ขับขี่ปลอดภัย “Mercedes-Benz Driving Events 2018” ครั้งที่ 15 ยกขบวนรถหรูครบทุกเซ็กเมนต์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย “Mercedes-Benz Driving Events 2018” ครั้งที่ 15 ยกขบวนรถหรูครบทุกเซ็กเมนต์ ทดสอบสมรรถนะ ณ สนามพีระเซอร์กิต

          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำภาพผู้นำรถหรู เดินหน้าจัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยครั้งที่ 15 เชิญสื่อมวลชนและลูก้าคนสำคัญเสริมทักษะความรู้และวิธีการขับขี่แบบปลอดภัย จากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย พร้อมขนทัพรถหรูรุ่นล่าสุด มาให้ทดสอบกันอย่างครบครันในทุกเซ็กเมนต์ และยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมกว่าสิบรุ่น ณ สนามพีระเซอร์กิต พัทยา

          มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving) นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาทักษะการขับขี่” เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกท่านได้มีความเข้าใจใจรบบความปลอดภัยของรถยนตเมอร์เซเดส-เบนซ์ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในกรณที่เกิดเหตุคับขัน เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง”

          มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย ”Mercedes-Benz Driving Events” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บริษัทฯจัดขึ้นปีนี้เป็นปีที่ 15 เพื่อฝึกฝนให้ผู้ขับขี่สามารถคาดการณ์อันตรายต่างๆได้ล่วงหน้า โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการขับขี่ ควบคู่กับการใช้ระบบความปลอดภัยใหม่ๆของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ นำทีมโดย มร.ปีเตอร์ แฮ็คแค็ท ที่มีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี”
นอกจากการฝึกทักษะด้านความปลอดภัยแล้ว ทุกท่านจะได้สัมผัสถึงสมรรถนะกรขับขี่อันดีเยี่ยม ความโฉบเฉี่ยวเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์

          โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-8 กรกฎาคม 2561 โดยแบ่งผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มต่างๆ ซึ่งหลักสูตรการอบรมครั้งนี้ แบ่งการทดสอบออกเป็น 3 ฐาน ได้แก่ การขับแบบสลาลม (Slalom) การเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกระทันหัน (Land Change) การเบรกแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking) ปิดท้ายด้วยการขับแบบ Hot Lab เพื่อให้ทุกท่านได้ทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในสนามอย่างเต็มที่อีกด้วย

          หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจ และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ทุกท่านที่ผ่านการอบรมฯ จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทางบริษัทอีกด้วย