-
“พีทีที สเตชั่น ใจป้ำ แจก Samsung Galaxy Z Fold7 & Z Flip7” สัปดาห์ละ 70 เครื่อง ทุก 7 สัปดาห์ รวมมูลค่ากว่า 24 ล้านบาท สมาชิก blueplus+ รับสิทธิ์ลุ้นรับมือถือฟรี! เพียงเติมน้ำมันครบ 500 บาท
พีทีที สเตชั่น เติมสนุก แจกสนั่น กับแคมเปญใหญ่ “เติมปั๊บ ลุ้นรับมือถือ” แจกฟรี! Samsung Galaxy Z Fold7 & Z Flip7” สมาร์ตโฟนสุดล้ำรุ่นใหม่ล่าสุด รวม 490 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 24 ล้านบาท เพียงเป็นสมาชิก blueplus+ และเติมน้ำมันชนิดใดก็ได้ ครบทุก 500 บาท รับ 1 สิทธิ์ลุ้นโชคฟรี แจกหนักทุกสัปดาห์ เพียงแจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนสมาชิก blueplus+ ไว้ และพิเศษ! สำหรับสมาชิกบลูพลัสรับสิทธิ์ลุ้นรางวัล X2 เพียงกดรับสิทธิ์ผ่านกิจกรรมบนแอปพลิเคชัน blueplus+ ครั้งแรก ครั้งเดียวตลอดกิจกรรม ตลอดช่วงแคมเปญหลังลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2568 ที่ พีทีที สเตชั่น ทุกสาขาทั่วประเทศที่ร่วมรายการ
พร้อมแล้วไปลุ้นกันเลย แวะ พีทีที สเตชั่น เติมน้ำมันครบตามเงื่อนไข ลุ้นรับมือถือฟรี ยิ่งเติมบ่อย ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นโชคเยอะ ประกาศผลทุกวันศุกร์! สัปดาห์ละ 70 รางวัล ได้แก่ Samsung Galaxy Z Fold7 256GB มูลค่ารางวัลละ 67,900 บาท จำนวน 21 รางวัล และ Samsung Galaxy Z Filp7 256GB มูลค่ารางวัลละ 40,900 บาท จำนวน 49 รางวัล ทั้งหมด 7 สัปดาห์ รวม 490 รางวัล มูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 24 ล้านบาท ติดตามการจับรางวัลครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 และจับรางวัลต่อเนื่องทุกวันศุกร์จนถึง 3 ตุลาคม 2568 พร้อมติดตามการประกาศผลผู้โชคดีได้ทาง https://pttstationluckydraw.pttor.com/Announce, blueplus.com, แอปพลิเคชัน blueplus+ ,Facebook: PTT Station และ blueplus+
ส่วนใครยังไม่ได้เป็นสมาชิก blueplus+ สมัครฟรี! พร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด ของแถม หรือสิทธิพิเศษในกิจกรรมต่าง ๆ โดยสามารถสมัครสมาชิกได้ที่ พีทีที สเตชั่น และร้านค้าในเครือ อาทิ Café Amazon, Jiffy และ FIT Auto หรือสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.blueplus.com/#register รวมถึงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน blueplus+ ได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android ที่ https://blueplusapp.onelink.me/Zvvl/download เพื่อไม่พลาดทุกความพิเศษที่รอคุณอยู่
ศึกษาข้อมูลรายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pttor.com/th/news/promotion และติดตามโปรโมชันและกิจกรรมอื่น ๆ ได้ที่ Facebook Fanpage: PTT Station หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1365 Contact Center
#พีทีทีสเตชั่น #PTTStation #โปรโมชันพีทีทีสเตชั่น #พีทีทีสเตชั่นใจป้ำแจกฟรี
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News / News Motocycle1 Min Read
ไทยฮอนด้า มอบหมวกกันน็อก 1,200 ใบ ให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 สานต่อโครงการ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน”

ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย มอบหมวกกันน็อกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 1,200 ใบ ให้แก่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ภายใต้โครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนระดับประเทศ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน”

การมอบหมวกกันน็อกครั้งนี้ยังเป็นการสนับสนุนโครงการ “ถนนปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100%” ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมการขับขี่อย่างปลอดภัย ลดการบาดเจ็บและการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัยส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการสร้างวินัยจราจรและความรับผิดชอบร่วมกันในสังคม และพร้อมขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่เป้าหมาย “สังคมอุบัติเหตุเป็นศูนย์” (Zero Accident Society)
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” ได้ที่
เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand
Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha
Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA#ไทยฮอนด้า60ปี #ThaiHonda60TH #ไทยฮอนด้าเคียงข้างสัมคมไทย
#รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมเผยโฉม CLA 250+ with EQ Technology ครั้งแรกในงาน Motor Expo พร้อมส่งท้ายไลน์อัพ Mercedes-EQ ด้วยแคมเปญ “DEFINING ELECTRIC”

เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) ประเดิมจัดงาน CLASS OF ITS OWN. “The new CLA Designer Talk” สร้างปรากฏการณ์ในรอบ 20 ปี ด้วยการดึงตัว “เดนนิส บริงส์” (Dennis Brings) ดีไซเนอร์ระดับโลกจาก Mercedes-Benz Design มาร่วมเผยแรงบันดาลใจและแนวคิดการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เจเนอเรชันล่าสุด “The new CLA” ก่อนที่จะนำรุ่น CLA 250+ with EQ Technology
มาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2025 โดย The new CLA มาพร้อมแพลตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) ที่เน้นความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถเข้ากับรถยนต์ทุกระบบขับเคลื่อนทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์สันดาปภายใน สอดคล้องกับการปรับกลยุทธ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่ใช้ซับแบรนด์ Mercedes-EQ จะถูกเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้แบรนด์ Mercedes-Benz ทั้งหมด โดยรถยนต์ทุกรุ่นที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จะใช้ชื่อรุ่นตามด้วย “with EQ Technology” ส่วนรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
จะตามด้วย “with EQ Hybrid Technology”
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับการทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้มีการใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยเริ่มต้นด้วยการนำรุ่นแฟลกชิปในเซกเมนต์ Top-End Luxury อย่าง EQS มาเปิดตัวครั้งแรกในปี 2565 ทั้งรุ่นนำเข้าและรุ่นประกอบในประเทศ
เพื่อทำให้คนไทยได้สัมผัสกับขั้นสุดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก่อนที่ในปี 2566–2567 จะเริ่มเปิดตัวรถยนต์ในเซกเมนต์ Entry Luxury อย่าง EQB 250 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนไปถึงการเปิดตัว EQE 350 4MATIC SUV, EQE 53 4MATIC+, EQE 300 และ EQS 450 4MATIC SUV ตามลำดับ ซึ่งจากระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความเข้าใจในโจทย์และความพร้อมของผู้บริโภคชาวไทยสำหรับการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างดี

โดยกลยุทธ์ด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ต่อจากนี้ หลังจากการเปลี่ยนผ่านของยุค Mercedes-EQ ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ คาดหวังให้ The new CLA เป็นโมเดลสำคัญที่จะเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทย ที่มองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในเซกเมนต์ที่จับต้องได้ โดย CLA 250+ with EQ Technology จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ประกอบในประเทศไทยด้วยแพลตฟอร์ม MMA ที่ทำให้กระบวนการผลิตรถยนต์ของทุกระบบขับเคลื่อนมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อการกำหนดโครงสร้างราคาของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จะเปิดตัวในอนาคต”

ภายในงาน CLASS OF ITS OWN. “The new CLA Designer Talk” เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก มร. เดนนิส บริงส์ (Dennis Brings) ตำแหน่ง Senior Designer จากสตูดิโอ Mercedes-Benz Design ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานในแผนก “Lights & Parts”
โดยเดนนิส บริงส์ ได้พูดถึงแนวคิดการออกแบบและองค์ประกอบสำคัญของ The new CLA ไว้ดังนี้- ออกแบบภายใต้แนวคิด “Sensual Purity” ดีเอ็นเอของแบรนด์ที่สะท้อนไอคอนนิกสไตล์
อันหรูหราและเรียบง่าย แต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความโดดเด่นที่สะกดทุกสายตา - นำเสนอสัญลักษณ์ดวงดาวของแบรนด์ให้เข้ากับองค์ประกอบต่างๆ ของตัวรถ อาทิ กระจังหน้า Starpanel ในรูปแบบไฟแอนิเมชัน โคมไฟหน้าติดตั้ง Daytime Running Light รูปทรง
Star Shaped และไฟท้าย Digital Jewelry ที่ผสานเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ออกมาเป็นรายละเอียดของอัญมณีที่ลงตัว - ดีไซน์ภายในของ The new CLA ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนหินญี่ปุ่น หรือ “Zen Garden” สะท้อนศิลปะแห่งการลดทอนและคงไว้เฉพาะสิ่งที่เป็นแก่นแท้ เหลือไว้เพียงส่วนประกอบที่เป็นหัวใจของวิศวกรรมยานยนต์ เช่น การใช้วัสดุกระจกบนจอกลาง MBUX Superscreen วัสดุโลหะบนคอนโซลกลาง และวัสดุหนังบนแผงบุนุ่มบริเวณข้างประตู
CLA 250+ with EQ Technology จะเป็นก้าวสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติ ทั้งในด้านสมรรถนะอันทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร รวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ 800V ขนาด 85 kWh ที่ให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 792 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP และมีประสิทธิภาพการชาร์จที่รองรับ DC Charge สูงสุด 320 kW โดยการชาร์จเพียง 10 นาที ด้วยกระแสไฟเต็มกำลัง จะสามารถขับขี่ได้ไกลถึง 325 กิโลเมตร นอกจากนี้ The new CLA ยังถือเป็นรถยนต์ที่ล้ำสมัยที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยการติดตั้งระบบปฏิบัติการ MB.OS ที่ผสานการทำงานของเทคโนโลยี AI ด้วยระบบ MBUX Virtual Assistance ที่ร่วมมือกับ Google นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชันระดับโลกมากมาย อาทิ ChatGPT, Gemini, Google Maps, Microsoft Teams, Webex, Zoom ฯลฯ
นอกจากนี้ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้จัดแคมเปญ “DEFINING ELECTRIC: Reimagine Intelligence.” ชวนลูกค้าทุกคนรับข้อเสนอสุดพิเศษ กับส่วนลดสูงสุดถึง 3 ล้านบาท พร้อมร่วมทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% กว่า 8 รุ่น ได้ที่โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) ในวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 และโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village) ในวันที่ 23-24 และ 30-31 สิงหาคม 2568
รายละเอียดข้อเสนอพิเศษของแคมเปญ “DEFINING ELECTRIC: Reimagine Intelligence.”: https://mb4.me/FB-Defining
ลูกค้าที่สนใจรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ 31 แห่งทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ www.mercedes-benz.co.th หรือโซเชียลมีเดีผ่านทาง Facebook: Mercedes-Benz Thailand IG: @MercedesBenzThailand และ LINE: @mercedesbenzth
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
- ออกแบบภายใต้แนวคิด “Sensual Purity” ดีเอ็นเอของแบรนด์ที่สะท้อนไอคอนนิกสไตล์
-
GWM (Thailand) ดันยอดขาย 7 เดือนแรกโต 96% สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทย เร่งเดินหน้าพัฒนาบริการหลังการขายแบบเต็มพิกัด

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด ประกาศความสำเร็จอย่างแข็งแกร่งในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ด้วยยอดขายรวมสูงถึง 8,804 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มียอดขายอยู่ที่ 4,490 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 96% สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยต่อผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ การเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ ‘User-Centric’ ที่มุ่งเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางควบคู่กับการยกระดับบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในประเทศไทยในระยะยาว

ความสำเร็จอันน่าจับตานี้ได้รับแรงขับเคลื่อนจากกระแสตอบรับอันร้อนแรงของ NEW GWM TANK 300 DIESEL รถยนต์ SUV ดีไซน์ทรง Boxy ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งสามารถสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่งมีเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลัง และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่ได้อย่างลงตัวทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง ส่งผลให้ NEW TANK 300 DIESEL ขึ้นแท่นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของ GWM ด้วยยอดขายสะสมในช่วง 7 เดือน (มกราคม – กรกฎาคม 2568) ที่ 3,183 คัน ตอกย้ำคุณภาพและความนิยมอันล้นหลามของคนไทยที่มีต่อรถยนต์คันนี้ การันตีด้วยเสียงของผู้ใช้จริงที่ต่างออกมาแบ่งปันความประทับใจจากการใช้งานรถกันอย่างต่อเนื่อง

สำหรับยอดขายรวม 8,804 คันในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตจากปีก่อนหน้าสูงถึง 96% สะท้อนถึงศักยภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ GWM ในประเทศไทย โดยยอดขายของ GWM ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมาจาก GWM ORA 4,218 คัน (48%), GWM TANK 3,473 คัน (39%), และ GWM HAVAL 1,103 คัน (13%) โดยเจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทย GWM ORA Good Cat ยังคงครองสัดส่วนสูงสุดถึง 3,573 คัน หรือคิดเป็น 40% ของยอดขายรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 175% ตามมาด้วย GWM TANK 300 DIESEL 3,183 คัน และเจ้าเหมียวไฟฟ้าสายสปอร์ตซีดาน ORA 07 กับยอดขาย 645 คัน สำหรับ GWM TANK 300 DIESEL ได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากลูกค้าชาวไทย ทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ 1,028 คัน สร้างกระแส TANK FEVER ในกลุ่มเป้าหมายที่ทันสมัยและรักการผจญภัย และกลายมาเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งในเซกเมนต์ SUV-C และ PPV
ความสำเร็จและการเติบโตของ GWM นั้น เป็นผลมาจากการใช้กลยุทธ์ User-centric หรือการรับฟังเสียงของผู้บริโภคและลูกค้าชาวไทยเพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง โดยผลิตภัณฑ์ที่ GWM เปิดตัวในประเทศไทย ล้วนได้รับการปรับปรุงจากข้อคิดเห็น ความชื่นชอบ และพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทย อาทิ All New HAVAL H6 ที่ได้มีการปรับระบบช่วงล่าง การอัปเกรดระบบปฏิบัติการภายในรถ (UX/UI) ด้วย Coffee OS 3.0 อันล้ำสมัย พร้อม Petal Map ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง หรือแม้แต่การนำเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดเข้ามาใน NEW GWM TANK 300 DIESEL และ NEW GWM TANK 500 DIESEL ก็เพื่อตอบสนองความชื่นชอบและการใช้งานของคนไทยเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ GMM (Thailand) ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านบริการหลังการขาย ที่เป็นจุดสร้างความแตกต่างและคุณค่าในระยะยาวให้กับลูกค้าในการตัดสินใจซื้อ และถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญที่เสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ GWM อย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุด GWM ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 3 จาก 12 แบรนด์รถยนต์ยอดนิยม ด้านความพึงพอใจของบริการหลังการขายประจำปี 2567 โดย Differential บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระดับประเทศ และเป็นแบรนด์จากประเทศจีนเพียงแบรนด์เดียวที่สามารถขึ้นสู่ระดับ Top 3 ได้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์บริการหลังการขายให้รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง โดย GWM เน้นการบริการผ่าน GWM SMART Service ที่มอบบริการที่ง่าย สะดวกสบาย ผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย พร้อมการบริการที่ใส่ใจ เชื่อถือได้ และฉับไว ด้วยการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ การอบรมบุคลากรอย่างเข้มขันทั้งทางภาคทฤษฎีและปฏิบัติ การควบคุมคุณภาพการให้บริการของศูนย์บริการ รวมถึงการขยายโครงการศูนย์สีและซ่อมตัวถังมาตรฐานครบวงจร (GWM Certified Body and Paint) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไทยอย่างรอบด้านและยกระดับคุณภาพบริการในระยะยาว

เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) เผยถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “GWM ขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่มอบความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการของเรามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายเติบโตถึง 96% ภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือนเท่านั้น เราเชื่อว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น HEV, PHEV, BEV หรือดีเซล ทำให้เรามีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับ GWM และพาร์ทเนอร์ชาวไทย สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้อย่างครอบคลุมและครบทุกกลุ่ม นอกจากนี้ เรายังคงเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ ‘User-Centric’ ที่เน้นรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะอย่างใกล้ชิด และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้จริงในทุกมิติเพื่อนำมาพัฒนาในรถยนต์รุ่นถัด ๆ ไปให้เหมาะสมกับพฤติกรรมคนไทยและสภาพท้องถนนประเทศไทยให้มากที่สุด รวมถึงการยกระดับบริการหลังการขายให้รวดเร็ว ครอบคลุม และตรงจุด ผ่านการให้บริการที่มีคุณภาพในศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น เราวางแผนที่จะสร้างความแข็งแกร่งของคอมมูนิตี้ผ่านประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกับกลุ่มลูกค้าเราให้มากยิ่งขึ้น พร้อมก้าวสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในตลาดยานยนต์ไทย”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
PTG ฟอร์มแรง! ครึ่งแรกปี 68 ยอดขาย Non-Oil โตโดดเด่น พร้อมปรับเป้ารายได้ธุรกิจ Non-Oil ปี 68 เพิ่มเป็น 50-60% “กาแฟพันธุ์ไทย” นำทีม – สมาชิก PT Max Card หนุนต่อเนื่อง

บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 2568 มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 113,903 ล้านบาท รับแรงหนุนจากธุรกิจ Non-Oil ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 10,961 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 34.0% YoY ทั้งนี้หากไม่รวมรายได้ธุรกิจก๊าซ LPG จะมีรายได้เติบโต 62.6% YoY นำทีมเติบโตโดยกาแฟพันธุ์ไทยที่การขยายสาขาเติบโต 59.7% YoY รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) พร้อมปรับเป้าการเติบโตรายได้จากธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวม LPG) ปี 2568 เป็น 50-60% YoY จากเดิม 40-50% YoY ขณะที่สัดส่วนกำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil ปรับขึ้นเป็น 35-40% จากเดิม 30-35% รับอานิสงส์จากกลุ่มสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus (“กลุ่มลูกค้าสมาชิก”) ที่ใช้สิทธิต่อเนื่อง ประเมินทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังยังเติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจ Non-Oil ที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ผ่านกลยุทธ์การขยายสาขาของ กาแฟพันธุ์ไทย และการขยายตัวของฐานลูกค้าสมาชิก

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 (สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2568) ของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการเท่ากับ 113,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% YoY โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 10,961 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 34.0% YoY ซึ่งมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย โดยมีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 1,210 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 125.1% YoY เป็นจำนวน 2,178 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ ครึ่งปีแรกปี 2568 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,642 สาขา เติบโต 59.7% YoY หรือเพิ่มขึ้น 614 สาขา เฉลี่ยเท่ากับการขยายสาขาประมาณ 1.7 แห่งต่อวันและเพิ่มขึ้น 295 สาขาเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 รวมถึงการกลับมาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าสมาชิก และการจัดแคมเปญทางการตลาดที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งเน้นการพัฒนาเมนูที่มีเอกลักษณ์อีกทั้งเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ปรับแต่งเมนูเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่มประสบการณ์เฉพาะตัวอีกด้วย
ในครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีสาขาของธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) รวมทั้งสิ้น 2,606 สาขา เพิ่มขึ้น 885 สาขา หรือเติบโต 34.0% YoY โดยรายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 9.6% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 7.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ขณะที่กำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil อยู่ที่ 2,849 ล้านบาท เติบโต 62.0% YoY เป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่เติบโตโดดเด่นดังกล่าว
ทั้งนี้จากการเติบโตที่โดดเด่นในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ จึงได้ปรับประมาณการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวม LPG) สำหรับทั้งปี 2568 ขึ้นเป็น 50-60% YoY จากเดิม 40-50% YoY และได้ปรับสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil ขึ้นจากเดิม 30-35% เป็น 35-40% จากการขยายจำนวนสาขาอย่างก้าวกระโดด การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และการพัฒนาแคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้บริการซื้อ โดยได้ตั้งเป้าการขยาย Touchpoints ให้ครบ 2,978 สาขาภายในสิ้นปี 2568 ประกอบด้วย ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1,947 สาขา และ Non-Oil Touchpoints อื่น ๆ 1,031 สาขา
นายพิทักษ์กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังยังคงมีศักยภาพเติบโตอย่างแข็งแกร่งจาก ธุรกิจ Non-Oil ที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่สำคัญผ่านกลยุทธ์การขยายสาขาและการพัฒนาแบรนด์ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของ กาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าสมาชิก ที่มีความแข็งแกร่งในการใช้บริการภายใต้ ระบบนิเวศ Max World
บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ด้วยการสร้างโอกาสในการทำงาน ยกระดับคุณภาพชีวิต และสนับสนุนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “อยู่ดี มีสุข” ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสนับสนุนการเติบโตขององค์กรในระยะยาว
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
“ก้อง-สมเกียรติ” บินสเปน เข้าโปรแกรมฟื้นฟูร่างกาย เตรียมคัมแบ็ก ลุย”โมโตจีพี” ครึ่งฤดูกาลหลัง

นักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 อยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างมากกับอาชีพนักบิด หลังจากเพิ่งปลดล็อกคว้าแต้มแรกใน โมโตจีพี ที่ แอสเซ่น แต่ด้วยความมุ่งมั่นทำให้เจ้าตัวฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อยกระดับความเร็วกับรถแข่ง Honda RC213V ก่อนจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม โมโตครอสที่ บาร์เซโลน่า จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเข่าขวา และทำให้ต้องพลาดลงสนามแข่งนับตั้งแต่ เยอรมนี และ สาธารณรัฐเช็ก หลังผ่าตัด “ก้อง-สมเกียรติ” ได้บินกลับมาพักรักษาตัวในเมืองไทยช่วงพักเบรกการแข่งขันครึ่งฤดูกาลแรก

โดย “ก้อง-สมเกียรติ” ได้บินไป บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เพื่อเข้าสู่โปรแกรมฝึกซ้อมทางกายภาพสำหรับฟื้นฟูร่างกาย และวางเป้าหมายที่จะกลับมาลงแข่งขันให้ได้เร็วที่สุด โดยมี ดร.อารักษ์ พรประภา ประธานบริษัท ไทยฮอนด้าและทีมผู้บริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด มาส่งกำลังใจถึงสนามบินอย่างอบอุ่น

แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News / News Motocycle1 Min Read
QTC ปลื้มสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า MOVE EV X สร้างรายได้ควบคู่กับการรักษ์โลก

คิวทีซี ไฟเขียว ต่อยอดธุรกิจขยายการลงทุนสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ MOVE EV X ลดมลพิษในอากาศ เพิ่มรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว คุ้มค่าการลงทุน

คุณพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) และบริษัท คิวทีซี โกลบอล เพาเวอร์ จำกัด (QTCGP) (บริษัทย่อย) ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดในหลากหลายรูปแบบ เปิดเผยว่า “จากที่บริษัทฯ ลงทุนตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากับ MOVE EV X จำนวน 7 สาขา เมื่อต้นปีที่ผ่านมานั้น ผลตอบรับของการลงทุนถือว่าดี รายได้เติบโตอย่างชัดเจน อีกทั้งจำนวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตการต่อยอดจากแผนลงทุนพลังงานทดแทน พร้อมช่วยสร้างรายได้แบบ Passive Income ให้กับบริษัทฯ เราเห็นว่าควรเพิ่มจำนวนตู้สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในสาขาเดิม จาก 7 ตู้เป็น 14 ตู้”

ด้านคุณวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะมูฟ ธันเดอร์ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ MOVE EV X เปิดเผยว่า “รู้สึกดีใจที่ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จ สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความคิดของบริษัทฯ ที่ทุ่มเทพัฒนาสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้ผู้ทำธุรกิจควบคู่กันไปสภาพแวดล้อมและอากาศที่สะอาดต่อสังคมส่วนรวม”
ข้อมูลเพิ่มเติมหรือสนใจเป็นผู้มีส่วนร่วมสร้างระบบ Ecosystem อย่างยั่งยืน กับ “MOVE EV X by H Sem” สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เว็บไซต์ www.moveevx.com, FB: MOVE EV X หรือสอบถามได้ที่ Line ID: @moveevx และ Call Center 1513 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 8.30น. – 17.30น.)
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
GAC ประเทศไทย เปิดตัว GAC M8 PHEV ยนตรกรรม MPV Plug-in Hybrid สุดหรูระดับ Masterpiece อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย

บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้วงการยานยนต์ไทย ประกาศเปิดตัว GAC M8 PHEV ยนตรกรรม MPV หรูแบบ 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Plug-in Hybrid อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายในงาน GAC M8 PHEV : Master the Moment มอบประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ เสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอกที่มาพร้อมสมรรถนะอันทรงพลัง เทคโนโลยีอัจฉริยะ ความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยขั้นสูงสุด

การมาถึงของ GAC M8 PHEV นับเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ GAC ในประเทศไทย เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า 100% หลายรุ่นสู่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น AION Y Plus, HYPTEC HT, AION V และ AION UT โดย GAC M8 PHEV จะเป็นยนตรกรรมขุมพลังทางเลือก (Plug-in Hybrid) รุ่นแรกของ GAC ในประเทศไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ GAC ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่พร้อมมอบทางเลือกการเดินทางที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค
GAC M8 PHEV เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ราคาเริ่มต้นที่ 2,499,000 บาท
ข้อเสนอสุดพิเศษ และการรับประกัน (Benefit & Warranty)
- ชิ้นส่วนหลักอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันสูง(แบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อนและกล่องควบคุมมอเตอร์) รับประกัน 8 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน / การรับประกันตัวรถยนต์(ยกเว้นชิ้นส่วนหลักและชิ้นส่วนสิ้นเปลือง)รับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน / ฟรีบำรุงรักษา สำหรับการเช็คระยะครั้งแรก
- ฟรี เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการติดตั้ง (สิทธิประโยชน์มีผล 1 ปีนับจากวันออกใบกำกับภาษี)
- ฟรี ประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง พร้อมพ.ร.บ. (คุ้มครอง 1 ปี)
- ฟรี ค่าจดทะเบียนรถยนต์
- ฟรี ฟิล์มกรองแสงรถยนต์พร้อมบริการติดตั้ง และพรมปูพื้นรถยนต์
- พิธีส่งมอบรถสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมชุดของขวัญสุดพรีเมียม
- กิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้า GAC M8 PHEV แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
- บริการรถสำรองใช้ระหว่างเข้ารับบริการซ่อมหรือบำรุงรักษา
- สิทธิ์ในการจองคิวล่วงหน้าสำหรับเข้ารับบริการหลังการขาย / ที่ปรึกษาส่วนตัวดูแลลูกค้าแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (Personal Service Advisor)
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง สูงสุด 8 ปี
Experience the Luxurious Moment สุนทรียภาพแห่งความสง่างามและความสะดวกสบาย

GAC M8 PHEV นิยามใหม่ของความหรูหราและความผ่อนคลายในทุกตารางนิ้ว ที่ซึ่งทุกองค์ประกอบได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ตราตรึงใจ
Masterful Gaze Design: ได้รับแรงบันดาลใจจากความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณอันสูงส่งของสิงโต ดีไซน์อันทรงพลังนี้คือผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานความหรูหราและศิลปะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ดึงดูดทุกสายตาในทุกที่ที่ไปถึง
ไฟหน้า Grand Lion: ไฟหน้าที่ส่องสว่างและมีรูปทรงเฉียบคมสะท้อนสายตาของสิงโต มอบภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและแผ่รัศมีความโดดเด่นอย่างเหนือชั้น
กระจังหน้า Lion Claw: กระจังหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกรงเล็บของสิงโต แกะสลักด้วยเส้นสายที่แม่นยำ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและตัวตนอันทรงพลัง
ไฟท้าย Lion Fang: ไฟท้าย Lion Fang ของเรามีความเฉียบคมและดุดัน ดุจดั่งสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่ที่หันกลับมามอง ส่งสัญญาณถึงพลังที่พร้อมจะทะยานไปข้างหน้า
ดุมล้อ Floating Emblem: การผสมผสานระหว่างนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และศิลปะชั้นครูที่แผ่เสน่ห์อันสง่างามบนทุกเส้นทาง
ห้องโดยสารที่เงียบสงบดุจห้องสวีทส่วนตัว (Bespoke Serenity Suite): ทั้งคันประกอบด้วยวัสดุเก็บเสียงถึง 108 ชิ้น สร้างบรรยากาศห้องโดยสารที่เงียบสงบและสะดวกสบาย เบาะนั่งแถวที่สองสามารถเอนได้ถึง 58° และเบาะแถวที่หนึ่งและสองสามารถปรับเอนราบเป็นเลานจ์ส่วนตัวระดับเฟิร์สคลาสได้เต็มรูปแบบ ช่วยให้สามารถนอนหลับพักผ่อนบนการเดินทางไกลและสร้างช่วงเวลาส่วนตัวที่ผ่อนคลาย
เบาะหนังสุดหรู (Luxurious Leather Seat): เบาะหนังพรีเมียม Semi-Aniline ที่มีผิวสัมผัสหรูหรา มอบประสบการณ์ที่นุ่มนวลและสบายให้กับผู้โดยสารทุกคน
ระบบนวด 10 จุด (10-Point Rejuvenation System): เพลิดเพลินกับโหมดการนวดสามรูปแบบ ยืดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย, ลดแรงกดทับช่วงเอว และลดความเมื่อยล้า จุดนวดที่ล้ำลึกยิ่งขึ้นมอบประสบการณ์การผ่อนคลายระดับเฟิร์สคลาส ทำให้มั่นใจได้ถึงความสบายแม้ในการขับขี่ระยะไกล
ที่พักขาสุดหรู (Plush Leg Rest): ที่พักขาสามารถปรับได้ถึง 75° และยืดไปข้างหน้าได้ 90 มม. รองรับสรีระที่หลากหลายเพื่อการรองรับต้นขาที่เหนือกว่าและลดความเมื่อยล้า
ระบบสั่งการ Relaxation Touch Command: ปรับตั้งค่าเบาะนั่งได้อย่างง่ายดายผ่านหน้าจอสัมผัสบนที่พักแขน และเปิดใช้งานโหมดสปาได้ด้วยสัมผัสเดียว สามารถควบคุมไฟสร้างบรรยากาศและระบบน้ำหอมได้อย่างราบรื่นเพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสบายส่วนตัวของคุณ
คันเกียร์คริสตัล (Crystal Shift Lever): ประดิษฐ์ขึ้นด้วยการเจียระไนอย่างพิถีพิถันถึง 160 เหลี่ยม คันเกียร์คริสตัลจะจับและหักเหแสง สร้างประกายแวววาวโปร่งแสงที่ส่องสว่างอย่างแท้จริง
Refined PHEV Performance ขุมพลัง PHEV อัจฉริยะที่ผสานสมรรถนะและประสิทธิภาพ
GAC M8 PHEV ทลายทุกข้อจำกัดของการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ล้ำสมัย ตอบสนองทันใจ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สมรรถนะที่เหนือระดับ: สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลังจากขุมพลัง 2.0T PHEV System เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 140 kW แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 134 kW แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร ให้การตอบสนองที่รวดเร็วทันใจในการออกตัว และการเร่งแซงที่นุ่มนวลแต่ทรงพลังในช่วงความเร็ว 60-120 กม./ชม. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัจฉริยะ GMC400 Hybrid Transmission ที่พัฒนาโดย GAC
พิสัยการเดินทางที่ไกลกว่าและพลังงานสองทางเลือก: หมดกังวลทุกการเดินทางด้วยพิสัยการเดินทางรวมสูงสุดถึง 1,032 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTC) และสามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน (EV Mode) ได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) มั่นใจสูงสุดด้วยเทคโนโลยี แบตเตอรี่ Magazine Battery ขนาด 25.75 kWh ออกแบบมาให้คงความเสถียรแม้ในระหว่างการชนอย่างรุนแรง ทำให้ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากกว่าที่เคย
ประสิทธิภาพอัจฉริยะและความปลอดภัยสูงสุด: มอบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 6.1 ลิตร/100 กม. (เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย) พร้อมโหมดการขับขี่อเนกประสงค์ (Versatile Driving Modes) ให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ ทั้ง Pure Electric สำหรับการขับขี่ในเมือง, Intelligent Hybrid สำหรับการเดินทางไกลที่ประหยัดและมีสมรรถนะสูง และ Intelligent Charge Hold เพื่อรักษากำลังขับเคลื่อนที่มั่นคงบนทางหลวง
Live the Masterpiece Moment ตอบสนองทุกบทบาทของชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ
GAC M8 PHEV ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวเคลื่อนที่ระดับ First Class ที่พร้อมปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทุกกิจกรรมและทุกไลฟ์สไตล์

พื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้ดั่งใจ (Dynamic Space): เบาะนั่งแถวที่สองมาพร้อมรางเลื่อนไฟฟ้าแบบยาวพิเศษถึง 480 มม. และแถวที่สามเลื่อนได้ 220 มม. ทำให้การปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อดูแลบุตรหลานหรือเพื่อความสะดวกสบายเป็นไปอย่างง่ายดาย พร้อม ห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ (Grand Cargo Trunk) ที่ขยายความจุได้สูงสุดถึง 1,500 ลิตรเมื่อพับเบาะทุกแถวราบ ตอบโจทย์ทั้งทริปพักผ่อนของครอบครัวใหญ่และการเดินทางเพื่อธุรกิจ

เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความสะดวกสบายและง่ายดาย: มาพร้อม โต๊ะพับอเนกประสงค์ (Executive Floating Table) ที่พนักพิงเบาะแถวสอง และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ L2 (L2 Intelligent Assisted Driving) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้า, ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking Assist) ที่ทำให้การจอดในที่แคบเป็นเรื่องง่าย และ ระบบถอยจอดตามรอยเส้นทาง (Reverse Tracking System) ที่ตัวรถสามารถถอยหลังตามเส้นทางเดิมได้อัตโนมัติไกลถึง 50 เมตร

Mr. Andrew Wang ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การมาถึงของ M8 PHEV ในวันนี้ คือการตอบสนองต่อทุกความคาดหวังด้วยงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งเกิดขึ้นจากความสำเร็จของ GAC ในตลาดโลกที่เติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจ ด้วยยอดขายสะสมของรถยนต์ MPV กว่า 700,000 คันทั่วโลก และการครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ MPV ระดับพรีเมียมของจีนติดต่อกันถึง 70 เดือน การเปิดตัวครั้งนี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในการเดินทางของเรา ที่จะเติบโตและสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนไปพร้อมกับประเทศไทย ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการสนับสนุนที่มีให้เราเสมอมาครับ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
กรุงศรี ออโต้ ชวนไข 5 ความเชื่อเรื่องสินเชื่อรถยนต์

การเป็น “เจ้าของรถยนต์” คือหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายคน แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ขั้นตอนของการซื้อรถ หลายคนกลับต้องเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับ “สินเชื่อรถยนต์” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งรายได้ อัตราดอกเบี้ย หรือขั้นตอนในการยื่นกู้ ซึ่งบางครั้งแหล่งข้อมูลที่ได้ทั้งจากคนรอบตัว หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อาจสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน จนทำให้เกิดความสับสน ลังเลใจ จนอาจไม่กล้าตัดสินใจซื้อรถในที่สุด
ด้วยเหตุนี้ “กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จึงชวนไขข้อข้องใจกับ 5 เรื่องเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ที่มักถูกตั้งคำถาม เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังวางแผนซื้อรถคันใหม่ หรือมองหาทางเลือกด้านการเงิน มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
ความเชื่อที่ 1: ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่สามารถขอสินเชื่อรถยนต์ได้
ความจริง: แม้จะไม่มีสลิปเงินเดือน แต่ผู้มีรายได้ประจำจากการประกอบอาชีพอิสระ ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ได้ หากมีเอกสารแสดงถึงที่มาของรายได้จากการประกอบอาชีพที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ โดยเอกสารประกอบที่สถาบันการเงินส่วนใหญ่ใช้ในการพิจารณา ได้แก่ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) สัญญาจ้างงาน ใบเสร็จรับเงิน หนังสือรับรองรายได้ หรือเอกสารทางภาษี เช่น แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) นอกจากนี้ การมีบัญชีออมทรัพย์ที่มีรายได้ฝากประจำอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี และมีเงินคงเหลือในบัญชีประมาณ 2-3 เท่าของค่างวดที่ต้องผ่อน ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณา เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้เช่นกัน
ความเชื่อที่ 2: การกู้แพงกว่าการซื้อเงินสด
ความจริง: แม้ว่าการซื้อรถด้วยเงินสดอาจดูเหมือนเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า เพราะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากราคาขาย แต่หากมองในมุมของการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน อาจพบว่าการใช้สินเชื่อรถยนต์ในบางกรณีสามารถสร้างความยืดหยุ่นได้มากกว่า เพราะการนำเงินก้อนทั้งหมดไปซื้อรถในทันที อาจทำให้ไม่มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือนำไปต่อยอดลงทุนในโอกาสอื่น ขณะที่การเลือกใช้สินเชื่อ หากวางเงินดาวน์ในสัดส่วนที่เหมาะสม ผ่อนชำระในระยะเวลาที่ไม่ยาวเกินไป หรือเลือกโปรโมชันที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของรถได้โดยไม่กระทบต่อแผนการเงินโดยรวม
ความเชื่อที่ 3: สามารถยื่นกู้ได้เพียงครั้งเดียว หากไม่ผ่านจำเป็นต้องรอปีหน้า
ความจริง: การขอสินเชื่อไม่ผ่านในครั้งแรก ไม่ได้หมายความว่าต้องรอนานถึง 6 เดือนหรือ 1 ปีก่อนจะยื่นใหม่ได้อีกครั้ง เพราะในความเป็นจริงแล้ว กำหนดระยะเวลาการยื่นซ้ำขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน และในหลายกรณี ผู้ขอสินเชื่อสามารถยื่นใหม่ได้ทันทีหลังจากปรับปรุงข้อมูลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มเอกสารรายได้จากช่องทางเสริม หรือเลือกประเภทรถยนต์ที่มีระดับความเสี่ยงต่ำกว่าเดิม เป็นต้น ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าสินเชื่อรถยนต์จะไม่สามารถยื่นในรูปแบบกู้ร่วมได้ แต่การมีผู้ค้ำประกันที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ก็สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ ปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ ได้เปิดรับการยื่นขอสินเชื่อในรูปแบบ กู้ร่วม สำหรับบุคคลใกล้ชิดภายในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในที่อยู่เดียวกัน และมีความต้องการใช้รถร่วมกันในครัวเรือน ซึ่งช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
ความเชื่อที่ 4: การรีไฟแนนซ์รถจำเป็นต้องรอผ่อนครบก่อน
ความจริง: รถที่ยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระสามารถนำมารีไฟแนนซ์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผ่อนครบตามสัญญาเดิม โดยการดำเนินการสามารถเริ่มต้นได้จากการสอบถามยอดปิดบัญชีทั้งหมดจากผู้ให้บริการสินเชื่อเดิม เพื่อทราบค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระหากต้องการปิดสัญญาก่อนกำหนด หลังจากนั้น เจ้าของรถสามารถนำข้อมูลไปยื่นขอพิจารณาสินเชื่อเพื่อคนมีรถกับผู้ให้บริการรายใหม่ และเปรียบเทียบเงื่อนไข หากข้อเสนอที่ได้รับสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน ก็สามารถเริ่มกระบวนการรีไฟแนนซ์ได้ทันที ทั้งนี้ “คาร์ฟอร์แคช” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้ในการรีไฟแนนซ์ ขณะที่รถยังอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระ เพื่อลดภาระค่างวดรายเดือนลง และมีเงินก้อนไปเสริมสภาพคล่อง โดยที่ยังมีรถใช้ได้ตามปกติ
ความเชื่อที่ 5: ขายรถที่ยังผ่อนไม่หมดให้คนอื่นไม่ได้
ความจริง: รถยนต์ที่ยังอยู่ในสัญญาเช่าซื้อสามารถดำเนินการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ หรือโอนกรรมสิทธิให้ผู้อื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องปิดบัญชีสินเชื่อก่อน โดยข้อกำหนดทั่วไปคือ ผู้เช่าซื้อเดิมจำเป็นต้องผ่อนชำระค่างวดมาแล้วอย่างน้อย 1 ใน 4 ของจำนวนงวดทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่า 12 งวด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการสินเชื่อกำหนด จึงจะสามารถเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผู้เช่าซื้อได้ ในขั้นตอนนี้ ผู้ซื้อรายใหม่จะต้องเข้ารับการพิจารณาคุณสมบัติเหมือนการยื่นขอสินเชื่อใหม่ และเมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว จึงจะสามารถรับผิดชอบการผ่อนชำระค่างวดที่เหลือต่อจากผู้เช่าซื้อเดิมอย่างถูกต้องตามสัญญา
การนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ไม่เพียงช่วยให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทผู้นำตลาดของ กรุงศรี ออโต้ ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบที่ยั่งยืน (Krungsri Auto Sustainable Responsible Lending) เพื่อให้ลูกค้าได้รับความรู้ทางการเงินและประเมินเงื่อนไขสินเชื่อที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองอย่างแท้จริง รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงบริการสินเชื่อที่ครอบคลุมและเท่าเทียม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาระทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย
#กรุงศรีออโต้ #KrungsriAuto #สินเชื่อรถยนต์ #กู้ซื้อรถ #ผ่อนรถยนต์
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
NEW YAMAHA PG-1 Everyday Playful มันส์ทุกเดย์…เท่ทุกทาง

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เดินหน้ารุกตลาดเต็มพิกัด เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ครอบครัวครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัว “NEW YAMAHA PG-1” Everyday Playful มันส์ทุกเดย์…เท่ทุกทาง พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ภายใต้แนวคิด “Feel The Unique Experience – สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” ที่สะท้อนถึงปรัชญาของยามาฮ่าในการพัฒนารถจักรยานยนต์ที่พร้อมสนุกไปกับคุณในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมือง หรือเส้นทางที่ท้าทาย อย่างแท้จริง!

NEW YAMAHA PG-1 รถจักรยานยนต์ครอบครัวสไตล์ใหม่ Fashion Moped ที่พร้อมตอบโจทย์ ชีวิตที่ Playful สนุกในสไตล์ที่โดดเด่นได้ทุกวัน สนุกได้กับทุกเส้นทาง ไปที่ไหนก็ได้ ไปทางไหนก็ได้ และไปกับใครก็ได้ เป็นรถที่สามารถใช้ได้ในทุกๆ วัน ทั้งในวันทำงาน และวันหยุด ให้เจ้าของได้สนุกกับ PG-1 ในทุกๆ กิจกรรม พร้อมรองรับการใช้งานในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการออกไปสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างลงตัว

NEW YAMAHA PG-1 มาพร้อมกับ NEW Full Digital Speedometer เรือนไมล์ดิจิทัลดีไซน์ทรงกลม สุดคลาสสิก แสดงผลมาตรวัดครบถ้วน ชัดเจน ทั้งตัวเลขแสดงความเร็ว, วัดรอบเครื่องยนต์, ตำแหน่งเกียร์, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, ระยะทาง, อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน และไฟแจ้งการทำงานระบบเบรก ABS ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน! โดยได้รับการอัพเกรด เบรกหน้าใหม่! ที่มีระบบเบรก ABS พร้อมดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 245 มม. ช่วยลดการเกิดอาการล้อล็อก ขณะเบรกกะทันหัน ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และ ยาง Block ลายใหม่ ดอกยางใหญ่ขึ้น หน้ายางกว้าง เกาะถนนทรงตัวดี ขี่นุ่มนวล เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ไม่ว่าจะทางเรียบ หรือทางลุย ก็ขี่ได้ทุกวัน มันส์ได้ทุกเส้นทาง
NEW YAMAHA PG-1 ยังคงมาพร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวอย่าง Timeless Unique Bone Design ดีไซน์บอดี้ตามโครงสร้างเฟรม สวย โดดเด่น แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ คล่องตัวขี่สนุกทั้งในเมืองและทางลุย, Upright Handle Bar แฮนด์บาร์กว้าง ช่วยให้ทรงตัวดี และมีความสูงเหมาะกับทุกสไตล์การขับขี่, Upper Clamp Telescopic โช้คหน้าเทเลสโคปิคแบบมีแผงคอบน เสริมด้วยยางหุ้มโช้คสไตล์คลาสสิก โช้คหลังคู่ที่เพิ่มระยะยุบ ช่วยซับแรงกระแทก ทรงตัวได้ดี มันส์ได้ทุกเส้นทาง, High Ground Clearance ระยะสูงจากพื้นถึงเครื่องยนต์ 190 มม. ขี่ลุยข้ามสิ่งกีดขวางพิชิตทุกความท้าทายได้อย่างมั่นใจในทุกวัน

NEW YAMAHA PG-1 พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่ด้วย Freedom Riding Position ที่ทำให้ไม่ว่าจะขับขี่ใกล้หรือไกลก็นั่งสบาย ด้วยการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนท่าขับขี่ได้อย่างอิสระ ซึ่งมาพร้อมกับ Duo Seat ด้วยเบาะนั่งแยกส่วนหน้า-หลัง ระหว่างผู้ขับขี่กับคนซ้อน และเติมน้ำมันได้อย่างสะดวกเพียงเปิดเบาะหน้า ทำให้สามารถมันส์ไปด้วยกันกับเพื่อนคู่ใจในทุกการเดินทาง และโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ด้วย Headlight / Taillight ไฟหน้า ไฟท้าย รูปทรงโค้งมนสุดคลาสสิก มีเอกลักษณ์ เรียบเท่ ดีไซน์เข้ากับตัวรถ ให้ความสว่างที่เห็นชัดในทุกมุมมอง

โดย NEW YAMAHA PG-1 มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกันถึง 4 สีสัน คือสีฟ้า Blue Glacier, สีแดง Red Twilight, สีเทา Gray Misty และ สีน้ำตาล Brown Rockstone โดยพร้อมวางจำหน่ายด้วยราคาแนะนำที่ 57,500 บาท พร้อมเพิ่มความมั่นใจอย่างไม่จำกัดกับการรับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร มาพร้อมกับโปรโมชั่น ยามาฮ่าแคร์สุด x2 เมื่อซื้อ NEW YAMAHA PG-1 ระหว่างวันที่ 13 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568 รับประกันอุบัติเหตุชดเชยรายได้ วันละ 1,500 บาท สุดสุด 45,000 บาท สนุกได้ทุกวัน แบบไม่จำกัด จากทิพยประกันภัย เช็กรายละเอียดโปรฯ ยามาฮ่าแคร์สุดx2 เพิ่มเติมได้ที่ : Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 📞 สอบถามข้อมูลประกันภัยได้ที่ทิพยประกันภัย โทร.1736


นอกจากนี้ยังมี ACCESSORIES มันส์ทุกเดย์…เท่ทุกทาง ด้วยชุดแต่งและอะไหล่แท้จากยามาฮ่าให้เลือกแต่งเติมเพื่อความโดดเด่นและใช้งานได้อย่างเต็มสมรรถนะยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตะแกรงหน้าสีดำ – ตะแกรงหลังสีดำ – ตะแกรงด้านข้างสีดำ ที่พร้อมสำหรับการบรรทุกสัมภาระ, ชุดการ์ดแฮนด์และฝาครอบการ์ดแฮนด์ ช่วยป้องกันมือผู้ขับขีเมื่อเดินทางในเส้นทางออฟโรด และฝาครอบท่อสีเงินที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและป้องกันความร้อนจากท่อไอเสีย
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ “NEW YAMAHA PG-1” Everyday Playful มันส์ทุกเดย์…เท่ทุกทาง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ และสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่
Website: www.yamaha-motor.co.th
Facebook: Yamaha Society Thailand
Instagram: @yamahasocietythailand
Youtube: Yamaha Society Thailand#มันส์ทุกเดย์เท่ทุกทาง #EverydayPlayful #YamahaPG1 #ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ #YamahaRevsYourHeart #YamahaSocietyThailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine









































































































































































