• ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ ได้รับการยกระดับเป็นพื้นที่นำร่อง โครงการการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตคุ้มครอง (OECMs)

    1 Min Read

    ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ ได้รับการยกระดับเป็นพื้นที่นำร่อง โครงการการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตคุ้มครอง (OECMs)

    บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ยกระดับศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ณ โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องของประเทศสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตคุ้มครอง (Other Effective Area-based Conservation Measures: OECMs) พร้อมทั้งจัดแสดงนิทรรศการและร่วมประชุมในงานวิชาการ “Bioday Play & Learn : Turn to Action” เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จัดประชุมงานวิชาการ “Bioday Play & Learn : Turn to Action” เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ และสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้พื้นที่จำนวน 8 แห่งของประเทศไทยได้รับการยกระดับเป็นพื้นที่นำร่องในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตพื้นที่คุ้มครอง (OECMs) ได้แก่

    1. แม่น้ำสงครามตอนล่าง จ.นครพนม
    2. พื้นที่อนุรักษ์บ้านปากทะเล จ.เพชรบุรี
    3. โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
    4. ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” จ.ฉะเชิงเทรา
    5. พื้นที่ทิ้งดินบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เหมืองลิกไนต์แม่เมาะ จ.ลำปาง
    6. ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ จ.ระยอง
    7. ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง กรุงเทพฯ
    8. ชุมชนคลองขนมจีน จ.พระนครศรีอยุธยา

                ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ตั้งอยู่ภายใต้โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 63 ไร่ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ได้แก่ พนักงานโตโยต้า ผู้ผลิตชิ้นส่วน ผู้แทนจำหน่าย ชุมชนโดยรอบ และประชาชนทั่วไป ในการร่วมกันปลูกป่าและฟื้นฟูระบบนิเวศ ทำให้ชีวพนาเวศมีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเด่นชัด โดยแบ่งเป็น พืช 119 ชนิด สัตว์ 528 ชนิด ได้แก่ กลุ่มนก 149 ชนิด กลุ่มสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 8 ชนิด กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน 22 ชนิด กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 5 ชนิด กลุ่มแมงและแมลง 307 ชนิด กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ 16 ชนิด กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 21 ชนิด สะท้อนถึงระบบนิเวศที่สมดุลและอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มีการจัดทำหลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจและจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีบุคคลทั่วไป เยาวชน และหน่วยงานที่สนใจเข้ามาเรียนรู้และศึกษาดูงาน (สะสม) แล้วกว่า 62,000 คน จากทั่วประเทศ

                โดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการจากพื้นที่นำร่องทั้ง 8 แห่ง ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ได้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชีวพนาเวศ และแผนแม่บทด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายและน่าสนใจ อาทิ เกมทดสอบการดมกลิ่น และกิจกรรมทายชนิดของใบไม้

    การยกระดับศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องของประเทศภายใต้แนวคิด OECMs (Other Effective area-based Conservation Measures) หรือ “พื้นที่อนุรักษ์นอกเขตคุ้มครอง” ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายด้านความหลากหลายชีวภาพทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ในการเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ  ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี 2030 (30×30) ซึ่งสอดคล้องกับ “พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2050” ในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 ควบคู่ไปกับการสร้างสังคมที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนและยั่งยืน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ฮอนด้า” สร้างประวัติการณ์! ครั้งแรกของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย! ที่มีนักบิดไทยลงแข่งขัน ”โมโตจีพี“ ครบทุกรุ่น! ส่ง “ชิพ-นครินทร์” ล่าความสำเร็จ “โมโตทู” ผนึกกำลัง “ก้อง-ก๊องส์” ประเดิมสนามแรก ที่อารากอน ประเทศสเปน

    1 Min Read

    “ฮอนด้า” สร้างประวัติการณ์! ครั้งแรกของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย! ที่มีนักบิดไทยลงแข่งขัน ”โมโตจีพี“ ครบทุกรุ่น! ส่ง “ชิพ-นครินทร์” ล่าความสำเร็จ “โมโตทู” ผนึกกำลัง “ก้อง-ก๊องส์” ประเดิมสนามแรก ที่อารากอน ประเทศสเปน

    “ไทยฮอนด้า” ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ประกาศดัน “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดไทย ที่สร้างผลงานคว้าแชมป์มากมายในระดับเอเชีย และ ระดับประเทศ อาทิ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง, มาเลเซีย ซูเปอร์ไบค์, บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ รวมถึงเคยได้รับโอกาสลงแข่งขันในศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ในรุ่น “โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” แบบเต็มฤดูกาล 2 ปี ติดต่อกันมาแล้ว ได้รับโอกาสจาก “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” ให้กลับมาลงท้าทายความสำเร็จอีกครั้งใน ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” รุ่นที่ท้าทายมากขึ้นอย่าง “โมโตทู” ด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด โดยจะออกประเดิมสนามแรกในรายการ “อารากอน กรังด์ปรีซ์” ประเทศสเปน ส่งผลให้ “ฮอนด้า” สร้างประวัติศาสตร์ใหม่! ด้วยการเป็นรถจักรยานยนต์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียว! ที่มีนักแข่งไทยลงทำการแข่งขันในศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” ครบทุกรุ่น ตั้งแต่ โมโตจีพี โมโตทู และ โมโตทรี อีกทั้ง “ไทยฮอนด้า” ยังสร้างเด็กเยาวชนรุ่นใหม่ที่รอตามรอยรุ่นพี่อย่าง “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ ยอดนักบิดดาวรุ่งไทยที่กำลังโลดแล่นในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก “เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025” และ “เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025″ ตอกย้ำความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่ต้องการผลักดันเยาวชนไทยสู่ระดับโลก สานฝันวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

    ดร.อารักษ์ พรประภา ประธานบริษัท ไทยฮอนด้า เผยว่า “ไทยฮอนด้า รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นนักแข่งไทยที่เราสร้างและฝึกฝนขึ้นมาตั้งแต่เป็นเยาวชนได้เติบโต ผลิดอกออกผล การส่ง ชิพ-นครินทร์ ที่เพิ่งสร้างผลงานกระหึ่มสนามช้างฯ ด้วยการ คว้าแชมป์ 2 เรซ ติดต่อกันในโฮมเรซ ในสนามแรกของรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง รุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 เป็นการพิสูจน์ความสามารถของ ชิพ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยมีประสบการณ์ในการแข่งขันโมโตจีพี ในรุ่น โมโตทรี มาแล้วอีกด้วย ทำให้วันนี้ที่เราจะได้เห็นนักแข่งไทยลงแข่งขันในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง โมโตจีพี ครบทุกรุ่น รวมถึงได้เชียร์เด็กเยาวชนไทยอย่าง ไม้คิว-เกียรติศักดิ์ ใน เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ ซึ่งเป็นซัพพอร์ตเรซของรายการ อารากอน กรังด์ปรีซ์ ประเทศสเปน ที่จะถึงนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ นับเป็นความสำเร็จของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่เราตั้งใจจะยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย อยากฝากถึงแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ให้ติดตามเชียร์นักแข่งไทยในรายการ “อารากอน กรังด์ปรีซ์” ประเทศสเปน ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นประวัติการณ์ที่เราจะมีนักแข่งไทย ให้ติดตามเชียร์ครบทุกรุ่น ส่วน ชิพ-นครินทร์ จะได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดในสนามถัดๆไปหรือไม่นั้น อยากให้แฟนๆ รอลุ้นและติดตามการยืนยันอีกครั้งครับ”

    ทั้งนี้ ศึกสนาม “โมโตจีพี เวิลด์กรังด์ปรีซ์” รุ่นโมโตทรี สนามที่ 8 รายการ “อารากอน กรังด์ปรีซ์” จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายนนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : https://facebook.com/HondaRacingTeamTH

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #RoadToMotoGP #MotoGP #Moto2 #Chip41 #IdemitsuHondaTeamAsia


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • CUB House เปิดตัว New Honda Monkey สีใหม่ ‘Moonlit Silver’ ภายใต้คอนเซปต์ BEWARE NAUGHTY HITS! สะกดทุกสายตาด้วยความซนสุดคลาสสิก

    1 Min Read

    CUB House เปิดตัว New Honda Monkey สีใหม่ ‘Moonlit Silver’ ภายใต้คอนเซปต์ BEWARE NAUGHTY HITS! สะกดทุกสายตาด้วยความซนสุดคลาสสิก

    CUB House by Honda ปลุกกระแสความสนุกบนท้องถนนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว New Honda Monkey สีใหม่ ‘Moonlit Silver (สีเงิน – เหลือง)’ ที่มาพร้อมคอนเซปต์โดนใจสายสตรีท ‘BEWARE NAUGHTY HITS! ระวัง…ความซนพุ่งเข้าตา!’ ถ่ายทอดความซนที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ Honda Monkey ได้อย่างเต็มพิกัด

    New Honda Monkey Moonlit Silver มาในโทนสีสันสะดุดตาไม่ซ้ำใคร ด้วยตัวถังน้ำมันสีเงินโมโนโทน เงางามสะท้อนความพรีเมียมด้วยวัสดุเหล็กทั้งชิ้น จับคู่กับเฟรมสีเหลืองสดที่ตัดกันอย่างลงตัว อีกทั้งยังคงเอกลักษณ์ด้วยไฟหน้าทรงกลม พร้อมหน้าปัด Digital Meter ที่เซอร์ไพรส์ด้วยกราฟิกหน้าลิงโผล่มาทักทายเมื่อบิดสวิตช์ และเบาะหนัง Classic Black ที่เสริมความเทรนดี้ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะสายสปอร์ตหรือแฟชั่นก็สามารถขับขี่ได้แบบไม่ซ้ำใคร

    New Honda Monkey Moonlit Silver มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี สูบเดี่ยว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบหัวฉีด PGM-FI และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ให้ทั้งความแรงและความประหยัด เสริมความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบโช้คอัพหน้าหัวกลับขนาด 31 มม. และโช้คอัพหลังคู่ที่ให้สัมผัสนุ่มนวล รองรับการขับขี่ในเมืองได้อย่างมั่นใจ คงความสนุกในแบบฉบับ Monkey ที่ทั้งขับขี่ง่ายและขนาดกระทัดรัด

    สำหรับสาวก Monkey ที่ต้องการเป็นเจ้าของ New Honda Monkey Moonlit Silver (สีเงิน – เหลือง) พร้อมวางจำหน่ายในราคาแนะนำ 99,700 บาท สามารถสัมผัสรถคันจริงด้วยตัวเองได้แล้ววันนี้ที่ CUB House ทั้ง 16 สาขาทั่วประเทศ

    ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
    เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th/cubhouse
    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : fb.com/hondamotorcyclethailand
    เฟซบุ๊ก CUBhouse : fb.com/cubhousebyhonda

    #CUBHouse #CUBHousebyHonda #HondaMonkey #Monkey125 #MonkeyMoonlitSilver #BewareNaughtyHits #ระวังความซนพุ่งเข้าตา

    #ThaiHondaMotorcycle #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou


    No Comment
  • “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม” ทางเลือกใหม่ของคนกรุงเทพฯ เปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า ความร่วมมือสู่เมืองสีเขียวอย่างยั่งยืน

    1 Min Read

    “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม” ทางเลือกใหม่ของคนกรุงเทพฯ เปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า ความร่วมมือสู่เมืองสีเขียวอย่างยั่งยืน

    ในยุคที่ปัญหาขยะกลายเป็นโจทย์ท้าทายของเมืองใหญ่ “การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง” จึงเป็นคำตอบสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนเมืองสู่สังคมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โครงการ “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม” ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง กรุงเทพมหานคร, มูลนิธิมือวิเศษ, และ พีทีที สเตชั่น โดย บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR, GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์มบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้ว โดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ บริษัท เวสท์บาย เดลิเวอรี่ จำกัด เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ปฏิวัติระบบการจัดการขยะรีไซเคิลและปลุกจิตสำนึกใหม่ให้กับสังคมไทย

    “จับมือกันสร้างเมืองสีเขียว เริ่มจากการไม่เทรวม”

    โครงการ “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม” จะเพิ่มความสะดวกในการคัดแยกขยะให้กับคนกทม. โดยการจัดตั้ง “จุดรับวัสดุรีไซเคิล” จำนวน 10 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ภายในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมวัสดุรีไซเคิล 8 ประเภท ที่สามารถส่งกลับคืนเข้าสู่ระบบรีไซเคิลและอัพไซเคิลเพื่อให้กลับมาสร้างประโยชน์ ปริมาณวัสดุรีไซเคิลสามารถสะสมเป็นแต้ม และนำมาแลกของรางวัลหรือเงิน หรือบริจาคเข้ามูลนิธิมือวิเศษ เพื่อนำไปทำสาธารณประโยชน์เพื่อคนเมืองได้อีกด้วย

    นอกจากนี้ยังเป็นการเชื่อมโยงข้อมูล API ของผู้ร่วมโครงการเข้ากับ BKK Waste Pay Application สามารถใช้ลดหย่อนค่าเก็บขยะของ กทม. ตอบสนองสนับสนุนต่อนโยบาย “ไม่เทรวม” ช่วยลดขยะฝังกลบของกทม. และช่วยโลกลดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

    คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้ คุณแสนยากร อุ่นมีศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิด ได้กล่าวถึง ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการสนับสนุนนโยบายไม่เทรวม “การจัดการขยะอย่างเป็นระบบคือหนึ่งในหัวใจของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และนโยบาย ‘ไม่เทรวม’ ของกรุงเทพมหานคร คือ แนวทางที่เราผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการ ‘แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม’ เป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ที่มาร่วมกันสร้างระบบจัดการขยะที่ทำได้จริง ใกล้บ้าน ใช้งานง่าย และมีประโยชน์ชัดเจน ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนเมือง นี่คือการเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างสังคมไม่เทรวมที่ยั่งยืน

     

    คุณสถิตพงษ์ เงางาม ผู้จัดการฝ่ายบริหารสถานีบริการส่วนกลาง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในฐานะของผู้สนับสนุนพื้นที่และบริหารจัดการจุดรับขยะรีไซเคิลในพื้นที่ พีทีที สเตชั่น ที่มุ่งหวังจะสร้างบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองไปพร้อมเสริมภาพลักษณ์ Green Station กล่าวว่า “พีทีที สเตชั่น ตระหนักถึงปัญหาการบริหารจัดการขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศไทย จึงมีแนวคิดที่จะจัดระบบการบริหารจัดการขยะในสถานี เพื่อลดปริมาณขยะและเล็งเห็นคุณค่าของขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ผ่านการคัดแยก และจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับโครงการ แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง พีทีที สเตชั่น กับชุมชน ถือเป็นโอกาสดีในการยกระดับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมกันแยกขยะและนำส่งวัสดุรีไซเคิลที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบในกรุงเทพมหานคร ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บขยะ และสร้างรายได้ให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย ทั้งนี้ พีทีที สเตชั่น มุ่งมั่นที่จะเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยได้สนับสนุนโครงการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและสร้างความตระหนักรู้ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้วัสดุรีไซเคิลภายในสถานีบริการ การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และ ถังขยะ แยก แลก ยิ้ม ซึ่งทำให้ พีทีที สเตชั่น สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”

    ดร.อิทธิกร ศรีจันบาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวสท์บาย เดลิเวอรี่ จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมแพลตฟอร์มดิจิทัล บริการรับซื้อขยะรีไซเคิลถึงบ้าน และระบบโลจิสติกส์การจัดการขยะอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทาง โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนการจัดการขยะให้เป็นเรื่องง่ายๆ สะดวก สบาย และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน  ผ่านแอปพลิเคชัน ‘WasteBuy Delivery’ ประชาชนสามารถใช้บริการผ่านแอปพริเคชันได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเรียกรถรับซื้อขยะถึงบ้าน การตรวจสอบราคาขยะรีไซเคิลแบบเรียลไทม์ กล่าวว่า “เวสท์บาย เดลิเวอรี่ ยังได้บูรณาการเทคโนโลยีด้านการจัดการโลจิสติกส์ เช่น ระบบติดตามและควบคุมการเดินรถรับซื้อ รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพในการรีไซเคิล นอกจากนี้ เรายังได้ริเริ่มโครงการ WasteBuy Recycle Station ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ พีทีที สเตชั่น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาใช้บริการเติมน้ำมัน ให้สามารถนำขยะรีไซเคิลจากบ้าน ที่ทำงาน หรือชุมชนใกล้เคียงมาร่วมโครงการ เพื่อนำไปแลกเป็นเงินสดที่สามารถใช้เติมน้ำมันได้โดยตรง  และสามารถสะสมแต้มได้ในอัตรา 1 กิโลกรัม = 1 แต้ม เพื่อแลกรับของพรีเมี่ยม  หรือบริจาคเข้าสู่ มูลนิธิมือวิเศษ เพื่อนำไปต่อยอดเป็นกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ ความมุ่งมั่นของเวสท์บาย เดลิเวอรี่ คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงง่าย เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และการจัดการขยะอย่างยั่งยืนในกรุงเทพมหานคร เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน”

    GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์มบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วรับผิดชอบการนำพลาสติกใช้แล้วทั้งประเภทขวดใส PET และขวดขุ่น HDPE เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิลมาตรฐานสูงตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน สู่เม็ดพลาสติก PCR และผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล โดยคุณกิจชัย เฉลิมสุขสันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดและการขาย กลุ่มลูกค้าแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวถึงความมุ่งมั่นในมุมของการจัดการพลาสติกใช้แล้ว “GC YOUเทิร์น คือแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดการให้พลาสติกที่ใช้แล้วจะไม่สูญเปล่า เราเชื่อในพลังของการเริ่มต้นเล็กๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม หากทุกคนช่วยกันแยกทิ้งอย่างถูกวิธี ตั้งแต่ต้นทาง พลาสติกสามารถเทิร์นกลับมาสร้างประโยชน์ได้ใหม่ โดย GC YOUเทิร์น จะนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิลที่ถูกต้องและได้มาตรฐาน ลดเส้นทางสู่หลุมฝังกลบอย่างเป็นรูปธรรม

    8 ประเภทวัสดุรีไซเคิลร่วม “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม”

    1. กระดาษรวม
    2. กระดาษขาวดำ
    3. กล่อง UHT
    4. กระป๋องอะลูมิเนียม
    5. กระป๋องสังกะสี
    6. ขวดแก้ว
    7. ขวดพลาสติกใส PET
    8. ขวดพลาสติกขุ่น HDPE

    ขั้นตอนร่วมโครงการ แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม”

    1. เพิ่มเพื่อนใน Line@ WasteBuy Delivery และลงทะเบียน
    2. แยกขยะตามประเภทใส่ถุงโครงการหรือถุงส่วนตัว
    3. นำส่งที่จุดรับ PTT Station ใกล้บ้าน
    4. แจ้งเบอร์โทรเพื่อรับ QR Code
    5. พนักงานรับถุงและชั่งน้ำหนัก
    6. รับแต้มสะสมและเงินโอนเข้าระบบภายในเย็นวันเดียวกัน
    7. แลกแต้มผ่านแอปได้เลย

     

    รีไซเคิลได้ครบทั้งขยะและถุงแยกขยะรักษ์โลก ใช้ซ้ำและรีไซเคิลได้

    “ถุงแยกขยะรีไซเคิล” ที่ออกแบบเป็นพิเศษภายใต้แนวคิด Eco-Design ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล InnoEco rHDPE 30% โดย GC ซึ่งมีคุณสมบัติ แข็งแรง ใช้ซ้ำได้ และสามารถรีไซเคิลต่อได้อีก ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนประจกได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับถุงที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE ทั่วไป

     

    เชิญชวนคนกรุงเทพฯ มาร่วม “แยก แลก เทิร์น x ไม่เทรวม” พบกับจุดรับวัสดุรีไซเคิลได้แล้ววันนี้ที่ พีทีที สเตชั่น สาขา บจ. ปิโตรเลียม อเวนิว แจ้งวัฒนะ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 20:00 น.และในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 นี้ พร้อมให้บริการเพิ่มเติมอีก 9 สาขา ได้แก่  1.) สาขาบางบอน            2.) สาขาบรมราชชชนนี ขาเข้า  3.) สาขา บจ.ปิโตรเลียม (ทวีวัฒนา)  4.) สาขา บจ.ปิโตรเลียมน้ำมัน (รามอินทรา กม.3 ขาเข้า) 5.) สาขา บจ.ปิโตรเลียม (อุดมสุข)   6.) สาขาพระราม 2 (ขาออก)   7.) สาขามีนบุรี      8.) สาขาสรรพพาวุธ-บางนา  9.) สาขาหนองแขม


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • แถลงเปิดฤดูกาล NEXZTER BRIC Superbike 2025 ยกระดับความเข้มข้น-พัฒนาอีกขั้น สู่เป้าหมายสำคัญนำไทยสู่มหาอำนาจมอเตอร์สปอร์ตเอเชีย

    1 Min Read

    แถลงเปิดฤดูกาล NEXZTER BRIC Superbike 2025 ยกระดับความเข้มข้น-พัฒนาอีกขั้น สู่เป้าหมายสำคัญนำไทยสู่มหาอำนาจมอเตอร์สปอร์ตเอเชีย

    สนามช้างฯ จับมือพันธมิตรยักษ์ แห่งวงการมอเตอร์ไซค์ พร้อม 7 นักบิดดาวรุ่ง แถลงข่าวเปิดศึกชิงเจ้าความเร็วสองล้อที่ใหญ่ที่สุดของไทย ภายใต้ชื่อรายการ NEXZTER BRIC Superbike 2025 พร้อมเปิดตัวไตเติ้ลสปอนเซอร์รายใหม่ ฉลองปีที่ 11 บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ เติมเต็มเป้าหมายสำคัญในการนำไทยสู่มหาอำนาจมอเตอร์สปอร์ตเอเชียและเทียบเท่าระดับสากล ยิ่งใหญ่ไปกับ 15 รุ่นการแข่งขัน ไฮไลต์พิเศษเพิ่มคลาสการแข่งขัน Supersport 250cc เป็นครั้งแรก เตรียมระเบิดศึกสนามแรก 20-22 มิ.ย.นี้

    งานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ NEXZTER BRIC Superbike 2025 (เน็กซ์เตอร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์) วันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่ราชพฤกษ์คลับ กรุงเทพฯ โดยมี บริษัท เอส.ซี.เอช. อินดัสตรี้ จำกัด” ผู้ผลิตและจำหน่ายผ้าเบรก “เน็กซ์เตอร์” ผ้าเบรกประสิทธิภาพสูงเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น คว้าสิทธิ์ในการเป็นไตเติ้ลสปอนเซอร์ ประจำฤดูกาล 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานยังมีนักบิดดาวรุ่งของไทยและผู้สนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆขึ้นกล่าวบนเวที อาทิ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) “ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ ไออาร์ซี” และสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต  รวมทั้งทัพสื่อมวลชนจากหลายร้อยสำนักข่าวและผู้สนับสนุนร่วมงานมากมาย

    นายสมภพ สีสด ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ธุรกิจผ้าเบรกมอเตอร์ไซค์ NEXZTERเปิดเผยว่า “เน็กซ์เตอร์” ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนนักแข่ง ทีมแข่ง หรือกิจกรรมการแข่งขันต่างๆ ทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ ในปีนี้ได้ก้าวเข้ามาเป็นไตเติ้ล สปอนเซอร์ใหม่ประจำฤดูกาล 2025 ภายใต้ชื่อ “NEXZTER BRIC Superbike” อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของรายการ BRIC Superbike ที่เป็นเวทีการแข่งขันที่มีมาตรฐานสูง และสามารถผลักดันนักแข่งไทยสู่เวทีระดับเอเชียและระดับโลกได้จริง

    “เราคาดหวังว่ารายการนี้ จะไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่จะเป็นเวทีที่รวมเอาความสามารถ พลัง ของทุกฝ่ายมาขับเคลื่อนวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้ก้าวไปอีกขั้น โดยเน็กซ์เตอร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ทั้งนักแข่งในสนามและผู้ใช้งานจริงนอกสนามด้วยมาตรฐานระดับโลก”

    นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า สำหรับปีที่ 11 ของรายการชิงแชมป์ประเทศไทย อย่าง BRIC Superbike พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การแข่งขันรายการนี้เติบโตขึ้นในทุกมิติ จนเทียบเท่าระดับเอเชีย ทั้งในด้านกฎกติกา ระบบจัดการ มาตรฐานบุคลากร และเทคโนโลยี ด้วยระบบนิเวศของวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกแบบครบวงจร

    “เวทีนี้เป็นบันไดก้าวแรกที่สร้างนักบิดไทยหน้าใหม่เข้าสู่วงการสองล้ออย่างต่อเนื่องทั้งเอเชียและระดับโลก นักแข่งและทีมแข่งน้อยใหญ่ได้มีสนามที่ติดปีก ฝึกฝน ทั้งด้านโครงสร้าง และการใช้เทคโนโลยีการบริหารจัดการทีมขั้นสูง ด้วยมาตรฐานการจัดงานและทีมงานระดับโมโตจีพี สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสนามช้างฯ ในการพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ตของไทยให้เป็นเจ้าเอเชีย และเทียบเท่าระดับสากล”

    สำหรับ “ไฮไลต์พิเศษ” ของฤดูกาล 2025 นี้ จะมีการเพิ่มคลาสการแข่งขัน Supersport 250cc เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นเวทีบ่มเพาะนักแข่งดาวรุ่ง เตรียมพร้อมสู่เวทีระดับเอเชียอย่างไร้รอยต่อ สู่เวทีแข่งขันชื่อดังของทวีป รายการ Asia Road Racing Championship สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและตอบโจทย์การเติบโตของนักแข่งรุ่นใหม่ โดยมียางจาก IRC เข้ามาเป็น Official Tire สำหรับการแข่งขันรุ่นนี้อีกด้วย

    นายคณิน เหล่าจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ ไออาร์ซี กล่าวว่า IRC ในฐานะผู้ผลิตยางชั้นนำที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 55 ปี และอยู่เคียงข้างวงการมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนาน ในปีนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยไปอีกขั้น ในการเข้ามาเป็น Official Single Tire ในรุ่น Supersports 250cc ให้กับนักแข่งที่ทำการแข่งขันในสังเวียนตลอดฤดูกาล 2025

    “เราได้นำยางที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของนักแข่งระดับมืออาชีพโดยเฉพาะมาใช้ในการแข่งขัน รุ่น Supersports 250cc ซึ่งยางที่ดีจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของชัยชนะของนักบิด โดยนำยาง 2 ประเภท ได้แก่  ยางสลิค IRC RC-01 สำหรับสนามแห้ง โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น ใช้ Soft Compound ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่น IZ-003 ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม ทนทาน  ช่วยให้นักแข่งสามารถเบรกและเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ และ ยางสำหรับสนามเปียก IRC WR-001 ใช้ Soft Compound ที่เหมาะกับพื้นผิวที่ลื่น ดอกยางรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้ายางถูกออกแบบให้ป้านขึ้น เพื่อเพิ่มการทรงตัวในสนามเปียก เชื่อว่าการขับขี่ด้วยยางสมรรถนะสูง จะช่วยยกระดับการแข่งขัน นักแข่งสามารถปลดล็อกขีดจำกัด ทำผลงานในสนามให้ดีขึ้น พัฒนาทักษะได้มากขึ้น ชม-เชียร์สนุกมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย”

    ภายในงานแถลงข่าวยังมี 7 นักบิดดีกรีแชมป์ประเทศไทยร่วมพูดคุยถึงการแข่งขันในปี 2025 ได้แก่ ทรัพย์สถิต ศรีสุวรรณ แชมป์ปี 2024 รุ่น Super Bikes 1000cc. (SB2) และ รุ่น Super Stock 1000cc. (ST2), นทีธาร ทองโคตร แชมป์ รุ่น Super Stock 1000cc. (ST1), ต่อศักดิ์ นวลสาย แชมป์ รุ่น Super Sport 600cc. (SS1), สุทธิพจน์ พัชรีธร แชมป์ รุ่น Sport Production 400cc. (SP), ภูริทัต จันจาด แชมป์ รุ่น Sport Production 400cc. (SP-Junior), เตชินท์ อินทร์อภัย แชมป์ปี 2024 จาก Honda Thailand Talent Cup, นันทกร ปรีชาธรรมรัช แชมป์ปี 2024 จาก Yamaha R7 Cup ร่วมพูดคุยบนเวที

    ทั้งนี้ การมีรุ่นการแข่งขันที่หลากหลายกว่า 15 รุ่น ให้นักแข่งได้เลือกลงแข่งขันในคลาสที่เหมาะสมมากที่สุด เป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาและยกระดับการแข่งขันอย่างตรงจุด รวมทั้งการมีจำนวนทีมและนักแข่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในรายการ และ ได้รับความสนใจจากนักแข่ง ทีมแข่ง จากต่างประเทศมากขึ้นในทุกปี ทำให้สนามช้างฯไม่ได้เป็นเพียง “ผู้จัด” แต่เป็นส่วนหนึ่งใน “ผู้สร้าง” วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยในเชิงโครงสร้าง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Anyone can be a hero ใครๆก็สามารถเป็นฮีโร่นักบิดได้

    ส่วนปฏิทินการแข่งขันรายการ NEXZTER BRIC Superbike ฤดูกาล 2025 จัดเต็มความสนุกสนาน เร้าใจให้แฟนความเร็วได้ชมยาวๆทั้งปี แบ่งเป็น 4 สนาม 5 เรซ สนามที่ 1 วันที่ 20-22 มิถุนายน, สนามที่ 2 วันที่ 8-10 สิงหาคม, สนามที่ 3 วันที่ 26-28 กันยายน และปิดฉากสนามสุดท้าย พร้อมฉลองแชมป์กันในสนามที่ 4 ส่งท้ายปี แข่งขัน 2 เรซ ใน วันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

    แข่งขันทั้งสิ้น 6 คลาส นำโดยคลาสสูงสุดของประเทศไทย ได้แก่ Super Bike 1000cc., Super Stock 1000cc., Super Sport 600cc., Sport Production 400cc. และฤดูกาลนี้ได้มีการเพิ่มคลาสพิเศษ Super Sport 250cc. เป็นครั้งแรก โดยมีการแยกนักแข่งรุ่น Pro ใน 3 คลาสหลักออกมาเพื่อความดุเดือดยิ่งขึ้น ได้แก่ Super Bike 1000cc. (SB1 Pro), Super Sport 600cc. (SS1 Pro), และ Super Sport 250cc (SS1 Pro) ผู้ชนะเลิศจะได้รับสิทธิไวลด์การ์ดเข้าแข่งขันในศึกสองล้อรายการใหญ่แห่งทวีป Asia Road Racing Championship” 2026


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • บริดจสโตน ร่วมกับ TOP SECRET THAILAND และ STREET DOC ชวนสัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตสุดเร้าใจ พร้อมเป็นผู้สนับสนุนหลักในงาน “IMPACT Speed Fest 2025”

    1 Min Read

    บริดจสโตน ร่วมกับ TOP SECRET THAILAND และ STREET DOC ชวนสัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตสุดเร้าใจ พร้อมเป็นผู้สนับสนุนหลักในงาน “IMPACT Speed Fest 2025”

    บริดจสโตน ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกและผู้นำด้านนวัตกรรมยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียม ในโอกาสนี้ร่วมกับคุณเบียร์ ใบหยก ยูทูบเบอร์ สายรถยนต์ตัวท็อป เจ้าของสำนักแต่งรถยนต์ TOP SECRET THAILAND และคุณโก้  STREET DOC อินฟลูเอนเซอร์สายรถยนต์ชื่อดัง ชวนลูกค้าและเหล่าคนรักรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ชื่นชอบความเร็วร่วมเปิดประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตสุดเร้าใจกับมหกรรมความเร็วสุดยิ่งใหญ่แบบน็อนสต็อปตลอด 60 ชั่วโมงเต็ม ครั้งแรกในประเทศไทย โดยบริดจสโตนร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในงาน “IMPACT Speed Fest 2025” ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2568 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี

    ห้ามพลาด! กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจัดเต็มตลอด 3 วันภายในบูธบริดจสโตน ด้วยการจัดแสดงโชว์แกงค์รถซิ่งหาดูยากที่ติดยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA ได้แก่ รถยนต์ TOP SECRET
    ทั้ง 5 คัน
    จากคุณเบียร์ ใบหยก รถยนต์ Mitsubishi Evolution 5 จากคุณโก้ STREET DOC และรถยนต์ Mitsubishi Evolution 8 MR ตำนานรถทดสอบประสิทธิภาพยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA ตัวดังหลากหลายรุ่น นอกจากนี้ยังเอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ตตัวจริงด้วยกิจกรรมร่วมสนุกสุดมันส์ภายในบูธ เพื่อลุ้นรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท โดยของรางวัลใหญ่เป็นยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA Adrenalin RE004 จำนวน 1 รางวัล 4 เส้น มูลค่ารวม 40,000 บาท พร้อมของรางวัลและของที่ระลึกสุดลิมิเต็ดอีกมากมาย เช่น เสื้อยืดจาก TOP SECRET X BRIDGESTONE และ STREET DOC X BRIDGESTONE มีจำหน่ายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

    สำหรับงาน IMPACT Speed Fest 2025 เป็นการจัดมหกรรมสำหรับคนรักรถยนต์และรถจักรยานยนต์สุดยิ่งใหญ่เชื่อมโยงคอมมิวนิตี้คนรักรถเข้าด้วยกัน และสร้าง Destination of Car Culture ของประเทศไทย
    ที่ชัดเจนผ่านการจัดงานบนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่เป็นคนรักรถเท่านั้น

    แล้วพบกับบริดจสโตนและกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เราเตรียมไว้ให้เหล่าคนรักรถได้เต็มอิ่มในงาน IMPACT Speed Fest 2025 ตลอดทั้ง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2568 นี้!


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


     

    No Comment
  • OR ยืนยันสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเข้มงวดตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด

    1 Min Read

    OR ยืนยันสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเข้มงวดตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด

    หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า OR ให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำมันที่จำหน่ายให้ผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง โดยมีระบบการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดและครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับน้ำมันจากโรงกลั่น การขนส่ง การเก็บรักษา จนถึงการจ่ายให้กับลูกค้าเพื่อให้ผู้บริโภคที่มาเติมน้ำมัน ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น มั่นใจว่าจะได้รับน้ำมันที่มีคุณภาพ

    ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ปรากฎในโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เวลา 11:50 น. ลูกค้าได้เข้ามาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ที่ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สาขาศรีนครินทร์ และได้กลับมาที่สถานีบริการอีกครั้งในเวลา 13:28 น. แจ้งว่าพบน้ำเจือปนในน้ำมันที่เติมไป จึงได้ขอให้ทางสถานีบริการดำเนินการตรวจสอบ จากเหตุการณ์ดังกล่าว OR ได้เร่งประสานงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็วและละเอียดถี่ถ้วน โดยขั้นแรกพนักงานหน้าลานได้ร่วมกับลูกค้าตรวจสอบเบื้องต้นทันที โดยตรวจสอบน้ำมันที่มือจ่าย ไม่พบความผิดปกติ จากนั้น ทางสถานีบริการได้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างเข้มงวด โดยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

    • ขั้นตอนแรก ตรวจสอบก้นถังเก็บน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจะสะสมตัวหากมีการปนเปื้อน โดยจากการตรวจสอบไม่พบน้ำเจือปนในถังเก็บน้ำมันแต่อย่างใด
    • ขั้นตอนที่สอง ผู้จัดการสถานีได้ทำการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งด้วยอุปกรณ์วัดระดับน้ำอัตโนมัติ หรือ ATG (Automatic Tank Gauge) ซึ่งเป็นระบบที่มีความแม่นยำสูงในการตรวจจับน้ำในถังเก็บน้ำมัน ผลการตรวจสอบยืนยันชัดเจนว่าไม่พบน้ำเจือปนในระบบเก็บน้ำมันของสถานีบริการ

    ทั้งนี้ ในระหว่างเวลา 10:00 น. – 14:00 น. มีลูกค้ามาใช้บริการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากมือจ่ายดังกล่าว รวม 129 คัน รวมปริมาณน้ำมันที่จำหน่ายไป 813 ลิตร และไม่พบว่ามีการรายงานปัญหาหรือร้องเรียนปัญหาที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ สถานีบริการยังได้หยุดการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากมือจ่ายดังกล่าวเพื่อรอการตรวจสอบอีกครั้งจากทีม Mobile Lab ซึ่งได้เข้าตรวจสอบในช่วงเช้าวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยผลจากการตรวจสอบพบว่าคุณภาพน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากมือจ่ายดังกล่าว ที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ถนนศรีนครินทร์ ได้คุณภาพตามมาตรฐานทั้งมือจ่ายและถังใต้ดิน ไม่พบน้ำและสิ่งผิดปกติ และไม่เป็นไปตามคลิปที่ลงในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด

    OR มุ่งมั่นที่จะส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามหลักกำกับดูแลกิจการที่ดี และได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนความจริง และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของ OR รวมถึงส่งผลกระทบต่อผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศต่อไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ทีมช่างเทคนิคผู้ชนะเลิศจากการแข่งขัน VISTA 2024

    1 Min Read

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ทีมช่างเทคนิคผู้ชนะเลิศจากการแข่งขัน VISTA 2024

    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองให้แก่ทีมช่างเทคนิคที่คว้าชัยจากเวที VISTA 2024 (Volvo International Service Training Award) การแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อประชันความรู้ความสามารถของพนักงานฝ่ายบริการหลังการขายของวอลโว่ เพื่อเฟ้นหาทีมงานฝ่ายบริการหลังการขายที่มีความสามารถสูงสุดของวอลโว่ การแข่งขันในครั้งนี้เราได้ผู้ชนะจากทีม Service & Repair และ Damage Repair จากผู้แทนจำหน่ายวอลโว่ 2 ราย ได้แก่ บริษัท เมอร์ค ออโต้ จำกัด จำนวน 2 คน และ บริษัท นิวตัน เพรสทีจ ออโต้ จำนวน 4 คน ความสำเร็จนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงมาตรฐานการฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และทักษะระดับสากลของทีมช่างเทคนิควอลโว่ งานเลี้ยงแสดงความยินดีและมอบรางวัลจัดขึ้นอย่างอบอุ่นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 บนเรือพฤกษ์ครูซ ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา

     

    VISTA คือโปรแกรมการแข่งขันที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความรู้ทางเทคนิค ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และยกระดับมาตรฐานการให้บริการหลังการขายของพนักงานในเครือข่ายศูนย์บริการวอลโว่ทั่วโลก ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนจากศูนย์บริการวอลโว่ และได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการโดยบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมช่างเทคนิคที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุด

     

    คุณคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
    “วอลโว่ยึดมั่นมาโดยตลอดว่า ‘บุคลากร’ คือหัวใจสำคัญขององค์กร โดยเฉพาะทีมบริการหลังการขาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดประสบการณ์การบริการที่เต็มไปด้วยคุณภาพและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างแท้จริง ทีมงานกลุ่มนี้เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังขององค์กร ที่คอยขับเคลื่อนการมอบบริการอันเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง การแข่งขัน VISTA จึงไม่เพียงเป็นเวทีประชันทักษะด้านเทคนิค แต่ยังสะท้อนถึงมาตรฐานการบริการหลังการขายระดับสากลที่วอลโว่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของบุคลากรให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความพร้อมในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน”

    เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจถึงความเชี่ยวชาญและความพร้อมของทีมช่างเทคนิควอลโว่ในการมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า การแข่งขันครั้งนี้จึงออกแบบรูปแบบการทดสอบให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงโดยครอบคลุมทุกองค์ประกอบที่สำคัญของงานบริการหลังการขาย อาทิ

    • หลักสูตรการแข่งขัน Service & Repair Core วัดความสามารถทีมช่างเทคนิคในด้าน กระบวนการจัดงานในศูนย์บริการ, การสื่อสาร, การตรวจสอบเบื้องต้น, ระบบแรงดันไฟฟ้าสูง, การระบุชิ้นส่วนอะไหล่, การใช้งานระบบ VIDA และ TIE
    • หลักสูตรการแข่งขัน Service & Repair Plus ต้องมีความสามารถในทุกหัวข้อของหลักสูตร Service & Repair Core และเพิ่มเติม อาทิ การวินิจฉัยระบบไฟฟ้าแรงสูงขั้นสูง, ระบบไฟฟ้าแรงต่ำขั้นสูง (ระบบช่วยการขับขี่ ADAS), ระบบกลไกและไฮดรอลิกขั้นสูง, ระบบปรับอากาศขั้นสูง
    • หลักสูตรการแข่งขัน Damage Repair วัดความสามารถในด้านทักษะการปฎิบัติงานซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)

    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Honda Marine เปิดศูนย์บริการใหม่สาขาที่ 5 บนเกาะสมุย รองรับความต้องการพื้นที่ภาคใต้

    1 Min Read

    Honda Marine เปิดศูนย์บริการใหม่สาขาที่ 5 บนเกาะสมุย รองรับความต้องการพื้นที่ภาคใต้

    ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมกับบริษัท NPSK ผู้แทนจำหน่ายเครื่องยนต์เรือฮอนด้าอย่างเป็นทางการแต่เพียงรายเดียวในประเทศ เดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการด้วยการเปิดศูนย์บริการ Honda Marine แห่งใหม่ บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นับเป็นศูนย์บริการสาขาที่ 5 ของ Honda Marine ในประเทศไทย

     

    การเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการยกระดับการให้บริการของ Honda Marine ในภูมิภาคภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่มีความต้องการใช้งานเรือเพื่อการพาณิชย์และการท่องเที่ยวสูง โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวชายฝั่งอย่างภูเก็ต กระบี่ สตูล และสุราษฎร์ธานี ที่มีแนวโน้มการเติบโตของตลาดเครื่องยนต์เรือและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

    ศูนย์บริการ Honda Marine สาขาเกาะสมุย ให้บริการครบวงจรทั้งการจำหน่ายเครื่องยนต์เรือฮอนด้าที่มีครอบคลุมหลายรุ่น รวมถึงรุ่นล่าสุด All New Honda BF250 V6 ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้บริการหลังการขาย การซ่อมบำรุงโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยอะไหล่แท้จากฮอนด้า เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังมีพื้นที่ทดลองใช้งานจริงสำหรับลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ตอบสนองได้ทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปในภูมิภาค

     

    นอกจากนี้ Honda Marine ยังมีศูนย์บริการในพื้นที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สาขาพัทยา ที่ให้บริการแก่ลูกค้าในจังหวัดฝั่งตะวันออก และล่าสุดกับการเปิดสาขาที่ 4 ที่จังหวัดสตูลเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของไทยฮอนด้าและ NPSK ในการเพิ่มศักยภาพการให้บริการอย่างครอบคลุม รองรับการเติบโตของตลาด และสนับสนุนเศรษฐกิจทางทะเลของไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว

    ทั้งนี้ ภายในงานเปิดสาขา ยังมีกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าผู้เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นบริการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ฟรี พร้อมรับของแถมและสิทธิพิเศษมากมาย เฉพาะในวันที่ 4–5 มิถุนายน 2568 เท่านั้น

    • ฟรี! อะไหล่แท้ น้ำมันเกียร์พร้อมเปลี่ยนถ่าย
    • ฟรี! ตรวจเช็ก 10 รายการ โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ สายพานไดร์ชาร์จ, สายพานไทม์มิ่ง, คอลย์จุดระเบิด, หัวเทียน, ไส้กรองเชื้อเพลิง (สูง), ไส้กรองเชื้อเพลิง (ต่ำ), อาโนด, ระยะรุนเพลาข้อเหวี่ยง,วาล์วช่วยรอบเดินเบา EAC (พร้อมทำความสะอาด) และสายคันเร่ง

    (**ทางบริษัทฯจะสนับสนุนอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจเช็กทั้งหมด)

    • ส่วนลดค่าอะไหล่ 15%
    • ส่วนลดน้ำมันเครื่อง Honda Marine 50% (Marine grade 10W-30)
    • พร้อมร่วมสนุกลุ้นรับของแจกสุดพรีเมียม

     

    ติดตามข่าวสารของ Honda Marine ได้ที่

    Facebook: Honda Marine Thailand

    Website: https://powerproducts.honda.th.com

    Call Center ศูนย์บริการ

    สาขาพัทยา 038-425-228

    สาขาภูเก็ต 076-608-998

    สาขากระบี่ 075-851-181

    สาขาสตูล 092-071-6321

    สาขาเกาะสมุย 081-970-5093

     

    #HondaMarine #Thaihonda #ไทยฮอนด้า


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • มินิ ประเทศไทย พามินิสเตอร์ปลุกความเป็นนักแข่งใน MINI John Cooper Works Track Day

    1 Min Read

    มินิ ประเทศไทย พามินิสเตอร์ปลุกความเป็นนักแข่งใน MINI John Cooper Works Track Day

    มินิ ประเทศไทย กระตุ้นจิตวิญญาณนักแข่ง สร้างความตื่นเต้นให้หัวใจชาวมินิสเตอร์ได้เต้นรัวกันอีกครั้ง กับกิจกรรม MINI John Cooper Works Track Day นำลูกค้ากว่า 200 คน สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดกับตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ นำโดย MINI John Cooper Works Electric พร้อมด้วย MINI John Cooper Works Aceman ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมตลอด 4 วันครั้งนี้ ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะที่หลากหลายและเร้าใจในแบบฉบับมินิ ทั้งการขับขี่แบบ fast lap ที่เร้าใจ การขับขี่แบบยิมคาน่า ที่สำคัญกับการขับขี่อย่างปลอดภัย ภายใต้การควบคุมดูแลโดยทีมผู้ฝึกสอนซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลของบีเอ็มดับเบิลยู

    MINI John Cooper Works Electric แบบ 3 ประตู ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนที่ให้กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ถ่ายทอดพลังได้ทันที เติมความแรงได้อีก พร้อมฟังก์ชัน Electric Boost ที่เสริมพลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 กิโลวัตต์ ขณะเร่งความเร็ว ตอกย้ำพลังความแรงของ MINI JCW และถ่ายทอดความรู้สึก “Go-Kart feeling” ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิได้อย่างชัดเจน

    การตกแต่งรอบคัน สวยเฉี่ยวด้วยโลโก้ JCW สีแดง-ขาว-ดำ ที่ได้แรงบันดาลใจจากธงตาหมากรุก และสปอยเลอร์ ท้ายที่สวยเด่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งในด้านอากาศพลศาสตร์ และด้านระยะทางการขับขี่ ที่สูงถึง 371 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

    ภายในห้องโดยสาร ยังเต็มไปด้วยโทนสีแดงและดำอันเป็นเอกลักษณ์ของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ทั้งพวงมาลัย สปอร์ต JCW สีดำที่ประดับด้วยตะเข็บสีแดงและหุ้มผ้าที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อให้จับถนัดมือ เบาะสปอร์ต JCW ให้การรองรับที่มั่นคงระหว่างการขับขี่แบบสุดตัว ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงตัดกับหนังเทียมสีดำ เช่นเดียว กับผิวหน้าของคอนโซล พร้อมด้วยระบบ MINI Experience Modes เพิ่มสีสันที่สนุกสนานให้ทุกการขับขี่

    MINI John Cooper Works Electric มีให้เลือกเป็นเจ้าของในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White, ดำ Midnight Black II และน้ำเงิน Blazing Blue ในราคา 2,199,000 บาท
    (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ MSI Standard)

    สำหรับ MINI John Cooper Works Aceman ในโฉม 5 ประตู ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลัง 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า เช่นเดียวกัน แต่มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าและตัวถังที่ยกสูงจากพื้นมากขึ้น ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 6.4 วินาที แบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้ MINI John Cooper Works Aceman วิ่งได้ไกลถึง 355 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง 95 กิโลวัตต์ หรือ 5 ชั่วโมง 30 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสสลับ 11 กิโลวัตต์

    MINI JCW Aceman ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 19 นิ้ว แบบ Strive Spoke ทูโทน ส่วนห้องโดยสารที่กว้างขวาง ยิ่งดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยหลังคากระจกพาโนรามา ภายในห้องโดยสารยังคงเอกลักษณ์ของรถตระกูล John Cooper Works ไว้ครบถ้วน ทั้งพวงมาลัย JCW แบบเฉพาะรุ่นและเบาะนั่งสปอร์ต จอแสดงผล OLED ทรงกลม พร้อม MINI Experience Modes

    รถยนต์มินิเจเนอเรชั่นใหม่ทุกรุ่น รองรับระบบ Digital Key Plus ช่วยให้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถแบบดิจิทัลได้อย่างสะดวก สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า นอกจากนี้ ทั้ง MINI John Cooper Works Aceman และ John Cooper Works Electric ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Remote Parking ที่ช่วยควบคุม การจอดและนำรถออกจากที่จอดผ่านสมาร์ทโฟนได้

    MINI John Cooper Works Aceman ใหม่ พร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White และดำ Midnight Black II ในราคา 2,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ MSI Standard)

    มินิ ประเทศไทย ยังเตรียมกิจกรรมอีกมากมายสำหรับคนรักมินิตลอดทั้งปีนี้ ติดตามได้ทาง MINI Thailand Facebook Page


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment