• กระทรวง อ.ว. เดินหน้าเปิดตัว “โครงการพัฒนากำลังคนทักษะสูงเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” (EV Ready+) บนแพลตฟอร์ม MHESI Skill เรียนฟรี! พร้อมประกาศนียบัตรรับรองจากกระทรวง

    1 Min Read

    กระทรวง อ.ว. เดินหน้าเปิดตัว “โครงการพัฒนากำลังคนทักษะสูงเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” (EV Ready+) บนแพลตฟอร์ม MHESI Skill เรียนฟรี! พร้อมประกาศนียบัตรรับรองจากกระทรวง

    กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดตัว “โครงการพัฒนากำลังคนทักษะสูงเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” หรือ EV Ready+ อย่างเป็นทางการ มุ่งยกระดับศักยภาพแรงงานไทยให้พร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม EV ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถ เรียนฟรี บนแพลตฟอร์ม MHESI Skill (www.mhesi-skill.org) พร้อมรับ ประกาศนียบัตรรับรอง (e-Certificate) จากกระทรวง อว. เพื่อนำไปใช้ประกอบการสมัครงานหรือยกระดับอาชีพได้อย่างมั่นใจ

    ประเทศไทยในปัจจุบันกำลังเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยแรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ การลงทุนจากผู้ผลิตระดับโลก และความต้องการ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายสำคัญจึงอยู่ที่การเตรียมความพร้อมด้านกำลังคน กระทรวง อว. ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการพัฒนาทุนมนุษย์ จึงริเริ่มโครงการ EV Ready+ เพื่อส่งเสริมให้แรงงานไทยก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมโลก

    “ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน เราจึงต้องเร่งพัฒนากำลังคนที่มีทักษะสูงให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมโลก โครงการ EV Ready+ จึงเกิดขึ้นเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้และฝึกอบรมได้ง่าย สะดวก และไม่มีค่าใช้จ่าย*”
    นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

    โครงการ EV Ready+ นำเสนอหลักสูตรที่ตอบโจทย์ทั้งสายเทคนิค วิศวกรรม และการบริหารจัดการธุรกิจ EV โดยในระยะแรกเปิดสอน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรพื้นฐานเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และ หลักสูตรการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเตรียมเปิดเพิ่มอีก 3 หลักสูตรในเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ หลักสูตรการออกแบบและพัฒนาระบบยานยนต์ไฟฟ้า, หลักสูตรโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และหลักสูตรการจัดการธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้เรียนสามารถต่อยอดไปสู่หลากหลายสายอาชีพในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตนี้

    หลักสูตรทั้งหมดถูกออกแบบในรูปแบบไฮบริด ผสมผสานระหว่างการเรียนรู้ทฤษฎีออนไลน์และการฝึกปฏิบัติจริง โดยเรียนภาคทฤษฎีผ่านเว็บไซต์ mhesi-skill.org และฝึกภาคปฏิบัติ ณ มหาวิทยาลัยที่เป็นพันธมิตรของโครงการ เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง พร้อมแผนขยายศูนย์ฝึกอบรมไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

    https://youtu.be/t74dXhN2SA

    การเข้าร่วมโครงการนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มทักษะและความสามารถให้แก่ผู้เรียน แต่ยังเปิดประตูไปสู่อาชีพในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพสูง พร้อมรองรับความต้องการแรงงานในอนาคตที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเรียนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป สิทธิ์เรียนฟรีมีจำนวนจำกัด

    สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.mhesi-skill.org
    หรือติดตามข่าวสารผ่านช่องทาง
    LINE Official Account : @edalearning.ai
    Facebook / TikTok: edalearning.ai

    โอกาสของอนาคต เริ่มต้นได้ที่นี่กับโครงการ EV Ready+ โดยกระทรวง อว.


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พร้อมยกขบวนร่วมสร้างสีสันและพลังแห่งความเท่าเทียม ในขบวน LOVE PRIDE PARADE, BANGKOK 2025 วันที่ 29 มิถุนายนนี้

    1 Min Read

    รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พร้อมยกขบวนร่วมสร้างสีสันและพลังแห่งความเท่าเทียม ในขบวน LOVE PRIDE PARADE, BANGKOK 2025 วันที่ 29 มิถุนายนนี้

    ไทยฮอนด้า เตรียมยกขบวนรถจักรยานยนต์เข้าร่วมงาน “LOVE PRIDE PARADE, BANGKOK 2025” พาเหรดไพรด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทย โดยเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยมีคุณนคร วิมลจิตรสอาด ผู้จัดการทั่วไป สายงานการสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ณ SPHERE GALLERY 1 ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

    สำหรับขบวนพาเหรด LOVE PRIDE ♡ PARADE ในปีนี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 ภายใต้แนวคิด “Spectrum Forward: Power of Creation” นำเสนอความหลากหลายอย่างตระการตาผ่านขบวนพาเหรดสีรุ้งที่ยาวที่สุดในเอเชีย พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ “LGBTQIA+ Friendly Destination” และผลักดันกรุงเทพฯ สู่การเป็นเจ้าภาพ WORLD PRIDE 2030  ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าพร้อมเนรมิตขบวนในคอนเซปต์ธีม Pride เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Month) โดยขบวนจะเคลื่อนจากสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ไปตามถนนพระราม 1 ผ่านย่านปทุมวัน สยาม ราชประสงค์ เพลินจิต อโศก สุขุมวิท ไปสิ้นสุดที่อุทยานเบญจสิริ

     

    ติดตามข่าวสารจากไทยฮอนด้าเพิ่มเติมได้ที่

    Facebook: fb.com/hondamotorcyclethailand

    IG: www.instagram.com/hondamotorcyclethailand

    Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha

    Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

     

    #LOVEPRIDEPARADEBKK2025

    #PRIDEMONTH
    #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • แถลงใหญ่! ศึกซูเปอร์คาร์ระดับพรีเมียม “GT World Challenge Asia 2025”สนามประเทศไทย ตื่นตากับรถแข่งในฝัน-ทีมแข่งระดับโลก

    1 Min Read

    แถลงใหญ่! ศึกซูเปอร์คาร์ระดับพรีเมียม “GT World Challenge Asia 2025”สนามประเทศไทย ตื่นตากับรถแข่งในฝัน-ทีมแข่งระดับโลก

    ประเทศไทยผงาดเจ้าภาพอีกครั้ง กับศึกซูเปอร์คาร์สุดหรู “GT World Challenge Asia 2025” หนึ่งในซีรีส์การแข่งขันรายการยักษ์ของโลกที่จัดขึ้นใน 4 ทวีป ได้แก่ ทวีปอเมริกา,เอเชีย, ออสเตรเลีย และยุโรป ฝ่ายจัดเผยความสำคัญที่ “สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์“ ได้รับเลือกบนปฏิทินการแข่งขัน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ พร้อมกระหึ่มแข่งขันซัพพอร์ตเรซ รายการ Honda One Make Race 2025 โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตเต็มระบบให้กับคอความเร็วอย่างแท้จริง

    วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ ราชพฤกษ์คลับ  กรุงเทพฯ :  บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด ผู้บริหารสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โปรโมเตอร์มอเตอร์สปอร์ตเบอร์หนึ่งของไทย แถลงข่าวการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ GT World Challenge Asia 2025” (จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ) สนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายในงานยังได้มีการแถลงข่าวจัดการแข่งขันซัพพอร์ตเรซ รายการ Honda One Make Race 2025 โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมระเบิดศึกอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกัน

    นายเบนจามิน ฟรานาสโซวิซิ ผู้จัดการทั่วไป จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย พาวเวอร์ บาย เอ ดับเบิ้ลยู เอส เปิดเผยว่า GT World เป็นซีรีส์ซูเปอร์คาร์ทางเรียบระดับโลกที่มีชื่อเสียงและเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดรายการหนึ่ง ซึ่งฤดูกาล 2025 จะเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ GT World Challenge ที่ขับเคลื่อนโดย AWS โดยมีรถ GT3 มากกว่า 130 คันที่พร้อมลงแข่งขันในอเมริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และยุโรป

    “ส่วน GT World Challenge Asia ฤดูกาล 2025 นี้ ถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุด ด้วยรถแข่งซูเปอร์คาร์ GT3 มากถึง 33 คัน จาก 8 ผู้ผลิตชั้นนำ แฟนความเร็วจะได้พบกับรถซูเปอร์คาร์ชั้นนำ อาทิ Mercedes-AMG, Ferrari 296, Porsche 911, Porsche 992, Lamborghini Huracan, Audi R8 LMS, BMW M4, Chevrolet Corvette Z06, Nissan GT-R NISMO ฯลฯ และยังเป็นการรวมตัวของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ทีมแข่งชั้นนำ นักแข่งฝีมือดีจากทั่วโลกหลากหลายทวีปมากกว่า 60 คน สนามแข่งขันครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และไทยก็เป็นหนึ่งในสนามไฮไลต์ของฤดูกาล ด้วยมาตรฐานของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล”

    นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า ขณะนี้สนามมีความพร้อม 100% ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดจาก FIA ที่สามารถจัดการแข่งขันรถสูตร 1 หรือ Formula 1 ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย,เจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ, ระบบควบคุมการแข่งขัน, อุปกรณ์สนับสนุน ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักแข่ง-ทีมงาน, สื่อมวลชน และแฟนๆ ที่จะเดินทางมาชมที่สนาม ไม่ต่างจากการเป็นเจ้าภาพ MotoGP หรือการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ เพื่อให้แฟนๆได้สัมผัสกับความเร็ว เสียงเครื่องยนต์ของรถ GT3 และสมรรถนะของรถแข่งเหล่านี้อย่างใกล้ชิดบนแทร็กระดับเวิลด์คลาส รวมถึงกิจกรรม PIT Walk พันล้านที่จะได้สัมผัสรถซูเปอร์คาร์ในฝันแบบใกล้ชิด เหล่านี้ถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ และหาได้ยากในประเทศไทย

    นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง กล่าวว่า นอกจากศึกสองล้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง MotoGP แล้ว GT World ก็ถือเป็น International series ที่ยิ่งใหญ่ในฝั่งสี่ล้อเช่นกัน น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง เล็งเห็นว่ามอเตอร์สปอร์ตคือแพลตฟอร์มที่ทรงพลัง และการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพรายการนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพของประเทศ แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวผ่านกีฬาระดับพรีเมียม ทั้งยังสนับสนุนการเติบโตให้กับอุตสาหกรรม มอเตอร์สปอร์ตและยานยนต์ อีกด้วย

     

    “น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” ได้เตรียมกิจกรรมพิเศษไว้ให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตได้ลุ้นรางวัลใหญ่ในแคมเปญChang’s Friend Pass” แจกใหญ่และจัดหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยการแจกบัตร VIP โค้ง 12 สำหรับชม MotoGP 2026 พร้อม Paddock Pass + Official Guide Tour และบัตร Pit Lane Walk 15 รางวัล รางวัลละ 2 ใบ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท สำหรับผู้ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน GT World Challenge Asia 2025” ถ่ายรูปคู่กับน้ำแร่ธรรมชาติตราช้างและบัตรเข้าชมการแข่งขัน โพสต์ลงเฟซบุ๊คของตัวเอง เขียนบรรยายความรู้สึก พร้อมติด #Chang’sFriendPass และ Tag  ไปยังเพจ Chang Circuit Buriram โดยเปิดเป็นสาธารณะ พร้อมทั้ง Capture ภาพที่โพสต์ลง เฟสบุ๊คส่วนตัวส่งมาที่ Inbox เพจ Chang Circuit Buriram

     

    ภายในงานยังได้มีการแถลงการจัดการแข่งขันซัพพอร์ตเรซ รายการ Honda One Make Race 2025” โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมระเบิดศึกอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกัน โดยมีนักแข่งมากฝีมือร่วมพูดคุยบนเวที นำโดย “วี” ธนาศิวณัฐ พงสินณัช-อาชัญ แชมป์ประจำปี “ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก วันเมคเรซ 2024″, “เต้ย” อัฐพล แก้วอาษา และ“กอล์ฟ” ประพจน์ ชื่นวิจิตร

     

    นางศิริพร ศรีสุข ผู้จัดการส่วนงานการตลาดและสื่อสารแบรนด์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้าได้ร่วมเป็น Circuit Partner มาอย่างยาวนาน และพิเศษปีนี้ ฮอนด้าในฐานะผู้จัดการแข่งขัน “Honda One Make Race” ได้ร่วมเป็นซัพพอร์ตเรซ (Support Race) ในการแข่งขัน “GT World Challenge Asia” เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ในสนามแรกของปี ฮอนด้ายังได้เชิญชวนลูกค้าเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าผู้โชคดีมาร่วมทริป “Honda One Make Race 2025 Exclusive Trip” ซึ่งมีกิจกรรมพิเศษมากมาย ทั้งการเรียนรู้การขับขี่จากมืออาชีพ Driving Clinic และพิเศษสุด ๆ กับ Track experience ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำรถยนต์ฮอนด้าคู่ใจลงสนามจริงขับขี่บนสนามแข่งระดับโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย

     

    ทั้งนี้ GT World Challenge Asia 2025 ทำการแข่งขันทั้งสิ้น 6 สนาม ได้แก่ สนาม 1 วันที่ 10-13 เม.ย. ที่ สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย, สนาม 2 วันที่ 9-11 พ.ค. สนามมันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย, สนามที่ 3 วันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จากนั้นอีก 2 สนามดวลกันในประเทศญี่ปุ่น โดยสนาม 4 วันที่ 11-13 ก.ค. ที่ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์, สนาม 5 วันที่ 29-31 ส.ค. ที่โอคายาม่า, สนาม 6 วันที่ 17-19 ต.ค.ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน

     

    จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่  Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ allticket.com บัตร VIP 1 วัน ราคา 2,000 บาท  2 วัน ราคา 3,000 บาท และบัตร GRANDSTAND 1 วัน ราคา 200 บาท  2 วัน ราคา 300 บาท

     

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Chang Circuit Buriram / GT World Challenge Asia


    No Comment
  • ยามาฮ่าชวนชาวชลบุรีมาร่วมสัมผัสกับ YECVT เทคโนโลยีใหม่ในรถออโตเมติกกับ All New YAMAHA NMAX Tech MAX 24 -25 พ.ค. นี้ ที่ตลาดนินจา จ.ชลบุรี

    1 Min Read

    ยามาฮ่าชวนชาวชลบุรีมาร่วมสัมผัสกับ YECVT เทคโนโลยีใหม่ในรถออโตเมติกกับ All New YAMAHA NMAX Tech MAX 24 -25 พ.ค. นี้ ที่ตลาดนินจา จ.ชลบุรี

    บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอบรับกระแสแรงไม่หยุดของเทคโนโลยีใหม่ เชิญชวนชาวชลบุรีมาร่วมทดสอบขับขี่ All New YAMAHA NMAX Tech MAX และ All New YAMAHA NMAX ฟรีตลอดงาน

    กิจกรรมสุดมันส์ พร้อมของรางวัลตลอด 2 วันเต็ม จัดเต็มโปรโมชันเด็ด บูสต์สุดคุ้ม 2 ต่อ เมื่อจอง All New YAMAHA NMAX ภายในงาน

    บูสต์ความคุ้มที่ 1 จองรถภายในงานรับทันที ของพรีเมียม มูลค่า 500 บาท*

    บูสต์ความคุ้มที่ 2 รับ GIFT VOUCHER มูลค่า 2,000 บาท พร้อมของแถมมูลค่า 1,500 บาท*

    *โปรโมชันเฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น

    *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

    พร้อมคาราวานรถแต่ง ALL NEW YAMAHA NMAX ที่จะมาบูสต์แรงบันดาลใจให้กับสาย CUSTOM จากสำนักแต่ง และแบรนด์ชั้นนำ ที่ขนโปรโมชัน และของรางวัลมาให้คุณถึงที่ พร้อมกับฟรีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง!! สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่น *จำนวนจำกัดเพียง 100 คันแรกเท่านั้น

    มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ ความมันส์ที่เปลี่ยนโลก กับ All New YAMAHA NMAX ในวันที่ 24 – 25 พฤษภาคม 2568 ที่ตลาดนินจา อมตะ จ.ชลบุรี

    วิธีการลงทะเบียนทดสอบขับขี่

    1. กดที่นี่เพื่อลงทะเบียน https://line.me/R/oaMessage/@yamahasociety/?กดส่งเพื่อทดสอบขับขี่ หรือแสกนคิวอาร์โค้ท
    2. ข้อความจะแสดงในช่องแชท “กดส่งเพื่อทดสอบขับขี่” จากนั้นกดส่งข้อความ
    3. หน้าลงทะเบียนจะแสดงขึ้นและลงทะเบียนได้เลย

    #ALLNEWNMAXTHEMAXPRIDEBOOSTER

    #NMAXTESTRIDING #NMAX2025

    #มันส์เปลี่ยนโลก #YECVT #Yamahanews #MTC #MOTOCROSSMAG


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • ฮอนด้า ผนึกกำลังดีลเลอร์ทั่วประเทศ ยกระดับความเป็นเลิศสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

    1 Min Read

    ฮอนด้า ผนึกกำลังดีลเลอร์ทั่วประเทศ ยกระดับความเป็นเลิศสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งไลน์อัป xEV พร้อมลุยปั้นแบรนด์
    – ชูแนวคิดส่งมอบประสบการณ์ดีเยี่ยมในทุกทัชพอยต์ (Touchpoint) ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง –

    บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้แนวคิด “Redefining Excellence with Reliability and Trust – ยกระดับความเป็นเลิศ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน” แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญ ร่วมกับผู้จำหน่าย ครอบคลุม 3 ทิศทางหลัก ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ภายใต้แนวคิดสำคัญในการเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-centric approach) ด้วยการผนึกความร่วมมือกับผู้จำหน่าย เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทย พร้อมยกระดับสู่ความเป็นเลิศแห่งยนตรกรรมอย่างยั่งยืน

    นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้จำหน่ายทุกท่านสำหรับความร่วมมือและการสนับสนุนตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ฮอนด้า สามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญได้ สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกทัชพอยต์ โดยมีผู้จำหน่ายและบุคลากรของผู้จำหน่ายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของ
    แบรนด์ที่จะส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมไปสู่ลูกค้า เพื่อมอบคุณค่าที่เข้าถึงและผูกพันกับลูกค้าของเราอย่างยั่งยืนต่อไป”

    ภายในงาน ฮอนด้า ได้ถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญกับเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า โดยผสานการต่อยอดพื้นฐานจุดแข็งปัจจุบันของฮอนด้า ทั้งด้านความเชื่อมั่นในแบรนด์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลน์อัป e:HEV ที่โดดเด่น และด้านความ
    พึงพอใจของลูกค้า สู่ทิศทางการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ดังนี้

    1.ด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย

    • เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกเส้นทาง นำโดยไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV ซึ่งได้รับการยอมรับและพิสูจน์อย่างกว้างขวางถึงความโดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะทรงพลัง อัตราเร่งทันใจ การขับขี่ที่นุ่มนวล และอัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม
    • โดยฮอนด้ามีแผนขยายไลน์อัป e:HEV ให้หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ให้ได้สัมผัสกับรถยนต์ไฮบริดจากฮอนด้าอย่างเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น
    • ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ของฮอนด้า ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยปัจจุบัน ฮอนด้า มีความพร้อมในการให้บริการและดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ทั้งด้านศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน อะไหล่ และช่างผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ สะท้อนรากฐานความพร้อมที่มั่นคงในการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

    2.ด้านการบริการ

    • ตั้งเป้าส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศเน้นลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญแห่งการบริการ โดยมุ่งดูแลลูกค้าปัจจุบันเพื่อความพึงพอใจสูงสุด พร้อมสร้างความรู้สึกภูมิใจในการเลือกใช้รถยนต์ฮอนด้า ด้วยการส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าตลอดการเป็นเจ้าของในทุกทัชพอยต์ อาทิ การบริการหลังการขายที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านประสบการณ์ในรูปแบบดิจิทัล การนำเสนอกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้เข้าร่วมตลอดปี รวมทั้งข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ
    • มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจในระยะยาว ด้วยจุดแข็งด้านเครือข่ายผู้จำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 222 แห่ง ที่พร้อมส่งมอบความประทับใจกับบริการหลังการขายภายใต้มาตรฐานเดียวกันโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าได้รับการบริการอย่างทั่วถึงและดีเยี่ยม และรู้สึกอุ่นใจที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรถยนต์ฮอนด้า (Honda family)

    3.ด้านการสร้างแบรนด์

    • ในปีนี้ ฮอนด้า ได้เริ่มสื่อสารแบรนด์ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ขับเคลื่อนชีวิตไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” ที่ผสานการสะท้อนความมีรสนิยมและมีชีวิตชีวา เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่ารถยนต์ฮอนด้า เป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้ พร้อมเคียงข้างและขับเคลื่อนแรง
      บันดาลใจ เพื่อส่งมอบความสุขในทุกการเดินทางและทุกช่วงเวลาของชีวิต
    • โดยจะโฟกัสการเสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ซึ่งการสื่อสารแบรนด์ดังกล่าว จะได้รับการถ่ายทอดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้จำหน่ายจะร่วมเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงและส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจไปยังลูกค้า ผ่านกิจกรรมสุด
      เอกซ์คลูซีฟตลอดปี

    นอกจากการถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมาย ภายในงานยังได้มีพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่
    ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของฮอนด้า และมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ครอบคลุมทั้งรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี รวมถึงรางวัลด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านยอดขาย ด้านส่วนแบ่งการตลาด ด้านการบริการหลังการขาย และอื่น ๆ รวม 82 รางวัล

    การจัดประชุมผู้จำหน่ายในครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าไปอีกขั้น และสร้างความประทับใจตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า พร้อมเติบโตเคียงข้างคนไทยและสานต่อพันธกิจ
    ในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Primus Group นำลูกค้าร่วมทริปรักษ์โลก ในงาน Eco-Exploration Trip เชียงใหม่-แพร่

    1 Min Read

    Primus Group นำลูกค้าร่วมทริปรักษ์โลก ในงาน EcoExploration Trip เชียงใหม่แพร่

     

    เมื่อเร็วๆ นี้ “จิระพล รุจิวิพัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป ร่วมกับ 2 พันธมิตร นำโดย “อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ “สุโรจน์ แสงสนิท” นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) จัดโครงการ EcoExploration Trip” ครั้งที่ 3 เส้นทาง จ.เชียงใหม่ – จ.แพร่ เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างการตระหนักรู้ด้านประโยชน์ของเทคโนโลยียานยนต์สะอาด ที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งในงานนี้ มีลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าให้ความสนใจและเข้าร่วมกว่า 30 คัน

    วันแรก เริ่มพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์ไฟฟ้า ที่ “ช้างทอง เฮอริเทจ ปาร์ค” พิพิธภัณฑ์ต้นไม้โบราณแห่งแรกในเชียงใหม่ ที่รวมรวมพรรณไม้ดึกดำบรรพ์อายุกว่าร้อยปี ด้วยการกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการของผู้บริหาร ไพรม์มัส กรุ๊ป, ททท. และ EVAT พร้อมการชี้แจงรายละเอียดเส้นทางและกิจกรรมโดยรวมของทีมงาน ก่อนตีธงปล่อยคาราวานมุ่งหน้าสู่จังหวัดลำปาง แวะทานอาหารกลางวันที่ “ร้านแกงหอม” ร้านอาหารไทย-เหนือต้นตำรับสไตล์ฟิวชั่นในสวน ใจกลางเมืองลำปาง

    ต่อด้วยการเดินทางสู่วัดพระธาตุช่อแฮ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ สักการะ “พระธาตุช่อแฮ” ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ และพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ที่ชาวล้านนาเชื่อว่า เป็นพระธาตุของผู้ที่เกิดปีขาล จะต้องมากราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล ภายในวัด ยังมี หลวงพ่อช่อแฮ, พระพุทธโลกนารถบพิตร, ธรรมาสน์โบราณ, กู่อัฐิครูบาศรีวิชัย แผ่นศิลาจารึกและภาพจิตรกรรมฝาหนังที่สวยงาม

    จากนั้นเดินทางต่อไปยัง “บ้านมัดใจ” บ้านเรือนไม้โอบล้อมด้วยพันธุ์ต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ใช้สอนย้อมฮ่อมและเป็นคาเฟ่สไตล์โฮมเมด โดยที่นี่เราได้ทำกิจกรรม Workshop ผ้ามัดย้อมฮ่อม หรือผ้ามัดย้อมคราว สไตล์เมืองแพร่  โดยรับฟังการอธิบายวิธีสร้างลายบนผ้าเบื้องต้น ด้วยการมัด หนีบ ด้วยหนังยาง และนำไปจุ่มในม่อฮ่อนสีน้ำเงิน โดยเลือกสีอ่อน เข้มได้ ตามระยะเวลาในการจุ่มผ้า แม้เป็นกิจกรรมช่วงสั้นๆ แต่สร้างความสนุกสนานและตื่นเต้นกับการเห็นลวดลายบนผ้าในสไตล์ตัวเองที่มีผืนเดียวในโลก

    ต่อด้วยการเดินทางสู่ที่พัก รร.คินโนเทล โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมืองแพร่ เพื่อเช็คอินน์และพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นเข้าสู่โหมดงานเลี้ยงสรรค์ เริ่มด้วยการรับฟังการพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า จากผู้บริหารของภาครัฐและเอกชน พร้อมเพลินเพลินกับอาหาร และเสียงเพลงจากมินิคอนเสิร์ตของ “บิว” เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์

    วันรุ่งขึ้น หลังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย นัดรวมพลอีกครั้ง เพื่อเดินทางสู่ “บ้านวงศ์บุรี” หรือ “คุ้มวงศ์บุรี”

    เรือนไม้สักทอง ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ทรงยุโรปประยุกต์ สีชมพูอ่อน อายุกว่า 100 ปี สร้างขึ้นโดยดำริของเจ้าแม่บัวถา ชายาองค์แรกของเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของเมืองแพร่ เพื่อเป็นเรือนหอของหลวงพงษ์พิบูลย์ ผู้สืบเชื้อสายอดีตเจ้าหลวงนครแพร่ กับเจ้าสุนันตา วงศ์บุรี ธิดาพระยาบุรีรัตน์ โดยช่างชาวจีนกวางตุ้ง ที่ใช้เทคนิคการสร้างฐานอาคาร ด้วยวิธีเรียงท่อนไม้ซุงขนาดใหญ่ก่อนก่ออิฐเทปูนทับ และการเข้าลิ้นสลักไม้ ไม่ตอกตะปู เอกลักษณ์การสร้างเรือนแบบช่างไทยโบราณ มุงหลังคาด้วยไม้แป้นเกล็ด ภายในประดับตกแต่ง ด้วยลวดลายฉลุไม้ ที่เรียกว่า “ขนมปังขิง” เป็นลายพรรณพฤกษาและเครือเถาว์ จากสภาพที่สมบูรณ์ “คุ้มวงศ์บุรี” ทำให้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

    พร้อมกันนี้ ได้ร่วมทานอาหารในแบบ “ขันโตก” ของชาวเหนือ ที่จัดเต็มกับเมนูอาหารที่หลากหลาย ควบคู่กับการรับฟังเสียงเพลงขับกล่อมในสไตล์ล้านนาอย่างแท้จริง จากนั้น ผู้บริหาร ไพรม์มัส กรุ๊ป, , ททท. และ EVAT ขึ้นกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมกิจกรรม และถ่ายภาพหมู่กันอีกครั้ง ก่อนจบทริป Eco-Exploration Trip ครั้งที่ 3 อย่างเป็นทางการ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและสนุกกับการท่องเที่ยวในแบบรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยยานยนต์


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เลนโซ่เปิดตัวล้อแม็กรุ่นใหม่ “JAGER ASTRA” ชูจุดเด่น Duo Look Design cap เปลี่ยนลุคได้ในล้อเดียว พร้อม 3 อินฟลูเอนเซอร์ร่วมทดสอบจริง

    1 Min Read

    เลนโซ่เปิดตัวล้อแม็กรุ่นใหม่ “JAGER ASTRA” ชูจุดเด่น Duo Look Design cap เปลี่ยนลุคได้ในล้อเดียว พร้อม 3 อินฟลูเอนเซอร์ร่วมทดสอบจริง

    บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด ผู้ผลิตล้อแม็กชั้นนำของประเทศไทยและระดับโลก จัดงานเปิดตัวล้อแม็กรุ่นใหม่ล่าสุด LENSO JAGER ASTRA ณ โรงงานผลิตหลักในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกร จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเน้นย้ำจุดยืนของแบรนด์ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมล้อแม็กที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่

    พิชชา วีรพร  Senior Marketing Manager บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด กล่าวว่า ล้อรุ่นใหม่ JAGER ASTRA ได้รับแรงบันดาลใจจากดวงดาว ถ่ายทอดผ่านเส้นสายดีไซน์เฉียบคม และโครงสร้างที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุด LiteTECH+ จากเลนโซ่ เริ่มด้วยการออกแบบและปรับแต่งล้ออย่างละเอียด (design & weight optimization) จนลงตัวผ่าน โปรแกรม ไฟไนท์ อิลิเมนท์ จากนั้นจึงนำมาผลิตด้วยเทคนิคโฟลว์ฟอร์มิ่ง โดยใช้กระบวนการรีดที่อุณหภูมิต่ำ (Cold Form) ช่วยให้โครงสร้างของอนุภาคโลหะมีทิศทางการเรียงตัวที่เป็นระเบียบ ส่งผลให้ล้อมีความเบา แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานเป็นพิเศษ

    ล้อ JAGER ASTRA ได้รับการรับรองการผลิตมาตรฐานระดับโลก JWL+ จึงมีความมั่นใจในคุณภาพ โดยการรับประกันโครงสร้างล้อ  10 ปี และสีล้อ 2 ปี

    จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้คือฟังก์ชัน “Duo Look Design cap” ซึ่งเป็นระบบฝาแค็ปที่สามารถเปลี่ยนได้เองง่าย ๆ เพียงเปิดหรือปิด เพื่อสลับสไตล์ของล้อระหว่างแนวหรูหรา (Luxury) และแนวสปอร์ต (Sport) ได้ตามต้องการ ถือเป็นนวัตกรรมที่เพิ่มความยืดหยุ่นในการแต่งรถให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ ทางเลนโซ่ยังเชิญอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในวงการยานยนต์ 3 ราย ได้แก่ “โน๊ต” จาก JS Racing ผู้เชี่ยวชาญด้านรถสปอร์ตหรูสมรรถนะสูง “ดรีม” จาก RaceSpec Wheel ที่ปรึกษาด้านล้อแม็กและฟิตเมนต์ และ“ส้ม” จาก AC Power ยูทูบเบอร์สายแต่งรถผู้มีประสบการณ์สูง เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนแนวโน้มการแต่งรถในปี 2025 พร้อมทดลองเปลี่ยน Duo Look Design cap ด้วยตนเอง และให้ความเห็นในเชิงเทคนิคเกี่ยวกับสมรรถนะและดีไซน์ของล้อ JAGER ASTRA ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในแง่บวก โดยเฉพาะเรื่องความง่ายในการปรับเปลี่ยนและน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษ

    รายละเอียดล้อ JAGER ASTRA

    • ขนาด: 18”x9.0” | PCD: 6×139.7 | Offset: ET+15
    • ขนาด: 20”x9.0” | PCD: 6×139.7 | Offset: ET+15
    • รับประกันโครงสร้าง: 10 ปี
    • รับประกันสี: 2 ปี

     

    มาพร้อมกับ 6 สีให้เลือกตามสไตล์การแต่งรถ สีดำเงา, ดำด้าน, น้ำตาลไหม้, Hyper Black, Hyper Dark และ Bright Gold

    งานเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเลนโซ่ในการพัฒนานวัตกรรมล้อแม็กที่ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ สมรรถนะ และความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

    หากสนใจสั่งซื้อ JAGER ASTRA สามารถติดต่อได้ที่ร้านตัวแทนทั่วประเทศไทย หรือ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ หาตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้ ทาง Facebook Page : JAGER Wheels 

    #JAGERASTRA #LITETECHPLUS #DuoLookDesignCap


    No Comment
  • เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อยแคมเปญล่าสุดจาก MB Tires กับข้อเสนอ “เปลี่ยนยางฯ 4 เส้น จ่ายเพียง 3 เส้น” พร้อมจองสิทธิ์ได้แล้ววันนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกหลายรายการ

    1 Min Read

    เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปล่อยแคมเปญล่าสุดจาก MB Tires กับข้อเสนอ “เปลี่ยนยางฯ 4 เส้น จ่ายเพียง 3 เส้น” พร้อมจองสิทธิ์ได้แล้ววันนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกหลายรายการ

    เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เอาใจลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขับขี่ในทุกเส้นทางตลอดช่วงหน้าฝนนี้ นำเสนอแคมเปญบริการหลังการขายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม MB Tires กับข้อเสนอสุดพิเศษ “เปลี่ยนยางฯ 4 เส้น จ่ายเพียง 3 เส้น*สำหรับเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่น ทุกช่วงอายุรถยนต์ เมื่อเข้ารับบริการเปลี่ยนยางรถยนต์พร้อมกัน 4 เส้น
    ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ที่เข้าร่วมรายการสำหรับแคมเปญดังกล่าว จำนวน 38 แห่ง โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม MB Tires เป็นยางรถยนต์คุณภาพสูงที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมพัฒนากับผู้ผลิตยางระดับโลกหลากหลายแบรนด์ เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานในทุกรูปแบบการขับขี่สำหรับรถยนต์
    ทุกเซกเมนต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่ต้องการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นพร้อมกับ ความปลอดภัยขั้นสูงสุด

    ลูกค้าที่สนใจข้อเสนอพิเศษจากแคมเปญ MB Tires สามารถจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2568
    ถึง 30 พฤษภาคม 2568 และเข้ารับบริการเปลี่ยนยางฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568 พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้

    • ฟรี! ค่าแรงเปลี่ยนยาง 4 เส้น*
    • ฟรี! ชุดของขวัญพิเศษ MB Tires Gift set* (มูลค่า 3,146 บาท)
    • ฟรี! ของขวัญจากผู้ผลิตฯ ยาง* (ยี่ห้อ Pirelli, Continental, Yokohama) สินค้ามีจำนวนจำกัด
    • ฟรี! บัตรกำนัล มูลค่า 1,000 บาท* (สำหรับลูกค้าจองบริการเปลี่ยนยางล่วงหน้า)
    • ฟรี! บริการสลับยาง 1 ครั้ง*
    • การรับประกันยาง บาด บวม แตก ตำ 1 ปี* มีเฉพาะยี่ห้อที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้เท่านั้นและเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ผลิตฯ ยางรถยนต์แต่ละราย
    • แบ่งชำระ 0% 10 เดือน* เมื่อมียอดค่าใช้จ่าย 30,000 บาทขึ้นไป ผ่านบัตรเครดิตยูโอบีเมอร์เซเดส

    นัดหมายล่วงหน้าเพื่อจองสิทธิ์และเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้าร่วมรายการ คลิก https://mb4.me/OAB_2025 หรือ ติดต่อศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้าร่วมรายการใกล้บ้านคุณ

    *เงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติม 

    • สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์เปลี่ยนยางรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 4 เส้น เฉพาะยี่ห้อ Michelin, Pirelli, Continental, Goodyear, Bridgestone, Yokohama ที่ศูนย์
      บริการฯ ที่เข้าร่วมโปรแกรม MB Tires ตั้งแต่ 20 พฤษภาคม 2568 – 30 พฤษภาคม 2568 และชำระค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลาตั้งแต่ 20 พฤษภาคม 2568 – 31 สิงหาคม 2568
    • ลูกค้าสามารถจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม – 30 พฤษภาคม 2568 (ศูนย์บริการยางฯ 38 แห่งทั่วประเทศ)
    • สามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์บริการยางฯ ที่จองสิทธิ์ไว้เท่านั้น
    • ยางที่แถมจะเป็นยางรุ่นและขนาดเดียวกันกับยางที่ลูกค้าชำระค่าใช้จ่าย และ/หรือยางที่ราคาขายแนะนำถูกที่สุด
    • การสนับสนุน 1 สิทธิ์ สามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งต่อหมายเลขตัวถังเท่านั้น
    • สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้
    • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด กรณีมีข้อโต้แย้ง การตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด
    • โปรดตรวจสอบรายละเอียดแคมเปญได้ ณ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ

    สอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://mb4.me/TH_CSSpecialOffers หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าฯ โทร. 1250 ทั้งนี้ เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด

    #MercedesBenz #MercedesBenzThailand #MBThCS


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการสาขาแรกในประเทศไทย

    1 Min Read

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการสาขาแรกในประเทศไทย

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการแห่งแรกในประเทศไทย บริเวณพื้นที่ย่านบางบัวทอง ซึ่งจะบริหารงานโดย บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด เพื่อขยายความสามารถในการให้บริการให้มีความครอบคลุม และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพการบริการและการซ่อมบำรุงหลังการขายเพื่อเสริมความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในพื้นที่ บางบัวทองปากเกร็ด, นนทบุรี และ บางใหญ่ โดยศูนย์บริการแห่งใหม่นี้คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้ในไตรมาสที่สามของปี

    คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอันมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการยกระดับการบริการเพื่อสร้างความพึ่งพอใจอันสูงสุดแก่ลูกค้าเป็นเรื่องที่วอลโว่ คาร์ให้ความสำคัญเสมอมา  การเปิดศูนย์บริการแห่งแรกในประเทศไทยคือการสานต่อความมุ่งมั่นดังกล่าว เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของรถวอลโว่ให้แก่ลูกค้าผ่านการบริการที่รวดเร็ว สะดวกในการเข้าถึงเนื่องจากศูนย์บริการมีพื้นที่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์บริการแห่งนี้จะเป็นศูนย์นำร่อง และเราได้มีการวางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ”

    ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นโดยลูกค้าสามารถนำรถเข้าไปรับบริการบำรุงรักษาและงานซ่อมทั่วไปจากช่างผู้ชำนาญการ ซึ่งผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่มีมาตรฐานจากวอลโว่ โดยศูนย์บริการสาขาบางบัวทองนี้ ให้บริการบนพื้นที่ขนาด 3,200 ตารางเมตร ซึ่งนอกเหนือจากการบำรุงรักษาและงานซ่อมแล้ว ศูนย์บริการดังกล่าวยังมีพื้นที่รับรองลูกค้า และพื้นที่จำหน่าย รถผู้บริหารและรถออกศูนย์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของวอลโว่ คาร์ – Volvo Selekt certified used cars โดยหลังจากเปิดบริการคาดว่าจะรองรับการให้บริการลูกค้าได้มากถึง 130 – 150 คันต่อเดือน

    ศูนย์บริการ สาขา บางบัวทอง โดย  บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต จำกัด ตั้งอยู่ที่ 19/11  หมู่5  ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ที่

    Websitewww.volvocars.com/th
    Facebookhttps://www.facebook.com/volvocarsth
    Youtubehttps://www.youtube.com/user/VolvoCarsThailand
    LINEhttps://page.line.me/002olnns?oat_content=url&openQrModal=true

    เยี่ยมชม Volvo Studio ICONSIAM ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม และ เยี่ยมชม Volvo Studio EmSphere ได้ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่ สำหรับสอบถามข้อมูลทั่วไป กรุณาโทร 02-544-0446
    สำหรับลูกค้าวอลโว่ปัจจุบันสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าได้ที่ https://bit.ly/459u6HD


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • GWM ชูคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซล ผ่านการวิจัยและพัฒนากว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้งานเกือบ 2 ล้านคนทั่วโลก

    1 Min Read

    GWM ชูคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซล ผ่านการวิจัยและพัฒนากว่า 30 ปี การันตีด้วยผู้ใช้งานเกือบ 2 ล้านคนทั่วโลก

    GWM ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” มุ่งหน้าขับเคลื่อนทั้งตลาดในประเทศไทยและในระดับโลก ด้วยความสำเร็จในความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นขุมพลังที่ GWM ได้วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 30 ปี โดยเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของความสำเร็จของแบรนด์ที่ถือกำเนิดในประเทศจีน สู่การได้รับการยอมรับจากนานาชาติถึงคุณภาพ สมรรถนะ และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์หลากหลายรุ่นของ GWM การันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ 2 ล้านคน ใน 170 ประเทศและทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัสเซีย รวมถึงในประเทศไทยที่มีการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากผู้บริโภคคชาวไทย ซึ่งเป็นอีกบทพิสูจน์คุณภาพของเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ในเวทีระดับโลก ที่พร้อมจะยกระดับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเพื่อตอบโจทย์การเดินทางในทุกรูปแบบ

    ในฐานะผู้นำตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีออฟโรดจากจีน GWM ที่เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ปี 2527 และก้าวเข้าสู่วงการรถกระบะอย่างเต็มตัวในปี 2539 ด้วยการเปิดตัวรุ่น “Deer” ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ทำให้ GWM ครองแชมป์ยอดขายรถกระบะอันดับ 1 ในประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนขยายสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2540 ความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งนำมาสู่การเปิดตัว “GWM POER” ในปี 2562 รถกระบะยุคใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายถล่มทลาย โดยเป็นรถกระบะเรือธงที่ครองความนิยมในประเทศจีนมาอย่างยาวนานถึง 26 ปี ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ความทนทานสูง และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายตลาดทั่วโลก ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอเมริกาใต้ จนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในจีน และติด 1 ใน 3 แบรนด์รถกระบะยอดนิยมของโลก จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็นผู้นำระดับโลก ความสำเร็จของ GWM สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่มองไกล และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้พัฒนาและสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สะท้อนแนวคิด “GWM Go With More” ที่ GWM ยึดถือ ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถยนต์คุณภาพ แต่คือส่งการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์ระดับโลก

     

    เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ความเชี่ยวชาญระดับโลกที่พิสูจน์แล้ว

    เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชั่นใหม่ ของ GWM เป็นผลงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ลงทุนไปแล้วกว่า 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ได้รับการพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด โดยมีคุณสมบัติเด่นที่พิสูจน์แล้วในตลาดจริง ซึ่งมีจุดเด่น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

    • ด้านสมรรถนะเหนือระดับ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดที่สูงถึง 260 นิวตันเมตร ในรอบเครื่องต่ำ และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรแบบต่อเนื่องหรือแฟลตทอร์คที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ทำให้การออกตัวและการขับขี่ในพื้นที่ที่มีความท้าทายเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและออฟโรด
    • ด้านประหยัดพลังงาน เครื่องยนต์ดีเซล 4T ใหม่นี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่ดีกว่า ทำให้การใช้พลังงานจากน้ำมันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น โดยอัตราการบริโภคน้ำมันของ NEW GWM TANK 300 DIESEL อยู่ที่ 14 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ Eco sticker ในประเทศไทย) สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งน้ำมันหนึ่งถัง (ดีเซล B7) สามารถขับขี่ได้ระยะทางไกลมากกว่า 1,000 กิโลเมตร
    • ด้านความเงียบและนุ่มนวลเหนือชั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และการพัฒนาเทคโนโลยีในการลดเสียงรบกวน NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้ห้องโดยสารมีระดับเสียงต่ำกว่า 68 เดซิเบลในช่วง idle speed ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ นิ่ง ไม่สั่น เทียบเคียงได้กับเครื่องยนต์เบนซิน
    • ด้านความทนทานรับประกันคุณภาพยาวนานถึง 1 ล้านกิโลเมตร GWM มั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์เซ็ตนี้ จึงกล้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานด้วยการมอบการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ที่ยาวนานและครอบคลุมมากขึ้นถึง 1 ล้านกิโลเมตร (หรือ 8 ปี) สำหรับรถยนต์รุ่น NEW GWM TANK 300 DIESEL ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพของเครื่องยนต์

    เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “จากความสำเร็จของการเปิดตัว NEW GWM TANK 300 DIESEL GWM (Thailand) ยังคงเดินหน้าส่งมอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ให้กับแฟน ๆ ชาวไทย เราเชื่อมั่นว่าขุมพลังดีเซล 2.4T เจอเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ มอบการขับขี่ที่เงียบและนุ่ม พร้อมมสมรรถนะ การประหยัดพลังงาน และความทนทาน ฉีกกฏของเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เข้ามาให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นประเทศแรก ๆ ในโลก ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของตลาดในประเทศไทยและการนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคนไทยมาให้คนไทยได้เป็นเจ้าของ และในปีนี้เราจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ของ GWM อีกหลากหลายรุ่นที่จะเข้าสร้างมาตรฐานใหม่แห่งสมรรถนะการขับขี่ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเอนกประสงค์ และความคุ้มค่าที่เหนือความคาดหมาย พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GWM ในการเป็นแบรนด์ระดับโลกที่พัฒนายานยนต์เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างแท้จริง”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment