เอ็มจี เปิดตัว NEW MG HS รถยนต์ SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของความสําเร็จด้วยนิยาม “ELEGANCE”

เอ็มจี เปิดตัว NEW MG HS รถยนต์ SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของความสําเร็จด้วยนิยาม “ELEGANCE”

          บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จํากัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ผู้ผลิตและผู้จําหน่ายรถยนต์เอ็มวีในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวแนะนํา NEW MG HS รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุดที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “ELEGANCE” นิยามของ SUV ที่เหนือระดับ เพื่อภาพลักษณ์ของความสําเร็จ สะท้อนรสนิยบและบ่งบอกความเป็นตัวตนที่สมบูรณ์แบบของผู้ขับขี่ พร้อมยกระดับมาตรฐานรถ SUV ไปอีกขั้นด้วยดีไซน์ล้ําสมัยทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ อํานวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยอย่างครบครัน โดยจะเปิดจําหน่ายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมรถยนต์เอ็มจีทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนนี้ และจะทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เป็นต้นไป

          นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด เผยว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ที่ผ่านมา เอ็มจี ได้พิสูจน์ให้ลูกค้าคนไทยเห็นถึงความตั้งใจจริงของเราในการเดินหน้า ทําตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังด้วยการแนะนําผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ เราได้นําเสนอรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาเติมเต็มในเซ็กเม้นท์ (Segment) ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่ม ครอบคลุมรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

          “ในส่วนของตลาดรถยนต์ SUV นั้น เอ็มจี ได้เริ่มทําตลาดรถยนต์ในกลุ่มนี้ครั้งแรก โดยส่ง MG GS เข้ามาทําตลาด เมื่อ 3 ปีก่อน และต่อเนื่องด้วย MG ZS ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า สามารถสร้างการจดจํา ให้กับแบรนด์ เอ็นจี ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นหลัก (Key player) ทั้งในกลุ่ม B-SUV และ C-SUV ในประเทศไทย โดยเฉพาะ MG ZS ที่ถือเป็นความสําเร็จในการสร้าง Segment ใหม่ที่มาจากความเฉพาะตัวของเอ็มจี

          และกลายเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าคนไทย ผบจึงมั่นใจว่าการแนะนํา “NEW MGHS” ในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวสําคัญของเอ็มจีและตลาดรถยนต์ SUV ในประเทศไทยอีกครั้ง” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

          NEW MG HS” เป็บยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกๆ ด้าน เพื่อให้เป็นรถที่มีความสง่างาม สะท้อนภาพลักษณ์ของความสําเร็จ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “ELEGANCE โดยมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น ความสะดวกสบายเหนือระดับแบบรถซีดานหรูแต่ให้ความคุ้มค่า ประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่า พร้อมสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม อีกทั้งยังเหนือกว่าด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ I-SMART และระบบความปลอดภัยที่ครบครันมากยิ่งขึ้น

          NEW MG HS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C รุ่น D และรุ่นสูงสุด คือ su X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ แดง Scarlet Red สีขาว Arctic White สีดํา Black Knight และ สีเงิน Silver Metallic ทั้งนี้ ทางบริษัทจะทยอย ส่งมอบรถ NEW MG HS ให้กับโชว์รูมเอ็มจี 110 แห่งทั่วประเทศ โดยลูกค้าสามารถเข้าชมและทดลองขับได้ตั้งแต่ วันที่ 28 กันยายนนี้ และบริษัทฯ จะทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป

Elegant Design: สง่างาม พร้อมสะกดทุกสายตา

          NEW MG HS ได้รับการออกแบบด้วยความพิถีพิถันโดยผสมผสานระหว่างความหรูหรากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถ กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MG ซึ่งมาพร้อมแนวคิด Stella Magnetic Field ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่าง สําหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายแบบ Space Light Field ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาพร้อมไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังที่แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential เพิ่มความหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น D และ X และล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น C

          ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมนโอบรับสรีระ พร้อมการเล่นระดับมีสไตล์และตกแต่งด้วย วัสดุภายในให้สัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ครอบคลุมทั้งบริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดําสลับแดงที่มี ส่วนหุ้มด้วยวัสดุ Alcantara (เฉพาะรุ่น X) ในขณะที่เบาะหลังนั่งสบายปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิง ปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ที่มี แสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตูและสามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี รวมทั้งยังสามารถ ปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่ พร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทาง

          NEW MG HS มีการติดตั้งสิ่งอํานวยความสะดวกในขณะขับขี่อย่างครบครัน อาทิ หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัด แบบ Interactive Multi – Function Display ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนําทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว พวงมาลัย มัลติฟังก์ชัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สําหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมกุญแจ ระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

Perfect Performance: สมรรถนะอันทรงพลังในแบบฉบับเทอร์โบ

          NEW MG HIS มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกําลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ําเพียง 1700 รอบต่อนาที โดยสามารถทําความเร็ว 0 ถึง 100 ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85 โดยรุ่น X มาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด คือ โหมด Normal สําหรับการขับขี่แบบทั่วไป โหมด Eco เพื่อการประหยัดน้ํามันยิ่งขึ้น โหมด Sport พอพบความสนุกในการขับขี่ และโหมด Custom ที่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัยที่ช่วยเร่งพลังการขับขี่ให้แรงขึ้น เพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น

          NEW MG HS มาพร้อมช่วงล่างตามแบบ Euro Tuning Suspension ที่ให้ทั้งความสบายและความมั่นใจในการ ขับขี่ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ที่ได้รับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับการขับขี่ของลูกค้า และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-link ที่รองรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย

Smart Function: แตกต่างด้วยระบบอัจฉริยะที่ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ กับ i-SMART

          NEW MG HS มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสําหรับผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถสื่อสารกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Smart Command ระบบสั่งการที่สามารถสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย ที่มีฟังก์ชั่นการสั่งการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรออก สั่งการ ควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ และระบบเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ รวมถึงค้นหาจุดที่น่าสนใจ (Point Of Interest) ผ่าน Navigator เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังสามารถ สั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ทโฟน Smart Connect ที่สามารถค้นหาเพลงฮิต เพลงดังผ่าน Online Music และ ค้นหาร้านอาหารเด็ด สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม แสดงผลการจราจร รวมถึงอัพเดตข่าวสารในปัจจุบันบนหน้าจอในรถ และ Smart Check ที่สามารถตรวจสอบสถานะ และตรวจเช็กรถได้อย่างง่ายดาย ตลอดจนการสั่งการล็อกหรือปลดล็อก ประตูรถ ตรวจสอบตําแหน่งรถ แจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ และช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแล รักษารถตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application

          ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน NEW MG HS ให้ความปลอดภัยด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ที่แข็งแกร่ง พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบ ประกอบด้วยระบบ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน ก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ อาทิ ระบบควบคุม การเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบลดความเสี่ยงที่จะทําให้รถพลิกคว่ํา ARP (Anti Rolling Program) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และมีอีก 4 ระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา ประกอบด้วย

-ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

-ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)

-ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)

-ระบบช่วยเตือนขณะกอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

รวมไปถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) มากถึง 7 ระบบ ประกอบด้วย

-ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)

-ระบบช่วยเดือนเมื่อเสียงต่อการชบรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)

-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)

-ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)

-ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)

-ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)

-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ํา TJA (Traffic jam Assist)

นอกจากนี้ ยังเสริมความปลอดภัยให้อีกขั้นด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด และเพิ่มมุมมองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor)

* อุปกรณ์ที่ติดตั้งะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 หรือที่เว็บไซต์ www.mgcars.com