• NEX POINT ชูศักยภาพบริการหลังการขาย คือ รากฐานสำคัญ พัฒนาทักษะทีมช่างเน้นความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้ากรณีเกิดอุบัติเหตุ

    1 Min Read

    NEX POINT ชูศักยภาพบริการหลังการขาย คือ รากฐานสำคัญ พัฒนาทักษะทีมช่างเน้นความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้ากรณีเกิดอุบัติเหตุ

    เมื่อเร็วๆ นี้ ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน)  ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย  โดย อาจารย์ธีระพล วงศ์เลิศพิชิต ที่ปรึกษาฝ่ายบริการหลังการขาย จัดอบรมหัวข้อ “การจัดการความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ  (EV Accident Response and Safety Protocols)  ได้รับเกียรติจากวิทยากร ดร.วิชญ์พล  โมทนียชาติ ผู้จัดการแผนกวิศวกรรมโครงการพิเศษ ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ และวางแผนการลงทุน บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และ ทีมวิศวกรโรงงานประกอบ AAB ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค และได้การสนับสนุนจากโรงงาน Amita ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม มาช่วยเสริมศักยภาพความพร้อมด้านความปลอดภัยแก่ตัวแทนผู้จำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ NEX POINT ทั่วประเทศ, ทีมช่างมืออาชีพที่ให้บริการฉุกเฉิน (Roadside Assistance) และผู้ประกอบการศูนย์ซ่อมสีและตัวถังฯ และเตรียมความพร้อมบริหารจัดความปลอดภัยด้านยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้ง มาตรการรับมือการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทีมช่างผู้ปฏิบัติงาน ผู้เกิดอุบัติเหตุ และผู้ร่วมใช้รถบนท้องถนน

    การอบรมครั้ง เพื่อต้องการสร้างความมั่นใจ และมัดใจลูกค้า NEX  ทั่วประเทศ ด้วยเนื้อหาหลักในการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยสามารถนำไปปฏับัติงานได้จริง และส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย ได้แก่ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลให้บริการฉุกเฉินและศูนย์ซ่อมช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุยานยนต์ไฟฟ้า, เพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเหลือฉุกเฉินแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยลดความเสียหายและป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ถนน, สนับสนุนการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ช่วยให้ภาคธุรกิจปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยมากขึ้น, ส่งเสริมการเติบโตและการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า สร้างความมั่นใจในการจัดการอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพแก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ และการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดอันตรายจากไฟไหม้แบตเตอรี่หรือสารเคมีรั่วไหล ส่งเสริมการใช้งาน EV อย่างยั่งยืน

    ที่สำคัญ ในการอบรมครั้งนี้ NEX ได้มอบใบรับรอง (Certificate) การจัดการความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ    เป็นเอกสารที่แสดงว่าผู้เข้ารับการอบรมนั้นมีความรู้ และทักษะในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่จะส่งผลดีกับงานทางด้าน  “บริการหลังการขาย” ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญที่ NEX พร้อมจะดูแลผู้จำหน่าย และลูกค้าอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เสมือนเป็นมิตรแท้ทางธุรกิจที่อยู่เคียงข้างเสมอไป NEX POINT ทางเลือกที่ “คุ้มค่าที่สุด” สำหรับ “ผู้ประกอบการยุคใหม่” เพราะนี่คือ  โลจิสติกส์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า โชว์สปิริตขนทัพรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมขบวน ‘LOVE PRIDE PARADE BANGKOK 2025’ ส่งพลังความไพรด์ท่ามกลางสายฝน

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า โชว์สปิริตขนทัพรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมขบวน ‘LOVE PRIDE PARADE BANGKOK 2025’ ส่งพลังความไพรด์ท่ามกลางสายฝน

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ไทยฮอนด้า ขนทัพรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า New Honda CUV e: โชว์สปิริตร่วมขบวน ‘LOVE PRIDE PARADE BANGKOK 2025’ ท่ามกลางสายฝน รวมทั้งหมดกว่า 50 คัน เป็นอีกปีที่เข้าร่วมขบวนเพื่อสร้างพลังไพรด์อันยิ่งใหญ่ในการสนับสนุนความเสมอภาค เฉลิมฉลองแสดงความยินดีที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมพร้อมประกาศใช้ในประเทศไทย นำทีมโดย ‘คุณนคร วิมลจิตรสอาด’ ผู้จัดการทั่วไปสายงานสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด พร้อมกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ เหล่า Biker และ Lady Biker ตัวแทนสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์ชั้นนำในประเทศไทยมาร่วมแสดงพลังในขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้

    สำหรับในปีนี้ ทางไทยฮอนด้าได้นำเสนอสีสันสร้างพลังแห่งความหลากหลายผ่านคอนเซปต์ ‘Honda Pride Ride’ โดยนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า New Honda CUV e: ร่วมขบวน LOVE PRIDE PARADE BANGKOK 2025 ที่ยาวที่สุดในเอเชีย สนับสนุนความเสมอภาค เฉลิมฉลองแสดงความยินดีที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมพร้อมประกาศใช้ในประเทศไทย เป็นการสะท้อนจุดยืนของไทยฮอนด้า ในการสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและการเป็นตัวตนของทุกคนในสังคม

    โดยขบวน LOVE PRIDE PARADE BANGKOK 2025 ครั้งนี้ เริ่มต้นจากสนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย ไปจนถึงศูนย์การค้าเอ็ม สเฟียร์ รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร แม้ในช่วงเวลาของขบวนจะมีสายฝนโปรยปรายลงมา แต่ผู้ร่วมขบวนทุกคน ยังคงแสดงพลังสปิริตอย่างเต็มที่ เพื่อส่งต่อพลังแห่งไพรด์ ผ่านยานยนต์พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและแรงบันดาลใจที่สะท้อนพลังของการยืนหยัดเพื่อความเท่าเทียมได้อย่างชัดเจน

    ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

    เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
    IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
    Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
    Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

    #HondaPrideRide #ThaiHonda
    #LOVEPRIDEPARADEBKK2025 #PRIDEMONTH
    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda #HowWeMoveYou


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • PT Maxnitron Racing Series 2025 เปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ ดึงดูดนักแข่งไทยและต่างชาติคับคั่ง

    5 Min Read

    PT Maxnitron Racing Series 2025 เปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ ดึงดูดนักแข่งไทยและต่างชาติคับคั่ง

    การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ PT Maxnitron Racing Series 2025 เปิดฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ โดยการตอบรับดีเยี่ยมในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยและระดับภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของจากนักแข่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บรรยากาศตลอด 2 วัน ของการแข่งขันเต็มไปด้วยความเร้าใจและสีสัน จากจำนวนรถที่เข้าร่วมหลากหลายรุ่น และการขับเคี่ยวที่เข้มข้น โดยประเดิมสนาม 1 – 2 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

    PT Maxnitron Racing Series ยังคงมุ่งมั่น และยกระดับมาตรฐานการแข่งขันและส่งเสริมวงการมอเตอร์สปอร์ตในทุกปี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากพันธมิตรหลัก ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG), น้ำมันเครื่อง PT Maxnitron, ศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ครบวงจรออโต้แบคส์ (Autobacs), กาแฟพันธุ์ไทย, Subway, Kela, Yokohama, Nexzter, KG Solar, FBT, Max Wash, Wise, BK Clutch, BRD, และ S63 Project นอกจากนี้ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ยังให้การสนับสนุนรถ Safety Car และจัดกิจกรรมพิเศษอย่าง Ford Test Drive ให้ผู้สนใจได้ทดลองขับรถ Ford ในรูปแบบ จิมคาน่า (Gymkhana) เพื่อโชว์สมรรถนะของรถอย่างใกล้ชิด นับเป็นครั้งแรกของกิจกรรมในรูปแบบดังกล่าว และยังได้รับความร่วมมือจาก Media Partner ได้แก่ Mono29 , Monomax , Sports1 และ TV Pool สื่อประชาสัมพันธ์ในการเผยแพร่กิจกรรมไปสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง สำหรับความพิเศษชองการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ PT Maxnitron Racing Series 2025 ยังคงมีกิจกรรม Support Race จาก Honda City Hatchback One Make Race โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสันในสนามแข่งขัน รวมถึง Club Race จาก Honda Club, Special Racing Club และ TTR Academy Club ซึ่งเป็นรายการที่เหมาะสำหรับนักแข่งมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างเป็นระบบ โดยมีมาตรฐานการแข่งขันที่ชัดเจน และถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันและพัฒนานักแข่งรุ่นใหม่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

    สำหรับรายการ PT Maxnitron Racing Series 2025 ซึ่งจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 7 – 8 มิถุนายน 2568 มีการแข่งขันทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่

    • Siam GT
    • Siam Truck
    • Siam 1500 Group A
    • Siam Group N
    • Siam Eco

    การแข่งขันโดยเฉพาะรุ่น Siam Eco และ Siam Group N ได้สร้างสีสันและความเร้าใจอย่างมากจากจำนวนรถที่เข้าร่วมแข่งขัน ทำให้เป็นที่จับตาเป็นอย่างยิ่ง และเพื่อยกระดับความมันส์ ในสนามที่ 3 – 5 จะมีการปรับแผนการแข่งขันครั้งสำคัญ ด้วยการแยกการแข่งขันรุ่น Siam Eco และ Siam Group N อย่างเป็นทางการ และขยายเวลาการแข่งขันไปจนถึงช่วงค่ำในรูปแบบ “Twilight Race” ซึ่งจะเพิ่มประสบการณ์ความตื่นเต้นและเร้าใจยิ่งกว่าเดิม

    เตรียมระเบิดความมันกับการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2025 สนามที่ 3 – 5 ระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ ก่อนจะปิดท้ายฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่กับสนาม 6 – 7 ในรายการ PT Songkhla Grand Prix 2025 ระหว่างวันที่ 16 – 19 ตุลาคม 2568 ณ พีที สงขลา กรังด์ปรีซ์ จ. สงขลา พบกับกิจกรรมความบันเทิงแบบจัดเต็มตลอดทั้งงาน อาทิ Songkhla Balance Bike, Slum Fight และของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Achi Giorno PTRS Edition 2025” ที่ยังคงเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ร่วมลุ้นเป็นเจ้าของได้เช่นเคย โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสด และติดตามได้ที่

    Facebook: www.facebook.com/ptmaxnitronmotorsport
    Instagram: /www.instagram.com/pt.maxnitron.motorsport
    YouTube: www.youtube.com/@ptmaxnitronmotorsport87

     

    สำหรับผลการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2025 สนามที่ 1 – 2  มีดังนี้

    ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการในแต่ละรุ่น (อันดับที่ 1–3)

    RACE 1 วันที่ 7 มิถุนายน 2568

    • Siam GT (Pro Class 1/2)
    1. พรรณภัทร พรรณทรัพย์ – หมายเลข 32 / R-Addict NTX Team
    2. CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team By ISM
    3. TIM ZIELINSKI – หมายเลข 12 / Rolling Monkey By AP Motorsport
    • Siam GT (Pro Class 2)
    1. CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team By ISM
    2. TIM ZIELINSKI – หมายเลข 12 / Rolling Monkey By AP Motorsport
    3. จิตรประพันธ์ แป้นนาบอน – หมายเลข 95 / Phuket Kart Racing Team
    • Siam GT (Amateur)
    1. เมธัส สวนศรี – หมายเลข 54 / Nexzter Rest Club
    2. วุฒา ใจสำราญ – หมายเลข 35 / Boxzaracing Motorsport Team
    3. กรเศก โคร์นิน – หมายเลข 78 / Wtech X Garage My Home By ///RPM Motorsport
    • Siam Truck (Pro A/B)
    1. ธณพล ชูเจริญผล – หมายเลข 15 / ชาบูเถ้าแก่น้อย CNC รักกัญ By ฮู๊ดอ๋องระยอง
    2. บัณฑิต ลัดดาแย้ม – หมายเลข 91 / Fortron Racing Team
    3. ดนุวัศ วรกิติไชย – หมายเลข 45 / Zictunebyaot-Bendixsrt-BRD-Venomracinr
    • Siam Truck (Pro B)
    1. ณัฐวุฒิ พึ่งพรหม – หมายเลข 5 / ทีมอาร์กการยางค์เกาะโพธิ์ชลบุรี
    2. ศรัณญู อ่อนใจเอื้อ – หมายเลข 54 / น้ำมันเครื่องโวโทรนิค อภิชาตฟาร์ม ชาบูเถ้าแก่บิ๊ก เจ๊เอ๋สั่งลุย By อู่ช่างวัฒน์
    3. อนุวัฒน์ มณีอินทร์ – หมายเลข 95 / Isuzu Suphan Yokohama Lioui Moly Racing
    • Siam Truck (Amateur)
    1. กิตติศักดิ์ ชาตะพันธ์วิทยา – หมายเลข 52 / W-Tech Racing Team By Veloil
    2. พิชัย เจียงวิลาวัณย์ – หมายเลข 97 / BKC Motorsport
    3. พลกฤต แซ่เฮ้ง – หมายเลข 74 / Zictunebyaot-Bendixsrt-BRC-Venomracing
    • Siam 1500 Group A (Overall)
    1. ชานน อัศวสังสิทธิ – หมายเลข 39 / IMC Motorsport By MRA
    2. ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
    3. อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ – หมายเลข 7 / YK Motorsport
    • Siam 1500 Group A (Pro A/B)
    1. ชานน อัศวสังสิทธิ – หมายเลข 39 / IMC Motorsport By MRA
    2. ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
    3. อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ – หมายเลข 7 / YK Motorsport
    • Siam 1500 Group A (Amateur)
    1. KENNETH HO – หมายเลข 22 / Team Supersonic By Rongpo Power Unit
    2. ฤทธิรงค์ บริหารธนานนท์ – หมายเลข 15 / Nailfie Studio บ้านเรือเล็ก สุกี้อินเลิฟ Wise The Hub
    3. ALEXANDER VM. – หมายเลข 93 / Fortron Racing Team

    • Siam Group N (Overall)
    1. ณัฐฐวุฒิ ปลื้มดวง – หมายเลข 71 / Fast-Store
    2. นันทพันธ์ สิริสริตธรากุล – หมายเลข 32 / Wolver By Onlyyone
    3. Enzo Ng – หมายเลข 89 / Ndeo Racing
    • Siam Group N (Pro A/B)
    1. ณัฐฐวุฒิ ปลื้มดวง – หมายเลข 71 / Fast-Store
    2. วงศพัทธ์ เกตุศิริ – หมายเลข 62 / Idemitsu Racing Teamยังไม่เพียงเท่านั่น Thailand By AP X BLC
    3. นิธิวัชร์ ทิพยทัศน์ – หมายเลข 78 / DC Garage With Kuroki Racing

    • Siam Group N (Amateur)
    1. กรณ์ดนัย อมรศักดิ์วรกุล / หมายเลข 32 / Wolver By Onlyone
    2. ENZO NG – หมายเลข 89 / Ndeo Racing
    3. นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร – หมายเลข 90 / PT Maxnitron X Wise BRD Nexzter Venom By Pongpo Power Unit
    • Siam Eco (Overall)
    1. เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
    2. บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / Nj Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
    3. รภัทกร วงษ์ศิริ – หมายเลข 87 / ฮอนด้าบางเขน Motul Thailand By Souad Racing Team
    • Siam Eco (Pro A/B)
    1. เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
    2. ตรีภพ ศิริปุณย์ – หมายเลข 91 / Wise – Nexzter – 9Progress – อาไหลดี By อู่ลุงหนวด
    3. EITAN ZIDKILOV – หมายเลข 81 / Insane Motorsport By Zic
    • Siam Eco (Amateur)
    1. บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / NJ Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
    2. รภัทกร วงษ์ศิริ – หมายเลข 87 / ฮอนด้าบางเขน Motul Thailand By Souad Racing Team
    3. พิศาล สาสะกุล – หมายเลข 65 / Caltex Racing Team Thailand By KTN

     

    ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการในแต่ละรุ่น (อันดับที่ 1–3)

    RACE 2 วันที่ 8 มิถุนายน 2568

    • Siam GT PRO CLASS 1/2
    1. พรรณภัทร พรรณทรัพย์ – หมายเลข 32 / R-Addict NTX team
    2. CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team by ISM
    3. JAMES RUNACRES – หมายเลข 17 / PT Autobacs Rotary Revolution Team Thailand
    • Siam GT PRO CLASS 2
    1. CLAYTON NELMES – หมายเลข 33 / Kanjo Racing Team by ISM
    2. TIM ZIELINSKI – หมายเลข 12 / Rolling Monkey By Ap Motorsport
    3. จิตรประพันธ์ แป้นนาบอน – หมายเลข 95 / PHUKET KART RACING TEAM
    • Siam GT (Amateur)
    1. ธนกร ชัยภิรมย์ศรี – หมายเลข 45 / Rotary Revolution Thunder Slide On
    2. วุฒา ใจสำราญ – หมายเลข 35 / BoxzaRacing Motorsport Team
    • Siam Truck Pro (A/B)
    1. บัณฑิต ลัดดาแย้ม- หมายเลข 91 /Fortron Racing Team By อู๊ด&อ๋อง ระยอง
    2. ณัฐวุฒิ พึ่งพรหม – หมายเลข 5 / ทีมอาร์ทการยางเกาะโพธิ์ชลบุรี
    3. อนุวัฒน์ มณีอินทร์ – หมายเลข 95 / ISUZU SUPHAN YOKOHAMA LIQUI MOLY RACING
    • Siam Truck Pro (B)
    1. ณัฐวุฒิ พึ่งพรหม – หมายเลข 5 / ทีมอาร์ทการยางเกาะโพธิ์ชลบุรี
    2. อนุวัฒน์ มณีอินทร์ – หมายเลข 95 / ISUZU SUPHAN YOKOHAMA LIQUI MOLY RACING
    3. สุวัฒน์ ลิ้มจิรภิญญา – หมายเลข 59 / ISUZU SUPHAN YOKOHAMA LIQUI MOLY RACING
    • Siam Truck (Amateur)
    1. วุฒิภัทร คงกฤติพงศ์ – หมายเลข 98 / รวมช่างเชียงกง 98Autooption HomeDreamDesign รับสร้างบ้าน นิติโรจน์ฟิตชิ่ง NTP เนี๊ยบรีเเมพ
    2. รุสตา มะลี – หมายเลข 84 / บังต้า จัดหนัก OSUKA OMC เบิร์ดเหม่งโปรการาจ
    3. พิชัย เจียงวิลาวัณย์ – หมายเลข 97 / BKC MOTORSPORT
    • Siam 1500 Group A (Overall)
    1. ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
    2. ภูเมธา เพชรบดี – หมายเลข 86 / Tornto R Motorsport by Totachi
    3. กัณฐณัฎฐ์ ศักดิ์แพทย์ – หมายเลข 37 | Tuned by EAK Team
    • Siam 1500 Group A Pro (A/B)
    1. ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล – หมายเลข 65 / Insane Motorsport By Zic
    2. โชติธนินท์ ไชยกิตติลักษณ์ – หมายเลข 66 / Nexzter X RMR Motorsport BY ร่มไม้ริมนา
    3. เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ – หมายเลข 16 / Nexzter & Mobil1 by GJmotorsport
    • Siam 1500 Group A (Amateur)
    1. ภูเมธา เพชรบดี – หมายเลข 86 | Tornto R Motorsport by Totachi
    2. กัณฐณัฎฐ์ ศักดิ์แพทย์ – หมายเลข 37 | Tuned by EAK Team
    3. ฤทธิรงค์ บริหารธนานนท์ – หมายเลข 15 / Nailfie Studio บ้านเรือเล็ก สุกี้อินเลิฟ Wise The Hub

    • Siam Group N (Overall)
    1. วงศพัทธ์ เกตุศิริ – หมายเลข 62 / Idemitsu Racing Tean Thailand By AP X BLC
    2. นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร – หมายเลข 90 / PT Maxnitron X Wise BRD Nexzter Venom By Pongpo Power Unit
    3. จตุพล ธารเลืองทอง – หมายเลข 10 / BK Clutch./Voltronic./ Bast Motorsport
    • Siam Group N Pro (A/B)
    1. วงศพัทธ์ เกตุศิริ – หมายเลข 62 / Idemitsu Racing Team Thailand by AP x BKC Team
    2. จตุพล ธารเลืองทอง – หมายเลข 10 / BK Clutch./Voltronic./ Bast Motorsport
    3. ยศรัญ แสนสุข – หมายเลข 88 / DC Garage With Kuroki Racing
    • Siam Group N (Amateur)
    1. นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร – หมายเลข 90 / PT Maxnitron X Wise BRD Nexzter Venom By Pongpo Power Unit
    2. ฐนันธร เพ็งอ้น – หมายเลข 24 / P1 Automotive S63 Nexzter Motul BK Clutch By Babyboss Garage
    3. ENZO NG – หมายเลข 89 / NDEO Racing
    • Siam Eco Pro (Overall)
    1. บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / NJ Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
    2. เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
    3. ตรีภพ ศิริปุณย์ – หมายเลข 91 / Wise – Nexzter – 9Progress – อาไหลดี By อู่ลุงหนวด
    • Siam Eco Pro (A/B)
    1. เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ – หมายเลข 98 / Ruk Taem PMC52 Winghin Motorsport BK Racing Clutch
    2. ตรีภพ ศิริปุณย์ – หมายเลข 91 / Wise – Nexzter – 9Progress – อาไหลดี By อู่ลุงหนวด
    3. โชคชัย จารุนงคราญ – หมายเลข 35 / BKC Motorsport
    • Siam Eco (Amateur)
    1. บุญทวี นัยจิตร – หมายเลข 56 / NJ Racing TST Motorsport By P1 Auto Motive
    2. ก้องเกียรติ ทรัพย์ศิริอยู่คง – หมายเลข 45 / Topnotch Glass กระจกรถยนต์ X Autopainting by keng
    3. กิตติศักดิ์ เสียงสลัก – หมายเลข 3 / BKC Motorsport

    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน ผ่านกิจกรรม “เด็กไทย ใฝ่ดี” เพื่อส่งเสริมแนวคิด ‘‘TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน’’

    1 Min Read

    มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน ผ่านกิจกรรม “เด็กไทย ใฝ่ดี” เพื่อส่งเสริมแนวคิด ‘‘TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน’’

    มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธาน ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้แก่เยาวชนไทย ภายใต้โครงการ “เด็กไทย ใฝ่ดี” พร้อมสนับสนุนและบริจาคสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งเสริมแนวคิด “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน’’ อย่างเป็นรูปธรรม ในการส่งมอบโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทย เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 ณ โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก

    โครงการ “เด็กไทย ใฝ่ดี” ดำเนินโครงการโดยคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสืบสานพระราชปณิธาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งเน้นพัฒนาเยาวชนไทยให้เติบโตเป็นคนดีของสังคม ด้วยการเสริมสร้างคุณธรรมพื้นฐาน 5 ประการ ได้แก่ ความพอเพียง วินัย ความซื่อสัตย์สุจริต จิตอาสา และความกตัญญู โดยมีเป้าหมายให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกันทางใจ รู้เท่าทัน และมีแนวทางดำเนินชีวิตที่เหมาะสม เพื่อวางรากฐานสังคมที่เข้มแข็ง

    มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เด็กไทย ใฝ่ดี” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย ผ่านการให้ความรู้และมอบอุปกรณ์การเรียนแก่เยาวชนจำนวน 150 คน ผ่านกิจกรรม “5 ฐานคุณธรรม” ดังนี้

     

    1. ฐานความพอเพียง : เสริมความรู้ด้านการเงิน ออมเป็น เห็นเงินล้าน 

    โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

    2. ฐานความซื่อสัตย์ สุจริต ปรับพฤติกรรม ช่างเลือก เลือกเป็น 

    โดย ทีมวิทยากร คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

    3. ฐานจิตอาสา ปฏิบัติการกู้ชีพ 

    โดย ทีมวิทยากร คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

    4. ฐานวินัย : วินัย น้ำใจ 

    โดย โครงการถนนสีขาว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

    5. ฐานกตัญญู : รักชาติ ศาสนา กษัตริย์ 

    โดย ทีมวิทยากร คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

    โดยฐานวินัย ภายใต้โครงการถนนสีขาว ซึ่งเป็นหนึ่งใน “5 ฐานคุณธรรม” มุ่งให้ความรู้แก่เยาวชนและ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้เครื่องจำลองการขับขี่ที่ออกแบบสถานการณ์เสมือนจริง ผ่าน 3 รูปแบบ ได้แก่ การขับรถเร็ว การขับตัดหน้า และการเมาแล้วขับ เพื่อให้เยาวชนผู้เข้าอบรมตระหนักรู้ถึงอันตราย พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

    พร้อมกันนี้ มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ได้ร่วมมอบสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสารจากโรงสีข้าวรัชมงคล จำนวน 450 กิโลกรัม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลแม่สอด และเรือนจำอำเภอแม่สอด  ภายใต้เป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตามแนวพระราชปณิธาน

    โตโยต้า มุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งมอบโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิต ภายใต้แนวคิด “TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน” ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญขององค์กร ที่มุ่งสร้างความเท่าเทียมด้านความเป็นอยู่และโอกาสทางการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ การพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการ “ให้” ในทุกมิติ

     

    ให้…สุขภาพที่ยั่งยืน

    ให้…ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน

    ให้…ภูมิปัญญาที่ยั่งยืน

    ให้…การศึกษาที่ยั่งยืน

     

    มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทย มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • แลนด์โรเวอร์เปิดตัว Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษ พร้อมเปิดรับผู้กล้าร่วมการแข่งขันผจญภัยระดับโลก

    1 Min Read

    แลนด์โรเวอร์เปิดตัว Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษ พร้อมเปิดรับผู้กล้าร่วมการแข่งขันผจญภัยระดับโลก

    แลนด์โรเวอร์เปิดตัว Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษล่าสุด เพื่อตอกย้ำการกลับมาสู่เวทีการแข่งขันผจญภัยระดับนานาชาติอีกครั้ง พร้อมอุปกรณ์เสริมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการเดินทางสุดท้าทายในทุกเส้นทาง

     

    Defender Trophy – การผจญภัยครั้งใหม่สำหรับผู้กล้าที่ไม่หยุดนิ่ง

    Defender เปิดตัวการแข่งขัน Defender Trophy โฉมใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกิจกรรม Trophy และ Challenge ในอดีต แต่จะสร้างตำนานบทใหม่ผ่านการฝึกอบรมและการแข่งขัน 3 รอบสุดเข้มข้น ผู้ที่กล้าท้าทายสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และมีใจรักการอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วโลกเท่านั้นที่เหมาะสมในการสมัครเข้าร่วมการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่นี้

    Defender ยานยนต์ที่นักสำรวจและผู้รักการเดินทางเลือกใช้มาอย่างยาวนาน โครงการนี้เชิญชวนผู้สมัครจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยการคัดเลือกในประเทศไทยมีกำหนดเริ่มต้นช่วงปลายปี 2025 ก่อนจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคในช่วงต้นปี 2026 เพื่อเฟ้นหาตัวแทนเข้าชิงชัยในรอบสุดท้ายระดับโลก ที่จะจัดขึ้นร่วมกับ Tusk พันธมิตรด้านการอนุรักษ์ของ Defender ณ แอฟริกา ในปี 2026

     

    Defender Trophy: การแข่งขันเหนือระดับ ที่ไม่เหมือนใคร

    ผู้เข้าแข่งขันจะเผชิญบททดสอบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดไหวพริบ ความมุ่งมั่น และการทำงานเป็นทีม โดยรอบชิงชนะเลิศระดับโลกในแอฟริกาจะประกอบด้วย 3 ประเภทภารกิจหลัก

    • Driving Challenges: ทดสอบทักษะการขับขี่และการนำทางบนเส้นทางสุดโหด
    • Ingenuity Challenges: ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการวางกลยุทธ์
    • Physical Challenges: ท้าทายความแข็งแกร่ง ความร่วมมือ และการประสานงานของทีม

    การแข่งขันจะถ่ายทอดให้ผู้ชมทั่วโลกได้ติดตาม พร้อมแนะนำฮีโร่นักผจญภัยรุ่นใหม่ โดยผู้เข้าแข่งขันจะได้รับคะแนนในฐานะบุคคล แต่แข่งขันเป็นทีมสองคน และผู้ที่มีคะแนนต่ำสุดในแต่ละรอบจะได้สิทธิ์เลือกคู่แข่งขันก่อน ซึ่งผู้ชนะในรอบสุดท้ายจะได้รับโอกาสร่วมภารกิจด้านการอนุรักษ์ของ Tusk

    สำหรับคุณสมบัติผู้สมัคร ได้แก่ ผู้สมัครต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่เข้าร่วม อายุ 23 ปีขึ้นไป ว่ายน้ำได้อย่างน้อย 50 เมตร มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และสามารถเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ experience@jaguarlandroverthailand.com

      

    การสร้างตำนานบทใหม่: Defender 110 Trophy Edition

    Defender 110 Trophy Edition ใหม่ เฉลิมฉลองการกลับมาของแบรนด์สู่เวทีการแข่งขันผจญภัยระดับนานาชาติ พร้อมทั้งมาพร้อมชุดอุปกรณ์เสริมแนะนำสำหรับการเดินทาง ที่ทำให้รถคันนี้กลายเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบในทุกภารกิจผจญภัย มาพร้อม 2 สีสุดพิเศษ ได้แก่ Deep Sandglow Yellow สีเหลืองอำพันสื่อถึงเอกลักษณ์ของรถแข่ง Trophy ในอดีต และ สี Keswick Green สีเขียวเข้มที่สื่อถึงการเดินทางสำรวจในชนบทของอังกฤษ

    ตัวรถตกแต่งด้วยโทน Gloss Black ที่ฝากระโปรงหน้า ชายตัวถังด้านล่าง คาลิปเปอร์เบรก และห่วงลากด้านหลัง เสริมความแข็งแกร่งด้วยแผ่นฟิล์มป้องกันเนื้อสีแบบด้าน ที่สามารถเลือกติดตั้งเพิ่มเติมได้ เพื่อปกป้องพื้นผิวรถระหว่างการเดินทางแบบออฟโรด

    Defender 110 Trophy Edition มาพร้อมชุดตกแต่งพิเศษสำหรับสายผจญภัยโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง All-Terrain เพื่อการยึดเกาะทุกพื้นผิว เสริมด้วยแผ่นกันรอยท้ายรถ คิ้วซุ้มล้อ และแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถด้านหน้าสีดำ เพิ่มความแกร่งและบุคลิกดุดัน

    ไฮไลต์เพิ่มเติม ได้แก่ สติกเกอร์ Trophy ที่ฝากระโปรงหน้าและเสา C, ป้ายรุ่นด้านท้าย, แผ่นกันรอยบันไดส่องสว่างพร้อมโลโก้ Trophy, เบาะหนัง Windsor สีดำสุดหรู และคานขวางในห้องโดยสารสีเดียวกับตัวรถ พร้อมลวดลายเลเซอร์โลโก้ Trophy ที่ปลายคาน

    ความพิเศษของ Defender Trophy Edition ในประเทศไทย

    ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Plug-in Hybrid (PHEV) ให้กำลังสูงสุด 404 แรงม้า พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครันทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ด้านสมรรถนะ มาพร้อม ชุดแต่งออฟโรดขั้นสูง และระบบ Terrain Response 2 ที่ช่วยปรับสมรรถนะให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวต่าง ๆ ยกระดับการขับขี่แบบออฟโรดให้มั่นใจยิ่งขึ้น

    ภายในห้องโดยสารมอบประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ด้วยระบบปรับอากาศแบบแยก 3 โซน, ระบบฟอกอากาศ และเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ พร้อมด้วย กระจกมองหลังดิจิทัล ClearSight, Head-up Display, และ พวงมาลัยปรับไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสูงสุด

    เสริมความสบายและปลอดภัยด้วย หลังคาพาโนรามาเลื่อนเปิดได้, ช่องแช่เย็นคอนโซลกลาง, ไฟหน้า Matrix LED พร้อมไฟ DRL, ระบบแจ้งเตือนความเหนื่อยล้า, และ อุปกรณ์ป้องกันล้อถูกขโมย เป็นต้น

    ทั้งนี้ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย เตรียมเปิดจอง Defender 110 Trophy Edition รุ่นพิเศษอย่างเป็นทางการ โดยมีจำนวนจำกัดเพียง 10 คันเท่านั้น สำหรับผู้ที่หลงใหลในการผจญภัยและต้องการครอบครองยนตรกรรมที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความกล้า เปิดตัวด้วยราคาจำหน่าย 7,799,000 บาท ผู้สนใจสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.landrover.co.th


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • แอกซ่าประกันภัยยกระดับแผนประกันรถยนต์ มอบความมั่นใจและความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกการเดินทาง

    1 Min Read

    แอกซ่าประกันภัยยกระดับแผนประกันรถยนต์ มอบความมั่นใจและความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกการเดินทาง

    แอกซ่าประกันภัย เปิดตัวแผนประกันภัยรถยนต์ใหม่ ชั้น 2+ และ ชั้น 3+ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มอบความคุ้มครองที่ยืดหยุ่นและบริการเหนือระดับ ในราคาจับต้องได้ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้ขับขี่

    เบี้ยประกันสำหรับแผนประกันรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 3+ เริ่มต้นเพียงปีละ 5,800 บาท และ 5,400 บาท ตามลำดับ โดยแผนประกันดังกล่าวมอบความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถอุ่นใจกับการคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยง

    นอกจากนี้ ผู้ถือกรมธรรม์รถยนต์ของแอกซ่าประกันภัยสามารถรับบริการเสริมสุดพิเศษได้ อาทิ AXA Preferred Garage อู่ระดับคุณภาพที่ให้การซ่อมแซมรถยนต์ด้วยมาตรฐานคุณภาพสูง บริการ AXA Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และ AXA4U ที่คุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุต่ออุปกรณ์สำคัญของรถยนต์โดยไม่หักค่าเสื่อมราคา เช่น ยางรถ แบตเตอรี่สตาร์ทรถ และระบบเสียง นอกจากนี้ แอกซ่าประกันภัยยังเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้เอาประกันภัยด้วยความคุ้มครองกรณีเกิดภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย วาตภัย ลูกเห็บ และแผ่นดินไหว ในราคาเพียง 850 บาท เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ขับขี่จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนของประเทศไทย

    นางสาวปวีณา เขมะรังสรรค์ ผู้อำนวยการสายงานบริหารลูกค้า บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่แอกซ่า เสียงของลูกค้าสำคัญเสมอ ลูกค้าหลายท่านบอกกับเราว่าต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสี่ยงในราคาที่เหมาะสม โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มในส่วนของความคุ้มครองที่ลูกค้าไม่ต้องการ แผนประกันภัยรถยนต์แบบ 2+ และ 3+ จึงถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่เข้าใจดีว่า ‘ความคุ้มครองที่ครอบคลุม’ อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาเสมอไป ซึ่งแผนประกันภัยรถยนต์ 2+ และ 3+ ให้ความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่มีอัตราเบี้ยประกันภัยที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ลูกค้าสามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะที่ยังคงความอุ่นใจ เรามีความเชื่อว่าประกันภัยเป็นเรื่องของ ‘ทางเลือก’ และ ‘ความคุ้มค่า’ แผนความคุ้มครองเพียงแบบเดียว ไม่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าทุกคนได้ เราจึงออกแบบแผนประกันภัยที่มีความยืดหยุ่น ให้ลูกค้ามีอิสระในการเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสถานะทางการเงินของตนเองได้อย่างแท้จริง”

    สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถซื้อแผนประกันรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ภายในเวลาเพียง 3 นาที พร้อมรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอีเมลได้ทันที อีกทั้งยังมีตัวเลือกการชำระเงิน ด้วยแผนผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน สำหรับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนประกันภัยรถยนต์ และเงื่อนไขความคุ้มครองทั้งหมดสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.axa.co.th/motor-insurance-online

    สำหรับอัพเดทเพิ่มเติม สามารถติดตามแอกซ่าประกันภัยได้ที่ช่องทางต่าง ๆ นี้

    เว็บไซต์: https://www.axa.co.th
    ศูนย์บริการลูกค้า: 02-118-8111
    Facebook: AXA Thailand
    Official LINE account: @AXAThailand

    *หมายเหตุ เงื่อนไขการรับประกันภัยเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองก่อนตัดสินใจทำประกันภัย


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • “ก้อง-สมเกียรติ” คว้าแต้มประวัติศาสตร์ คะแนนแรกของคนไทยในโมโตจีพี สวมหัวใจนักสู้! แซงท้ายเรซเข้าที่ 15 โมโตจีพี ที่ แอสเซ่น

    1 Min Read

    “ก้อง-สมเกียรติ” คว้าแต้มประวัติศาสตร์ คะแนนแรกของคนไทยในโมโตจีพี สวมหัวใจนักสู้! แซงท้ายเรซเข้าที่ 15 โมโตจีพี ที่ แอสเซ่น

    “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ไม่ยอมแพ้! สู้สุดความสามารถไล่แซงคู่แข่งท้ายเรซ เข้าป้ายอันดับ 15 ในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 10 ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ ปลดล็อคคว้าแต้มแรกในประวัติศาสตร์ให้กับตนเองได้สำเร็จ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายนผ่านมา ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์

    ศึก ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ นับเป็นสนามที่พิสูจน์การทำงานอย่างหนักของ “ก้อง-สมเกียรติ” อย่างแท้จริง แม้จะเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่นักบิดไทยก็ยกระดับความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยออกตัวจากกริดที่ 22 ไล่ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 15 ด้วยเวลา 41 นาที 3.291 วินาที เพียงพอให้คว้าแต้มแรกของตัวเองในเวทีสูงสุดของโลกได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นแต้มประวัติศาสตร์ คะแนนแรกของคนไทยในโมโตจีพี

    ด้าน “โยฮันน์ ซาร์โก” นักแข่งชาวฝรั่งเศส หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า แอลซีอาร์ จบเรซในอันดับที่ 12 ด้วยเวลา 40 นาที 38.947 วินาที และ“อเลช เอสปาร์กาโร” นักบิดทดสอบชาวสแปนิช หมายเลข 41 ที่ลงบิดแทน “ลูกา มารินี” ในสนามนี้ จบเรซอันดับที่ 16 ด้วยเวลา 41 นาที 3.432 วินาที ส่วน “โจอัน เมียร์” นักบิดสแปนิช หมายเลข 36 จาก ฮอนด้า เอชอาร์ซี ไม่จบการแข่งขัน

    ขณะที่รุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งชาวไทย หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ พยายามอย่างเต็มที่ แต่โชคร้ายพลาดล้มไปอย่างน่าเสียดาย

    ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคมนี้ ที่ ซัคเซนริง เซอร์กิต ประเทศเยอรมนี ในรายการ เยอรมัน กรังด์ปรีซ์

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #LCRHonda #JZ5 #HondaHRC #JM36 #AE41 #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto2 #Chip41 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #DutchGP


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • คาวาซากิบุกเชียงใหม่เปิดทัพรถใหม่เอาใจสายลุย พร้อมปรับราคาใหม่สุดเร้าใจ

    1 Min Read

    คาวาซากิบุกเชียงใหม่เปิดทัพรถใหม่เอาใจสายลุย พร้อมปรับราคาใหม่สุดเร้าใจ

    คาวาซากิชวนแอ่วเหนืออีกครั้ง กับงาน Kawasaki Good Times Trail งานแข่งออฟโรดสุดมัน กับทางสุดโหด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ณ เทศบาลตำบลป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมขนทัพรถใหม่สายทางฝุ่นไปเปิดกันที่ในงานถึง 4 รุ่น สำหรับสายลุยตัวจริง ได้แก่ KLX230 ABS, KLX230 SE ABS, KLR650 ABS และ KLR650 ADV ABS ตามด้วยกิจกรรมทดสอบขับขี่รุ่นใหม่ แถมด้วยการประกาศราคาใหม่สุดเร้าใจของ KLX230 Sherpa ตอกย้ำแคมเปญ Trail Time Begins ได้เวลาออกไปลุย!

    KLX230 ABS & KLX230 SE ABS – โฉมใหม่ ขี่มันกว่าเดิม

    KLX230 ABS (STD)                                                                          KLX230 ABS (STD)

    สี Lime Green                                                                               สี Ebony/ Neon Green

    จุดเด่นหลัก:

    ด้วยแรงบันดาลใจจากตระกูลสนามอย่าง KX ส่งผลให้ภาพลักษณ์มีความดุดันแต่ยังคงไว้ซึ่งความคล่องตัว

    ระบบเบรก ABS เปิด-ปิดได้ทั้งล้อหน้าและหลัง – ควบคุมความปลอดภัยได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งทางเรียบและออฟโรด

    เฟรมและซับเฟรมดีไซน์ใหม่เพิ่มระยะยุบโช๊คอัพ – ซับแรงได้มากกว่า ลุยได้ลึกขึ้น ยังคงความนุ่มนวลให้ทุกการขับขี่

    ระยะยุบ รุ่น STD หน้า 240 มม. หลัง 250 มม. ระยะยุบ รุ่น SE หน้า 220 มม. หลัง 250 มม.

    โช๊คอัพหน้า Upside down ในรุ่น SE สำหรับการขับใช้งานที่ต้องการการดูแลที่มากกว่า

    สวิงอาร์มอะลูมิเนียมในรุ่น STD ที่ให้น้ำหนักที่เบาขึ้นอีกถึง 1.2 กก.

    ความสูงเบาะเตี้ยลง 880 มม. (รุ่น STD)  และ 875 มม. (รุ่น SE) พร้อมดีไซน์ใหม่แบบ KX – นั่งกระชับ ควบคุมง่าย เปลี่ยนท่านั่งขับขับขี่ได้อย่างง่ายดาย

    เอกลักษณ์น้ำหนักเบาเพียง 133 กก. (รุ่น STD) และ 136 กก. (รุ่น SE) – ให้ผ่านทุกอุปสรรค์ได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น

    แม่ปั๊มเบรกหลังออกแบบใหม่ ให้บำรุงรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น และน้ำหนักเบาลง อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ต เช่นเดียวกับที่อยู่ใน KLX230R

    เชื่อมต่อ Rideology The App ได้ – ติดตามข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ทโฟน

    โดยทั้งสองรุ่นนี้ เปิดตัวราคาขายปลีกเท่ากันที่ 131,900 บาท

    โปรโมชั่นพิเศษ คูปองเงินสด 5,000 บาท   ฟรีประกันรถหาย (ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม  พ.ศ. 2568)


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ศึกชิงแชมป์แห่งศักดิ์ศรี ทีม ZIC Tune by AOT คว้า อันดับที่ 3 คะแนนรวมประจำปี 2568 จากการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ Super turbo 2025 สนามที่ 5-6 สนามสุดท้ายเมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายนที่ผ่านมานี้

    1 Min Read

    ศึกชิงแชมป์แห่งศักดิ์ศรี ทีม ZIC Tune by AOT คว้า อันดับที่ 3 คะแนนรวมประจำปี 2568 จากการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ Super turbo 2025 สนามที่ 5-6 สนามสุดท้ายเมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายนที่ผ่านมานี้

    ทีม ZIC Tune by AOT เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่น PICKUP TURBO THA ต่อสู้ตั้งแต่สนามแรกจนสนามสุดท้าย จนคว้าอันดับที่ 3 คะแนนสะสมอยู่ที่ 75 คะแนน ในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ความพร้อมของนักแข่งเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาในเรื่องของทีมช่าง การวางแผนทีมงาน ที่เคร่งขัดมากขึ้นและรวมไปถึงผลิตภัณฑ์หล่อลื่นของ ZIC ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง Racing 10W-50 ที่พร้อมหล่อลื่น ปกป้องเครื่องยนต์ตั้งแต่เริ่มสตาร์ท ไปจนถึงน้ำยาหม้อน้ำที่สำคัญอย่างมากในการควบคุมอุณหภูมิความร้อน ลดจุดเดือด จากรถที่มีการปรับแต่งเพื่อการแข่งขัน โดยเฉพาะรถที่มีการเพิ่มเทอร์โบและปรับจูนอย่าง Isuzu No.2 ที่ใช้การแข่งครั้งนี้ ถ้าพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ไม่ว่าจะเป็นรถแข่งระดับประเทศหรือรถบ้านใช้งานทั่วไปก็พร้อมปกป้องดูแลเครื่องยนต์ ตลอดการใช้งาน


    No Comment
  • อีวี ไพรมัส ชู “WULING BINGUO EV” ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจเรียกรถบริการ Ride-Hailing ที่กำลังเติบโตของไทย

    1 Min Read

    อีวี ไพรมัส ชู “WULING BINGUO EV” ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจเรียกรถบริการ Ride-Hailing ที่กำลังเติบโตของไทย

     

    อีวี ไพรมัส ตอกย้ำบทบาทผู้นำรถไฟฟ้า City EV โดยนำ “WULING BINGUO EV” ร่วมแสดงศักยภาพในงานสุดยอดผู้นำธุรกิจบริการเรียกรถแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2025 พร้อมนำเสนอความคุ้มค่าของรถยนต์ไฟฟ้าสู่ธุรกิจบริการเรียกรถ Ride-Hailing Services ที่เติบโตกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ร่วมผลักดันการเดินทางด้วยรถพลังงานไฟฟ้า

     

    บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์วู่หลิง (WULING) แต่ผู้เดียวในประเทศไทย (Sole Distributor) ได้เข้าร่วมงาน “Southeast Asia Ride-Hailing Industry Summit 2025” โดยอีวี ไพรมัส ได้นำยานยนต์ไฟฟ้า “WULING BINGUO EV” มาจัดแสดงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเหมาะสำหรับธุรกิจบริการเรียกรถ (Ride-Hailing Service) เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้ขับขี่รถ City EV และเป็นการตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ต้องการควบคุมต้นทุน

    นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เปิดเผยว่า “อีวี ไพรมัส ในฐานะที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์วู่หลิง (WULING) แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เราเลือกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดมาจำหน่ายในประเทศไทย ไม่เพียงแค่สำหรับผู้ใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ยังรวมถึงการนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ด้วย เรามองเห็นคุณภาพที่เหมาะสมของยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามาพลิกโฉมของธุรกิจบริการรถรับส่ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ธุรกิจบริการเรียกรถในประเทศไทย”

    ในการเข้าร่วมงานครั้งนี้ อีวี ไพรมัส ได้แนะนำ WULING BINGUO EV ให้กับผู้เข้าร่วมงานซึ่งเป็น City EV เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นต้องการเป็นเจ้าของรถไฟฟ้า ตอบสนองสำหรับผู้ใช้งานในเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ประสิทธิภาพการขับขี่ได้มาตรฐาน อัตราเร่งที่ดี และช่วงล่างที่นุ่มนวล ซึ่งถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ เหมาะสมกับการขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่นของกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ตัวรถมีขนาดกว้างนั่งสบายกว่า Eco Car พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในราคาที่จับต้องได้จริง ๆ คุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ

    นายพิทยา กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจบริการเรียกรถในประเทศไทย หนึ่งในโอกาสสำคัญที่เราต้องการชี้ให้เห็นประเด็นหลักของการใช้รถ EV โดยเฉพาะในแง่ของความคุ้มค่าที่ผู้ประกอบการและผู้ขับขี่จะได้รับจากการเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า WULING BINGUO EV ที่มีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของค่าพลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดกว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมาก รวมถึงค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ารถยนต์สันดาปภายใน”

    ที่สำคัญคือรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีมลภาวะ และประหยัดพลังงานมากกว่า Eco Car อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการคำนวณ “ต้นทุนต่อคุณค่า” (Cost-to-Value) ที่ผู้ขับขี่หรือผู้ประกอบการจะได้รับจากการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในธุรกิจบริการเรียกรถ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ โดยข้อมูลจากอุตสาหกรรมของธุรกิจเรียกรถบริการ (Ride-Hailing Industry) ยังระบุว่าผู้ขับขี่ในระบบแอปพลิเคชันเรียกรถในไทยมีรายได้เฉลี่ย30,000 บาทต่อเดือน หรือมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำกว่า 250% ซึ่งเมื่อรวมกับต้นทุนที่ลดลงจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ยิ่งส่งผลให้ผู้ขับขี่หรือผู้ประกอบการนั้นสามารถเพิ่มรายได้สุทธิและมีผลกำไรในระยะยาวได้ โดยความคุ้มค่านี้มาพร้อมกับรองรับการใช้งานที่สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและพื้นที่วางขาที่ออกแบบมาอย่างลงตัว (Legroom) ทำให้ผู้โดยสารนั่งสบาย ไม่อึดอัด แม้ในระยะทางที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งไม่ใช่แค่ความคุ้มค่าเพียงเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเท่านั้น ยังรวมถึงลูกค้าที่ต้องการเริ่มใช้รถยนต์ไฟฟ้า จะได้สัมผัสถึงความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป WULING BINGUO EV จึงไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าคุ้มค่า แต่ยังเป็นทางเลือกที่พร้อมต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจ และการเดินทางที่ยั่งยืนในอนาคต”

    งาน Southeast Asia Ride-Hailing Industry Summit 2025 ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้นำในธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย นักนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทางจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ อภิปรายถึงแนวโน้ม ความท้าทาย และโอกาสในการสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดน โดยมีหัวข้อหลักที่น่าสนใจ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ความปลอดภัย กรอบการกำกับดูแล และการเติบโตอย่างยั่งยืน

    สำหรับ ตลาดบริการเรียกรถประเทศไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยมูลค่าตลาดรวมที่ Statista.com คาดการณ์ว่าจะสูงถึงกว่า 4.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้ และยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในการใช้บริการจากแพลตฟอร์มชั้นนำต่าง ๆ ที่มีฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองใหญ่ พฤติกรรมการเดินทางของผู้คนกำลังเปลี่ยนไปสู่การพึ่งพาบริการขนส่งสาธารณะและบริการเรียกรถมากขึ้น ลดความจำเป็นในการเป็นเจ้าของรถส่วนตัว ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญของ “Mobility as a Service (MaaS)” ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment