แนวทางการเลือกไส้กรองอากาศให้เหมาะกับการใช้งาน

แนวทางการเลือกไส้กรองอากาศให้เหมาะกับการใช้งาน

จากScoop “ประเภท ไส้กรองอากาศ มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร ?” ทำให้เพื่อนๆชาวสองล้อรู้แล้วเกี่ยวกับตัวไส้กรองอาการ แต่ว่าแบบไหนละที่เหมาะและเข้ากับสไตล์การขับขี่ของเรา ทางทีมงาน RealTime ก็เลยจะมาให้แนวทางและหลักการในการเลือกใช้ไส้กรองอากาศ กันนะครับ

            ►มาเริ่มต้นที่อันแรก กับไส้กรองอากาศแบบกระดาษ  สำหรับเพื่อนๆที่ออกรถมาใหม่ นั้น การใช้อะไหล่ที่ศูนย์ติดตั้งมาให้แต่ต้น ก็เป็นเรื่องจำเป็นต่อการรักษาประกันเครื่องยนต์ที่ทางศูนย์บริการมีมาให้ ถ้าเราเปลี่ยนไส้กรองไปใช้แบบอื่นแน่นอนครับประกันเครื่องยนต์ขาดแน่ๆ เพราะงั้นเพื่อนๆที่ออกรถมาแรกๆ ทางทีมงานแนะนำให้ใช้ของที่ศูนย์เปลี่ยนให้ก่อนดีกว่าหรือถ้าสอบถามกับทางศูนย์ว่าเปลี่ยนไปใช้แบบผ้าได้ก็จะดีมากครับ และก็สำหรับเพื่อนๆที่รักรถให้เครื่องยนต์อยู่กับเราไปนานๆ กรองกระดาษ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็แลกมาด้วย การต้องเปลี่ยนบ่อยๆ อาทิเช่น 3เดือนเปลี่ยนครั้งหนึ่ง หรือ ทุกๆ 3000 กิโล แต่สำหรับคนที่ใช้รถทุกวันหรือใช้รถทำงาน เช่น วินมอเตอร์ไซต์ , บุรุษไปรษณีย์ , แมสเซ็นเจอร์ส่งของ หรือก็คืออาชีพที่รถคือหัวใจสำคัญในการทำมาหากินต้อง  เพื่อนๆอาจจะมองว่า อ้าวต้องเปลี่ยนบ่อย อายุการใช้งานน้อย ทำไมจึงเหมาะกับอาชีพที่ใช้งานรถเยอะและหนักที่สุด เพื่อนๆลองคิดดูนะครับ ว่ารถที่ใช้ทำมาหากิน ต้องเจอละอองฝุ่นควัญมากแค่ไหน ถ้าเกิดมันเข้าไปในห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์พัง เราก็จะไม่มีรถใช้ทำมาหากินใช่ไหมละครับ และด้วยราคาที่เราต้องจ่ายกับค่าไส้กรองอากาศ ประมาณ 3 เดือน กับเงินเพียงแค่ 100-200 บาท มันคุ้มกว่าที่เราต้องไปเสียค่าผ่าเครื่องถึงหลักพันไหมครับ

            ►ต่อมา ไส้กรองอากาศแบบผ้า ที่ไส้กรองชนิดนี้เป็นที่นิยมก็เพราะว่า คนที่ใช้งานรถแบบตลอดทั้งวัน ยกตัวอย่างเช่น ประเภทมอเตอร์ไซค์รับจ้างนี้ มีสัดส่วนที่น้อยมากหากเทียบกับคนที่ใช้งานรถบ้างไม่ใช้บ้าง ใช้แค่ไปทำงาน ส่งลูกหลานไปเรียน หรือแค่ขับไปซื้อแกง ละด้วยอายุการใช้งานที่สั้นของไส้กรองอากาศแบบกระดาษ ถึงวิ่งได้ไม่ครบกิโลเมตรที่กำหนด แต่แค่จอดเฉยๆฝุ่นก็เข้าไปเกาะที่ไส้กรองได้ละครับ ทำให้คนที่ใช้รถในกลุ่มนี้เหมาะมากสำหรับไส้กรองอากาศแบบผ้า เพราะด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ต้องเข้าศูนย์ไปเปลี่ยนบ่อยๆ สามารถล้างทำความสะอาดเองได้ ทำให้ไส้กรองแบบผ้าสามารถตอบโจทย์ คนที่ทำงานบริษัท พนักงานเงินเดือน ข้าราชการ หรืออาชีพที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างพอที่จะได้นำรถไปเข้าศูนย์เช็คได้ตลอด และเพื่อนๆหลายคน หรือ คุณผู้หญิงที่โดยส่วนมากไม่ค่อยจะมาสนใจดูแลรักษารถเท่าไหร่นี้ก็ตอบโจทย์กับไส้กรองแบบผ้ามากเข้าไปอีก ด้วยอายุการใช้งานถึง 50,000 กิโลเมตร ไม่ใช่ใช้รวดเดียวถึง 50,000 กิโลเลยนะครับ แน่นอนว่ากว่าจะถึงเราก็ต้องเข้าไปร้านเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็บอกช่างให้เป่ากรองอากาศให้ด้วยก็ได้ครับ

แต่สำหรับเหล่า BIGBIKE  ไส้กรองแบบผ้านี้คือเหมาะที่สุดเพราะราคากรองอากาศแบบกระดาษราคาจะสูงกว่ารถธรรมดามาก  เปลี่ยนบ่อยๆก็สิ้นเปลืองโดยไม่น้อย สู้เจ็บครั้งเดียวแต่จบตลอดการใช้งานเลยจะดีกว่า โดยส่วนมากพอหมดประกันเครื่องของศูนย์ก็จะหันมาเปลี่ยนเป็นไส้กรองแบบผ้ากันหมด เพราะด้วยการใช้งานไม่ว่าจะสายจอด สายทริป สายลุย หรือสายชิว การมีไส้กรองอากาศที่มีอายุการใช้งานนานๆจะทำให้หมดปัญหารถมีปัญหาในระหว่างการเดินทางไกล  เพราะถ้าเกิดกรองตันในระหว่างออกทริปอยู่นี้ ไม่ใช่เรื่องตลกแน่ๆ

            ►และสุดท้ายกับไส้กรองแบบสแตนเลส ต้องเข้าใจก่อนว่าไส้กรองชนิดนี้ได้ผลิตมาให้เหมาะกับรถที่ต้องการเพิ่มกำลัง เพิ่มม้าให้มากขึ้น โดยการขยายรูอากาศให้ใหญ่ขึ้น ทำให้โฟลวอากาศได้ดีขึ้น วัสดุทำมาจากสแตนเลส ทำให้ทนทานทั้งจากการใช้งาน และการดูแลรักษาความสะอาด อายุการใช้งานก็นานมากๆถึง 100,000 กิโล เรียกได้ว่ารถพังแล้วพังอีกแต่ไส้กรองก็ยังกริ๊ป อยู่ แต่ข้อเสียก็คือด้วยรูอากาศที่ใหญ่มากขึ้นทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กหลุดรอดเข้าไปภายในเครื่องยนต์ได้  เพราะงั้นจึงเหมาะสำหรับรถจำพวกแต่งแข่งที่สุด แต่ไม่ใช่ว่ารถทั่วไปจะใส่ไม่ได้นะครับ คือใส่ได้ครับมาไว้ขับออกทริปนี้ก็ดีทำให้รถมีกำลังลุยทางโหดๆหินๆได้สบายมากขึ้น หรือสำหรับสายจอดที่นานๆทีจะได้เอารถออกไปขับเล่นนี้ก็ดูเหมาะสมดีครับกับอายุการใช้งานของเจ้าไส้กรองอากาศแบบสแตนเลสนี้

เป็นไงละครับเพื่อนๆเริ่มเข้าในกับไส้กรองอากาศแล้วใช่ไหมครับ ทางทีมงาน RealTime ก็หวังว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์และความรู้จากScoop เรื่องของไส้กรองอากาศมาเป็นแนวทางในการเลือกซื้อไส้กรองอากาศที่เข้ากับสไตล์การขับขี่ของตัวเพื่อนๆชาวสองล้อเองนะครับ ไว้พบกันใหม่ในScoopหน้านะครับ

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *