-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ส่งมอบรถยนต์กว่า 60 คัน ให้กับท่าอากาศยานไทย เปิดประสบการณ์ Luxury Limousine ในสนามบินสุวรรณภูมิ ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ส่งมอบรถยนต์จำนวน 60 คัน เพื่อใช้ในการให้บริการรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ AOT Limousine เดินหน้ายกระดับประสบการณ์การเดินทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มาพร้อมความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยขั้นสุด ครอบคลุมทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ระดับ Top-End Luxury อย่าง EQS 450+ AMG Dynamic จำนวน 20 คัน รถยนต์ Business Saloon เจเนอเรชันล่าสุด E 350 e Exclusive จำนวน 20 คัน และรถแวนระดับพรีเมียม Vito 119 CDI Tourer Pro จำนวน 20 คัน โดยมี มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มร. คาย-อูเว่ ทริลเลนแบร์ก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นายศุภวุฒิ จีรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นผู้ส่งมอบให้กับ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ นายสุวิทัต วงศ์วิเชียร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์)
โดยรถยนต์ทั้ง 60 คัน ที่ส่งมอบโดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินอย่างเป็นทางการของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อส่งมอบบริการแบบครบวงจรให้กับพันธมิตรอย่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และต่อยอดบริการ AOT Limousine ให้ก้าวไปสู่อีกขั้น ตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
บริการ AOT Limousine ที่ใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะครอบคลุมทั้งในหมวดหมู่ของ Premium Sedan, Premium Van และ Luxury Sedan โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Premium Sedan: E 350 e Exclusive ราคาเริ่มต้น 1,000 บาทต่อเที่ยว
รองรับผู้โดยสารสูงสุด 3 ท่าน กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 1 ใบ ขนาดเล็ก 1 ใบ
- Premium Van: Vito 119 CDI Tourer Pro ราคาเริ่มต้น 1,150 บาทต่อเที่ยว
รองรับผู้โดยสารสูงสุด 6 ท่าน กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 6 ใบ ขนาดเล็ก 3 ใบ
- Luxury Sedan: EQS 450+ AMG Dynamic ราคาเริ่มต้น 1,300 บาทต่อเที่ยว
รองรับผู้โดยสารสูงสุด 3 ท่าน กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ ขนาดเล็ก 1 ใบ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองบริการล่วงหน้าได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม AOT Limousine
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ
ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทาง Facebook: Mercedes-Benz Thailand IG: @MercedesBenzThailand และ LINE: @mercedesbenzth
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
- Premium Sedan: E 350 e Exclusive ราคาเริ่มต้น 1,000 บาทต่อเที่ยว
-
News / News Motocycle1 Min Read
“Honda Academy Thailand 2025” เดินหน้าบิดล่าฝัน สนาม 2 เสริมทักษะตะลุยทางฝุ่นกับนักแข่งโมโตครอสด้วย Honda CRF สนามจันทบุรี
“ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เดินหน้าบิดล่าฝัน สนาม 2 “Honda Academy Thailand 2025” ฝึกนักบิดเยาวชน The Next Successor ตามโรดแม็ป “Honda Race to the Dream” กับหลักสูตรการขับขี่ทางฝุ่น “Dirt Training” ด้วยรถสูตรเดิร์ทไบค์สายแข่ง Honda CRF125 ณ สนามแข่งรถวิบากสะพานเลือก จ.จันทบุรี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เดิร์ทโปรแกรม เป็นการฝึกฝนทักษะการขับขี่แทร็กบนทางฝุ่น (Flat Track) เพื่อเสริมสร้างพื้นฐานสำคัญของการฝึกการควบคุมรถ โดยใช้รถแข่ง Honda CRF125 ด้วยการวางรูปแบบสนามฝึกขับขี่แบบวนซ้ายและขวาในลักษณะเลขแปด เพื่อให้นักบิดเยาวชนได้ฝึกขับขี่การควบคุมคันเร่ง ฝึกการใช้เบรกหน้าและเบรกหลังอย่างสมดุล พร้อมสร้างความแม่นยำในการเข้าโค้ง
นอกจากนี้ยังมีฐาน Stop and Go โดยรถทุกคันจะมีการถอดเบรกหน้าออกให้เหลือแต่เบรกหลัง ฝึกการขับขี่ที่ใช้ความเร็วแล้วหักเลี้ยวในการเข้าโค้งซึ่งใช้เพียงแค่เบรกหลังเท่านั้น เพื่อเรียนรู้การควบคุมรถในสภาพพื้นผิวที่ลื่นไถล ฝึกการเดินคันเร่งให้เหมาะสมกับสภาพแทร็กที่แตกต่าง ที่จะช่วยสร้างทักษะการขับขี่ที่แม่นยำและการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์จริงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยการฝึกฝนทักษะจะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจาก โค้ชแอดไวเซอร์ชาวญี่ปุ่น อดีตนักบิดเวิลด์กรังด์ปรีซ์ “มร.ชินอิจิ อิโตะ” และทีมโค้ชจาก “Honda Racing Thailand” นำโดย เฮดโค้ชมุกข์ (มุกข์ลดา สารพืช) และแชมป์นักแข่งโมโตครอส อย่าง โค้ชแซงค์ (กฤษฎา จำรูญจารีต), โค้ชนีโม่ (จิรัฏฐ์ วรรณลักษณ์) และโค้ชโออิชิ (พัสกร ปริยวงศธร) ที่มาร่วมถ่ายทอดเทคนิคการคอนโทรลรถอย่างถูกวิธี เพื่อให้นักบิดเยาวชนได้เรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาทักษะการขับขี่ และเสริมสร้างศักยภาพของนักแข่งอย่างมืออาชีพ
ทั้งนี้ “Honda Academy Thailand 2025” สนามที่ 3 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม นี้ ที่ สนามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรซซิ่ง สคูล & โกคาร์ท จังหวัดบุรีรัมย์
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaAcademy #ThaiHonda #RaceToTheDream #RoadToMotoGP #HondaRacingThailand
#idemitsu #Sittipol #KrungsriAuto #KELA #Kushitani #ยำยำ #Arai #IRC #RCB #DID #NGK #KOWA #โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ #DiosDesign #GariGari #HondaChemicals #HondaBigBike #SAT #NSDF #FMSCT
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 พร้อมระเบิดความมันส์ทั้ง 5 สนาม มุ่งสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า มุ่งขยายฐานคนรักรถ และเพิ่มกลุ่มคนรักมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย
มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายพฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ นายกราชยานยนต์สมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ณ TOYOTA ALIVE ถ.บางนา-ตราด กม. 3
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มบุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเจตนารมณ์ที่จะยกระดับและเพิ่มความนิยมในกีฬาประเภทนี้ให้แพร่หลายในหลากหลายรูปแบบ และครอบคลุมทุกระดับ ไม่ว่าจะด้วยการจัดการแข่งขัน การส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน และให้การสนับสนุนให้แก่ผู้ที่มีความฝันตั้งแต่ระดับเยาวชน ไปจนถึงนักแข่งระดับอาชีพ ให้ได้มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยจากความทุ่มเทในการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง โตโยต้าได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการนี้อย่างแท้จริง
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่ทุกท่านมีให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา ทำให้ยอดจองของโตโยต้าทั่วประเทศทั้งหมดในช่วงมอเตอร์โชว์ มีมากกว่า 21,000 คัน ซึ่งเป็นยอดจองภายในงานมอเตอร์โชว์ มากกว่า 9,600 คัน และจากยอดจอง 9,600 คัน อยู่ในระหว่างขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยโตโยต้าคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถ สู่ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลกว่า 7,600 คัน ภายในเดือนเมษายน
สำหรับโตโยต้า กีฬามอเตอร์สปอร์ตคือรากฐานในการสร้างยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า เราได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ผ่านการแข่งขันอีกหลายรายการทั่วโลก เพราะเราเชื่อว่า “ถนนสร้างคน และคนสร้างรถ” โดยการเข้าร่วมการแข่งรถในสนามต่างๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น สะท้อนกลับมาสู่ไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้กลยุทธ์ความหลากหลายด้านทางเลือก (Toyota multiple pathway) ปัจจุบัน เราได้ขยายความร่วมมือกับ โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (TMA) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อพัฒนายนตรกรรมและชิ้นส่วนรถยนต์ให้ดียิ่งกว่าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและ สามารถตอบสนองสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ตอันหฤโหดได้อย่างแท้จริง”
ในปีที่ผ่านมา รถกระบะ Hilux Revo GR Sport 4X4 ได้รับการพัฒนาช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น โดยฝีมือวิศวกรชาวไทย ยังสามารถคว้าชัยชนะ แชมป์อันดับ 1 ในรายการ Asia Cross Country Rally 2024 และในปีนี้เรายังได้ส่งรถยนต์ไฮบริดรุ่น Yaris Cross HEV ในการแข่งขันแรลลี่ ที่จัดโดย ราชยานยนต์สมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (RAAT Rally) ซึ่งรุ่นนี้จะมีการปรับช่วงล่าง และเครื่องยนต์ไฮบริดเพื่อการแข่งขัน
ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แรงบันดาลใจสู่การพัฒนา “ยนตรกรรมและชิ้นส่วนรถยนต์ที่ดียิ่งกว่า” แต่ยังนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่เห็นได้จากการพัฒนารถที่ใช้เชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน 2 รุ่น เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันบนสนามแข่ง ซึ่งได้แก่ Yaris Carbon Neutral Fuel และ Ativ Carbon Neutral Fuel นอกจากนี้ โตโยต้ามีการสนับสนุนทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Thailand ในการแข่งขันทั้งในรูปแบบแรลลี่ และแบบเซอร์กิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและพัฒนารถยนต์โตโยต้าในอนาคต ในประเทศไทย โตโยต้าเป็นผู้นำของวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน กว่า 39 ปี โดยกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand จะสร้างความสนุกสนานความเร้าใจของกีฬามอเตอร์สปอร์ตแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมแนวทางการพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงของโตโยต้าที่น่าเชื่อถือที่สุด”
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงไฮไลต์ของ Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 ในปีนี้ว่า “ปีนี้ Toyota Gazoo Racing Thailand จัดขึ้นในรูปแบบเฟสติวัล เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสความสนุกสนาน ทั้งการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ One Make Race โดยเราจะมีรถเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 60 คัน เริ่มจาก One Make Race ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Yaris ATIV Lady One Make Race/ YARIS One Make Race / Hilux REVO One Make Race และ Corolla ALTIS GR Sport One Make Race ที่ยังเปิดรับสมัครอยู่ และยังมอบข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้า ที่เคยผ่านโครงการ Toyota Gazoo Racing Academy จะได้รับส่วนลด 10% ของค่าสมัครการแข่งขันอีกด้วย หากผู้ที่ชื่นชอบรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ต สามารถสมัครแข่งขันได้ภายใน 31 พฤษภาคม นี้ ผ่านทาง Facebook : ToyotaGazooRacingThailand ซึ่งในปีนี้ น้องมิย่า น้องป๊ายปาย และคุณปังปอนด์ ก็ยังอยู่แข่งขัน One Make Race พร้อมสร้างความสนุกและความตื่นเต้น เหมือนเช่นเคย
และสำหรับผู้ที่รักการตกแต่งรถ ให้ดูโดดเด่นและเท่ห์ยิ่งขึ้น เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ชื่อดังระดับประเทศกับ ชุดอุปกรณ์ตกแต่งทางเลือก Associated Accessories Product หรือ AAP อาทิ ชุดตกแต่งรอบคัน GR Part จาก บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด และล้ออัลลอยจากแบรนด์ Lenso ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อผ่านผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ หรือ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th/accessories/ และยังมีชุดแต่งและผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของ Toyota Gazoo Racing Thailand อีกด้วย”
นายศุภกร กล่าวถึงกิจกรรมความบันเทิงในปีนี้ว่า “นอกจากความเข้มข้นในสนามแข่งแล้ว แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตจะได้พบกับกิจกรรมจัดเต็มทั้งไลฟ์สไตล์ ความบันเทิงต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ตร็อคสุดมันส์ จากวงไทรทศมิตร, คู่ดูโอ้ ป๊อบ ปองกูลและโอ๊ต ปราโมทย์, สาวน้อยเสียงหวาน น้องแอลลี่ ที่จังหวัดภูเก็ต และเชียงใหม่ พิเศษปีนี้เรามีกิจกรรมใหม่ GR COMMUNITY ที่จะเชิญลูกค้า GR Supra , GR 86 , GR Corolla และ GR Yaris เข้าร่วมชมการแข่งขัน พร้อมพบกับ CAR GURU อย่าง คุณเบียร์ ใบหยก และยังมี กิจกรรม MEET AND GREET กับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง พร้อมชมโชว์สมรรถนะรถโตโยต้าสุดมันส์ได้ ในกิจกรรม CAR PERFORMANCE SHOW ทั้งรถดริฟท์ รถสมรรถนะสูงตระกูล GR และ GR Sport
“สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ / YOKOHAMA / PTT Station / Modellista โดย TCD Asia / LENSO / ARTO / Singha Corporation และสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรม Toyota Gazoo Racing Thailand มาโดยตลอด”
สัมผัสความสนุกสนาน เร้าใจของ “Toyota Gazoo Racing Thailand 2025” ทั้ง 4 จังหวัด 5 สนาม ทั่วประเทศ
- สนามที่ 1 วันที่ 5-6 กรกฎาคม ชลบุรี
- สนามที่ 2 วันที่ 16-17 สิงหาคม ภูเก็ต
- สนามที่ 3 และ 4 วันที่ 13-14 กันยายน บุรีรัมย์
- สนามที่ 5 (สนามสุดท้าย) วันที่ 15-16 พฤศจิกายน เชียงใหม่
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
ฮอนด้าบิ๊กไบค์ พลิกประสบการณ์ขับขี่! เผยโฉม Honda DCT เวอร์ชันอัปเกรดล่าสุดใน 750 Series ขับขี่ลื่นไหล ควบคุมได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ฮอนด้าบิ๊กไบค์ เผยโฉมเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) เวอร์ชันล่าสุดใน New Honda Forza 750 และ New Honda X-ADV โดยได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ลื่นไหล นุ่มนวล และใกล้เคียงกับความรู้สึกของผู้ขับขี่มากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้าบิ๊กไบค์ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 17 ปี
เทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) คือระบบส่งกำลังอัตโนมัติอัจฉริยะที่ใช้กลไกคลัตช์คู่ในการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งในโหมดเกียร์อัตโนมัติและเกียร์แมนนวลอย่างอิสระตามปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถขับขี่ได้ง่าย สนุกยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการควบคุมเกียร์จากแฮนด์บาร์ที่ไม่ต้องใช้คลัตช์ ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์
ไฮไลต์สำคัญของการอัปเกรดระบบ Honda DCT ในรุ่น 750 Series คือการนำเซ็นเซอร์วัดแรงดันน้ำมันแบบใหม่มาประยุกต์ใช้ ร่วมกับระบบประมวลผลแรงดันที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้คลัตช์ตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำ ช่วยให้การออกตัวเป็นไปอย่างนุ่มนวล เข้าโค้งได้อย่างลื่นไหล และควบคุมรถได้แม่นยำมากขึ้น
อีกทั้งยังมีการปรับจูนระบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ขับขี่แต่ละรูปแบบ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการควบคุมเกียร์ด้วยมือจริง เพิ่มความมั่นใจในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง ทางโค้งแคบ หรือเส้นทางแอดเวนเจอร์
สำหรับ New Honda Forza 750 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 745 ซีซี OHC 4 วาล์ว 2 สูบเรียง ดีไซน์สปอร์ตทัวร์ริ่งที่ดุดันและหรูหรา ภายใต้แนวคิด ‘BEYOND THE LEADER’ ผสานเข้ากับเทคโนโลยี DCT เวอร์ชันล่าสุดที่ช่วยยกระดับสมรรถนะได้อย่างลงตัว ขณะที่ New Honda X-ADV เปิดตัวพร้อมกันใน 4 เฉดสีใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘LIVE THE UNEXPECTED LIFE’ โดยใช้เทคโนโลยี DCT ที่ได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวลยิ่งขึ้น
การอัปเกรดระบบ Dual Clutch Transmission (DCT) ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ขับขี่ให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ไม่เพียงช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถและประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างเหนือระดับ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์: www.facebook.com/HondaBigBikeTH
เว็บไซต์: https://bit.ly/thaihondabigbike
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า: www.facebook.com/hondamotorcyclethailand#750Series #HondaDCT #HondaBigBike #HondaBigBikeThailand #ExcitesTheWorld
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Motocycle1 Min Read
“ยามาฮ่า ไทยแลนด์” คัมแบ็กโพเดียม “เอเชีย โร้ด เรซซิ่งฯ” “อนุภาพ – กฤตภัทร” คืนฟอร์มเก่งคว้ารองแชมป์สนามแรก
ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยอดทีมแข่งไทยคืนฟอร์มเก่งในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 สนามแรก ด้วยการคัมแบ็กคว้าโพเดียมในเรซที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากผลงานสุดร้อนแรงของ “ตี” อนุภาพ ซามูล ที่ไล่บี้สุดมันซิวรองแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ขณะ “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ เข้าป้ายอันดับ 2 ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี หลังจบเรซสุดมันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันเรซที่ 2 ของ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2025 สนามแรกมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา โดยเรซกลับมาดวลกันภายใต้สภาพอากาศที่แจ่มใส โดยเฉพาะในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งเรซแรกต้องแข่งขันบนแทร็กที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยฝน “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่ใช้รถแข่ง YAMAHA YZF-R6 หมายเลข 500 ลงทำการแข่งขัน ยังคงได้ออกตัวจากกริดที่ 6 หลังจากประคองคว้าอันดับ 5 ในเรซแรก โดยในวันอาทิตย์นักบิดเชียงใหม่เริ่มเกมได้อย่างดุดัน ทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้ในช่วงต้นเรซ และมีโอกาสคว้าชัยชนะอย่างมาก ก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 2 ด้วยเวลารวม 20 นาที 5.555 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 1.210 วินาที เพียงพอให้คว้าโพเดียมแรกในปีนี้ได้สำเร็จ พร้อมกับรั้งรองจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสม เก็บไปทั้งสิ้น 31 คะแนน ตามผู้นำแค่ 10 แต้ม เส้นทางลุ้นแชมป์ยังคงเปิดกว้าง
ส่วนเกมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ นักบิดดาวรุ่งของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เจ้าของรถแข่ง YAMAHA YZF-R3 หมายเลข 39 ที่พลาดแชมป์เรซแรกอย่างน่าเสียดาย ยังคงอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่ง ออกสตาร์ตจากโพลโพซิชั่นไล่บี้คู่แข่งเพื่อลุ้นชัยชนะจนถึงโค้งสุดท้าย ตัดสินใจไม่เสี่ยงบิดคว้าอันดับ 2 มาครองด้วยเวลารวม 18 นาที 49.808 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 0.149 วินาที เก็บแต้มสำคัญจากสนามแรก รั้งอันดับ 8 บนตารางแชมเปียนชิพ มี 20 คะแนน
ทั้งนี้ สองนักบิด ยามาฮ่า ไทยแบนด์ เรซซิ่งทีม มีคิวดวลความเร็วสนามถัดไป ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2568 ณ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย แฟนมอเตอร์สปอร์ตติดตามความเคลื่อนไหว “ทัพนักบิดยามาฮ่า” ทุกรายการได้ที่ Facebook : Yamaha Thailand Racing Team
#YamahaThailandRacingTeam #RevsYourHeart #ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด #YamahaBeyondTheLimits #YamahaRacing #No1RacingTeam #YamahaSocietyThailand #YamahaRidersclubThailand #RaceMachine #ARRC2025 #TheBlueShif #YamahaR6 #AS51 #YamahR3 #KK39 #YamahaThailandRacingOfficial
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
อีซูซุเริ่มผลิตรถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์ EV” รุ่นใหม่ในไทย สำหรับประเทศหลักในยุโรป
มร. ชินสุเกะ มินามิ (Mr. Shinsuke Minami) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น (สำนักงานใหญ่เมืองโยโกฮามะ จังหวัดคานางาวะ) ประกาศเริ่มผลิต รถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์ EV” ขนาด 1 ตัน รุ่นแรกของอีซูซุในประเทศไทย
รถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์ EV” คันแรกของอีซูซุ ได้จัดโชว์ต่อสาธารณชนในฐานะรถต้นแบบ ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 45 ในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว อีซูซุได้เริ่มการผลิตรถรุ่นพวงมาลัยซ้ายและส่งไปยังประเทศหลัก ๆ ในยุโรป เพื่อจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568
การผลิตรถรุ่นพวงมาลัยขวาของ รถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์ EV” กำหนดจะมีขึ้นช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ในปี 2569 และจะขยายไปยังประเทศและเขตอื่น ๆ ตามความต้องการของตลาด
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ซึ่งมี e-Axles ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้มั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมบนพื้นที่ทุรกันดาร ระบบนี้ยังให้พลังเร่งแซงสูงแบบคงที่ตามแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันก็ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน นอกจากนี้ ความสามารถในการลากจูงและน้ำหนักบรรทุกที่สูง จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังรวมถึงโครงสร้างและตัวถังที่แข็งแรง ทำให้รถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์ EV” สามารถเทียบเคียงกับสมรรถนะของรุ่นดีเซลที่มีอยู่ปัจจุบันได้
กลุ่มอีซูซุมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านการพัฒนายานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนหลากหลายประเภท ด้วยตระหนักดีว่าลูกค้าผู้ใช้รถปิกอัพมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย รถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์ EV” จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้รถทั้งเพื่อการพาณิชย์และส่วนตัว โดยยังคงประสิทธิภาพที่ทนทานตามความคาดหวังของการใช้งานรถปิกอัพ
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
รุ่นรถ: รุ่น 4 ประตู สำหรับตลาดยุโรป
น้ำหนัก น้ำหนักตัวรถ (กก.) 2,350 น้ำหนักบรรทุกสูงสุด (กก.) 1,010 ความสามารถในการลากจูงสูงสุด (กก.) 3,500 มิติ ความยาวรวมกันชนหลัง (มม.) 5,280 ความกว้างรวม (มม.) 1,870 ความสูงรวมราวหลังคา (มม.) 1,810 ฐานล้อ (มม.) 3,125 ระยะห่างช่วงล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) 1,570 รัศมีวงเลี้ยวต่ำสุด (ม.) 6.1 สมรรถนะ ระบบขับเคลื่อน 4×4 แบบ Full Time กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์) 140 แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) 325 ความเร็วสูงสุด (กม./ ชม.) มากกว่า 130ระยะทางวิ่งต่อชาร์จ (กม.)263 (WLTP)
361 (WLTP City mode)อัตราการสิ้นเปลืองไฟฟ้า
(วัตต์ชั่วโมง/ กม.)255 (WLTP)ประเภทแบตเตอรี่ลิเธียมไออนความจุแบตเตอรี่ (กิโลวัตต์-ชม.)66.9ระยะเวลาในการชาร์จกระแสสลับ ACรองรับสูงสุด 11 กิโลวัตต์
ใช้เวลา 10 ชม. (0-100%)กระแสตรง DCรองรับสูงสุด 50 กิโลวัตต์
ใช้เวลา 1 ชม. (20-80%)
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
NEX จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Drive The Better Future Drive EV นำโดยนายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานกรรมการบริษัท (กลาง) พร้อมคณะกรรมการบริษัท และผู้บริหารของบริษัท ได้เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจัดในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) ซึ่งมีกรรมการบริษัทเข้าร่วมประชุมที่บริษัท จำนวน 7 ท่าน (ตามภาพ) และเข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 ท่าน โดยถ่ายทอดสดจากห้องประชุม Grand Ballroom สำนักงานใหญ่ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทในรอบปี 2567 รวมถึงอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการบริษัท การเพิ่มทุนจดทะเบียน การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และการอนุมัติเรื่องต่าง ๆ ตามกฎหมาย พร้อมทั้งตอบข้อซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุม เพื่อให้บริษัทพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดประชุมได้สำเร็จลุล่วงเป็นไปได้ด้วยดี
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
ฮอนด้าชวนแฟนสายสปอร์ตออกทริป “Honda One Make Race 2025 Exclusive Trip” ลงสนามจริงระดับโลกกับ “Honda Track Experience” พร้อมร่วม “Driving Clinic” เรียนรู้ทักษะการขับขี่จากมืออาชีพ
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ชวนแฟนสายสปอร์ตขับรถยนต์ฮอนด้าคู่ใจรุ่นใดก็ได้ ออกทริป 2 วัน 1 คืนกับ “Honda One Make Race 2025 Exclusive Trip” เพื่อสัมผัสประสบการณ์ความมันสุดเร้าใจกับฤดูกาลแรกของการแข่งขัน “Honda One Make Race 2025” ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นซัพพอร์ตเรซ (Support Race) ในการแข่งขัน “Fanatec GT World Challenge Asia 2025” การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก พร้อมเสริมทักษะและเรียนรู้เทคนิคการขับขี่อย่างสนุกสนานและปลอดภัยทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพกับกิจกรรม “Driving Clinic” ก่อนจับพวงมาลัยลงขับบนสนามแข่งระดับโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับกิจกรรม “Honda Track Experience” พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม – วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568 ร่วมกิจกรรมกับฮอนด้าฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม*
มาร่วมปลุกจิตวิญญาณความสปอร์ตของคุณไปพร้อมกับฮอนด้า! ลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน – 11 พฤษภาคม 2568 เพียงแอด LINE Honda Thailand Official Account (Line ID: @honda-thailand) กรอกข้อมูล พร้อมแนบรูปถ่ายของคุณกับรถยนต์ฮอนด้าที่จะนำมาใช้ในกิจกรรม “Honda One Make Race 2025 Exclusive Trip” และบอกเล่าถึงความสปอร์ตของคุณและรถยนต์ฮอนด้าคู่ใจ จำนวนจำกัดเพียง 30 สิทธิ์เท่านั้น (1 สิทธิ์ 2 ท่าน – ลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าที่ได้รับสิทธิ์สามารถพาผู้ติดตามมาร่วมกิจกรรมได้ 1 ท่าน) โดยจะประกาศผลผู้มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ทาง Honda Thailand Official Account
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
OMODA & JAECOO เปิดตัวแคมเปญ “Welcome Home” บริการตรวจเช็คฟรี 15 รายการ พร้อมบริการล้างรถฟรี ทั่วประเทศไทย
OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก เปิดตัวแคมเปญหลังการขาย “Welcome Home” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
ลูกค้าสามารถนำรถยนต์ OMODA & JAECOO เข้ารับบริการตรวจเช็คฟรี 15 รายการ ที่ศูนย์บริการทั้ง 20 แห่งทั่วประเทศ พร้อมบริการล้างรถฟรีที่ศูนย์บริการ 12 แห่ง ตั้งแต่วันนี้ – 21 พฤษภาคม 2568
จักรพันธ์ สิขิวัฒน์ หัวหน้าส่วนงานบริการหลังการขาย บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญ ‘Welcome Home’ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการดูแลลูกค้าหลังการขาย เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การบริการที่เหนือความคาดหมาย เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่นำรถกลับมาบ้าน OMODA & JAECOO”
รายการตรวจเช็คฟรี 15 รายการ ประกอบด้วย:
- ไฟเตือนบนหน้าปัด
- เครื่องเสียง และหน้าจอกลาง
- ระบบแตร
- ระบบไฟต่างๆ
- ระบบปัดน้ำฝน
- ระบบแอร์
- กรองอากาศ
- ยางขอบประตู ขอบกระจก ขอบหลังคา
- ระบบเบรก
- ระบบช่วงล่าง
- ล้อและยาง
- แบตเตอรี่ 12 โวลต์
- การรั่วซึมและระดับของเหลว
- แบตเตอรี่แรงดันสูง
- ระบบชาร์จและอุปกรณ์การชาร์จ
ลูกค้าสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อรับบริการได้ที่ศูนย์บริการ OMODA & JAECOO ทั้ง 20 สาขาที่ร่วมรายการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-020-8888 และเว็บไซต์ WWW.OMODAJAECOO.CO.TH
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
‘ไทร์พลัส’ เปิดตัวสัญลักษณ์ EV READY โชว์ความพร้อมให้บริการรถอีวีด้วยมาตรฐานสูงสุด
ล่าสุด ไทร์พลัส รุกเปิดตัวสัญลักษณ์ EV READY ตอบรับแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือ “รถอีวี”
ในไทยที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ศูนย์บริการไทร์พลัสที่ผ่านการรับรองด้วยสัญลักษณ์ดังกล่าวพร้อมสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับผู้ขับขี่รถอีวีด้วยพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเพื่อให้มีความรู้ความชำนาญในการบริการรถอีวีระดับมืออาชีพ ทั้งการวินิจฉัยปัญหา การดูแลซ่อมบำรุง และการให้คำแนะนำ
ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยสำหรับดูแลซ่อมบำรุงรถอีวีโดยเฉพาะอย่างครบครัน ปัจจุบัน ศูนย์บริการไทร์พลัส 115 แห่ง จากทั้งหมด 168 แห่งทั่วประเทศ หรือคิดเป็นสัดส่วน 68% ได้รับสัญลักษณ์
EV READY ที่แสดงความพร้อมในการให้บริการรถวีอีแล้ว โดยไทร์พลัสตั้งเป้าผลักดันให้ศูนย์บริการทุกแห่ง
ทั่วประเทศได้รับสัญลักษณ์ดังกล่าวภายในปี 2569การมอบสัญลักษณ์ EV READY ให้กับเครือข่ายศูนย์บริการไทร์พลัสทั่วประเทศไม่เพียงตอกย้ำจุดยืนของไทร์พลัสในการให้บริการคุณภาพเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของผู้ขับขี่ แต่ยังเป็นหนึ่งในโครงการล่าสุดที่มุ่ง
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากโครงการริเริ่มอื่น ๆ ขององค์กร
ที่มีเป้าหมายในลักษณะเดียวกัน อาทิ การติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับเครือข่ายสาขาเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ตลอดจนการบริหารจัดการยางรถยนต์ที่หมดอายุใช้งานและน้ำมันเครื่องใช้แล้วเพื่อนำมารีไซเคิลและเปลี่ยนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าอีกครั้งทั้งนี้ สัญลักษณ์ EV READY เป็นเสมือนประกาศนียบัตรรับรองว่าศูนย์บริการไทร์พลัสดังกล่าวให้บริการรถอีวีระดับมืออาชีพโดยพนักงานที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่ไทร์พลัสพัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาแรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชั้นนำต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี เขตเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ ดอยสะเก็ด, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง, วิทยาลัยเทคนิคตรัง ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถวินิจฉัยปัญหา ดูแลซ่อมบำรุง และให้คำแนะนำต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำและเหมาะสม อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและครบครันสำหรับดูแลซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า หรือ “รถอีวี” ซึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะต่างจากรถยนต์แบบดั้งเดิม
บริการสำหรับรถอีวีซึ่งศูนย์บริการไทร์พลัสที่มีสัญลักษณ์ EV READY นำเสนอ ได้แก่ บริการด้านยาง อาทิ
เปลี่ยนยาง ซ่อมยาง สลับยาง ตั้งศูนย์และถ่วงล้อ เนื่องจากการติดตั้งยางที่เหมาะสมให้กับรถอีวีซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าและมีแรงบิดสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ, ขับได้ไกลกว่าต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งและขับได้ระยะทางมากขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อย ทั้งยังมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบสบายเหนือกว่า อีกทั้งการสลับยางหรือถ่วงล้อแต่ละครั้งยังต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อตั้งค่าเซ็นเซอร์จับแรงดันลมยาง (TPMS) ในรถอีวีให้ตรงกับตำแหน่งล้อโดยช่างผู้ชำนาญ;บริการระบบช่วงล่าง ครอบคลุมการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ อาทิ โช้คอัพ, สปริงโช้คอัพ, เบ้าโช้คอัพ, ลูกหมากแร็ค, ยางกันฝุ่นแร็ค, ลูกหมากปีกนก และบูชต่าง ๆ เพื่อให้การขับขี่มีความนุ่มนวลสูงสุด; บริการระบบเบรก อาทิ เปลี่ยนผ้าเบรก และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก ทั้งนี้ ระบบเบรกของรถอีวีซึ่งใช้ไฟฟ้าควบคุมมีความซับซ้อนการในการตรวจสอบและบำรุงรักษา จึงต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่ทันสมัยและช่างที่มีทักษะในการใช้เครื่องมือดังกล่าว เพื่อประสิทธิภาพการเบรกและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้รถ; บริการระบบส่งกำลัง อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่เหมาะสมสำหรับรถอีวีแต่ละรุ่น, เปลี่ยนเพลาขับ ซีลและยางกันฝุ่นเพลาขับ รวมถึงเปลี่ยนลูกปืนล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ช่วยลดภาระยางและยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น;
บริการเกี่ยวกับแบตเตอรี่ 12 โวลต์ อาทิ ตรวจเช็คสุขภาพของแบตเตอรี่ และเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์แบตเตอรี่เฉพาะ ทั้งยังมีแบตเตอรี่แบรนด์ชั้นนำพร้อมรองรับรถอีวีแต่ละคันแบบตรงรุ่น; บริการระบบแอร์ อาทิ ล้างแอร์และเปลี่ยนกรองแอร์ โดยมีผลิตภัณฑ์กรองแอร์จากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบมาตรฐานและแบบคาร์บอนที่มีคุณสมบัติพิเศษช่วยดักจับฝุ่น PM2.5 และแบคทีเรีย เพื่ออากาศสะอาดภายในห้องโดยสารและสุขภาพที่ดี; บริการระบบระบายความร้อน อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นตามระยะที่เหมาะสมสำหรับรถอีวีแต่ละรุ่น โดยมีน้ำยาหล่อเย็นสูตรเฉพาะสำหรับรถอีวีจากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำให้เลือกใช้ เพื่อการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน