-
News Car1 Min Read
พีทีจี จับมือ เตรียมอุดมศึกษา จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ TU Co-Learning Space by PTG เปิดพื้นที่การศึกษานอกตำราสู่โลกแห่งการทำงานจริง

จากแนวคิดและจุดร่วมเดียวกัน คือความเชื่อในพลังของการเรียนรู้ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จึงได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ TU Co-Learning Space by PTG ต้นแบบแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านอาหารที่ได้มาตรฐานในเครือพีทีจี โดยร่วมกันออกแบบหลักสูตรการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) นอกห้องเรียน ที่เชื่อมโยงประสบการณ์จริง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และพัฒนาทักษะสู่การเป็นผู้ประกอบการในอนาคต

ดร.บุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เปิดเผยว่า “ศูนย์การเรียนรู้ ‘TU Co-Learning Space by PTG’ เป็นพื้นที่เรียนรู้รูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานระหว่างการเรียนในโรงเรียนกับโลกการทำงานจริง นักเรียนจะได้ฝึกคิด ฝึกทำ ได้พบกับผู้เชี่ยวชาญ และสถานการณ์จริง เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต เช่น การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม พร้อมทั้งได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากบรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย สะอาด สวยงาม และปลอดภัย เอื้อต่อการทำกิจกรรมและช่วยให้การเรียนรู้น่าสนใจยิ่งขึ้น โครงการนี้จะช่วยให้นักเรียนคิดเป็น กล้าทดลอง กล้าผิดพลาด และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง คุณครูมีเครื่องมือใหม่ในการสอน ผู้ปกครองเห็นพัฒนาการของลูก และนักเรียนจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ ขอขอบคุณ พีทีจี ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเด็ก ๆ เตรียมอุดมศึกษา ครูทุกท่านที่พร้อมจะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับนักเรียน ผู้ปกครองที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้ และนักเรียนทุกคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดโครงการนี้ วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่เรากำลังร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสให้กับการศึกษาไทยต่อไป”

คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การสร้างโอกาสและการพัฒนาคนคุณภาพเพื่อส่งผลเชิงบวกต่อสังคม คือหัวใจสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของพีทีจี ที่มุ่งมั่นให้ทุกคนในสังคมได้เข้าถึงชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ ผ่านโครงการหลากหลาย อาทิ ‘พีที ค่ายอาสา ทำจริงไม่ทิ้งกัน’ ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมการศึกษาในหลายพื้นที่ ตลอดจนความร่วมมือกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสนับสนุนพื้นที่ CBS Lounge ศูนย์การเรียนรู้ธุรกิจแบบบูรณาการเพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการดำเนินธุรกิจ ผ่านการฝึกปฏิบัติงานจริงและพัฒนาทักษะการบริหารจัดการ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวสู่โลกการทำงานจริง
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ขยายโลกทัศน์ของนักเรียนไทย เปิดโอกาสให้เรียนรู้แบบผสมผสานระหว่างความรู้ทางวิชาการและทักษะชีวิต ด้วยพื้นที่ที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะอย่างครบถ้วน ทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิตในโลกยุคใหม่ ส่งเสริมให้นักเรียนได้ค้นหาความชอบ ค้นพบความถนัด พร้อมเสริมศักยภาพสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมอย่างมั่นใจในการก้าวสู่บทบาทผู้บริหารหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในอนาคต”

ภายในงานยังมีกิจกรรม Mini Talk ในหัวข้อ “Beyond Classroom – เมื่อการเรียนไม่ใช่แค่เพื่อสอบ” จาก คุณปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และบริหารการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่น 63 มาร่วมเปิดมุมมองการเรียนรู้และแชร์ประสบการณ์ ว่า “การได้เรียนรู้และทดลองประสบการณ์ที่หลากหลาย จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร การลงมือปฏิบัติในสภาพแวดล้อมการทำงานจริง มีส่วนช่วยให้เราค้นพบเส้นทางที่เหมาะสมกับตนเอง เหมือนอยู่ใน Small Village ที่ทุกคนในโลกเชื่อมโยงกัน เช่นเดียวกับ Co-Learning Space แห่งนี้ ที่มีจุดเริ่มต้นจากโมเดลการเรียนรู้ 70:20:10 โดย 10% เกิดจากทฤษฎีหรือห้องเรียน 20% มาจากการแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น และ 70% มาจากประสบการณ์จริง ดังนั้นเราจึงร่วมกันออกแบบสภาพแวดล้อมให้สวยงาม ปลอดภัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน รวมถึงพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning โดยมีนักเรียนเป็นศูนย์กลางสามารถแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ทิศทางหลักๆ คือ ทาง พีทีจี เป็นผู้ดูแล เช่น การจัด Restaurant Tour มี Open House เปิดบ้านให้น้อง ๆ ได้ทดลองบริหารจัดการธุรกิจในแบรนด์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กาแฟพันธุ์ไทย คอฟฟี่เวิลด์ ซับเวย์ และพลีส โยเกิร์ต หรือหากคุณครูต้องการจัด Workshop ให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะใดเพิ่มเติม พีทีจี ก็ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ หรือในส่วนของน้อง ๆ เอง ต้องการติวเตอร์ช่วงสอบ หรือสนใจผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาการใด ๆ พีทีจีก็พร้อมสนับสนุนให้ได้เช่นกัน
เพราะเราอยากให้พื้นที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแรงบันดาลใจ เป็นพื้นที่แห่งโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จริง ได้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ เรียนรู้การแก้ปัญหา พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด อยากให้น้องค่อย ๆ สร้างความเข้าใจและเชื่อมโยงประสบการณ์ เมื่อถึงเวลาต้องเผชิญสถานการณ์จริง จะสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และสิ่งสำคัญคือต้องมีทักษะการเป็นนักเรียนไปตลอดชีวิต ตั้งคำถามให้เยอะ หาคำตอบให้ได้ มองระบบให้ออก มองโลกให้ลึก เพราะคนที่ไม่หยุดเรียนรู้จะเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกแห่งการทำงานจริงได้อย่างแข็งแรง”

น้องโอม – นายภารินทร์ ศรีประทีปกุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ร่วมแชร์ประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียนว่า “ผมมีโอกาสได้รับมอบหมายให้นำสินค้าไปขายในโรงอาหาร เพื่อหารายได้ไปจัดกิจกรรมงานวันเกิดของโรงเรียน กิจกรรมนี้ไม่ได้เป็นแค่การขายของ แต่เป็นห้องเรียนชีวิตที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ทักษะหลายอย่าง ทั้งด้านการตลาด ได้ลองโปรโมทสินค้าผ่านโปสเตอร์ในโรงเรียนและโพสต์ลง Social Media เพื่อให้คนรู้จักและเพิ่มยอดขาย มีการคำนวณต้นทุน ลองตั้งราคาที่มีมาร์จิ้นพอจะได้กำไรไปจัดกิจกรรม แต่ก็ต้องไม่สูงเกินกว่าที่เพื่อน ๆ จะซื้อได้ มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้า มีการทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่ชัดเจน แต่ก็พร้อมช่วยเหลือกัน จึงได้เรียนรู้ว่าการสื่อสารนั้นสำคัญมาก นอกจากนี้ยังได้ฝึกทักษะการบริหาร การวางแผน การตั้งเป้ายอดขายแต่ละวัน การรวบรวมเงินมาคำนวณรายรับรายจ่าย ทำให้ได้เรียนรู้การจัดการมากขึ้น ในอนาคตผมมีความตั้งใจจะเปิดร้านอาหารของตัวเอง เพราะรู้สึกว่าอาหารบางร้านอร่อย ราคาก็คุ้มค่า แต่กลับไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะอาจยังขาดเรื่องการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ดี และที่สำคัญผมมีเพื่อนที่บ้านทำร้านอาหารอยู่หลายคน ทำให้ผมคิดว่าน่าจะใช้ Connection ตรงนี้ไปขอคำปรึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้”

น้องนุ๊กนิ๊ก – นางสาวระวิพัชร์ แสงวันดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ร่วมแชร์หลักสูตรวิชาในฝันและความตั้งใจในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมว่า “หนูมองว่า การเงิน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ในปัจจุบันยังแทบไม่มีวิชาลักษณะนี้สอนในโรงเรียนมากเท่าที่ควร หลายคนต้องเจอกับปัญหาการเงินโดยไร้เข็มทิศ ไม่มีผู้แนะนำหรือวางแผนอนาคต ได้แต่ลองผิดลองถูก เพราะแบบนี้เองหนูจึงอยากให้มีวิชา การเงินในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้พวกเราเรียนรู้การวางแผนการใช้จ่าย การออม รวมถึงการบริหารจัดการในชีวิตจริง อีกวิชาที่หนูอยากให้มีคือ วิชาธุรกิจปฏิบัติจริง วิชานี้เหมาะกับคนที่มีฝันอยากสร้างธุรกิจของตัวเอง เปิดโอกาสให้เราคิดวางแผน ลงมือทำธุรกิจจริง เห็นทั้งความสำเร็จ และบทเรียนจากความผิดพลาด ได้ฝึกตัดสินใจ ได้สื่อสารจริงจัง และที่สำคัญยังได้ไปปรึกษาครูผู้สอน เพื่อนำประสบการณ์ทั้งหมดไปพัฒนาต่อเมื่อเราโตขึ้น และความฝันที่ยิ่งใหญ่ของหนูคือการเปิด มูลนิธิการศึกษา เพราะยังมีอีกหลายคนที่ยังขาดโอกาสตรงนี้ ถ้ามีโอกาสหนูอยากนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ ไปช่วยคนที่ขาดแคลน หนูเชื่อว่าการศึกษาสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้คน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยขยายโอกาสในการเลือกทางเดินและกำหนดอนาคตของตัวเองได้”
าง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
“ Grandprix Runbike Championship 2025 ” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เหล่านักซิ่งตัวจิ๋ว ลุยเดือด สนาม 3-4 ประชันฝีมือเสียงเชียร์สนั่นสุดเร้าใจ

รายการ “Grandprix Runbike Championship Partnership With R.C.S. 2025 ” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และพันธมิตรหลัก R.C.S. (Runbike Championship Series) ซึ่งยกระดับมาตรฐานการแข่งขันจักรยานทรงตัวให้มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กในด้านสมาธิ ความมั่นใจ และน้ำใจนักกีฬา ได้ร่วมกันเนรมิตลานกิจกรรม เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค ให้กลายเป็นสมรภูมิแห่งความมันส์ สนามที่ 3 – 4 ของเหล่านักซิ่งตัวจิ๋ว ที่ได้เปิดศึกดวลกันอย่างเข้มข้น เมื่อวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา

การแข่งขันดุเดือด เด็กๆ ซิ่งเต็มพลัง ผู้ปกครองเชียร์สนั่น ตลอดทั้ง 2 วันของการแข่งขัน เด็กๆ จากหลากหลายรุ่นอายุ ตั้งแต่ 2 ขวบ ไปจนถึงรุ่น 6 ขวบ ต่างลงสนามโชว์ฝีมือกันอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการออกตัวอย่างมั่นใจ การประคองตัวในโค้งแคบ หรือจังหวะเร่งสปีดช่วงสุดท้ายเพื่อเข้าเส้นชัย เสียงเชียร์จากผู้ปกครองและผู้ชมรอบสนามดังสนั่นลานกิจกรรมของห้าง บางครอบครัวมาเชียร์กันทั้งบ้าน บางบ้านถึงขั้นทำป้ายชื่อลูกน้อยมาให้กำลังใจ พร้อมกล้องถ่ายภาพเก็บโมเมนต์สำคัญตลอดการแข่งขัน

มากกว่าการแข่งขัน คือ “สนามแห่งการเรียนรู้” แม้การแข่งขันจะเข้มข้น แต่งานนี้ไม่ได้เน้นแค่ผู้ชนะเท่านั้น เพราะหัวใจสำคัญคือการสร้าง “ประสบการณ์แห่งการเรียนรู้” ให้กับเด็กๆ ผ่านการลองผิดลองถูก การฝึกฝน และการเผชิญกับความตื่นเต้นของการแข่งขันจริง มีหลายช่วงเวลาที่น่าประทับใจ เช่น เด็กบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อล้มกลางสนาม แต่ก็ลุกขึ้นมาปั่นต่อด้วยกำลังใจจากเสียงปรบมือของคนดู เด็กบางคนที่เคยไม่กล้าลงแข่ง ก็สามารถจบการแข่งขันได้อย่างกล้าหาญ เหล่านี้คือบทเรียนชีวิตที่มีค่ากว่าถ้วยรางวัล เป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่เป็นเวทีพัฒนาศักยภาพเด็กๆ ในเชิงบวก ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ

บรรยากาศโดยรอบสนามแข่งกลางห้างที่อบอุ่นและปลอดภัย การจัดงานภายในห้างเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค ทำให้การแข่งขันครั้งนี้มีทั้งความสะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับครอบครัว ทั้งในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่กิจกรรม รวมถึงโซนพักผ่อนและร้านอาหาร ภายในงานยังมีบูธกิจกรรมสำหรับเด็กๆ และของที่ระลึกจากผู้สนับสนุน พร้อมโซนจำหน่ายจักรยานทรงตัวและอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสำหรับผู้ปกครองที่สนใจให้ลูกเข้าสู่วงการ runbike อย่างจริงจัง (ติดตามสรุปผลการแข่งขันได้ที่เอกสารแนบ )

สำหรับ Event 3 สนาม 5-6 จะจัดขึ้นในวันที่ 27-28 กันยายน 2568 ณ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และ Event 4 สนาม 7-8 (สนามปิดฤดูกาล) วันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2568 ณ สวนกีฬากมล ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Grandprix Runbike Championship และ ช่องทางโซเชียลมีเดีย ในเครือกรังด์ปรีซ์ฯ
าง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“มารินี-ซาร์โก” ควงคู่เก็บแต้ม โมโตจีพี เบอร์โน

“ลูก้า มารินี” และ “โยฮันน์ ซาร์โก” สองนักบิดฮอนด้าในศึก โมโตจีพี ต่อสู้แบบทุ่มสุดตัว คว้าแต้มจากการแข่งขันสนาม 12 รายการ เช็ก กรังด์ปรีซ์ ภายใต้เรซสุดหินเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สนาม ออโตโมโตโดรม เบอร์โน สาธารณรัฐเช็ก

ศึก เช็ก กรังด์ปรีซ์ ยังเป็นงานยากของ ฮอนด้า โดย “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี มีลุ้นสร้างผลงานในกลุ่มหน้า เริ่มเกมจากกริดที่ 5 แต่โชคร้ายโดนคู่แข่งพลาดล้มไถลมาชน ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 2

ส่วนทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง “ลูก้า มารินี” หมายเลข 10 ที่เริ่มเกมจากกริดที่ 16 ออกตัวได้ดี ค่อยๆ กอบกู้อันดับขึ้นมาจบเรซในอันดับ 12 ด้วยเวลารวม 40 นาที 25.406 วินาที ตามหลังผู้ชนะ 20.778 วินาที

ขณะที่ “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 นักบิดเฟรนช์จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ ออกตัวจากกริดที่ 9 โดยเสี่ยงใช้ยางหลังซอฟท์ แต่ไม่ได้ผลและทำให้ยางหมดเร็วกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้รูดลงไปจบเรซในอันดับ 13 ตามหลัง 20.961 วินาที ส่วน “ทาคาอากิ นาคากามิ” หมายเลข 30 นักบิดญี่ปุ่นได้รับบาดเจ็บจาก “สปรินต์เรซ” ต้องถอนตัวจากการแข่งขันรอบเมนเรซ
ผ่าน 12 สนามแรกของปี ซาร์โก เป็นนักบิดฮอนด้าที่เก็บแต้มได้มากที่สุดบนตารางแชมเปี้ยนชิพ อันดับ 8 มีทั้งสิ้น 109 คะแนน ตามด้วย มารินี ในอันดับ 15 มี 52 คะแนน และ เมียร์ ในอันดับ 19 มี 32 คะแนน
ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี จะพักครึ่งฤดูกาลราว 1 เดือน โดยจะกลับมาแข่งขันสนาม 13 ที่ เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคมนี้ ในรายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #Kong #TN30 #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #CzechGP
าง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ฮันกุก ไทร์ ประเทศไทย ชูนวัตกรรมยางรถยนต์ไฟฟ้า และยางสำหรับทุกสภาพถนน ณ การแข่งขัน บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025

บริษัท ฮันกุก ไทร์ ประเทศไทย ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของงานแข่งขันรถยนต์ B-Quik Thailand Super Series นำเสนอนวัตกรรมยางรุ่นล่าสุดในงานบางแสน กรังด์ปรีซ์ หนึ่งในงานมอเตอร์สปอร์ตชั้นนำของประเทศไทย
ภายใต้กิจกรรมการตลาดภาคสนาม ฮันกุก ไทร์ นำเสนอผลิตภัณฑ์เด่น 2 กลุ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต ได้แก่
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง iON: ยางสมรรถนะสูงที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โดยเฉพาะ
- ผลิตภัณฑ์ยางรุ่น Dynapro AT2 Xtreme: ยาง All-Terrain (A/T) ที่ออกแบบมาเพื่อสมรรถนะ และความทนทางทั้งถนนทางเรียบและออฟโรด

ไฮไลท์หลักภายในงาน คือ การจัดแสดงยางรถยนต์รุ่น iON GT SUV ติดตั้งกับรถ BYD รุ่น ATTO 3 รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของฮันกุก ไทร์ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้ยางต้องรับแรงกดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ยางรถยนต์มาตรฐานทั่วไป ยางจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ iON ของฮันกุก ไทร์ ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยโครงสร้างเสริมแรงและสารประกอบพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนี้ มอบความทนทาน ความปลอดภัย และสมรรถนะสูงสุดแม้ภายใต้การบรรทุกหนัก
ภายในงานมีผู้เข้าให้ความสนใจอย่างมากมายและแสดงความกังวลเกี่ยวกับอายุที่สั้นของการใช้งานของยางที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าของตนในปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์ความกังวลนี้ ฮันกุก ไทร์ได้ย้ำถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง iON ที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมอีกด้วย
นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีแรงบิดฉับพลันเมื่อออกตัวซึ่งสามารถทำให้ยางสึกหรอเร็ว ผลิตภัณฑ์กลุ่ม iON ของ ฮันกุก ไทร์ จึงพัฒนายางด้วยสูตรยางขั้นสูงและลวดลายดอกยางที่ปรับแต่งอย่างเหมาะสม เพื่อคงการยึดเกาะและความทนทานแม้ภายใต้สภาวะการใช้งานที่หนัก อีกทั้ง เทคโนโลยี iSound AbsorberTM ของฮันกุก ไทร์ ยังช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างการขับขี่ เพิ่มความเงียบสบายและยกระดับประสบการณ์การขับขี่โดยรวม
นาย กาฮูน คิม กรรมการผู้จัดการของบริษัท ฮันกุก ไทร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย เทคโนโลยียางรถยนต์จำเป็นต้องพัฒนาไปพร้อมกัน ยางซีรีส์ iON ของเราได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองทั้งด้านสมรรถนะและโครงสร้างสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่การรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น ไปจนถึงการลดเสียงรบกวนบนถนน การนำเสนอนวัตกรรมเหล่านี้ในงานบางแสน กรังด์ปรีซ์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนอนาคตแห่งการเดินทางด้วยโซลูชันที่ล้ำสมัยและพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า”
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ iON รุ่นต่างๆ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ iON evo และ iON evo AS ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง และรุ่น iON GT ที่ปรับแต่งมาเพื่อระยะทางและประสิทธิภาพในการช่วยประหยัดพลังงาน
สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่น iON ST AS ที่เน้นเรื่องระยะทางการขับขี่ จะมีกำหนดเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้

สำหรับรายละเอียดและอัพเดทเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลของ ฮันกุก ไทร์ ประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ https://www.hankooktire.com/th และ Facebook: @hankooktire.thailand
-
FORTRON ปล่อยของแรงเปิดตัวน้ำมันเครื่องสูตรใหม่ “FORTRON RACING OIL SAE 5W-50” เจาะกลุ่มสายซิ่งตัวจริง

FORTRON (โฟรตรอน) แบรนด์น้ำมันเครื่องชั้นนำจากประเทศออสเตรเลีย เดินหน้าตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำเทคโนโลยีสำหรับรถสมรรถนะสูง เปิดตัว FORTRON RACING OIL FULLY SYNTHETIC SAE 5W-50 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ระดับพรีเมี่ยม ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ใหม่แห่งความแรงให้กับสายซิ่งแบบเต็มสมรรถนะ และพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในกลุ่มผู้รักความเร็ว รถที่ได้รับการปรับแต่งโมดิฟาย รถแข่ง หรือเครื่องยนต์รอบจัดโดยเฉพาะ ด้วยมาตรฐานระดับโลก API SN/CF, SM และ SL ผสานกับเบสออยล์คุณภาพสูง PAO + ESTER จากประเทศออสเตรเลีย ที่ได้พัฒนาด้วยสูตรพิเศษ Supreme Technology ทำให้ FORTRON RACING OIL SAE 5W-50 สูตรใหม่นี้ โดดเด่นเหนือใครด้วยคุณสมบัติเด่นในการเพิ่มการหล่อลื่น ทนความร้อนสูง รักษาแรงดันเครื่องยนต์ และคงอัตราเร่งได้เต็มกำลังตลอดการขับขี่
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเฉพาะของ FORTRON อย่าง V- SERIES ที่ประกอบด้วย 3 แกนหลัก เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า:
- V – FLOW : เพิ่มความเร็วในการไหลของน้ำมันเครื่องเข้าสู่ระบบหล่อลื่นเร็วขึ้น 10% ช่วยลดการสึกหรอขณะสตาร์ทรถ คิกดาวน์ (KICK DOWN), ชิฟอัพ (SHIFT UP) ได้ทันที
- V – PROTECTION : ฟิล์มน้ำมันหนาพิเศษ คงตัวแม้รอบจัดต่อเนื่อง เพิ่มการปกป้องในสภาพการใช้งานหนัก และการลากรอบสูงต่อเนื่อง
- V – TORQUE : เสริมการทนทานต่อแรงบิดสูงขึ้น 5% รองรับสำหรับรถแรงม้าสูง ลดโอกาสฟิล์มน้ำมันเครื่องขาดในช่วงเร่งหนักหรือโหลดสูง
FORTRON RACING OIL SAE 5W-50 รองรับเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และเครื่องยนต์ปรับแต่งพิเศษ รองรับระยะใช้งานสูงสุดได้ถึง 10,000 กิโลเมตรสำหรับรถยนต์ และ 5,000 กิโลเมตร สำหรับมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความ

แรงแบบไร้กังวล พร้อมการปกป้องขั้นสุดในทุกจังหวะการขับขี่ ที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสแล้ววันนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ LAZMALL : FORTRONTHAILAND, SHOPEEMALL : FORTRONTHAILAND หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ WWW.FORTRON.CO.TH สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-961-3727
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
“มารินี” รั้งท็อป 8 ประเดิมซ้อมแรก โมโตจีพี สนาม 12 เบอร์โน

เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาพแทร็กกึ่งแห้งกึ่งเปียกหลังจากมีฝนตกลงมาในช่วงเช้า ส่งผลให้การทำงานของทุกทีมเป็นไปด้วยความท้าทาย ในการประเดิมซ้อมแรก ในโมโตจีพี 2025 สนาม 12 เช็ก กรังด์ปรีซ์ ที่ ออโตโมโตโดรม เบอร์โน, สาธารณรัฐเช็ก

“ลูก้า มารินี” หมายเลข 10 ยอดนักบิดอิตาเลียนจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี สร้างผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ประเดิมรั้งท็อป 8 หลังผ่านซ้อมแรก ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 55.945 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 1.339 วินาที ขณะที่ทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 จบซ้อมแรกในอันดับ 19 ตามหลัง 3.109 วินาที

ขณะ “ทาคาอากิ นาคากามิ” หมายเลข 30 นักบิดทดสอบชาวญี่ปุ่นจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ รั้งท็อป 10 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 56.187 วินาที ตามหัวแถว 1.581 วินาที ตามด้วยทีมเมทชาวฝรั่งเศสอย่าง “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ ในอันดับ 14 ตามหลัง 1.935 วินาที

ทั้งนี้ ศึก เช็ก กรังด์ปรีซ์ จะจับเวลาการซ้อมรอบคัดตัว (Q1-Q2) ในคืนวันศุกร์นี้ ก่อนจะควอลิฟายและแข่งขัน “สปรินต์เรซ” ในคืนวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคมนี้ 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นจะดวลความเร็วรอบ “เมนเรซ” ในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #TN30 #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #CzechGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ครองใจผู้บริโภค 14 ปีซ้อนคว้ารางวัล “No.1 Brand Thailand 2025” ในหมวดรถจักรยานยนต์

รถจักรยานยนต์ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ด้วยการคว้ารางวัล “No.1 Brand Thailand 2025” ในกลุ่มรถจักรยานยนต์เป็นปีที่ 14 สะท้อนความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั่วประเทศที่ให้ฮอนด้าเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจอย่างมั่นคง รางวัลนี้มาจากผลการสำรวจที่ดำเนินการโดยนิตยสาร Marketeer ซึ่งจัดงานประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องฉัตรบอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

ดร.อารักษ์ พรประภา ประธานบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ได้กล่าวถึงความสำเร็จในปีนี้ว่า “การคว้ารางวัลในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงรางวัล แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เราไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การขับขี่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในไทยอย่างต่อเนื่อง ทางไทยฮอนด้าขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและพนักงานทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจส่งมอบคุณภาพและบริการที่ดีที่สุด”

นอกจากนี้ ปีนี้ยังถือเป็นวาระครบรอบ 60 ปีของไทยฮอนด้า ซึ่งนอกจากการมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว ยังได้ตั้งใจตอบแทนสังคมโดยการจัดโครงการเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน แจกหมวกกันน็อก 60,000 ใบ จำนวน 60 ล้านบาท ให้กับเยาวชนทั่วประเทศ โดยเชื่อว่าการดูแลสังคมเป็นภารกิจสำคัญที่ฮอนด้าจะต้องดำเนินไปพร้อมกับการเติบโตอย่างมั่นคง

สำหรับรางวัล “No.1 Brand Thailand” ที่จัดโดยนิตยสาร Marketeer สื่อด้านการตลาดชั้นนำของไทย อ้างอิงจากการวิจัยเชิงปริมาณผ่านการสัมภาษณ์แบบพบหน้าใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเน้นวิเคราะห์ถึงเหตุผลเบื้องหลังการเลือกแบรนด์ของผู้บริโภค มากกว่าการจัดอันดับเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ แบรนด์ที่เป็น “อันดับหนึ่งในใจ” จึงไม่ได้ถูกตัดสินโดยคณะกรรมการ แต่สะท้อนจากเสียงของผู้บริโภคทั่วประเทศอย่างแท้จริง
ติดตามข่าวสารของฮอนด้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : fb.com/hondamotorcyclethailand
IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA#MarketeerNo1BrandThailand2025 #No1BrandThailand2025
#แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1ของไทย
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand
#ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ สานต่อแคมเปญ “Welcome Back Stars” ปีที่ 2 ชวนลูกค้ากลับมารับสิทธิประกันคุณภาพ High-Voltage Battery จนถึงอายุรถปีที่ 10* ครอบคลุมไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดกว่า 22 รุ่น

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดแคมเปญบริการหลังการขาย “Welcome Back Stars” ปีที่ 2 ชวนลูกค้ารถยนต์กลุ่ม Hybrid และ Plug-in Hybrid ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี ให้กลับมารับสิทธิการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่แรงดันสูง (High-Voltage Battery) เป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 10 ปี* นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบรถ สำหรับลูกค้าที่เคยหลุดจากเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพเดิม โดยครอบคลุมรถยนต์กว่า 22 รุ่น ตามรุ่นรถยนต์และรหัสตัวถังที่กำหนด สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถนำรถยนต์เข้ามารับบริการและตรวจสอบสิทธิการรับประกันของรถยนต์ในแต่ละกลุ่ม ได้ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์
อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568
เงื่อนไขการคืนสิทธิการรับประกันคุณภาพเดิมของ High-Voltage Battery สำหรับรถยนต์กลุ่ม Hybrid
และ Plug-in Hybrid มีดังนี้- เข้ารับบริการ Service A หรือ B ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ
- มีค่าใช้จ่ายผ่านศูนย์บริการฯ มากกว่าหรือเท่ากับ 40,000 บาท* (ค่าแรงและค่าอะไหล่ หลังหักส่วนลดและก่อนคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เข้ารับการตรวจสอบคุณภาพปัจจุบันของ High-Voltage Battery โดยศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ และมีผลทดสอบคุณภาพผ่านเกณฑ์โดยแบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้ (แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามการใช้งานปกติ) ตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการรับสิทธิ*
- เฉพาะรถยนต์รุ่นที่กำหนดในแคมเปญ “Welcome Back Stars” และมีเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพ High-Voltage Battery ตามรายละเอียดที่ระบุในตารางด้านล่างนี้
รุ่นรถยนต์และเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพเดิมของแบตเตอรี่แรงดันสูง (High-Voltage Battery) ลูกค้ารถยนต์กลุ่มที่ 1 ลูกค้ารถยนต์กลุ่มที่ 2 การรับประกัน High-Voltage Battery · รับประกัน 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง ภายใน 5 ปีแรก และ
จำกัดระยะทาง โดยหน้าจอแสดงผลของรถยนต์ต้องมีระยะทาง
ไม่เกิน 150,000 กม. ในระหว่างปีที่ 6-10 ปี นับจากวันส่งมอบรถให้กับลูกค้า
รุ่นรถยนต์
GLE (W166) 166063 GLE 500 e 4MATIC C-Class (W205) 205012 C 300 BlueTEC HYBRID C-Class Estate (S205) 205212 C 300 BlueTEC HYBRID Estate C-Class (W205) 205047 C 350 e C-Class Estate (S205) 205247 C 350 e Estate C-Class (W205) 205053 C 300 e E-Class (W212) 212098 E 300 BlueTEC HYBRID E-Class Estate (S212) 212298 E 300 BlueTEC HYBRID Estate E-Class (W213) 213050 E 350 e S-Class (V222) 222157 S 400 HYBRID S-Class (V222) 222104 S 300 BlueTEC HYBRID S-Class (V222) 222163 S 500 e S-Class (V222) 222173 S 560 e การรับประกัน High-Voltage Battery · รับประกัน 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง นับจากวันส่งมอบรถให้กับลูกค้า
รุ่นรถยนต์
C-Class (W206) 206054 C 350 e E-Class (W213) 213053 E 300 e GLC Coupé (C253) 253353 GLC 300 e 4MATIC Coupé GLC (X253) 253953 GLC 300 e 4MATIC GLC Coupé (C254) 254356 GLC 350 e 4MATIC Coupé GLC (X254) 254656 GLC 350 e 4MATIC GLE (V167) 167117 GLE 350 de 4MATIC S-Class (V223) 223168 S 580 e Mercedes-Maybach S-Class (Z223) 223968 Mercedes-Maybach S 580 e Premium และรุ่นรถยนต์อื่นๆ ในปี 2568 ที่ทางบริษัทฯ กำหนด
สิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมแคมเปญเพื่อรับสิทธิ ดังนี้
- ส่วนลด 20% จากราคาขายแนะนำสำหรับอะไหล่ High-Voltage Battery
- สำหรับลูกค้าที่รถยนต์ไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบคุณภาพ High-Voltage Battery ตามเงื่อนไขและข้อกำหนด จะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดค่าอะไหล่ 20%* จากราคาขายแนะนำ เมื่อทำการเปลี่ยน High-Voltage Battery (โดยได้รับส่วนลดข้างต้น) จะได้รับการรับประกันคุณภาพ 2 ปี ตามมาตรฐานอะไหล่แท้เมอร์เซเดส-เบนซ์
- เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการรับสิทธิ และเข้ารับบริการ Service A หรือ B จะได้รับคืนสิทธิการรับประกันคุณภาพ High-Voltage Battery จนถึงอายุรถปีที่ 10* นับจากวันส่งมอบรถให้กับลูกค้า เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพจำกัดระยะทางขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ ที่ระบุในตารางด้านบน
- ราคาพิเศษ! แพ็กเกจ Extended HV battery การขยายการรับประกัน High-Voltage Battery 10 ปี เป็นแบบไม่จำกัดระยะทาง ในราคา 50,000 บาท (สำหรับกลุ่มรถยนต์ที่ได้รับการรับประกัน 10 ปี แบบจำกัดระยะทาง 150,000 กม.)
สำหรับลูกค้ารถยนต์กลุ่มที่ 1 ที่ได้รับการประกัน 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทางภายใน 5 ปีแรก และ จำกัดระยะทางโดยหน้าจอแสดงผลของรถยนต์ต้องมีระยะทางไม่เกิน 150,000 กม. ระหว่างปีที่ 6-10 ปี
(นับจากวันส่งมอบรถให้กับลูกค้า) สามารถขยายการรับประกันคุณภาพเดิม High-Voltage Battery10 ปี เป็นแบบไม่จำกัดระยะทาง เมื่อซื้อแพ็กเกจ Extended HV battery นี้
เงื่อนไขและข้อกำหนดการรับสิทธิ*
- สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้ารับบริการ Service A หรือ B ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่วันที่
15 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568 และชำระค่าใช้จ่ายครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด - มียอดค่าใช้จ่ายผ่านศูนย์บริการฯ มากกว่าหรือเท่ากับ 40,000 บาท คำนวณเฉพาะค่าสินค้าและบริการตามประเภทที่กำหนด โดยสามารถรวมค่าบริการ Service A/B, งานซ่อมบำรุงตามมาตรฐาน
เมอร์เซเดส-เบนซ์, Accessories & Collections, MB Tire, Digital Extras, MBSP แพ็กเกจ Extra Guarantee Lite, รวมค่าอะไหล่และค่าแรงหลังหักส่วนลดใดๆ (ถ้ามี) โดยเป็นมูลค่าก่อนคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม - สงวนสิทธิรถยนต์เพื่อการพาณิชย์, งานบริการ Internal, งานรับประกัน Warranty และงานซ่อมสีตัวถัง ไม่สามารถเข้าร่วมแคมเปญได้
- สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลก เปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้ ในกรณีมีการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ จะต้องทำการเปลี่ยนอะไหล่ในศูนย์บริการฯ เท่านั้น ไม่สามารถนำอะไหล่ออกไปนอกศูนย์บริการฯ ได้
- โปรดตรวจสอบรายละเอียดแคมเปญ รุ่นรถยนต์ที่เข้าร่วม และเงื่อนไขแคมเปญได้ ณ ศูนย์บริการ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://mb4.me/TH_CSSpecialOffers หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าฯ โทร. 1250
ทั้งนี้ เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด
#MercedesBenz #MercedesBenzThailand #MBTHCS #WelcomeBackStars
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“ทัพนักบิดฮอนด้า” พร้อมเปิดเกมล่าผลงาน โมโตจีพี สนาม 12 เบอร์โน

ทัพนักบิดฮอนด้า นำโดย “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 และ “ลูก้า มารินี” หมายเลข 10 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ขณะที่ “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 จอมเก๋าชาวฝรั่งเศสจะจับคู่กับ “ทาคาอากิ นาคากามิ” หมายเลข 30 นักบิดญี่ปุ่นในสีเสื้อ ฮอนด้า แอลซีอาร์ สำหรับสนามนี้ พร้อมเต็มร้อยเพื่อลุยศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 12 เช็ก กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์นี้ ที่ ออโตโมโตโดรม เบอร์โน สาธารณรัฐเช็ก
ศึก เช็ก กรังด์ปรีซ์ ถูกบรรจุกลับมาสู่ปฏิทินการแข่งขันอีกครั้งในรอบ 5 ปี พร้อมกับการปรับพื้นผิวแทร็กใหม่ทั้งหมดของ ออโตโมโตโดรม เบอร์โน สนามแข่งที่มีความท้าทายอย่างมากกับแทร็กที่มีการ “ขึ้น-ลง” เนินอย่างต่อเนื่อง และมีจุกเบรกหนัก รวมถึงต้องใช้อัตราเร่งสูงหลายจุด โดยล่าสุดนักบิดทุกคนเดินทางถึงสนามเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว
มารินี นักบิดอิตาเลียนที่เพิ่งฝืนอาการบาดเจ็บคว้าอันดับ 6 จากการแข่งขันสนามล่าสุดที่ ซัคเซนริง กล่าวว่า “ผมโฟกัสไปที่การฟื้นฟูสภาพร่างกายทุกวัน และตอนนี้ก็สมบูรณ์ขึ้นมาก ผลการแข่งขันที่เราทำได้ใน เยอรมนี สร้างแรงกระตุ้นให้ผมต่อเนื่องมายังการแข่งขันที่ เบอร์โน ซึ่งเรามองไปถึงการยกระดับอีกขั้น เพิ่มความเข้มข้นของสุดสัปดาห์ ”
ด้าน เมียร์ เผยว่า “ตอนนี้เราจดจ่อไปสู่การแข่งขันที่ เบอร์โน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่กลับมาแข่งขันที่นี่ ดูเหมือนว่าผิวแทร็กใหม่จะดีมาก และมีการยึดเกาะที่ดี มีการเปลี่ยนแปลงมากมายใน โมโตจีพี นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราไปที่ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ใช่งานง่าย แม้จะไม่จบลงในแบบที่เราต้องการ แต่ก็เป็นแรงกระตุ้นที่ดีซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพ”


ขณะที่ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ยังคงมี “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดจอมเก๋าชาวฝรั่งเศสเป็นตัวหลัก โดยในสนามนี้จะจับคู่กับ “ทาคาอากิ นาคากามิ” นักบิดทดสอบชาวญี่ปุ่น ซึ่งทำหน้าที่ลงบิดแทน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 นักบิดไทยที่อยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ

สำหรับรุ่น โมโตทรี “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 5 นักบิดไทยจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ต้องถอนตัวจากการแข่งขันสนามนี้ จากได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่สนามล่าสุด และได้กลับมารับการเช็คเบื้องต้นเพื่อรอกำหนดวันผ่าตัดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ศึก เช็ก กรังด์ปรีซ์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็ว “สปรินต์เรซ” ในวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคมนี้ 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วนการแข่งขันรอบ “เมนเรซ” จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง True Visions SPOTV
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #JZ5 #TN30 #HondaHRC #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #CzechGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
บริดจสโตนคว้ารางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2025” ครองความแข็งแกร่งของแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศต่อเนื่อง 14 ปีซ้อน

บริดจสโตนคว้ารางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2568” หรือ “Marketeer No.1 Brand Thailand 2025” ประเภทยางรถยนต์ ครองอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ซึ่งเป็นรางวัลทรงเกียรติจากการจัดทำวิจัยและสํารวจความนิยมจากผู้บริโภคทั่วประเทศ สะท้อนภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งของแบรนด์บริดจสโตน ที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนาน โดยคุณเรียวอิจิ ทานากะ ผู้อำนวยการสายงานเครือข่ายโซลูชั่นการค้าปลีก บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติจาก คุณเพิ่มพล โพธิ์เพิ่มเหม บรรณาธิการและผู้ก่อตั้งนิตยสาร Marketeer ณ ห้องฉัตราบอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

คุณเรียวอิจิ ทานากะ ผู้อำนวยการสายงานเครือข่ายโซลูชั่นการค้าปลีก บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทยที่มอบความไว้วางใจให้แบรนด์บริดจสโตนเสมอมา รางวัลความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงการให้บริการ ที่เหนือระดับผ่านค็อกพิท (COCKPIT) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรฟาสต์ฟิตภายใต้การบริหารงานของเราที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นด้านการเดินทางที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เรายังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่กับการอยู่เคียงข้างผู้บริโภคชาวไทยตลอดการเดินทาง โดยยึดมั่นเจตนารมณ์ด้านการส่งมอบความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ตลอดจนนวัตกรรมด้านการเดินทางให้กับผู้บริโภคและสังคมไทยตลอดไป”
รางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2568” หรือ “Marketeer No.1 Brand Thailand 2025” จัดขึ้นโดยนิตยสาร Marketeer อ้างอิงจากผลการวิจัยและสำรวจของบริษัท มาร์เก็ตติ้ง มูฟ จำกัด ผู้ให้บริการด้านงานวิจัยและที่ปรึกษาทางธุรกิจ สำรวจแบรนด์ยอดนิยมในสินค้าและบริการประเภทต่างๆ ของผู้บริโภคชาวไทย ประจำปี พ.ศ. 2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine























































































