ทำผิดไม่ยึด ใบขับขี่ อย่าเพิ่งดีใจ จริงๆแล้วหนักกว่าเดิม!!

ทำผิดไม่ยึด ใบขับขี่ อย่าเพิ่งดีใจ จริงๆแล้วหนักกว่าเดิม!!

                แก้กฎหมายจราจรใหม่แล้ว ทำผิดไม่ยึด ใบขับขี่ แต่อย่าเพิ่งดีใจ จริงๆแล้วหนักกว่าเดิม พูดถึงเรื่องกฎหมายจราจร ทั้งการเชื่อมระบบตรวจสอบใบสั่งก่อนจ่ายค่าภาษีประจำปีและแก้ไขกฎหมายจราจร ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 พ.ค.62 ทำผิดกฎจราจรไม่โดนยึดใบขับขี่แค่โชว์ใบขับขี่ก็ได้ แต่การจ่ายค่าปรับเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว กฎหมายมีมาตรการใหม่กับการตัดแต้ม ทางหน่วยงานได้บอกถึงการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายล่าสุดเพื่อแก้ไขปัญหาวินัยจราจรการขับขี่รถที่ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน สถิติใบสั่งในปี 2561 มี 16 ล้านใบและในปี 2562 นี้ออกใบสั่งไปแล้ว 7 ล้านใบ ทั้งปีจะมีการออกใบสั่งมากถึง 20 ล้านใบ ทำยังไงให้คนเกรงกลัวกฎหมาย การเพิ่มค่าปรับเป็นหนึ่งวิธีแต่จะเป็นช่องว่างระหว่างคนธรรมดากับคนรวยที่มีเงินก็จ่ายไปแต่ก็ทำผิดต่อและส่วนกฎหมายที่แก้ไขมีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมกันเลย

                1.สำหรับกฎหมายที่พูดถึงกันมาก คือ กฎหมายที่ให้ประชาชนพกใบอนุญาตขับขี่ และกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่ายใบขับขี่ตามทีขนส่งทางบกกำหนดถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัว เจตนาของกฎหมายนี้คือเจ้าหน้าที่ไม่ต้องเรียกเก็บใบขับขี่จากประชาชนเมื่อเห็นคนทำผิด คือให้ประชาชนแสดงใบขับขี่และออกใบสั่งได้ปกติ เพราะการยึดใบขับขี่นั้นเป็นปัญหาของผู้ใช้รถ เป็นการสร้างความลำบากให้กับประชาชนที่จะต้องกลับไปที่ สน. เพื่อเสียค่าปรับ ทางกรมขนส่งทางบกจึงได้เพิ่มกฏหมายนี้เข้าไปโดยได้มีการทำระบบเพื่อเก็บข้อมูลการทำผิดและข้อมูลใบสั่งของคนนั้น

                2.ประเด็นของการแสดงใบขับขี่โดยทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่กฎหมายรับรอง ในขณะนี้ คือ การแสดงใบขับขี่ดิจิตอลในแอพพลิเคชั่นของขนส่งเท่านั้นและใช้แสดงแทนใบขับขี่จริงได้คือวันที่ 19 ก.ย. ส่วนการแสดงด้วยการถ่ายเอกสารและถ่ายภาพในมือถือยังใช้ไม่ได้ ต้องรอการพิจารณาของขนส่งก่อน หากไม่มีประกาศรองรับว่าสำเนาแบบไหนใช้ได้ก็จะไม่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง เมื่อกฎหมายออกมาแล้วว่าไม่ต้องเรียกเก็บใบขับขี่ ก็จะต้องมีแนวปฏิบัติที่เป็นทางเดียวกันไปยังตำรวจจราจรทั่วประเทศซึ่งก็ต้องไปแจงความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการภายใน 3 เดือน

                3.กฎหมายได้รองรับการตัดแต้มผู้ขับขี่ที่ทำผิดซึ่ง พ.ร.บ.ที่แก้ไขและประกาศใช้แล้ว เป็นการประกาศรองรับ ซึ่งทางหน่วยงานจะกำหนดลายละเอียดส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าเป็นข้อหาที่ตัดแต้ม การอบรมเพื่อขอแต้มคืน ขณะนี้ได้มีรูปแบบไว้แล้วคือ ผู้ขับขี่มีคนละ 12 แต้ม ข้อหาการตัดแต้มแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มแรก ทำผิดกระทบตัวเองและสาธารณะไม่มาก เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อค ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็วเกินกำหนด จะโดนตัด 1 แต้ม กลุ่มที่ 2 ทำผิดกระทบตัวเองและสาธารณะ เช่น ฝ่าไฟแดง ขับย้อนศร ไม่หลบรถฉุกเฉิน ถูกตัด 2 แต้ม และกลุ่มที่ 3 ข้อหาที่ส่งผลกระทบรุนแรง เช่น เมาแล้วขับ ชนแล้วหนี ถูกตัด 3 แต้ม

                4.ถ้าหากแต้มหมดภายใน 1 ปี จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 90 วันและต้องเข้าอบรม เสียค่าใช้จ่ายในการอบรม ถึงจะได้แต้มคืนสำหรับหลักเกณฑ์การเข้าอบรมเมื่อทำผิดซ้ำ จะต้องเว้นระยะอย่างไรให้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพ ไม่ใช่แต้มใกล้หมดแล้วเข้าอบรมเพื่อคืนแต้ม รายละเอียดอยู่ระหว่างการพิจารณาและฟังความคิดเห็นประชาชน ก่อนจะเร่งดำเนินการให้เสร็จทันก่อนใช้ในวันที่ 19 ก.ย. หากไม่ทันก็ยืดเวลาได้อีก 90 วัน เมื่อประกาศขั้นตอนวิธีการต่างๆแล้ว ใครทำผิดไม่ใช่จะได้แค่ใบสั่งแต่ต้องไปเสียค่าปรับและตัดแต้มด้วย ซึ่งมีระบบที่ทุกคนสามารถดูแต้มตัวเองได้

                5.การตัดแต้มคือ การตัดแต้มการขับรถไม่ว่าจะมีใบขับขี่กี่ใบกี่ประเภทก็มีแค่12 แต้ม จะทำผิดกี่ครั้งจากการขับรถประเภทไหนแต้มก็จะนำมารวมกันหมดมาตรการนี้จะทำให้ประชาชนระมัดระวังมากขึ้น ไม่ใช้คะแนนจนหมด เรียกได้ว่าถึงขั้นปฏิวัติวินัยจราจรของผู้ขับขี่ทั้งประเทศเลยทีเดียว และมีการเตรียมการจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างเป็นระบบตั้งแต่เชื่อมต่อข้อมูลใบสั่งกับกรมการขนส่ง บังคับคนผิดจ่ายค่าปรับก่อนต่อภาษีรถแถมด้วยการขับขี่บนถนนอย่างระวัง ไม่ให้ แต้ม หมด

                เพื่อแก้ไขการใช้รถใช้ถนน หลังจากนี้ ให้คนที่ใช้รถใช้ถนนได้เข้าใจกันอย่างต่อเนื่อง อยากจะให้ทุกคนขับขี่ระมัดระวัง ถ้าไม่อยากโดนตัดแต้มจนหมดและไม่อยากโดนยึดใบขับขี่  เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร รอติดตามกันนะครับ