-
News Car1 Min Read
โตโยต้าส่งมอบ NEW YARIS ATIV HEV ให้กับพรีเซนเตอร์คู่ “แอลลี่ – อชิรญา” และ “โฟร์ท – ณัฐวรรธน์”
แอลลี่ อชิรญา นิติพน และ โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล พรีเซนเตอร์ NEW YARIS ATIV HEV “YOUR DAYS, ELEVATED…จังหวะที่ใช่ ในแบบเรา” เดินทางมารับรถที่ใช่ กับ NEW YARIS ATIV HEV รุ่น HEV GR SPORT พร้อมร่วมกิจกรรมทดลองขับ เพื่อทดสอบระบบความปลอดภัยแบบครบครัน กับ TOYOTA SAFETY SENSE โดยพรีเซนเตอร์ทั้งสองคนต่างเห็นตรงกันว่าเป็นรถที่ขับสนุกสุดๆ ทั้งนี้ทางโฟร์ทเลือกรถสีดำ ATTITUDE BLACK MICA และ แอลลี่เลือกรถสีแดง RED MICA METALLIC สะท้อนความเป็นตัวเอง โดนเด่น สปอร์ต เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ณ TOYOTA ALIVE
สำหรับ NEW YARIS ATIV HEV รุ่น HEV GR Sport ที่แอลลี่และโฟร์ทได้เลือกนั้น เป็นรถที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ต กับดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมโลโก้ GR และชุดแต่ง GR-S ได้แก่ สเกิร์ตกันชนหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตกันชนหลังและสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว หลังคาดำ พร้อมกระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED และพับเก็บอัตโนมัติ สำหรับภายในมากับเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ พร้อมโลโก้ GR และเพิ่มความสนุกในการขับขี่ด้วยช่วงล่างและพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับจูนพิเศษ
ติดตามข่าวสารของพรีเซนเตอร์ทั้งสอง และร่วมกิจกรรมกับโตโยต้าได้ที่ช่องทาง Facebook : TOYOTA MOTOR THAILAND
สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถ NEW YARIS ATIV HEV แบบ แอลลี่ อชิรญา และ โฟร์ท ณัฐวรรธน์ พร้อมรับข้อเสนอที่ใช่ สามารถติดต่อที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ และศึกษาโปรโมชันเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.toyota.co.th/promotion/yarisativ_hev
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
“EV Station PluZ” ตอกย้ำบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “ง่าย ทุกชาร์จไป” มุ่งหวังมอบประสบการณ์การใช้งานสะดวก และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมทั่วไทยกว่า 1,200 แห่ง
EV Station PluZ เดินหน้าตอกย้ำบทบาทผู้นำโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์พลังงานทางเลือก ด้วยการยกระดับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้สอดรับการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบประสบการณ์ “ง่าย ทุกชาร์จไป” ตั้งแต่ต้นทางจนถึงจุดหมายปลายทาง สะท้อนวิสัยทัศน์ของ OR ที่ต้องการตอบโจทย์ผู้ใช้ EV ทั่วประเทศให้เข้าถึงบริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะคุณภาพได้อย่างมั่นใจ คล่องตัวในทุกสถานการณ์
ปัจจุบัน EV Station PluZ ขยายเครือข่ายครอบคลุมแล้วกว่า 1,200 แห่งทั่วไทย (ข้อมูล ณ ธันวาคม 2568) ทั้งในสถานีบริการ PTT Station, LPG Auto Station และ NGV Station รวมถึงพื้นที่นอกสถานีบริการ อาทิ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร และรีสอร์ต โดยมีระยะห่างเฉลี่ยระหว่างสถานีชาร์จไม่เกินกว่า 100 กิโลเมตร ครอบคลุมครบทุกจังหวัด เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจในการเดินทางระยะไกล ช่วงวันหยุดยาว หรือเทศกาลการเดินทางที่มีความหนาแน่น โดยมุ่งสู่เป้าหมายขยายหัวชาร์จ DC ให้ครบ 7,000 หัวชาร์จทั่วประเทศภายในปี 2030 จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 2,500 หัวชาร์จ DC ทั้งในสถานีบริการและพื้นที่ศักยภาพต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ
คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)(OR) เปิดเผยว่า OR เดินหน้าเสริมบทบาทสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ ให้ก้าวขึ้นเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศ สอดรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยบริการรูปแบบ Unmanned Station ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริงในทุกจังหวะชีวิต ผสานศักยภาพของทำเลยุทธศาสตร์ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ภายใน PTT Station ที่ครบครันทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ อเมซอน และสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้ช่วงเวลารอชาร์จกลายเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ โดยส่งมอบประสบการณ์การใช้งานแบบ Seamless Journey ผ่านแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ที่รองรับทั้ง Walk-in และการจองล่วงหน้า พร้อมโครงสร้างการใช้งานตั้งแต่ค้นหาสถานีชาร์จ จอง–ชาร์จ–จ่าย–สะสมแต้ม blueplus+ ได้ในแอปเดียว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสความง่าย ลื่น ไม่สะดุดในทุกขั้นตอน และหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ครองใจผู้ใช้ทั่วประเทศ คือความใส่ใจในประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ OR พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกการเดินทางมั่นใจได้เสมอว่า “EV Station PluZ ชาร์จความมั่นใจ…ไปได้ทุกที่”
เพื่อตอบรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว OR ยังเร่งเปิดให้บริการ EV HUB ที่มีกำลังไฟสูงสุด
180 kW ต่อหัวชาร์จ และจัดให้มีอย่างน้อย 6 หัวชาร์จต่อแห่ง ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 10 แห่งบนเส้นทางหลักทั่วประเทศ ซึ่งช่วยยกระดับความเร็วและประสิทธิภาพการเดินทางของผู้ใช้ EV อย่างเห็นได้ชัด พร้อมแผนขยาย EV HUB เพิ่มอีก 9 แห่งภายในปี 2568 และอีก 5 แห่งจะเปิดให้บริการเพิ่มในต้นปี 2569 ครอบคลุมทำเลสำคัญทั้งเชียงใหม่ ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ เพชรบุรี ภูเก็ต และกรุงเทพฯในปี 2569 ที่จะถึงนี้ OR เตรียมเปิดตัว EV HUB ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ณ อาคาร EnCo Terminal กรุงเทพฯ ด้วยกำลังไฟรวมถึง 940 kW ในเฟสแรก ซึ่งจะทำเป็นศูนย์กลางการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในย่านวิภาวดี–รังสิต กทม. รองรับผู้ใช้งาน EV ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มความคล่องตัวให้การเดินทางในพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานสูงอย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้สะท้อนพันธกิจของ OR ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์และพลังงานทางเลือกควบคู่กับการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวสู่สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2573
สำหรับผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android และยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพิ่มเติมต่าง ๆ ผ่านช่องทาง LINE Official Account: @evstationpluz และ Facebook Fanpage : EV Station PluZ
#EVStationPluZ #ชาร์จความมั่นใจไปได้ทุกที่
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
โตโยต้า มุ่งส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน พาผู้ชนะเลิศ “โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” ทัศนศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น ต่อยอดองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายสุวิทย์ ไชยประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ดร.ภญ.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัยผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำคณะครู เยาวชน และตัวแทนชุมชน ผู้ชนะการประกวดจากโครงการ “ชุมชนลดเปลี่ยนโลก” และ “นวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก” ปีที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรมทัศนศึกษาเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อม ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 3 – 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา
“โครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในระดับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมทั้งส่งเสริมให้สถานศึกษาได้นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ในการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่าน 2 โครงการย่อย ได้แก่
- โครงการชุมชนลดเปลี่ยนโลก มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกันพัฒนากิจกรรม ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนต้นแบบที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน โดยผู้ชนะเลิศ คือ “ชุมชนบ้านดอนยาวน้อย เทศบาลตำบลวังหิน จังหวัดนครราชสีมา” ซึ่งโครงการชุมชนบ้านดอนยาวน้อยร่วมใจ ช่วยแก้ไขสภาวะโลกเดือด เป็นการมุ่งเน้นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ เช่น กิจกรรมการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และก่อสร้างระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับน้ำผิวดินและน้ำบาดาล เป็นต้น
- โครงการนวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก ส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน คิดค้น ออกแบบ และพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยนาโนเทคโนโลยี เพื่อส่งเข้าประกวดในเวทีระดับประเทศ โดยโรงเรียนชนะเลิศ คือ “โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช” ซึ่งโครงการนวัตกรรมกังหันลมดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เสริมประสิทธิภาพด้วยเส้นใยไมซีเลียม หรือ ECOBINE มาจากเส้นใยไมซีเลียมผสมผสานกราฟีน ทำเป็นแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยคาร์บอนไดออกไซด์ที่กักเก็บได้สามารถนำมาสร้างประโยชน์ได้อีกหลายด้าน ได้แก่ เชื้อเพลิง ปุ๋ย และอาหาร
ผู้ชนะเลิศจากทั้ง 2 โครงการ ได้รับโอกาสนำเสนอผลงานแก่ตัวแทนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมรับฟังการบรรยาย เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านแนวคิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานตามสถานที่สำคัญ ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลรักษา และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมนำมาพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของตนเองต่อไป
- Toyota Commemorative Museum และ Toyota Kaikan Museum เรียนรู้ประวัติ ความเป็นมา เทคโนโลยี นวัตกรรม และกระบวนการผลิตรถยนต์แบบโตโยต้า พร้อมเรียนรู้แนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา อย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์
- Atsuta Jingu shrine และ Okazaki City Fireflies school เรียนรู้และทำความเข้าใจวิถีชีวิตในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุลและความหลากหลายทางชีวภาพ
- Tokyo Hydrogen Museum และ Miraikan ศึกษาความก้าวหน้าของพลังงานสะอาด เทคโนโลยีไฮโดรเจน และนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Numagami Incineration Plant เรียนรู้ระบบจัดการขยะ การรีไซเคิล และกระบวนการกำจัดขยะ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปต่อยอดในชุมชน
- Shizuoka City Flood Control Museum Kawanabi และ Oshino Hakkai ศึกษาการบริหารจัดการน้ำ การป้องกันน้ำท่วม และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
โตโยต้ามุ่งหวังว่าโครงการ “ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” จะเป็นพลังสำคัญในการเปิดโอกาสให้ชุมชนและเยาวชนได้แสดงศักยภาพด้านการพัฒนานวัตกรรมสิ่งแวดล้อม ตลอดจนปลูกจิตสำนึกเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของโตโยต้า เพราะ “ทุกการกระทำคือพลังเปลี่ยนโลก” ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทย สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
แรงสะเทือนกลางเมือง! อองตวน ปินโต จับมือ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ในเครือเซ็นทรัล รีเทล และ Thonburi Phanich สร้างโมเมนต์ประวัติศาสตร์ในงาน FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH
เมื่อ FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย ภายใน Event Hall ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ด้วยพลังของคนรักความเร็ว รถซูเปอร์คาร์ การโชว์ไฟ และเสียงเชียร์การแข่งขัน F1 รอบชิงชนะเลิศที่ดังสะท้อนทั้งฮอลล์เสมือนยกบรรยากาศของสนามแข่งมาไว้ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม จนสร้างโมเมนต์ประวัติศาสตร์ให้วงการ Motorsport Lifestyle ของไทยอย่างแท้จริง อีเวนท์ครั้งนี้นำโดย อองตวน ปินโต นักกีฬามวยไทยระดับโลกและผู้ก่อตั้ง UPR Vision Entertainment ผู้ผลักดันให้รายการ Final Pit กลายเป็นไวรัลล์กระแสหลักของคอมมูนิตี้มอเตอร์สปอร์ตไทยในปีที่ผ่านมา พร้อมการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบจากสองยักษ์ใหญ่ในการร่วมสร้างปรากฏการณ์อย่าง ห้างเซ็นทรัลชิดลม ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางกรุง และ Thonburi Phanich ผู้แทนจำหน่าย Mercedes-Benz มาตรฐานสูงสุดของประเทศไทย นี่คือครั้งแรกที่ทั้งสามผู้นำกลุ่มธุรกิจได้รวมตัวกันเพื่อสร้างอีเวนท์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไทย
คืนที่กรุงเทพฯ สว่างด้วยพลังของ Motorsport Lifestyle แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ทันทีที่ Event Hall เปิด แสง สี และเสียงเครื่องยนต์จากซูเปอร์คาร์หลายคันทำให้แขกทุกคนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ภายในงานเต็มไปด้วยผู้คนจากหลากวงการ ทั้งนักกีฬา คนดัง อินฟลูเอนเซอร์ ผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มเจ้าของรถซูเปอร์คาร์ ชั้นนำของประเทศ ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนแห่งความเร็วและแรงบันดาลใจ พร้อมเพลิดเพลินกับไฮไลต์มากมายในงาน ได้แก่
- Fanatec Simulator Experience เปิดตัวครั้งแรกในไทย! แขกผู้ร่วมงานได้ทดลองขับซิมมูเลเตอร์ระดับโลกจากFanatec ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่งจริง แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอีเวนท์ไทย
- Supercar parade ขับรถขึ้นห้าง รวมรถระดับตำนานของแขกที่มาร่วมงานจาก Mercedes-Benz, Ferrari, Maserati, Lamborghini, McLaren ถูกจัดแสดงอย่างงดงามทั่วลานจอดรถชั้น 2 ของห้างเซ็นทรัลชิดลม ทำให้บรรยากาศของงานคึกครื้น ตื่นเต้น เร้าใจเป็นอย่างมากสำหรับสายมอเตอร์สปอร์ต
- Final Pit on stage by Antoine Pinto โมเมนต์ที่ทุกคนรอคอย อองตวนขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือ สร้างพลังร่วมให้ทั้งฮอลล์ด้วยเรื่องราวแรงบันดาลใจของนักขับระดับโลก เส้นทางชีวิตการเดินทางของการแข่งขัน และความเชื่อที่ว่า “ความเร็ว ความมุ่งมั่น และความสนุก… คือภาษากลางของทุกคน”
- Luxury Lifestyle Showcaseสัมผัสความหรูหราเหนือระดับและความสนุกเอ็กซ์คลูซีฟจากพันธมิตรแบรนด์ลักชัวรีไลฟ์สไตล์ชั้นนำ อาทิ เบนซ์ ธนบุรีพานิช, Chivas, TAG Heuer, Red Bull, Fanatec, Tempered และแบรนด์ไลฟ์สไตล์อีกหลายรายที่ร่วมทำกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ Event Hall, ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม
- The Grand Finale Highlight Screening ผู้ร่วมงานกว่า 500 คนชมช่วงไฮไลต์การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตปลายฤดูกาลจากต่างประเทศในบรรยากาศสนามแข่งแบบ Immersive เกิดเป็นความเร้าใจที่สะท้อนทั้งในสายตาและเสียงเชียร์
สองค่ายใหญ่ร่วมขับเคลื่อนและยกระดับ Motorsport Lifestyle ไทยเตรียมรับThailand Grand Prix 2028 ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า
ห้างเซ็นทรัลชิดลม “The Store of Bangkok” ห้างแห่งแรงบันดาลใจในทุกช่วงเวลาของชีวิต ที่โดดเด่นเรื่องการคัดสรรประสบการณ์ที่ดีที่สุดมาโดยตลอด ได้ร่วมยกระดับประสบการณ์ของคอมมูนิตี้คนรักความเร็ว ให้ได้สัมผัสไลฟ์สไตล์ระดับโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม สะท้อนจุดยืนของห้างที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้นำวงการรีเทลไทย แต่ยังตั้งใจส่งมอบแรงบันดาลใจให้ลูกค้าทุกคนสมกับที่เป็น The Store of Community ในค่ำคืนสุดพิเศษนี้จึงถือโอกาสร่วมพาผู้ที่มีนิยามความสุข แพสชั่น และไลฟ์สไตล์ที่ตรงกัน อย่างผู้ที่รักความเร็ว และ ผู้ที่ให้ความสำคัญในบาลานซ์ของการใช้ชีวิตและการทำงานที่ลงตัวมาใช้เวลาในค่ำคืนที่น่าจดจำไปด้วยกัน ห้างเซ็นทรัลชิดลมยังร่วมสนับสนุน Sport & Lifestyle ยุคใหม่ของประเทศ ด้วยการผนึกกำลังกับ UPR Vision Entertainment เนรมิตพื้นที่ Event Hall ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ให้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เสมือนยกบรรยากาศของสนามแข่งมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ และยังได้ร่วมสนับสนุนพื้นที่สื่อใจกลางเมืองเพื่อรองรับอีเวนท์ครั้งนี้ อาทิ Façade รอบอาคารห้างเซ็นทรัลชิดลม, City Vision ไปจนถึงสื่อภายในห้างเซ็นทรัลชิดลมและห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิล์ด สองห้างสรรพสินค้าชั้นนำในใจของคนไทยและชาวต่างชาติ พร้อมกันนี้ห้างเซ็นทรัลได้มอบสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมงานให้กับลูกค้า Cenfinity คนสำคัญและสมาชิก The1 ได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ไปด้วยกัน
คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวด้วยว่า “รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย และร่วมสร้างช่วงเวลาที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้าห้างเซ็นทรัล โดยงานนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราได้เห็นลูกค้าห้างเซ็นทรัล และคนรักกีฬาสายนี้มารวมตัวกัน ท่ามกลางความสนุกและตื่นเต้น เหมือนยกบรรยากาศของสนามแข่งมาไว้ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม“
ขณะที่ Thonburi Phanich ผู้แทนจำหน่าย Mercedes-Benz ที่มีประวัติยาวนานกว่า 8 ทศวรรษ ยืนยันบทบาทใหม่ในฐานะผู้ผลักดัน Motorsport Lifestyle ผ่านการสนับสนุนอีเวนท์เรือธงอย่าง FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH นี่เอง
งาน FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH นับเป็นก้าวสำคัญที่จะปูทางสู่ความสำเร็จของมหกรรมใหญ่อย่าง Thailand Grand Prix 2028 มหกรรมระดับโลกที่ได้รับการจับตามองจากนักท่องเที่ยว และแฟนความเร็วทั่วประเทศซึ่งถูกคาดการณ์ว่า Thailand Grand Prix 2028 ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยกระแส Formula One ที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงขยายตัวอย่างก้าวกระโดดทั้งในไทยและทั่วโลก โดยมีการขยายตัวของกลุ่มแฟนใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกช่วงวัย ทั้งวัยรุ่น คนทำงาน ไปจนถึงกลุ่มผู้หญิง และผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม ทำให้แวดวงกีฬายานยนต์กลายเป็นหนึ่งในคอมมูนิตี้ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อองตวน ปินโต เผย: “นี่ไม่ใช่จุดจบของงาน… แต่มันคือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น”
อองตวนกล่าวบนเวทีว่า
“วันนี้ผมไม่ได้ตั้งใจจัดงานเพียงหนึ่งคืน แต่ผมตั้งใจจุดประกายคอมมูนิตี้มอเตอร์สปอร์ตของไทยให้แข็งแรงขึ้น
ปีหน้าเราจะจัดอีกหลายครั้ง และจะพาแฟนมอเตอร์สปอร์ตไทยไปไกลกว่าที่ทุกคนคิด” เสียงตอบรับจากผู้ร่วมงานทั้งฮอลล์ทำให้ชัดเจนว่า FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH ไม่เพียงเป็นอีเวนท์ แต่เป็น จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมความเร็วรูปแบบใหม่ในประเทศไทยUPR Vision Entertainment พลังใหม่ที่ยกระดับอีเวนท์ไทย
UPR Vision ผู้ก่อตั้งโดยอองตวน ปินโต และ มน แอลรียาส์ สิงหอานนท์ คือบริษัทครีเอทีฟด้าน Sport × Lifestyle ที่โตเร็วที่สุดเบื้องหลังความสำเร็จของคอนเทนต์ยอดนิยม เช่น Final Pit, UPR Vision Sport, Muay Thai Documentary, Sport Iconic Podcast, รวมถึงการได้ร่วมงานกับ ONE Championship, RWS Rajadamnern และแบรนด์ระดับโลกจำนวนมากงาน FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH 2025 คือการประกาศจุดยืนว่า วงการ Motorsport Lifestyle ของไทย… เริ่มต้นขึ้นแล้วจริง ๆ และประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพงานระดับนานาชาติในอนาคตอย่ากระพริบตา! Final Pit ยังมีอีกหลายงานในปี 2026
หลังเสียงปรบมือสุดท้ายในค่ำคืนนี้ UPR Vision ยืนยันว่า ปีหน้าแฟน ๆ เตรียมพบกับ Final Pit Events อีกหลายรูปแบบ ทั้งงานกลางแจ้ง, Immersive Experience, Motorsport Café Pop-up และคอนเทนต์ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า
นี่คือเพียง “บทแรก” ของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทยสรุปคือ… FINAL PIT ON STAGE AT CENTRAL CHIDLOM PRESENTED BY THONBURI PHANICH ไม่ได้เป็นแค่อีเวนท์ แต่เป็นแรงสั่นสะเทือนที่ประกาศให้รู้ว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับ Motorsport Lifestyle อย่างแท้จริง
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ที่
FB / IG / YouTube: Antoine Pinto Official, UPRVisionติดตามกิจกรรมสุดพิเศษและงานเอ็กซ์คลูซีฟของห้างเซ็นทรัลชิดลมได้ที่ Facebook Page: Central Chidlom หรือ Instagram: Central Chidlom
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
GEELY ขอบคุณทุกความไว้วางใจ ฉลอง GEELY EX2 กวาดยอดจอง 4,016 คัน ขยายเวลาโปรโมชันราคาพิเศษถึงสิ้นปี
บริษัท ธนบุรีนอยสเติน จำกัด ในเครือกลุ่มธนบุรี ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่าย GEELY อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่ หลัง GEELY EX2 ทำยอดจองทั่วประเทศ 4,016 คัน ในช่วงงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 พร้อมเดินหน้าตอบแทนความไว้วางใจจากลูกค้า ด้วยการขยายเวลาแคมเปญราคาพิเศษจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สำหรับ GEELY EX2 รุ่น PRO ในราคา 399,990 บาท และรุ่น MAX ในราคา 429,990 บาท รวมถึง GEELY EX5 รุ่น MAX ในราคา 849,000 บาท ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานระดับโลก พร้อมการยกระดับมาตรฐานบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือระดับให้กับทุกคน
ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 นี้ GEELY ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้ง โดยสามารถทำยอดจองรวมทั่วประเทศได้ถึง 4,831 คัน เป็น GEELY EX2 4,016 คัน และ GEELY EX5 815 คัน ด้วยการสนับสนุนและความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทย ธนบุรีนอยสเติน จึงร่วมกับ จีลี่ ออโต้ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น เพื่อมอบของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการขยายระยะเวลาโปรโมชันราคาพิเศษ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนี้
- GEELY EX2 รุ่น PRO ราคา 399,990 บาท
- GEELY EX2 รุ่น MAX ราคา 429,990 บาท
พร้อมรับสิทธิพิเศษ ภายใต้ Basic Package ได้แก่
- ฟรี รับประกันคุณภาพตัวรถ 6 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี Portable Charger
- ฟรี พรมปูพื้น
- GEELY EX5 รุ่น MAX ราคาพิเศษ 849,000 บาท หรือ เลือกรับข้อเสนอช่วยผ่อน 5,000 บาท นาน 10 เดือน เมื่อซื้อราคาปกติ 899,000 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษ ได้แก่
- ฟรี รับประกันคุณภาพตัวรถ 6 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- ฟรี รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. นาน 1 ปี
- ฟรี Portable Charger
- ฟรี Wall Charger พร้อมบริการติดตั้งสายไฟยาว 10 เมตร
- ฟรี ค่าจดทะเบียน และพรมปูพื้น
สำหรับลูกค้าที่จองรถ GEELY EX2 ในแคมเปญราคาพิเศษนี้ จะต้องรับรถภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 เพื่อรักษาสิทธิ์ตามโปรโมชัน โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป บริษัทขอยืนยันราคาจำหน่ายของ GEELY EX2 ดังนี้
- GEELY EX2 รุ่น PRO ราคา 429,990 บาท
- GEELY EX2 รุ่น MAX ราคา 459,990 บาท
นายณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติน จำกัด กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านที่ให้การต้อนรับ GEELY EX2 อย่างอบอุ่น ความไว้วางใจของทุกท่านคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราสร้างยอดจองได้ถึง 4,016 คัน ในช่วงระหว่างงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป นี่ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของแบรนด์ แต่เป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เรามั่นใจว่า GEELY EX2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้น จะสร้างมาตรฐานใหม่ของซิตี้คาร์พลังงานไฟฟ้า ที่จะมอบความสุข ความสะดวกสบาย และประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างอย่างแท้จริง และขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ครอบครัว GEELY ประเทศไทย”
ธนบุรีนอยสเติน ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับ จีลี่ ออโต้ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น อย่างใกล้ชิด เพื่อให้กระบวนการส่งมอบรถ GEELY EX2 เป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นที่สุด โดยจะทยอยส่งมอบให้ลูกค้าที่จองครบ 2,000 สิทธิ์แรก และพร้อมรับรถภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ก่อน ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของบริษัทในการมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือระดับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทุกท่าน ผ่านแผนการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 40 แห่งภายในปีนี้ และเพิ่มเป็น 65 แห่งภายในปี 2569 พร้อมพัฒนาโครงสร้างการดูแลลูกค้าหลังการขายอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ตามมาตรฐานการบริการระดับพรีเมียมของกลุ่มธนบุรี จากประสบการณ์กว่า 85 ปีในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
OMODA & JAECOO คว้าอันดับ Top 2 แบรนด์รถไฟฟ้าและ Top 3 แบรนด์ยอดจองสูงสุด ช่วงระหว่างงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42
OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นช่วงระหว่างงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo ด้วยการคว้าอันดับ Top 2 แบรนด์รถไฟฟ้า และอันดับ Top 3 แบรนด์ ที่มียอดจองรถยนต์ช่วงระหว่างงานสูงสุด ด้วยยอดจองทั่วประเทศสูงถึง 7,266 คัน โดยมี JAECOO 5 EV ครองตำแหน่งรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด สอดคล้องกับการเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
คุณบิล จาง ผู้อำนวยการบริหารแบรนด์ OMODA & JAECOO ประเทศไทย กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านสำหรับความไว้วางใจและทุกยอดจองในครั้งนี้ โดยเฉพาะ JAECOO 5 EV ที่มียอดจองเต็มตามโควต้าแล้ว ในโอกาสนี้ เราจึงขอประกาศปรับราคาใหม่สำหรับ JAECOO 5 EV เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.5 โดยรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Dynamic 589,000 บาท* จากราคาปกติ 629,000 บาท และรุ่น JAECOO 5 EV Long Range Max 639,000 บาท* จากราคาปกติ 679,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เรายังคงเชื่อมั่นว่า JAECOO 5 EV คือหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าในประเทศไทย”
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ OMODA & JAECOO ในประเทศไทย แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้าที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดย OMODA & JAECOO มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Salute to Dealers 2025 Celebrating the Power of Giving
บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพจัดงาน Salute to Dealers 2025 Celebrating the Power of Giving โดยมี มร.เจฟฟรี มาเรนติก ประธานกลุ่มตลาดนานาชาติ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (คนที่ 4 จากซ้าย) เป็นประธานในงานมอบรางวัลให้กับดีลเลอร์ทั้ง 6 คน จาก 4 ประเทศ โดยมี นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน (คนที่ 3 จากขวา) ประธานฟอร์ด อาเซียน และตลาดผู้จำหน่ายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พอยท์ สุรวงศ์ เมื่อวันก่อน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
ปิดฉาก MOTOR EXPO 2025 ยอดจองรถยนต์กว่า 7 หมื่นคัน
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” งานใหญ่โค้งสุดท้ายปี 2568 ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงเกินครึ่ง ตามติดด้วย รถไฮบริด รถสันดาป รถพลัก-อิน ไฮบริด ส่วนจักรยานยนต์คึกคัก ผู้ชมรวมกว่า 1.5 ล้าน เงินสะพัด 7 หมื่นล้านบาท

_cuva ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” เปิดเผยว่า “งาน MOTOR EXPO 2025 เป็นการจัดงานที่อยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดแห่งปี ผนวกกับมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 1 (EV 3.0) ที่จะสิ้นสุดปีนี้ รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ที่จะเริ่มปี 2569 ส่งผลให้งานประสบความสำเร็จอย่างสูง และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคัก พร้อมสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไทยได้กว่า 7 หมื่นล้านบาท”
สำหรับยอดจองรถในงาน แบ่งเป็นรถยนต์ 75,246 คัน จักรยานยนต์ 5,263 คัน และจากข้อมูลผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนสูงถึง 50 % ส่วนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ (สันดาป, ไฮบริด และพลัก-อิน ไฮบริด) 50 %
นอกจากนั้น ประเภทรถที่ได้รับความสนใจแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) 58.4 % รถเก๋ง 27.8 % รถอเนกประสงค์ (MPV) 7.6 % รถกระบะ 4.5 % และอื่นๆ 1.7 %
รถยนต์รุ่นที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” สูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ MITSUBISHI XFORCE, HONDA HR-V, GEELY EX2, JAECOO 5 EV, BYD ATTO3 และ TOYOTA YARIS CROSS
รถจักรยานยนต์ที่ผู้ซื้อเข้าร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ LAMBRETTA, YAMAHA, DECO, EM และ ZONTES
ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขายได้ในงาน 1,122,347 บาท รถจักรยานยนต์เฉลี่ย 177,637 บาท เงินหมุนเวียนในงานราว 7 หมื่นล้านบาท
ปีนี้ ผู้ชมงานสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสถานีเมืองทองธานี และยังมีแพคเกจ MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR ที่อำนวยความสะดวกระดับ VIP ส่งผลให้มีผู้เข้าชมงาน 1,521,296 คน ยอดดาวน์โหลด MOTOR EXPO APPLICATION 45,298 คน และมีผู้ชมงานออนไลน์ 2,028,044 วิว
พบกันใหม่ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 43” และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
_cuva -
เปิดโครงการประกวดวาดภาพระบายสี “โตโยต้า รถยนต์ในฝัน” “TOYOTA Dream Car Art Contest 2026” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้าเปิดโครงการประกวดวาดภาพระบายสี ซึ่งดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 เชิญชวนเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในโครงการ “โตโยต้า รถยนต์ในฝัน” “TOYOTA Dream Car Art Contest 2026” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมโอกาสในการเป็นตัวแทนประเทศไทย ชิงรางวัลระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่น
โครงการ Toyota Dream Car Art Contest ดำเนินต่อเนื่องภายใต้แนวคิด “รถยนต์ในฝัน” เป็นเวทีศิลปะสำหรับแสดงทักษะการวาดภาพ และเป็นกิจกรรมการประกวดระดับนานาชาติโดยผลงานชนะเลิศในระดับประเทศจะได้รับการคัดเลือกไปประกวดต่อในเวทีโลก ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และนับเป็นโครงการสำคัญที่โตโยต้าดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปีทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพ พัฒนาความรู้ และเสริมสร้างทักษะทางศิลปะ พร้อมทั้งส่งเสริมจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ อีกทั้งยังเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความสนใจต่อเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต
ในปีนี้ บริษัทฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้ที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดในระดับประเทศ สำหรับเยาวชนที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 ของทั้ง 3 รุ่น และบริษัทฯ จะมอบทุนการศึกษา พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้กับเยาวชนที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม พร้อมกับการนำผลงานของผู้ชนะเลิศทั้ง 9 ผลงาน ส่งเข้าร่วมประกวด “TOYOTA Dream Car Art Contest” ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วกว่า 47 รางวัล
โดยโครงการนี้ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ให้การสนับสนุนการประชาสัมพันธ์โครงการ รวมถึงการประสานความร่วมมือในการส่งผลงานจากสถานศึกษาในสังกัดเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งจากโรงเรียนภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนกลุ่มเด็กด้อยโอกาส และเด็กกำพร้า เพื่อเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้ถ่ายทอดความฝัน และจินตนาการผ่านผลงานศิลปะ
ตลอดจนผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ด้านศิลปะแก่นักเรียนก่อนการประกวด ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้อย่างเต็มที่
โครงการในปีนี้ จัดขึ้นต่อเนื่องภายใต้เเนวคิด “รถยนต์ในฝัน”
โดยมีรายละเอียดของโครงการ และการรับสมัครเข้าประกวด ดังนี้การประกวดแบ่งออกเป็น 3 รุ่นระดับอายุ
- ระดับอายุต่ำกว่า 8 ปี
- ระดับอายุ 8 – 11 ปี
- ระดับอายุ 12 – 15 ปี
รางวัลการประกวดระดับประเทศในแต่ละระดับอายุ
รางวัลที่ 1 ทุนการศึกษา 30,000 บาท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทาน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีรางวัลที่ 2 ทุนการศึกษา 20,000 บาท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร
รางวัลที่ 3 ทุนการศึกษา 10,000 บาท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร
รางวัลชมเชย 7 รางวัล ทุนการศึกษา 2,000 บาท และประกาศนียบัตร
สำหรับการประกวดระดับประเทศ คณะกรรมการจะทำการคัดเลือกผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์
จินตนาการที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในแต่ละรุ่นจำนวน 3 ผลงาน รวมทั้งสิ้น 9 ผลงาน และประกาศผลผู้ชนะ
การประกวดใน เดือนมิถุนายน 2569ผู้ชนะการประกวดระดับประเทศ รางวัลที่ 1-3 ของทุกรุ่นอายุ
รวม 9 ผลงาน จะได้รับสิทธิ์ส่งเข้าร่วมประกวดในเวทีระดับโลกรางวัลการประกวดระดับโลก
ทุนการศึกษาจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น
Grand Prize Winner ผู้ชนะเลิศได้รับ ทุนการศึกษามูลค่า 5,000 USD
โรงเรียนได้รับ ทุนการศึกษามูลค่า 10,000 USDBest Finalist ผู้ชนะเลิศได้รับ ทุนการศึกษามูลค่า 3,000 USD
Special Award ผู้ชนะเลิศได้รับทุนการศึกษามูลค่า 5,000 USD
โรงเรียนได้รับทุนการศึกษามูลค่า 10,000 USDเชิญสมัครร่วมกิจกรรม และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
ผ่านช่องทางออนไลน์ และที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศช่องทางการสมัคร ดาวน์โหลดเอกสาร เเละสมัครออนไลน์ได้ที่ www.toyota.co.th/toyotadreamcarthailand
วิธีการส่งผลงาน ส่งผลงานจริงทางไปรษณีย์ :
บริษัท ดีรติ จำกัด (ผู้ประสานงานโครงการ)
14 ซอยสุคนธสวัสดิ์ 19 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
กรุงเทพมหานคร 10230
โทร 095 741 6959ระยะเวลารับสมัคร ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2569
จุดประกายความฝัน จุดประกายทุกจินตนาการ
ส่งเสริมเด็กไทย กับการประกวดวาดภาพระบายสี
“โตโยต้า รถยนต์ในฝัน” “TOYOTA Dream Car Art Contest 2026”ติดตามรายละเอียดการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Toyota Dream Car Art Contest
Website : www.toyota.co.th/toyotadreamcarthailand
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
Amazing Thailand Souped Up Grand Prix ตอกย้ำตำนานงานแดร็กไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดปีที่ 18 ปิดฉากสุดเดือด 132 คันซัดเต็มพิกัด คนดูล้นสนามกว่า 1.6 หมื่นคน
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนิตยสารเอ็กซ์โอ ออโตสปอร์ต ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดงาน “Amazing Thailand Souped Up Grand Prix 2025” ด้วยรูปแบบการแข่งขันมาตรฐานสากล บทมาตรการความปลอดภัยเข้มงวด และการบริหารจัดการระดับมืออาชีพ รองรับนักแข่งจากทั้งในและต่างประเทศกว่า 7 ประเทศ ได้แก่ บรูไน นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย ไต้หวัน และคูเวต พร้อมผู้เข้าชมล้นสนามรวมกว่า 16,300 คน ตลอด 3 วัน ณ สนาม Bangkok Drag Avenue คลอง 5 ระหว่างวันที่ 5–7 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา
“Souped Up” มีจุดเริ่มต้นจากคอลัมน์รถโมดิฟายระดับสูงในนิตยสาร XO AUTOSPORT ก่อนยกระดับสู่เวทีบันทึกสถิติเวลาอย่างเป็นทางการ ของการแข่งขันควอเตอร์ไมล์ (402 เมตร) และพัฒนาเป็นงานระดับประเทศอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการยกระดับการแข่งขันเพื่อก้าวสู่ระดับสากล ที่มีนักแข่งจากหลากหลายประเทศเข้าร่วมในรายการ ภายใต้ชื่อ “Souped Up Grand Prix” โดยในปีนี้ถือเป็น ปีที่ 18 ของการจัดงาน พร้อมยืนยันสถานะ “งานจัดอันดับรถที่เร็วที่สุด ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยในทุกมิติ
งานในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลัก ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), Toyota, Osuka, เพ็ญภาค, Wise, สินธร สเต็กเฮาส์, Top Secret Thailand, Isuzu, Viu และ Leo รวมถึงทีมแข่ง อู่แต่งรถ นักโมดิฟาย และแฟนความเร็วทั่วประเทศ ส่งให้งานนี้ก้าวขึ้นเป็น งานประเพณีใหญ่ประจำปลายปีของวงการแดร็กไทย และยังเป็นปีที่มีการก้าวสู่มาตรฐานการบันทึกสถิติระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการอีกด้วย
ปีนี้มีรถเข้าร่วมจัดอันดับรวม 132 คัน แบ่งเป็นรถจากประเทศไทย 106 คัน และรถจากต่างประเทศ 26 คัน พร้อมความเร้าใจจาก Support Race “Toyota Racing Mania” อีก 31 คัน ทำให้การแข่งขันปีนี้สูสี เข้มข้น และเป็นหนึ่งปีที่ร้อนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา การันตีด้วยยอดผู้ชมรวมกว่า 16,300 คน และยอดรับชมออนไลน์ผ่าน Facebook และ YouTube มากกว่า 30,000,000 ครั้ง รวมถึงการถ่ายทอดสดตรงสู่ประเทศมาเลเซีย สร้างกระแสการรับชมระดับภูมิภาคแบบเต็มพิกัด
นอกจากความมันส์ในสนามแล้ว งานครั้งนี้ยังสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการท่องเที่ยว โรงแรม การเดินทาง ร้านอาหาร รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ตอกย้ำบทบาทของงานในฐานะ “มอเตอร์สปอร์ตอีเวนต์ระดับประเทศ” อย่างแท้จริง สำหรับกิจกรรมครั้งต่อไป สามารถติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ทาง
Facebook: XO Autosport และ Souped Up Grand Prix รวมถึงทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine




















































































































































