-
News Car2 Min Read
ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ไปกับ TOYOTA ALIVE และพบความน่ารักเกินต้านของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ความสุขอีกมากมาย
TOYOTA ALIVE ศูนย์รวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์และศูนย์ทดสอบรถยนต์ของโตโยต้า พร้อมขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ กับการแนะนำกิจกรรมทดลองขับสุด EXCLUSIVE ภายใต้ชื่อ กิจกรรม “Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense” และ กิจกรรม “Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4 x 4” ในทุกวันอังคารและพุธ ตลอดปี 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการของโตโยต้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ให้เต็มอิ่มกับข้อมูลรถโตโยต้า ควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์ขับขี่ที่คุณพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านต้อนรับความสดใสเต็มพิกัดของมาสคอตสมาชิกใหม่ของ TOYOTA ALIVE “น้อง HEARTY” ออกแบบมาในรูปหัวใจพร้อมคาแรคเตอร์กระฉับกระเฉง สื่อถึงโตโยต้าที่พร้อมดูแลลูกค้าทุกเจนด้วยใจบริการ มาพร้อม เพลง I Feel Alive ทีมีเนื้อหา ท่วงทำนองน่ารัก กับความหมายดีๆ ภายใต้กิจกรรม LET’s DRIVE WITH HEARTY ในวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ณ TOYOTA ALIVE ถนนบางนา-ตราด กม.3 พร้อมเชิญชวนร่วมสนุกกับ TIKTOK CHALLENGE ลุ้นรับรางวัลกับท่าเต้นประจำตัว และเพลง I Feel Alive ของ HEARTY
TOYOTA ALIVE คือ Lifestyle Community หรือ ศูนย์รวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ และศูนย์ทดสอบรถยนต์ของโตโยต้า ที่พร้อมเชื่อมโยงและใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการแบบครบวงจร เปิดให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้บริการอย่างใกล้ชิดภายใต้ แนวคิด “Closer to Customer” บนพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร พร้อมสนามทดสอบรถมาตรฐาน รวมทั้งสิ้นกว่า 48,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่กิจกรรมเปิดบริการในทุกวันตั้งแต่ 08:30 – 18:00 น. และ TOGETA CAFÉ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 07:30 – 18:00 น.
ขับเคลื่อนความสุขครั้งใหม่ กับ TOYOTA ALIVE พบกิจกรรมใหม่
ทั้งคอร์สทดลองขับรถพิเศษ และมาสคอตสุดน่ารัก “น้อง HEARTY”
คอร์สทดลองขับรถโตโยต้าพิเศษ กับกิจกรรม “Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense” และ “Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4×4”
โดย INSTRUCTOR มืออาชีพ ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสสมรรถนะรถยนต์โตโยต้า ในวันอังคารและพุธ เวลา 9:30-11:30น. ตลอดปี 2568 ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมนี้เป็นต้นไป
- Confident Tuesday อังคารมั่นใจกับ Toyota Safety Sense
เปิดคอร์สพิเศษรับเพียง 20 ท่านต่อรอบ
ให้ข้อมูลระบบ Toyota Safety Sense เชิงลึก พร้อมทำความรู้จักรถยนต์โตโยต้าไฮบริดหลายรุ่น เต็มเวลากับการพูดคุยตอบทุกคำถาม มอบประสบการณ์การขับขี่จากการจำลองสถานการณ์จริง ที่คุณอาจพบเจอ พร้อมลองทดสอบฟังก์ชันการใช้งานจริง ให้คุณได้มั่นใจที่สุดกับทุกการใช้งานด้วยตัวคุณเอง
- Adventurous Wednesday พุธสุดมันส์ กับโตโยต้า 4 x 4
เปิดคอร์สพิเศษรับเพียง 10 ท่านต่อรอบ
พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ทุกฟังก์ชันการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อย่างเต็มอิ่ม พิสูจน์ระบบส่งกำลัง 4 x 4 ในรถสมรรถนะเยี่ยมอย่าง FORTUNER และรถกระยะยอดนิยมสุดแกร่ง อย่าง HILUX REVO ทั้งบนถนนในรูปแบบ ON ROAD และสุดมันไปกับการทดสอบจริงในสนาม OFF ROAD ที่พร้อมมอบประสบการณ์จริงในการใช้ระบบ 4 x 4 ให้คุณอย่างเต็มรูปแบบ
สามารถดูตารางการจัดกิจกรรม และลงทะเบียนจองกิจกรรมทดลองขับได้แล้ววันนี้
แนะนำมาสคอตสุดน่ารัก “น้อง HEARTY” กับเพลง I feel Alive
พร้อมเชิญชวน ร่วมสนุกกับกิจกรรม TikTok Challenge
พบความน่ารัก สดใสเต็มพิกัด ของ “น้อง HEARTY” มาสคอตน้องใหม่ ออกแบบมาในรูปหัวใจพร้อมคาแรคเตอร์กระฉับกระเฉง สื่อถึงโตโยต้าที่พร้อมดูแลลูกค้าทุกเจนเด้วยใจบริการ ที่ TOYOTA ALIVE ออกแบบผ่านคอนเซปต์ ดังนี้
- หัวใจแห่งแรงบันดาลใจ น้อง HEARTY ได้รับการอออกแบบมาเป็นรูปหัวใจ สื่อถึงตัวแทนของ TOYOTA ALIVE ที่มีใจบริการ พร้อมตอบรับทุกแรงบันดาลใจของทุกคนที่เข้ามา TOYOTA ALIVE สถานที่ที่เปิดรับความท้าทายและสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างพลังบวกให้กับทุกการเดินทางของคุณ
- หัวใจที่เปิดกว้าง TOYOTA ALIVE บ้านของ HEARTY เป็นพื้นที่กว้างขวาง เชื่อมโยงทุกเจเนอเรชัน ทั้งครอบครัวและคนรุ่นใหม่ พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยกิจกรรมความสนุกหลากหลายรูปแบบ และบริการรถทดลองขับที่ครบครันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
- หัวใจที่พร้อมบริการ ที่ TOYOTA ALIVE คุณจะได้รับบริการด้วยใจจากทีมงานมืออาชีพและน้อง HEARTY ที่คอยต้อนรับและเติมเต็มประสบการณ์ให้คุณประทับใจในทุกครั้งที่มาเยือน
นอกจากนี้ น้อง HEARTY ยังมาพร้อมเพลงประจำตัว ในชื่อ I feel Alive ที่มีเนื้อร้องสื่อความหมายดีๆ พร้อมท่าเต้นเก๋ๆ ที่ทุกคนสามารถเต้นตามได้ง่ายๆ
รวมทั้ง ผู้ที่สนใจยังสามารถร่วมสนุกง่ายๆกับกิจกรรม TikTok Challenge เพียงอัดคลิปตัวเองเต้นตาม แล้วโพสต์ลง TIKTOK พร้อมติดแฮชแท็ก #HEARTYDANCECHALLENGE #TOYOTAALIVE โดยผู้ที่ได้ยอดหัวใจสูงสุด จะได้รับของรางวัลเป็น บัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ประกาศผลผู้ได้รับรางวัลในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ผ่านช่องทาง เฟสบุคที่ https://www.facebook.com/toyotaalive
บริการอื่นๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจน
- PRODUCT SHOWCASE จัดแสดงรถรุ่นใหม่ๆ และรถรุ่นพิเศษหลากหลายตลอดปี ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หรือรถรุ่นพิเศษต่างๆ /รถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล GR / รถที่ใช้แข่งขันในรายการมอเตอร์สปอร์ต หรือรถ LIMITED EDITION
- สถานี ALIVE CHARGE พร้อมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR โดยมีด้วยหัวชาร์จ AC จำนวน 2 หัว ความแรงอัดประจุที่ 22kW ต่อชั่วโมง และหัวชาร์จ DC จำนวน 2 หัว ความแรงอัดประจุที่ 120kW ต่อชั่วโมง อัตราค่าบริการ การชาร์จ ช่วง On-peak อยู่ที่ 70 บาท/kW และช่วง Off-peak อยู่ที่ 6 บาท/kW สำหรับลูกค้าที่สนใจใช้บริการ สามารถจองเพื่อใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- TOGETA CAFE’ คาเฟ่เครื่องดื่ม หอมละมุมกาแฟจากโครงการพระราชดำริ “สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์” โดย TOGETA COFFEE ดำเนินการภายใต้แนวคิด “กาแฟดี ป่าดี และชุมชนดี” จากความตั้งใจของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่มีความมุ่งหวังจะส่งเสริมกาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเกษตรกร
- กิจกรรม Entertainment เติมเต็มความสนุกตลอดปี อัพเดทกิจกรรมสดใหม่ในแต่ละไตรมาส พบกับศิลปินที่เป็นกระแสและที่เป็นที่ชื่นชอบ กิจกรรม DIY Kid zone ถ่ายรูปสติกเกอร์ และอื่นๆ แบบไม่ซ้ำตลอดทั้งปี
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
เบนท์ลีย์ แบงค็อก ร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยบนเวทีระดับภูมิภาคในงาน Asia Pacific Property Awards 2025
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับภูมิภาคด้วยการจัดแสดงยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์ รุ่น New Continental GT Speed ในงาน Asia Pacific Property Awards 2025 ให้เหล่าผู้ร่วมงานจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ยลโฉมกันอย่างใกล้ชิด ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เมื่อวันที่ 15 – 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ นอกเหนือจากการร่วมเชิดชูความเป็นเลิศด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยและร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของธุรกิจไทยบนเวทีระดับสากลแล้ว ยังถือเป็นการสานต่อแนวทางของแบรนด์ด้านที่อยู่อาศัย หรือ Real Estate ที่เป็นอีกหนึ่ง Passion Points ที่สำคัญของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์แบบเต็มรูปแบบ ในการนี้ได้มีการนำยนตรกรรมแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ล่าสุดอย่าง New Continental GT Speed มาถ่ายทอดความหรูหราและการออกแบบที่สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับโลก ซึ่งการจัดแสดงสุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ได้สร้างสีสันและดึงดูดแขกผู้ร่วมงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ได้สัมผัสกับความงดงาม ความหรูหรา และความประณีตที่บรรจงรังสรรค์ลงบนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบเดี่ยว กระจังหน้า ไฟท้าย และสปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น พร้อมกับภายในห้องโดยสารที่ได้รับการตกแต่งด้วย Dark Chrome สีเข้ม ขนานไปกับการออกแบบอย่างวิจิตรบรรจงให้มีลักษณะเสมือนรังไหมด้วยงานควิลท์แบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เวทีการประกาศผลรางวัล Asia Pacific Property Awards 2025 จัดขึ้นโดย IPAX Asia Pacific คือ หนึ่งในงานประกาศรางวัลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยาวนานกว่า 29 ปี ครอบคลุมมากกว่า 45 ประเภทรางวัลในด้านที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพานิชย์ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอสังหาริมทรัพย์จากหลากหลายประเทศในภูมิภาคร่วมพิจารณาและตัดสินด้วยหลักเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลที่รวมไปถึงการออกแบบ คุณภาพ การบริการ นวัตกรรม ความคิดริเริ่ม และความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน สำหรับในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 800 ราย ซึ่งธุรกิจอสังหาฯและโรงแรมในประเทศไทยคว้ารางวัลไปได้มากที่สุดถึง 109 รางวัล ตอกย้ำถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในประเทศไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
มินิ ประเทศไทย เปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ จัดเต็มออปชั่น ตามคำเรียกร้อง พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล
มินิ ประเทศไทย เตรียมปลุกกระแสยานยนต์ไฟฟ้าให้โลดแล่นทั่วท้องถนนเมืองไทยอีกครั้ง กับการเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของ มินิ คูเปอร์ เอสอี อันเป็นเอกลักษณ์ สำหรับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ถือเป็นการก้าวสู่อีกขั้นของการพัฒนาดีไซน์และนวัตกรรม โดยยังคงประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าสุดเร้าใจ และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เจ้าของมินิคุ้นเคยเป็นอย่างดี พร้อมด้วยชุดฟีเจอร์พรีเมียมใหม่ที่พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในมิติที่เหนือกว่า พร้อมส่งมอบแล้ววันนี้ที่ผู้จำหน่ายมินิทั่วประเทศ
นอกจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ มินิ ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ที่ได้นำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน มอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าตื่นเต้นในการเติบโตของมินิในตลาดประเทศไทย
มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่
ราคา: 1,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
จากความสำเร็จที่โดดเด่นเมื่อปีที่แล้ว มินิ คูเปอร์ เอสอี ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการเดินทางในเมือง ก้าวขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม ด้วยการเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี รุ่น ไฮทริม โปรไฟล์ใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ครบครัน ยกระดับการขับขี่ไปอีกขั้น
มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยังคงรักษาเสน่ห์ภายนอกในแบบฉบับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ที่มาพร้อมกับไฟหน้า LED ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีการยกระดับทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน ไฮไลต์ของรุ่นนี้ได้แก่ ล้อแม็กซ์ Night Flash Spoke 2-Tone ขนาด 18 นิ้ว และตัวเลือกสีใหม่สุดพิเศษอย่าง Indigo Sunset Blue ซึ่งเข้ากันกับรูปทรงที่โดดเด่นของ มินิ คูเปอร์ เอสอี ได้อย่างลงตัว มีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารของรุ่นไฮทริมโดดเด่นด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ในหลากหลายด้าน โดยผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับระบบเครื่องเสียงเหนือระดับจาก Harman Kardon และเบาะไฟฟ้าพร้อมการตั้งค่าระบบจดจำการปรับเบาะแบบไฟฟ้าและฟังก์ชั่นนวดสำหรับเบาะผู้ขับขี่ เติมความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง
ในเรื่องของสมรรถนะ มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ยังคงผสานพลังกับประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ และตอบสนองเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ปลอดมลพิษ ในด้านของความจุแบตเตอรี่ รุ่นไฮทริมสามารถเดินทางได้สูงสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้ เมื่อชาร์จที่สถานีชาร์จ DC แบตเตอรี่สามารถเพิ่มขึ้นจาก 10 เปอร์เซ็นต์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาที
MINI Experience Modes ทั้ง 7 แบบช่วยปรับแต่งทุกการขับขี่ตามสไตล์ของผู้ขับ ปรับการแสดงผลหน้าจอกลม ไฟภายใน และเสียงให้เข้ากับประสบการณ์การขับขี่ของแต่ละบุคคล ในแต่ละโหมดมีการออกแบบพื้นหลังที่สวยงาม พร้อมการเคลื่อนไหวที่เพิ่มความสนุกโดยไม่รบกวนการขับขี่ี่ สำหรับรุ่นไฮทริมโดดเด่นด้วย MINI Navigation AR ระบบนำทางด้วยเทคโนโลยี AR ฉายวิดีโอเส้นทางของถนนแบบสมจริง ทำให้การนำทางในเมืองที่ซับซ้อนกลายเป็นคู่มือแบบเรียลไทม์ที่ใช้งานง่าย อีกทั้งยังมีผู้ช่วยส่วนตัวกับ MINI Intelligent Personal Assistant ให้ผู้ขับขี่ควบคุมมินิด้วยคำสั่งเสียง และจะแสดงผลบนหน้าจอ OLED อันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ และสำหรับคนที่ชอบหาประสบการณ์ใหม่ที่ใช้งานง่ายอยู่เสมอ MINI Connected Store เปิดให้เข้าถึงแอปพลิเคชันที่หลากหลายทั้งด้านประโยชน์ใช้สอยและความบันเทิง และมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง
เพื่อยกระดับประสบการณ์พรีเมียมให้สูงยิ่งขึ้น มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการจอด Parking Assistant Plus อันทันสมัย ซึ่งประกอบด้วยกล้อง 360 องศา และระบบบันทึกการถอยจอด ทำให้การควบคุมรถและการจอดรถเป็นเรื่องง่ายดาย สำหรับความสามารถในการจอดรถที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ฟีเจอร์การจอดรถระยะไกลล้ำสมัยอย่าง Parking Assistant Professional ทำให้ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับการควบคุมและจอด มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ได้ ซึ่งมีให้บริการผ่านระบบสมาชิก (subscription)
มินิ คูเปอร์ เอสอี ไฮทริม ใหม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่าย มินิ อย่างเป็นทางการ ในราคา 1,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีสีให้เลือก 9 สี ได้แก่ สีฟ้า Icy Sunshine Blue, สีน้ำเงิน Blazing Blue, สีเขียว British Racing Green IV, สีเขียว Ocean Wave Green, สีขาว Nanuq White, สีเงิน Melting Silver, สีเหลือง Sunny Side Yellow, สีแดง Chili Red II, และสีน้ำเงิน Indigo Sunset Blue สียอดนิยมจาก มินิ แอสแมน ที่รอให้พบคันจริงครั้งแรก ที่งาน มินิ เอ็กซ์โป 2025 วันที่ 16-22 กรกฏาคม 2568 ที่ เซ็นทรัลเวิลด์
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ใหม่
ราคา: 3,399,000 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ใหม่ มอบสมรรถนะอันน่าตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยพลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์สี่สูบ TwinPower Turbo อันทรงพลัง เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรนี้สร้างพลังขับเคลื่อนถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร มอบความสนุกสนานในการขับขี่และสมรรถนะระดับสูงสุด ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อความสปอร์ต ถ่ายทอดพลังของเครื่องยนต์สู่การเปลี่ยนเกียร์ที่ไดนามิกเป็นพิเศษ ส่งผลให้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ สามารถทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ดึงดูดทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำเงาพร้อมช่องระบายอากาศในดีไซน์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และโลโก้ JCW รูปแบบใหม่ ตอกย้ำถึงสมรรถนะอันเหนือชั้น ส่วนด้านหลัง การออกแบบอันโดดเด่นด้วยท่อไอเสียวางตำแหน่งกลางภายในดิฟฟิวเซอร์สีดำ เน้นย้ำถึงความสปอร์ต ดุดัน อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ใหม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีให้เลือกในสี Legend Grey (หลังคาสีแดง) Nanuq White (หลังคาสีแดง) และ Chili Red II (หลังคาสีดำ)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่
ราคา: 3,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ MSI Standard Package คุ้มครองการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.)
สัมผัสความเพลิดเพลินในการขับขี่แบบเปิดประทุนไร้ขีดจำกัดกับ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ TwinPower Turbo ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่สามารถสร้างพลังขับเคลื่อน 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร พร้อมการควบคุมระดับสูงสุด มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่นี้สามารถทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตแล้ว รุ่นคอนเวิร์ตทิเบิล มาพร้อมหลังคาผ้าใบ เพื่อความอิสระสูงสุดในทุกการขับขี่ หลังคาผ้าใบสามารถพับเก็บได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาเพียง 18 วินาที ที่ความเร็วสูงสุดถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคา 3,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในสี Legend Grey
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car2 Min Read
บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025 ประกาศคืนสู่ปฏิทินมอเตอร์สปอร์ตไทย ฉลองปีที่ 19 เตรียมระเบิดความมันส์ 5 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคมนี้ ขนรถแข่งแน่นสนาม ผนึกกำลัง 3 รายการซัพพอร์ตเรซ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) , Toyota GAZOO Racing Thailand และ Formula 4 South East Asia (F4SEA) เติมเต็มความเร้าใจ ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี
มหกรรมมอเตอร์สปอร์ตสุดยิ่งใหญ่แห่งปีรายการ บางแสน กรังด์ปรีซ์ 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–6 กรกฎาคม 2568 ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี ถือเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “REVS THE WAVE ” คลื่นความเร็วที่เต็มไปด้วยเหล่าขบวนรถแข่งกว่า 224 คัน รวมสุดยอดนักแข่งทั้งไทยและต่างชาติจาก 26 สัญชาติ ทั้งนี้ร่วมจับมือกับบรรดารายการซัพพอร์ตเรซ 3 รายการได้แก่ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) , Toyota GAZOO Racing Thailand และ Formula 4 South East Asia (F4SEA) ที่มาร่วมสร้างสีสันและเพิ่มบรรยากาศความมันส์ในสนามนี้
โดยบริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันรายการ บางแสน กรังด์ปรีซ์ ภายใต้การรับรองโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) ซึ่งสนามบางแสนเป็นสนามแข่งรถเลียบชายหาดที่ผ่านการรับรองจาก FIA ตามมาตรฐานสากล FIA Grade 3 และยังคงจัดเต็มไฮไลท์สำคัญที่รวบรวมไว้ภายในงาน เริ่มต้นด้วยพี่ใหญ่ TSS The Super Series by B-Quik ที่อัดแน่นด้วยรถแข่ง Supercar หลากค่าย พร้อมปลุกความสนุกกันที่รุ่น TSS Supercar GT3/GTM กับลิสต์นักแข่งที่น่าจับตามองในคลาส GT3 อย่าง “ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี จับคู่ แบงค์ กันศักดิ์ กุศิริ” จากทีม Singha Motorsport Team Thailand ใช้รถแข่ง Honda NSX GT3 และการคัมแบกลงสนามบางแสนอีกครั้งของ “Gregory Bennett (เกรกเกอรี่ เบนเน็ท) ” จับคู่กับนักแข่งหน้าใหม่ในรายการที่ถือใบขับแข่งระดับ Gold จากนิวซีแลนด์ อย่าง “Christopher Van Der Drift (คริสโตเฟอร์ แวน เดอร์ ดริฟท์)” จากทีม Amerasian Fragrance by AFRacing ใช้รถแข่ง Ferrari 296 GT3 รวมถึงคลาส GTM ที่ต้องติดตามรถใหม่ประเดิมสนามนี้ครั้งแรกอย่าง Ferrari 296 จากทีม PSC MOTORSPORT ขับโดย “กี้ สราวุธ เสรีธรณกุล จับคู่กับ Afiq Yazid (อะฟิค ยาซิด)”
ขยับเข้าสู่รุ่น TSS Supercar GT4/GTC ที่รวมรถแข่งตัวแรร์ดวลลงแทร็กชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลย ซึ่งในคลาส GT4 ก็มีรถแข่งลงดวลสนามกว่า 13 คัน และเปิดลิลต์นักแข่งฟอร์มดีจากสนามที่ผ่านมาอย่าง “บูม กันตธีร์ กุศริ จับคู่ทีมเมท คมิก กรรณสูต ” จากทีม AAS Motorsport ใช้รถแข่ง Porsche 718 Cayman GT4 และคลาส GTC พร้อมแนะนำอดีตนักแข่ง Formula1 ถือใบขับแข่งระดับ Gold ชาวอิตาลี คือ “ Gianni Morbidelli (จิอันนี่ มอร์บิเดลลี)” จากทีม TECPRO RACING ใช้รถแข่ง Ford RR Daytona GT Coupe
ส่งไม้ต่อความเร็วให้กับน้องเล็ก B-Quik Thailand Super Series ที่บอกได้เลยว่าแต่ละรุ่นนั้นจะทำให้ทุกสายตาต้องจับจ้องด้วยรถแข่งที่เต็มกริดสนามบางแสนแน่นอน ไปลุยกันที่คลาส TH Super ECO ที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่สัญญาณไฟดับลง เปิดไลน์อัพนักแข่งที่น่าสนใจใน Class Overall กับนักแข่งหนุ่ม “เรียว วงศพัทธ์ เกตุศิริ” จากทีม Idemitsu Kinik Cusco Nexzter Team ใช้รถแข่ง Honda Brio Amaze และ Class C Plus กับนักแข่งดาวรุ่ง “อาร์ตี้ นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร” จากทีม PT Maxnitron Wise BRD Nexzter Venom secret koh kood by Rongpo Power Unit ใช้รถแข่ง Honda Brio Amaze ทั้งนี้ใน Class C ก็มีไลน์อัพนักแข่งหญิงฟอร์มดีขึ้นโพเดียวอันดับ 1 จากสนามที่ผ่านมาอย่าง “โบนัส ศิริภากรณ์ แยบยนต์” จากทีม TMC DRIVE68 LENSO BY WOOTBANGBON3 ใช้รถแข่ง Toyota Yaris
มาติดตามกันต่อกับคลาส Super Touring ด้วยจำนวนรถแข่งมากถึง 27 คัน ภายใต้รูปแบบการแข่งขัน 1 ชั่วโมงกับอีก 1 รอบ บอกได้เลยว่าทุกคันดวลกันสมน้ำสมเนื้อสุด ๆ และเราไปเผยโผ 2 นักแข่งทีมเมทที่น่าติดตามอย่าง “เชฟชาย โชติธนินท์ ไชยกิตติลักษณ์ จับคู่กับ ใหม่ อณิวัฏ ล้อมมหาดไทย” จากทีม NEXZTER x RMR Motorsport by ร่มไม้ริมนา ใช้รถแข่ง Honda CRZ
และปิดท้ายกันที่คลาส TH Super Pickup กระบะสายซิ่งที่แฟนคลับพร้อมเชียร์แบบติดขอบสนามกับลิสต์นักแข่งใน Class A ที่มีผลงานโด่ดเด่นอย่าง “จ๊อบ – ณัฐธนุตม์ วงษ์สมบูรณ์” จากทีม LIQUI MOLY RUNSTOP SUPER PIG VENOM ออฟชั้นบางแสน By JOBMOBTRI ใช้รถแข่ง Isuzu All New และนักแข่ง Class B ที่พลาดไม่ได้อย่าง “หนุ่ย อนุวัฒน์ มณีอินทร์” จากทีม ISUZU Suphan ADVAN LiquiMoly Racing team ใช้รถแข่ง Isuzu D-Max รวมถึง Class C ต้องจับตาให้ดีกับนักแข่ง “นุ๊ก อิทธิศักดิ์ แก้วดี” จากทีม SSK Factory OMC-racing ครัวบุษกร บ้านฉาง อู๊ด-อ๋องระยอง ใช้รถแข่ง Isuzu All New
และแน่นอนว่าปีนี้เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากรายการซัพพอร์ตเรซทั้งไทยและต่างประเทศถึง 3 รายการ ซึ่งรายการแรกที่เราอยากจะพูดถึงคือ รายการ Porsche Carrera Cup Asia (PCCA) นำทัพรถแข่ง Porsche ลงดวลสนาม 24 คัน พร้อมอัพเดทนักแข่งตัวเต็งระดับแนวหน้า รวมถึงนักแข่งไทยหนึ่งเดียวอย่าง “มั่นคง เสถียรถิระกุล” ซึ่งทำผลงานติดโพเดียมจากสนามที่ผ่านมา ต้องมาลุ้นและเชียร์นักแข่งไทยให้ขึ้นโพเดียมที่สนามโฮมเรซกัน อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญอย่างรายการ Toyota GAZOO Racing Thailand กับความมันส์ที่ต้องติดตามกับการแข่งขันทั้งหมด 4 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Toyota Yaris One Make Race , Toyota Yaris ATIV Lady One Make Race , Toyota Hilux Revo One Make Race และ Toyota Corolla Altis GR Sport One Make Race กับจำนวนรถที่เขาร่วมกันแข่งขันกว่า 60 คัน อีกทั้งนักแข่ง STAR TEAM 2025 ที่คัมแบกลงแข่งบางแสนอีกครั้ง อาทิ “ปังปอนด์ อัครวุฒิ” ลงแข่งขันในรุ่น Corolla Altis GR Sport One Make Race ,“ป๊ายปาย โอริโอ้” ลงแข่งขันในรุ่น Yaris One Make Race และ “มิย่า ทองเจือ” ลงแข่งขันในรุ่น Yaris ATIV Lady One Make Race
และที่พิเศษกว่าทุกปี คือการมาเยือนสนามบางแสนครั้งแรกของรถล้อเปิด (Open Wheel) รายการ F4 SEA (Formula 4 Southeast Asia Championship) รายการฟอร์มูล่าระดับเยาวชนระดับภูมิภาค ที่ขนทัพรถสูตรตัวแรง และนักแข่งดาวรุ่งจากทั่วภูมิภาครวมถึงนักแข่งไทย 2 หนุ่มจากทีม Star Performance อย่าง “พัตเตอร์ วรพงศ์ เอี่ยมวิจารณ์” และ“ไอตั้น อัษฎาธร” ก็เข้าร่วมประชันบนสนามเลียบชายทะเลสุดคลาสสิก บอกได้เลยว่างานนี้รับรองมันส์ทุกโค้งแน่นอน
ศึกความเร็ว Bangsaen Grand Prix 2025 นอกจากความมันส์ในสนามแล้ว พื้นที่รอบสนามก็ยังเสริมบรรยากาศด้วยจากบรรดาสปอนเซอร์และพันธมิตรที่มาร่วมจัดบูธกิจกรรมในโซนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น B-Quik , Toyota Motor Thailand , Est cola , Hankook , Idemitsu , Nexzter , ECU Shop , Bangkok Airway ซึ่งต่างก็ขนกิจกรรมของพรีเมียมและมินิเกมส์ให้แฟน ๆ ร่วมสนุกลุ้นของรางวัลแบบจุใจ นอกจากนี้ ยังมีบูธจาก IMANE Thailand ที่มาจำหน่ายสินค้า ทั้งเสื้อ T-Shirt New collection เฉพาะงานบางแสน แอบกระซิบสินค้ามีจำนวนจำกัด , หมวก , กระบอกน้ำเก็บความเย็น และพวกกุญแจจากรายการให้ทุกท่านได้จับจองกัน
ทั้งนี้หากอยากชมการแข่งขันแบบใกล้ชิดติดขอบสนาม ปีนี้เราจัดเต็มจุดชมการแข่งขันฟรีบนแกรน-สแตนด์ถึง 7 จุด ให้เลือกจับจองกันตามชอบ ไม่ว่าเป็นโซนยอดฮิตบริเวณโค้ง 18 ซึ่งจะอยู่ใกล้ S2 Hotel Bangsaen มีถึง 3 จุด , บริเวณจุด START 1 จุด , บริเวณโค้ง 12 จุด และบริเวณโค้ง 15 ก่อนเข้าทางตรงหน้าชายหาดอีก 1 จุด นอกจากนี้เพื่อความสะดวกสบายของแฟนๆ เราเตรียมบริการลานจอดรถฟรี ณ อาคารจอดรถเทศบาลเมืองแสนสุข ถนนบางแสนสาย 1 (เลียบชายหาด) ซอย 2 รองรับรถได้ถึง 300 คัน และอีกจุดคือ ลานจอดรถของ ททท. ชลบุรี บริเวณหลังโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ (บางแสนซอย 3) พร้อมบริการ รถรับ-ส่ง จากจุดจอดรถสู่สนามแข่งตลอดทั้งวัน
งานเดียวที่รวบรวมทั้งความสนุก ความเร้าใจ และความมันส์แบบจัดเต็ม เพียง 5 วันเท่านั้น! โดยเฉพาะในวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคมนี้ ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดสุดพิเศษ พร้อมชมขบวนพาเหรดรถคลาสสิก รถเรโทร และรถแต่งหลากสไตล์กว่า 100 คัน ที่จะมารวมตัวสร้างสีสัน สร้างบรรยากาศสุดครึกครื้นภายในงาน และพิเศษสุดในช่วงเย็นเวลา 18.00 – 21.00น. พบกับ กิจกรรม Meet & Greet กับการรวมตัวของเหล่ารถแข่งทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Super Touring , Super Eco และSuper Pickup D1 D2 โอกาสดีที่ จะได้สัมผัสรถแข่งแบบใกล้ชิด ใครเป็นสายรถ สายถ่ายรูป หรือสายกิจกรรม บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด…
เมื่อเทศกาลความเร็วระดับประเทศกลับมาอีกครั้ง “Bangsaen Grand Prix 2025” ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคมนี้ ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี พร้อมเปิดให้เข้าชมฟรีแบบติดขอบแทร็กให้คุณได้สัมผัสเสียงเครื่องยนต์คำรามและบรรยากาศสุดเร้าใจกันแบบใกล้ชิด หรือจะรับชมแบบออนไลน์ได้ครบอรรถรสกับบรรยายถึง 4 ภาษา ทั้ง ไทย อังกฤษ จีน และเยอรมัน ผ่าน Live Streaming ทาง FB/ YT : Thailand Super Series และสามารถรับชมการแข่งขันได้ที่ช่อง PPTV Sport
นอกจากนี้ยังรับชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทางโทรทัศน์ได้ที่ True Visions ช่อง TSPORT 7 , TrueID Sports ช่อง 621 คลิกเลย https://trueid.onelink.me/D7LM/3967w8t5 และสำหรับแฟนๆ สาย Free TV สามารถชมสดได้ที่ PPTV HD36 ในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม เวลา 15.00 – 17.00 น. ที่สำคัญสนามนี้ยังรับชมการแข่งขันแบบจุใจผ่าน MONOMAX และ ช่อง Sport1 อีกด้วย
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
GWM โชว์ศักยภาพเทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนยานยนต์อัจฉริยะ พร้อมชูโมเดล SEE และระบบ ASL บนเวที Automotive Summit 2025
GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” GWM ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน Automotive Summit 2025 งานสัมนาวิชาการด้านยานยนต์ โดยมีแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำระดับโลกกว่า และผู้ที่อยูในอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดย เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “AI in Autonomous Driving – How AI work in ADAS/Autonomous Vehicle” เผยแนวทางการประยุกต์ใช้ AI เพื่อยกระดับสมรรถนะของระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) และระบบขับขี่อัตโนมัติ ทั้งในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบภายในรถยนต์ที่เกิดขึ้นจากการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับระบบควบคุมอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญ ทั้งในด้านการออกแบบระบบให้มีความน่าเชื่อถือ มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ตลอดจนความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและกฎหมายที่จะรองรับการใช้งานยานยนต์อัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
Automotive Summit 2025 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Artificial Intelligence for Automotive Industry “AI4AI” ปัญญาประดิษฐ์ขับเคลื่อนยานยนต์สู่อนาคต จัดขึ้น ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 18 – 19 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาภายในงานครอบคลุมการใช้งาน AI ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การใช้งานภายในตัวรถเพื่อเสริมความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ การประยุกต์ใช้ในสายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ รวมถึงการมีส่วนร่วมของ AI ในระบบนิเวศยานยนต์ยุคใหม่ ทั้งระบบขนส่งอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ AI ในการเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า พร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้กับผู้ประกอบการ นักวิจัย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์อัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ
เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) ระบุว่า “ที่ GWM เราเชื่อมั่นว่าอนาคตของการขับขี่จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้งานอย่างแท้จริง เราจึงให้ความสำคัญสูงสุดกับการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ด้วยการผสาน AI เข้ากับระบบความปลอดภัยและการตัดสินใจของรถอย่างลึกซึ้ง ทั้งในรูปแบบของโมเดล SEE (Safety, Efficiency, Experience) และเทคโนโลยี ASL (Agent of Space & Language) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก GWM มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ชาญฉลาดและเป็นธรรมชาติสำหรับผู้ใช้งานในทุกมิติ”
ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงใช้ “สถาปัตยกรรมแบบ End-to-End เชิงโมดูลาร์” ซึ่งแบ่งกระบวนการทำงาน เช่น การรับรู้ ตัดสินใจ และควบคุม ออกเป็นส่วน ๆ โดย AI จะเข้ามาช่วยในแต่ละขั้นตอน จุดเด่นคือความยืดหยุ่นและสามารถให้มนุษย์ควบคุมร่วมได้ แต่ข้อจำกัดคือแต่ละส่วนแยกกัน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารภายในระบบ เพื่อแก้ปัญหานี้ GWM จึงเกิดแนวคิด “Full End-to-End” ที่รวมทุกกระบวนการไว้ในโมเดล AI เดียว แม้จะทันสมัยและคิดตัดสินใจเองได้ทั้งหมด แต่ยังมีข้อท้าทายด้านความปลอดภัย และไม่สามารถควบคุมจากมนุษย์ได้ GWM จึงได้พัฒนาโมเดล “SEE (Safety, Efficiency, Experience)” โมเดลขนาดใหญ่ที่รวมข้อดีของทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน โดยระบบจะรับรู้ วิเคราะห์ และควบคุมได้แม่นยำในหนึ่งเดียว พร้อมเปิดให้มนุษย์ควบคุมบางสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ GWM ได้นำโมเดล SEE มาติดตั้งในรถ MPV ระดับเรือธงอย่าง GWM WEY 80 ในประเทศจีน เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ โดย SEE ถูกพัฒนาให้ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์ม Coffee Pilot Ultra ผสานเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 27 ตัว และชิป NVIDIA Orin-X เพื่อประมวลผลข้อมูลรอบทิศทางอย่างแม่นยำ พร้อมรองรับการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ผ่านเทคโนโลยี End-to-End ที่สามารถรวมข้อมูลจากเสียง ภาพ ข้อความ และการสัมผัสเข้าด้วยกัน นับเป็นระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติที่มีความสามารถในการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวรถอย่างแม่นยำ วิเคราะห์สถานการณ์ และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมด้วยความสามารถในการโต้ตอบกับผู้ขับขี่ในแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การขับขี่ทั้งราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้นในหลากหลายสถานการณ์
นอกจากนี้ GWM ยังได้เปิดเผยถึง “ASL” (Agent of Space & Language) โมเดล AI แห่งอนาคตที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งถูกออกแบบให้สามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่ผ่านภาษามนุษย์โดยตรง พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลจากสามแหล่งสำคัญ ได้แก่ ภาพ 3 มิติจากกล้องรอบตัวรถ ระบบ LiDAR และเรดาร์ เพื่อให้เข้าใจบริบทของการเดินทางอย่างรอบด้าน ASL เปรียบเสมือนสมองกลอัจฉริยะภายในรถ ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และปรับตัวได้อย่างแม่นยำ ด้วยศักยภาพในการประมวลผลข้อมูลหลากหลายมิติ AI รุ่นนี้สามารถพิจารณาทั้งจุดหมายปลายทาง ความต้องการเฉพาะบุคคล และสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ไร้รอยต่อและตอบโจทย์เฉพาะตัวในแต่ละเส้นทางได้อย่างลงตัว GWM เชื่อมั่นว่า ปี 2025 จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของ AI และในอนาคต ASL จะไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่จะกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจผู้ขับขี่อย่างแท้จริง
แม้ AI จะล้ำหน้าเพียงใดแต่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วทั้งโลกยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ทัศนคติของผู้คนและการยอมรับจากสังคม โดยทัศนคติของผู้คนมักขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในระบบ ความรู้สึกปลอดภัย และความคุ้นชินกับการควบคุมรถด้วยตัวเอง แม้หลายคนจะมองเห็นข้อดีด้านความสะดวกและความปลอดภัย แต่บางส่วนยังลังเลเพราะไม่มั่นใจในการปล่อยให้ AI ตัดสินใจแทน 2) ความชอบธรรมและความรับผิดทางกฎหมาย ประเด็นด้านกฎหมายและความรับผิดชอบของรถไร้คนขับยังคงเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องกำหนดแนวทางอย่างชัดเจน โดยปัจจุบัน ความรับผิดชอบอาจตกอยู่กับหลายฝ่าย เช่น เจ้าของรถ ผู้ผลิต หรือผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ รัฐควรร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในการวางกฎหมายและมาตรฐานที่สร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยของผู้ใช้และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงกำหนดกระบวนการทดสอบและกลไกตรวจสอบที่โปร่งใส และ 3) ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันการเติบโตของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ รัฐและอุตสาหกรรมควรร่วมมือกันใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สนับสนุน R&D ผ่านทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี, จัดทำกฎหมายที่ชัดเจนและเข้มงวดเพื่อความปลอดภัย และลงทุนในการให้ความรู้แก่ประชาชนและบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคตของ Autonomous Vehicle อย่างยั่งยืน
ยานยนต์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และบทบาทของ GWM ในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง SEE และ ASL คือหลักฐานชัดเจนของความมุ่งมั่นสู่อนาคตที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น บนเวที Automotive Summit 2025 ครั้งนี้ GWM ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี แต่ยังชี้ให้เห็นถึงภาพรวมของทิศทางอุตสาหกรรม ทั้งด้านนวัตกรรม กฎหมาย และสังคมที่จะต้องเดินหน้าควบคู่กัน เพื่อปูทางสู่ยุคใหม่ของการเดินทางที่อัจฉริยะและยั่งยืนอย่างแท้จริง
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
News Car1 Min Read
PTG ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ขยับขึ้นสู่อันดับที่ 48 ในระดับภูมิภาค สะท้อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของ PTG
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันโดยขยับขึ้นจากอันดับที่ 58 มาอยู่ที่อันดับ 48 ในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขึ้นสู่อันดับที่ 11 ของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากการจัดอันดับโดย นิตยสาร Fortune ซึ่งอ้างอิงจากรายได้ในปี 2024 การจัดอันดับดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของ PTG โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมเติบโต 13.6% เทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) ซึ่งเกิดจากความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพการขยายธุรกิจในหลากหลายมิติ และการส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ PTG ได้รับการจัดอันดับในลิสต์สำคัญระดับภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง การขยับขึ้น 10 อันดับในปีนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเราเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมงานทุกคนที่ร่วมกันผลักดันองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิด ESG ที่ให้ความสำคัญทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”
Fortune Southeast Asia 500 เป็นการจัดอันดับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ โดยพิจารณาจากรายได้ของบริษัทในปีบัญชีล่าสุด (2567) ซึ่งในปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ของการจัดอันดับ โดยมีบริษัทจาก 7 ประเทศเข้าร่วม ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา
สำหรับ PTG การได้รับการจัดอันดับในระดับภูมิภาคอีกครั้ง ยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนา ธุรกิจควบคู่กับการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน ภายใต้เป้าหมายการสร้างโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกด้านของช่วงชีวิต ผ่านการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการที่ครอบคลุม และการขยาย เครือข่ายธุรกิจในทุกมิติ
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine -
News Car1 Min Read
เริ่มแล้ว “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” อวดโฉมรถสุดวินเทจ ฉลอง 30 ปี ฟิวเจอร์พาร์ค
สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ จัด “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” แสดงรถโบราณ ทรงคุณค่ากว่าร้อยคัน พร้อมยกทัพรถคลาสสิค ร่วมฉลอง 30 ปี ฟิวเจอร์พาร์ค วันนี้–22 มิถุนายน 2568
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47 จัดภายใต้แนวคิด “ความหวังยุคหลังสงคราม-The Post-War Hope” โดยปีนี้มีผู้ส่งรถโบราณ และรถคลาสสิคเข้าประกวด และจัดแสดงให้ชมกว่า 100 คัน ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์
การประกวดแบ่งออกเป็น 7 รุ่น ได้แก่ รถรุ่นบรรพบุรุษ รถรุ่นผ่านศึก รถโบราณ รถรุ่นก่อนสงคราม รถรุ่นหลังสงคราม รถคลาสสิค และรถคลาสสิคร่วมสมัย โดยรถเด่น ได้แก่ Mercedes-Benz 300 Cabriolet D ปี 1953 รถเปิดประทุนคันงาม ซึ่งเป็นแบบในโปสเตอร์งานปีนี้
ยิ่งกว่านั้น ยังมีการประกวด รถจำลอง รถดัดแปลง รถประดิษฐ์พิเศษ รถแจกวาร์ รถมีนี รถโฟล์คสวาเกน รถอเมริกัน และรถเฟียต พร้อมรถคลาสสิคร่วมสมัย อายุ 30 ปี ที่นำมาแสดงเป็นพิเศษร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ เสวนาเกี่ยวกับรถโบราณ การประกวดราชินีแห่งความสง่างาม มินิคอนเสิร์ตจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำหน่ายสินค้าวินเทจ เช่น รถโบราณจำลอง หนังสือ นิตยสาร ฯลฯ
กัลยา กมลรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวว่า “ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ จัดพื้นที่แสดงรถโบราณ และรถคลาสสิค กว่า 4,000 ตารางเมตร เพราะเราไม่ได้เป็นเพียงช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน โดยงานประกวดรถโบราณนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละเจเนอเรชัน
นอกจากนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษด้วยกิจกรรมสนุกที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ได้แก่ Game Jigsaw Challenge / เวิร์คช็อพทำพวงกุญแจรถคลาสสิค – เติมสีสันตามสไตล์ / Rally Scan – ตามหารถไฮไลท์ภายในงาน รับของรางวัลมากมาย อาทิ กระเป๋า Limited Edition 30th Anniversary , กล่องกระดาษทิชชู ฯลฯ
ชม “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ระหว่างวันที่ 18-22 มิถุนายน 2568
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เอ็มจี โชว์ศักยภาพ “ไฮบริดตัวจี๊ดหัวใจนักสู้” ALL NEW MG3 HYBRID+ ในรายการ GC GRID Competition
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างผลงานในเกมการแข่งขัน Gymkhana อย่างต่อเนื่อง หลังจากส่ง NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ไม่ได้มีการจูนอัพ หรืออัพเกรดช่วงล่างใดๆ กรุยทางประเดิมลงแข่งในสนาม Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By HarsonTyres เป็นรุ่นแรก ล่าสุด เอ็มจี เสริมทัพเพิ่มอีกรุ่น ด้วยการส่ง ALL NEW MG3 HYBRID+ ลงแข่งขันในรายการเดียวกัน โชว์ศักยภาพ “ไฮบริดตัวจี๊ด” พร้อมต่อยอดการพิสูจน์สมรรถนะของรถแฮทช์แบ็กในสนามแข่งจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบ HYBRID+ ที่ตอบสนองได้ดีส่งให้รถคล่องตัวและควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งที่ท้าทาย การลงสนามแข่งครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ที่มุ่งพัฒนาและยกระดับรถยนต์ให้มีสมรรถนะที่ดี พร้อมลงสนามแข่งได้โดยไม่ต้องปรับจูนเพิ่มเติม
ALL NEW MG3 HYBRID+ รถเล็กหัวใจนักแข่ง ขับสนุกได้ทุกวัน พร้อมพุ่งทะยานในสนามจริง
ALL NEW MG3 HYBRID+ คือยนตรกรรมแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู ที่ เอ็มจี วางหมากอย่างมีกลยุทธ์ให้เป็น “ยนตรกรรมไฮบริดตัวจี๊ดพร้อมที่จะก้าวสู่โลกของเกมส์การแข่งขัน” สำหรับคนรุ่นใหม่ที่โหยหาความเร้าใจในชีวิตประจำวัน โดยไม่ละทิ้งความคุ้มค่าในการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม First Jobber ที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน หรือสายขับรุ่นใหม่ที่ต้องการรถคันแรกที่ตอบโจทย์ทั้งความสนุกและความมั่นใจบนท้องถนน รถรุ่นนี้ถูกพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ได้มีดีสำหรับแค่ใช้งานในชีวิตประจำวันที่มอบความประหยัดในสไตล์รถไฮบริด หากแต่ยังมี “ความสามารถที่เกินคาด” ที่พร้อมเปิดประตูสู่เส้นทางการแข่งขัน ด้วยระบบไฮบริดรุ่นใหม่ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) รองรับเชื้อเพลิง E20 กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดเร้าใจสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร จึงสามารถเร่งจาก 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อย่างฉับไวภายในเวลาเพียง 8 วินาที ช่วงล่างที่ถูกออกแบบใหม่ น้ำหนักเบา ระบบบังคับเลี้ยวแม่นยำ และระบบ Regenerative Braking ช่วยให้ควบคุมได้อย่างมั่นคง แม้ในสถานการณ์ที่ต้องเข้าโค้งหรือเร่งออกตัวอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นทั้งประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ด้วยระยะทางวิ่งไกลกว่า 800 กิโลเมตรต่อหนึ่งถังน้ำมัน พื้นที่เก็บสัมภาระที่จุได้มากถึง 1,037 ลิตร พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองและสายขับทุกเจเนอเรชัน
“GC GRID Competition” เวทีพิสูจน์ DNAs ความพลิ้วไหว ว่องไว ของ “ไฮบริดตัวจี๊ด”
บทพิสูจน์ตัวจริงกับเวทีการแข่งขันสนามพิเศษ GC GRID Competition เอ็มจี เดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรระดับแนวหน้าของวงการ ด้วยความร่วมมือกับยางรถยนต์ YOKOHAMA และครีเอเตอร์สายซิ่ง อย่าง คุณตี้ DayDreamDrive เพื่อยกระดับประสบการณ์การแข่งขันไปอีกขั้น โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นการผสานศิลปะของการควบคุมเข้ากับสมรรถนะรถยนต์อย่างแท้จริง และเส้นทางการแข่งขันที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน แฝงไปด้วยอุปสรรคแบบ Urban Challenge อาทิ โค้งแคบ ทางเลี้ยวต่อเนื่อง และการหลบหลีกในพื้นที่จำกัด เอ็มจี เชื่อมั่นว่าเหมาะที่สุดสำหรับการเผยศักยภาพที่แท้จริงของตัวรถ และการแสดงออกถึงบุคลิก และสมาธิ เทคนิค ของนักแข่ง ร่วมกับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ออกแบบมาให้โดดเด่นในเรื่อง ความคล่องแคล่ว แม่นยำ และการตอบสนองของพวงมาลัยที่เฉียบคม การออกตัวที่ฉับไว ทำให้สามารถพุ่งทะยานเข้าสู่โค้งต่อเนื่องได้ สะท้อนความสมดุลระหว่างความสนุกในการขับขี่กับเทคโนโลยีที่พร้อมลุยทั้งสนามแข่งและท้องถนนจริง
สำหรับการแข่งขันในรายการนี้ รถ ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่ลงแข่งเป็นรถสแตนด์ดาร์ด ไม่มีการจูนเครื่องยนต์หรือตัดต่อกำลังเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยมีการปรับเปลี่ยนเพียงบางจุดเพื่อให้เหมาะสมกับสนามแข่ง ได้แก่ การเปลี่ยนยางคู่หน้าเป็น YOKOHAMA Advan A052 และยางหลังเป็น YOKOHAMA Advan Neova AD08RS ทั้งหมดผ่านการทดสอบจริงก่อนวันแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการปรับเซ็ตช่วงล่างโดย PROFENDER และติดตั้งชุดระบบเบรกจาก RUNSTOP เพื่อรองรับจังหวะและสไตล์การขับในสนามอย่างเฉพาะเจาะจง
ALL NEW MG3 HYBRID+ คว้าอันดับ 3 อย่างงดงาม แม้ไม่มีการจูนเครื่องยนต์
ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ผ่านการพิสูจน์ความแกร่งในสนามแข่งขันจริงมาแล้วอย่างไม่ธรรมดา ผ่านรายการ GC GRID Competition 2025 รอบที่ 3 และ 4 ณ สนาม ปทุมธานี สปีดเวย์ ที่ระเบิดฟอร์มได้อย่าง โดดเด่น โดยสามารถทะยานคว้าอันดับที่ 3 มาครองได้อย่างสง่างาม ในการแข่งขัน สร้างกระแสชื่นชมบนโซเชียลจากแฟนๆ ที่ไม่คาดคิดว่า ALL NEW MG3 HYBRID+ คันเดียวกับที่ใช้จัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา จะสามารถคว้าอันดับ 3 ซึ่งครั้งนี้ไม่เพียงแค่ตอกย้ำถึงศักยภาพของรถไฮบริดตัวจี๊ดคันนี้ แต่ยังประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เอ็มจี ไม่ได้เพียงแค่สร้างรถที่ขับขี่สนุกในชีวิตประจำวัน แต่กำลังทะยานเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันอย่างมั่นคงและสง่างาม
และในการแข่งขัน GC GRID Competition Exhibition Match ครั้งนี้ ALL NEW MG3 HYBRID+ สามารถสร้างผลงานด้วยการคว้ารางวัล อันดับ 3 รุ่น GC5 “เกียร์ออโต้” (Auto) ได้ทั้ง 2 สนาม ตอกย้ำความเป็น “ไฮบริดตัวจี๊ด” สมรรถนะไฮบริดขับสนุกที่พร้อมลุยทุกโค้งอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก เอ็มจี ลงสนามแข่งขันรุ่น GC9 “EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ไม่จำกัดระบบขับเคลื่อน” โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยคว้าอันดับที่ 1 ในการแข่งขันทั้งสองวัน ตอกย้ำศักยภาพของการเป็นรถ “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่พร้อมลุยสนามจริงได้อย่างมั่นใจและเร้าใจทุกโค้ง
เสียงจากนักแข่ง “ตี้ DayDreamDrive” ALL NEW MG3 HYBRID+ ทำให้โลกไฮบริดเปลี่ยนไป
คุณตี้ – ฐนอนันต์ ตีระอรรถชวิน จากเพจ DayDreamDrive นักแข่งและครีเอเตอร์สายยานยนต์ชื่อดัง ซึ่งเป็นนักขับหลักของรุ่นนี้ ได้ถ่ายทอดความประทับใจหลังจบการแข่งขันว่า “ALL NEW MG3 HYBRID+ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง เดิมทีผมมีความกังวลเล็กน้อยว่ารถไฮบริดที่ไม่ได้มีการปรับแต่งใด ๆ อาจมีอัตราเร่งที่ไม่ทันใจ แต่เมื่อได้ลองขับจริงกลับพบว่า การตอบสนองของตัวรถรวดเร็วและเฉียบคมอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในสนามที่เต็มไปด้วยโค้งต่อเนื่อง ช่วงล่างและระบบพวงมาลัยถูกออกแบบมาอย่างลงตัว จูนเพิ่มอีกนิดก็สามารถทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในสนามแข่ง จนให้ความรู้สึกราวกับกำลังขับรถแข่ง ทั้งที่ความจริงแล้วนี่คือรถที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ถือเป็นรถไฮบริดที่เปลี่ยนภาพจำเดิม ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง”
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การที่ เอ็มจี นำ ALL NEW MG3 HYBRID+ ลงแข่งขันในเกมการแข่งขันในรูปแบบ Gymkhana เป็นการประสานระหว่างความสามารถการควบคุมของคนขับและสมรรถนะของรถยนต์ที่ลงตัว และถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถไฮบริดรุ่นใหม่จาก เอ็มจี ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้ทุกวันและแฝงไว้ด้วยหัวใจของการขับสนุกที่ถือเป็นเอกลักษณ์การออกแบบรถยนต์ของ เอ็มจี ซึ่งนี่คือสิ่งที่ เอ็มจี ตั้งใจจะมอบให้ ไม่ใช่แค่ในฐานะรถยนต์ที่ใช้งานได้จริงเท่านั้น แต่ เอ็มจี มอบโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสความรู้สึกของเกมการแข่งขันอย่างแท้จริง”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจี ได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG ThailandHashtag #MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives #MG3HybridPlus #AllNewMG3HybridPlus
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
เบนท์ลีย์ แบงค็อก พาชมบรรยากาศ ‘Bentley Bangkok Extraordinary Pop-up’ โชว์เคสไลน์อัปยนตรกรรมโฉมใหม่แบบครบทุกรุ่น อวดโฉมพร้อมกันเป็นครั้งแรก ณ ห้างเอ็มโพเรียม
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พาชมภาพบรรยากาศ ‘Bentley Bangkok Extraordinary Pop-up’ งานจัดแสดงทัพยนตรกรรมสมรรถนะสูงโฉมใหม่ รุ่น New Continental GT Speed รุ่น New Flying Spur Speed และรุ่น Bentayga Hybrid ซึ่งถือเป็นการจัดแสดงรถยนต์เบนท์ลีย์แบบครบทุกรุ่นที่อวดโฉมให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดพร้อมกันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 – 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม
โดยตลอดระยะเวลาการจัดแสดง 13 วัน เหล่าซิตี้ไลฟ์สไตล์ ทั้งชาวไทยและเทศต่างให้ความสนใจกับแกรนด์ ทัวเรอร์สมรรถนะสูงโฉมใหม่อย่างรุ่น New Continental GT Speed และ New Flying Spur Speed ที่ถือเป็นคันแรกและคันเดียวในประเทศไทยในเฉดสีดำ Onyx ตัวรถมาพร้อมกับการตกแต่งสไตล์สปอร์ตที่เคร่งขรึม ดุดัน และร่วมสมัย สะท้อนภาพลักษณ์ของรถยนต์เบนท์ลีย์ยุคใหม่ที่เดินหน้าสู่ความเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์แบบเต็มรูปแบบพร้อมชูภาพความเป็น Everyday Supercar จากจุดเด่นด้านสมรรถนะและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ สำหรับ 2 สุดยอดยนตรกรรมระดับซูเปอร์คาร์ คือ เจ้าของขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น V8 Hybrid แบบ Ultra Performance ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ด้วยพละกำลังกว่า 782 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร อีกทั้ง ผู้เข้าชมงานยังได้ยลโฉมยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์ รุ่น Bentayga Hybrid โมเดลล่าสุดที่มาพร้อมกับการออกแบบที่สปอร์ตและร่วมสมัยยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีความนูนและเหลี่ยมแบบเดียวกับรุ่น Speed รถยนต์แบบอเนกประสงค์ เจ้าของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 Hybrid มอบประสิทธิภาพในการขับขี่และอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่เหนือกว่า พร้อมกับประสบการณ์ในการขับขี่ที่นุ่มนวลในแบบฉบับของรถยนต์เบนท์ลีย์ สำหรับการสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์ภายในงาน เบนท์ลีย์ แบงค็อก ยังมอบโอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ด้วยข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษแห่งปีสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นใหม่และรถยนต์เบนท์ลีย์พร้อมส่งมอบที่สามารถเลือกได้เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ พร้อมรับความอุ่นใจไปกับการรับประกันมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเมื่อเลือกครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine
-
ถอดรหัสความสำเร็จและการสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า จาก 17 ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า เจ้าของรางวัล 2024 President’s Excellent Award
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า เผยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จในการสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า จาก 17 ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ที่ได้รับรางวัล 2024 President’s Excellent Award รางวัลอันทรงเกียรติสำหรับผู้แทนจำหน่ายที่มีผลการดำเนินงานอันยอดเยี่ยมในปี 2567 ทั้งด้านยอดขาย การบริการ และความพึงพอใจของลูกค้า
ตลอดระยะเวลากว่า 6 ทศวรรษ ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมา โตโยต้าขับเคลื่อนผู้คนและสังคม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และยังมุ่งเน้นการพัฒนาในส่วนงานบริการ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า อันเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดี และการกลับมาใช้บริการซ้ำในอนาคต โดยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า นับเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อน ให้โตโยต้าเป็นแบรนด์ยานยนต์อันดับหนึ่งในใจของคนไทย
ทุกๆ ปี โตโยต้าจะมอบรางวัลให้แก่ผู้แทนจำหน่ายฯ ที่มีผลงานอันโดดเด่น ผ่านการประเมินทั้งด้านยอดขาย บริการ และความพึงพอใจของลูกค้า โดยในปีนี้ ได้ถ่ายทอดบทสัมภาษณ์ผู้บริหาร 17 คน ที่ได้รับรางวัล 2024 President’s Excellent Award จากผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา ที่ได้ส่งมอบสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน จนกลายเป็นความเชื่อถือ ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ และเลือกกลับมารับบริการอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโตโยต้า
บทสัมภาษณ์ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า
ภีม บุญวิสุทธิ์ ผู้จัดการแผนกลูกค้าสัมพันธ์และการตลาด บริษัท โตโยต้านครนายก จำกัด กล่าวถึงการดูแลลูกค้าว่า “เราจะอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่การขายรถ แต่ต้องการให้เขาไว้วางใจในทุกเรื่อง ตั้งแต่คำแนะนำแรกไปจนถึงบริการหลังการขาย เพราะความไว้วางใจไม่ได้เกิดจากแค่คำพูด แต่มาจากการกระทำที่สม่ำเสมอ และทำให้ลูกค้าไม่ได้รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว เราพร้อมดูแลลูกค้าเหมือนคนในครอบครัว เพราะความประทับใจที่แท้จริงเริ่มจากความใส่ใจที่ออกมาจากใจ”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/U1_RiEzyodg
สุรศักดิ์ เหล่าสายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าดีเยี่ยม จำกัด กล่าวว่า “หัวใจของการทำงานที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ คือ การให้บริการแบบเหนือความคาดหวัง เราจะต้องให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน เมื่อพนักงานมีความสุขก็จะส่งต่อความสุข และให้การบริการต่อกับลูกค้า”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่https://youtu.be/3QTA0xXbwO0
จินตนา จิตรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด กล่าวว่า “ปรัชญาในการทำงานคือ การทำจริง รู้จริง เป็นสิ่งที่ต้องถ่ายทอดให้พนักงานให้ได้ลงมือสัมผัส เพื่อให้รู้ว่าควรจะพัฒนาอะไรต่อไป และเมื่อมีสิ่งดีๆ เราจะสื่อสารให้กับลูกค้าให้ได้เข้ามาสัมผัส เพื่อกลับมาใช้บริการจากเราอย่างต่อเนื่อง”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/cObSJec9NCs
จักรกฤษณ์ เวศย์วรุตม์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเมืองเพชร จำกัด กล่าวว่า “ปรัชญาในการทำงาน คือให้ความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ทำงานด้วยหัวใจและการบริการที่จริงจัง ชัดเจน ดูแลลูกค้าเกินความคาดหมายโดยถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ให้แก่ลูกค้า ไม่ใช่แค่โชว์รูมที่ขายรถ แต่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดี”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/on3E7G9Isiw
สุธิดา โฆสิตสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเจริญค้า ราชบุรี(1961) จำกัด เน้นย้ำเรื่องการทำงานว่า “สิ่งสำคัญที่สุด คือรักษาความซื่อสัตย์และมีจริยธรรมกับลูกค้าและคู่ค้า และเชื่อว่าการทำงานบริการกับลูกค้าจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำให้ประทับใจแค่ครั้งเดียว แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงใจ”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/ZJC4jT-I568
เกรียงไกร พิทักษ์ชัชวาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้านครพิงค์เชียงใหม่ จำกัด กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับพื้นฐานในการทำงานให้ถูกต้อง เริ่มจากความซื่อสัตย์ รวมไปถึงเน้นย้ำให้พนักงานต้องดูแลลูกค้าในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะเวลาเกิดปัญหาในทุกกรณี ผมจะเข้าไปแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะผมเชื่อมั่นว่าหากสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง และลูกค้าประทับใจ เขาจะกลับมาใช้บริการเรา”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/2Jc93H0Azt8
อังคณา จิตรสกุล กรรมการ บริษัท โตโยต้าริช จำกัด กล่าวว่า “เรามีหน้าที่รักษาสิ่งที่มีอยู่ให้ดียิ่งๆขึ้นไป และทำให้เต็มความสามารถที่เรามี เข้าใจและใส่ใจจริง เพราะลูกค้าต้องการความเข้าใจและอยู่เคียงข้าง เชื่อว่าความสม่ำเสมอและความใส่ใจที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และซื่อสัตย์กับลูกค้าเป็นเหตุผลที่ลูกค้ากลับมาใช้บริการเรา”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/L_boVHNgF14
กมลรัตน์ โฆสิตสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า เมืองสุพรรณ ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด อธิบายว่า “ทีมเวิร์คสำคัญที่สุด ตั้งเป้าหมายชัดเจนและเดินไปที่เป้าหมายนั้นด้วยกัน สร้างความไว้ใจให้ลูกค้าโดยให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าเราจะบริการด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจ บริการด้วยความกระตือรือร้น เต็มใจ ให้รู้สึกว่าเราต้อนรับลูกค้าเสมอ”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/X6qbgTHxdek
สุธาสินี จิตรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าพะเยา (1994) ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด ตอกย้ำในเรื่องของการทำงานว่า “รอยยิ้มเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เมื่อทีมงานรู้สึกมีคุณค่าและได้รับการสนับสนุน พลังบวกนี้ก็จะส่งไปต่อให้ลูกค้า เรายึดหลัก Toyota way ในการใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าเป็นคนสำคัญสำหรับเราที่จะเคียงข้างกันไป ดูแลและเติบโตไปด้วยกันในทุกเส้นทาง”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/bnmZ_WrC-MI
ทรงธรรม ฐิติปุญญา ประธานบริหาร บริษัท โตโยต้า พรีเมี่ยม พิษณุโลก จำกัด กล่าวถึงความสำคัญในการทำงานว่า “เราจะต้องทำงานกันเป็นทีม เพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน และหัวใจในการทำงานที่จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้า คือ จริงใจ ห่วงใย ใส่ใจลูกค้า และคงความเป็นมาตรฐานของโตโยต้าไว้ตลอดเวลา”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/RJInWSijTZE
ชัยภัทร ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด กล่าวว่า “ทำงานกันเป็นทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและมั่นใจในการใช้บริการ ดูแลลูกค้าตามสัญญาที่ได้ให้ไว้อย่างดีที่สุด จดจำลูกค้าให้ได้ว่าลูกค้ามีความต้องการอย่างไร และใช้ประสบการณ์ที่มีในการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/H0FqFxpBicU
สาธิตา ลิมสถายุรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท โตโยต้า ตาปี จำกัด อธิบายถึงหัวใจในการทำงานว่า “ทีมงานโตโยต้าตาปี เชื่อมั่นในการบริการด้วยความจริงใจ เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีให้กับลูกค้า และเน้นการทำงานเป็นทีม มีเป้าหมายเดียวกันคือการให้บริการที่ดีที่สุดและส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า ให้คำปรึกษาอย่างจริงใจและเน้นความผูกพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/8uRJgoMUkuc
สมโภช ลิ้มเล็งเลิศ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า ล้านนา จำกัด เน้นย้ำว่า “ลูกค้าคือคนที่สำคัญที่สุด เราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี่จากโตโยต้า ล้านนา และเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดให้กับลูกค้า แม้ความต้องการจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เราก็ไม่ลืมที่จะใส่ใจและพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ามีความสุข”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/7M0ivcdEeYY
อรสุมา ลิมสถายุรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้าชุมพร ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด กล่าวว่า “หากเราทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในทุกวัน ความสำเร็จจะค่อยๆมาอย่างมั่นคง ไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่กลับมาใช้บริการเรา ความไว้วางใจไม่ได้เกิดชั่วข้ามคืน แต่เราสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกสัมผัส ตั้งแต่รอยยิ้มทักทาย จำชื่อลูกค้าได้ ให้ข้อมูลครบถ้วน ซื่อสัตย์ จนถึงการดูแลหลังการจำหน่าย”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/mk6e7YnVWFo
ชัชวาร บุญทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้ากาญจนบุรี 1995 ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด อธิบายว่า “เราไม่ใช่แค่ขายรถ แต่เราดูแลลูกค้าตลอดระยะเวลาการใช้รถของลูกค้า จริงใจ ใส่ใจในการดูแลลูกค้า เราคอยพัฒนาระบบการทำงานมาโดยตลอด เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะอยู่ในใจและอยู่เคียงข้างลูกค้าตลอดไป”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/kRXUh1a5l1o
นัทที อดิศราลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ จาก บริษัท โตโยต้า อันดามัน กระบี่ จำกัด ตอกย้ำว่า “เราต้องถือว่าลูกค้าทุกคนเป็นคนสำคัญของเราและดูแลตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยความรู้ ความสามารถ โดยยึดหลักการ Kaizen (ไคเซ็น) ที่จะพัฒนาการบริการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเลือกเรา คือเรื่องผลิตภัณฑ์ และการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/w0qQ1nnOC3w
สุเทพ เหล่าสายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า ดีลักซ์ จำกัด เน้นย้ำเรื่องการดูแลลูกค้าว่า “อย่างแรกจะต้องสร้างความประทับใจกับพนักงาน เพื่อให้นำความประทับใจไปส่งต่อถึงลูกค้าเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ และต้องสร้างความสัมพันธ์หรือความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้”
รับชมบทสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/jetmy1rhcpM
และนี่คือความมุ่งมั่นและตั้งใจในการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดของผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนโตโยต้า จนกลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่เหนียวแน่นอยู่คู่กับสังคมไทยอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 60 ปี เราสัญญาว่าจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และให้บริการที่ดีที่สุด รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ สร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าคนไทยทุกคน นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เป็นลูกค้าโตโยต้า ไปจนตลอดการใช้งาน
ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย
Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine