• “อิเดมิตสึ” สนับสนุนทีมแข่ง “ฟิล์ม-รัฐภาคย์” ภายใต้ชื่อ “Idemitsu Honda Team Christmas” เชื่อมั่นใน วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และศักยภาพ พร้อมขับเคลื่อนมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างเต็มรูปแบบ

    1 Min Read

    “อิเดมิตสึ” สนับสนุนทีมแข่ง “ฟิล์ม-รัฐภาคย์” ภายใต้ชื่อ “Idemitsu Honda Team Christmas” เชื่อมั่นใน วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และศักยภาพ พร้อมขับเคลื่อนมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างเต็มรูปแบบ

    บริษัท อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จํากัด โดย มร.ยูอิจิ คูโจ ประธานบริษัท พร้อมด้วย ดร.จักรกริช วหาวิศาล ประธานกรรมการบริหาร ร่วมจัดงานแถลงข่าวภายใต้ชื่องาน Idemitsu Empowering the Future with Ratthapark Wilairot โดยมี คุณณัฐชัย ศรีโสวรรณา ผู้บริหารกลุ่มงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร บริษัท ไทยฮอนด้า จํากัด และ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ตํานานนักแข่งมอเตอร์ไซค์ ขวัญใจชาวไทย ร่วมประกาศความ ร่วมมือสุดยิ่งใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

    ภายใต้การสนับสนุนในนามทีมแข่ง “Idemitsu Honda Team Christmas” ถือเป็นการจับมือครั้งสําคัญ ระหว่างบริษัท น้ํามันอพอลโล (ไทย) จํากัด และบริษัท อิเดมิตสึ ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งได้ควบรวมกิจการ กันอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อใหม่ “บริษัท อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จํากัด” เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ทางธุรกิจและขยายบทบาทในการสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ณ ห้องประชุม ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศ ไทย (กกท.) หัวหมาก กรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 โดยมีคณะผู้บริหาร, ผู้ให้การสนับสนุน และ สื่อมวลชนร่วมงานอย่างคับคั่ง

    ในการสนับสนุนทีมแข่งครั้งนี้ มร.ยูอิจิ คูโจ ประธาน บริษัท อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จํากัดกล่าวว่า การสนับสนุนทีม Idemitsu Honda Team Christmas แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเราในการพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย โดยสะท้อนถึงความเชื่อในพลังแห่งความฝัน ความมุ่งมั่นตั้งใจ และการทํางานเป็น ทีม สิ่งสําคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ เราไม่ได้แค่เพียงสนับสนุนการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางไปสู่ความสําเร็จ

    “แรงผลักดันที่ทําให้ อิเดมิตสึ ให้การสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี ที่ผ่านมา เป็นเพราะว่า กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของเราเสมอมา เรามองว่ามอเตอร์สปอร์ตเป็น แพลตฟอร์มที่ท้าทายไปในทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องของนวัตกรรม และศักยภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นคุณค่าที่สอดคล้องกับ จิตวิญญาณของ อิเดมิตสึ อย่างแท้จริง โดยการสนับสนุนนักแข่งและทีมไทย เราช่วยยกระดับพรสวรรค์ในท้องถิ่น สู่เวทีระดับโลกและส่งเสริมความภาคภูมิใจในชาติอีกด้วย”

    ขณะที่ ดร.จักรกริช วหาวิศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จํากัด เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท น้ํามันอพอลโล (ไทย) จํากัด และ บริษัท อิเดมิตสึ ลูบริแคนท์ (ประเทศ ไทย) จํากัด จนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อใหม่ “บริษัท อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จํากัด” ถือเป็นการผนึกกําลังครั้งสําคัญในอุตสาหกรรมน้ํามันหล่อลื่นของไทย การรวมตัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่เป็นการรวมพลังของวิสัยทัศน์ ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตควบคู่ไปกับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ซึ่งเราให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

    “กีฬามอเตอร์สปอร์ตได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง สําหรับเรา เวทีนี้ไม่เพียงสะท้อนถึง สมรรถนะของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่อีกด้วย ผมเชื่อมั่นว่า จากนี้ไปทุกท่านจะได้เห็นบทบาทของน้ํามันเครื่องอิเดมิตสึอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งในและนอกสนามแข่ง”

    ในการสนับสนุน “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ กับทีมแข่งใหม่นี้ ดร.จักรกริช มหาวิศาล เปิดเผยว่า ฟิล์มเป็นนัก แข่งที่มีความผูกพันกับแบรนด์อิเดมิตสึมาอย่างยาวนาน และถือเป็นต้นแบบของนักกีฬาที่เปี่ยมด้วยความสามารถ หัวใจนักสู้ และความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับนักแข่งรุ่นใหม่ สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับแนวคิดของอิเดมิตสึ ที่มุ่งเน้นการส่งต่อพลังแห่งอนาคตให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เราเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของฟิล์ม เชื่อมั่นในศักยภาพของเขาในฐานะผู้นําทีม และมั่นใจว่าเขาจะสามารถพาทีมไปสู่ความสําเร็จตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน

    ทางด้าน “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ อดีตนักบิดโมโตทู คนแรกของไทยในประวัติศาสตร์ เปิดเผยถึงบทบาทใหม่ของ ตัวเองว่า มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างทีมแข่งนี้ขึ้นมา หลังจากที่มีประสบการณ์จากการแข่งขันมาเกือบตลอดชีวิต ซึ่ง ทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก อิเดมิตสึ ที่เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และความตั้งใจของผม

    “การตั้งชื่อทีมในครั้งนี้ มาจากชื่อของคุณพ่อ คริสมาส วิไลโรจน์ ซึ่งเป็นไอดอล เป็นทุกสิ่งของผม และเชื่อว่า เป็นขวัญใจของพี่ ๆ ที่ชื่นชอบการขับรถ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทบาทใหม่ครั้งนี้ ผมจะทําออกมาให้ดีที่สุด ทั้งเรื่อง ของประสบการณ์ของผม ประสบการณ์ของทีมงาน ที่จะนําพาทีมประสบความสําเร็จในอนาคตตามที่หวังเอาไว้”

    สําหรับทีมแข่ง Idemitsu Honda Team Christmas ของ ฟิล์ม รัฐภาคย์ มีนักบิดประกอบด้วย “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว นักแข่งในรุ่น SB1 Pro 1,000 ซีซี, “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤติสาร นักแข่งรุ่น SS1 Pro 600 ซีซี และ “ฟาร์ม” ภัทรพงศ์ วัชรอยู่ นักแข่งรุ่น SB2 1,000 ซีซี


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • รับชมบรรยากาศในงาน TOFUYA MAKETTO PRESENTED BY PERTAMINA FASTRON

    1 Min Read

    รับชมบรรยากาศในงาน TOFUYA MAKETTO PRESENTED BY PERTAMINA FASTRON 

    TOFUYA MAKETTO PRESENTED BY PERTAMINA FASTRON    เรียกว่าเป็นงานโชว์รถอีกงาน ที่คนให้ความสนใจกันไม่น้อยเลย ในสไตล์ญี่ปุ่น และครั้งนี้จัดขึ้นที่ Bravo BKK กิจกรรมมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมแจกของรางวัล งานแสดงของไอดอล บูธสินค้ามากมาย สไตล์ญี่ปุ่น ดีเจมาให้ความบันเทิงกันถึงที่ น้องๆที่ได้มาจำลองการขับขี่ไปตามเส้นทาง โดยมีพ่อแม่ และผู้ปกครองคอยดูแลและบังคับรถอย่างใกล้ชิด ก่อนจบท้ายด้วยการโชว์รถแต่ละกัน ก่อนแยกย้ายเดินทางกลับ เป็นงานมีตติ้งที่รวมคนหลายกลุ่มจริงๆ เรามาชมบรรยากาศกันหน่อยดีกว่า

    No Comment
  • “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ดาวรุ่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เก็บแต้มสังเวียนโหด คว้าท็อป 14 โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ ที่ อารากอน

    1 Min Read

    “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ดาวรุ่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เก็บแต้มสังเวียนโหด คว้าท็อป 14 โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ ที่ อารากอน

    “ไม้คิว” เกียติศักดิ์ สิงหพงศ์ ยอดนักบิดดาวรุ่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เดินหน้าเก็บประสบการณ์สนามแข่งระดับโลก ล่าสุดบิดคว้าท็อป 14 ในศึก โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 สนาม 3 ที่ สังเวียนสุดโหดอย่าง มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

     

    ศึก โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 สนาม 3 ถูกบรรจุเป็นซัพพอร์ตเรซของ โมโตจีพี 2025 สนาม 8 รายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์ ชิงชัยกันทั้งสิ้น 2 เรซ โดย “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” หมายเลข 85 เจอบททดสอบอย่างหนักในเรซแรกซึ่งมีขึ้นในวันเสาร์ จากการออกตัวในกริดที่ 23 พร้อมเริ่มเกมอย่างดุดัน ไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาถึงอันดับ 12 ก่อนจะพลาดล้มในช่วงกลางเรซอย่างน่าเสียดาย

    ขณะที่เรซ 2 ซึ่งมีขึ้นในวันอาทิตย์ ดาวรุ่งนักบิดไทยได้ขยับขึ้นออกตัวจากกริดที่ 10 บิดไล่บดในกลุ่มหน้าอย่างสุดมันส์ ก่อนเข้าป้ายในอันดับ 14 คว้าเพิ่ม 2 แต้มจาก มอเตอร์แลนด์ อารากอน รั้งอันดับ 13 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 29 คะแนน

     

    ทั้งนี้ โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายนนี้ ที่ ออโตโดรโม อินเตอร์นาซินาเล เดล มูเจลโล ประเทศอิตาลี ภายใต้ซัพพอร์ตเรซของ โมโตจีพี รายการ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #RoadToMotoGP #TheNextSuccessor #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85 #RookiesCup


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • “เบนซ์ไพรม์มัส” เปิดมิติใหม่สุดลักชูรีย์ “ล่องเรือยอร์ช ขับสปอร์ตหรู” ในงาน Mercedes-Benz Driving Events

    1 Min Read

    “เบนซ์ไพรม์มัส” เปิดมิติใหม่สุดลักชูรีย์ “ล่องเรือยอร์ช ขับสปอร์ตหรู”  ในงาน Mercedes-Benz Driving Events

    “เบนซ์ไพรม์มัส” เปิดมิติแห่งความหรูหราครั้งใหม่ กับ 2 กิจกรรมสุดลักชูรีย์ “ล่องเรือยอร์ช ปล่อยปลาฉลาม” ผสาน “ขับสปอร์ตหรู บนสนามแข่งระดับตำนาน “พีระ เซอร์กิต” พัทยา ในงาน Mercedes-Benz Driving Events”

    จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด และบริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป กล่าวว่า “ด้วยนโยบายของ “เบนซ์ไพรม์มัส”  ที่มุ่งตอบรับความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ทั้งด้านงานขายและบริการหลังการขาย รวมถึงการมอบประสบการณ์ที่แตกต่างเหนือระดับ พร้อมการดูแลเอาใจใส่ระดับลักชูรีย์ เพื่อตอบสนองความชื่นชอบของลูกค้าอย่างแท้จริง”

    ล่าสุด “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้ร่วมกับ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” ชวนลูกค้าคนสำคัญร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ล่องเรือยอร์ช ปล่อยปลาฉลาม” พร้อมสัมผัสความท้าทายกับสปอร์ตตัวแรงจากยานยนต์ระดับโลก Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG บนสนามแข่งรถแห่งแรกของประเทศไทย “พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ในงาน  “Mercedes-Benz Driving Events” พัทยา จ.ชลบุรี

    วันแรก นัดรวมพลกันที่โชว์รูมรถยนต์ Mercedes-Benz สาขาไพรม์มัส พัทยา โดยมี ผู้บริหารระดับสูง “จิระพล รุจิวิพัฒน์” ให้การต้อนรับและกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ Ocean Marina Yacht Club เพื่อร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยการปล่อยปลาฉลามคืนสู่ท้องทะเลไทย บนเรือยอร์ชสุดหรูลำใหญ่ ที่พาชมความงดงามของธรรมชาติทะเลอ่าวไทย โดยมุ่งหน้าไปยังเกาะครามน้อย เกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียดทอดตัวยาวขนานกับเส้นขอบฟ้าอย่างสวยงาม

    จากนั้นเข้าสู่ช่วงสำคัญ นั่นคือ การปล่อย “ปลาฉลาม” กลับสู่ท้องทะเล เพื่อร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติและรักษาระบบนิเวศของทะเลไทย โดยมีวิทยากร บรรยายความรู้เกี่ยวกับปลาฉลาม และสัตว์น้ำทะล พร้อมวิธีการปล่อยปลาฉลามให้ถูกวิธี จากนั้นแต่ละครอบครัวได้ร่วมปล่อย “ปลาฉลาม” กลับคืนสู่ท้องทะเลไทย ด้วยความสนุกสนาน และอิ่มเอมใจที่ร่วมปล่อยนักอนุรักษ์ตัวน้อยกลับคืนสู่ธรรมชาติเสร็จสมบูรณ์

    ต่อด้วยการเดินทางเข้าสู่ที่พัก Melia Pattaya Hotel โรงแรมหรูระดับดาว 5 ใหม่ล่าสุด เพื่อเช็คอินน์ และพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนเข้าสู่ช่วงงานเลี้ยง “Exclusive Dinner Party” ร่วมลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มที่จัดสรรมาอย่างดี พร้อมเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่สนุก เร้าใจ ทำให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแห่งความสุขของทุกคน

    วันที่ 2 เริ่มต้นกิจกรรมความตื่นเต้นกับการขับสปอร์ตตัวแรงของ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG ที่บริษัทแม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” คัดสรรมาอย่างเต็มพิกัดเกือบ 20 คัน อาทิ Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG SL 43, Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+, Mercedes-AMG GLE 53 Hybrid 4MATIC+ เป็นต้น เพื่อเปิดบทพิสูจน์สมรรถนะความเร็ว และความแรง ในสนาม “พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” พัทยา

    เมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ ทางทีมงาน Driving Instructor ได้ให้คะแนะนำด้านเทคนิคการขับรถยนต์เบื้องต้น เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามจริง เริ่มตั้งแต่การจับพวงมาลัย การวางตำแหน่งมือ การปรับเบาะ และการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ของอุปกรณ์ภายในรถยนต์

    ส่วนการทดลองขับแบ่งออกเป็น 4  สถานี ได้แก่ สถานีการขับขี่บนถนนเปียก, การขับขี่แบบสลาลอม, การเบรกหลบสิ่งกีดขวาง, การขับขี่แบบ HOT LAP ที่เน้นเวลาและความเร็วสูงสุดในการขับรอบสนาม รวมทั้งการขับขี่บนท้องถนนจริง ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมสัมผัสสมรรถนะของรถยนต์ที่ชื่นชอบทั้งในสนามแข่งและนอกสนามแข่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มเติมความรู้และทักษะการควบคุมรถยนต์ในสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ขับขี่รถยนต์ด้วยความมั่นใจ ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

    ปิดท้ายกิจกรรม ด้วยการมอบประกาศนียบัตรแห่งความภาคภูมิใจให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ ในการเปิดประสบการณ์ที่แตกต่าง เหนือระดับกับครอบครัว “เบนซ์ไพรม์มัส ” ในงาน Mercedes-Benz Driving Events ครั้งนี้ ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความประทับใจ …


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ยามาฮ่า ส่งมอบความพิเศษ! หมวกกันน็อกเด็ก Yamaha Monsty Planet DIY สุดลิมิเต็ด: สร้างสรรค์ได้เต็มที่! ปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทาง ร่วมฉลอง 70 ปี ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น

    1 Min Read

    ยามาฮ่า ส่งมอบความพิเศษ! หมวกกันน็อกเด็ก Yamaha Monsty Planet DIY สุดลิมิเต็ด: สร้างสรรค์ได้เต็มที่! ปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทาง ร่วมฉลอง 70 ปี ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น

    บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการส่งมอบความพิเศษอีกครั้งกับ หมวกกันน็อกเด็ก Yamaha Monsty Planet DIY ที่ให้คุณหนูๆ ได้ปลดปล่อยไอเดียสุดเจ๋ง สร้างสรรค์ลวดลายหมวกกันน็อกของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร! เพิ่มความสนุกและมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ที่มาพร้อมแนวคิด “ปลอดภัย มั่นใจ สนุกได้เต็มที่!”

    คุณสมบัติเด่นของหมวกกันน็อกเด็ก Yamaha Monsty Planet DIY

    • ขนาด: 54 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 – 10 ปี
    • น้ำหนักเบา: สวมใส่สบาย กระชับศีรษะ
    • ปลอดภัยมั่นใจ: มาพร้อมสายรัดคางและตัวเสียบสไลด์บาร์ ปรับใช้ง่าย
    • ครบฟังก์ชัน: มีชิลด์ใสป้องกันลมและฝุ่น พร้อมระบบระบายอากาศที่ดีเยี่ยม
    • มาตรฐาน: ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) 369-2557

     

    พิเศษ! กับชุดสติ๊กเกอร์ Monsty Planet DIY: สติ๊กเกอร์ลาย Monsty Planet สุดน่ารัก ที่ออกแบบโดยคุณณัชณิชา แก้วมังกร ศิลปินมากฝีมือที่มีลายเส้นเอกลักษณ์ สีสันสดใส ให้คุณหนูๆ ได้สนุกกับการติดและออกแบบลวดลายหมวกในสไตล์ที่เป็นตัวเอง

    หมวกกันน็อกเด็ก Yamaha Monsty Planet DIY ราคาพิเศษเพียง 420 บาทเท่านั้น! สินค้ามีจำนวนจำกัด โดยสามารถสั่งซื้อได้ที่ โชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือช้อปออนไลน์ได้แล้วที่ Yamaha Online Shop: https://bit.ly/Yamaha_Online_Shop โปรโมชันพิเศษ! รับส่วนลด 5% ทันทีเมื่อใส่โค้ด KID5 ระหว่างวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2568 นี้เท่านั้น!


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • โตโยต้า มุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง ปีที่ 18 พร้อมผนึกกำลังทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน

    1 Min Read

    โตโยต้า มุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง ปีที่ 18 พร้อมผนึกกำลังทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน

    นายธีรพล ศรีโมรา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรปราการ พลตรี ยุทธนา ธรรมธร เสนาธิการกรมพลาธิการทหารบก พลโท จินตมัย ชีกว้าง เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก คุณกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ และมร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ลูกค้า ตลอดจนหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมปลูกป่าชายเลนจำนวน 50,000 ต้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรม “โตโยต้าปลูกป่าชายเลน ปีที่ 18” ณ สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568

                หนึ่งในพันธกิจหลักของโตโยต้า คือ การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)  โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท ฯ ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมีความพยายามในการเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi Pathways) ตั้งแต่ การออกแบบ การขนส่งชิ้นส่วน การผลิต การจำหน่าย ตลอดจนการกำจัดเมื่อหมดอายุการใช้งาน รวมไปถึงการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ผ่านการใช้พลังงานสะอาด รวมทั้งผสานความร่วมมือกับหลายภาคส่วน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050

                โตโยต้า ปลูกป่าชายเลน ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยโครงการดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ กรมพลาธิการทหารบก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED จากความมุ่งมั่นในการดูแลพื้นที่ป่าชายเลนอย่างจริงจัง ทำให้พื้นที่บางปูได้รับการฟื้นฟูจนมีความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอุทยานมรดกอาเซียน (ASEAN Heritage Park: AHP) ลำดับที่ 63 ของอาเซียน และลำดับที่ 10 ของประเทศไทย อีกทั้งได้ขึ้นทะเบียนเข้าร่วมเป็นพื้นที่เครือข่ายนกน้ำอพยพ ภายใต้โครงการความร่วมมือพันธมิตรสำหรับการอนุรักษ์นกน้ำอพยพและถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในเส้นทางการบินเอเชียตะวันออก – ออสเตรเลีย (East Asian-Australasian Flyway Program: EAAFP) อีกด้วย

    กิจกรรม “โตโยต้า ปลูกป่าชายเลน ครั้งที่ 18”  สะท้อนพลังความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน   กว่า 2,000 คน ประกอบด้วย พนักงานโตโยต้าและครอบครัว กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ลูกค้า สมาชิกเครือข่าย Facebook Toyota Happiness Club สมาชิก Toyota Customer Car Club   รวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดสมุทรปราการ กองทัพบก และประชาชนทั่วไป ที่มาร่วมกันปลูกพันธุ์ไม้ชายเลนจำนวน 50,000 ต้น  ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ โตโยต้าได้ปลูกป่าชายเลน ในพื้นที่บางปูแล้วกว่า 842,800 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 11,000* ตันต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

    *อ้างอิงจากค่าเฉลี่ยการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของป่าไม้ยืนต้น ที่ 8 กิโลกรัมต่อต้น ต่อปี และพันธุ์ไม้ชายเลนยืนต้นโตเต็มที่ อยู่ที่ประมาณ 13 ตันต่อปี ต่อไร่ จาก ICLEI : International Council for Local Environment Initiatives – Local Governments for Sustainability (www.iclei.org)

    โตโยต้าเชื่อมั่นว่า ความสำเร็จในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง หากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งกิจกรรมปลูกป่าชายเลนนี้ถือเป็นหนึ่งในความพยายามสำคัญ ภายใต้โครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว” ที่มุ่งขยายความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมไปทั่วประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เมืองสีเขียว เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต และก้าวไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • PTG สานต่อโครงการ “พีที ค่ายอาสาทำจริงไม่ทิ้งกัน” พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด ESG ณ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    1 Min Read

    PTG สานต่อโครงการ “พีที ค่ายอาสาทำจริงไม่ทิ้งกัน”  พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด ESG ณ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ  PTG  ผู้นำการบริการในธุรกิจพลังงานครบวงจรของประเทศนำพนักงานกว่า 50 คน ร่วมสนับสนุนคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เพื่อให้ทุกคนในชุมชน “อยู่ดีมีสุข”ภายใต้โครงการ “พีที ค่ายอาสา ทำจริงไม่ทิ้งกัน” ถือเป็นกิจกรรมเพื่อเป้าหมายสู่ความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG (Environmental, Social, Governance) ที่ PTG ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล

    นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG  เปิดเผยว่า PTG ดำเนินธุรกิจและเติบโตเคียงคู่กับคนไทยมากว่า 37 ปี ซึ่งบริษัทฯ มีความตระหนักดีในการให้ความช่วยเหลือสังคม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชน เพื่อเป้าหมายสู่ความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG (Environmental, Social, Governance) ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล   จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) มาอย่างต่อเนื่อง  ภายใต้โครงการ “พีที ค่ายอาสาทำจริงไม่ทิ้งกัน”

    สำหรับกิจกรรม CSR ในครั้งนี้ จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ โรงเรียนนเรศวรห้วยผึ้ง ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นอีกพื้นที่ที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการทั้งสถานีบริการน้ำมันพีที และบริษัทฯในเครือดำเนินกิจการอยู่ ภายใต้กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่อชุมชน กับโครงการ “พีที ค่ายอาสา ทำจริงไม่ทิ้งกัน” โดยกิจกรรมหลักคือโครงการ “พีที ชุมชนตาสว่าง” กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัย พัฒนาด้านความ เป็น อยู่ของคนในชุมชน บริการวัดสายตาประกอบแว่น และให้ความรู้เรื่องดวงตากับผู้สูงอายุ ปัจจุบันเรามอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุไปแล้วกว่า 5,800 คน และในชุมชนนี้จะเพิ่มอีกจำนวน 300 คน เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างยั่งยืน

    นอกจากนี้ยังได้ร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษา สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนเรียนดีแต่ขาดแคลน ทุนทรัพย์ ที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนนี้ ทั้ง 7 สถานศึกษา จำนวน 42 ทุน ทุนละ 2,000 บาท พร้อมมอบทุนการ ศึกษาบุตรและธิดาของพนักงานเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อีกจำนวน 10 ทุน ทุนละ 2,000 บาท รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา กล่องปฐมพยาบาล พร้อมมอบพันธุ์ผักสวนครัวสำหรับประกอบอาหารกลางวัน ทั้ง 7 สถานศึกษา,สนับสนุนจินตนาการของน้อง ๆ ด้วยการจัดกิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสีให้หัวข้อ “เด็กรุ่นใหม่ ก้าวไกลไปกับ พีที” เพื่อให้น้อง ๆ ได้นำศักยภาพของตัวเอง มาแสดงความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอย่างเปิดกว้าง นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนด้านโภชนาการให้กับน้อง ๆ นักเรียน โดยการสนับสนุนแปลงผักสวนครัวเพื่อน้อง พร้อมร่วมกันปลูกผักสวนครัวไม้กินได้ จำนวนกว่า 300 ต้น พร้อมสร้างรั้วโรงเลี้ยงไก่ไข่ สนับสนุนอาหารไก่ไข่ และมอบเชื้อเห็ดนางฟ้า จำนวนกว่า 300 ก้อน ให้กับโรงเรียนนเรศวรห้วยผึ้ง เพื่อให้น้อง ๆ ได้นำผลผลิตมาประกอบอาหารกลางวันในอนาคต

    อีกทั้งยังจัดกิจกรรมต้นไม้แลกยิ้ม มอบต้นไม้กินได้กว่า 300 ต้น เพื่อให้ชาวบ้านได้นำต้นไม้ กลับไปปลูกที่บ้าน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน และทำกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดกว่า 3,500 ตัว ณ ฝายกั้นน้ำบ้านห้วยผึ้งเพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนสามารถจับไปรับประทานและสร้างรายได้

    นอกจากนี้ PT ยังมีกิจกรรมพิเศษจากธุรกิจในเครือ บริษัท สยามออโต้แบคส์ จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการศูนย์บริการรถยนต์ Autobacs ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม โดยการนำยางรถยนต์เก่ามาปรับปรุงและทำเป็นแปลงปลูกผักเพื่อน้อง พร้อมตรวจสภาพรถยนต์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง สนับสนุนน้ำมันเครื่องจาก PT Maxnitron ให้กับบุคคลกรโรงเรียนนเรศวรห้วยผึ้ง และรถต่าง ๆ ใช้งานเพื่อชุมชน ขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่รวมจำนวนกว่า 29 คัน

     

    ครั้งนี้ PT ยังได้สนับสนุนหนังสือเสริมพัฒนาการ และนำอาสาสมัคร Gen Z จากวิทยาลัยการอาชีพ  วังไกลกังวล มาร่วมกิจกรรม PT พี่อาสาสอนน้องเรียน พาน้องเล่น PT Gen Z English Fun เสริมสร้างความรู้สอดแทรกกิจกรรมนันทนาการภาษาอังกฤษให้กับน้อง ๆ และยังมีวงดนตรีนักศึกษามาสร้างสีสันกับเพลงเพราะ ๆ กับกิจกรรม PT Gen Z Music Concert ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกัน และ PT ยังคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่ของคนในชุมชน ด้วยการจัดอบรมการขับขี่ปลอดภัยให้กับชาว บ้านในชุมชนนี้ โดยวิทยากรด้านการจราจรพร้อมแจกหมวกกันน็อคให้กับผู้เข้าร่วมอบรม ได้ขับขี่อย่างถูกกฎจราจรและปลอดภัยอีกด้วย

               

     PT ยังใส่ใจความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนแบบทุกมิติ ได้ไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียง พร้อมมอบของอุปโภคบริโภคเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ราย และเติมเต็มความสุขด้วยกิจกรรมสันทนาการให้กับชาวบ้านและน้อง ๆ เพื่อส่งต่อความสุขและรอยยิ้ม รวมถึงมอบของอุปโภคบริโภค และอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานให้ทุกคนได้อิ่มท้อง

     

    ทั้งนี้ นับตั้งแต่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งขึ้น บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมสาธารณะประโยชน์เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนตามความจำเป็นในหลากหลายด้านเพื่อบรรเทาทุกข์ และช่วยส่ง เสริมคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยยึดหลัก PT สร้างสุข สุขกาย สุขใจ สังคมอยู่ร่วมกันอย่าง “อยู่ดีมีสุข”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตอกย้ำความสำเร็จ! ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV กวาดยอดจองกว่า 4,000 คัน เปิดตัวโฆษณา สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

    1 Min Read

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตอกย้ำความสำเร็จ! ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV กวาดยอดจองกว่า 4,000 คัน เปิดตัวโฆษณา สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

    หลังการเปิดตัวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าทั่วประเทศ กวาดยอดจองทะลุกว่า 4,000 คัน แม้จะอยู่ในช่วงก่อนการเปิดตัวอย่างเต็มรูปในเดือนนี้ สูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 3,000 คัน กระแสตอบรับนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในสมรรถนะ ความชื่นชอบในดีไซน์ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองและความสะดวกสบายในการขับขี่ของลูกค้าที่มีต่อรถยนต์ คอมแพกต์เอสยูวี ไฮบริด รุ่นใหม่คันนี้ ได้อย่างชัดเจน

    ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์คุณภาพล็อตแรกให้แก่ลูกค้าแล้ว และจะมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ จาก ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV โดยเร็วที่สุด เพื่อรองรับเป้าหมายดังกล่าว บริษัทจึงได้ยกระดับศักยภาพการผลิตให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งมอบรถยนต์ให้ถึงมือลูกค้าตามกำหนด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

    การเปิดตัวเต็มรูปแบบของรถยนต์ ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าสื่อสารจุดเด่นของ XFORCE HEV อย่างต่อเนื่องผ่านแคมเปญโฆษณาใหม่ ตอกย้ำแนวคิด  “Xperience the Force” ภาพยนตร์โฆษณาที่หยิบเพลงฮิตติดหูอย่าง “ยินดีที่ไม่รู้จัก” มาเรียบเรียงใหม่ในเวอร์ชันที่เปี่ยมด้วยพลังและความสนุก พร้อมเปิดตัวสองพรีเซนเตอร์คนรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ “ริว-วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล” และ “แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช” ตัวแทนของคนยุคใหม่ที่กล้าใช้ชีวิตในแบบของตัวเองอย่างมีเอกลักษณ์

     

    แคมเปญโฆษณา “Xperience the Force” สะท้อนความโดดเด่นของ ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV ที่ออกแบบมาตอบโจทย์การใช้ชีวิต และการเดินทางในวันหยุดของคนเมืองยุคใหม่ ด้วยขุมพลังไฮบริดที่ให้ทั้งความแรง และความนุ่มนวลในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือในเส้นทางที่ท้าทาย

    โดยได้ “ริว-วชิรวิชญ์” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ มีบุคลิกมั่นใจและคล่องแคล่ว และ “แพต-ชญานิษฐ์ ” นักแสดงสาวที่แจ้งเกิดจากซีรีส์ดังบน Netflix และเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่น ทั้งคู่ยังเป็น Instagramer ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายและกล้าใช้ชีวิตในแบบของตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Xperience the Force” ตรงกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ของ ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV ที่ทันสมัย มีตัวตนโดดเด่น และพร้อมออกไปค้นหาสิ่งใหม่อยู่เสมอ

    แคมเปญโฆษณาชุดนี้  ไม่เพียงจะนำเสนอความเป็นไอคอนิกของรถยนต์คอมแพกต์เอสยูวียุคใหม่ แต่ยังได้ถ่ายทอดมุมมองของการออกไปค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ผ่านเพลง “ยินดีที่ไม่รู้จัก” ในเวอร์ชั่นพิเศษ โดยเรียบเรียงใหม่ ให้ออกมาสนุกสนานและเต็มเปี่ยมด้วยพลังมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับสมรรถนะของ ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV ที่พร้อมพาผู้ขับขี่ไปสู่จุดหมายใหม่อย่างมั่นใจ จากถนนในเมืองสู่ปลายทางที่งดงาม พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและระบบอำนวยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง

    ร่วมสัมผัสพลังแห่งประสบการณ์ใหม่กับ ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV และรับชมภาพยนตร์โฆษณาเวอร์ชันเต็ม ผ่านช่องทางออนไลน์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทุกช่องทาง และภาพยนตร์โฆษณาเวอร์ชัน 30 วินาที ทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจ อยากสัมผัสประสบการณ์ “Xperience the Force” สามารถไปทดลองขับ ALL-NEW MITSUBISHI XFORCE HEV ได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • Post Image

    GWM จัดงาน “GWM DIESEL TECH NIGHT” เจาะลึกเทคโนโลยีดีเซล 2.4T เจนฯ ล่าสุด พร้อมเปิดตัว “TANKER CLUB” คอมมูนิตี้คนรัก GWM TANK ในไทยอย่างเป็นทางการ

    2 Min Read

    GWM จัดงาน GWM DIESEL TECH NIGHT” เจาะลึกเทคโนโลยีดีเซล 2.4T เจนฯ ล่าสุด  พร้อมเปิดตัว “TANKER CLUB” คอมมูนิตี้คนรัก GWM TANK ในไทยอย่างเป็นทางการ

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด เผยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดแบบเจาะลึก ในงาน “GWM DIESEL TECH NIGHT” พิสูจน์ที่มาของความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ในประเทศไทย นำทีมโดย เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด และ เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) พร้อมด้วยทีมผู้บริหารจาก GWM (Thailand) พร้อมกันนี้ GWM (Thailand) ได้ประกาศเปิดตัว TANKER CLUB คอมมูนิตี้สำหรับเหล่าคนรัก GWM TANK ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สู่การเป็นพื้นที่สำหรับผู้ใช้งานจริงทั่วประเทศเพื่อทำกิจกรรม พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันสร้างคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง สร้างสรรค์ และยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเหล่า “TANKER” หรือผู้ใช้ GWM TANK เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการส่งมอบ NEW GWM TANK 300 DIESEL ไปแล้วมากกว่า 1,000 คันในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และจะมีการส่งมอบได้ครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่มือลูกค้าชาวไทยอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์

     

    เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “GWM DIESEL TECH NIGHT ไม่ใช่แค่งานเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นเวทีที่เราตั้งใจจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้เห็นถึงความมุ่งมั่นเบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีดีเซลของ GWM ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราทราบดีว่าการจะพาแบรนด์สัญชาติจีนไปสู่ระดับโลกนั้น ไม่ใช่เรื่องของกระแสหรือโชคชะตา แต่คือการเดินหน้าด้วยแนวคิดระยะยาวและการลงทุนในนวัตกรรมที่ GWM มุ่งมั่นเสมอมา รวมถึงการที่ GWM ยังเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องของการอวดโชว์ แต่คือความสามารถในการแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ได้จริง เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันล่าสุดของ GWM นี้คือผลลัพธ์ของหลักการนั้น เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ควบคุมมลพิษและเสียงรบกวนได้ดี พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณทุกเสียงสนับสนุนที่ร่วมเป็นแรงผลักดันให้ GWM กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้คนในกว่า 170 ประเทศทั่วโลกไว้วางใจ เราจะยังคงยึดมั่นในคุณภาพ และบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลก เพราะสำหรับเรา GWM ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือการเดินทางของความเชื่อและวิสัยทัศน์ที่ไปไกลอย่างยั่งยืน”

    หนึ่งในที่มาของความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ในไทย คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุด ที่พัฒนาตลอดระยะเวลามาอย่างยาวนาน GWM พัฒนาเครื่องยนต์กว่า 50 รุ่น ครอบคลุม 6 แพลตฟอร์มหลัก วางจำหน่ายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

     

    ภายในงาน มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ ได้เผย 5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่สร้างความสำเร็จทั้งในไทยและระดับโลก โดยกว่า 20 ปี ที่ GWM ทุ่มเททรัพยากรในการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างขุมพลังที่ไม่ใช่แค่ ‘แรง’ แต่ต้อง ‘ล้ำหน้า’ และ ‘ยั่งยืน’ GWM เชื่อว่า ระบบส่งกำลังไม่ใช่เพียงแค่หัวใจของรถยนต์ แต่คือแก่นแท้ของประสบการณ์การขับขี่ในอนาคต เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุดใน NEW GWM TANK 300 DIESEL คือผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นนั้น ที่ผสานเทคโนโลยีเทอร์โบอัจฉริยะ ระบบควบคุมอุณหภูมิขั้นสูง และการออกแบบที่ผ่านการทดสอบอย่างยาวนานทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ถึงสมรรถนะ ความประหยัด ความเงียบ นิ่ง นุ่มนวล และความทนทานในทุกเส้นทาง

     

    โดย 5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรุ่นนี้ทั้งในไทยและระดับโลก ประกอบด้วย

    • การทดสอบสุดโหดรวมระยะทางกว่า 6 ล้านกิโลเมตร เพื่อยืนยันความทนทานในทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะในภูมิอากาศร้อนอย่างประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูง เช่น พัดลมกำลังสูง 850 วัตต์ และระบบควบคุมอุณหภูมิ Off-Road Thermal Management Mode เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิแบบใหม่ครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ช่วยป้องกันความร้อนสะสมและเพิ่มเสถียรภาพของเครื่องยนต์ เพิ่มระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องได้มากขึ้นถึง 30% ผ่านการทดสอบอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การทดสอบสภาวะช็อกจากความร้อน (Thermal Shock) นานถึง 300 ชั่วโมง การทดสอบการทำงานเต็มกำลังและรอบสูงสุด (Full-Speed, Full-Load) นานถึง 500 ชั่วโมง การทดสอบการรับโหลดสลับไปมา (Alternating Load) นานถึง 650 ชั่วโมง รวมถึงการทดสอบบนสภาพถนน 76 รูปแบบ และในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันสุดขั้วจากทั่วโลก รวมระยะทางการทดสอบมากถึง 6 ล้านกิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับการขับรถรอบโลกถึง 150 รอบ พร้อมการรับประกันแบบไร้กังวลนานถึง 8 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ
    • เทอร์โบชาร์จเจอร์อัจฉริยะควบคุมด้วยสมองกลอิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในความลับสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซล 4T นี้คือ “เทอร์โบชาร์จเจอร์” เทอร์โบอัจฉริยะและมีประสิทธิภาพมาพร้อมกับ “สมองกล” แอคทูเอเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถปรับทิศทางและปริมาณการไหลของอากาศภายในระบบเทอร์โบได้อย่างชาญฉลาด โดยตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของรอบเครื่องยนต์และตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเหยียบคันเร่งเบา ๆ หรือต้องการพลังแบบรวดเร็วทันใจ ระบบนี้จะส่งแรงขับทันที ทำให้หมดปัญหาอาการหน่วงของเทอร์โบแบบเดิม ๆนอกจากนี้ GWM ยังได้ออกแบบใบพัดเทอร์โบและช่องทางไหลเวียนอากาศใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการอัดอากาศเพิ่มขึ้นประมาณ 20% อากาศสามารถไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างแม่นยำและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การผสมกับเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูงสุด ปลดปล่อยพลังได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรอบต่ำ สมรรถนะยังคงทรงพลังและมั่นคง โดยให้แรงบิดเพิ่มขึ้นถึง 30% แม้เพียงแค่ 1,000 รอบต่อนาที ก็สามารถปล่อยแรงบิดสูงถึง 260 นิวตันเมตร
    • ฝ่าทุกสภาวะถนนได้อย่างมั่นใจตลอดทั้งเส้นทางด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ที่ออกแบบด้วยอัตราทดเกียร์ต่ำและช่วงเกียร์กว้าง มอบการขับขี่ที่ราบรื่น (อัตราทดเกียร์ที่ 1 อยู่ที่288) จับคู่กับแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T มอบการส่งกำลังต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังขับที่ไม่เพียงพอ มั่นใจแม้ขับบนถนนลื่นหรือพื้นทราย โดยไม่รู้สึกถึงแรงหน่วง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างราบรื่นและผ่อนคลายยิ่งขึ้น
    • แรงจัด ประหยัดจริง พร้อมการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น! ด้วยการปฏิวัติเครื่องดีเซลด้วยระบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 4T มาพร้อมกับ ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถควบคุมจังหวะ ปริมาณ และแรงดันของการฉีดเชื้อเพลิงอย่างแม่นยำ เพื่อให้เครื่องยนต์คงประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้ทุกสภาวะการทำงาน และระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงในตัวที่ระดับสูงถึง 2,000 บาร์ ทำให้เชื้อเพลิงถูกทำให้เป็นละอองละเอียดสูง อีกทั้งระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงยังทำงานร่วมกับหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูงที่สามารถฉีดได้หลายครั้งในรอบเดียว ด้วยความเร็วสูงในการฉีดนี้ทำให้เชื้อเพลิงถูกแบ่งออกเป็นหยดเล็กละเอียด ทำให้เกิดการผสมระหว่างเชื้อเพลิงกับอากาศที่สม่ำเสมอและการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ มลพิษที่เกิดจากไอเสียของเครื่องยนต์จึงลดลง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ GWM ยังใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบปรับอัตราการไหลได้ (Variable Displacement Oil Pump) ที่ปรับปริมาณการไหลของน้ำมันให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานของเครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ เมื่อขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ปั๊มจะส่งน้ำมันไปหล่อลื่นอย่างพอเหมาะในแต่ละจุด และเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง ปั๊มจะผ่อนกำลังเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากการทำงานของปั๊มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • เทคโนโลยีความเงียบระดับพรีเมียม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น GWM ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร กับ “7 นวัตกรรมแห่งความเงียบ” อาทิ การออกแบบลดแรงสั่นสะเทือนของท่อเชื้อเพลิงแรงดันสูง การวางตำแหน่งสายพานและรอกให้รักษาแรงตึงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับแต่งรูปแบบการสั่น (Modal Tuning) เพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนจากคลื่นความถี่ซ้อนทับกัน การใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบเฟืองโซ่ที่อยู่ภายในเครื่อง การใช้เพลาลูกเบี้ยวแบบขนานพร้อมเฟืองพิเศษลดเสียงกระแทกของกลไกภายใน การติดตั้งเฟืองเพลาสมดุล (Balance Shaft) ไว้ด้านท้ายของเพลาข้อเหวี่ยง หรือแม้แต่การใช้วัสดุดูดซับเสียงรอบระบบเชื้อเพลิง นอกจากนี้ GWM ยังลงทุนกว่า 150 ล้านบาทในประเทศจีน เพื่อสร้างห้องทดสอบเสียงแบบ 4 ล้อ และห้องกึ่งไร้เสียงสะท้อน (Half-Anechoic Chambers) รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ได้ผ่านการทดสอบ NVH อย่างครอบคลุมกว่า 10 รายการ ทั้งในระดับชิ้นส่วนและทั้งคัน การใช้ห้องทดสอบนี้ทำให้สามารถตรวจสอบความเงียบได้แบบรอบด้าน และทำให้ระดับความเงียบของรุ่นดีเซลใกล้เคียงกับรถเครื่องยนต์เบนซิน

    ภายในงานยังได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “TANKER CLUB” ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นของคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน GWM TANK ในไทย ภายใต้แนวคิดสำคัญในการสร้างพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างกิจกรรม ความผูกพัน และแรงบันดาลใจของผู้ใช้งานจริง หรือเหล่า “TANKER” ทั่วประเทศ ซึ่ง TANKER CLUB จะดำเนินการโดยผู้ใช้จริงและทำเพื่อผู้ใช้จริงเท่านั้น โดย GWM (Thailand) จะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำกิจกรรมของคลับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนการจัดกิจกรรม การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ หรือการเป็นสะพานเชื่อมสู่โอกาสในการร่วมกิจกรรมกับ TANKER CLUB ประเทศอื่น ๆ หรือการร่วมกิจกรรมระดับโลกของ GWM การก่อตั้งคอมมูนิตี้ TANKER CLUB นี้ ตั้งอยู่บนวัฒนธรรมและความเชื่อ รวมถึงจิตวิญญาณของผู้ใช้งาน GWM TANK หรือ TANKER SPIRIT ที่สะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบเหมือนใคร (Independent) เปี่ยมไปด้วยความรัก (Love) รักอิสระ (Freedom) รักการผจญภัย (adventurous) แอ็กทีฟและมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ (Active & Passionate) และที่สำคัญที่สุดคือมีจิตใจที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น (Good at Heart)

     

    เวยน์ โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวปิดท้ายว่า “ผมขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่ได้ส่งมอบไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน และเราจะส่งมอบครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้  ประเทศไทยคือศูนย์กลางสำคัญของ GWM ในภูมิภาคพวงมาลัยขวา และเรายืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “In Thailand, For Thailand” โดยเรามีความเชื่อว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบ (Multiple Powertrains) คือทางออกที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากพื้นฐานของตลาดในประเทศไทยยังคงอยู่ที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และดีเซล ซึ่งมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีส่วนช่วยสร้าง GDP ถึง 12% และล่าสุดกับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้เหมาะสำหรับคนไทย ถนนเมืองไทย ทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบช่วงล่าง เกียร์ และเครื่องยนต์ เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่นี้ คือความลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความเงียบ และความประหยัด เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ดีเซลในไทย ขอบคุณทุกท่านที่ให้การตอบรับอย่างอบอุ่น และขอต้อนรับพี่น้องชาว TANKER ในไทยเข้าสู่ GWM FAMILY อย่างเป็นทางการ เราจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งมอบบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ และสังคมไทยในระยะยาว”


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า คว้าการรับรอง มอก. สำหรับเครื่องยนต์อเนกประสงค์ รายแรกของไทย ยกระดับมาตรฐานใหม่ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทั่วประเทศ

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า คว้าการรับรอง มอก. สำหรับเครื่องยนต์อเนกประสงค์ รายแรกของไทยยกระดับมาตรฐานใหม่ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทั่วประเทศ

    ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและคุณภาพ ด้วยการเป็น แบรนด์แรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรอง มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) รหัส TIS.3209-2564 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำหรับเครื่องยนต์อเนกประสงค์ โดยเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย

     

    เครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าที่ผ่านการรับรองดังกล่าว พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องตัดหญ้า เครื่องปั่นไฟ เครื่องพ่นยา ฯลฯ ที่พร้อมทั้งมาพร้อมระบบควบคุมมลพิษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการรับประกันสูงสุดถึง 2 ปี ครอบคลุมด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

     

    การรับรองมาตรฐาน มอก. สะท้อนถึงความแข็งแกร่งด้านคุณภาพของไทยฮอนด้า ที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบอย่างเข้มงวด ทั้งในด้านวัสดุ ประสิทธิภาพ และความทนทานของเครื่องยนต์ พร้อมตอกย้ำปรัชญา “เชื่อในพลังของฮอนด้า” ที่มุ่งมั่นเป็นเพื่อนแท้ที่เชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์

     

    ไทยฮอนด้า ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง โดยผสานเทคโนโลยีทันสมัยและมาตรฐานระดับโลก เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนไทย และตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของตลาดในทุกยุคสมัย

     

    ติดตามข่าวสารของ Honda Power Products ได้ที่
    Facebook: Honda Power Products Thailand
    Website: https://powerproducts.honda.th.com
    Call Center: 02-725-4000

     

    #HondaThailand #Honda #ThaiHonda #เครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้า #ฮอนด้า #HondaPowerProducts #เชื่อในพลังของฮอนด้า


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment