NASCAR การแข่งขันรถที่มีอะไรมากกว่าแค่วิ่งเป็นวงรี

NASCAR การแข่งขันรถที่มีอะไรมากกว่าแค่วิ่งเป็นวงรี

       ใครหลายๆ คนคงจะคุ้นตากันดีกับการแข่งรถยนต์ที่เรียกว่า NASCAR ผ่านทางสื่อภาพยนตร์ ฮอลลีวูด ต่างๆ มากมาย ซึ่งการแข่งขันรถยนต์แบบนี้จะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนคือเป็นการแข่งขันในสนามปิดรูปวงรี และมักจะมีการชนกันพังยับเยินอยู่บ่อยครั้ง จนใครหลายๆ คนอาจจะรู้สึกกลัวหรือรู้สึกน่าเบื่อเพราะแข่งวิ่งวนเป็นวงรีหลายๆ รอบ แต่ทำไมคนอเมริกันถึงรักการแข่งรถแบบนี้สุดหัวใจ สกู๊ปนี้มีคำตอบครับ

       NASCAR (National Association for Stock Car Auto Racing) เป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1948 โดยคุณ บิล ฟรานซ์ ซีเนียร์ โดยจะเป็นการแข่งขันด้วยรถที่สามารถหาออกได้ตามท้องตลาดทั่วไป แล้วนำมาแต่งแบบพิเศษเพื่อใช้ในการแข่งขัน จุดเริ่มต้นก่อนที่จะมี NASCAR นั้นเกิดขึ้นจากการรวมตัวเพื่อแข่งขันกันเองของเหล่าคนรักความเร็วชาวอเมริกัน ซึ่งก็มีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มากมายทั้ง สภาพของสนามที่ไม่แน่นอน การป้องกันอุบัติเหตุที่หละหลวม และยังผิดกฎหมายอีก

       การแข่งขัน NASCAR เริ่มต้นฤดูกาลแรกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1948 ที่สนาม Daytona Beach and Road Course ซึ่งเป็นสนามริมชายหาดที่กินระยะทาง 5.15 กม. ซึ่งแชมป์ในการแข่งขันครั้งนั้นคือ โรเบิร์ต โนลด์ “เรด” ไบรอน ในช่วงแรกๆ การแข่งขัน NASCAR จะแข่งขันบนสนามพื้นดินพื้นทราย ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นสนามพื้นคอนกรีตในช่วงปี 1950-1960 และมีการสร้างสนามแข่งขันใหม่ๆ เพื่อให้สามารถจุผู้ชมได้มากขึ้น จนกลายเป็นการแข่งรถที่นิยมและแพร่หลายไปทั่วสหรัฐอเมริการตั้งแต่ช่วงยุคปี 1970

จากซ้ายไปขวา : ริชาร์ด ลี เพ็ตตี้ เจ้าของฉายา “The King”, เดล เอิร์นฮาร์ท และ เจฟฟ์ กอร์ดอน

ต่อมาในช่วงปี 1980 ถึง 1990 เป็นช่วงที่การแข่งขัน NASCAR เติบโตมากขึ้นไปอีก มีนักแข่งที่สร้างตำนานต่างๆ มากมาย เช่น ริชาร์ด ลี เพ็ตตี้ เจ้าของฉายา “The King”, เดล เอิร์นฮาร์ท หรือ เจฟฟ์ กอร์ดอน เป็นต้น ในปัจจุบันการแข่งขัน NASCAR มีการแข่งขันหลายรูปแบบแยกย่อยมากมายโดยจะมีการแข่งขันหลักๆ 3 รายการ ได้แก่ Cup Series, Xfinity และ Camping World Truck นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันนอกสหรัฐอเมริกาอย่าง รายการ NASCAR Whelen Euro Series ที่ยุโรปอีกด้วย

       ส่วนเหตุผลที่ทำไมคนอเมริกันถึงรักการแข่งขันแบบนี้ทั้งๆ ที่เป็นแค่การแข่งขันวิ่งวนรอบสนามเป็นวงรี คำตอบสั้นๆ ที่ได้คือ “มันคาดเดาไม่ได้” เพราะตัวแปรในการคว้าชัยชนะไม่ได้อยู่ที่สเปคของรถ แต่เป็นฝีมือ, กลยุทธ์, ความอึดถึกทน ของนักขับ ที่เราจะได้เห็นการบริหารเชื้อเพลิง-ยางรถ การถนอมรถให้คู่แข่งแซงไปก่อน แล้วค่อยเร่งแซงช่วงกลางถึงปลายเกม นอกจากนี้ทีมเวิร์คภายในพิทเองก็สำคัญเช่นกันในการซ่อมแซม และเติมน้ำมัน หากฝีมือการขับไม่ดีมากแต่รู้จักใช้สมองวางแผนและมีทีมที่ดีคอยซัพพอร์ตได้เต็มที่ ก็สามารถไต่อันดับต้น ๆ ได้ไม่ยาก

อีกเสน่ห์ของ NASCAR ที่จะไม่พูดไม่ได้คือ “อุบัติเหตุ” เพราะการเกิดอุบัติเหตุรถชนกันในสนามวงรีถือว่าเป็นอะไรที่รุนแรงและน่าตื่นเต้นไปในตัว การปะทะแต่ละครั้งอย่างน้อยจะต้องมีรถปลิวหรือชนกันวินาศสันตะโร บางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นมีนักแข่งบาดเจ็บมากมาย หรือในกรณีเลวร้ายที่สุดคือ ”เสียชีวิต” เนื่องด้วยในการแข่งขันมีนักแข่งอยู่ในสนามไม่ต่ำกว่า 50 คนขับเคี่ยวกันบนเส้นทางแคบๆ รูปวงรี ย่อมต้องมีการเบียดเสียดกัน หรือชนปะทะกันจังๆ อยู่แล้วทำให้ในการแข่งขันแต่ละครั้งมักจะชวน ”ลุ้นฉี่แทบราด” ว่านักแข่งที่เชียร์อยู่จะหลีกเลี่ยงการชนได้หรือไม่ แน่นอนว่าไม่มีแฟนๆ คนไหนอยากเห็นนักแข่งมาเสี่ยงชีวิตด้วยการชนกันยับระหว่างการแข่งขัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการชนกันแบบตูมตามของ NASCAR คือเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้หลายคนถอนตัวไม่ขึ้น เพราะคาดเดาไม่ได้ว่าเมื่อเกิดการชนไปแล้วจะมีการชนต่อกันเป็นทอดๆ หรือไม่ นอกจากนี้อีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือ เมื่อการแข่งขัน NASCAR เกิดการชนกัน จนต้องโบกธงแดงเพื่อยุติการแข่งขัน เรตติ้งทางโทรทัศน์ในตอนนั้นจะพุ่งขึ้นสูงถึง 2.3 ในทันที จนเป็นหลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอเมริกันชื่นชอบการแข่งขันนี้ เพราะอยากดูรถชนกันแบบระเบิดตูมตามด้วยเช่นกัน

       “ผมเฮทุกครั้งที่รถชนกัน แต่ก็อายตัวเองเหมือนกันนะที่ต้องพูดแบบนี้” นี่คือคำพูดของ เคิร์ต สมิธ แฟน NASCAR ที่ออกมายอมรับผ่านสื่อว่าเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนุกเมื่อเห็นอุบัติเหตุในสนามแข่งขัน

สรุปแล้ว NASCAR ไม่ใช่แค่การวิ่งวนหลายรอบแล้วเข้าเส้นชัยเท่านั้น มันเป็นกีฬาที่อาศัยการวางแผนของนักขับและทีมแข่ง การรอจังหวะเร่งแซง บริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงให้คุ้มค่าและการปะทะชนกันตามสไตล์อเมริกันนั่นเองครับ

ที่มา : ไขข้อข้องใจ เหตุใดคนอเมริกันนิยม NASCAR แม้ทั่วโลกไม่สนใจ | Main Stand


ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB