ไส้กรองอากาศดูแลได้ไม่ยาก

ไส้กรองอากาศดูแลได้ไม่ยาก

          การดูแลกรองอากาศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้รถยนต์เพื่อสะดวกต่อการเดินทางเราจึงแนะนำประเภทให้รู้จักและวิธีการต่างๆให้นำไปใช้กัน

ประเภทของไส้กรองอากาศ

          -ไส้กรองอากาศชนิดแห้ง ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ เส้นใยพืช และขนสัตว์ ส่วนใหญ่ใช้งานแล้วทิ้ง แต่ยังสามารถนำออกมาทำความสะอาดโดยการเป่าได้ ไส้กรองอากาศที่ติดมากับรถจากโรงงานนิยมใช้ไส้กรองอากาศแบบนี้ เนื่องจากมีราคาถูก

          -ไส้กรองอากาศชนิดเปียกหรือไส้กรองอากาศแบบน้ำมัน ใช้น้ำมันเป็นตัวดักจับฝุ่นละออง ใช้กันในรถรุ่นเก่า มีลักษณะเหมือนกับไส้กรองชนิดแห้ง แต่ในแผ่นไส้กรอง จะมีน้ำมันหล่อไว้ภายใน อากาศจะไหลผ่านไปในหม้อกรองลงสู่ด้านล่างที่มีน้ำมันขังอยู่ เศษฝุ่นละอองที่หนักกว่าจะวิ่งไปสู่น้ำมัน และถูกจับเอาไว้ ไส้กรองอากาศชนิดนี้มักไม่นิยมทำความสะอาด พอฝุ่นจับมากแล้วทิ้งเลย

วิธีทำความสะอาดไส้กรอง

          ใช้การเป่าเอาสิ่งสกปรกออกจากกรองอากาศ โดยให้เป่าลมจากด้านตรงกันข้ามกับฝุ่นเกาะอยู่จนหมด ถ้าเป็นกรองสแตนเลส สามารถล้างกวยน้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอ ก ก่อนใช้ลมเป่าให้แห้งหรือตากให้แห้ง ถ้าเป็นกรองเปียกให้ล้างด้วยน้ำมันเบนซิน แล้วบีบให้แห้ง(ห้ามบิดเนื่องจากอาจทำให้ฉีกขาดเสียหายได้)แล้วชโลมด้วยน้ำมันเครื่องใหม่

สัญญาณเตือนเครื่องกรองอากาศสกปรก

1.การใช้น้ำมันต่อระยะทาง

          การเติมน้ำมันในแต่ละครั้งหลายคนย่อมคาดหวังการใช้น้ำมันต่อระยะการเดินทาง (Gas Mileage) ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นหากกรองอากาศสกปรกจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงลดลง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเปลืองน้ำมันนั้นเอง

2.เครื่องยนต์ทำงานผิดพลาด

          ถ้าหากเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ค่อยติด อาจจะเกิดเพราะกรองอากาศสกปรก โดยกรองอากาศที่สกปรกจะลดปริมาณอากาศที่ไหลเวียนเข้าไปสู่เครื่องยนต์ ส่งผลให้เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์กระตุก หรือสตาร์ทไม่ติด

  1. เสียงเครื่องยนต์ผิดปกติ

          รถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์ในขณะที่ยังไม่ได้วิ่ง ควรได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ที่ราบรื่น มีประสิทธิภาพ แต่ถ้ารถยนต์เกิดอาการสั่น ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังไอ หรือเสียงที่ผิดปกติไปจากเดิม นั่นแสดงว่าอัตรารอบหมุนช้าของเครื่องยนต์กำลังมีปัญหา สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากกรองอากาศอุดตันทำให้การจุดระเบิดทำงานได้อย่างไม่เต็มที่

4.ไฟเตือนระบบเครื่องยนต์

          เครื่องยนต์ต้องการอากาศปริมาณที่มากเข้าไปผสมผสานกับเชื้อเพลิงเพื่อทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้ หากอากาศไม่สามารถเข้าไปในเครื่องยนต์ได้อย่างเพียงพอ บนหน้าปัดอาจมีสัญญาณไฟเตือนระบบเครื่องยนต์ ดังนั้นควรไปตรวจสอบกรองอากาศเพื่อดูว่ามันสกปรก หรือต้องเปลี่ยนใหม่ หรือไม่

5.ตัวกรองอากาศสกปรก

          กรองอากาศใหม่ ๆ จะมีลักษณะเป็นสีขาว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งสกปรก และฝุ่นละอองจะสะสมทำให้มันหมองคล้ำ สำหรับการตรวจสอบ หรือดูกรองอากาศว่ามันสกปรกหรือไม่ ควรทำในเวลากลางวัน หรืออาจใช้ไฟฉายส่องไปด้วยเนื่องจากละออง หรือฝุ่นไม่สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ หากมันสกปรกควรจะทำความสะอาด หรือเปลี่ยนใหม่

6.แรงม้าลดลง

          เมื่อเหยียบคันเร่งแล้วรถยนต์ไม่สามารถตอบสนองการเร่งตามปกติ หรือเกิดอาการกระตุก นี่เป็นสัญญาณว่าเครื่องยนต์ไม่ได้รับอากาศที่จำเป็นต่อการจุดระเบิดอย่างเต็มที่ ดังนั้นหากมันสกปรกควรทำความสะอาด หรือเปลี่ยนใหม่

7.ควันดำ

          ควันดำเกิดจากอากาศไม่เพียงพอส่งผลให้เชื้อเพลิงบางส่วนเผาไหม้ไม่หมด และปะปนออกมากับระบบไอเสีย ดังนั้นหากเกิดควันดำควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างได้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนตัวกรองอากาศ นอกจากนี้หากได้ยินเสียงดัง อาจเกิดจากการส่วนผสมของเชื้อเพลิงที่ตกค้างภายในหม้อพักไอเสียเกิดการจุดระเบิด

8.กลิ่นน้ำมัน

          ในขณะที่สตาร์ทรถยนต์หากอากาศเข้าไปในคาบูเรเตอร์ หรือระบบฉีดเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ เชื้อเพลิงที่เผาไหม้ไม่หมดจะปะปนออกมากับท่อไอเสีย นั่นจะทำให้ได้กลิ่นน้ำมัน และนั่นคือสิ่งบ่งบอกว่าต้องเปลี่ยนกรองอากาศ

          อย่างไรก็ตามการเช็คสภาพรถอย่างบ่อยๆเป็นเรื่องดีต่อรถยนต์ของคุณและยืดอายุการใช้งานรถยนต์ได้อีกด้วย