เอ.พี.ฮอนด้า ผนึกกําลัง ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda PCX Electric

เอ.พี.ฮอนด้า ผนึกกําลัง ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda PCX Electric หวังนําข้อมูลมาต่อยอดและพัฒนารถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้งานในอนาคต

            เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัท เอพี ฮอนด้า จํากัด ได้ทําพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือ MOU กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในโครงการสร้างประสบการณ์การ ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า PCX Electric เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และ 1ตรียมรองรับความต้องการด้านต่างๆต่อไป

            มร. ซิเกโตะ คิมูระ ( Mr.Shigeto Kimura) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จํากัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับมหาวิกยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทําการศึกษาและสํารวจ พฤติกรรมผู้ใช้งานด้านต่างๆ จากการใช้งานจริงของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าฮอนด้า PCX Electric ทั้งนี้เพื่อนําข้อมูลมาต่อยอดในการออกแบบและพัฒนาผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและเตรียมการสําหรับ eco system เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานของผู้ใช้ให้ได้ประสิทธิภาพ สูงสุด
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้าได้มีการพัฒนาเกคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะมีส่วนช่วยใน การสร้างสังคมที่ปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งในส่วนของรถจักรยานยนต์นั้น ฮอนด้าถือว่าเป็นผู้นําในความพยายามที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงานในรถที่ใช้แก็สโซลีน ด้วยการใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ และเทคโนโลยีระบบ หัวฉีดเชื้อเพลิง PGM-FI ก่อนผู้ผลิตรายอื่นๆ ”
ขณะนี้ ฮอนด้ามีความคืบหน้ามากขึ้นในการพัฒนารถจักรยานยนต์ที่มุ่งลดการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ ในรุ่น PCX Hybrid และ PCX Electric โดยในรุ่น PCX Hybrid นั้นนับตั้งแต่ เปิดตัวมาก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ขณะที่รุ่น PCX Electric ก็ได้มีการแนะนําในงาน Bangkok International Motor Show 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของฮอนด้านับตั้งแต่มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก คือ CUV ES เมื่อ 25 ปีที่ แล้ว

            Honda PCX Electric มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “e-Comfort Saloon” มีจุดเด่นหลัก 3 จุด ได้แก่ Compact Electric System, Honda Mobile Power Pack ที่พัฒนาขึ้นใหม่, และอุปกรณ์สเปค เฉพาะ ที่สามารถเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาตรฐานระดับโลก โดยการออกแบบรถรุ่นนี้ได้นําพื้นฐานจากฮอนด้า PCX มาพัฒนาใส่ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์และลงตัวมากที่สุด จึงถือได้ว่า Honda PCX Electric เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของฮอนด้า ที่ได้มาตรฐาน สมบูรณ์แบบระดับโลกอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพื่อการศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้จริง ทั้งในด้านของสมรรถนะ รถ การใช้งานรถ และรูปแบบของการเปลี่ยนแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังร่วมกับ HAUP ในการพัฒนา แอพพลิเคชันเพื่อทดลองการใช้บริการ Sharing รถ PCX Electric ในโครงการความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมและ เทคโนโลยี โดยข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานด่านต่างๆของ PCX Electric จะถูกนําไปพัฒนาต่อไป ในอนาคต

            “เราเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นก้าวแรกสําหรับสังคมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้เราตระหนักถึงความต้องการทางการตลาดที่หลากหลายและห่วงใยเรื่องสิ่งแวดล้อม ฮอนด้าในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนํา จะจัดทําข้อเสนอที่เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ในอนาคตเพื่อจะปูทางต่อไปใน ฐานะผู้นําอุตสาหกรรมด้านนี้” มร..ชิเกโตะ คิมูระ กล่าวปิดท้าย
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในฐานะประธานคลัสเตอร์วิจัยด้านยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จํากัด ใน วันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันดีในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และยังได้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมการใช้งานที่เหมาะสมในกรุงเทพมหานคร โดยใช้มหาวิทยาลัยเป็นกรณีศึกษา ดังนั้น โครงการศึกษาพฤติกรรมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda PCX Electric จึงตอบ โจทย์เป้าหมายของมหาวิทยาลัย ที่มุ่งเน้นการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อผลิตกําลังคนระดับสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น มหาวิทยาลัย ยังให้ความสําคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งจะเห็นได้จากการจัดทําแผนยุทธศาสตร์ “KMUTT: Sustainable University for Sustainable Development Goals (SDGs) 2030” ซึ่งมีเป้าหมายหนึ่งในการพัฒนาการคมนาคมขนส่งภายในมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นการลดการปลดปล่อยมลพิษจากยานพาหนะทุกประเภทภายในมหาวิทยาลัย ดังนั้นโครงการนี้จึงถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัย และชุมชนโดยรอบเป็นอย่างมาก ในการส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสําคัญของการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งไม่มีการปลดปล่อยมลพิษและสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าใน ประเทศต่อไป