-
GWM (Thailand) เตรียมเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL ผ่านกลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์” สะท้อนกลุ่มเป้าหมายพรีเมียมเหนือระดับ
GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” เตรียมเดินหน้าเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียม PPV 7 ที่นั่ง พร้อมขับเคลื่อนความพรีเมียมที่แตกต่างด้วยกลยุทธ์ Presenter Marketing ดึง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” เป็น “พรีเซ็นเตอร์คนไทย” ของรถยนต์รุ่นนี้ เจาะอินไซต์ผู้ชายไทยที่ต้องการรถยนต์ ‘พรีเมียม + สมาร์ท’ สะท้อนภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้านของผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้แก่วงการรถยนต์พร้อมกับการเปิดตัว NEW GWM TANK 500 DIESEL วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ติดตามรับชมไลฟ์สดพร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง Facebook หรือ YouTube หรือ TikTok : GWM Thailand ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป

“ป้อง ณวัฒน์” สะท้อนถึงข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ซึ่งเป็นผู้ชายไทยวัยทำงานที่ประสบความสำเร็จ มีสไตล์ มีความชื่นชอบที่แตกต่าง เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ ๆ พร้อมเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต รักครอบครัว และต้องการบาลานซ์ระหว่าง “งาน ชีวิต ไลฟ์สไตล์” อย่างลงตัว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของผู้ชายที่ใช้ชีวิตอย่างมีระดับ พร้อมมาดสุขุม ลุ่มลึก มีเอกลักษณ์ แข็งแกร่ง และทรงพลัง ทั้งในฐานะนักแสดงแถวหน้าของประเทศไทยและในประเทศจีน และบทบาทนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดย ป้อง ณวัฒน์ สามารถส่งต่อภาพลักษณ์อันโดดเด่น หรือ Brand Persona ของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ออกมาได้อย่างชัดเจน

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “GWM มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ ป้อง ณวัฒน์ ในครั้งนี้ การใช้ ป้อง ณวัฒน์ ไม่ได้เป็นแค่การสร้างการรับรู้ (Awareness) แต่เป็นการวางบุคลิกลักษณะของพรีเซ็นเตอร์และผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม จากภาพลักษณ์ที่ “สำเร็จแต่เปิดกว้าง” “เหนือระดับแต่ไม่อวดอ้าง” “มีวุฒิภาวะแต่ยังทันสมัย” และยังบาลานซ์ได้ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว และธุรกิจ ดังนั้น ป้อง ณวัฒน์ จึงมีความเป็นตัวตนที่สอดคล้องกับลักษณะอันโดดเด่นของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ได้อย่างกลมกลืน การใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ของเรา คือการเชื่อมโยงแบรนด์กับความเป็นพรีเมียม ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในแบบที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ด้วยรูปลักษณ์ของรถยนต์ แต่ผ่านการเล่าเรื่อง ไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตจริงของพรีเซ็นเตอร์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์ GWM สู่ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม PPV 7 ที่นั่งในประเทศไทย ด้วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่ผสาน “ความเข้าใจคน” เข้ากับ “ความเข้าใจแบรนด์”
NEW GWM TANK 500 DIESEL เตรียมมอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน 2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย 3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย และ 4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย นิยามมาตรฐานใหม่ของรถ PPV 7 ที่นั่ง ระดับโลกอย่างแท้จริง
เตรียมนับถอยหลังสู่งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “NEW GWM TANK 500 DIESEL” วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 นี้ พร้อมยกระดับประสบการณ์ PPV พรีเมียมให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับก่อนใครได้แล้ววันนี้ ที่ GWM Partner Store ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GWM Application, www.gwm.co.th หรือ GWM Contact Center 02-668-8888
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
“อีซูซุ” แจกจริง กับแคมเพจ์นสุดพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์”

อีซูซุจัดแคมเพจ์นพิเศษ “ดีแมคซ์ ดีจริง ลุ้นทองทุกสัปดาห์” สำหรับลูกค้าที่ซื้อและรับรถอีซูซุ ดีแมคซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2568 ลุ้นรับรางวัลจี้ทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 26,051.39 บาท จับรางวัลทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 22 รางวัล จำนวน 9 สัปดาห์ รวม 198 รางวัล คิดเป็นมูลค่ารวม 5,158,175.17 บาท ตอกย้ำแนวคิด “ISUZU Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” รถปิกอัพคุณภาพ “ดีแมคซ์ ดีจริง” ปิกอัพที่รวมทุกความต้องการไว้ครบ ทั้งในเรื่องความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน การเกาะถนน และความคุ้มค่า จับสลากครั้งแรกโดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้แทนจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยและผู้แทนสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม https://www.isuzu-tis.com/specialoffer/pup/dmdj

หมายเหตุ
– สิทธิ์ในการลุ้นรางวัลจะถูกแบ่งตามรอบการจับรางวัล ผู้ที่ซื้อและรับรถในช่วงเวลาของรอบใด จะมีสิทธิ์ ลุ้นรางวัลเฉพาะในรอบการจับรางวัลของสัปดาห์นั้นๆ เท่านั้น และสิทธิ์ดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป
– ผู้โชคดีมีสิทธิ์ได้รับรางวัลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และลูกค้า 1 สิทธิ์ จะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลจับสลากได้เพียง 1 ครั้ง (1รอบ) เท่านั้น ลูกค้านิติบุคคลและลูกค้ารายใหญ่ (Fleet Customer) สามารถร่วมแคมเพจ์นได้ และได้รับ 1 สิทธิ์เท่านั้น
– ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่มีการจับสลาก เวลา 18.00 น. ผ่านเพจ FB : All-New ISUZU D-Max และทางผู้จำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศ พร้อมรายละเอียดการรับรางวัล
– ใบอนุญาตจับสลากเลขที่ 1047-1055/2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
เปิดตัวแล้ว! Café Amazon Digital Store แห่งแรกของไทย จับมือร่วมกับ LINE MAN Wongnai ชูเทคโนโลยียกระดับประสบการณ์ สั่ง-จ่าย-รับ ไม่ต้องต่อคิว

Café Amazon ร้านกาแฟอันดับ 1 ขวัญใจผู้บริโภค จับมือร่วมกับ LINE MAN Wongnai ผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์ อันดับ 1 ของไทย พร้อมยกระดับประสบการณ์บริการที่ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Wongnai POS Order and Pay ระบบสแกนสั่งอาหาร และชำระเงิน ผ่าน QR Code และฟีเจอร์ Pick & Go สั่งล่วงหน้าบน LINE MAN พร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการที่ดีที่สุดเพื่อคนไทย โดยคนไทยอย่างแท้จริง
คุณไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) กล่าวว่า “Café Amazon มุ่งมั่นส่งมอบ กาแฟคุณภาพให้เข้าถึงคนไทยทุกกลุ่ม นอกจากจะร่วมมือกับ LINE MAN บริการเดลิเวอรีเพื่อ ส่งมอบความสุขไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศแล้ว ล่าสุดเรานำเทคโนโลยีดิจิทัลโซลูชั่น Wongnai POS Order & Pay และ Pick & Go สั่งล่วงหน้าบน LINE MAN เข้ามาใช้งานอย่างเป็นทางการ เริ่มที่ Café Amazon สาขา Forestry ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) เป็นเรือธงสาขา Digital Store แห่งแรกของไทย ตอกย้ำความเป็นแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งรอบด้าน ทั้งคุณภาพ รสชาติ และนวัตกรรม โดยนำเทคโนโลยีจาก LINE MAN Wongnai เป็นพาร์ทเนอร์หลักที่ช่วยยกระดับการบริการให้กับผู้บริโภคและบริหารจัดการร้าน มุ่งเน้นผลลัพธ์ในการสร้างประสบการณ์ที่สะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ทำให้การซื้อกาแฟเป็นเรื่องง่าย สะดวกและรวดเร็ว และยังเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการร้าน ที่เปลี่ยนจากการสั่งผ่านพนักงานเป็นดิจิทัล 100% LINE MAN ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างยอดขายเดลิเวอรีกับ Café Amazon อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดออเดอร์กว่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสัดส่วนของการสั่ง Bakery หรือสินค้า Non-beverage ควบคู่กับเครื่องดื่มสูงขึ้น และเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี”
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า “LINE MAN Wongnai มุ่งมั่นผลักดันผู้ประกอบการไทยให้เติบโตด้วยเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด ‘Digitalize Thailand’ โดยเชื่อว่าหัวใจของการทำธุรกิจยุคใหม่ คือการเชื่อมต่อระหว่างร้านค้าและผู้บริโภคอย่างลื่นไหล ความร่วมมือกับ Café Amazon เปิดสาขา Digital Store แห่งแรกของไทย จึงเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจร้านอาหาร ผ่าน 2 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ Wongnai POS: Order & Pay ระบบที่ให้ลูกค้าสแกน QR Code ที่โต๊ะหรือเคาน์เตอร์เพื่อเลือกเมนู สั่งอาหาร และชำระเงินด้วยตัวเอง และ Pick & Go ฟีเจอร์สั่งล่วงหน้าผ่านแอป LINE MAN แล้วไปรับที่ร้านได้ทันที โดยไม่ต้องรอคิวฟีเจอร์เหล่านี้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรวดเร็วและความสะดวก จากฐานข้อมูลของ LINE MAN Wongnai พบว่า ลูกค้ากว่า 72% ชอบร้านที่มีหลายช่องทางให้สั่ง และ 66% ต้องการจ่ายเงินได้หลายแบบ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วน พร้อมช่วยร้านค้าลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และขยายโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว”

นำร่องใช้ฟีเจอร์ Mobile Order และ Pick & Go ยกระดับประสบการณ์การสั่งกาแฟที่ดีกว่าเดิม
Café Amazon ร่วมมือกับ LINE MAN Wongnai เปิดตัว Digital Store แห่งแรกของไทย ณ สาขา Forestry ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) นำร่องใช้ฟีเจอร์ Wongnai POS Order & Pay และ Pick & Go มอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า เพิ่มศักยภาพในการรองรับลูกค้า สามารถผลิตกาแฟได้ถึง 60 แก้วต่อชั่วโมง หรือคิดเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับการบริการแบบเดิม รองรับคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วง เวลาเร่งด่วนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเตรียมขยายไปยังสาขาอื่น ๆ ทั่วประเทศ
ความร่วมมือระหว่าง LINE MAN และ Café Amazon สะท้อนให้เห็นถึงผู้นำแบรนด์ไทยทั้งสองด้าน ที่พร้อมพัฒนาและเติบโตเพื่อผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยการยกระดับมาตรฐาน อุตสาหกรรมผู้ประกอบการร้านอาหารได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นการดึงเทคโนโลยีมา ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยอย่างแท้จริง

Café Amazon ขอเชิญชวนลูกค้าทุกท่านมาร่วมเปิดประสบการณ์ดิจิทัลครั้งใหม่กับ Café Amazon สาขา Forestry ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) ลองใช้บริการสั่งซื้อด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่านมือถือหรือ Kiosk พร้อมลิ้มลองเมนูโปรดในรูปแบบที่รวดเร็วและทันสมัยยิ่งกว่าเดิม ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Café Amazon
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle2 Min Read
NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID “ชีวิตที่มีคลาสสำหรับทุกคน” เปิดตัว 3 สีสันใหม่! พร้อมรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด สร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้งในวงการมอเตอร์ไซค์ออโตเมติกเมืองไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง กับการเปิดตัว NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่มีคลาสสำหรับทุกคน” เปิดตัว 3 สีใหม่ ได้แก่ Retro Red สีแดงสุดหรูสะกดทุกสายตากับความฉ่ำวาวชวนหลงใหล ในรุ่น ABS Version มาพร้อมกับ 2 สีสันสุดโดนใจในรุ่น Standard Version กับสีฟ้า Retro Blue สุดแกรมสัมผัสถึงเม็ดสีที่มีคุณภาพ ประกายสีที่สว่างดูแกรนด์ทุกมิติ และสียอดนิยมอย่างสีดำ Massy Black ความเกรงขามนิยามแห่งเคร่งขรึม น่าสัมผัสทุกองศา พร้อมการันตีรางวัลคุณภาพ Mini Bike Best Performance Bike of The Year 2025 ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ พรีเมียม สมรรถนะที่เหนือกว่า และความคุ้มค่ากับการ รับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 – CLASSY with PREMIUM DESIGN
ดีไซน์โดดเด่นสะท้อนความหรูหราทุกมุมมองด้วยไฟ FULL LED รอบคัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, Daylight, ไฟเลี้ยว และไฟท้าย ให้แสงสว่างชัดเจน ทนทาน มาพร้อมกับเรือนไมล์ดิจิทัล LCD & TFT สีสันสดใส บอกสถานะการทำงานของระบบไฮบริดอย่างครบถ้วน เสริมลุคให้ดูสมาร์ท ล้ำสมัย อย่างมีสไตล์

NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 – CLASSY with PREMIUM PERFORMANCE
มาพร้อมสมรรถนะไฮบริดที่เร้าใจ และประหยัดน้ำมันมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ Blue Core Hybrid ขนาด 125 cc พร้อมเทคโนโลยีเสื้อสูบแบบ DiASiL ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 62.5 กม./ลิตร* ระบบสตาร์ทการทำงานของเครื่องยนต์ และออกตัวได้อย่างนุ่มนวล เสียงเงียบด้วย SMART MOTOR GENERATOR เติมเต็มด้วยระบบ STOP & START SYSTEM ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และยังให้ความมั่นใจในการหยุดด้วย UBS Brake System (รุ่น Standard) และ ABS (รุ่น ABS) เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ทุกเส้นทาง



NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 – CLASSY with PREMIUM FEATURES
ฟังก์ชันครบจบในคันเดียว เพิ่มความสะดวกสบายด้วย SMART KEY SYSTEM (เฉพาะรุ่น ABS) สตาร์ทง่าย ปลดล็อกสะดวก, ช่องชาร์จ USB Type A, ที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 27 ลิตร, พร้อม SMART & EASY REFUEL ช่องเติมน้ำมันด้านหน้า ไม่ต้องลงจากรถ เติมง่ายด้วยปุ่มเดียว

NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 – CLASSY with PREMIUM TECHNOLOGY
ล้ำสมัยกับ Y-Connect Application รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน ที่ช่วยตรวจสอบข้อมูลของรถจักรยานยนต์แบบเรียลไทม์ เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวดูแลรถตลอดเวลา
NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 มาพร้อมกับ 10 สีสุดพรีเมี่ยมมีให่เลือก 2 รุ่นได้แก่ รุ่น ABS Version 4 สีสุดพรีเมียมได้แก่สีแดง Retro Red, สีเทา Titanium Gray, สีน้ำเงิน Casual Navy และสีเขียว Matte Cyan ในราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 69,200 บาท และรุ่น Standard Version มาพร้อมกับ 6 สีสดใสได้แก่สีฟ้า Retro Blue, สีดำ Massy Black, สีเทา Solid Gray, สีชมพู Terracotta Pink, สีขาว White Travel และสีเขียว Nomad Green ในราคาแนะนำเริ่มต้นเพียง 64,700 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพทั้งคัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร *การรับประกัน 5 ปี : รับประกันคุณภาพชิ้นส่วนใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเครื่องยนต์ กลุ่มโครงรถ และกลุ่มระบบไฟฟ้า ไม่รวมอะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน โดย บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จากัด เป็นเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ทั้งนี้ ต้องนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะที่บริษัทฯ กำหนด จนกว่าจะครบระยะรับประกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการยามาฮ่าที่ได้รับการแต่งตั้งทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.yamaha-motor.co.th
NEW YAMAHA GRAND FILANO HYBRID 2025 มอเตอร์ไซค์ออโตเมติกแฟชั่นพรีเมียม “ชีวิตที่มีคลาส สำหรับทุกคน” ครบทั้งดีไซน์ พรีเมียม สมรรถนะเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน และเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวคุณ เป็นเจ้าของชีวิตที่มีคลาส…ได้แล้ววันนี้! ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. Yamaha Call Center 02-263-9999
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
- Website: yamaha-motor.co.th
- Facebook: Yamaha Society Thailand
- Instagram: @YamahaSocietyThailand
- YouTube: Yamaha Society Thailand
- LINE OA: @Yamahasociety
#ยามาฮ่า #YamahaRevsYourHeart #ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ #YamahaGrandFilano #GrandFilano #GrandFilano2025
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ไทยฮอนด้า ฉลองครบรอบ 60 ปี ร่วมส่งมอบหมวกกันน็อก มูลค่า 60 ล้านบาท จำนวน 60,000 ใบ ให้กับสถานศึกษาและหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมมือกับภาครัฐนำโดยกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยทางถนนระดับประเทศ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี ภายใต้แนวคิด “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” โดยมอบหมวกกันน็อกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 60,000 ใบ รวมมูลค่า 60 ล้านบาท ให้กับสถานศึกษาและหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ ผ่านพิธีแถลงข่าวที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ ห้องราชสีห์ กระทรวงมหาดไทย
ไทยฮอนด้า สานต่อพันธกิจด้านความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการรณรงค์การสวมหมวกกันน็อกให้เข้าถึงและยั่งยืนยิ่งขึ้น ภายใต้ความร่วมมือครั้งสำคัญกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด (ปภ.) สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการผลักดันนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ
การร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่นี้ มุ่งเน้นการปลูกฝังวัฒนธรรมการสวมหมวกกันน็อกให้กับกลุ่มเยาวชนไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่เริ่มต้นใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางอย่างแพร่หลาย โดยหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐาน มอก. จำนวน 60,000 ใบ จะถูกส่งมอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานด้านการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อนำไปกระจายสู่เด็กและเยาวชนไทย โดยจะเริ่มจัดคาราวานส่งมอบอย่างเป็นทางการทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างเดือนสิงหาคม ถึง ธันวาคม 2568

มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ไทยฮอนด้า เรายึดมั่นในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีมาตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ในโอกาสสำคัญนี้ เราต้องการตอบแทนสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการผลักดันวัฒนธรรม ‘สวมหมวกกันน็อก 100%’ ให้เป็นพฤติกรรมพื้นฐานของคนไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งมีสถิติการสวมหมวกเพียง 16% เท่านั้น เราหวังว่าการขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างภาครัฐในครั้งนี้ จะสามารถลดอัตราการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนลงได้จริง ตาม Global Vision ของฮอนด้า ที่มีเป้าหมายลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลง 50% ภายในปี 2573 และลดเหลือศูนย์ภายในปี 2593”

ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวเสริมว่า “60 ปีของไทยฮอนด้าคือ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่นในความปลอดภัย เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเริ่มต้นจากการปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ โครงการนี้จึงมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเด็กนักเรียนระดับประถม มัธยม และอาชีวศึกษา ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานการศึกษาและ ปภ. ในแต่ละจังหวัด เพื่อให้หมวกกันน็อก 60,000 ใบนี้ไปถึงมือผู้ใช้จริงทั่วประเทศ เราเชื่อว่าเยาวชนคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง และเราต้องการสร้างอนาคตของประเทศไทยให้แข็งแรงบนพื้นฐานของความปลอดภัยที่ยั่งยืน”

ทางด้าน นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “จากสถิติที่ผ่านมา เราทราบกันดีว่า เยาวชนเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนน และส่วนใหญ่มักเกิดจากการไม่สวมหมวกกันน็อก การปลูกฝังวินัยจราจรและจิตสำนึก ด้านความปลอดภัยตั้งแต่วัยเรียน จึงเป็นกลไกสำคัญในการลดการสูญเสียในระยะยาว รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่งอย่างยิ่ง รวมถึงภาคี เครือค่ายของภาครัฐ

เราขอยืนยันว่า เราจะเดินหน้าทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้“การสวมหมวก กันน็อก” กลายเป็นพฤติกรรมที่ฝังอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย โดยเริ่มต้นจากโรงเรียน ชุมชน และขยาย ไปสู่สังคมในวงกว้าง ขอขอบคุณบริษัท ไทยฮอนด้า ที่ได้มุ่งมั่นผลักดันการขับขี่ปลอดภัยผ่านโครงการต่าง ๆ ตลอดถึงความมุ่งมั่นและความร่วมมือครั้งสำคัญในครั้งนี้”
ในวาระครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้า พร้อมเดินหน้าเคียงข้างสังคมไทย ด้วยความมุ่งมั่นในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัย และสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนไทยทุกคน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทยให้ปลอดภัย และก้าวสู่เป้าหมายของการเป็นสังคมที่อุบัติเหตุเป็นศูนย์
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยังยืน” ได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA#ไทยฮอนด้า60ปี #ThaiHonda60TH #ไทยฮอนด้าเคียงข้างสัมคมไทย
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ททท. ส่งแคมเปญ “Burn Out Break” ชวนคนทำงานเติมไฟ ออกเที่ยว 55 เมืองน่าเที่ยวทั่วไทย อัดโปรดีเพียบ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าใจดีถึงความรู้สึกนี้ เลยจัดแคมเปญสุดปัง “Burn Out Break” มาเอาใจคนทำงานโดยเฉพาะ ภายใต้โครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” ที่จะพาคุณไปชะลอจังหวะชีวิต พักกาย พักใจ และเติมพลังให้เต็มที่ใน 55 เมืองน่าเที่ยวทั่วไทย ตลอดหน้าฝนนี้ (มิถุนายน – สิงหาคม 2568)แนวคิดหลักของแคมเปญนี้คือ #JustSlowDown ให้คุณได้หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ ไปสัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เรียบง่าย แถมมีสิทธิพิเศษและโปรโมชันจากพันธมิตรจัดเต็ม ทั้งที่พัก การเดินทาง กิจกรรม และไลฟ์สไตล์

ททท. เผยผลสำรวจที่น่าสนใจว่า พนักงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้ม “หมดไฟ” สูง เพราะภาระงานที่หนักอึ้ง ความรับผิดชอบในระบบราชการ และเวลาส่วนตัวที่จำกัด ทำให้ดูแลสุขภาพจิตได้ไม่เต็มที่ แคมเปญนี้จึงเป็นเหมือน “ทางออก” ให้คนกลุ่มนี้ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง รวมถึงคนทำงานทุกคนที่อยากชาร์จพลังใจให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
สิทธิพิเศษแน่นๆ จากเหล่าพันธมิตร
เพื่อให้ทริปพักใจของคุณคุ้มค่าและสบายกระเป๋า ททท. ได้จับมือกับพันธมิตรชั้นนำ มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมาย:
- Patois: ลดทันที 8% สูงสุด 500 บาท สำหรับแพ็คเกจเที่ยว กิจกรรม ที่พักใน 55 เมืองน่าเที่ยว! ลูกค้า Max Card Plus รับ Max Point เพิ่ม x3 และส่วนลดพิเศษอีก 8% (สูงสุด 1,500 บาทตลอดโครงการ)
- นครชัยแอร์: ซื้อตั๋ว 2 ที่นั่งในเส้นทางเมืองน่าเที่ยว รับส่วนลด 50 บาท
- สายการบิน VietJet: ลด 15% สำหรับเส้นทาง กรุงเทพ–เชียงราย / กรุงเทพ–อุบลราชธานี / กรุงเทพ–อุดรธานี
- Local Alike: แพ็คเกจเที่ยวชุมชนสุดฟิน! ลูกค้าทั่วไปลดสูงสุด 10% พิเศษ! พนักงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจลดสูงสุดถึง 20%
- ธนาคารกรุงเทพ (BBL): ใช้บัตรเครดิต BBL ในร้านค้าที่ร่วมโครงการ แลกคะแนนสะสม Thank You Rewards เท่ายอดใช้จ่าย รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20% (สำหรับบัตรท่องเที่ยว, พินนาเคิล, อินฟินิท, ผู้นำแพลทินัม) และ 13% สำหรับบัตรเครดิตประเภทอื่น
- PTG / Max Card: สมาชิก Max Card รับคะแนนสะสม x2 เมื่อลงทะเบียนและเติมน้ำมันที่ปั๊ม PT ใน 55 เมืองน่าเที่ยว
- ร้านคาเฟ่ท้องถิ่นกว่า 150 ร้าน: พร้อมมอบโปรโมชันและกิจกรรมพิเศษ ให้คุณได้นั่งชิลล์ในคาเฟ่บรรยากาศดีทั่วประเทศ
เที่ยวครบ รับรางวัลใหญ่ “Burn Out Break to the Max”

นอกจากโปรดีๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกับ “Burn Out Break to the Max” ลุ้นรับรางวัลใหญ่รวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท! เพียงสะสมยอดใช้จ่ายจากร้านค้าพันธมิตร (ร้านกาแฟ, ที่พัก, รถทัวร์, สายการบิน, แพ็กเกจเที่ยว) โดยสแกนใบเสร็จผ่าน LINE OA: Burn Out Break
- นักท่องเที่ยวทั่วไป : สะสมยอดครบ 2,500 บาท
- พนักงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ: สะสมยอดครบเพียง 2,000 บาท (พร้อมแสดงหลักฐานยืนยัน)
กิจกรรมนี้มี 3 รอบตลอดแคมเปญ: เดือนมิถุนายน, กรกฎาคม และสิงหาคม 2568 ใครเป็น 1 ใน 10 คนแรกของเดือนที่สะสมยอดครบ รับของรางวัลพิเศษไปเลย!
จำไว้ว่า…การพักผ่อนไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือการดูแลใจที่จำเป็น! แคมเปญ “Burn Out Break” คือโอกาสทองที่คุณจะได้ให้รางวัลตัวเอง ออกเดินทางสู่เมืองน่าเที่ยว ชะลอจังหวะชีวิต หยุดพักบ้าง แล้วค่อยก้าวต่อไปอย่างมีพลัง!
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปดูได้เลยที่เว็บไซต์ www.เมืองน่าเที่ยว2568.com
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
“ซาร์โก” ฝ่าฝนคว้าแต้ม สปรินต์เรซ ซัคเซนริง “ก๊องส์-ธัชกร” สตาร์ตกริดแถว 7 ลุ้นเก็บแต้ม โมโตทรี

ศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 11 รายการ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
การแข่งขัน “สปรินต์เรซ” ต้องดวลความเร็วท่ามกลางสายฝน แข่งขันทั้งสิ้น 15 รอบสนาม โดย “โยฮันน์ ซาร์โก” นักบิดจอมเก๋าชาวฝรั่งเศส หมายเลข 5 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า พารถแข่ง RC213V บิดฝ่าสายฝนถึงมีข้อผิดพลาดจังหวะออกตัว แต่สามารถไต่แซงคู่แข่งขึ้นมาเข้าเส้นชัยอันดับ 7 ด้วยเวลารวม 22 นาที 37.837 วินาที

ส่วน “โจอัน เมียร์” หมายเลข 36 นักบิดสแปนิชจาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี และทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง “ลูกา มารินี” หมายเลข 10 เจอปัญหาเล่นงานในแทร็กเปียก ตามเข้าเส้นชัยอันดับ 14 และ 16 ตามหลังผู้ชนะคนละ 23.077 วินาที และ 29.220 วินาที ตามลำดับ

ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย พยามอย่างสุดความสามารถ บิดคว้ากริดที่ 21 ในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ มาครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 37.758 วินาที เริ่มไล่ล่าแต้มจากกริดในแถวที่ 7
สำหรับ ศึก เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เริ่มต้นด้วย โมโตทรี 16.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 17.20 น. และ โมโตจีพี 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง TrueVisions SPOTV

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #LM10 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #GermanGP
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” โชว์ผลงานแดนปลาดิบ “ชิพ-นครินทร์” คว้าท็อป 4 รุ่นใหญ่สุดแรง ASB1000 “มิกซ์-ธนัช” ไล่คู่แข่งสุดมันส์ คว้าท็อป 6 SS600 ศึก ARRC 2025 เรซ 2 สนาม 3 ประเทศญี่ปุ่น

ผลการแข่งขันทัพนักแข่งไทยและยอดรถแข่งจาก Honda CBR Series 2025 ในศึก FIM Asia Road Racing Championship 2025 สนาม 3 เรซ 2 ที่โมบิลิตี้ รีสอร์ต โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น

การแข่งขันรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 ทะยานรถแข่ง Honda CBR1000RR-R ออกสตาร์ตจากกริดที่ 5 ขึ้นมาลุ้นอันดับในกลุ่มหน้าทันที พร้อมบวกความเร็วเพื่อล่าคู่แข่งกันอย่างดุเดือด และมีการสลับอันดับกันอย่างต่อเนื่อง “ชิพ-นครินทร์” พยายามที่จะรักษาโอกาสในการขยับตำแหน่งพร้อมกับควบคุมความเสี่ยงไปพร้อมๆ กัน โดยสามารถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 4 เก็บคะแนนสะสมจากหัวแถวได้อีกครั้งในเรซนี้ พร้อมเก็บคะแนนสะสมรวม 87 คะแนน รั้งอันดับที่ 4 ของตารางชิงแชมป์ประจำปี

รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) ดาวรุ่งไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่องคว้า Honda CBR600RR ยกระดับผลงานขึ้นมาอีกระดับ นำทีมโดย “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว หมายเลข 31 เตรียมตัวมาอย่างดีในเรซที่ 2 ด้วยการปรับเซ็ตอัพและสไตล์การขับเพื่อพัฒนาจากเรซแรก ออกสตาร์ตกริดที่ 13 พัฒนาความเร็วแซงผ่านคู่แข่งขึ้นมาพร้อมกับการควบคุมเกม คว้าอันดับที่ 6 ไปครอง พร้อมทีมเมท “ไฮเปค” กฤษฎา ธนะโชติ หมายเลข 18 เริ่มต้นจากกริดที่ 15 เข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่ 11 และ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร หมายเลข 20 ที่พร้อมเอาชนะความท้าทายในเรซ เริ่มต้น กริดที่ 16 ขยับทำอันดับยกระดับผลงานคว้าที่ 12 ไปครอง

สถานการณ์ในตารางคะแนนสะสมของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) “มิกซ์-ธนัช” อยู่ในอันดับที่ 8 ด้วยคะแนนสะสม 52 คะแนน โดยมี “ไฮเปค-กฤษฎา” อยู่ในอันดับที่ 11 ด้วยคะแนนสะสม 32 คะแนน และ “ข้าวกล้อง-จักรีภัทร” เก็บไปแล้ว 11 คะแนน รั้งอันดับที่ 17 ของตาราง

ทั้งนี้ การแข่งขันรายการ FIM Asia Road Racing Championship 2025 มีคิวแข่งขันในโปรแกรมสนาม 4 ที่ เปอร์ตามิน่า มัลดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย ในระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2568 นี้
แฟนความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าพร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#ThaiHonda #Motorsport #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #RaceToTheChampion #ARRC2025 #AsiaRoadRacingChampionship2025 #HondaCBR #Chip41 #Kaowkong20 #Mix31 #HiPeck18 #Idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #YumYum #KELA #Kushitani #SHOWA #SKF #KOWA #NGK #DID #ARAI #RCB #RuamJaiRakHospital #GariGari #EEST #DiosDesign #Nissin
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car
ปอร์เช่ (Porsche) ลุยทดสอบ คาเยนน์ อิเล็กทริค เอสยูวี (Cayenne Electric SUV) โชว์เหนือชั้นทุกสมรรถนะ
1 Min Readปอร์เช่ (Porsche) ลุยทดสอบ คาเยนน์ อิเล็กทริค เอสยูวี (Cayenne Electric SUV) โชว์เหนือชั้นทุกสมรรถนะ

คาเยนน์ อิเล็กทริค (Cayenne Electric) พรางตัวทดสอบสมรรถนะและความอเนกประสงค์ก่อนเปิดตัวสู่สาธารณชน
การทดสอบ ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) รุ่นใหม่ กำลังเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบทั่วโลก โดยปอร์เช่ได้พัฒนารถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าเจเนอเรชั่นที่สอง และได้ส่งรถต้นแบบที่ใกล้เคียงรุ่นผลิตจริงลงทดสอบเพื่อเก็บสถิติในด้านต่าง ๆ พร้อมเปิดเผยสมรรถนะและความอเนกประสงค์ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างรอบด้าน
สตุ๊ทการ์ท. ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) ได้สร้างเอกลักษณ์จากความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งในรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ คาเยนน์รุ่นใหม่ ก็ยังคงสานต่อจุดแข็งนั้น พร้อมยกระดับการผสานระหว่างสมรรถนะ การใช้งานในชีวิตประจำวัน ความสะดวกในการเดินทางไกล และความสามารถในการลุยเส้นทางออฟโรดให้ลงตัวยิ่งกว่าที่เคย โดยปอร์เช่ได้แจ้งเกิด คาเยนน์ อิเล็กทริค ก่อนเปิดตัวสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ผ่านการร่วมถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศอังกฤษ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถรุ่นใหม่นี้
ช่วงล่างแบบแอคทีฟมอบความเสถียรและความแม่นยำ สู่การทำลายสถิติใหม่
ปอร์เช่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพสมรรถนะระดับสูงของ คาเยนน์ อิเล็กทริค ที่กำลังจะเปิดตัว ในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ นั่นคือ สนามแข่งขึ้นเขาที่สูงชันอย่าง เชลสลี่ย์ วอลช์ (Shelsley Walsh) ซึ่งจัดแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1905 และถือเป็นหนึ่งในรายการมอเตอร์สปอร์ตที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยรถต้นแบบที่ใกล้เคียงกับรุ่นผลิตจริงได้เข้าร่วมถ่ายทำ พร้อมกับคลุกคลีอยู่ท่ามกลางผู้เข้าแข่งขันรายการ บริติช ฮิลล์ไคลม์ แชมเปียนชิพ (British Hillclimb Championship) โดยมีผู้ควบคุมพวงมาลัยคือ กาเบรียลา ยิลโคว่า (Gabriela Jílková) นักขับซิมูเลเตอร์และนักพัฒนารถจากทีม แทค ฮอยเออร์ ปอร์เช่ ฟอร์มูลา อี (TAG Heuer Porsche Formula E) ซึ่งได้ขับ คาเยนน์ อิเล็กทริค รุ่นต้นแบบขึ้นเนินแอสฟัลต์ที่มีความกว้างเพียง 3.5 เมตรในบางจุด ความชันสูงสุดถึง 16.7 เปอร์เซ็นต์ และมีความยาวทั้งสิ้น 1,000 หลา (914 เมตร) และในความพยายามครั้งแรก เธอได้ทำลายสถิติเวลาเดิมในกลุ่มรถเอสยูวี โดยทำเวลาเร็วกว่าถึง 4 วินาที “สนามนี้ถือว่าโหดมากและไม่เปิดโอกาสให้พลาดเลย” ยิลโคว่ากล่าว “ไม่มีพื้นที่ run-off และแทบไม่มีที่ให้แก้ไขหากเกิดความผิดพลาด แต่ด้วยช่วงล่างแบบแอคทีฟของคาเยนน์ใหม่ ทำให้รถมั่นคงและควบคุมได้อย่างแม่นยำไร้ที่ติ ทำให้สัมผัสได้ถึงความมั่นใจตลอดเส้นทางอย่างแท้จริง”
คาเยนน์ อิเล็กทริค ที่เข้าทดสอบในครั้งนี้ มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบแอ็คทีฟ (Porsche Active Ride) ซึ่งจะได้รับการติดตั้งในคาเยนน์ อิเล็กทริคเมื่อออกสู่ตลาดจริง ระบบช่วงล่างนี้ช่วยให้ตัวรถทรงตัวได้อย่างสมดุลแม้ในสถานการณ์ที่มีการเบรกหนัก เข้าโค้งเร็ว หรือเร่งความเร็วอย่างฉับพลัน พร้อมรักษาการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมด้วยการกระจายน้ำหนักล้อที่สมมาตร ไมเคิล แช็ทซ์เล (Michael Schätzle) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ คาเยนน์ กล่าวว่า “ระบบกันสะเทือน Porsche Active Ride ช่วยขยายขีดความสามารถของคาเยนน์ ใหม่ให้กว้างขึ้น ทั้งในด้านไดนามิกการขับขี่และความสะดวกสบายในการเดินทาง”
คาเยนน์ อิเล็กทริค ไม่ได้สร้างความประทับใจแค่ตอนเข้าเส้นชัย แต่ยังสร้างความตื่นตะลึงตั้งแต่จุดสตาร์ท นอกจากจะทำสถิติใหม่ด้วยเวลา 31.28 วินาที แล้ว อีกหนึ่งตัวเลขที่สร้างความฮือฮาในสนามเชลสลี่ย์ วอลช์ คือเวลาที่รถผ่านจุดวัดแรกซึ่งอยู่ห่างจากเส้นสตาร์ทเพียง 60 หลา (18.3 เมตร) โดย คาเยนน์
อิเล็กทริค ใช้เวลาเพียง 1.94 วินาที ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ มีเพียงรถแข่งแบบที่นั่งเดียวและล้อเปิดแบบฟอร์มูล่าที่ใช้ยางสลิคซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเท่านั้น ที่สามารถทำความเร็วระดับนี้ได้ที่สนามแห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันก้าวล้ำอย่างแท้จริง สะท้อนสมรรถนะการเร่งอันเหนือชั้นของเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จากปอร์เช่ โดยรถทดสอบครั้งนี้ยังใช้เพียงยางฤดูร้อนทั่วไป ไม่ใช่ยางสเปคสนามแข่งแต่อย่างใด โดยรองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ คาเยนน์ กล่าวเสริมว่า “แม้ยังอยู่ในขั้นตอนปรับจูนขั้นสุดท้ายก่อนการเปิดตัวสู่ตลาด แต่พละกำลังและอุปกรณ์ของ คาเยนน์ อิเล็กทริค คันที่ทำลายสถิตินั้น อยู่ในระดับเดียวกับรุ่นผลิตจริง”สมรรถนะการลากจูงทรงพลังเทียบเท่ารุ่นเครื่องยนต์สันดาป
ในประเทศอังกฤษ ปอร์เช่ไม่ได้เพียงแค่เผยให้เห็นสมรรถนะของคาเยนน์ อิเล็กทริค เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความอเนกประสงค์ในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอย่างเต็มรูปแบบ โดย ริชาร์ด แฮมมอนด์ (Richard Hammond) พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังของอังกฤษ ได้ใช้รถต้นแบบที่ถูกพรางตัวนี้ในการถ่ายทำรายการ ขณะลากรถคลาสสิกอายุกว่าร้อยปี น้ำหนักมากกว่า 2 ตัน จากเวิร์กช็อปในเมืองเฮียร์ฟอร์ด (Hereford) ไปยังโรงรถส่วนตัว แม้น้ำหนักรวมจะสูงถึงประมาณ 3 ตัน แต่คาเยนน์ อิเล็กทริค สามารถทำภารกิจได้อย่างราบรื่น แฮมมอนด์กล่าวว่า “แม้ต้องลากน้ำหนักไม่น้อยเลยอยู่ด้านหลัง แต่คาเยนน์ควบคุมทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย จนคุณแทบไม่รู้สึกอะไรเลย” สมรรถนะการลากจูงนี้แสดงให้เห็นว่า เอสยูวี ไฟฟ้ารุ่นใหม่จากปอร์เช่ พร้อมรองรับการใช้งานจริงได้อย่างทัดเทียมกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาป ทั้งในเรื่องความมั่นคง ความสะดวกสบาย และแรงบิดที่ส่งต่ออย่างต่อเนื่องแม้ในสภาพการใช้งานที่ท้าทาย
ปอร์เช่ได้ออกแบบคาเยนน์ อิเล็กทริคให้มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านโครงสร้าง ระบบขับเคลื่อน และระบบจัดการความร้อนของระบบแบตเตอรี่แรงดันสูง เพื่อให้รถเอสยูวีสามารถตอบสนองทุกความต้องการ และเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ ของโลกที่สามารถลากจูงได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของรถแต่ละคัน) และยังได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างเช่นเดียวกับ คาเยนน์ เครื่องยนต์สันดาปรุ่นปัจจุบัน “ลูกค้าของเราชื่นชมในความอเนกประสงค์ที่หลากหลายของคาเยนน์ มาโดยตลอด” แช็ทซ์เล กล่าวเสริม “เราจึงไม่ต้องการที่จะลดทอนมาตรฐานใดๆ ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่นี้”
สร้างบรรทัดฐานใหม่ด้วยขุมพลังระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
ไมเคิล แช็ทซ์เล กล่าวว่า “ลูกค้าของเรายังคงมีตัวเลือกเป็นรถยนต์รุ่นเครื่องยนต์สันดาปและระบบไฮบริดที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพไว้ใช้งานไปจนถึงทศวรรษข้างหน้า และเราก็ยังคงลงทุนพัฒนาคาเยนน์รุ่นปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สมรรถนะที่เราเพิ่งสาธิตให้เห็นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในอังกฤษนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยศักยภาพของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเท่านั้น คาเยนน์ อิเล็กทริค จะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะ โดยไม่ลดทอนความอเนกประสงค์ในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันแม้แต่น้อย” ด้วยพลังของการขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ คาเยนน์ อิเล็กทริค จึงไม่ได้เป็นเพียงก้าวใหม่ของปอร์เช่ในยุคยานยนต์ไฟฟ้า แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการผสานสมรรถนะและการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากสร้างสถิติใหม่ที่สนาม เชลสลี่ย์ วอลช์ ปอร์เช่เตรียมนำคาเยนน์ อิเล็กทริค รุ่นต้นแบบ พรางตัวจัดแสดงอีกครั้งในงาน Goodwood Festival of Speed ระหว่างวันที่ 10–13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญในการเผยโฉมศักยภาพของรถเอสยูวี ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ ยางชั้นเยี่ยมที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถไฮเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ โดยเฉพาะ

ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R K1) สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของมิชลินได้เป็นอย่างดี โดยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี, วิศวกรรมที่เหนือชั้น และกระบวนการที่แปลกใหม่ ช่วยผลักดันให้ยางรุ่นนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสมรรถนะบนถนนแห้งเพื่อสุดยอดยนตรกรรมอย่าง ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’

ครั้งแรกกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้เวลาเพียง 15 เดือน
ขั้นตอนค้นคว้าทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางอย่างเข้มข้นด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (Intensive Virtual Exploration Phase) ซึ่งผสานการออกแบบทางดิจิทัล, การจำลองภาพเสมือนจริงในกระบวนการระดับต้นน้ำ (Upstream Simulation) และกระบวนการผลิตพิเศษหนึ่งเดียวในโลกของมิชลินที่เรียกว่า C3M ช่วยลดระยะเวลาพัฒนายางและจำนวนยางต้นแบบที่ต้องผลิตเพื่อทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพลงได้อย่างมาก การผสานรูปแบบการดำเนินงานใหม่ ๆ ดังกล่าวช่วยให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ยางสำหรับจำหน่ายทั่วไปได้เร็วขึ้น โดยสามารถนำคุณสมบัติด้านสมรรถนะของรถ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ มาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานได้ตั้งแต่ขั้นตอนวิจัยแรกสุด ที่สำคัญยังช่วยลดจำนวนยางต้นแบบที่ต้องผลิตเพื่อทดสอบลงได้ 20-30% ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงมากตามไปด้วย

ระบบจำลองภาพเสมือนจริง…เพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่า
ระบบจำลองภาพเสมือนจริง (Simulation) มักถูกสงวนไว้ใช้ในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะในการพัฒนายางสำหรับรถไฮเปอร์คาร์ แต่มิชลินและเฟอร์รารี่ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการพัฒนายาง (Pre-Development Phase) ซึ่งรถยนต์ที่จะใช้งานด้วยยังอยู่ในรูปแบบเสมือนจริงเท่านั้น โดยระบบจำลองภาพที่นำมาใช้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดขนาดยางที่เหมาะสมกับรถที่สุด
การทดลองเสมือนจริง (Virtual Trials) 2 ครั้ง ซึ่งจัดทำโดยใช้ระบบจำลองพลศาสตร์ (Dynamic Simulator) ของเฟอร์รารี่ ณ เมืองมาราเนลโล (Maranello) ประเทศอิตาลี ช่วยยืนยันความเหมาะสมในการนำระบบจำลองภาพเสมือนจริงมาใช้กำหนดขนาดยาง ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างมิชลินและเฟอร์รารี่ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ในขั้นตอนการออกแบบยังมีการจำลองภาพเสมือนจริงเพิ่มอีก 3 ครั้ง ซึ่งช่วยให้สามารถระบุคุณสมบัติของยางที่เหมาะสำหรับสมรรถนะของรถยนต์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ยางที่มาพร้อมสมรรถนะโดดเด่นเพื่อ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’
เพื่อรองรับขุมพลัง, แรงบิด, แรงกดทางอากาศพลศาสตร์ และการทำความเร็วสูงสุดของรถไฮเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ มิชลินได้รังสรรค์เนื้อยางสูตรผสมใหม่โดยใช้กระบวนการผสมเช่นเดียวกับที่ใช้ในยางสำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ต แต่เป็นครั้งแรกที่นำกระบวนการดังกล่าวมาใช้กับยางสำหรับใช้งานบนถนนทั่วไป ทำให้ได้เนื้อยางที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะเป็นเยี่ยมและสามารถรองรับทุกความเร็วในการขับขี่ นอกจากนี้ ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ ยังใช้โครงยางเรเดียลแบบ 2 ชั้น (Twin Layer) ที่เสริมความแข็งแกร่งและมีความหนาแน่นสูง จึงรองรับแรงเค้นแนวดิ่ง (Vertical Stress) และแรงเค้นแนวขวาง (Transverse Stress) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยางรุ่นนี้ยังใช้เทคโนโลยีชั้นวัสดุเสริมแรงบริเวณไหล่ยางแบบใหม่ล่าสุด โดยเป็นยางรุ่นแรกที่สามารถลดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ลงได้อย่างเด่นชัด เนื่องจากมีการเพิ่มความหนึบบริเวณไหล่ยางตลอดรอบเส้นยางเพื่อเพิ่มศักยภาพการยึดเกาะในระดับสูงสุด
ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่องค์ประกอบทั้งสามประการข้างต้นถูกนำมาใช้ในยางสำหรับใช้งานบนท้องถนนทั่วไป นอกจากนี้ ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ ยังมีขนาดยางแตกต่างจากปกติ คือ 285/30R20 สำหรับยางล้อหน้า และ 345/30R21 สำหรับยางล้อหลัง
C3M: กระบวนการผลิตที่พิเศษไม่เหมือนใคร
เนื่องจากยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ มีการออกแบบทางเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อให้การผลิตยางรุ่นนี้เป็นไปอย่างแม่นยำมากที่สุด มิชลินจึงนำกระบวนการผลิต C3M ที่พัฒนาขึ้นเองมาใช้ กระบวนการผลิตนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการกำหนดและจัดวางวัสดุแต่ละประเภทอย่างแม่นยำ…คล้ายกับการพิมพ์ 3 มิติ ทั้งยังช่วยให้สามารถผลิตซ้ำได้ตรงตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ในขั้นตอนการพัฒนายางอย่างไม่เคยทำได้มาก่อน และคงความสม่ำเสมอได้ทุกรอบการผลิต ด้วยเหตุนี้ เทคโนโลยี C3M ของมิชลินจึงถือว่ามีความแปลกใหม่อย่างแท้จริง
มิชลินให้ความสำคัญกับสมรรถนะที่ยั่งยืน
การนำระบบจำลองภาพเสมือนจริงมาใช้ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางร่วมกับเฟอร์รารี่ตั้งแต่ปี 2559 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมิชลินที่มีต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากขึ้น ทั้งนี้ ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับรถไฮเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ (มีสัญลักษณ์ K1 บนแก้มยางเพื่อให้ทราบว่าเป็นยางที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ) ผลิตจากโรงงานในเขตกราวองช์ (Gravanches) เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ทั้งยังเป็นหนึ่งในโรงงานของกลุ่มมิชลินที่มีปริมาณการใช้น้ำต่ำที่สุดอีกด้วย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine






























































































































