ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ สปอร์ตพรีเมียมแฟลกชิปซีดาน ที่พร้อมมอบความสมบูรณ์แบบในทุกการเดินทางสู่คำตอบของทุกสิ่ง Needn’t Find More

ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ สปอร์ตพรีเมียมแฟลกชิปซีดาน ที่พร้อมมอบความสมบูรณ์แบบในทุกการเดินทางสู่คำตอบของทุกสิ่ง Needn’t Find More

                    ฮอนด้า แอคคอร์ด นับเป็นรถยนต์ที่สำคัญรุ่นหนึ่งของฮอนด้าที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ในฐานะ Global Model ของฮอนด้า ที่ได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง อีกทั้งมีบทบาทในฐานะของรถที่เป็นผู้นำในการนำเสนอคุณค่าและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลกจากรุ่นสู่รุ่นตลอด 10 เจเนอเรชัน รวมระยะเวลากว่า 40 ปี การพัฒนา แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 จึงนับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในการพัฒนายนตรกรรมให้เหนือไปอีกขั้น เพื่อเป็นรถที่ไม่เพียงเติมเต็มความต้องการของลูกค้าแต่ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมที่ครอบคลุมทั้งในด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อน เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย

ครั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ได้รับการยกระดับเพื่อส่งมอบคุณค่าใหม่อีกขั้น สู่การเป็นยนตรกรรมที่เป็นผู้นำที่พร้อมมอบประสบการณ์เดินทางที่สมบูรณ์แบบในทุกเส้นทาง

  • ครั้งแรกกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่นย่อย ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลังด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์ E-CVT ที่มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC มอบพลังการขับเคลื่อนที่ไร้กังวลในทุกเส้นทาง โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร และมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งสามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า กับสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรก ใน แอคคอร์ด
  • ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ทั้งภายนอกและภายใน ผสานด้วยความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ความหรูหรา ประณีต และฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย
  • มอบการใช้งานที่ง่าย ด้วยหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยี
    การขับขี่* ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ใน แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ อาทิ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้ดั่งใจ Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 5 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว
    แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • ครั้งแรกในโลกกับรุ่น e:HEV RS ที่เสริมความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน มาพร้อมหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential และ ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card เป็นต้น
  • พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่น ๆ ที่ครบครัน* อาทิ ถุงลม 8 ตำแหน่งในทุก
    รุ่นย่อย ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL) เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด
    ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นต้น

ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ พัฒนาภายใต้แนวคิด “Driven by my Accord” โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่ไม่เพียงเป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง แต่เป็นพาร์ตเนอร์ที่พาคุณก้าวไปอีกขั้นในการใช้ชีวิต โดยมุ่งเน้นคุณค่าใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

  • Accomplished ความหรูหรา สง่างาม สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จ
  • Revitalize พลังแห่งความสดใส มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง
  • Advance วิวัฒนาการของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งฟังก์ชันในการใช้งาน เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ
    และระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นในทุกมิติ ผสานความหรูหราสง่างามและความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว

แนวคิดการออกแบบ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ต่อยอดจากคุณค่าหลักที่ไม่เพียงมุ่งเน้นความหรูหรา
สง่างาม แต่ยังสะท้อนสมรรถนะการขับขี่ที่ดีและมอบความมั่นใจ โดยออกแบบภายใต้แนวคิด Creative Black Tie” ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ที่เป็นทางการ แต่ก็แฝงด้วยลูกเล่นที่สนุกสนาน สะท้อนถึงการออกแบบ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ให้มีเสน่ห์ น่าหลงใหล ลงตัวด้วยความเป็นสากลและความมีเอกลักษณ์ โดยเริ่มจากตัวถังที่มีความยาวเพิ่มขึ้น 68 มม. สันฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียงและยาวขึ้น ผสานกับตัวรถด้านหน้าที่ดูเฉียบคม แข็งแกร่ง เชื่อมต่อกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยังคงเอกลักษณ์การใช้เส้นสายแนวนอน เพื่อเน้นโครงสร้างตัวถังในคอนเซปต์ Low & Wide พร้อมด้วยการใช้ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำ อีกทั้งมีการออกแบบให้ท้ายลาด ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูปราดเปรียว
สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดึงดูดทุกสายตา

  • กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่ โดดเด่นด้วยแพตเทิร์นที่มีมิติ สะกดทุกสายตา
  • ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น e:HEV E) ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ (รุ่น e:HEV EL) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำแบบแมตต์ (รุ่น e:HEV RS)

 

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับ พร้อมส่งมอบประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ ที่ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยได้รับการออกแบบเพื่อมอบทัศนวิสัยที่ดี โดยเน้นการส่งมอบคุณภาพระดับพรีเมียมภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ Comfort ที่เน้นให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว เช่น
แผงด้านหน้าและแผงประตู ที่เชื่อมต่อกันในแนวนอน Intelligence หรือการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น สะดวกสบาย เช่น การจัดการข้อมูลบนหน้าจอ Display Audio ที่มีขนาดใหญ่ให้อยู่ตรงกลาง และ Advance
ความเรียบหรูล้ำสมัย เช่น การออกแบบบริเวณแผงคอนโซลกลางหรือที่วางแขน ให้สะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับ
ของรถ ผสานด้วยการใช้ finishing ที่ให้ความหรูหรา ประณีต เสริมด้วยการใช้วัสดุบุนุ่มในจุดที่มีการสัมผัสบ่อย
มอบความสะดวกสบายและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร อีกทั้งโดดเด่นด้วยพื้นที่ช่วงขาและช่วงเข่า และพื้นที่
เก็บสัมภาระท้ายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

  • ใหม่ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 แบบ
  • ใหม่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งใน ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เป็นครั้งแรก (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) โดยสามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ ดังนี้
    1. โหมด Recommended Color ไฟจะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
    2. โหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
  • ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
  • ใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card (รุ่น e:HEV RS)
  • ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย(Wireless Charger)

 

ครั้งแรกในโลกกับรุ่น e:HE

V RS ยกระดับความสปอร์ตหรูหราอีกขั้น ในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน

  • โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น กับสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย
  • ใหม่ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เปิดมุมมองที่กว้างขวาง ยกระดับสุนทรียภาพในการเดินทาง
  • ใหม่ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
  • ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ต
  • ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน เสริมความ Contrast และพรีเมียมยิ่งขึ้น
  • เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต
  • สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำแบบแมตต์
  • ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black

ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างไร้ข้อจำกัด กับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย

ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลัง
ด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด
335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด
2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว โดยระบบจะมอบสมดุลระหว่างสมรรถนะ
การขับขี่ที่ทรงพลัง แรง ตอบสนองดั่งใจ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร ทั้งยังเป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร

  • ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับ
    ทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ ประกอบไปด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่

    • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ทำงานขณะออกตัว หรือขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ/ปานกลางคงที่ โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ในขณะที่เครื่องยนต์
      ยังหยุดทำงานอยู่ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ และให้ความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง
    • โหมดการขับขี่แบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักในการขับเคลื่อน
      โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว
      และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเพิ่มความเร็วหรือเร่งแซง
    • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์
      โดยชุดล็อกอัพคลัชท์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ และส่งกำลังจากเครื่องยนต์
      ไปยังล้อโดยตรง ลดการสูญเสียพลังงานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เป็นระบบที่เหมาะสมกับ
      การขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่
    • นอกจากนี้ ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้น
      ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration)
  • นอกจากนี้ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ยังมาพร้อมสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ เพียงกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ได้แก่ ใหม่ โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่สามารถเลือกรูปแบบการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ อีกทั้งโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และ โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

 

มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING  พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยอื่น ๆ และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน

ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อมอบประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้าในการทำงาน โดยระบบจะช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็ว เมื่อมีการตรวจจับว่ารถยนต์คันหน้า จักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
โดยระบบจะทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 5 กม./ชม. ขึ้นไป

  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ โดยระบบจะทำงานที่ความเร็ว
72 – 180 กม./ชม.

 

  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร โดยระบบจะทำงานที่ความเร็ว 72 – 180 กม./ชม.

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความ
    เร็วต่ำ
    (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)

ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยใช้เรดาร์และกล้องด้านหน้าทำงานร่วมกันในการตรวจจับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง โดยระบบตั้งค่าได้ที่ความเร็ว 30 – 180 กม./ชม. และระบบยังสามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมด ACC ที่เลือก ซึ่งถือเป็น
ครั้งแรกใน แอคคอร์ด ใหม่

  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า

  • ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)

ระบบจะปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา อัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่
ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของไฟสูงที่ความเร็วมากกว่า 10 กม./ชม. เพื่อลดการรบกวนรถยนต์ด้านหน้าหรือรถที่กำลังสวนทางมา

  • ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง
เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า โดยระบบจะตรวจจับรถที่หยุดด้านหน้าในระยะ 10 เมตร

 

พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ

  • สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้
    ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน โดยการวิ่ง 1 นาที ที่ความเร็ว
    100 กม./ชม. จะสามารถชาร์จไฟเพิ่ม เพื่อสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบ EV เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งใน
    ย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
  • ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และ ใหม่ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
  • เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ช่วยให้ควบคุมการชะลอความเร็วได้อย่างง่ายดายถึง 6 ระดับโดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรก เหมาะสำหรับการปรับระยะห่างระหว่าง
    รถคันหน้า ลดความเร็วเมื่อเข้าสู่แยกไฟจราจร หรือช่วงทางลงเขา ให้ทั้งความสนุกในการขับขี่และสามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้พร้อมกัน
  • ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และ ใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)

สู่ประสบการณ์เดินทางที่สมบูรณ์แบบ กับครั้งแรกของหลากหลายเทคโนโลยีเชื่อมต่ออันล้ำสมัย รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ ผสานผู้ใช้งานกับรถได้อย่างลงตัว

  • ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ขอแนะนำ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ที่มี Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google อย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายจาก Google Play ในรถยนต์ของคุณเพื่อประสบการณ์การขับขี่แบบมีผู้ช่วยที่ราบรื่นและปรับเปลี่ยนได้ในแบบ
    ของคุณ ประกอบด้วย
  • Google Assistant เมื่อมี Google Assistant คุณก็ทำสิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนนหรือ
    ละมือจากพวงมาลัย โทรหรือส่งข้อความหาเพื่อน ตั้งการช่วยเตือน หรือแม้แต่เปลี่ยนอุณหภูมิในรถได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังนำทางไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป หรือสำรวจละแวกใกล้เคียงได้ จะข้ามไปที่เพลงถัดไป หรือย้อนฟังพอดแคสต์ก็สบายด้วยแอปสื่อที่คุณชื่นชอบ เพียงแค่พูดว่า “Ok Google” หรือกดปุ่มเสียงบนพวงมาลัยเพื่อเริ่มต้นใช้งาน ประกอบด้วย

    • ขอเส้นทางและข้อมูลในพื้นที่

หาคำตอบเกี่ยวกับธุรกิจ ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวได้โดยง่าย รวมถึงเวลาทำการ ข้อมูลสภาพการจราจร และเส้นทางจาก Google Maps คุณยังเพิ่มจุดหยุดพักระหว่างทางเพื่อแวะซื้อกาแฟขณะเดินทางได้ด้วย เปิดคำแนะนำแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวไปยังจุดหมายใหม่หรือเช็คสภาพการจราจรที่ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทาง ตลอดจนตรวจสอบเวลาถึงโดยประมาณ

  • ติดต่อสื่อสารด้วยการโทรและการส่ง SMS

Google ช่วยให้คุณติดต่อคนสำคัญได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ติดต่อสื่อสารและติดตามข้อความตลอดจนสายเรียกเข้าและตอบกลับได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องจับโทรศัพท์

  • เต็มอิ่มกับความบันเทิง

พูดกับ Google และใช้เวลาในรถได้อย่างเพลิดเพลินด้วยการเข้าถึงสื่อที่คุณชื่นชอบแบบ
แฮนด์ฟรี ฟังเพลงโปรด พอดแคสต์ สถานีวิทยุ หนังสือ และอีกมากมาย* คุณสามารถข้ามเพลงหรือกรอไปข้างหน้า และปรับระดับเสียงได้ด้วย ค้นหาตามศิลปิน หาเพลงฟังให้เข้ากับอารมณ์ ตลอดจนฟังพอดแคสต์หรือหนังสือต่อจากจุดที่ฟังค้างไว้ได้โดยง่าย

  • ควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถแบบแฮนด์ฟรี

ประสบการณ์การขับขี่ของคุณจะมีประสิทธิภาพและง่ายขึ้นเมื่อใช้เสียงควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถและรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ขณะขับรถ พูดกับ Google เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ระบบละลายฝ้า ตรวจสอบว่ารถมีน้ำมันพอไปถึงจุดหมายหรือไม่ และอื่น ๆ

  • จัดการสิ่งต่าง ๆ

ขอให้ Google ช่วยจดจำสิ่งต่าง ๆ และขอข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันของคุณ รับข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศล่าสุด กิจกรรมที่กำลังจะมาถึง และอื่น ๆ  ทำสิ่งต่าง ๆ ในปัจจุบันให้เสร็จได้โดยง่ายและตั้งการช่วยเตือนสำหรับสิ่งที่ต้องทำในภายหลัง

  • ช่วยทำสิ่งต่าง ๆ ทั้งใน Google และนอกรถจนสำเร็จ

Google ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับแอปโปรดและอุปกรณ์คู่ใจเพื่อให้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งวัน ให้การเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ในบ้านอัจฉริยะที่ใช้ร่วมกันได้เป็นเรื่องง่าย เพื่อให้คุณขับรถได้อย่างสบายใจ

  • Google Maps ช่วยให้คุณเดินทางสู่จุดหมายต่อไปได้เร็วขึ้นด้วยข้อมูลสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ การเปลี่ยนเส้นทางอัตโนมัติ และคำแนะนำช่องทาง ขณะที่ฟังเพลงโปรดไปด้วยได้ ให้ Google Assistant ช่วยนำทางคุณกลับบ้าน ค้นหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด หรือบอกเวลาทำการของร้านค้า เพื่อให้คุณโฟกัสกับการขับขี่โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนหรือปล่อยมือจากพวงมาลัย เพียงพูดว่า
    “Ok Google” หรือกดปุ่มเรียกใช้งานบนพวงมาลัยเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
  • Google Play ช่วยให้คุณดาวน์โหลดแอปโปรดไว้ในรถได้ง่าย ๆ เหมือนเวลาดาวน์โหลดในโทรศัพท์
    จะฟังเพลงโปรด พอดแคสต์ หนังสือเสียง และอื่น ๆ ก็ทำจากรถโดยตรงได้สบาย ๆ

หากต้องการดาวน์โหลดแอปสื่อ ให้ตรวจสอบว่ารถจอดอยู่กับที่ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ และลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google แล้วเริ่มต้นใช้งานด้วยแอปที่เราชื่นชอบ

YouTube Music – สร้างสุดยอดเพลย์ลิสต์สำหรับฟังระหว่างขับรถ

Spotify – เข้าถึงเพลงนับล้านสำหรับทุกอารมณ์

Google Play Books – เลือกจากหนังสือขายดีหลายล้านเรื่อง

NPR One – ข่าวและนิตยสาร

Radio.com – สตรีมวิทยุหลายร้อยสถานี

iHeartRadio – วิทยุ พอดแคสต์ และเพลงออนดีมานด์

Audioburst – ไฟล์เสียงสั้นๆ ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

Pocket Casts – โปรแกรมเล่นพอดแคสต์

  • ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 5 นิ้ว (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งเป็นจอแบบ Full Graphic LCD ที่สามารถแสดงผลทั้งการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ข้อมูลการขับขี่ และข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถ ในรูปแบบของกราฟิกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลการทำงานของ Maps ได้เต็มหน้าจออีกด้วย ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย แม้จะมีการทำงานของระบบแสดงภาพ
    มุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ก็ไม่รบกวนการนำทางบนหน้าจอ
  • ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้
    ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ
  • ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Key โดย ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงานที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ได้แก่
  1. My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
  2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และบันทึกการเดินทางที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม
    เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
  3. Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด
    ถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยการช่วยเหลือจากฟีเจอร์ Google built-in (Google Assistant, Google Maps และ Google Play)

*ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

  1. Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยัง
    เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงาน
    ให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
  2. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และแจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
  3. Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อก และปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และสั่งการดับเครื่องยนต์
    ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย และใหม่ สามารถสั่งการเปิดเสียงแตรรถยนต์ โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
  4. Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
  5. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผล
    บนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
  6. ใหม่ Light Collision Notification การแจ้งเตือนการชนเบา/ไม่รุนแรง ช่วยแจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  7. ใหม่ Navigation Data Wipe การล้างข้อมูลการนำทาง โดยสามารถล้างข้อมูลส่วนตัวที่ถูกบันทึกไว้
    ในรถ เช่น ข้อมูลเสียง ข้อมูลระบบนำทาง หรือ รีเซ็ตการตั้งค่าให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
  8. ใหม่ Recall notification การแจ้งเตือนและเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาคุณภาพจากลูกค้า
  9. ใหม่ Remote Immobilizer การสั่งงานห้ามสตาร์ตเครื่องยนต์ ในกรณีที่รถถูกโจรกรรม สามารถระงับการสตาร์ตเครื่องยนต์และการเคลื่อนที่ของรถผ่านทางแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
  10. ใหม่ Digital Key กุญแจอัจฉริยะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถสั่งการต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Honda CONNECT บนสมาร์ตโฟนได้ เช่น ใช้สมาร์ตโฟนเป็นเสมือนกุญแจรถ โดยลูกค้าสามารถสั่งงานปลดล็อกประตูหรือสตาร์ตเครื่องยนต์ผ่านฟีเจอร์นี้ได้ แจ้งเตือนลูกค้าในกรณีลืมล็อกประตูและกำลังเดินออกห่างจากตัวรถ เป็นต้น

รุ่นและราคา

ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท
  • รุ่น e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท

สี

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก)  สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)  สีเทาเมทิเออรอยด์
(เมทัลลิก)  และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)

เสริมความมั่นใจในการใช้งานยิ่งขึ้น ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ด้าน e:HEV (e:HEV Expert) จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง

ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด The Premium Sedan” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วบันไดไดนามิก LED ราคา 6,500 บาท ชุดโลโก้ Accord และ
H Mark หลังสีดำ ราคา 1,500 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 2,200 บาท ชุดฝาปิดจุกลม H Mark ราคา 850 บาท และฟิล์มกันรอยบริเวณขอบประตู ราคา 1,200 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่

  • Aero Smart Package ราคา 29,990 บาท ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง และสเกิร์ตข้าง
  • Aero Sport Package ราคา 39,500 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV E และ e:HEV EL) ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
  • Film Package ราคา 1,700 บาท ประกอบด้วยฟิล์มกันรอยบริเวณที่เปิดประตู และฟิล์มกันรอยกันชนหลัง

หรือดูรายละเอียดชุดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/accordehev

 

หมายเหตุ:

  • *อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
  • สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 14,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
  • ราคาอุปกรณ์ตกแต่ง ไม่รวม VAT 7%
  • กรณีติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพร้อมรถยนต์ใหม่ รับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine/
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB