรงม้าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยเทคโนโลยี T-Hybrid เปิดตัวครั้งแรกจาก 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ปี 2024 และพัฒนาต่อยอดมาจนถึงใน 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ โดยใน จีทีเอส (GTS) ใช้ เทอร์โบไฟฟ้า (eTurbo) เพียงตัวเดียว แต่สำหรับ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ นี้ถูกติดตั้ง eTurbo คู่ โดยใบพัดและคอมเพรสเซอร์ได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อตอบโจทย์สำหรับรุ่นสูงสุด ซึ่งทั้งสองตัวจะช่วยเพิ่มสมรรถนะและการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนได้อีกด้วย ทั้งยังมีแบตเตอรี่แรงดันสูงน้ำหนักเบา พร้อมความจุ 1.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง เหมือนกับใน 911 คาร์เรร่า จีทีเอส โดยทำงานร่วมกับเกียร์ PDK 8 สปีดที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Porsche Traction Management (PTM) ผลลัพธ์คือ 911 เทอร์โบ เอส คูเป้ (911 Turbo S Coupé) รุ่นใหม่นี้ ทำเวลา 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที โดยเร็วกว่ารุ่นก่อน 0.2 วินาที และใช้เวลาเพียง 8.4 วินาที ถึง 200 กม./ชม. ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า 0.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 322 กม./ชม.
เร็วกว่ารุ่นก่อนราว 14 วินาทีบนสนาม Nürburgring Nordschleife
ถึงแม้ว่าจะมีองค์ประกอบที่เพิ่มขึ้นจากระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูง แต่ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียง 85 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนี้กลับถูกชดเชยด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นอย่างเต็มที่ในทุกด้าน โดยพิสูจน์ได้จากเวลาในการทดสอบช่วงสุดท้ายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 บนสนามนูร์เบอร์กริง นอร์ดชไลเฟอ (Nürburgring Nordschleife) ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส รุ่นพรางตัว ทำเวลาได้ 7:03.92 นาที ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งรวดเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 14 วินาที ยอร์ก เบิร์กไมสเตอร์ (Jörg Bergmeister) แบรนด์แอมบาสเดอร์ของปอร์เช่ ผู้ร่วมพัฒนาและทดสอบ กล่าวว่า “คุณแทบจะไม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่ารถคันนี้มีความคล่องตัว ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น รวมถึงทำเวลาได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุก ๆ ช่วงสำคัญของสนาม”
ระบบเบรกและยางที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อสมรรถนะสูงสุด
วิศวกรของปอร์เช่ได้ปรับปรุงองค์ประกอบโดยรอบของ 911 เทอร์โบ เอส เพื่อให้สมกับการเป็นรถในตระกูล 911 รุ่นสูงสุด โดยยางรุ่นใหม่ที่นำมาใช้ ได้พัฒนาให้ยึดเกาะบนถนนที่แห้งได้มากขึ้น ทั้งยังคงประสิทธิภาพบนถนนที่เปียกได้ดี เพลาหลังของรถยนต์สปอร์ตรุ่นนี้ติดตั้งยางที่กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตรเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีขนาด 325/30 ZR 21 ส่วนเพลาหน้าใช้ยางขนาด 255/35 ZR 20 ซึ่งเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า ระบบ Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน มาพร้อมผ้าเบรกแบบใหม่ สามารถรองรับแรงกดมหาศาล ช่วยยกระดับสมรรถนะการเบรกและสัมผัสแป้นเบรกให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งทีมวิศวกรยังได้เพิ่มเส้นผ่านศูนย์กลางของจานเบรกที่เพลาหลังจาก 390 มม. เป็น 410 มม. ส่วนเพลาหน้าใช้จานเบรกขนาด 420 มม. ซึ่งทำให้ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ มาพร้อมระบบเบรก PCCB ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ปอร์เช่เคยติดตั้งในรถยนต์รุ่นสองประตู
ระบบแอโร์ไดนามิกแบบแอคทีฟอัจฉริยะ
แนวคิดแอโรไดนามิกรูปแบบใหม่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนและเสถียรภาพของ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ โดยประกอบด้วย ช่องลมระบายอากาศแบบแอคทีฟแนวตั้งบริเวณด้านหน้า และดิฟฟิวเซอร์หน้าแบบแอคทีฟ ร่วมกับสปอยเลอร์หน้าที่ปรับได้ และสปอยเลอร์หลังที่สามารถยืดออกและปรับองศาได้ ซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นก่อนหน้า ทั้งหมดทำงานร่วมกันเป็นระบบเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ การไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อนในระบบเบรกและหม้อน้ำถูกปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันระบบแอโรไดนามิกแบบ แอคทีฟยังสามารถปรับการทำงานอย่างชาญฉลาดตามสถานการณ์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการลดแรงยกเพื่อเพิ่มเสถียรภาพ หรือการลดแรงต้านอากาศเมื่อองค์ประกอบต่างๆ ถูกพับเก็บเข้าไป โดยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Drag Coefficient)ของ 911 เทอร์โบ เอส คูเป้ จะลดลง 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในโหมดที่ใช้องค์ประกอบแอโรไดนามิกทั้งหมดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ระบบแอโรไดนามิกแบบแอคทีฟยังช่วยเสริมการเบรกบนถนนเปียก โดยในโหมดเปียก (Wet Mode) ดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าจะปิดเพื่อป้องกันจานเบรกหน้าจากละอองน้ำ
แชสซีเพื่อความคล่องตัวและเสถียรภาพที่เหนือกว่า
ระบบขับเคลื่อน T-Hybrid ที่มาพร้อมระบบไฟฟ้าแรงดันสูงและชุดแบตเตอรี่ ช่วยให้ปอร์เช่สามารถติดตั้งระบบ Porsche Dynamic Chassis Control แบบควบคุมด้วยไฟฟ้า–ไฮดรอลิก (ehPDCC) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน 911 เทอร์โบ เอส รุ่นใหม่ ซึ่งช่วยลดการโคลงของตัวรถขณะเปลี่ยนทิศทาง และเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าและออกโค้ง โดยทำงานร่วมกับคานกันโคลงที่เชื่อมถึงกัน โดยมีแรงดันน้ำมันถูกปรับตามสภาพการขับขี่ ทำให้ตัวคานสร้างแรงพยุงและรักษาสมดุลของรถ ส่งผลให้รถสปอร์ตทรงพลังคันนี้ควบคุมง่ายขึ้น มั่นใจยิ่งขึ้น และให้ทั้งความสบายและพลวัตการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม
ในการพัฒนานี้ ได้ปรับปรุงทั้งความสะดวกสบายและสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งยกระดับทำให้ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ มีทั้งความสะดวกสบาย มั่นคงและคล่องตัวในเวลาเดียวกัน โดยสำหรับในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ระบบควบคุมแชสซีไฟฟ้า–ไฮดรอลิก (ehPDCC) มาพร้อมระบบยกเพลาหน้าเป็นมาตรฐาน ซึ่งสามารถตอบสนองได้รวดเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ด้วยการผสานเข้ากับระบบไฟฟ้าแรงสูง 400 โวลต์
ระบบท่อไอเสียสปอร์ตใหม่ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน มาพร้อมหม้อพักไอเสียด้านหลังและปลายท่อไอเสียที่ทำจากไทเทเนียม ช่วยตอกย้ำเอกลักษณ์เฉพาะของ 911 Turbo S ด้วยเสียงเร้าใจที่ออกแบบขึ้นเพื่อรถยนต์สปอร์ตรุ่นสูงสุดโดยเฉพาะ พร้อมทั้งช่วยลดน้ำหนักตัวรถได้ถึง 6.8 กิโลกรัม นอกจากนี้การปรับปรุงเครื่องยนต์ภายในยังช่วยเพิ่มมิติของเสียงรถให้มีความเร้าใจมากยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 3.6 ลิตร ที่ทำงานด้วย ระบบวาล์วไทมิ่งแบบไม่สมมาตร (Asymmetrical Timing) เพื่อสร้างเสียงเครื่องยนต์ที่มีหลากหลายมิติและความถี่ ทำให้ได้เสียงที่หนักแน่น ลึก และคมชัดยิ่งขึ้น
ดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟพร้อมชุดอุปกรณ์แบบพรีเมียม
ใน 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ ถือเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่นำกลยุทธ์การออกแบบของรุ่นเทอร์โบมาใช้กับตระกูล 911 โดยมีองค์ประกอบหลายส่วนโดดเด่นด้วยสี Turbonite ที่สงวนไว้เฉพาะในรุ่นเทอร์โบ เท่านั้น รวมถึงสัญลักษณ์ปอร์เช่และตัวอักษร “Turbo S” ในด้านท้ายรถ รวมไปถึงอุปกรณ์ตกแต่งเฉพาะรุ่น Turbo S ที่ปีกหลังและกรอบกระจกข้าง และล้อของ Turbo S ยังมาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบ Center Lock ที่มาในโทนสี Turbonite เพิ่มความมีเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นเทอร์โบ 911 เทอร์โบ เอส ใหม่ มาพร้อมตัวถังและช่วงล้อที่กว้างกว่าคาร์เรร่า (Carrera) อย่างชัดเจน พร้อมช่องดักอากาศที่ด้านข้างบริเวณท้ายรถ กันชนหลัง ออกแบบใหม่ให้โดดเด่นด้วยช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ช่วยเน้นความกว้างของตัวถัง รวมถึงปลายท่อไอเสียไทเทเนียม ดีไซน์เฉพาะของเทอร์โบรุ่นใหม่ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ เทอร์โบ เอส เช่นเดียวกับลวดลายมุก (pearl structure) แบบไดนามิกเหนือเส้นไฟท้าย ทั้งนี้ยังมีปลายท่อไอเสียไทเทเนียมทรงวงรีพร้อมพื้นผิวพิเศษให้เลือกเป็นออปชัน โดยรวมแล้วดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ทำให้ เทอร์โบ เอส แตกต่างอย่างชัดเจนจาก 911 รุ่นอื่น ๆ
การตกแต่งด้วยสี Turbonite คือเอกลักษณ์ที่สะท้อนความพิเศษภายในตัวรถ โดยจะปรากฏอยู่ทั้งบนแผงประตู พวงมาลัย แผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง ตะเข็บตกแต่ง นาฬิกา Sport Chrono และชุดมาตรวัด รวมไปถึง เข็มขัดนิรภัยและปุ่มหลายจุดบนคอนโซลกลาง ก็ถูกออกแบบโดยใช้สี Turbonite เช่นกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่ เพิ่มวัสดุตกแต่งลายคาร์บอนผสานกรอบโทน Neodyme และเพดานบุไมโครไฟเบอร์เจาะรู (Perforated Microfiber) พร้อมชั้นรองสีดำ เพื่อยกระดับความหรูหราและเอกลักษณ์ของห้องโดยสาร
ปอร์เช่ยังติดตั้งไฟหน้า HD Matrix LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมฟังก์ชันไฟส่องสว่างอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องขับขี่ในเวลากลางคืน รวมไปถึง Sport Chrono Package พร้อมมาตรวัดอุณหภูมิยาง ระบบช่วงล่าง PASM ปรับเฉพาะรุ่น ระบบควบคุมการโคลงไฟฟ้า–ไฮดรอลิก PDCC และท่อไอเสียสปอร์ตไทเทเนียม เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และภายในมีการติดตั้งเบาะ Sport Seats Plus แบบปรับไฟฟ้า 18 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันจำตำแหน่ง และตัวอักษร “Turbo S” บนพนักพิงศีรษะที่เป็นมาตรฐานจากโรงงาน และลายปั๊มนูน Turbo S บนเบาะและแผงประตู ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ของ 911 Turbo 930 รุ่นแรก ทั้งยังมีเบาะสปอร์ตน้ำหนักเบาแบบพับได้ที่คุ้นเคยมาจาก 911 GT3 ให้เลือกเป็นออปชันสำหรับรุ่นคูเป้
ตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย
สำหรับตัวเลือกการปรับแต่งที่มากขึ้น สามารถเลือกปรับแต่งผ่าน Porsche Exclusive Manufaktur โดยนอกจากสีตัวถังในแพ็คเกจ Paint to Sample ที่มีให้เลือกมากกว่า 100 เฉดสี ยังสามารถเลือกปรับแต่งล้อ Turbo Exclusive Design แผ่นคาร์บอนพ่นสี Neodyme หลังคาคาร์บอนน้ำหนักเบา ไฟท้ายและช่องดักอากาศด้านหลังแบบ Exclusive Design และยังเป็นครั้งแรกที่สามารถเลือกก้านปัดน้ำฝนคาร์บอน ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าปกติถึง 50% พร้อมทั้งยังสามารถปรับแต่งภายในเพิ่มเติมได้ทั้ง ตะเข็บตกแต่งสีตัดกัน การปั๊มนูนชื่อเฉพาะ คอนโซลเบาะและแผงข้างประตูหุ้มหนังพร้อมตะเข็บตกแต่งสุดประณีต รวมถึงกุญแจพ่นสีเฉพาะบุคคล
911 Turbo S บนข้อมือคุณ
Porsche Design Timepieces Configurator เปิดโอกาสให้คุณได้ออกแบบรถยนต์สปอร์ตบนข้อมือของคุณได้ โดยสามารถปรับแต่งให้เหมือนกับ 911 เทอร์โบ เอส ได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุก ๆ รายละเอียด หน้าปัดสีดำรุ่นใหม่มาพร้อมกับองค์ประกอบในโทน Turbonite ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของตัวรถ และนอกจากสี Turbonite แล้ว สีตัวถังในทุกเฉดสี (รวมถึงสีที่สั่งทำเฉพาะ) ยังสามารถนำมาปรับแต่งรอบหน้าปัดนาฬิกาได้ โดยตัวเรือนทำมาจากไทเทเนียมเคลือบสีดำและสายทำมาจากหนังและด้ายจากภายในรถยนต์ปอร์เช่ ซึ่งไฮไลต์คือตัวอักษร “Turbo S” ที่จะถูกปั๊มลงบนสาย โดยนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยกลไก Porsche Design Caliber WERK 01.200 พร้อมการรับรอง COSC และฟังก์ชัน Flyback โรเตอร์ขึ้นลานที่สามารถเลือกได้ สะท้อนดีไซน์จากล้อของ 911 Turbo S หลายรุ่น พร้อมตราสัญลักษณ์ของปอร์เช่ ในสี Turbonite ที่เป็นเอกลักษณ์ และในด้านหลังตัวเรือนสามารถสลักข้อความได้ โดย Chronograph 911 Turbo S ทุกเรือนจะถูกสั่งผลิตด้วยมือแบบสั่งทำพิเศษที่โรงงานนาฬิกาปอร์เช่ในเมืองเกรนเชน (Grenchen) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พร้อมเปิดให้สั่งซื้อแล้ววันนี้
911 เทอร์โบ เอส ใหม่ เปิดให้สั่งจองแล้ววันนี้ในประเทศไทย โดยราคาสำหรับ 911 เทอร์โบ เอส รุ่นคูเป้ เริ่มต้นที่ 27,900,000 บาท และราคาสำหรับ 911 เทอร์โบ เอส รุ่นคาบริโอเลตเริ่มต้นที่ 29,200,000 บาท โดยคาดว่าทั้ง 2 รุ่นจะสามารถส่งมอบ์ได้ในช่วงกลางปี 2026
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
เบนท์ลีย์ แบงค็อก x วัน แบงค็อก จัดกิจกรรม Wellbeing Drive พาลูกค้าท็อปเทียร์สัมผัสประสบการณ์ใส่ใจสุขภาพ ณ RXV Wellness Village Sampran

เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมกับ วัน แบงค็อก จุดหมายปลายทางของการชอปปิงและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ใจกลางเมือง จัดกิจกรรม Bentley Bangkok Wellbeing Drive เชิญลูกค้าคนพิเศษ สมาชิกวัน แบงค็อก ในโปรแกรม One Bangkok Membership ระดับ Ambassador — สมาชิกระดับสูงสุดที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์เหนือใคร สะท้อนเอกสิทธิ์และประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟในทุกมิติที่วัน แบงค็อก ร่วมสัมผัสประสบการณ์การใส่ใจสุขภาพด้วยศาสตร์การบำบัดและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ณ RXV Wellness Village Sampran พร้อมแวะส่งมอบความสุขให้กับเด็กๆ ด้วยการมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ณ หมู่บ้านเด็กเฉลิมพระเกียรติ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 23-24 และ 30-31 สิงหาคมที่ผ่านมา

คณะฯ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดนครปฐม พร้อมกับลูกค้าผู้ร่วมกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับสมรรถนะและประสิทธิภาพของรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Bentayga Hybrid รถยนต์แบบอเนกประสงค์ที่ออกแบบอย่างหรูหราและร่วมสมัยกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นในแบบฉบับของรถยนต์เบนท์ลีย์ไปตลอดเส้นทาง โดย Bentley Bentayga Hybrid คือ ยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ระดับ Ultra Luxury SUV ที่มาพร้อมกับสมรรถนะและประสิทธิภาพในการขับขี่จากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 แบบไฮบริดที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ในระยะทางไกลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ในแบบ The Finest Drive ที่ตัวรถได้ผสานเอาความเร้าใจและความสะดวกสบายในการขับขี่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์แบบอเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน พร้อมกับสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยเทคโนโลยีและพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เบนท์ลีย์

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด และ วัน แบงค็อก ได้เห็นถึงคุณค่าของการแบ่งปันที่จะมีส่วนในการสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่ด้วยการมอบของใช้ที่จำเป็น เครื่องอุปโภค-บริโภคให้แก่หมู่บ้านเด็กเฉลิมพระเกียรติ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จังหวัดนครปฐมสำหรับใช้ตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน โดยได้รับเกียรติจาก คุณมนตรี ปทัฏฐานมนตรี ผู้อำนวยการหมู่บ้านเด็กเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมด้วยตัวแทนเยาวชนร่วมรับมอบสิ่งของจากทางคณะฯ

หลังจากการทำกิจกรรมเพื่อสังคม คณะฯ เดินทางสู่ RXV Wellness Village Sampran (อาร์ เอ็กซ์ วี เวลเนส วิลเลจ สามพราน) จุดหมายใหม่ของคนใส่ใจสุขภาพที่ครบครันที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์ริมแม่น้ำท่าจีนในอำเภอสามพราน ลูกค้าผู้ร่วมกิจกรรมได้รับการบำบัดและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ผสมผสานกับศาสตร์การแพทย์แผนไทยและแผนโบราณ การแพทย์แบบตะวันตก การแพทย์สมัยใหม่ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการใช้ธรรมชาติในการบำบัดเข้าด้วยกันอย่างลงตัวผ่านโปรแกรมทรีตเมนต์และเวิร์กชอปต่างๆ ที่ถูกออกแบบและพัฒนาเฉพาะบุคคล (Personalised Programme) โดยนักกิจกรรมบำบัดผู้มีความชำนาญเฉพาะด้านเพื่อส่งเสริมการทำงานทั้งร่างกาย สมอง จิตใจ และอารมณ์ โดยลูกค้าผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสเลือกโปรแกรมการรักษาควบคู่การบำบัดด้วยการแพทย์แผนตะวันออกและตะวันตกกว่า 100 รายการ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมเวิร์คช็อปส่งเสริมสุขภาพกับการเอาใจใส่ การดูแล และการบริการอย่างพิถีพิถัน พร้อมลิ้มรสเมนูอาหารที่หลากหลายตามหลักโภชนาการเพื่อการปรับสมดุล ฟื้นฟู เสริมสร้าง และบำบัดสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับผู้ที่สนใจสัมผัสประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับการเลือกครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับเบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
ฮอนด้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ดีเยี่ยมสู่ลูกค้าอย่างยั่งยืนผ่านการแข่งขัน Honda Skill Contest 2025 สะท้อนความพร้อมและความแข็งแกร่งในการยกระดับการขายและบริการอย่างต่อเนื่อง

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาการขายและบริการในทุกมิติ ด้วยการจัดการแข่งขันทักษะพนักงานฮอนด้า ประจำปี 2568 หรือ “Honda Skill Contest 2025” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 35 ตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน ผ่านการส่งเสริมศักยภาพและความเชี่ยวชาญของบุคลากรในเครือข่ายผู้จำหน่ายกว่า 222 แห่งทั่วประเทศ โดยการแข่งขันครอบคลุมทั้งการขายและบริการหลังการขาย รวม 10 ประเภท ได้แก่ ที่ปรึกษาการขาย ที่ปรึกษาการบริการ พนักงานลูกค้าสัมพันธ์ พนักงานช่างซ่อมทั่วไป พนักงานช่างซ่อมตัวถังและสี พนักงานอะไหล่ พนักงานช่างบริการตามระยะแบบคู่ ที่ปรึกษาการบริการซ่อมตัวถังและสี พนักงานตรวจสอบคุณภาพรถใหม่ และครูฝึกขับขี่ปลอดภัย สะท้อนรากฐานความพร้อมอันมั่นคงของแบรนด์ในการเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาบุคลากรระดับมืออาชีพ ให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า และสร้างความมั่นใจระยะยาวให้เกิดขึ้นตลอดการใช้งาน เพื่อรักษาความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าตลอดไป
นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ดำเนินธุรกิจโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (customer-centric) ผ่านการส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ แต่รวมถึงการบริการที่เป็นเลิศในทุกมิติ ซึ่งหัวใจสำคัญของทั้งหมดนี้คือ ‘บุคลากร’ ในทุกภาคส่วนจากเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้ง 222 แห่งทั่วประเทศ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสร้างความประทับใจในทุกทัชพอยต์ ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านและการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์กลุ่ม xEV กิจกรรม Honda Skill Contest ที่จัดต่อเนื่องมากว่า 3 ทศวรรษ จึงมีบทบาทสำคัญที่ไม่ใช่แค่เวทีแข่งขันทักษะฝีมือ แต่เป็นกลไกในการส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ และยกระดับขีดความสามารถของพนักงานผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ และการบอกต่อในวงกว้าง ซึ่งล้วนเป็นพลังสำคัญที่หล่อหลอมรากฐานอันแข็งแกร่งให้ฮอนด้าเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
การแข่งขัน Honda Skill Contest 2025 ครั้งที่ 35 ในปีนี้จัดขึ้นอย่างเข้มข้น โดยมุ่งส่งเสริมศักยภาพบุคลากรให้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการและมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้า สร้างความมั่นใจและการดูแลระยะยาวในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะและความพร้อมของผู้จำหน่าย เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์
ในกลุ่ม xEV และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ในอนาคตการแข่งขัน Honda Skill Contest 2025 เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีการคัดเลือกพนักงานจากผู้จำหน่ายฮอนด้าทั่วประเทศกว่า 222 แห่ง รวมผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 2,201 คน ผ่านการประเมินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จนได้ผู้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจำนวน 120 คน ซึ่งเข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนการขายและบริการ
รายชื่อผู้ชนะเลิศ การแข่งขันทักษะพนักงานฮอนด้า Honda Skill Contest 2025 ทั้ง 10 ประเภท ได้แก่
- ประเภทที่ปรึกษาการขาย
ชลลดา สืบนุกูล บริษัท ธัญบุรี ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด
- ประเภทที่ปรึกษาการบริการ
ชนาพร วงคำมาตย์ บริษัท สุวินทวงศ์ ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด
- ประเภทที่ปรึกษาการบริการซ่อมตัวถังและสี
ณัฐวุฒิ นันนวน บริษัท พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด สาขาสำโรง
- ประเภทพนักงานลูกค้าสัมพันธ์
สิชฌนา สังข์ชุม บริษัท ฮอนด้า เทิดพระเกียรติ นครศรีธรรมราช จำกัด
- ประเภทพนักงานอะไหล่
ฐิติ ฉวีอินทร์ บริษัท กำแพงเพชร ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด สาขาสลกบาตร
- ประเภทพนักงานช่างซ่อมทั่วไป
วิโรจน์ นาคกัน บริษัท เอชซีเอ็น ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด สาขาพระราม 5
- ประเภทพนักงานช่างซ่อมตัวถังและสี
วรดร คำพระจันทร์ และศราวุธ กระต่ายเทศ บริษัท ฮอนด้าคาร์ส นครสวรรค์ จำกัด สาขาเขาเขียว
- ประเภทพนักงานช่างบริการตามระยะแบบคู่
วัลรพ สุภาผล และพรพจน์ การสมพิศ บริษัท ฮอนด้าคาร์ส นครสวรรค์ จำกัด สาขาเขาเขียว
- ประเภทพนักงานตรวจสอบคุณภาพรถใหม่
ธีระบูลย์ แก่นพะเนาว์ บริษัท สระบุรีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด
- ประเภทครูฝึกขับขี่ปลอดภัย
ยุทธนันท์ หอมกลิ่น บริษัท วี. กรุ๊ป ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด สาขาบางกอกน้อย
โดยผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ Silver Trophy โล่รางวัลใบประกาศเกียรติคุณ เงินรางวัล และได้รับการจารึกชื่อที่หอเกียรติยศ ณ ศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนการขายและบริการ พร้อมทั้งเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำประสบการณ์มาใช้ต่อยอดในการทำงานต่อไป
นอกจากพนักงานฮอนด้าที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ที่พร้อมให้บริการลูกค้า ฮอนด้ายังมาพร้อมบริการพิเศษฟรี ที่ทำให้การซื้อรถยนต์ฮอนด้าคันใหม่ของลูกค้าอุ่นใจ อาทิ “การรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี” ที่มาพร้อมกับ “บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง”
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังมีบริการเสริมสำหรับลูกค้าเพิ่มเติม อาทิ
- “Honda Ultimate care” ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง* ให้ลูกค้าจ่ายเบา ๆ ในราคาที่สุดคุ้ม
- “Honda PaySave แพ็กเกจเช็กระยะ” ลดค่าแรงค่าอะไหล่สูงสุด 15%* ซึ่งมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าในการบำรุงรักษารถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานของฮอนด้าทั่วประเทศ
- พร้อมมอบความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการเข้ารับบริการ เพียงลูกค้านัดหมายและยืนยันเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่าน “Online Service Booking” ที่ https://servicebooking.honda.co.th หรือทาง LINE Official Account (@Honda-Thailand) ท่านสามารถเลือกใช้การบริการต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ อาทิ
- “Honda Drop & Go”* บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ สะดวกรวดเร็วตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ เพียงลูกค้านัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้า พร้อมแจ้งรายละเอียดการเช็กระยะ เมื่อถึงวันนัดหมาย ลูกค้าสามารถนำรถเข้าศูนย์บริการพร้อมฝากกุญแจ ณ จุดบริการได้เลย
- “Honda Quick Service”* บริการเช็กระยะแบบเร่งด่วนตามระยะทาง นัดหมายล่วงหน้าในการบริการเช็กระยะแบบเร่งด่วน ให้ลูกค้าสามารถนำรถยนต์เข้าเช็กระยะทุกๆ 10,000 กิโลเมตร ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยบริการที่อบอุ่น มั่นใจกับทีมช่างเช็กระยะแบบคู่ที่ชำนาญ อะไหล่ที่ได้มาตรฐาน ใส่ใจคุณภาพงานซ่อม โดยสามารถรอรับรถกลับได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 60, 90 และ 120 นาที (ขึ้นอยู่กับประเภทของงานเช็กระยะ)
- “Honda Body & Paint”* บริการซ่อมตัวถังและสี ด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ด้านงานบริการซ่อมตัวถังและสีโดยเฉพาะ และนวัตกรรมการซ่อมสีด้วยสูตรน้ำ (Waterborne) ที่ทำให้สีรถดูสวยเงางาม คงทนในทุกสภาวะ โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันทำการ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการได้ที่ https://www.honda.co.th/service
ฮอนด้า เชื่อมั่นว่าการพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงานจากผู้จำหน่ายฮอนด้าทั่วประเทศผ่านกิจกรรม Honda Skill Contest จะช่วยยกระดับมาตรฐานการขายและการบริการของฮอนด้าให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าตลอดการเป็นเจ้าของในระยะยาว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
สู่บัลลังก์แชมป์! NEXZTER BRIC Superbike 2025 สนาม 3 ชิงดำสุดเข้มข้น ระเบิดความมันส์ 26-28 ก.ย. นี้

ศึกสองล้อเบอร์หนึ่งของไทย “เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” พร้อมระเบิดศึกชิงเจ้าความเร็ว สนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 26-28 กันยายนนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กับการดวลความเร็วเพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงและโอกาสคว้าแชมป์ประจำปีในทุกรุ่น! ด้านบอสใหญ่ “ตนัยศิริ” ยืนยันความมันส์เต็มพิกัด ชวนแฟนความเร็วร่วมชมและเชียร์บทสรุปสุดเข้มข้น พร้อมชี้ชะตาแชมป์ของฤดูกาล!
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ NEXZTER BRIC Superbike Championship (เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ) ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักบิดทั้งไทยและต่างชาติ อาทิ อังกฤษ, อเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิตาลี, รัสเซีย, อินเดีย, ญี่ปุ่น ฯลฯ ด้วยมาตรฐานการจัดการ และโครงสร้างพื้นฐานของสนามแข่งระดับ MotoGP นอกจากนี้ ผู้ชนะยังได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดเข้าร่วมแข่งขันในรายการใหญ่ระดับทวีปอย่าง “เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ” 2026 ซึ่งถือเป็นบันไดก้าวสำคัญสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง

เปิดสถานการณ์คะแนนสะสม หลังผ่าน 2 สนามแรกของปี
สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในรุ่นใหญ่สุดของเมืองไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1 Pro) ตัวเต็งอันดับหนึ่งของรุ่น “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จากอีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม แชมป์ประเทศไทยหลายสมัยและสร้างชื่อในเวทีระดับนานาชาติมากมาย ยังคงนำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนน 45 แต้ม ตามมาด้วยอันดับ 2 อย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี นักบิดจอมเก๋า จากโปร ฮอนด้า บริดจสโตน อันเดรียนี เบนดิกซ์ เอเอ็น เรซซิ่ง ทีม ผงาดคว้าชัยชนะในสนามแรกของปี ทำให้มีคะแนนตามหลังเพียง 4 แต้ม รวม 41 คะแนน และ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว นักบิดดาวรุ่งสายเลือดใหม่จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส อยู่ในอันดับ 3 มี 33 คะแนน

ด้าน “เบนซ์ เรซซิ่ง” อริย์ธัช วรโรจน์เจริญเดช นักบิดคนดังจาก เรปโซล อาร์-ซีรีส์ ทีม ที่ลงแข่งในรุ่น SB2 มีคะแนนสะสมมาเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนน 36 แต้ม ซึ่งยังมีโอกาสขยับขึ้นไปลุ้นโพเดียมในอันดับที่สูงขึ้นได้ในทุกเรซ
ส่วนการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี (ST1) อันดับ 1 นทีธาร ทองโคตร จากทีม ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส ฟอร์มร้อนแรงและคว้าแชมป์ 2 สนามติดต่อกัน มีคะแนนสะสม 50 คะแนนเต็ม อันดับ 2 ตะวัน ตั้งจิตรเจริญกุล นักบิดดาวรุ่งจาก ทีเค ฮอนด้า อิเดมิตสึ สิทธิผล ดิเรก ทีม อันดับ 3 อภิเดช บุญศรี จาก ฮานูยา เรซซิ่ง ทีม เพิ่มสินทรานสปอร์ต พรเจริญ มีคะแนนสะสม 29 คะแนน
ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1Pro) การแข่งขันในรุ่นนี้ยังคงเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด อันดับ 1 “ไฮเปค” กฤษฎา ธนะโชติ จาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม นำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนสะสม 50 แต้ม ส่วน “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร ดาวรุ่งดีกรีนักบิดจูเนียร์จีพีจากทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส และ “ต่อศักดิ์ นวลสาย” จาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนต์ส มีคะแนนเท่ากันที่ 36 คะแนน
ซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี (SS1Pro) พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง นักบิดจอมเก๋าจาก สปีด800 นำเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 41 คะแนน ตามด้วย ธุรกิจ บัวผา ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม 40 แต้ม และ พีรพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เค.วาย.บี ไอ.อาร์.ซี. ดี.ไอ.ดี โก๋ท่ามะกา ทีม มี 29 แต้ม
บอสใหญ่ “ตนัยศิริ” ยืนยันความมันส์เต็มพิกัด
ด้านนาย ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวถึงความน่าสนใจของสนามที่ 3 นี้ว่า “การแข่งขันในช่วงกลางฤดูกาลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคะแนนสะสมจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น และเราจะได้เห็นการช่วงชิงตำแหน่งจ่าฝูงที่ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเข้าสู่สนามที่ 3 จะเป็นจุดชี้วัดสำคัญของนักแข่งหลายๆ คนที่ต้องการลุ้นแชมป์ประจำปี”
“สนามนี้จะเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงของนักแข่งทุกคน ทั้งในด้านความสามารถและความแข็งแกร่งของทีม ซึ่งแฟนๆ จะได้สัมผัสกับเกมการแข่งขันที่เข้มข้นและสนุกทุกโค้ง โดยการแข่งขันรายการนี้ เปิดให้เข้าชมที่สนามและถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในประเทศและทั่วโลก ได้ชมกันอย่างเต็มอิ่มเช่นเคย” นายตนัยศิริ กล่าวทิ้งท้าย

มาร่วมติดตามการแข่งขันและให้กำลังใจนักบิดไทยได้ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่หน้างาน วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม และ วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม บริเวณทางขึ้น Grandstand ราคาเพียง 100 บาท/วัน, บัตรวีไอพี 500 บาท / 1 วัน! ร่วมกิจกรรมพิตวอล์ค กระทบไหล่นักบิด พร้อมกิจกรรมความสนุก ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย ในวันอาทิตย์ เวลา 11.40-12.10 น. “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”
ทั้งนี้ ศึก “เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” สนามที่ 3 จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 27 ก.ย. และปิดท้ายรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย.นี้
พิเศษ! บัตรชมการแข่งขัน “เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่บัตร VIP โค้ง 12 และบัตร Paddock Pass + Official Guide Tour (Paddock Raffle) และบัตร PIT Lane Walk ชมการแข่งขันโมโตจีพี 2026 ในกิจกรรม “Chang Int’s Friend Pass” เพียงถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง และบัตรชมการแข่งขัน ภายในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แล้วโพสต์รูปลง Facebook ส่วนตัวและบรรยายความรู้สึก พร้อมติด #ChangFriendPass และ Tag ไปยังเพจ Chang Circuit Buriram รวมถึงเปิดเป็นสาธารณะ และ Capture ภาพที่โพสต์ส่งมาที่ inbox เพจ Chang Circuit Buriram เพื่อยืนยันร่วมกิจกรรม
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ Chang Circuit Buriram และ BRIC Superbike 2025
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
GWM ค้นหาฮีโร่ตัวจริง ปลุกพลังบวก ชวน TANKER ทั่วประเทศ แชร์โมเมนต์สุดประทับใจในแคมเปญ “TANK HERO MOMENT”

GWM (Thailand) มุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก โดยยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” นอกจากความมุ่งมั่นส่งมอบยานยนต์ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ทุกเส้นทางแล้ว แต่รถยนต์ทุกรุ่น ทุกขุมพลังของ GWM ยังเป็นเพื่อนคู่ใจของผู้ขับขี่ที่พร้อมออกผจญภัยไปกับชีวิตจริง และครั้งนี้ GWM ได้ต่อยอดพลังของคอมมูนิตี้ “TANKER CLUB” ให้ก้าวไปอีกระดับ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ผู้ใช้ TANK ทุกรุ่น ได้แบ่งปันความเป็น ‘ฮีโร่’ ที่มีอยู่ในตัวเอง ภายใต้แคมเปญล่าสุด “TANK HERO MOMENT” ครั้งแรกในประเทศไทย! ชวน TANKER จากทั่วทุกมุมของประเทศร่วมถ่ายทอดช่วงเวลาแห่งความกล้าหาญ ท้าทาย ความมีน้ำใจ และแรงบันดาลใจ ผ่านภาพถ่ายหรือรูปแบบวิดีโอภายใต้เรื่องจริง เพื่อร่วมสร้างพลังบวกให้กับคอมมูนิตี้ TANKER และสังคมไทย พร้อมลุ้นเป็น TANK HERO of THE MONTH และ TANK HERO of THE YEAR รับรางวัลจากการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ในทุกเดือนและปี ตั้งแต่ 1 กันยายน 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568
เพราะ “ฮีโร่” สามารถปรากฏขึ้นได้ในหลายแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการยืนหยัดเพื่อดูแลตัวเอง การมอบพลังและความห่วงใยให้กับคนรอบข้าง หรือการลุกขึ้นมาทำสิ่งเล็ก ๆ ที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ต่อสังคม ทุกโมเมนต์ล้วนสะท้อนความหมายของการเป็น “ฮีโร่” ในแบบที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น
- Self: การเป็นฮีโร่เพื่อตัวเอง ผ่านการพัฒนาศักยภาพและการเดินทางตามเป้าหมายชีวิต
- Family & Friends: การเป็นฮีโร่เพื่อครอบครัวและเพื่อน ด้วยการดูแล ยืนเคียงข้าง และเป็นกำลังใจ
- Society: การเป็นฮีโร่เพื่อสังคม ผ่านการช่วยเหลือชุมชน และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

กติกาและรูปแบบกิจกรรม
- TANK HERO of The Month ประจำเดือนกันยายน
- ผู้ใช้งานรถ GWM TANK 300 และ NEW GWM TANK 500 ถ่ายภาพโมเมนต์ที่ผู้ใช้ภาคภูมิใจ พร้อมเล่าเรื่องราวฮีโร่ในนิยามของตัวเอง
- โพสต์เรื่องราวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของผู้ใช้ ในรูปแบบรูปภาพหรือวิดีโอ ตั้งโพสต์เป็นสาธารณะ
พร้อมติดแฮชแท็ก #TANKHEROMOMENT และแท็ก @GWMTANKTHAILAND และ @GWMTHAILAND - ผู้ใช้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่ถูกใจคณะกรรมการมากที่สุดจะได้รับรางวัล เหรียญ TANK HERO MOMENT จำนวน 1 เหรียญ 2. แจ็กเก็ต TANK HERO MOMENT จำนวน 1 ตัว และ 3. AED เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้ายี่ห้อ Yuwell จำนวน 1 เครื่อง มูลค่ารวมของรางวัลทั้งสิ้น 57,500 บาท
- ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน – 30 กันยายน 2568 (ภายในเวลา 23.59 น.)
- ประกาศผลประจำเดือนกันยายนในวันที่ 6 ตุลาคม 2568 เวลา 18.00น. ทาง Facebook Page: GWM TANK THAILAND
- กิจกรรม TANK HERO of The Month จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Page: GWM TANK THAILAND
- TANK HERO of The Year 2025
- เมื่อได้รับ TANK HERO of The Month ครบทุกเดือนแล้ว ผู้ชนะจะถูกนำมาคัดเลือกรวม และเปิดให้คนร่วมโหวตออนไลน์ เพื่อค้นหาสุดยอด TANKER ประจำปี พร้อมรับรางวัลชนะเลิศ แพ็กเกจที่พักสุดเอ็กซ์คลู-ซีฟโรงแรม Cape Nidhra หัวหิน มูลค่า 34,000 บาท
- ผู้ร่วมโหวตสามารถกด Like & Comment ใต้โมเมนต์ที่ชื่นชอบ พร้อมเหตุผลที่โดนใจ หากผ่านเกณฑ์คัดเลือก จะได้รับรางวัล Starbucks Card มูลค่า 500 บาท จำนวน 15 รางวัล มูลค่ารวม 7,500 บาท
หมายเหตุ ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขและข้อกำหนดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3VJMfrn

หนึ่งในจุดเด่นของแคมเปญ “TANK HERO MOMENT” คือการเลือกของรางวัลเป็น AED เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนความโดดเด่นของแคมเปญและจิตวิญญาณที่แท้จริงของ TANKER ได้อย่างชัดเจน ฉีกจากแคมเปญโดยทั่วไปโดยสิ้นเชิง
โดยเครื่อง AED นี้ไม่เพียงจะช่วยเหลือครอบครัวของ TANKER ในเหตุการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย การเลือกของรางวัลนี้สะท้อนจิตวิญญาณที่โดดเด่นของแบรนด์ GWM และจิตวิญญาณนี้เองจะดึงดูดให้ผู้ที่สนใจให้อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว TANK มากขึ้นเรื่อย ๆล่าสุด สมาชิก TANKER ในไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นรวมแล้วกว่าเกือบ 6,000 คน โดยเมื่อไม่นานมานี้ TANKER CLUB ได้มีโอกาสต้อนรับ “ป้อง ณวัฒน์” เข้าสู่คอมมูนิตี้รายล่าสุดแล้วเป็นที่เรียบร้อยกับรถ SUV พรีเมียม 7 ที่นั่งคู่ใจอย่าง NEW GWM TANK 500 DIESEL สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน GWM TANK ทั่วประเทศ ที่มี “TANK SPIRIT” หรือจิตวิญญาณเดียวกัน ทั้งในแง่ความเป็นตัวของตัวเอง (Independent), จิตใจที่เปิดกว้างและพร้อมแบ่งปัน (Good at Heart), ความอิสระในการใช้ชีวิต (Freedom), ความรักและศรัทธาในสิ่งที่เลือก (Love & Passionate) มีชีวิตชีวาพร้อมพลังในการสร้างสรรค์ (Active) และความพร้อมในการออกเดินทางผจญภัยในทุกเส้นทาง (Adventurous)
เบื้องหลังทุกการเดินทางของ GWM TANK ไม่ได้มีเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สะท้อนความเป็นฮีโร่ในแบบที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งคือการเอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง บางครั้งคือการอยู่เคียงข้างครอบครัวและเพื่อน
หรือบางครั้งคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมรอบตัว แคมเปญ TANK HERO MOMENT จึงเป็นการเชิญชวนให้ทุกคนออกมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ เพื่อให้ทุกโมเมนต์ฮีโร่ถูกบันทึกและส่งต่อเป็นพลังบวกให้กับโลกใบนี้#TANKHEROMOMENT #GWM #GWMTH #GWMThailand #GWMTANK #GWMTANK300 #GWMTANK500
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ EV One Station พลิกโฉมการเดินทางสู่ยุคพลังงานสะอาด ด้วย Ultra-Fast Charger เทคโนโลยี Liquid-Cooled Ultra-Fast DC 720kW Charger ที่ชาร์จเร็วที่สุด ใจกลางเมือง!

EV One Station เปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมหัวชาร์จ Ultra Fast Charger และหัวชาร์จ Boots Charger ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 720 kW รองรับรถทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคล รถ SUV รถตู้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ไปจนถึงรถสปอร์ตไฟฟ้า ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี Liquid-Cooled Ultra-Fast DC 720kW Charger ที่เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุด
พิธีเปิดอย่างเป็นทางการนี้จัดขึ้นที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV One Station at One complex ในวันที่ 9 กันยายน 2568 EV One Station เน้นการผสมผสาน นวัตกรรมเทคโนโลยี และมีทีมงานคุณภาพสูง ครอบคลุมตั้งแต่วิศวกรด้านพลังงานไฟฟ้า ผู้เชี่ยวชาญระบบดิจิทัลโดยทีมงานมืออาชีพและการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Huawei Service Partner มุ่งมั่นให้ทุกการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่าย พร้อมมอบประสบการณ์การชาร์จที่เหนือกว่าให้กับคนรักรถ EV และตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดของไทยที่ไม่ใช่แค่สถานีชาร์จ แต่คือ อนาคตของการเดินทางมิติใหม่ของการชาร์จที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง
ผู้ใช้บริการ EV One Station สามารถชาร์จได้อย่าง ง่ายดาย ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชัน เพียงแค่เสียบหัวชาร์จ ก็พร้อมใช้งานได้ทันที สะดวกสบายด้วยทำเลใจกลางเมือง สถานีชาร์จเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และระบบคิดค่าบริการแบบ “ชาร์จเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น” เพื่อให้ทุกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นเรื่องง่าย คุ้มค่า และทันสมัยอย่างแท้จริง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EV One Station และบริการต่าง ๆ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://elementenergy.io/aboutus หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางอีเมล service@elementenergy.io
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
ศูนย์การผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ไทย-เยอรมัน ร่วมภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เปิดเวทีสัมมนา 5-Axis Seminar 2025 5-Axis Seminar 2025 ให้ความรู้และยกระดับมาตรฐานการผลิตชิ้นส่วนไทย ด้านภาครัฐหนุ่นมาตรการภาษีลงทุนเทคโนโลยี-เครื่องจักรอัตโนมัติ

นายสิริวัฒน์ ไวยนิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) (ที่สามจากซ้าย) พร้อมด้วยนายรัชศักดิ์ เกิดภู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมชชีนเทค จำกัด (ที่สี่จากขวา) และนายสุรชัย ตั้งธราธร ประธานบริษัท เอช เอส เอ็ม แมชชีนเนอรี่ จำกัด (ที่สามจากขวา) ร่วมกันให้ความรู้และการพัฒนาด้านเทคโนโลยี 5 แกน และ ระบบอัตโนมัติ (Automation) รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 100% จากภาครัฐ สำหรับผู้ลงทุนด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรอัตโนมัติ ในงานแถลงข่าวการจัดเสวนา 5-Axis Seminar 2025 ภายใต้แนวคิด “5 แกน มาตรฐานใหม่ของการผลิต” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–3 ตุลาคม 2568 ณ อีสติน ธนาซิตี้ กอล์ฟ
รีสอร์ท กรุงเทพฯโดยภายในงานแถลงข่าวฯ ได้รับเกียรติจากนายโอลิเวอร์ พริพิช กรรมการผู้จัดการ (ที่สี่จากซ้าย) บริษัท เฮิร์มเลย์ เอสอีเอ จำกัด นายดีแลน คอร์ (ที่สองจากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทังกาลอยด์-เอ็นทีเค คัทติ้ง ทูล (ไทยแลนด์) จำกัด นายชูชาติ ศิวเวทกุล (คนแรกขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มายโกรว์เทค (ประเทศไทย) จำกัด นายกุลโชค โพธิ์พัฒนชัย (ที่สองจากซ้าย) ประธานและซีอีโอ กลุ่มบริษัท เอ.ไอ และ บริษัท เอ.ไอ เทคโนโลยี จำกัด และนายเคน คอนโดะ (คนแรกซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอคุม่า เทคโน (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และนำเสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตชิ้นส่วนแก่ผู้ประกอบการไทย เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับผู้สนใจหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสัมมนา 5-Axis Siminar 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 ตุลาคม 2568 ณ อีสติน ธนาซิตี้ กอล์ฟ รีสอร์ท บางนา กม.15 กรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่ อีเมล: contact@mreport.co.th หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.mreport.co.th
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Motocycle1 Min Read
Honda Academy Thailand ดวลมันส์! ศึกสุดท้าย “เปเปอร์-อนพัทย์” ควง “เบสต์-ภาสกร” บิดแย่งโพเดียมคนละเรซ

ปิดฉากฤดูกาล “ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ 2025” สนามที่ 6 ณ พีระ คาร์ท พัทยา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 6–7 กันยายน 2568 เข้มข้นสุดมันส์ ภายใต้โครงการ Race to the Dream โดยปีนี้นักบิดเยาวชน 13 คน ผ่านการฝึกอย่างเข้มข้น ทั้งร่างกายและทักษะการควบคุม Honda NSF100 และ Honda CBR150R ภายใต้การดูแลของโค้ชญี่ปุ่น มร.ชินอิจิ อิโต้ และทีมโค้ชไทย “โค้ชมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “โค้ชดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ร่วมวางแผนการฝึกโดยเน้นความแข็งแกร่งของร่างกาย

ซึ่งการฝึกปีนี้เน้นทักษะการขับขี่ด้วย Honda NSF100 และ Honda CBR150R ถือว่าเป็นรุ่นที่ผ่านโปรแกรมสุดหินกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยในสนามปิดฤดูกาลนี้ โค้ชได้เพิ่มความท้าทายด้วยการสลับไลน์จากวนขวาเป็นวนซ้าย พร้อมให้นักบิดวางแผนการขี่ตลอดการซ้อม 3 รอบ รอบละ 20 นาที ทีมโค้ชคอยเสริมและแก้จุดอ่อน ทำให้เวลาของทุกคนดีขึ้นต่อเนื่อง จนกลุ่มหัวแถวทำเบสต์แล็ปใกล้เคียงกับการวิ่งไลน์ปกติ ส่งผลให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความมันส์และตื่นเต้นตลอดเกม

ในเรซแรก “เปเปอร์” อนพัทย์ ดวงเจริญ หมายเลข 14 สตาร์ตกริดที่ 2 บิดแซง “เบสต์” ภาสกร แกล้วกล้า หมายเลข 13 เจ้าของโพลโพซิชั่น คว้าวินเนอร์ ขณะที่ “ซานต้า” จิรกร สุขคุ้ม หมายเลข 5 ตามเข้ามาในอันดับที่ 3

เรซสองจัดกริดใหม่ตามเวลาเบสต์แล็ปจากเรซแรก “เปเปอร์-อนพัทย์” คว้าโพลโพซิชั่นด้วยเวลา 1:05.900 นาที “เบสต์-ภาสกร” สตาร์ตกริดที่ 2 ด้วยเวลา 1:05.986 นาที “ซานต้า-จิรกร” สตาร์ตกริดที่ 3 ด้วยเวลา 1:06.389 นาที เกมดวลสุดสูสี และเป็น “เบสต์-ภาสกร” ที่พลิกแซงคว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ “ซานต้า-จิรกร” ควบคุมตำแหน่งและสามารถรักษาอันดับ 3 ได้อีกครั้ง

หลังจบเรซ ทีมโค้ชพูดถึงพัฒนาการของเด็กๆ ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ รุ่นนี้ “ทำผลงานยอดเยี่ยม” แสดงถึงความพยายามและฝีมือที่โดดเด่น โปรแกรมปี 2026 จะแจ้งให้แฟนๆ ติดตามผ่านเพจ Honda Academy Thailand, Honda Racing Thailand และ Race to the Dream
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaAcademy #ThaiHonda #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #HondaRacingThailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
“มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ” มอบเงินกว่า 3.5 ล้าน สานต่อเจตนารมณ์สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม

มร. ทาคาชิ ฮาตะ ประธานกรรมการมูลนิธิกลุ่มอีซูซุ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ยึดมั่นในวิสัยทัศน์องค์กร คือ “วิถีอีซูซุ : ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา” เดินหน้าสานต่อภารกิจอันเป็นประโยชน์เพื่อสังคม ประจำปี พ.ศ. 2568 มอบเงินสนับสนุน มูลค่ารวม 3,580,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีก 1,500,000 บาท สำหรับ 6 โครงการ ได้แก่
- ทุนการศึกษาแก่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
- ทุนการศึกษาสำหรับผู้ทุพลลภาพแก่สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการ
- เงินสนับสนุนมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
- อุปกรณ์การเรียนแก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
- เงินสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เซลล์แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
- และอุปกรณ์จราจรแก่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติรวม 7 หน่วยงาน
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ครอบคลุมทั้งการศึกษา การดำรงชีวิต ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตลอดจนการเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
PT Maxnitron Racing Series 2025 จบสนามที่ 3-5 เตรียมระเบิดความมันสนามสุดท้ายที่ จ. สงขลา 16 – 19 ต.ค. นี้

รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ PT Maxnitron Racing Series 2025 กับการแข่งขันใน สนามที่ 3-5 ที่จัดขึ้นในวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักแข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความเร้าใจ ด้วยจำนวนรถที่เข้าร่วมหลากหลายรุ่น พร้อมการขับเคี่ยวที่เข้มข้นในทุกสนาม ส่งผลให้ PT Maxnitron Racing Series ยังคงตอกย้ำความเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยและระดับภูมิภาค สะท้อนถึงความนิยมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของรายการนี้

PT Maxnitron Racing Series ยังคงยกระดับมาตรฐานการแข่งขันในทุกปี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้สนับสนุนที่สำคัญจากพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG), PT Maxnitron (น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง), Autobacs (ศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ครบวงจร), กาแฟพันธุ์ไทย, Subway, Kela, Yokohama, Nexzter, KG Solar, FBT, Max Wash, Wise, BK Clutch, BRD, S63 Project รวมถึง บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่สนับสนุนรถ Safety Car และยังได้รับความร่วมมือจาก Media Partner ได้แก่ Mono29, Monomax, Sports1 และ TV Pool สื่อประชาสัมพันธ์ในการเผยแพร่กิจกรรมไปสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง และนอกจากรายการ PT Maxnitron Racing Series 2025 ยังคงมี Support Race จาก Honda City Hatchback One Make Race โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสัน ยังไม่เพียงเท่านั้นยังมี Club Race จาก Honda Club, Special Racing Club และ TTR Academy Club ซึ่งเป็นรายการที่เหมาะสำหรับนักแข่งมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างเป็นระบบ โดยมีมาตรฐานการแข่งขันที่ชัดเจน และถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันและพัฒนานักแข่งรุ่นใหม่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

โดยมีการปรับแผนการแข่งขัน โดยแยกการแข่งรุ่น Siam Eco และ Siam Group N อย่างเป็นทางการ เพื่อให้การแข่งขันลื่นไหลและขยายเวลาจนถึงช่วงค่ำในรูปแบบ “Twilight Race” ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ความมันไปอีกขั้น รับประกันความสนุกเร้าใจยิ่งกว่าเดิม โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่
- Siam GT
- Siam Truck
- Siam 1500 Group A
- Siam Group N
- Siam Eco
เตรียมพบกับสนามสุดท้ายแห่งปีที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตตั้งตารอกับรายการ PT Songkhla Grand Prix 2025 ซึ่งเป็นการแข่งขันในสนามที่ 6-7 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 19 ตุลาคม 2568 ณ พีที สงขลา กรังด์ปรีซ์ จังหวัดสงขลา พิเศษยิ่งกว่าเดิมกับ “Speedtopia” ที่ยกขบวนความสนุกมาแบบจัดเต็ม ทั้งกิจกรรมสุดมันส์ Songkhla Balance Bike, Mr. Fiight และไฮไลท์เด็ดกับการลุ้นรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Achi Giorno PTRS Edition 2025” ที่แฟน ๆ ยังมีสิทธิ์คว้ากลับบ้านเช่นเคย
ผู้สนใจสามารถรับชมการถ่ายทอดสด และติดตามได้ที่
Facebook : www.facebook.com/ptmaxnitronmotorsport
Instagram : www.instagram.com/pt.maxnitron.motorsport
YouTube : www.youtube.com/@ptmaxnitronmotorsport87
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine




















































































































































