เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่คาเมนไรเดอร์โลดแล่นอยู่บนจอทีวี โรงภาพยนตร์ ไปจนถึงแอพลิเคชันต่างๆ และยังมีสื่ออื่นๆ อีกมากมายทั้งมังงะ เกม หรือแม้กระทั่งของเล่นเอาใจเด็กๆ ทุกยุคทุกสมัย และในสกู๊ปล่าสุดนี้พวกเรา Realtime Car Magazine จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับรถคู่ใจคาเมนไรเดอร์กันต่อ ว่าใช้รุ่นอะไรในการออกแบบ และมีสเปคอะไรบ้าง
BRP Can-Am Spyder Roadster F3T
รถ ATV 3 ล้อ สัญชาติแคนาดา ผลิตโดย บ.Can-Am motorcycles ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Bombardier Recreational Products เริ่มต้นสายการผลิตในปี 2007 มิติตัวรถขนาด 2,596 * 1,497 * 1,241 มม. เครื่องยนต์ Rotax 1330 ACE ขนาด 1,330 cc 3 สูบ แรง 115 แรงม้าที่ 7,250 rpm แรงบิดสูงสุด 130.1 Nm ที่ 5,000 rpm ระบบเกียร์ 6 สปีด SE6 ช่วงล่างกันสะเทือนหน้า double A-arm พร้อม anti-roll bar ส่วนหลัง สวิงอาร์ม โช๊คอัปทั้งหน้าและหลังของค่าย SACHS เบรกด้วยเท้าระบบจานไฮดรอลิก BRP ทั้ง 3 ล้อ ฐานล้อขนาด 1,709 มม. ช่องเก็บของขนาด 78 ลิตร รับน้ำหนักได้สูงสุด 182 กก. ถังน้ำมันจุ 27 ลิตร หน้าจอขนาดใหญ่พาโนรามิก 7.8 นิ้ว มี BRP Connect สามารถเชื่อมต่อกับ โทรศัพท์มือถือได้ มีปุ่มคอนโทรลต่างๆ ตามแฮนด์ สำหรับใครที่ชอบขับไปฟังเพลงไปเขาก็มีเครื่องเสียง BRP มาให้ 4 จุด เชื่อมต่อได้ทั้ง USB, Bluetooth และหัวแจ็คได้ ระบบความปลอดภัยจัดเต็มด้วยระบบ SCS (Stability Control System) ให้ขับได้นิ่มบนทางขรุขระ TCS (Traction Control System) ป้องกันการเสียหลักขณะเข้าโค้ง ABS (Anti-Lock Braking System) ป้องกันการล้อล็อกลื่นไถลขณะเบรก DPS (Dynamic Power Steering) ซึ่งช่วยในการทรงตัว HHC (Hill Hold Control) ป้องกันการไหลขณะหยุดบนทางชัน เสริมการป้องกันอาชญากรรมขึ้นไปอีกขั้นกับระบบป้องกันขโมย Digital Encoded Security System (D.E.S.S.) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 22,799 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 816,000 บาทไทย
ถูกนำมาออกแบบ Gatrikephone ร่าง Ride Gatriker ของ คาเมนไรเดอร์เบลดส์ และ เอสปาด้า ในซีรีส์ คาเมนไรเดอร์เซเบอร์
Honda CB1300 Super Bold’or
ปี 2005 เครื่องยนต์ SC54E ขนาด 1,284 cc ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 4 สูบ 4 จังหวะ เกียร์ 6 สปีด คลัทช์ระบบ Assist Slipper เบรกล้อหน้าเป็นแบบไฮดรอลิกจานคู่ เบรกล้อหลังเป็นไฮดรอลิกจานเดี่ยว ถังน้ำมันจุ 21.1 ลิตร สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมดคือ Standard, Sport และ Rain มีระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control ช่วงล่างหน้า-หลัง จาก SHOWA ปรับค่าต่างๆ ได้ละเอียดทั้ง ความแข็งของสปริง ความหนืด และแรงต้านการยุบตัว ไฟส่องสว่าง LED รอบคัน
นอกจาก Super Bold’or แล้ว Honda ยังผลิตรุ่นคู่แฝดอย่าง Super Four ด้วย ภายใต้แนวคิด “The Ultimate Legacy ที่สุดของตำนานบนทุกเส้นทาง” โดยต้นกำเนิดเริ่มขึ้นในปี 1992 จากรุ่น CB1000 Super Four ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด 3 ข้อ 1)ขุมพลังเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 4 สูบ 2) รูปทรงดูเซ็กซี่ และไวลด์ 3) สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ขับขี่ ราคาในประเทศไทยอยู่ที่ 600,000 บาท ทางเรา Realtime Car Magazine เคยนำเสนอรถรุ่นนี้มาแล้ว สามารถไปอ่านย้อนหลังได้ ที่นี่
CB1300 Super Bold’or ถูกนำมาใช้ออกแบบ Cyclone II ของคาเมนไรเดอร์หมายเลข 2 ในภาพยนตร์ The First และ The Next
และออกแบบรถ SB-913C Side Basshar พร้อมพ่วงข้างของ คาเมนไรเดอร์ไคซะ ในซีรีส์ คาเมนไรเดอร์ไฟซ์
Honda CB750F Super Sport
ไม่อยากเชื่อว่า คาเมนไรเดอร์ แบล็คซัน จะใช้รถเก่าขนาดนี้กับ CB750F ผลิตในปี 1979-1982 เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 2 วาล์ว 4 จังหวะ ขนาด 736 cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความแรง 58 แรงม้าที่ 8,000 rpm แรงบิด 6.1 m-kg ที่ 7,500 rpm ระบบเกียร์ 5 สปีด โช๊คอัปเทเลสโคปิก ระบบกันสะเทือนหลังสวิงอาร์ม โช๊คคู่ จานเบรกเดี่ยว 296 มม. ทั้งหน้าและหลัง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 14.5 กม./ลิตร
ในปัจจุบันทาง Honda ได้ออก CB750 ในชื่อรุ่นว่า “Hornet” ซึ่งเครื่องยนต์เป็น DOHC 755 cc 4 จังหวะ 4 วาว์ลต่อสูบระบายความร้อนด้วยน้ำความแรงสูงสุด 90.5 แรงม้าที่ 9,500 rpm แรงบิดสูงสุด 75 Nm ที่ 7,250 rpm ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 23 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC โข๊คหน้าเป็น โช๊คอัพหัวกลับ Showa SFF-BP ขนาดแกน 41 มม. ระยะยุบ 130 มม. โช๊คหลังเป็น โช๊คอัพเดี่ยว Prolink ระยะยุบ 150 มม. เบรคหน้า จานเบรคคู่ ขนาด 296 มม. พร้อมปั้มเบรค 4 พอต ABS เบรคหลัง จานเบรคเดี่ยว ขนาด 240 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต ABS ถังน้ำมันจุได้ 15.2 ลิตร
CB750F ถูกนำมาออกแบบ Battle Hopper ของ คาเมนไรเดอร์แบล็กซัน ซึ่งในมินิซีรีส์นี้สามารถรับชมได้ทาง Amazon Prime จำนวน 10 ตอน
BMW R nine T
มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ดีไซน์ล้ำทันสมัย มีระยะฐานล้อที่ 1,476 มม. มีคาสเตอร์ที่ 1,025 มม. ใช้ล้อแบบ Spoke wheels ขนาด 17 นิ้ว มีความยาวประมาณ 2.220 mm กว้าง 890 mm สูง 1.265 mm มีด้วยกัน 2 สีคือ สีขาวและสีดำ ให้ความรู้สึกดุดัน สปอร์ตในยามขับขี่ ใช้เครื่องยนต์แบบ 2 สูบ Boxer สองสูบนอน DOHC ขนาดความจุ 1,170 cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลัง 110 แรงม้า ที่ 7,550 rpm แรงบิดสูงสุดที่ 119 Nm ที่ 6,000 rpm กระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ 101 x 73 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์ ความเร็วสูงสุดกว่า 200 กม./ชม. ระบบคลัทช์แบบ Single dry plate clutch สั่งงานด้วยไฮดรอลิค เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยเพลาขับ รองรับเชื้อเพลิงประเภท Unleaded fuel, octane number 95-98 RON (rated output at 98 RON) ใช้อัลเตอเนเตอร์แบบ three-phase alternator 600 W และแบตเตอรี่ 12 V / 14 Ah, maintenance-free คลัทช์แบบ Single dry plate clutch, hydraulically operated ไฟหน้าแบบกลม และมาตราวัดความเร็วแบบกลมทรงคลาสสิค แฮนด์บาร์โค้งเว้าขนาดพอเหมาะ ตัวถังเรียบหรู ไฟท้ายเล็กแต่สว่างชัดเจน ราคาตัวรถเริ่มต้นที่ 919,000 บาท สามารถออกแบบในสไตล์คุณได้ใน เว็บไซต์ โดยที่เลือกสีได้ 4 สี ตัวถังเปลี่ยนเป็นแบบอะลูมิเนียมได้ ล้อเปลี่ยนเป็นแบบซี่ลวด ฯลฯ
BMW R nine T ถูกนำมาออกแบบ Road Sector ของ คาเมนไรเดอร์ชาโดว์มูนในมินิซีรีส์ คาเมนไรเดอร์แบล็กซัน ซึ่งทั้ง Battle Hopper และ Road Sector ได้รับการออกแบบโดยร้านแต่งรถ Cherry’s Company ที่ย่านเนริมะ ในกรุงโตเกียว ท่านผู้อ่านสามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์นี้ คลิก
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : http://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
Twitch TV : https://www.twitch.tv/realtimecarmagazine
Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/5ed70c2d713f890cbc006f05
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_magazine/
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSmSrdsB