-
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบรุ่นล่าสุดที่นำเสนอแนวคิดการออกแบบที่หรูหราจากสตูดิโอออกแบบแห่งใหม่ โดยยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้สะท้อนวิสัยทัศน์การออกแบบของเบนท์ลีย์ในอนาคตด้วยแรงบันดาลใจจากแกรนด์ทัวเรอร์ในอดีตในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผ่านการตีความใหม่ให้ทันสมัยในศตวรรษที่ 21

รถยนต์ต้นแบบมาพร้อมกับตัวถังแบบมาตรฐานขนาด 5 เมตรที่มีกระจังหน้าแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยแนวหลังคาที่ทอดยาวแบบไร้รอยต่อ และห้องโดยสารด้านหลังที่ชวนให้นึกถึงยนตรกรรมแบบคูเป้ รุ่น Bentley Speed Six Gurney Nutting Sportsman ในปี 2473 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “Blue Train” รถยนต์เบนท์ลีย์ที่มีชื่อเสียงรุ่นนี้มีความเกี่ยวข้องกับการแข่งขันระหว่างวูล์ฟ บาร์นาโต ประธานบริษัท และ “เบนท์ลีย์ บอย” ผู้มีชื่อเสียงในขณะนั้นกับรถไฟด่วนสุดหรู (Le Train Bleu) ที่วิ่งจากเมืองคานส์ทางตอนใต้ไปยังเมืองกาแลทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งวูล์ฟ บาร์นาโตได้ขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์ของเขามาถึงลอนดอนก่อนที่รถไฟจะไปถึงเมืองกาแล สำหรับยนตรกรรมต้นแบบรุ่นนี้ได้รวมเอาพื้นผิวภายนอกที่ทันสมัย รายละเอียดไฟที่ไฮเทค และองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ที่ทำให้คล่องตัวเข้าไว้ด้วยกัน EXP 15 จึงสะท้อนทั้งยุคปัจจุบันและอนาคตที่มาพร้อมกับแนวคิดด้านการออกแบบรถยนต์เบนท์ลีย์รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้


แนวทางการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ล้ำสมัยได้รับการออกแบบด้วยซอฟต์แวร์เสมือนจริง (VR) เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสถึงประสบการณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยผสมผสานคุณสมบัติภายในห้องโดยสารแบบร่วมสมัย อาทิ เบาะโดยสารที่หรูหรา แผงหน้าปัดรูปปีกนก พวงมาลัย ปุ่มสัมผัส และสวิตช์ เข้ากับองค์ประกอบแบบดิจิทัลที่ล้ำสมัยที่สามารถแสดงหรือซ่อนในพื้นหลังได้ตามความต้องการการใช้งานของผู้ขับขี่

การออกแบบภายในห้องโดยสารแบบสามที่นั่งและสามประตูห้องโดยสารจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร พร้อมด้วยที่เก็บสัมภาระภายในห้องโดยสารสำหรับสัมภาระหรือสัตว์เลี้ยง โดยในขณะจอด พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถยังสามารถทำหน้าที่เป็นเบาะนั่งสำหรับนั่งพักผ่อนได้อีกด้วย

วัสดุที่ใช้ล้วนถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและผสมผสานระหว่างวัสดุแบบดั้งเดิม งานฝีมือ และความยั่งยืนเข้ากับความทันสมัย เทคนิค และความล้ำยุค ตัวอย่างเช่น ผ้าทอจากขนสัตว์แท้ 100% จาก Fox Brothers ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้ากันหนามและช่างทอชาวอังกฤษที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 250 ปีถูกนำมาใช้กับเอฟเฟกต์แบบออมเบรของเฉดสีม่วง Damson ภายในห้องโดยสารของ EXP 15 และบนพื้นผิวไทเทเนียมน้ำหนักเบาที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยีแบบ 3 มิติหลากหลายรูปแบบ
ยนตรกรรมต้นแบบขนาดมาตรฐานที่ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยด้วยดีไซน์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นและสง่างาม
แนวคิด EXP 15 สะท้อนถึงหลักการออกแบบภายนอก 5 ประการของเบนท์ลีย์ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต หลักการแรก คือ “Upright Elegance” สะท้อนแนวคิดที่ว่าด้านหน้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันควรมีเส้นโค้งแนวตั้งที่สง่างามคล้ายกับลำตัวส่วนหน้าอกของม้าพันธุ์แท้
เมื่อมองตัวรถจากด้านหน้าตรง หลักการออกแบบภายนอกที่สำคัญประการที่สองคือ ‘กระจังหน้าแบบไอคอนิก’ ที่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระบบส่งกำลังแบบพลังงานไฟฟ้า แต่ยังคงสะท้อนความสำคัญของภาพลักษณ์อันเก่าแก่ของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเส้นแนวตั้งอยู่ตรงกลาง

หลักการออกแบบภายนอกประการที่สามที่นักออกแบบของเบนท์ลีย์ได้ระบุไว้คือ ‘Endless Bonnet Line’ ซึ่งสะท้อนถึงในอดีตที่รถยนต์เบนท์ลีย์ต้องติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดใหญ่ไว้ใต้ท้องรถ เส้นสายนี้ต่อเนื่องกันใต้กระจกข้างและด้านหลังไปจนถึงเสาหลังของตัวรถที่มีลักษณะคล้ายกับรถยนต์แบบคูเป้ รุ่น Gurney Nutting ในปี 2473 อันเก่าแก่ และเนื่องจากระบบส่งกำลังในอนาคตที่เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าที่ต้องการพื้นที่น้อยลง พื้นที่ว่างใต้ฝากระโปรงหลังของ EXP 15 จึงถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่เก็บสัมภาระที่หรูหราสองช่อง โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านแผงคู่ฝาครอบเครื่องยนต์แบบบานพับสไตล์เปียโนเช่นเดียวกับรถยนต์แบบคูเป้ รุ่น Gurney Nutting

หลักการออกแบบภายนอกข้อที่สี่ ‘Resting Beast’ สัตว์ร้ายที่หลับใหล รถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันมีซุ้มล้อที่แสดงถึง ‘กล้ามเนื้อ’ และพละกำลังที่ซ่อนอยู่เฉกเช่นรูปทรงที่โค้งมนของต้นขาของเสือนักล่า
หลักการออกแบบภายนอกที่สำคัญประการที่ห้าและประการสุดท้ายถูกเรียกว่า ‘Prestigious Shield’ และใน EXP 15 นั้นเกี่ยวข้องกับพื้นผิวที่ใหญ่และสะอาดตา ซึ่งในรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นคลาสสิกอย่าง Gurney Nutting coupe มีส่วนเก็บสัมภาระที่แยกจากตัวรถ แต่ในรุ่น EXP 15 นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของฝากระโปรงท้ายรถ ซึ่งมีโลโก้เบนท์ลีย์แบบใหม่ตกแต่ง พร้อมด้วยกรอบไฟท้ายลวดลายเพชร
สัดส่วนที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างความโดดเด่น

พื้นผิวตัวถังของ EXP 15 ที่ได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นยังสะท้อนถึงรูปแบบของเบนท์ลีย์ในยุคใหม่ นักออกแบบและทีมงานจึงได้ระบุคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการ อันได้แก่ ‘Monolithic Presence’ การแสดงออกทางด้านรูปลักษณ์ที่ส่วนประกอบต่างๆ ของรถดูเหมือนถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัสดุเพียงก้อนเดียว ‘Muscular Form’ การสร้างพื้นผิวที่แข็งแรง บ่งบอกถึงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ เฉกเช่นร่างกายของนักกีฬาหลังการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง และ ‘Carved Precision’ การเน้นการลดน้ำหนักเพื่อให้เห็นพื้นผิวที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังคงความรู้สึกมั่นคงและแข็งแรง
เทคโนโลยีไฟส่องสว่างและแอโรไดนามิกรุ่นใหม่กับการยกระดับลวดลายเพชรอันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นไปอีกขั้น
นอกเหนือจากสัดส่วนและพื้นผิวของ EXP 15 แล้ว ภายนอกยังโดดเด่นด้วยรายละเอียดอันน่าประทับใจมากมาย ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม ไฟหน้าประกอบด้วยแถบบางเฉียบสี่แถบที่พาดผ่านด้านข้างตัวรถ โดยสองแถบบนตั้งฉากและสองแถบล่างโค้งเข้าด้านในในตำแหน่งซุ้มล้อเพื่อเน้นความโดดเด่นของตัวรถ ไฟเหล่านี้ยังล้อมกรอบกระจังหน้าขนาดใหญ่ โดยมีแกนไฟตรงกลางที่ทอดยาวลงมาจากใต้โลโก้ Winged B เพื่อแบ่งช่องกระจังหน้าออกเป็นสองส่วน สะท้อนดีไซน์เบาะโดยสารลายเพชรอันเลื่องชื่อของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในแนวนอนที่นำมาถ่ายทอดเพื่อสื่อถึงลวดลายกระจังหน้าแบบดั้งเดิมในรูปแบบของไฟ LED ที่ทันสมัย
ด้านหลังซุ้มล้อหน้ามีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่สองช่องที่จะช่วยระบายอากาศ กระจายน้ำหนักตัวถัง และเพิ่มความน่าสนใจให้กับรูปลักษณ์ภายนอก ไฟท้ายที่เพรียวบางขึ้น ทอดยาวไปบนกรอบขนาดใหญ่ ‘Prestigious Shield’ ที่ยื่นออกมาเพื่อประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ เผยให้เห็นความลึกแบบ 3 มิติที่สวยงาม และการตีความลวดลายเพชรที่งดงามในอีกรูปแบบหนึ่ง องค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์คู่แบบแอคทีฟที่กางออกจากปลายหลังคาที่ลาดเอียงไปด้านหลัง และดิฟฟิวเซอร์แบบแอคทีฟที่ขอบล่างด้านหลังสุดของตัวรถ
ภายในห้องโดยสารแบบเสมือนจริงในรูปแบบ 3 ที่นั่งอันล้ำสมัย
การออกแบบห้องโดยสารอันล้ำสมัยของ EXP 15 ได้รับอิทธิพลมาจากภายในห้องโดยสารของรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น Speed Six Gurney Nutting Sportsman ปี 2473 ที่ไม่ใช่แค่เพียงการจัดวางและรูปทรง แต่ทั้งในด้านจำนวนที่นั่งและฟังก์ชันการใช้งาน
สานต่อเจตนารมณ์ดังกล่าว EXP 15 จึงมาพร้อมที่นั่งแบบสามที่นั่ง และประตูด้านคนขับบานหนึ่งที่เปิดออกสู่เบาะคนขับ พร้อมด้วยเบาะโดยสารด้านหลังที่โอบล้อมแบบรังไหม ขณะที่ประตูแบบคู่และหลังคาแบบพาโนรามิกฝั่งผู้โดยสารสามารถเปิดขึ้นได้เพื่อช่วยให้เข้าออกได้สะดวกยิ่งขึ้นผ่านเบาะฝั่งผู้โดยสารอันหรูหราที่สามารถหมุนได้แบบ 45 องศา
เบาะโดยสารยังสามารถปรับตำแหน่งได้หลากหลายความต้องการของผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการปรับเบาะนั่งคู่หน้าข้างคนขับในโหมด “Co-pilot” หรือเลื่อนไปเบาะโดยสารด้านหลังในโหมด “Standard” หรือปรับเอนในโหมด “Relax” การปรับเบาะโดยสารสองแบบหลังจะมีพื้นที่วางขากว้างขวางขึ้น พร้อมด้วยระบบจัดเก็บสัมภาระแบบ Concertina Floor Storage ที่จะช่วยให้สามารถพับที่วางเท้าลงบนพื้นรถเพื่อสร้างพื้นที่เล็กๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงหรือสัมภาระติดตัวขนาดเล็ก โดยที่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องหยุดรถและเปิดฝากระโปรงท้าย
พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถสามารถใช้งานได้มากกว่าแค่การบรรทุกสัมภาระ โดยเมื่อเปิดฝากระโปรงท้าย เบาะขนาดเล็กสองที่นั่งสามารถกางออกได้ พร้อมด้วยโคมไฟและตู้เย็นที่สามารถเลื่อนจากเบาะหลังได้
ภายในห้องโดยสารผสมผสานธรรมชาติและคุณสมบัติทางกายภาพเข้ากับเทคนิคและเทคโนโลยีดิจิทัล
แผงหน้าปัดแบบ ‘Wing Gesture’ เป็นองค์ประกอบหลักสำคัญภายในห้องโดยสารของเบนท์ลีย์มาอย่างยาวนาน และถือเป็นหลักการออกแบบแรกจากทั้งหมดห้าประการของแบรนด์ โดยอ้างอิงจากรูปทรงของโลโก้ขนนก หลักการที่สองคือ ‘Bold Gravitas’ ซึ่งเน้นการใช้วัสดุหรูหราในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่ลูกค้าจะสามารถมองเห็นและสัมผัสได้
แนวคิด “Cocooning Haven” คือ หลักการออกแบบตกแต่งภายในประการที่สามของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการเอาใจใส่ลูกค้าของเบนท์ลีย์สำหรับเบาะโดยสารด้านหน้าหรือด้านหลัง ซึ่งเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารจะมีหลังคาคลุมด้านซ้ายที่โอบล้อมพนักพิงเบาะเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว องค์ประกอบที่สี่ “Iconic Details” อธิบายถึงองค์ประกอบของการตกแต่งภายในของรถยนต์เบนท์ลีย์ ตั้งแต่ช่องระบายอากาศแบบ “Bullseye” สวิตช์เกียร์แบบแบบสลักลายเพชรไปจนถึงเบาะโดยสารที่มีการปักลวดลายเพชร
ประสบการณ์ผู้ใช้เผยให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่สามารถคาดการณ์ความต้องการของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารล่วงหน้าได้
หลักการออกแบบภายในข้อที่ห้าคือแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “Magical Fusion” ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของเบนท์ลีย์ที่ต้องการนำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณสมบัติทางกายภาพและดิจิทัล เช่นเดียวกับการปรับปรุง “Rotating Dashboard” เดิมของเบนท์ลีย์ที่สามารถแสดงหน้าจออินโฟเทนเมนต์และหมุนกลับมายังพื้นผิวแผงหน้าปัดแบบวีเนียร์ โดยแผงหน้าปัดแบบเต็มของ EXP 15 สามารถทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลสำหรับอินโฟเทนเมนต์ทุกประเภทหรือปิดและเผยให้เห็นพื้นผิววีเนียร์ภายใต้กระจกได้ นอกจากนี้ ด้านหลังหน้าจอยังมีการตกแต่งด้วยอุปกรณ์ลักษณะคล้ายนาฬิกาที่สามารถเคลื่อนไหวและเรืองแสงได้ โดยมีชื่อเรียกว่า “Mechanical Marvel” ที่สามารถระบุทิศทางในขณะเดินทาง สถานะการชาร์จไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย
นวัตกรรมด้านวัสดุและสีจากผู้ผลิตวัสดุแบบดั้งเดิมในอังกฤษ
EXP 15 โดดเด่นด้วยสีเคลือบโลหะแบบซาตินที่เรียกว่า Pallas Gold ที่มีไฮไลท์สีขาวทอง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบนิกเกิลบนรุ่น Bentley Speed Six ในตำนาน รวมถึงกระจังหน้าและมือจับประตู แต่สิ่งที่ทำให้สีนี้ดูทันสมัย คือ เม็ดสีอะลูมิเนียมใหม่ที่ทำให้สามารถใช้กับตัวถังด้านหน้าอุปกรณ์เรดาร์ความปลอดภัยได้ โดยยังคงสามารถส่งสัญญาณผ่านได้โดยไม่ทำให้คุณภาพของสัญญาณลดลง มากไปกว่านั้น คุณสมบัติการสะท้อนแสงที่สูงของสีเคลือบยังทำให้ระบบ Lidar ตรวจจับได้ง่ายเหมาะสำหรับการใช้งานด้วยระบบขับขี่แบบอัตโนมัติ
ในส่วนของเทคโนโลยีเสมือนจริงภายใน EXP 15 ทีมออกแบบได้สร้างสรรค์สี่รูปแบบ โดยผสมผสานวัสดุแบบดั้งเดิมและแบบสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ส่วนด้านท้ายของห้องโดยสาร นักออกแบบได้จินตนาการถึงการใช้ผ้าถักแบบแจ็คการ์ดชั้นดีเพื่อเสริมด้าน Well-being ที่ทอในหนึ่งในโรงงานที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักรโดยบริษัท Gainsborough ของประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2446 และเป็นผู้จัดจำหน่ายผ้าให้กับสมเด็จพระราชินีนาถตั้งแต่ปี 2523 วัสดุธรรมชาติอันทรงคุณค่านี้ถูกตกแต่งอย่างลงตัวภายในห้องโดยสารเช่นเดียวกับตาข่ายโลหะทอละเอียดแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Acrylic Couture’ ที่ห่อหุ้มด้วยอะคริลิก โดยเมื่อกระทบแสงจะสร้างเอฟเฟกต์แบบ 3 มิติอันเปล่งประกายภายในแผงหน้าปัด
ในส่วนอื่นๆ มีการใช้ผ้าขนสัตว์แท้ 100% จาก Fox Brothers ซึ่งเป็นผู้คิดค้นผ้ากันหนามและช่างทอผ้าชาวอังกฤษที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 250 ปี ในการทำเอฟเฟกต์แบบออมเบรสีม่วง Damson กับการตกแต่งภายในสไตล์ Executive Trim ของ EXP 15 ควบคู่ไปกับการตกแต่งด้วยไทเทเนียมพิมพ์ 3 มิติ และด้วยการเลือกใช้วัสดุและการพิมพ์ 3 มิติที่แม่นยำ รายละเอียดโลหะเหล่านี้จึงช่วยลดทั้งน้ำหนักของตัวรถและของเสียจากขั้นตอนการผลิต
บทสรุป: สมรรถนะและเทคโนโลยีสำหรับแกรนด์ทัวเรอร์แห่งศตวรรษที่ 21 ที่โดดเด่นและยั่งยืน
แม้ว่าแนวคิดการออกแบบจะโดดเด่นเหนือสิ่งอื่นใด แต่นักออกแบบ EXP 15 ได้คำนึงถึงระบบส่งกำลังที่จะนำไปสู่การเดินทางของยนตรกรรมแบบแกรนด์ทัวเรอร์ในศตวรรษที่ 21 กับความสะดวกสบายและสมรรถนะที่เหนือชั้น ด้วยเหตุนี้ EXP 15 จึงได้รับการออกแบบให้มีระบบส่งกำลังที่ขับเคลื่อนแบบสี่ล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่จะมอบพิสัยการเดินทางและความเร็วในการชาร์จที่มากพอๆกับความสะดวกสบายที่ลูกค้าจะได้รับจากรถยนต์เบนท์ลีย์ พร้อมด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ยังคงแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของงานดีไซน์อันละเอียดอ่อนที่เชื่อมโยงกับยนตรกรรมในตำนานรวมถึงการนำเสนอแนวคิดด้านดิจิทัลและเทคนิคภายในห้องโดยสารที่อาจกลายเป็นจริงได้ในอนาคต
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้า 4 รางวัลระดับโลก จากเวที Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม!
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ บนเวทีระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ด้วยการคว้า 4 รางวัล อันทรงเกียรติจากสองเวทีการประกวดด้านการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้แก่ Eventex Awards 2025 และ Event Marketing Awards 2025
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท กอริล่า จำกัด Brand Experience เอเจนซี่ชั้นนำของประเทศไทย สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ สร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับลูกค้า ผ่าน 2 กิจกรรมสุดเร้าใจ ประกอบไปด้วย กิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย‘ และ ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด‘ โดยทั้ง 2 กิจกรรม สามารถคว้า 4 รางวัล อันทรงเกียรติจากสองเวทีการประกวดด้านการตลาดระดับโลก ได้แก่ ‘Eventex Awards 2025’ และ ‘Event Marketing Awards 2025’ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์ผ่านกิจกรรมสุดท้าทายที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยี และสมรรถนะของรถยนต์มิตซูบิชิอย่างแท้จริง
สำหรับรางวัลที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับจาก 2 เวทีระดับโลก มีทั้งหมด 4 รางวัล แบ่งตามประเภทดังนี้
รางวัลจากเวที Eventex Awards 2025 – หนึ่งในเวทีรางวัลระดับนานาชาติที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการอีเวนต์และการตลาดเชิงประสบการณ์ โดยปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 1,200 รายการ จาก 59 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและการยอมรับในระดับสากล โดยรางวัลนี้มอบให้แก่ผลงานที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์
กลยุทธ์ และประสบการณ์ที่สามารถสร้างอิมแพกต์ต่อแบรนด์ได้อย่างแท้จริง- รางวัลเหรียญทอง ประเภท Brand Activation จากกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ – มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี
กิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ ได้สร้างปรากฏการณ์และคว้ารางวัลสูงสุดในประเภท Brand Activation มาครอง กิจกรรมนี้ได้เชิญชวนลูกค้าเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตกับ ‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’ และ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี’ รถยนต์ Full Hybrid รุ่นแรกจากมิตซูบิชิ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดลองขับและพิสูจน์เทคโนโลยี ที่เป็นหัวใจสำคัญ 3 แกนหลัก ได้แก่
- ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (Full HEV System) สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ และตอบสนองได้ดั่งใจแบบรถยนต์ไฟฟ้า ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์เพื่อพละกำลังสูงสุดและความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ
- โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ครอบคลุมทุกสภาพถนนและการใช้งาน ตั้งแต่ Normal, Wet, Gravel, Tarmac, Mud, EV และ Charge เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสมรรถนะที่ดีที่สุดในแต่ละเส้นทางได้อย่างมั่นใจ
- ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยี DNA จากสนามแข่งแรลลี่ระดับโลก ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อซ้ายและขวา เพื่อสร้างสมดุลและเสถียรภาพการเข้าโค้งที่แม่นยำ ปลอดภัย มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่
- รางวัลเหรียญเงิน ประเภท Asian Event จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ – มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท
- รางวัลเหรียญทองแดง ประเภท Brand Experience Automotive จากกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ – มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท
โดยกิจกรรม ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ ประสบความสำเร็จ สามารถคว้าได้ถึง 2 รางวัล จากแนวคิดของกิจกรรมที่ต้องการเปิดโอกาสให้ลูกค้า อินฟลูเอนเซอร์ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะของ ‘มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท’ ในเส้นทางสุดโหดและสุดแสนท้าทาย ซึ่งเป็นสนามที่จำลองเส้นทางจาก
ทั่วประเทศมาไว้ในแห่งเดียว เพื่อพิสูจน์ความเป็นที่สุดของรถปิกอัพสไตล์สปอร์ต ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีชั้นสูงรอบคัน ดังนี้- เครื่องยนต์ Hyper Power X2 ขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ตอบสนองฉับไวทุกอัตราเร่ง พร้อมให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
- เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์อันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเปลี่ยนโหมดจาก 2H เป็น 4H ได้แม้ในขณะรถกำลังเคลื่อนที่ (Shift-on-the-Fly) เพิ่มความปลอดภัยในการยึดเกาะถนน และพร้อมลุยในทุกเส้นทาง
- ช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ คล่องตัวทั้งในเมืองและขณะเดินทางไกล
รางวัลจากเวที Event Marketing Awards 2025 – เป็นรางวัลที่คัดสรรผลงานจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ส่งเข้าร่วมประกวด จัดขึ้นโดย Campaign Asia-Pacific สื่อชั้นนำด้านการตลาดของเอเชีย เพื่อมอบรางวัลให้กับผลงานที่โดดเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์และสามารถมอบประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ในการนำเสนอธุรกิจของแบรนด์ รวมถึงเชิดชูความเป็นเลิศ ตั้งแต่กระบวนการริเริ่มการวางกลยุทธ์ การดำเนินการ ตลอดจนความสำเร็จ ในการจัดงาน
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการคว้าทั้ง 4 รางวัล อันทรงเกียรติเหล่านี้ ถือเป็นเครื่องแสดงความสำเร็จของกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย‘ และ ‘Dare to Disrupt ท้าคนกล้า พิชิตทุกเส้นทางโหด’ อีกทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความทุ่มเทของบริษัท ที่ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ แต่ยังสามารถสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้า ได้สัมผัสถึงศักยภาพการใช้งานจริงผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และน่าประทับใจ
ติดตามข่าวสารของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
นัดหมายทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น ที่ www.mitsubishi-motors.co.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine - รางวัลเหรียญทอง ประเภท Brand Activation จากกิจกรรม ‘Mitsubishi e:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย’ – มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี
-
News / News Motocycle1 Min Read
“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025” ขับเคลื่อนการให้อย่างต่อเนื่อง ส่งต่อเงินบริจาค 2,149,000 บาท แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนอนาคตทางการแพทย์ จากกิจกรรมประมูลการกุศล Charity Night

การแข่งขันกอล์ฟสตรีระดับโลก “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025” สานต่อเจตนารมณ์แห่งการให้ สนับสนุนและส่งต่อความช่วยเหลือสู่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบเงินบริจาคจากกิจกรรมประมูลไอเทมสุดพิเศษและของรักจากนักกอล์ฟระดับโลกในงาน “Honda LPGA Thailand 2025 Charity Night” รวมกับเงินสมทบอื่น ๆ ทั้งสิ้น 2,149,000 บาท ให้แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสมทบกองทุนเพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส ฯ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวาระ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของโรงพยาบาลศิริราช และเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น การจัดหาเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น การส่งเสริมงานวิจัยทางการแพทย์ การมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาแพทย์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข และการยกระดับศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง
กิจกรรม Honda LPGA Thailand 2025 Charity Night จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมเมอเวนพิค สยาม นาจอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี โดย ไฮไลต์ของงาน คือ การประมูลของที่ระลึกสุดพิเศษจากนักกอล์ฟระดับโลกที่เข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ ถุงกอล์ฟรุ่นพิเศษจากฮอนด้าพร้อมลายเซ็นจากนักกอล์ฟทั้ง 72 คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน, พัตเตอร์และเสื้อกอล์ฟของ แพตตี้–ปภังกร ธวัชธนกิจ, ธงพร้อมลายเซ็นของนักกอล์ฟหญิงไทยทั้ง 12 คนที่ร่วมแข่งขัน, ภาพวาดโปสเตอร์การแข่งขันที่มีลายเซ็นของนักกอล์ฟระดับโลก 5 คน ได้แก่ จีโน่–อาฒยา ฐิติกุล, แพตตี้–ปภังกร ธวัชธนกิจ, รัวหนิง หยิน, ยูกะ ซาโสะ และบรู๊ค เอ็ม เฮนเดอร์สัน รวมถึงเหล็ก 3 ของจอร์เจีย ฮอลล์, เวดจ์ของพี่น้องฝาแฝดจากญี่ปุ่น ชิซาโตะ และ อากิเอะ อิวาอิ และรองเท้ากอล์ฟของซีลีน บูติเยร์
กิจกรรมนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่จัดควบคู่กับการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้จัดการแข่งขันได้ร่วมมือกับนักกอล์ฟและพันธมิตรในการระดมทุนเพื่อมอบให้แก่ศิริราชมูลนิธิ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึงการบริจาคในปีนี้ มีมูลค่ายอดเงินบริจาคสะสมกว่า 8 ปี จากกิจกรรมดังกล่าว รวม 13,171,730 บาท
การแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” เป็นรายการกอล์ฟสตรีระดับโลกที่จัดขึ้นในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องถึง 18 ครั้ง ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามทั้งจากนักกอล์ฟระดับโลกและแฟนกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยมุ่งมั่นในการยกระดับวงการกอล์ฟไทย เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้ร่วมแข่งขันในเวทีระดับโลก พร้อมส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความตั้งใจของฮอนด้าและพันธมิตรในการสนับสนุนและส่งเสริมกีฬา เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
GEELY EX5 มอบข้อเสนอพิเศษแห่งปี “The Ultimate Deal” พร้อมส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท

บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ จีลี่ (GEELY) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มอบข้อเสนอพิเศษแห่งปีกับแคมเปญ “The Ultimate Deal” สำหรับ GEELY EX5 รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า เกินราคาในแบบที่คุณคาดไม่ถึง การันตีคุณภาพระดับโลกด้วยรางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบจาก Red Dot Design Award 2025 พร้อมคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากทั้ง Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) และ ANCAP (Australasian New Car Assessment Program) ตอกย้ำมาตรฐานยานยนต์ระดับโลก พร้อมความมุ่งมั่นของ จีลี่ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตรถยนต์ที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และทันสมัยที่สุด เพื่อส่งมอบยานยนต์คุณภาพและความคุ้มค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้าทั่วโลก

ทั้งนี้ข้อเสนอพิเศษแห่งปี “The Ultimate Deal” ขอมอบส่วนลดสูงสุดให้แก่ลูกค้ามูลค่า 100,000 บาท หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 60 เดือน เมื่อซื้อ GEELY EX5 ทั้ง 2 รุ่น จากราคาจำหน่ายปกติ ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 31 กรกฎาคม 2568
- รุ่น MAX ราคาพิเศษ 899,000 บาท (ราคาปกติ 989,000 บาท)
- รุ่น PRO ราคาพิเศษ 799,000 บาท (ราคาปกติ 899,000 บาท)
- หรือ เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 60 เดือน จากราคาจำหน่ายปกติทั้ง 2 รุ่น
พร้อมกันนี้ข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี “The Ultimate Deal” ยังมอบความคุ้มค่าแบบจัดเต็ม ด้วยสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ดังนี้
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม.
- ฟรี รับประกันคุณภาพตัวรถ 6 ปี หรือ 160,000 กม.
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นานสูงสุด 8 ปี
- ฟรี ฟิล์มกรองแสง Solar Gard Premium มูลค่า 22,000 บาท (เฉพาะรุ่น MAX)
- ฟรี ส่วนลดพิเศษมูลค่า 25,000 บาท เมื่อซื้อ Home Charger พร้อม Portable Charger ที่โชว์รูม GEELY ทุกสาขา

GEELY EX5 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี GEA (Global Intelligent Electric Architecture) พื้นฐานแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ จีลี่ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า มีความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างที่ผสานกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง CTB (Cell-to-Body Integration Technology) เทคโนโลยีการติดตั้งแบตเตอรี่เข้ากับแพลตฟอร์มโครงสร้างรถยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย Short Blade Battery เทคโนโลยีแบตเตอรี่ LFP (Lithium Iron Phosphate) รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีขนาดเล็ก แต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพด้านระยะทางการขับขี่ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัย ADAS L2 (Advanced Driver Assistance System – Level 2) ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ล้ำสมัย ครบครันด้วยฟังก์ชันความปลอดภัยรอบคัน 16 รายการ พร้อมกล้องมองภาพ 360 องศา ช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดภาระผู้ขับขี่ในทุกสถานการณ์ เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 11-in-1 Intelligent Electric Drive ที่ผสานทุกเทคโนโลยีระบบการขับขี่เข้าไว้ด้วยกัน สนุกทุกการขับขี่ด้วยระบบเอนเทอร์เทนเมนต์ FLYME Auto ที่สามารถเชื่อมต่อและสั่งการด้วยเสียง พร้อมระบบเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยม FLYME Sound ที่ให้ครบทุกอรรถรสและมิติเสียง มาพร้อมกับชุดลำโพงระดับพรีเมียม 16 ตำแหน่ง ครบครันทุกรายละเอียดพร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

พร้อมกันนี้ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ยังเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการขยายโชว์รูมและบริการหลังการขายให้ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่พร้อมเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2568 กว่า 15 แห่งในหลายพื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา ระยอง บางบัวทอง มีนบุรี พัฒนาการ พระราม 3 เชียงราย ดอนเมือง ตลิ่งชัน และสระบุรี โดยภายในปี 2568 ยังตั้งเป้าเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเติมครบ 30 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจทั้งในด้านการให้บริการ การซ่อมบำรุง การตรวจเช็กตามระยะ ความพร้อมของอะไหล่ ตลอดจนทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์พิเศษตามมาตรฐานของ จีลี่ ที่ทันสมัย เพื่อดูแลคุณภาพรถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า GEELY EX5 ให้ดีที่สุดตั้งแต่วันส่งมอบจนถึงตลอดอายุการใช้งาน

ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับกับ GEELY EX5 อย่างใกล้ชิด พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายในกิจกรรมโรดโชว์ “GEELY EX5: Road to New Experiences – สู่ประสบการณ์เต็มขั้น” ดังนี้
- เซ็นทรัล เชียงใหม่ วันที่ 16 – 21 กรกฎาคม 2568
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว วันที่ 31 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2568
- บราโว บีเคเค วันที่ 16 – 17 สิงหาคม 2568
- เซ็นทรัล ขอนแก่น วันที่ 28 สิงหาคม – 3 กันยายน 2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
“ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” เก็บแต้มต่อเนื่องครบทุกเรซ ศึก “โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ” สนาม 5 ซัคเซนริง

“ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เดินหน้าเก็บประสบการณ์และปรับตัวในเรซระดับโลกอย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดซิวท็อป 8 คว้าแต้มจากศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกรายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 สนาม 5 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี
เกมเรซแรกมีขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยต้องดวลท่ามกลางแทร็กที่ชุ่มไปด้วยฝนช่วงต้นเรซ “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 6 ไล่บดในกลุ่มนำได้ดี ก่อนที่แทร็กจะเริ่มแห้งและบิดเข้าเส้นชัยในอันดับ 8 ตามหลังผู้ชนะ 15.114 วินาที

ส่วนเรซที่ 2 มีขึ้นช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดาวรุ่งชาวไทยเจ้าของหมายเลข 85 ขับเคี่ยวกับกลุ่มนำอย่างสุดมันส์ ก่อนจะเสียจังหวะหล่นไปท้ายกลุ่ม แต่ยังฮึดสู้คัมแบ็กกลับมาเข้าป้ายในอันดับ 13 ตามหลังผู้ชนะเพียง 2.561 วินาทีเท่านั้น ผ่านการแข่งขัน 10 เรซ จาก 5 สนามแรก รั้งอันดับ 15 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 46 คะแนน โดยสนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคมนี้ ที่ สนาม เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #RoadToMotoGP #TheNextSuccessor #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85 #RookiesCup
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car2 Min Read
GWM จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “GWM HAVAL H6” ฉลองความสำเร็จครบรอบ 4 ปี สู่การเป็น SUV ขวัญใจคนไทย มอบ 3 ข้อเสนอพิเศษ ลูกค้าเก่ารับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุดจัดแคมเปญเฉลิมฉลองของ GWM HAVAL H6 ที่ได้ร่วมเดินทางพร้อมกับชาวไทยครบ 4 ปี โดยรถยนต์เอสยูวีรุ่นนี้เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ GWM ได้นำมาให้ชาวไทยได้สัมผัสเมื่อครั้งเปิดตัวแบรนด์ GWM ในประเทศไทย โดยตลอดรระยะเวลาดังกล่าว ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า GWM HAVAL H6 เป็นรถยนต์คุณภาพที่สามารถครองใจผู้ใช้งานชาวไทย และได้รับเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นเสมอมา ในโอกาสครบรอบ 4 ปีแห่งเส้นทางความสำเร็จครั้งใหญ่นี้ GWM ขอขอบคุณแฟน ๆ ชาวไทย ด้วยการมอบแคมเปญสุดพิเศษ “GWM HAVAL H6 4th Anniversary” ที่มาพร้อม โปรโมชันจัดเต็ม 3 ทางเลือก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยครอบคลุมทั้งรุ่น ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV และ ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV ให้ผู้ที่สนใจได้เลือกข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ ไม่ว่าจะสายชิล เน้นผ่อนเบา สบาย ๆ ทุกเดือน หรือสายอัปเกรดตัวจริง นำรถเก่ามาแลกใหม่ ให้จ่ายไม่พลาดทุกดีล และสายมองไกล ใช้ยาว คุ้มทุกระยะ พิเศษสุด! เพื่อขอบคุณลูกค้าคนสำคัญที่ได้ให้ความไว้วางใจในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ลูกค้าเก่าของ GWM ทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาทอีกทันที โดยทั้งสามข้อเสนอนี้ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ตั้งแต่ 1 – 31 กรกฎาคม 2568 นี้เท่านั้น

เลือกข้อเสนอที่ใช่ ในสไตล์ที่เป็นตัวเองกับ ALL NEW GWM HAVAL H6 พร้อม 3 ทางเลือกสุดพิเศษ!*
- แพ็กเกจที่ 1 : สายชิล ผ่อนเบา เอาอยู่ทุกเดือน**

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ “ผ่อนสบาย แบบไร้กังวล” GWM พร้อมตอบโจทย์ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระรายเดือนท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน ด้วยโปรแกรมช่วยผ่อนรายเดือนเพียง 5,000 บาท มอบให้นานถึง 12 เดือน สำหรับผู้เลือก ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEV รวมมูลค่าสูงถึง 60,000 บาท และ 10 เดือน สำหรับผู้เลือก ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV รวมมูลค่า 50,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับความคุ้มค่าทวีคูณด้วยข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ อย่าง ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.95% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมรับส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และ 70,000 บาท สำหรับรุ่น HEV
- แพ็กเกจที่ 2 : สายอัปเกรดตัวจริง นำรถเก่ามาแลกใหม่ ให้จ่ายไม่พลาดทุกดีล**


สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าในการอัปเกรดรถคันใหม่แบบไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ GWM ขอมอบทางเลือกที่ 2 “TRADE-IN รถเก่าแลกรถใหม่” พร้อมรับสิทธิประโยชน์เพิ่มสูงสุดถึง 60,000 บาท เมื่อซื้อ ALL NEW GWM HAVAL H6 PHEVและรับสิทธิ 50,000 บาท เมื่อซื้อ ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV โดยข้อเสนอสุดพิเศษนี้สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นหลัก ทั้งส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และ 70,000 บาท สำหรับรุ่น HEV พร้อมดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.95% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ทำให้สามารถควบรวมข้อเสนอด้านราคา ดอกเบี้ย และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อย่างลงตัว
- แพ็กเกจที่ 3 : สายมองไกล ใช้ยาว คุ้มทุกระยะ**
สำหรับผู้ที่มองหา “ความคุ้มค่าในระยะยาว” GWM จัดเต็มข้อเสนอเพื่อมอบความอุ่นใจตลอดการใช้งาน ไม่ว่าจะเลือก ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV หรือ PHEV ก็รับสิทธิประโยชน์ด้านการดูแลรักษาแบบครบครัน โดยมอบบริการ GWM Pro Service Inclusive (GPSI) ครอบคลุมค่าอะไหล่และค่าแรงในการบำรุงรักษาตามระยะทางสูงสุดถึง 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมมูลค่าสูงสุด 43,820 บาท (ในรุ่น PHEV) และ 43,200 บาท (ในรุ่น HEV) พร้อมช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรถได้อย่างเห็นผล สำหรับลูกค้าที่เลือกรุ่น PHEV ยังได้รับ GWM Home Charger พร้อมบริการติดตั้งฟรี 1 ครั้ง (ในระยะสายไฟไม่เกิน 15 เมตร) รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท พร้อมรับส่วนลดเงินสดสูงสุด 80,000 บาท สำหรับรุ่น PHEV และ 70,000 บาท สำหรับรุ่น HEV และดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.95% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบสบายใจในระยะยาว ทั้งสะดวก ประหยัด และคุ้มค่าตั้งแต่วันแรกที่รับรถจนถึงทุกการเดินทางในอนาคต

สำหรับลูกค้าเก่าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ GWM ทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาทจากข้อเสนอทั้ง 3 ทางเลือก** ยิ่งไปกว่านั้น ALL NEW GWM HAVAL H6 HEV และ PHEV ทุกรุ่นมาพร้อมกับการรับประกันภัยชั้น 1 นานถึง 1 ปีเต็ม มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ฟิล์มกรองแสง Lamina CM ONE มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท (รุ่น PHEV) และ 9,900 บาท (รุ่น HEV) บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท บริการระบบตรวจสอบและสั่งการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถนาน 3 ปีเต็ม มูลค่า 10,500 บาท รวมถึงการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร*** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และในรุ่น PHEV มีการรับประกันแบตเตอรี่ เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร*** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับรุ่น HEV ไม่จำกัดระยะทาง***
* เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ ALL NEW GWM HAVAL H6 ได้ที่ แอปพลิเคชัน GWM และ www.gwm.co.th
** ทุกทางเลือก ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าเก่า GWM ทุกรุ่น
รับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท จากโปรโมชันที่เลือก เพียงแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของรถ GWM รุ่นใดก็ได้
*** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ GWM Thailand – Service

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา GWM HAVAL H6 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพระดับโลก ประสิทธิภาพขั้นสูง และความสามารถในการตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในด้านสมรรถนะ ความคุ้มค่า ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เรารู้สึกซาบซึ้งในความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศที่เลือกให้ GWM เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการเดินทาง และขอขอบคุณทุกเสียงตอบรับที่มีค่าต่อการพัฒนาแบรนด์ของเราอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสครบรอบ 4 ปีของ GWM HAVAL H6 ในประเทศไทย GWM จึงตั้งใจมอบแคมเปญสุดพิเศษนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนความเชื่อมั่นของลูกค้าทุกท่าน และออกแบบข้อเสนอที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งรุ่น HEV และ PHEV เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการและสไตล์การใช้ชีวิตของตนเองได้มากที่สุด สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ GWM ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน (All Users) และตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ (All Scenarios) อย่างแท้จริง”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
ไทยฮอนด้า ท้าไบค์เกอร์ทั่วไทยทดสอบเทคโนโลยี Honda E-Clutch ทดลองขี่ CL300 และ Rebel300 ได้แล้ววันนี้ที่ Honda Wing Center ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

ไทยฮอนด้า เปิดโอกาสให้เหล่าไบค์เกอร์และผู้ที่หลงใหลในการขับขี่ มาร่วมทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ ‘New Honda CL300 E-Clutch’ และ ‘New Honda Rebel300 E-Clutch’ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีคลัตช์ไฟฟ้าอัจฉริยะ Honda E-Clutch ซึ่งถ่ายทอดสู่คลาส 300 ซีซี เป็นครั้งแรก พร้อมให้สัมผัสแล้ววันนี้ที่ Honda Wing Center ทุกสาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายน 2568
เทคโนโลยี Honda E-Clutch คือเทคโนโลยีคลัตช์ไฟฟ้าล้ำสมัย ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่ต้องกำคลัตช์ เพิ่มทั้งความสะดวก ความคล่องตัว และความสนุกในการขับขี่ เทคโนโลยีนี้ถูกถ่ายทอดสู่รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดในคลาส 300 ซีซี ได้แก่
- New Honda CL300 E-Clutch สไตล์ Scrambler ลุยได้ทุกเส้นทาง
- New Honda Rebel300 E-Clutch สไตล์ Custom Bobber เท่ มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกปิดระบบ E-Clutch เพื่อกลับไปใช้คลัตช์แบบแมนนวลได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นช่วงออกตัว เปลี่ยนเกียร์ หรือหยุดรถ จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ชื่นชอบการขี่แบบง่ายสบาย และสายบิดที่ต้องการควบคุมทุกจังหวะได้เต็มมือ ยกระดับประสบการณ์ขับขี่ให้เร้าใจและง่ายขึ้นในทุกเส้นทาง
สำหรับ New Honda CL300 E-Clutch มาพร้อมสีดำ Mat Gunpowder Black และ New Honda Rebel300 E-Clutch มาพร้อมสีดำ Pearl Shining Black ทั้งสองรุ่นเปิดตัวในราคาแนะนำ 159,900 บาท ผู้ที่สนใจเปิดประสบการณ์ขับขี่จริงแบบอีซี่ด้วยเทคโนโลยี Honda E-Clutch ที่ถ่ายทอดลงสู่คลาส 300 ซีซีเป็นครั้งแรก สามารถร่วมกิจกรรมทดลองขี่ได้แล้ววันนี้ที่ Honda Wing Center ทุกสาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA
#NewREBEL300 #NewCL300 #EClutch #AReflectionofYou #Scrambler #Expressyourself #CustomBobber #HondaEClutch300cc #EasyRideใกล้ฉัน
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
-
News Car1 Min Read
GWM เตรียมเปิดตัวและประกาศราคา NEW GWM TANK 500 DIESEL รถยนต์ PPV ระดับพรีเมียม 24 กรกฎาคมนี้!

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ยกระดับตลาด PPV ในประเทศไทย เตรียมนำสุดยอดรถยนต์ระดับพรีเมียม NEW GWM TANK 500 DIESEL ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ใช้งานในประเทศไทย ฉีกกฏการขับขี่และทุกความเชื่อเดิม ๆ ของเครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบัน ด้วยการเป็น PPV เพียงหนึ่งเดียวในไทยจาก GWM ที่ผสานพลังดีเซลใหม่กับความหรูหรา สง่างาม สะดวกสบาย และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อมอบนิยามใหม่ของ PPV พรีเมียมอัจฉริยะในทุกมิติ สร้างมาตรฐานใหม่สู่การขับขี่ระดับพรีเมียมในทุกเส้นทางอย่างแท้จริง พร้อมเปิดตัวเป็น “ประเทศแรกในโลก” อย่างเป็นทางการ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ รับชมการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศผ่านทาง Facebook, YouTube หรือ TikTok : GWM Thailand ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป

นอกเหนือจากเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพิสูจน์จากความสำเร็จของ GWM TANK 300 DIESEL ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เต็มประสิทธิภาพ ทรงพลัง แรง แต่เงียบกว่า นิ่งกว่า และนุ่มนวลกว่าแล้วนั้น NEW GWM TANK 500 DIESEL ยังเตรียมยกระดับการเดินทางทั้ง 4 ด้านให้แก่ลูกค้าชาวไทย ได้แก่ 1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน 2.) ความสบายเหนือระดับ 3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย และ 4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย โดย NEW GWM TANK 500 DIESEL คือ นิยามมาตรฐานใหม่ของรถ PPV 7 ที่นั่ง ระดับโลกอย่างแท้จริง



NEW GWM TANK 500 DIESEL ให้พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด มอบการขับขี่ที่ลื่นไหล คล่องตัว โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอก-ภายในระดับพรีเมียม ห้องโดยสารตกแต่งด้วยเบาะหนัง Nappa และไฟ Ambient Light เพิ่มบรรยากาศพรีเมียมทุกมิติ มาพร้อมหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว และ 14.6 นิ้ว รองรับ Smart Dual Screen Interaction เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่เชื่อมโยงอย่างลงตัว รวมถึงกล้องแสดงภาพรอบคัน 540 องศา (กล้อง 360 องศาพร้อมระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ) เสริมด้วยฟังก์ชันระดับวีไอพี เช่น Welcome Seat พร้อมระบบนวด, ระบบเสียงรอบทิศจากลำโพง 12 ตำแหน่ง, พื้นที่เก็บสัมภาระจุใจ 795 ลิตร และระบบกรองอากาศ N95 รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับ L2+ ที่อัดแน่นและโครงสร้างตัวถังแบบ Cage-Type ที่แข็งแกร่ง ทนทานต่อการชนและแรงกระแทก พร้อมรับทุกความท้าทายในการเดินทางอย่างมั่นใจ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนทั้ง 2WD และ 4WD พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 8 รูปแบบ (ในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD) โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.4T PRO, 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD* เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน โดยเฉพาะรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ที่มาพร้อมสีตกแต่งพิเศษ “Black Warrior” ถ่ายทอดอารมณ์เข้ม ดุดัน และทรงพลังได้อย่างมีเอกลักษณ์ (*ผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นมีข้อมูลและอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน โปรดศึกษารายละเอียดของแต่ละรุ่นย่อยเพิ่มเติม)

เตรียมนับถอยหลังไปด้วยกัน กับการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ยนตรกรรม PPV พรีเมียมอัจฉริยะ ที่พร้อมจะปลดล็อกทุกข้อจำกัดและเขียนนิยามบทใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ PPV เมืองไทย ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้!


ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
GWM (Thailand) เตรียมเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL ผ่านกลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์” สะท้อนกลุ่มเป้าหมายพรีเมียมเหนือระดับ
GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” เตรียมเดินหน้าเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียม PPV 7 ที่นั่ง พร้อมขับเคลื่อนความพรีเมียมที่แตกต่างด้วยกลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” เป็น “พรีเซ็นเตอร์คนไทย” ของรถยนต์รุ่นนี้ เจาะอินไซต์ผู้ชายไทยที่ต้องการรถยนต์ ‘พรีเมียม + สมาร์ท’ สะท้อนภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้านของผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้แก่วงการรถยนต์พร้อมกับการเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ติดตามรับชมไลฟ์สดพร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง Facebook หรือ YouTube หรือ TikTok : GWM Thailand ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป

“ป้อง ณวัฒน์” สะท้อนถึงข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ซึ่งเป็นผู้ชายไทยวัยทำงานที่ประสบความสำเร็จ มีสไตล์ มีความชื่นชอบที่แตกต่าง เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ ๆ พร้อมเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต รักครอบครัว และต้องการบาลานซ์ระหว่าง “งาน ชีวิต ไลฟ์สไตล์” อย่างลงตัว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของผู้ชายที่ใช้ชีวิตอย่างมีระดับ พร้อมมาดสุขุม ลุ่มลึก มีเอกลักษณ์ แข็งแกร่ง และทรงพลัง ทั้งในฐานะนักแสดงแถวหน้าของประเทศไทยและในประเทศจีน และบทบาทนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดย ป้อง ณวัฒน์ สามารถส่งต่อภาพลักษณ์อันโดดเด่น หรือ Brand Persona ของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ออกมาได้อย่างชัดเจน

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “GWM มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ ป้อง ณวัฒน์ ในครั้งนี้ การใช้ ป้อง ณวัฒน์ ไม่ได้เป็นแค่การสร้างการรับรู้ (Awareness) แต่เป็นการวางบุคลิกลักษณะของพรีเซ็นเตอร์และผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม จากภาพลักษณ์ที่ “สำเร็จแต่เปิดกว้าง” “เหนือระดับแต่ไม่อวดอ้าง” “มีวุฒิภาวะแต่ยังทันสมัย” และยังบาลานซ์ได้ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว และธุรกิจ ดังนั้น ป้อง ณวัฒน์ จึงมีความเป็นตัวตนที่สอดคล้องกับลักษณะอันโดดเด่นของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ได้อย่างกลมกลืน การใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ของเรา คือการเชื่อมโยงแบรนด์กับความเป็นพรีเมียม ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในแบบที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ด้วยรูปลักษณ์ของรถยนต์ แต่ผ่านการเล่าเรื่อง ไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตจริงของพรีเซ็นเตอร์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์ GWM สู่ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม PPV 7 ที่นั่งในประเทศไทย ด้วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่ผสาน “ความเข้าใจคน” เข้ากับ “ความเข้าใจแบรนด์”
NEW GWM TANK 500 DIESEL เตรียมมอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน 2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย 3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย และ 4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย นิยามมาตรฐานใหม่ของรถ PPV 7 ที่นั่ง ระดับโลกอย่างแท้จริง
เตรียมนับถอยหลังสู่งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “NEW GWM TANK 500 DIESEL” วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ พร้อมยกระดับประสบการณ์ PPV พรีเมียมให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับก่อนใครได้แล้ววันนี้ ที่ GWM Partner Store ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GWM Application, www.gwm.co.th หรือ GWM Contact Center 02-668-8888
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“อีซูซุ” แจกจริง กับแคมเพจ์นสุดพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์”

อีซูซุจัดแคมเพจ์นพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์” สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถอีซูซุ ดีแมคซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2568 ลุ้นรับรางวัลจี้ทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 26,051.39 บาท จับรางวัลทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 22 รางวัล จำนวน 9 สัปดาห์ รวม 198 รางวัล คิดเป็นมูลค่ารวม 5,158,175.17 บาท ตอกย้ำแนวคิด “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” รถปิกอัพคุณภาพ “ดีแมคซ์ ดีจริง” ปิกอัพที่รวมทุกความต้องการไว้ครบ ทั้งในเรื่องความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน การเกาะถนน และความคุ้มค่า จับสลากครั้งแรกโดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้แทนจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยและผู้แทนสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม https://www.isuzu-tis.com/specialoffer/pup/dmdj

หมายเหตุ
– สิทธิ์ในการลุ้นรางวัลจะถูกแบ่งตามรอบการจับรางวัล ผู้ที่ซื้อและรับรถในช่วงเวลาของรอบใด จะมีสิทธิ์ ลุ้นรางวัลเฉพาะในรอบการจับรางวัลของสัปดาห์นั้นๆ เท่านั้น และสิทธิ์ดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป
– ผู้โชคดีมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และลูกค้า 1 สิทธิ์ จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลจับสลากได้เพียง 1 ครั้ง (1รอบ) เท่านั้น ลูกค้านิติบุคคลและลูกค้ารายใหญ่ (Fleet Customer) สามารถร่วมแคมเพจ์นได้ และได้รับ 1 สิทธิ์เท่านั้น
– ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่มีการจับสลาก เวลา 18.00 น. ผ่านเพจ FB : All-New ISUZU D-Max และทางผู้จำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศ พร้อมรายละเอียดการรับรางวัล
– ใบอนุญาตจับสลากเลขที่ 1047-1055/2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


























































































































