• MG Primus ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรถไฟฟ้า ส่งมอบ MG IM6 ลูกค้าล็อตแรกในไทย

    1 Min Read

    MG Primus ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรถไฟฟ้า ส่งมอบ MG IM6 ลูกค้าล็อตแรกในไทย

    MG Primus ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรถไฟฟ้า จัดงานหรู “FIRST MOVE – START OF HAPPINESS “ ส่งมอบรถ MG IM6 ยนตรกรรม SUV ไฟฟ้า สุดพรีเมี่ยมให้แก่ลูกค้าล็อตแรกในไทย

    จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เบส ออโต้เซลส์ จำกัด และบริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป เปิดเผยว่า MG Primus ได้จัดงานส่งมอบรถยนต์ MG IM6 ล็อตแรก ให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบรถ SUV คูเป้ ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่องาน “FIRST MOVE – START OF HAPPINESS” ที่ MG Primus สาขาเพชรเกษม 65

    ทั้งนี้ เพื่อร่วมแสดงความยินดีและขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่น มอบความไว้วางใจในการเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ MG IM6 กับทาง MG Primus ในช่วงงาน Motor Show 2025 เมืองทองธานี พร้อมตอกย้ำความสำเร็จของ MG Primus ที่คว้าอันดับ 1 ยอดจองรถไฟฟ้าสูงสุด

    ที่สำคัญ นโยบายหลักของ “Primus Group” มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ใหม่ที่เหนือระดับ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกมิติของการบริการ และทุกแบรนด์รถยนต์ในเครือของเรา ซึ่งการจัดงานในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งในการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษและความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่ก้าวสู่ครอบครัว MG Primus ทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง MG Primus และลูกค้า เพื่อการดูแลในทุกบริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    “ซื้อรถอะไร ไม่สำคัญเท่าซื้อกับใคร เพราะเราเชื่อว่า การซื้อรถ 1 คัน ไม่ใช่ดูเรื่องโปรโมชั่นแคมเปญเท่านั้น หากต้องดูในเรื่องการให้บริการและการดูแลเอาใจใส่ของดีลเลอร์แต่ละแห่ง เพราะเราต้องใช้รถเป็นเวลาหลายปี ดังนั้น การส่งมอบรถในวันนี้ จึงเป็นการแสดงความตั้งใจจริงของ MG Primus ที่จะส่งมอบ

    ประสบการณ์ที่ดีในการใช้รถ ความประทับใจในการดูแลลูกค้าด้านการขายและบริการหลังการขายของทีมงานเรา รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นสำหรับลูกค้าในอนาคต เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ใหม่ ตามคำขวัญ คือ “เรื่องรถ ให้ไพรม์มัสดูแล”

    นอกจากนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษ IM6 in Depth โดยได้รับเกียรติ “กิตติพัฒน์ สุนทรสัจบูลย์” ผู้จัดการอาวุโส แผนก Business Management & Sales Training บริษัท เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ ร่วมนำเสนอข้อมูลและวิธีการใช้งาน MG IM6 แบบเจาะลึก เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    “มาโนช เพียรพิชยพงศ์” ลูกค้า MG IM6

    “ผมได้ทดลองขับรถ MG IM6 ในงาน Motor Show แล้ว รู้สึกประทับใจในสมรรถนะ โดยเฉพาะช่วงล่างที่เกาะถนน และให้ความนุ่มนวลเหมือนกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และที่สำคัญ คือ การรับประกันตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ชุดมอเตอร์และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ทำให้เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้น และการที่เลือกซื้อกับทาง MG Primus ที่สาขาเพชรเกษม แม้จะไกลจากบ้านที่อยู่ย่านมีนบุรี แต่ด้วยพนักงานขายดูแลเป็นอย่างดี และผมเป็นลูกค้าของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคยใช้บริการที่ “เบนซ์ไพรม์มัส” สาขาเลียบด่วน รู้สึกประทับใจ และมั่นใจในเรื่องการบริการและการดูแลลูกค้าของกลุ่ม Primus Group ทำให้ผมตัดสินใจเลือก MG IM6 จากที่นี่”

     “ครอบครัวบุญสิริสกุล” ลูกค้า MG IM6

    “ปัจจุบันโลกมีการพัฒนาและกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องปรับเปลี่ยนตามโลก ด้วยการหันมาใช้รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีไฮเทค อย่างรถพลังงานไฟฟ้า แทนการใช้รถน้ำมัน ผนวกกับ IM6 มีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย ถูกใจเรามาก หลังจากทดลองขับแล้ว ชอบเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัยกับการใช้งานที่ง่าย ทั้งราคาจับต้องได้ ประกอบกับบริษัทในกลุ่มไพรม์มัสมีความมั่นคง เราจึงเชื่อมั่นและเลือกซื้อ MG IM6 กับทาง MG Primus


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Honda Marine ร่วมขบวนบุญ พายเรือเพื่อน้อง ระดมทุนสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษทองผาภูมิ

    1 Min Read

    Honda Marine ร่วมขบวนบุญ พายเรือเพื่อน้อง ระดมทุนสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษทองผาภูมิ

    Honda Marine ร่วมขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคม จับมือเพจ ‘อีจัน’ จัดกิจกรรมพายเรือคายัค Honda Jonny Boat โดยรายได้จากค่าร่วมทริป 990 บาทต่อคน ได้ถูกรวบรวมและสมทบยอดบริจาค รวมเป็นจำนวนกว่า 1.5 ล้านบาท เพื่อมอบให้ “โรงเรียนเด็กพิเศษทองผาภูมิ” จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับใช้ในการสร้างอาคารเรียน จัดหาสื่อการเรียนรู้ และสนับสนุนการดูแลเฉพาะทางสำหรับเด็กพิเศษในพื้นที่ห่างไกล

    การสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของ ไทยฮอนด้า และ Honda Marine ที่มุ่งส่งเสริมโอกาสและคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดาร ซึ่งขาดแคลนการเข้าถึงระบบการศึกษาและการดูแลด้านพัฒนาการอย่างเหมาะสม ซึ่งไทยฮอนด้าเชื่อว่ายานพาหนะไม่เพียงแต่พาผู้คนไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่ยังสามารถเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงชีวิต โดยเฉพาะกับเด็กพิเศษที่ต้องการการดูแลและการเข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ การสนับสนุนโครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจขององค์กรในการใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ เพื่อพาโอกาสไปถึงพื้นที่ที่โอกาสเข้าไม่ถึงอีกด้วย

    ไทยฮอนด้า ขอชวนทุกคนมาร่วมสร้างโอกาสให้เด็กพิเศษ ผ่านการสร้างศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาญจนบุรี หน่วยบริการทองผาภูมิ ที่อำเภอทองผาภูมิ และพื้นที่ 3 อำเภอใกล้เคียง สามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ โอกาสไม่ได้รอใคร แต่เราสร้างมันได้ เพื่อเด็กพิเศษ » อีจัน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • GAC AION ประกาศเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง “AION UT” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะครบครัน 

    1 Min Read

    GAC AION ประกาศเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง “AION UT” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะครบครัน  เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่และเปิดบทใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดไทย

    พบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ของ AION UT รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก GAC Group บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก โดย AION UT ถือเป็นแบรนด์ยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำจากประเทศจีน ภายใต้แนวคิดLet’s Play” ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผู้รักอิสระ ชอบความสนุก และมองหานวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับทุกการเดินทาง

    AION UT มาพร้อมดีไซน์ Futuristic Minimalism แรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมเสริมด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ระดับ L2 และฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็วจาก 30%-80% ในเวลาเพียง 24 นาทีและวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

    AION UT เป็นตัวแทนของความทันสมัยและเทคโนโลยี ในงาน Bangkok Motor Show ปีนี้ เราสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้ ติดอันดับที่ 2 ในหมวดแบรนด์พลังงานใหม่ และอันดับที่ 3 ในบรรดาแบรนด์รถยนต์ทั้งหมด ด้วยยอดสั่งจอง AION UT ถึง 4,568 คัน!

    การเปิดตัว AION UT ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ One GAC 2.0 ของเรา ซึ่งเราได้ขับเคลื่อนโครงการในประเทศไทยในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น ทั้งผลิตภัณฑ์ การผลิต ช่องทางจำหน่าย บริการ และระบบพลังงาน & โมบิลิตี้ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีกว่า

    ในด้านผลิตภัณฑ์ AION UT เป็นโมเดลกลยุทธ์ระดับโลกใหม่ของ GAC ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศไทย และจะมีผลิตภัณฑ์ระดับโลกเพิ่มเติมในอนาคต เรามอบคุณค่าหลัก 3 ประการ คือ
    เทคโนโลยี: คุณค่าผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า
    การเพลิดเพลินในไลฟ์สไตล์: มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
    คุณภาพระดับชั้นยอด: เรานำมาซึ่งคุณค่าที่ยั่งยืนเกินความคาดหมาย

    ในด้านการผลิต เราจะเปิดตัวโมเดลดาวรุ่ง 2-3 รุ่นต่อปี ทั้ง EV และ Hybrid พร้อมส่งเสริมการผลิตในท้องถิ่น โดยร่วมมือกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่น อัตราการใช้ชิ้นส่วนท้องถิ่นปัจจุบันอยู่ที่ 51% และจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้

    ในด้านช่องทางจำหน่าย ภายในปี 2025 เราจะจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายมาตรฐาน ONE GAC จำนวน 80 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมตลาดสำคัญทั้งหมด เรากำลังเร่งการนำมาตรฐานการขายและบริการระดับโลก (GSSW) มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวแทนจำหน่ายและคุณภาพการบริการ

    ในด้านบริการ ในปีนี้จะมีการสร้างศูนย์บริการพรีเมียมมาตรฐาน 5 ดาวจำนวน 50 แห่ง พร้อมอะไหล่ในสต็อกท้องถิ่นกว่า 6,000 รายการ (มีพร้อมใช้ 90% สำหรับกรณีเร่งด่วน) บริการจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 2 วันสำหรับต่างจังหวัด มีช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองกว่า 300 คน พร้อมสนับสนุนศูนย์บริการแบตเตอรี่แห่งแรกของ GAC ซึ่งเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถซ่อมแซมชุดแบตเตอรี่ โมดูล และเซลล์ในทุกระดับได้

    ในด้านระบบพลังงานและโมบิลิตี้ GAC เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวจากจีนที่มีระบบนิเวศพลังงานครบวงจรในต่างประเทศ โดยดำเนินการสถานีชาร์จ 58 แห่งแล้ว ผ่านแผน “ร้อยเมือง พันเครื่องชาร์จ” และ “ร้อยร้านพลังงานแสงอาทิตย์” ร่วมกับพาร์ทเนอร์และเรายังสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้าน EV อีกด้วย

    AION UT คือนิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์สะท้อนตัวตนอย่างแท้จริง มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย ภายใต้แนวคิด “Futuristic Minimalism” ซึ่งผสานระหว่างความล้ำยุคและความเรียบง่ายอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่คมชัด พร้อมเส้นสายของตัวรถที่เฉียบคม ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    โดย AION UT มาพร้อม 4 จุดเด่น ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้าดังนี้

    จุดเด่นที่ 1 : UTmost Design

    Milan Design Aesthetics

    แรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย เปลี่ยนทุกการเดินทางให้มีสไตล์เหนือระดับ พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม

    Winky Headlight

    แรงบันดาลใจจากดวงตาที่เปล่งประกายและสง่างาม เส้นสายที่โค้งไหลลื่นสะท้อนความล้ำสมัย เสมือนดวงตาที่มีชีวิต มอบเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความมีชีวิตชีวาให้กับทุกเส้นทาง

    Matrix Cube Light

    ไฟเลี้ยวหน้าและไฟท้ายทรงคิวบิก โชว์ดีไซน์ที่ผสานเทคโนโลยีกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว โดดเด่นสะกดทุกสายตา

    จุดเด่นที่ 2 : UTmost Comfort

    Playground Cabin Comfort Space

    ห้องโดยสารแถวหลังมีพื้นที่กว้างถึง 1,385 มม. พร้อมพื้นที่วางขาที่สะดวกสบายมากขึ้นถึง 905 มม.รองรับผู้โดยสาร 3 คนได้สบายๆ กว้างขวางเกินคาดหมาย

    Transformable Seat

    สนุกกับการปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องโดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลังได้ตามความต้องการ หรือเลือกเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นเตียงขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ผสานความสนุกสนานเข้ากับประโยชน์ใช้สอยสูงสุด

    Butterfly-shaped Seat

    สัมผัสประสบการณ์ความสบายด้วยเบาะรูปทรงผีเสื้อ โอบรับทุกสัมผัสได้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย

    จุดเด่นที่ 3 : UTmost Tech

    L2 Intelligent Driving

    ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

    • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
    • เซนเซอร์กะระยะ ด้านหน้า 4 จุด / ด้านหลัง 4 จุด
    • ระบบ AUTOHOLD
    • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
    • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
    • ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
    • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
    • ปิดเครื่องและปลดล็อคด้วยสัมผัสเดียวหลังจากการชน
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC with Stop & Go)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
    • ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
    • ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
    • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
    • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน (ELKA)

    Voice Control

    ระบบสั่งการด้วยเสียง รองรับ 2 ภาษา (ไทย / อังกฤษ) รับคำสั่งได้ทั้งจากผู้โดยสารแถวหน้าและแถวหลัง เพื่อความสะดวกสูงสุด

    จุดเด่นที่ 4 : UTmost Safety

    Global Safety Standard

    ออกแบบตัวถังให้มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง คิดเป็น 71% ของตัวถัง พร้อมหลังคาที่สามารถรองรับแรงกดได้ถึง 7 ตัน

    Magazine Battery 2.0

    แบตเตอรี่ล้ำสมัยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทนทานต่อการบิดตัว 180 องศา โดยไม่เกิดประกายไฟหรือความร้อนสะสม

    Long Driving Range

    AION UT ขับสบาย เดินทางระยะไกลไร้กังวล พัทยา-โคราช ไป-กลับได้แบบไม่ต้องชาร์จระหว่างทาง มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ดังนี้

    • AION UT Standard ระยะทางวิ่งสูงสุด 420 กม. มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 26 kWh
    • AION UT Premium ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 00 kWh

    Fast Charge

    รองรับการชาร์จเร็วจาก 30%-80% ในเวลาเพียง 24 นาที

    ภายในห้องโดยสารของ AION UT ได้รับการออกแบบอย่างประณีต เพื่อตอบสนองทั้งด้านความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยมาพร้อมแผงหน้าปัดแบบ Full Digital ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันปรับไฟฟ้า และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (ในรุ่น Premium) เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับและผู้โดยสาร


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มาสด้าชวนลูกค้าร่วมค้นหาความสุขและสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านปรัชญา “JOY DRIVES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต”

    1 Min Read

    มาสด้าชวนลูกค้าร่วมค้นหาความสุขและสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านปรัชญา “JOY DRIVES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต”

    ภายใต้ความสับสนวุ่นวายในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กำลังเกิดขึ้น หลายคนกังวลใจกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน มาสด้าเชิญชวนลูกค้าออกมาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจและค้นหาความสุขในแบบของตนเอง เพราะมาสด้าเชื่อว่าในทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเราเสมอ เฉกเช่นเดียวกับมาสด้าที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยปรัชญา “JOY DRIVES LIVES” หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต สื่อสารถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ และมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์การใช้ชีวิต

    นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนวัตกรรมดิจิทัล บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าเชื่อเสมอว่าความสุขคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต ​​เราจึงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ความสุขให้กับผู้คนในทุกช่วงเวลาและพร้อมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อค้นพบความสุขที่มากกว่าการขับขี่ในทุกเส้นทาง ให้ทุกรายละเอียดของชีวิตมีความสุขขับเคลื่อนเสมอ นั่นคือที่มาของปรัชญาใหม่ของแบรนด์ “JOY DRIVES LIVES” หรือความสุขขับเคลื่อนชีวิต เพื่อให้มั่นใจว่าทุกครั้งที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาสด้าจะนำมาซึ่งคุณค่าและความสุข เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นหัวใจหลักในการสร้างความเชื่อมโยง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ มาสด้าจึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Customer Experience Management หรือการบริหารประสบการณ์ลูกค้าที่มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถมาสด้า ที่ไม่ได้มีเพียงการขับขี่ที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์ในทุก ๆ Touchpoint เริ่มตั้งแต่การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านระบบออนไลน์ไปจนถึงประสบการณ์ที่ได้สัมผัสจากผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่

    ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าและผู้คนได้ตระหนักถึงรายละเอียดความสุขเล็ก ๆ รอบตัว ตลอดจนมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยมีรถยนต์มาสด้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกประสบการณ์ เพื่อถ่ายทอดหลักปรัชญาการทำงาน สร้างความรักความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า ตามแนวทางการบริหารงานที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง (Customer Centric) สิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดลงไปในทุกองค์ประกอบของการทำงาน เพราะมาสด้าเชื่อว่า “ความสุขในการขับขี่รถยนต์” (Joy of Driving) จะนำไปสู่ “ความสุขในการใช้ชีวิต” (Joy of Living) และมาสด้าตั้งใจส่งมอบความสุขเหล่านี้ไปยังลูกค้าทุกคน จะดีกว่าไหมถ้าคนเราค้นพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางโดยในบางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ลองหยุดพักจากการรอคอยความสุขที่ยิ่งใหญ่หรือสิ่งที่หวังไว้ในอนาคต แล้วมาเติมเต็มชีวิตด้วยความสุขเล็ก ๆ ที่เราก็สร้างขึ้นเองได้ เพื่อให้ทุกวันขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและใช้ชีวิตให้มีความหมายตามแบบฉบับของตนเอง

    ดังนั้น มาสด้าจึงถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินชีวิตของครอบครัวอันแสนอบอุ่น ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง Joy Drives Lives เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมองหาความสุขในรายละเอียดของชีวิต และต่อยอดด้วยการมุ่งเน้นความเชื่อที่ว่า ความสุข คือพลังขับเคลื่อนชีวิต มาสด้าจึงสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการขับขี่ แต่เป็นการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความสุขในทุกช่วงเวลา ดังนั้น เพื่อสื่อสารแนวคิดนี้ให้ชัดเจนขึ้นจึงได้นำเสนอบทเพลง “Joy is in the details” บอกเล่าเรื่องราวจากหิ่งห้อยตัวน้อยผ่านสถานการณ์ของผู้คนต่าง ๆ หลากหลายมิติ เช่น การใช้เวลากับครอบครัวหรือคนรัก การก้าวข้ามขีดจำกัด และการนึกถึงอดีตที่น่าจดจำ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ล้วนดูธรรมดา แต่หากมองลึกลงไปในอริยาบททุกคนล้วนมีรอยยิ้มและกำลังมีความสุขในชีวิต

    “บางครั้งความสุขอาจเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่มาสด้าเชื่อว่าเราจะค้นพบด้วยตัวเองได้ เพียงลองมองลึกลงไปในรายละเอียด เราอาจพบความสุขที่อยู่ระหว่างทางที่บางครั้งอาจถูกมองข้ามไป ในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าได้ทำการสำรวจสถิติคนไทย ผ่านแบบทดสอบ Mazda Joy Research เพื่อทำความเข้าใจความสุขในรูปแบบต่าง ๆ ตามด้วยการสร้างการรับรู้ในความหมายใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พบว่า คนไทยกว่า 2 ใน 3 จากกลุ่มตัวอย่าง มีความสุขน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ เพราะเราสร้างเงื่อนไขการมีความสุขด้วยการผูกมัดไว้กับความคาดหวัง มาสด้าจึงได้สร้างความตระหนักถึงว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง และสร้างความเชื่อมโยงต่อการสื่อสารเพื่อให้เห็นรายละเอียดความสุขในชีวิต” นายภพนิพิฐ กล่าวเสริม

    สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตามการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและบทเพลงอันไพเราะอันลึกซึ้งที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ JOY DRVIES LIVES ความสุขขับเคลื่อนชีวิต รวมถึงการออกไปค้นหาความสุขของคุณร่วมกับแบรนด์มาสด้า สามารถกดเข้าผ่านลิงค์ดังต่อไปนี้


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ไปกับ TOYOTA ALIVE และพบความน่ารักเกินต้านของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ความสุขอีกมากมาย

    2 Min Read

    ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ไปกับ TOYOTA ALIVE และพบความน่ารักเกินต้านของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่  พร้อมส่งมอบประสบการณ์ความสุขอีกมากมาย  

    TOYOTA ALIVE ศูนย์รวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์และศูนย์ทดสอบรถยนต์ของโตโยต้า พร้อมขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ กับการแนะนำกิจกรรมทดลองขับสุด EXCLUSIVE ภายใต้ชื่อ กิจกรรม “Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense” และ กิจกรรม “Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4 x 4” ในทุกวันอังคารและพุธ ตลอดปี 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการของโตโยต้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ให้เต็มอิ่มกับข้อมูลรถโตโยต้า ควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์ขับขี่ที่คุณพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง

             นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านต้อนรับความสดใสเต็มพิกัดของมาสคอตสมาชิกใหม่ของ TOYOTA ALIVE “น้อง HEARTY ออกแบบมาในรูปหัวใจพร้อมคาแรคเตอร์กระฉับกระเฉง สื่อถึงโตโยต้าที่พร้อมดูแลลูกค้าทุกเจนด้วยใจบริการ มาพร้อม เพลง I Feel Alive ทีมีเนื้อหา ท่วงทำนองน่ารัก กับความหมายดีๆ ภายใต้กิจกรรม LET’s DRIVE WITH HEARTY ในวันที่ 22 มิถุนายน 2568TOYOTA ALIVE ถนนบางนา-ตราด กม.3 พร้อมเชิญชวนร่วมสนุกกับ TIKTOK CHALLENGE ลุ้นรับรางวัลกับท่าเต้นประจำตัว และเพลง I Feel Alive ของ HEARTY

    TOYOTA ALIVE คือ Lifestyle Community หรือ ศูนย์รวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ และศูนย์ทดสอบรถยนต์ของโตโยต้า ที่พร้อมเชื่อมโยงและใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการแบบครบวงจร เปิดให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้บริการอย่างใกล้ชิดภายใต้ แนวคิด Closer to Customer” บนพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร พร้อมสนามทดสอบรถมาตรฐาน รวมทั้งสิ้นกว่า 48,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่กิจกรรมเปิดบริการในทุกวันตั้งแต่ 08:30 – 18:00 น. และ TOGETA CAFÉ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 07:30 – 18:00 น.

     

     

    ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ กับ TOYOTA ALIVE พบกิจกรรมใหม่

    ทั้งคอร์สทดลองขับรถพิเศษ และมาสคอตสุดน่ารัก “น้อง HEARTY”

     

    คอร์สทดลองขับรถโตโยต้าพิเศษ กับกิจกรรม “Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense” และ “Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4×4”

    โดย INSTRUCTOR มืออาชีพ ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสสมรรถนะรถยนต์โตโยต้า ในวันอังคารและพุธ เวลา 9:30-11:30น. ตลอดปี 2568 ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมนี้เป็นต้นไป

    • Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense

    เปิดคอร์สพิเศษรับเพียง 20 ท่านต่อรอบ  

    ให้ข้อมูลระบบ Toyota Safety Sense เชิงลึก พร้อมทำความรู้จักรถยนต์โตโยต้าไฮบริดหลายรุ่น เต็มเวลากับการพูดคุยตอบทุกคำถาม มอบประสบการณ์การขับขี่จากการจำลองสถานการณ์จริง ที่คุณอาจพบเจอ พร้อมลองทดสอบฟังก์ชันการใช้งานจริง ให้คุณได้มั่นใจที่สุดกับทุกการใช้งานด้วยตัวคุณเอง

    • Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4 x 4

    เปิดคอร์สพิเศษรับเพียง 10 ท่านต่อรอบ  

    พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ทุกฟังก์ชันการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อย่างเต็มอิ่ม พิสูจน์ระบบส่งกำลัง 4 x 4 ในรถสมรรถนะเยี่ยมอย่าง FORTUNER และรถกระยะยอดนิยมสุดแกร่ง อย่าง HILUX REVO ทั้งบนถนนในรูปแบบ ON ROAD และสุดมันไปกับการทดสอบจริงในสนาม OFF ROAD ที่พร้อมมอบประสบการณ์จริงในการใช้ระบบ 4 x 4 ให้คุณอย่างเต็มรูปแบบ

    สามารถดูตารางการจัดกิจกรรม และลงทะเบียนจองกิจกรรมทดลองขับได้แล้ววันนี้

    แนะนำมาสคอตสุดน่ารัก “น้อง HEARTY กับเพลง I feel Alive  

    พร้อมเชิญชวน ร่วมสนุกกับกิจกรรม TikTok Challenge

    พบความน่ารัก สดใสเต็มพิกัด ของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่ ออกแบบมาในรูปหัวใจพร้อมคาแรคเตอร์กระฉับกระเฉง สื่อถึงโตโยต้าที่พร้อมดูแลลูกค้าทุกเจนเด้วยใจบริการ ที่ TOYOTA ALIVE ออกแบบผ่านคอนเซปต์ ดังนี้

    1. หัวใจแห่งแรงบันดาลใจ น้อง HEARTY ได้รับการอออกแบบมาเป็นรูปหัวใจ สื่อถึงตัวแทนของ TOYOTA ALIVE ที่มีใจบริการ พร้อมตอบรับทุกแรงบันดาลใจของทุกคนที่เข้ามา TOYOTA ALIVE สถานที่ที่เปิดรับความท้าทายและสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างพลังบวกให้กับทุกการเดินทางของคุณ
    2. หัวใจที่เปิดกว้าง TOYOTA ALIVE บ้านของ HEARTY เป็นพื้นที่กว้างขวาง เชื่อมโยงทุกเจเนอเรชัน ทั้งครอบครัวและคนรุ่นใหม่ พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยกิจกรรมความสนุกหลากหลายรูปแบบ และบริการรถทดลองขับที่ครบครันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
    3. หัวใจที่พร้อมบริการ ที่ TOYOTA ALIVE คุณจะได้รับบริการด้วยใจจากทีมงานมืออาชีพและน้อง HEARTY ที่คอยต้อนรับและเติมเต็มประสบการณ์ให้คุณประทับใจในทุกครั้งที่มาเยือน

     

     

    นอกจากนี้ น้อง HEARTY ยังมาพร้อมเพลงประจำตัว ในชื่อ I feel Alive ที่มีเนื้อร้องสื่อความหมายดีๆ พร้อมท่าเต้นเก๋ๆ ที่ทุกคนสามารถเต้นตามได้ง่ายๆ

     

    รวมทั้ง ผู้ที่สนใจยังสามารถร่วมสนุกง่ายๆกับกิจกรรม TikTok Challenge เพียงอัดคลิปตัวเองเต้นตาม แล้วโพสต์ลง TIKTOK พร้อมติดแฮชแท็ก #HEARTYDANCECHALLENGE #TOYOTAALIVE โดยผู้ที่ได้ยอดหัวใจสูงสุด จะได้รับของรางวัลเป็น บัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ประกาศผลผู้ได้รับรางวัลในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ผ่านช่องทาง เฟสบุคที่ https://www.facebook.com/toyotaalive

     

     

    บริการอื่นๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจน

    • PRODUCT SHOWCASE จัดแสดงรถรุ่นใหม่ๆ และรถรุ่นพิเศษหลากหลายตลอดปี ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หรือรถรุ่นพิเศษต่างๆ /รถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล GR / รถที่ใช้แข่งขันในรายการมอเตอร์สปอร์ต หรือรถ LIMITED EDITION
    • สถานี ALIVE CHARGE พร้อมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR โดยมีด้วยหัวชาร์จ AC จำนวน 2 หัว ความแรงอัดประจุที่ 22kW ต่อชั่วโมง และหัวชาร์จ DC จำนวน 2 หัว ความแรงอัดประจุที่ 120kW ต่อชั่วโมง อัตราค่าบริการ การชาร์จ ช่วง On-peak อยู่ที่ 70 บาท/kW และช่วง Off-peak อยู่ที่ 6 บาท/kW สำหรับลูกค้าที่สนใจใช้บริการ สามารถจองเพื่อใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    • TOGETA CAFE’ คาเฟ่เครื่องดื่ม หอมละมุมกาแฟจากโครงการพระราชดำริ “สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์” โดย TOGETA COFFEE ดำเนินการภายใต้แนวคิด “กาแฟดี ป่าดี และชุมชนดี” จากความตั้งใจของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่มีความมุ่งหวังจะส่งเสริมกาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเกษตรกร
    • กิจกรรม Entertainment เติมเต็มความสนุกตลอดปี อัพเดทกิจกรรมสดใหม่ในแต่ละไตรมาส พบกับศิลปินที่เป็นกระแสและที่เป็นที่ชื่นชอบ กิจกรรม DIY Kid zone ถ่ายรูปสติกเกอร์ และอื่นๆ แบบไม่ซ้ำตลอดทั้งปี

    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ แบงค็อก ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยบนเวทีระดับภูมิภาคในงาน Asia Pacific Property Awards 2025

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยบนเวทีระดับภูมิภาคในงาน Asia Pacific Property Awards 2025

    เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับภูมิภาคด้วยการจัดแสดงยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์ รุ่น New Continental GT Speed ในงาน Asia Pacific Property Awards 2025 ให้เหล่าผู้ร่วมงานจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ยลโฉมกันอย่างใกล้ชิด ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันที่ 15 – 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา

     

    สำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ นอกเหนือจากการร่วมเชิดชูความเป็นเลิศด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยและร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของธุรกิจไทยบนเวทีระดับสากลแล้ว ยังถือเป็นการสานต่อแนวทางของแบรนด์ด้านที่อยู่อาศัย หรือ Real Estate ที่เป็นอีกหนึ่ง Passion Points ที่สำคัญของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์แบบเต็มรูปแบบ ในการนี้ได้มีการนำยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ล่าสุดอย่าง New Continental GT Speed มาถ่ายทอดความหรูหราและการออกแบบที่สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับโลก ซึ่งการจัดแสดงสุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ได้สร้างสีสันและดึงดูดแขกผู้ร่วมงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ได้สัมผัสกับความงดงาม ความหรูหรา และความประณีตที่บรรจงรังสรรค์ลงบนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบเดี่ยว กระจังหน้า ไฟท้าย และสปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น พร้อมกับภายในห้องโดยสารที่ได้รับการตกแต่งด้วย Dark Chrome สีเข้ม ขนานไปกับการออกแบบอย่างวิจิตรบรรจงให้มีลักษณะเสมือนรังไหมด้วยงานควิลท์แบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    เวทีการประกาศผลรางวัล Asia Pacific Property Awards 2025 จัดขึ้นโดย IPAX Asia Pacific คือ หนึ่งในงานประกาศรางวัลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยาวนานกว่า 29 ปี ครอบคลุมมากกว่า 45 ประเภทรางวัลในด้านที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพานิชย์ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอสังหาริมทรัพย์จากหลากหลายประเทศในภูมิภาคร่วมพิจารณาและตัดสินด้วยหลักเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลที่รวมไปถึงการออกแบบ คุณภาพ การบริการ นวัตกรรม ความคิดริเริ่ม และความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน สำหรับในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 800 ราย ซึ่งธุรกิจอสังหาฯและโรงแรมในประเทศไทยคว้ารางวัลไปได้มากที่สุดถึง 109 รางวัล ตอกย้ำถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในประเทศไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มินิ ประเทศไทย เปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ จัดเต็มออปชั่น พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล

    1 Min Read

    มินิ ประเทศไทย เปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ จัดเต็มออปชั่น ตามคำเรียกร้อง พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล

    มินิ ประเทศไทย เตรียมปลุกกระแสยานยนต์ไฟฟ้าให้โลดแล่นทั่วท้องถนนเมืองไทยอีกครั้ง กับการเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของ มินิ คูเปอร์ เอสอี อันเป็นเอกลักษณ์ สำหรับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ถือเป็นการก้าวสู่อีกขั้นของการพัฒนาดีไซน์และนวัตกรรม โดยยังคงประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าสุดเร้าใจ และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เจ้าของมินิคุ้นเคยเป็นอย่างดี พร้อมด้วยชุดฟีเจอร์พรีเมียมใหม่ที่พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในมิติที่เหนือกว่า พร้อมส่งมอบแล้ววันนี้ที่ผู้จำหน่ายมินิทั่วประเทศ

    นอกจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ มินิ ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ที่ได้นำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน มอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าตื่นเต้นในการเติบโตของมินิในตลาดประเทศไทย

     

    มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่

    ราคา: 1,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

     

     

    จากความสำเร็จที่โดดเด่นเมื่อปีที่แล้ว มินิ คูเปอร์ เอสอี ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการเดินทางในเมือง ก้าวขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม ด้วยการเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี รุ่น ไฮทริม โปรไฟล์ใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ครบครัน ยกระดับการขับขี่ไปอีกขั้น

     

    มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยังคงรักษาเสน่ห์ภายนอกในแบบฉบับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ที่มาพร้อมกับไฟหน้า LED ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีการยกระดับทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน ไฮไลต์ของรุ่นนี้ได้แก่ ล้อแม็กซ์ Night Flash Spoke 2-Tone ขนาด 18 นิ้ว และตัวเลือกสีใหม่สุดพิเศษอย่าง Indigo Sunset Blue ซึ่งเข้ากันกับรูปทรงที่โดดเด่นของ มินิ คูเปอร์ เอสอี ได้อย่างลงตัว มีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารของรุ่นไฮทริมโดดเด่นด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ในหลากหลายด้าน โดยผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับระบบเครื่องเสียงเหนือระดับจาก Harman Kardon และเบาะไฟฟ้าพร้อมการตั้งค่าระบบจดจำการปรับเบาะแบบไฟฟ้าและฟังก์ชั่นนวดสำหรับเบาะผู้ขับขี่ เติมความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง

    ในเรื่องของสมรรถนะ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยังคงผสานพลังกับประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ และตอบสนองเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ปลอดมลพิษ ในด้านของความจุแบตเตอรี่ รุ่นไฮทริมสามารถเดินทางได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้ เมื่อชาร์จที่สถานีชาร์จ DC แบตเตอรี่สามารถเพิ่มขึ้นจาก 10 เปอร์เซ็นต์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาที

     

    MINI Experience Modes ทั้ง 7 แบบช่วยปรับแต่งทุกการขับขี่ตามสไตล์ของผู้ขับ ปรับการแสดงผลหน้าจอกลม ไฟภายใน และเสียงให้เข้ากับประสบการณ์การขับขี่ของแต่ละบุคคล ในแต่ละโหมดมีการออกแบบพื้นหลังที่สวยงาม พร้อมการเคลื่อนไหวที่เพิ่มความสนุกโดยไม่รบกวนการขับขี่ี่ สำหรับรุ่นไฮทริมโดดเด่นด้วย MINI Navigation AR ระบบนำทางด้วยเทคโนโลยี AR ฉายวิดีโอเส้นทางของถนนแบบสมจริง ทำให้การนำทางในเมืองที่ซับซ้อนกลายเป็นคู่มือแบบเรียลไทม์ที่ใช้งานง่าย อีกทั้งยังมีผู้ช่วยส่วนตัวกับ MINI Intelligent Personal Assistant ให้ผู้ขับขี่ควบคุมมินิด้วยคำสั่งเสียง และจะแสดงผลบนหน้าจอ OLED อันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ และสำหรับคนที่ชอบหาประสบการณ์ใหม่ที่ใช้งานง่ายอยู่เสมอ MINI Connected Store เปิดให้เข้าถึงแอปพลิเคชันที่หลากหลายทั้งด้านประโยชน์ใช้สอยและความบันเทิง และมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง

     

    เพื่อยกระดับประสบการณ์พรีเมียมให้สูงยิ่งขึ้น มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการจอด Parking Assistant Plus อันทันสมัย ซึ่งประกอบด้วยกล้อง 360 องศา และระบบบันทึกการถอยจอด ทำให้การควบคุมรถและการจอดรถเป็นเรื่องง่ายดาย สำหรับความสามารถในการจอดรถที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ฟีเจอร์การจอดรถระยะไกลล้ำสมัยอย่าง Parking Assistant Professional ทำให้ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับการควบคุมและจอด มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ได้ ซึ่งมีให้บริการผ่านระบบสมาชิก (subscription)

     

    มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่าย มินิ อย่างเป็นทางการ ในราคา 1,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีสีให้เลือก 9 สี ได้แก่ สีฟ้า Icy Sunshine Blue, สีน้ำเงิน Blazing Blue, สีเขียว British Racing Green IV, สีเขียว Ocean Wave Green, สีขาว Nanuq White, สีเงิน Melting Silver, สีเหลือง Sunny Side Yellow, สีแดง Chili Red II, และสีน้ำเงิน Indigo Sunset Blue สียอดนิยมจาก มินิ แอสแมน ที่รอให้พบคันจริงครั้งแรก ที่งาน มินิ เอ็กซ์โป 2025 วันที่ 16-22 กรกฏาคม 2568 ที่ เซ็นทรัลเวิลด์

    มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ใหม่

    ราคา: 3,399,000 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)

     

     

    มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ใหม่ มอบสมรรถนะอันน่าตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยพลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์สี่สูบ TwinPower Turbo อันทรงพลัง เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรนี้สร้างพลังขับเคลื่อนถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร มอบความสนุกสนานในการขับขี่และสมรรถนะระดับสูงสุด ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อความสปอร์ต ถ่ายทอดพลังของเครื่องยนต์สู่การเปลี่ยนเกียร์ที่ไดนามิกเป็นพิเศษ ส่งผลให้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ สามารถทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ดึงดูดทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำเงาพร้อมช่องระบายอากาศในดีไซน์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และโลโก้ JCW รูปแบบใหม่ ตอกย้ำถึงสมรรถนะอันเหนือชั้น ส่วนด้านหลัง การออกแบบอันโดดเด่นด้วยท่อไอเสียวางตำแหน่งกลางภายในดิฟฟิวเซอร์สีดำ เน้นย้ำถึงความสปอร์ต ดุดัน อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์

     

    มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ใหม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีให้เลือกในสี Legend Grey (หลังคาสีแดง) Nanuq White (หลังคาสีแดง) และ Chili Red II (หลังคาสีดำ)

     

    มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่

    ราคา: 3,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)

    สัมผัสความเพลิดเพลินในการขับขี่แบบเปิดประทุนไร้ขีดจำกัดกับ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ TwinPower Turbo ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่สามารถสร้างพลังขับเคลื่อน 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร พร้อมการควบคุมระดับสูงสุด มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่นี้สามารถทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

     

    ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตแล้ว รุ่นคอนเวิร์ตทิเบิล มาพร้อมหลังคาผ้าใบ เพื่อความอิสระสูงสุดในทุกการขับขี่ หลังคาผ้าใบสามารถพับเก็บได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาเพียง 18 วินาที ที่ความเร็วสูงสุดถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคา 3,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในสี Legend Grey


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “โจอัน เมียร์” ฮึดไล่ไต่อันดับ พา “ฮอนด้า” คว้าอันดับ 11 “ก้อง-สมเกียรติ” เข้าป้ายที่ 18 โมโตจีพี มูเจลโล

    1 Min Read

    “โจอัน เมียร์” ฮึดไล่ไต่อันดับ พา “ฮอนด้า” คว้าอันดับ 11 “ก้อง-สมเกียรติ” เข้าป้ายที่ 18 โมโตจีพี มูเจลโล

    ศึก อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบ “เมนเรซ” ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ นับเป็นงานสุดท้าทายของทัพนักบิดฮอนด้า ที่เจอปัญหาการยึดเกาะเล่นงานตลอดทั้งสุดสัปดาห์ “โจอัน เมียร์” ที่ออกตัวจากกริดที่ 18 สามารถต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม กอบกู้ตำแหน่งขึ้นมาเข้าป้ายในอันดับ 11 ด้วยเวลารวม 41 นาที 32.091 วินาที ส่วนทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง “ทาคาอากิ นาคากามิ” หมายเลข 30 จบเรซในอันดับ 16

    ขณะที่ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 นักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ออกตัวจากกริดที่ 22 แต่โชคร้ายโดนโทษ “ดับเบิล ลองแล็ป เพนัลตี้” ทำให้โดนยืดออกจากกลุ่ม ก่อนฮึดสู่เข้าเส้นชัยในอันดับ 18 ด้านทีมเมทชาวฝรั่งเศสอย่าง “โยฮันน์ ซาร์โก” หมายเลข 5 พลาดล้มไม่จบการแข่งขัน

    ส่วนผลการแข่งขันในรุ่น โมโตทู “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ หมายเลข 41 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย จบเรซอันดับ 25

    ขณะที่รุ่น โมโตทรี เป็นอีกหนึ่งครั้งที่นักบิดดาวรุ่งชาวไทย “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ต่อสู้ได้ดี สตาร์ตกริดที่ 24 ไล่แซงขึ้นมาเข้าป้ายในอันดับ 17 ตามหลังผู้ชนะเพียง 11.350 วินาที เข้าใกล้อันดับที่มีแต้มเพียงไม่ถึง 1 วินาทีเท่านั้น

    ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายนนี้ ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในรายการ ดัตช์ กรังด์ปรีซ์

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V  #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #JZ5 #HondaHRC #JM36  #TN30 #IdemitsuHondaTeamAsia #Moto2 #Chip41 #HondaTeamAsia #Moto3 #TB5 #Gonz #ItalianGP


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ลุ้นกันสนุก! ศึกสองล้อประเทศไทยเดือด “มิกซ์- ธนัช” เฉือน “แสตมป์-อภิวัฒน์” คว้าโพลสนามแรก

    1 Min Read

    ลุ้นกันสนุก! ศึกสองล้อประเทศไทยเดือด “มิกซ์- ธนัช” เฉือน “แสตมป์-อภิวัฒน์” คว้าโพลสนามแรก

    ศึกสองล้อเบอร์หนึ่งของไทย “เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2025”  กระหึ่มรอบคัดเลือกด้วยสถานการณ์สุดเข้มข้น นักบิดดาวรุ่ง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส โชว์ความเร็วคว้าโพลรุ่นใหญ่ เฉือนนักบิดจอมเก๋าอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม  ด้าน “โกยุ นาคากาวะ” นักบิดญี่ปุ่นจาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ซิวโพล ซูเปอร์สปอร์ต  ก่อนลุ้นชัยชนะสนามแรกวันอาทิตย์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

     

    การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2025 ผ่านการจับเวลารอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ต วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 นับเป็นหนึ่งในรอบที่น่าสนใจในการลงสนาม โดยเฉพาะเวลาต่อรอบของรถแข่ง และนักบิดในแต่ละคลาสที่มีความเปลี่ยนแปลงอยางมาก

    ผลควอลิฟายในรุ่นใหญ่ที่สุดของไทย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (SB1 Pro) ปรากฎว่ายอดนักบิดดาวรุ่งจากฮอนด้าอย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส สร้างเซอร์ไพรส์ผงาดคว้าโพลไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 36.843 วินาที เฉือนนักบิดจอมเก๋าอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก  อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.356 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อนุชา นาคเจริญศรี จาก โปร ฮอนด้า บริดจสโตน อันเดรียนี เบนดิกซ์ เอเอ็น เรซซิ่ง ทีม ที่ปรับความเร็วได้ดีตามหลัง 0.603 วินาที ด้าน “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก ไบค์ สตอรี พีทีที ลูบริแคนท์ส ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 4 ตามหลัง 1.426 วินาที

    ขยับมาผลควอลิฟายในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี (ST1) ปรากฏว่าสถานการณ์เปลี่ยนมาเป็น นทีธาร ทองโคตร นักบิดจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส ที่ขยับขึ้นมาคว้าโพลด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.687 วินาที ตามด้วย โคลิน บัตเลอร์ นักบิดแคนาดาจาก บัตเลอร์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.423 วินาที โดยกริดที่ 3 เป็นของ ตะวัน ตั้งตรงกิจเจริญกุล จาก ทีเค ฮอนด้า อิเดมิตสึ สิทธิผล ดิเรก ทีม ตามหลัง 0.739 วินาที

     

    ด้านกริดสตาร์ตใน ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1Pro) ซึ่งถือเป็นอีกไฮไลต์ของการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ปรากฏว่าตำแหน่งโพลตกเป็นของ โกยุ นาคากาวะ นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 40.993 วินาที เฉือนทีมเมทอย่าง “ไฮเปค” กฤษฎา ธนโชติ ในกริดที่ 2 เพียง 0.278 วินาที ตามด้วย “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม คริสมาส ในกริทดี่ 3 ตามหลัง 0.647 วินาที โดยมี “จิมมี่” บูรพา วันมูล จาก อาซูจิโระ ลิควิ โมลี จิมมี เป็นอันดับ 4 ตามหลัง 2.718 วินาที และ แอเดน เถา นักบิดอเมริกันจาก ซาวิต้า ทีม เอเชีย ในกริดที่ 5 ตามหลัง 3.381 วินาที

    ขณะที่ผลควอลิฟายในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี (SS1Pro) ปรากฏว่า พชรกร ทองเกิดหลวง ดาวรุ่งชาวไทยจาก อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม คว้าโพลไปครองด้วยเวลา 1 นาที 54.506 วินาที เฉือน ธุรกิจ บัวผา จาก ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม กริดที่ 2 เพียง 0.258 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน จาก  อีสต์ เอ็นเจที พีทีที ลูบริแคนท์ส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.449 วินาที

     

    ส่วนผลควอลิฟายในรุ่น สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี ตำแหน่งโพลเป็นของ รักชิต ศรีหะรี ธาวี นักบิดอินเดียจาก ศักดิ์สิริ เรซซิ่ง ทีม บุรีรัมย์ รั้งจ่าฝูงด้วยเวลา 1 นาที 52.774 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง หนี่เถียน หนี่ จวิ้น ทีมเมทชาวจีนถึง 1.277 วินาที ตามด้วย ทัสมาย คาเรียเอปา นักบิดอินเดียจาก เน็กซ์เตอร์ ลิควิ โมลี ยามาฮ่า เอวีอาร์พี เรซซิ่ง ในกริดที่ 3 ตามหลัง 1.393 วินาที

    ทั้งนี้ ศึก เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2025 สนามแรกจะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนนี้ แฟนความเร็วห้ามพลาด กระทบไหล่นักบิด-ทีมแข่งชั้นนำ พริตตี้สาวสวย ในกิจกรรม “พิตวอล์ค” เวลา 11.40-12.10 น. พบกับ “โอม -ภวัต จิตต์สว่างดี”  และ “เซียนหรั่ง” ภูวเนตร ศรีชมภู ยูทูบเบอร์ในรายการ วิถีชีวิตแบบมะลายยายอยาก (ช่องไทบ้าน) มาร่วมปรากฎการณ์ใหม่ให้กับมอเตอร์สปอร์ตไทย ผู้ที่มีบัตรชมการแข่งขัน เข้าร่วมกิจกรรม “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”

    บัตรชมการแข่งขัน ที่นั่ง Grandstand ราคา 100 บาท / 1 วัน จุดจำหน่ายหน้าทางขึ้น Grandstand พร้อมลุ้นรับรางวัลวัลใหญ่บัตร VIP โค้ง 12 และบัตร Paddock Pass + Official Guide Tour  (Paddock Raffle) และบัตร PIT Lane Walk ชมการแข่งขันโมโตจีพี 2026 ในกิจกรรม “Chang Int’s Friend Pass”

     

    รับชมถ่ายทอดสดได้ทาง True Sports 7 ช่อง 686 วันที่ 22 มิ.ย. 2568 เวลา 14.45-17.45 น. หรือชม Live Streaming ทางเพจ Chang Circuit Buriram / BRIC Superbike และ Youtube : Chang International Circuit ตั้งแต่ 9.00 น. เป็นต้นไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025 ประกาศคืนสู่ปฏิทินมอเตอร์สปอร์ตไทย ฉลองปีที่ 19 เตรียมระเบิดความมันส์ 5 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคมนี้

    2 Min Read

    บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025 ประกาศคืนสู่ปฏิทินมอเตอร์สปอร์ตไทย ฉลองปีที่ 19 เตรียมระเบิดความมันส์ 5 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคมนี้ ขนรถแข่งแน่นสนาม ผนึกกำลัง 3 รายการซัพพอร์ตเรซ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) , Toyota GAZOO Racing Thailand และ Formula 4 South East Asia (F4SEA) เติมเต็มความเร้าใจ ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี

    มหกรรมมอเตอร์สปอร์ตสุดยิ่งใหญ่แห่งปีรายการ บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคม 2568 ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี ถือเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “REVS THE WAVE ” คลื่นความเร็วที่เต็มไปด้วยเหล่าขบวนรถแข่งกว่า 224 คัน รวมสุดยอดนักแข่งทั้งไทยและต่างชาติจาก 26 สัญชาติ ทั้งนี้ร่วมจับมือกับบรรดารายการซัพพอร์ตเรซ 3 รายการได้แก่ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) , Toyota GAZOO Racing Thailand และ Formula 4 South East Asia (F4SEA) ที่มาร่วมสร้างสีสันและเพิ่มบรรยากาศความมันส์ในสนามนี้

              โดยบริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันรายการ บางแสน กรังด์ปรีซ์ ภายใต้การรับรองโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) ซึ่งสนามบางแสนเป็นสนามแข่งรถเลียบชายหาดที่ผ่านการรับรองจาก FIA ตามมาตรฐานสากล FIA Grade 3 และยังคงจัดเต็มไฮไลท์สำคัญที่รวบรวมไว้ภายในงาน เริ่มต้นด้วยพี่ใหญ่ TSS The Super Series by B-Quik ที่อัดแน่นด้วยรถแข่ง Supercar หลากค่าย พร้อมปลุกความสนุกกันที่รุ่น TSS Supercar GT3/GTM กับลิสต์นักแข่งที่น่าจับตามองในคลาส GT3 อย่าง “ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี จับคู่ แบงค์ กันศักดิ์ กุศิริ” จากทีม Singha Motorsport Team Thailand ใช้รถแข่ง Honda NSX GT3 และการคัมแบกลงสนามบางแสนอีกครั้งของ “Gregory Bennett (เกรกเกอรี่ เบนเน็ท) ” จับคู่กับนักแข่งหน้าใหม่ในรายการที่ถือใบขับแข่งระดับ Gold จากนิวซีแลนด์ อย่าง “Christopher Van Der Drift (คริสโตเฟอร์     แวน เดอร์ ดริฟท์)” จากทีม Amerasian Fragrance by AFRacing ใช้รถแข่ง Ferrari 296 GT3  รวมถึงคลาส GTM ที่ต้องติดตามรถใหม่ประเดิมสนามนี้ครั้งแรกอย่าง Ferrari 296 จากทีม PSC MOTORSPORT ขับโดย “กี้ สราวุธ เสรีธรณกุล จับคู่กับ Afiq Yazid (อะฟิค ยาซิด)”

    ขยับเข้าสู่รุ่น TSS Supercar GT4/GTC ที่รวมรถแข่งตัวแรร์ดวลลงแทร็กชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลย ซึ่งในคลาส GT4 ก็มีรถแข่งลงดวลสนามกว่า 13 คัน และเปิดลิลต์นักแข่งฟอร์มดีจากสนามที่ผ่านมาอย่าง “บูม กันตธีร์ กุศริ จับคู่ทีมเมท คมิก กรรณสูต ” จากทีม AAS Motorsport ใช้รถแข่ง Porsche 718 Cayman GT4 และคลาส GTC พร้อมแนะนำอดีตนักแข่ง Formula1 ถือใบขับแข่งระดับ Gold ชาวอิตาลี คือ “ Gianni Morbidelli (จิอันนี่ มอร์บิเดลลี)” จากทีม TECPRO RACING ใช้รถแข่ง Ford RR Daytona GT Coupe

    ส่งไม้ต่อความเร็วให้กับน้องเล็ก B-Quik Thailand Super Series ที่บอกได้เลยว่าแต่ละรุ่นนั้นจะทำให้ทุกสายตาต้องจับจ้องด้วยรถแข่งที่เต็มกริดสนามบางแสนแน่นอน ไปลุยกันที่คลาส TH Super ECO ที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่สัญญาณไฟดับลง เปิดไลน์อัพนักแข่งที่น่าสนใจใน Class Overall กับนักแข่งหนุ่ม “เรียว วงศพัทธ์ เกตุศิริ” จากทีม Idemitsu Kinik Cusco Nexzter Team ใช้รถแข่ง Honda Brio Amaze และ Class C Plus กับนักแข่งดาวรุ่ง “อาร์ตี้ นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร” จากทีม PT Maxnitron Wise BRD Nexzter Venom secret koh kood by Rongpo Power Unit ใช้รถแข่ง Honda Brio Amaze ทั้งนี้ใน Class C ก็มีไลน์อัพนักแข่งหญิงฟอร์มดีขึ้นโพเดียวอันดับ 1 จากสนามที่ผ่านมาอย่าง “โบนัส ศิริภากรณ์ แยบยนต์” จากทีม TMC DRIVE68 LENSO BY WOOTBANGBON3 ใช้รถแข่ง Toyota Yaris

    มาติดตามกันต่อกับคลาส Super Touring ด้วยจำนวนรถแข่งมากถึง 27 คัน ภายใต้รูปแบบการแข่งขัน 1 ชั่วโมงกับอีก 1 รอบ บอกได้เลยว่าทุกคันดวลกันสมน้ำสมเนื้อสุด ๆ และเราไปเผยโผ 2 นักแข่งทีมเมทที่น่าติดตามอย่าง “เชฟชาย โชติธนินท์ ไชยกิตติลักษณ์ จับคู่กับ ใหม่ อณิวัฏ ล้อมมหาดไทย” จากทีม NEXZTER x RMR Motorsport by ร่มไม้ริมนา ใช้รถแข่ง Honda CRZ

    และปิดท้ายกันที่คลาส TH Super Pickup กระบะสายซิ่งที่แฟนคลับพร้อมเชียร์แบบติดขอบสนามกับลิสต์นักแข่งใน Class A ที่มีผลงานโด่ดเด่นอย่าง “จ๊อบ – ณัฐธนุตม์ วงษ์สมบูรณ์” จากทีม LIQUI MOLY RUNSTOP SUPER PIG VENOM ออฟชั้นบางแสน By JOBMOBTRI ใช้รถแข่ง Isuzu All New และนักแข่ง Class B ที่พลาดไม่ได้อย่าง “หนุ่ย อนุวัฒน์ มณีอินทร์” จากทีม ISUZU Suphan ADVAN LiquiMoly Racing team ใช้รถแข่ง Isuzu D-Max รวมถึง Class C ต้องจับตาให้ดีกับนักแข่ง “นุ๊ก อิทธิศักดิ์ แก้วดี” จากทีม SSK Factory OMC-racing ครัวบุษกร บ้านฉาง อู๊ด-อ๋องระยอง ใช้รถแข่ง Isuzu All New

              และแน่นอนว่าปีนี้เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากรายการซัพพอร์ตเรซทั้งไทยและต่างประเทศถึง 3 รายการ ซึ่งรายการแรกที่เราอยากจะพูดถึงคือ รายการ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) นำทัพรถแข่ง Porsche ลงดวลสนาม 24 คัน พร้อมอัพเดทนักแข่งตัวเต็งระดับแนวหน้า รวมถึงนักแข่งไทยหนึ่งเดียวอย่าง “มั่นคง เสถียรถิระกุล” ซึ่งทำผลงานติดโพเดียมจากสนามที่ผ่านมา ต้องมาลุ้นและเชียร์นักแข่งไทยให้ขึ้นโพเดียมที่สนามโฮมเรซกัน อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญอย่างรายการ Toyota GAZOO Racing Thailand กับความมันส์ที่ต้องติดตามกับการแข่งขันทั้งหมด 4 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Toyota Yaris One Make Race , Toyota Yaris ATIV Lady One Make Race , Toyota Hilux Revo One Make Race และ Toyota Corolla Altis GR Sport One Make Race กับจำนวนรถที่เขาร่วมกันแข่งขันกว่า 60 คัน อีกทั้งนักแข่ง STAR TEAM 2025 ที่คัมแบกลงแข่งบางแสนอีกครั้ง อาทิ “ปังปอนด์ อัครวุฒิ” ลงแข่งขันในรุ่น Corolla Altis GR Sport One Make Race ,“ป๊ายปาย โอริโอ้” ลงแข่งขันในรุ่น Yaris One Make Race และ “มิย่า ทองเจือ” ลงแข่งขันในรุ่น Yaris ATIV Lady One Make Race

    และที่พิเศษกว่าทุกปี คือการมาเยือนสนามบางแสนครั้งแรกของรถล้อเปิด (Open Wheel) รายการ    F4 SEA (Formula 4 Southeast Asia Championship) รายการฟอร์มูล่าระดับเยาวชนระดับภูมิภาค ที่ขนทัพรถสูตรตัวแรง และนักแข่งดาวรุ่งจากทั่วภูมิภาครวมถึงนักแข่งไทย 2 หนุ่มจากทีม Star Performance อย่าง  “พัตเตอร์ วรพงศ์ เอี่ยมวิจารณ์” และ“ไอตั้น อัษฎาธร” ก็เข้าร่วมประชันบนสนามเลียบชายทะเลสุดคลาสสิก บอกได้เลยว่างานนี้รับรองมันส์ทุกโค้งแน่นอน

    ศึกความเร็ว Bangsaen Grand Prix 2025 นอกจากความมันส์ในสนามแล้ว พื้นที่รอบสนามก็ยังเสริมบรรยากาศด้วยจากบรรดาสปอนเซอร์และพันธมิตรที่มาร่วมจัดบูธกิจกรรมในโซนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น B-Quik , Toyota Motor Thailand , Est cola , Hankook , Idemitsu , Nexzter , ECU Shop , Bangkok Airway ซึ่งต่างก็ขนกิจกรรมของพรีเมียมและมินิเกมส์ให้แฟน ๆ ร่วมสนุกลุ้นของรางวัลแบบจุใจ นอกจากนี้ ยังมีบูธจาก IMANE Thailand ที่มาจำหน่ายสินค้า ทั้งเสื้อ T-Shirt New collection เฉพาะงานบางแสน แอบกระซิบสินค้ามีจำนวนจำกัด , หมวก , กระบอกน้ำเก็บความเย็น และพวกกุญแจจากรายการให้ทุกท่านได้จับจองกัน

    ทั้งนี้หากอยากชมการแข่งขันแบบใกล้ชิดติดขอบสนาม ปีนี้เราจัดเต็มจุดชมการแข่งขันฟรีบนแกรน-สแตนด์ถึง 7 จุด ให้เลือกจับจองกันตามชอบ ไม่ว่าเป็นโซนยอดฮิตบริเวณโค้ง 18 ซึ่งจะอยู่ใกล้ S2 Hotel Bangsaen มีถึง 3 จุด , บริเวณจุด START 1 จุด  , บริเวณโค้ง 12 จุด และบริเวณโค้ง 15 ก่อนเข้าทางตรงหน้าชายหาดอีก 1 จุด นอกจากนี้เพื่อความสะดวกสบายของแฟนๆ เราเตรียมบริการลานจอดรถฟรี ณ อาคารจอดรถเทศบาลเมืองแสนสุข ถนนบางแสนสาย 1 (เลียบชายหาด) ซอย 2 รองรับรถได้ถึง 300 คัน และอีกจุดคือ ลานจอดรถของ ททท. ชลบุรี บริเวณหลังโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ (บางแสนซอย 3) พร้อมบริการ รถรับ-ส่ง จากจุดจอดรถสู่สนามแข่งตลอดทั้งวัน

    งานเดียวที่รวบรวมทั้งความสนุก ความเร้าใจ และความมันส์แบบจัดเต็ม เพียง 5 วันเท่านั้น! โดยเฉพาะในวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคมนี้ ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดสุดพิเศษ พร้อมชมขบวนพาเหรดรถคลาสสิก รถเรโทร และรถแต่งหลากสไตล์กว่า 100 คัน ที่จะมารวมตัวสร้างสีสัน สร้างบรรยากาศสุดครึกครื้นภายในงาน และพิเศษสุดในช่วงเย็นเวลา 18.00 – 21.00น. พบกับ กิจกรรม Meet & Greet กับการรวมตัวของเหล่ารถแข่งทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Super Touring , Super Eco และSuper Pickup D1 D2 โอกาสดีที่ จะได้สัมผัสรถแข่งแบบใกล้ชิด ใครเป็นสายรถ สายถ่ายรูป หรือสายกิจกรรม บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด…

    เมื่อเทศกาลความเร็วระดับประเทศกลับมาอีกครั้ง “Bangsaen Grand Prix 2025” ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคมนี้ ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี พร้อมเปิดให้เข้าชมฟรีแบบติดขอบแทร็กให้คุณได้สัมผัสเสียงเครื่องยนต์คำรามและบรรยากาศสุดเร้าใจกันแบบใกล้ชิด หรือจะรับชมแบบออนไลน์ได้ครบอรรถรสกับบรรยายถึง 4 ภาษา ทั้ง ไทย อังกฤษ จีน และเยอรมัน ผ่าน Live Streaming ทาง FB/ YT : Thailand Super Series และสามารถรับชมการแข่งขันได้ที่ช่อง PPTV Sport

    นอกจากนี้ยังรับชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทางโทรทัศน์ได้ที่ True Visions ช่อง TSPORT 7 , TrueID Sports ช่อง 621 คลิกเลย  https://trueid.onelink.me/D7LM/3967w8t5  และสำหรับแฟนๆ สาย Free TV สามารถชมสดได้ที่ PPTV HD36 ในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม เวลา 15.00 – 17.00 น. ที่สำคัญสนามนี้ยังรับชมการแข่งขันแบบจุใจผ่าน MONOMAX และ ช่อง Sport1 อีกด้วย


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment