• OMODA & JAECOO มอบข้อเสนอ Motor Show Deal สำหรับ JAECOO 6 EV ที่จะทำให้การเป็นเจ้าของ JAECOO 6 EV แบบไม่ต้องรอตัดสินใจ

    1 Min Read

    OMODA & JAECOO มอบข้อเสนอ Motor Show Deal สำหรับ JAECOO 6 EV ที่จะทำให้การเป็นเจ้าของ JAECOO 6 EV แบบไม่ต้องรอตัดสินใจ

    OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ส่งมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถไฟฟ้า JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในประเทศจีน) รถพลังงานไฟฟ้าแบบออฟโรด ที่ผสานจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยแบบออฟโรดเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ ONE BOX STYLE พร้อมท้าทายทุกเส้นทางอย่าง ไร้ขอบเขต ได้รับการยกย่องในด้านสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดที่โดดเด่น ควบคู่ไปกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย ทำให้ได้รับรางวัล “BEST OFF ROAD EV” ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษนี้ จะทำให้การเป็นเจ้าของด้วยโปรโมชัน Motor Show Deal รถไฟฟ้าคันใหม่แบบไม่ต้องรอตัดสินใจ ตั้งแต่ 14 มีนาคม – 30 เมษายน2568 นี้เท่านั้น

    JAECOO 6 EV (หรือ iCAR 03 ในประเทศจีน) รถพลังงานไฟฟ้าแบบออฟโรด ที่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งด้านความสวยงามที่มาพร้อมคุณประโยชน์การใช้สอย จนสามารถคว้ารางวัล “BEST OFF ROAD EV” จากเวที CAR OF THE YEAR 2025 ซึ่ง JAECOO 6 EV ได้ผสานจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยแบบออฟโรดเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ ONE BOX STYLE แบบแนวคิด “OFF-ROAD TRENDY” ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งอนาคต พร้อมท้าทายทุกเส้นทางอย่างไร้ขอบเขต สัมผัสความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้นกับโหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกสภาพถนน ตั้งแต่การขับในเมืองที่แสนวุ่นวายไปจนถึงเส้นทางที่ยากลำบาก ให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ เปิดประสบการณ์และเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ชีวิต มั่นใจในทุกการเดินทางไปกับระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจาก JAECOO 6 EV

    Motor Show Deal กับ JAECOO 6 EV ที่มาพร้อมกับส่วนลด 100,000 บาท*

    ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี*

    ฟรี! Home Charger พร้อมติดตั้ง มูลค่า 25,000 บาท*

    พร้อมรับข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์โชว์*

    JAECOO 6 EV มีให้เลือก 2 รุ่น

    • รุ่น Long Range 4WD: สมรรถนะ 279 แรงม้า ระยะทางขับขี่ 418 กม. (NEDC) พร้อม 9 โหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, Custom, All road, Slippery, Beach, Muddy, Bumpy) ราคาหลังส่วนลด 1,149,000 บาท (จาก 1,249,000 บาท)
    • รุ่น Long Range 2WD: สมรรถนะ 184 แรงม้า ระยะทางขับขี่ 426 กม. (NEDC) พร้อม 4 โหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, Custom) ราคาหลังส่วนลด 999,000 บาท (จาก 1,099,000 บาท)

     

    พร้อมรับข้อเสนออื่นๆ เดียวกันกับมอเตอร์โชว์*

    – ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 21,000 บาท*

    -ฟรี! Home Charger พร้อมติดตั้ง มูลค่า 25,000 บาท*

    -ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง มูลค่า 10,000 บาท*

    -ฟรี! Application T-Box service 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท*

    -ฟรี! พรม JAECOO มูลค่า 1,500 บาท ยี่ห้อและชนิดของพรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด*

    -ฟรี! การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) *

    • การรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)
    • การรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)
    • การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)

    -ฟรี! สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า (V-to-L) *

    -ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger*

    *หมายเหตุ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

     

    *เงื่อนไขแต่ละข้อเสนอพิเศษมีเนื้อหาและช่วงเวลาที่มีความแตกต่าง แต่ทั้งนี้เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และ บางข้อเสนอพิเศษนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการโปรโมชันอื่นๆ ได้

    ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ WWW.OMODAJAECOO.CO.TH หรือสอบถามรายละเอียดได้ โทร. 02-020-8888 หรือที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศ


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ รังสรรค์อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษ ‘Inspired by China’ สะท้อนความงดงามแห่งศิลปะวัฒนธรรมจีน

    1 Min Read

    เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ รังสรรค์อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษ ‘Inspired by China’ สะท้อนความงดงามแห่งศิลปะวัฒนธรรมจีน

    เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ รังสรรค์อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ได้รวบรวมเอาแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมจีนภายใต้แนวคิด ‘Inspired by China’ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยอัครยนตรกรรมทั้ง 8 คอลเลกชันที่แตกต่างกันได้รับการผลิตขึ้นตามข้อกำหนดเฉพาะด้านงานฝีมือจากช่างฝีมืออันเลื่องชื่อของเบนท์ลีย์เพื่อผสมผสานสีสัน ผิวสัมผัส และความงดงามในการออกแบบสำหรับตลาดในประเทศจีนโดยเฉพาะ

    ทีมนักออกแบบจากเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ได้สร้างสรรค์อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษให้มีชีวิตชีวาด้วยความใส่ในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ยกระดับทุกองค์ประกอบให้มีความประณีตบรรจง ตั้งแต่จำนวนกรงเล็บของมังกรที่ปักลายไปจนถึงทิศทางที่ปลาคาร์ปสีสันสดใสกำลังแหวกว่ายอยู่ภายในห้องโดยสาร ซึ่งทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ล้วนได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง

    ผลงานการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ในครั้งได้รับการรังสรรค์ในรุ่น Bentayga Extended Wheelbase (EWB), Flying Spur และ Continental GT ด้วยแรงบันดาลใจจากสัตว์ ผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียง และตราสัญลักษณ์ในวัฒนธรรมจีน

    ปลาคาร์ปสีสันสดใส

    ในสมัยโบราณ ชาวจีนเชื่อกันว่าปลาคาร์ปเป็นสัตว์ที่นำความกล้าหาญและโชคลาภมาให้ และสีสันที่สดใสของปลาคาร์ปก็เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน โดยสำหรับในรุ่น Bentayga EWB ที่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง เหมาะแก่การแสดงผลงานศิลปะที่คอนทราสต์กันอย่างโดดเด่นกับพื้นผิวของหินแกรนิตบริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งทั้งสองอย่างล้วนคล้ายคลึงกับสีและผิวสัมผัสของปลาคาร์ป สำหรับภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง การตกแต่งภายในด้วยเฉดสีดำ Beluga และเฉดสีส้ม Mandarin จะช่วยสร้างการผสมผสานที่โดดเด่นไม่ว่าคุณจะนั่งที่เบาะโดยสารส่วนหน้าหรือเบาะโดยสารส่วนหลัง

    สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสารที่รวมถึงการปักและการซ้อนภาพ นักออกแบบพบว่าปลาคาร์ปต้องว่ายน้ำตามเข็มนาฬิกา เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์และความเชื่อที่สื่อถึงโชคลาภ ความสมดุล และความพากเพียร นอกจากนี้ ตัวเลขหกยังถือเป็นเลขนำโชคในความเชื่อของชาวจีน เนื่องจาก 六 ออกเสียงเหมือน 流 (liú) และเกี่ยวข้องกับความราบรื่นและความสำเร็จ ภายในห้องโดยสารจึงมีการใส่รายละเอียดของปลา 6 ตัวที่ได้รับการปัก 4 ตัวบนเบาะโดยสารแต่ละที่นั่ง และมี 2 ตัวตกแต่งบริเวณวีเนียร์

    เอฟเฟกต์ ‘ระลอกคลื่น’ บนแผงหน้าปัดและกาบบันไดได้รับการออกแบบให้เสมือนระลอกคลื่นน้ำที่เกิดจากปลาคาร์ปขณะเคลื่อนไหว พร้อมด้วยการตกแต่งด้วยสีทองเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบอย่างตราสัญลักษณ์ด้านนอกบริเวณเสา D และแถบสีทอง ซึ่งสื่อถึงโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความโชคดี

     

    ภาพวิวทิวทัศน์ที่งดงาม

    คอลเลกชันพิเศษได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาด ‘A Thousand Miles of Rivers and Mountains’ ของ หวัง ซีเหมิง ซึ่งวาดขึ้นขณะที่มีอายุเพียง 18 ปี “A Thousand Miles of Rivers and Mountains” คือ ภาพวาดทิวทัศน์อันโด่งดังของจีนที่วาดขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งในช่วงคริสตศักราช 960 –1276 โดยม้วนภาพขนาดใหญ่นี้มีความยาวประมาณ 11.9 เมตร (หรือ ประมาณ 39 ฟุต)

    ในส่วนของภายในห้องโดยสารของรุ่น Flying Spur Azure ที่เน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง ทีมงานได้ศึกษาเฉดสีต่างๆ และได้รับแรงบันดาลใจจากสีน้ำเงิน สีเขียว และสีทองในภาพวาด โดยมีการนำเอารูปทรงและรายละเอียดต่างๆ มาใช้ในการปักและซ้อนทับที่สามารถเห็นได้ทั่วทั้งห้องโดยสารสีน้ำเงินที่สั่งทำพิเศษ

     

    Ru Yi

    อีกหนึ่งคอลเลกชันไฮไลท์ คือ Ru Yi สำหรับ “Ru Yi” (如意) เป็นของตกแต่งแบบดั้งเดิมของชาวจีนที่สื่อถึงโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความปรารถนาที่สมหวัง Ru Yi มักถูกประดิษฐ์ขึ้นในรูปทรงคฑาหรือไม้กายสิทธิ์ โดยทั่วไปจะมีส่วนหัวโค้งมนคล้ายเมฆและด้ามจับยาวตรง ส่วนหัวมักประดับด้วยงานแกะสลักที่ประณีตหรือฝังอัญมณีที่ทำจากวัสดุต่างๆ อย่างเช่น ไม้ หยก และโลหะ

    คอลเลกชันสำหรับรุ่น Flying Spur มาพร้อมกับการตกแต่งด้วย 3 เฉดสี โดยทั้งหมดมีการตกแต่งอย่างประณีตที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเส้นสายสีทองบนเบาะโดยสารที่เข้ากันกับการตกแต่งด้วยสีเงินบริเวณแผงหน้าปัดและกาบบันไดห้องโดยสาร พร้อมด้วยเส้นสายสีทองที่ตกแต่งบริเวณคอนโซลกลางที่จะเข้ากับโลโก้สีทองภายนอก

    3 อัครยนตรกรรมคอลเลกชันพิเศษ

    สำหรับอัครยนตรกรรม ‘Inspired by China’ อีก 3 คอลเลกชันพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งสัตว์ต่างๆ อย่าง มังกร สิงโตเต้นรำ หรือแม้แต่หมีแพนด้าเริงร่า เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ ได้ใช้ทักษะด้านงานฝีมือในการออกแบบผลงานคอลเลกชันในแบบเฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็นจำนวนกรงเล็บ สีของดวงตา หรือเพียงแค่การใช้เฉดสีในการสื่อสารถึงไม้ไผ่เพื่อความเอ็กซ์คลูซีฟในแบบเฉพาะของตลาดในประเทศจีน

    ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษ โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • 7 ความต่างที่ทำให้ SHS (Super Hybrid System) ใน JAECOO 7 SHS คือมิติใหม่แห่งเทคโนโลยียานยนต์ที่ทุกคนรอคอย

    1 Min Read

    7 ความต่างที่ทำให้ SHS (Super Hybrid System) ใน JAECOO 7 SHS คือมิติใหม่แห่งเทคโนโลยียานยนต์ที่ทุกคนรอคอย

    OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก เตรียมเปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ยนตรกรรม Plug-in Hybrid “Super HEV + EV” รุ่นล่าสุด ที่จะมาเปลี่ยนโฉมหน้าวงการยานยนต์ไทย ด้วยการผสานจุดเด่นของรถยนต์ไฮบริดและรถไฟฟ้าอย่างลงตัว

     

    Super Hybrid System: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของวงการยานยนต์

    SHS หรือ Super Hybrid System คือนวัตกรรมล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยานยนต์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของรถปลั๊กอินไฮบริดแบบดั้งเดิม ด้วยการปรับปรุงเสถียรภาพของระบบ ทำให้การสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าราบรื่นไร้รอยต่อ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่ที่ปราศจากมลพิษ เสียงรบกวนต่ำ และการเร่งความเร็วที่นุ่มนวลเหมือนรถไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็ได้รับข้อดีในเรื่องระยะทางการขับขี่ที่ยาวไกลและความสะดวกในการเติมน้ำมันของรถยนต์ไฮบริด

    7 ความต่างที่เป็นหัวใจของ JAECOO 7 SHS

    JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) มีส่วนประกอบหลักที่ทำงานประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Chery Automobile, ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System), และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง  ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับใน 7 ด้าน ได้แก่

    1. เครื่องยนต์ 5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ประสิทธิภาพสูง

    เครื่องยนต์นี้เป็นหนึ่งในผลงานการพัฒนาล่าสุดของ Chery Automobile ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูง (Thermal Efficiency) และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ สามารถปรับการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่แบบเรียลไทม์ ทำให้น้ำมันทุกหยดถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด

    1. ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง

    มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาวะการใช้งานหนัก

    1. ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System)

    ทำให้การทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยพละกำลังอันทรงพลัง สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ชม. หากมีแบตเตอรี่มากกว่า 25%

    1. ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูง

    มาพร้อมอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม มากกว่า 21.28 กิโลเมตรต่อลิตร ทำให้ JAECOO 7 SHS มีสมรรถนะเทียบเท่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันแต่ประหยัดพลังงานและลดการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    1. แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงพร้อมระบบความปลอดภัยรอบด้าน

    แบตเตอรี่ของ JAECOO 7 SHS มีความปลอดภัยสูงด้วยระบบป้องกันแบตเตอรี่รอบด้าน ทั้งการทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำ พร้อมระบบป้องกันด้วยการปิดเครื่องภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชน ช่วยตัดแหล่งจ่ายไฟได้อย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

    1. ความสามารถในการจ่ายพลังงานภายนอก (V2L)

    แบตเตอรี่ยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ในกรณีฉุกเฉิน ด้วยความสามารถในการปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกได้ 3.3 กิโลวัตต์ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย

    1. ระยะทางขับขี่ที่ไปได้ไกลกว่า

    ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ JAECOO 7 SHS มอบสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ที่ไกลกว่า 1,300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) โดยที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

    สมรรถนะเหนือชั้นที่พลิกโฉมวงการยานยนต์

    ด้วยการผสานการทำงานของทั้ง 3 ระบบหลักนี้ JAECOO 7 SHS จึงสามารถมอบสมรรถนะที่น่าทึ่ง:

    • พละกำลังสูงสุด: 347 แรงม้า (HP)
    • แรงบิดสูงสุด: 525 นิวตัน-เมตร
    • ระยะทางขับขี่รวม: มากกว่า 1,300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)
    • ระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน: 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

    JAECOO 7 SHS จึงเป็นมากกว่ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วไป แต่เป็นยนตรกรรมที่มอบเสน่ห์ของการขับขี่ทั้ง 2 รูปแบบ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองที่ต้องการความเงียบและการประหยัดพลังงาน หรือการเดินทางไกลที่ต้องการระยะทางและสมรรถนะที่ทรงพลัง

    พบกับ JAECOO 7 SHS เร็วๆ นี้

    เตรียมพบกับการเปิดตัว JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการได้ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3

    การเปิดตัว JAECOO 7 SHS ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีของ OMODA & JAECOO เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการเดินทางสมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่อนาคตของวงการยานยนต์ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือความคาดหมายแก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ Mitsubishi e:MOTION เปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ฟูลไฮบริด

    2 Min Read

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ Mitsubishi e:MOTION เปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ฟูลไฮบริด

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี รถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด นำโดย มร. เรียวอิจิ อินาบะ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มร. มาซาฮิโระ อิโตะ  (ที่ 2 จากซ้าย) Chief Product Specialist, บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น มร. นาโอกิ อากิตะ (ซ้ายสุด) Program Design Director บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และ นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ขวาสุด)  กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

     

    บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดด้วยการเปิดตัว ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี สู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก รถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ เร้าใจกับสมรรถนะ ครบครันด้วยความสะดวกสบาย และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย จากอีกขั้นของการพัฒนา MITSUBISHI e:MOTION ที่ผสาน 3 เทคโนโลยี ที่ล้ำสมัยที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

    เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และจัดจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกว่า 190 แห่งทั่วประเทศ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคม 2566 ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน และขยายตลาดสู่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่น ๆ ในปี 2567 มีความสำคัญในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส

    ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะมาเสริมทัพกลุ่มรถยนต์ฟูลไฮบริดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ต่อยอดความสำเร็จจาก มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ที่เปิดตัวในประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา รถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่นี้ เป็นรถที่จะสร้างความน่าดึงดูดใจให้กับทุกท่าน เพราะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาจากระบบขับเคลื่อนแบบ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันเลื่องชื่อของมิตซูบิชิ โดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอัตราเร่งที่ทรงพลัง พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ผสานการทำงานระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control – AYC) แบบ All-Wheel Control  ที่จะช่วยคำนวณการส่งกำลังจากระบบขับเคลื่อนและแรงเบรกลงสู่แต่ละล้อ เพื่อให้ล้อทั้งคู่หน้า-คู่หลัง ทำงานอย่างสัมพันธ์กัน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสมดุลของตัวรถขณะเข้าโค้ง เพื่อความปลอดภัย และมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง

    นี่เป็นครั้งแรกที่ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา และเราภาคภูมิใจ ที่รถยนต์รุ่นนี้ ผลิตที่ประเทศไทย ณ โรงงานแหลมฉบังของเรา เราใช้เวลาหลายเดือน ในการทดสอบรถยนต์รุ่นนี้ รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 100,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อประเมินความทนทาน และสมรรถนะในการขับขี่ ทีมทดสอบของเราได้รวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ซึ่งวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเรา ได้นำไปใช้ในการปรับแต่ง และพัฒนารถรุ่นนี้ ให้ดียิ่งขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย คือการทดสอบความทนทานของรถ และปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เราให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพ และประสบการณ์การขับขี่เสมอมา และเราไม่เคยลดทอนมาตรฐานเหล่านี้เลยครับ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี จะเป็นโมเดลที่สร้างความตื่นเต้น และน่าประทับใจ พร้อมกับได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย” มร. เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

    คุณสมบัติเด่นของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี  สามารถแบ่งได้เป็น 4 แกนสำคัญ อันประกอบไปด้วย ดีไซน์  สมรรถนะ ระบบความปลอดภัย  และ ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

    ดีไซน์

    • รูปลักษณ์ภายนอก ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Silky and Solid แนวคิดการออกแบบใหม่จากมิตซูบิชิ เรียบหรู แต่ทรงพลัง สะท้อนผ่านรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่น เปรียบสมือนไอคอนนิคแห่งยุค ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที เสริมให้เห็นถึงความกว้างและความรู้สึกมั่นคงของตัวรถ
    • ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ดีไซน์สวยงามที่คำนึงถึงแอโรไดนามิค เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และ สีที่ตัดกับสีรถ ทำให้ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีบุคลิกของรถเอสยูวีอย่างชัดเจน

    • รูปลักษณ์ภายใน ออกแบบโดยใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ประณีตในทุกรายละเอียด คอนเซปต์ตามแนวคิด “Horizontal Axis” มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ภายในห้องโดยสารสีทูโทน พร้อมการตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จะช่วยสร้างสุนทรียภาพให้คุณตลอดการเดินทาง

    สมรรถนะ

    • ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ MITSUBISHI e:MOTION ซึ่งเป็นการผสานสามเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของมิตซูบิชิ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC)
    • ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นแรก สู่ระบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตามการขับขี่และสภาพถนน ให้อัตราเร่งที่ดี และนุ่มนวล อีกทั้งยังเพิ่มกลไกตัดการเชื่อมต่อของมอเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ส่งผลให้รถมีอัตราประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด 24.4 กิโลเมตร/ลิตร1 มีระยะทางการขับขี่ยาวที่สุดในคลาสต่อน้ำมันหนึ่งถัง  ทำงานเงียบและมีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมทั้งในการขับขี่บนไฮเวย์ และในเส้นทางที่เป็นเนินลาดชัน

    • โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7-Drive Mode) ไม่ว่าเส้นทางแบบไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคด้วยโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Normal (ถนนทั่วไป) Wet (ถนนเปียก) Gravel (ถนนลูกรัง) Tarmac (ถนนลาดยาง) Mud (ถนนโคลน) และอีก 2 ทางเลือกพลังงานทั้ง Charge (โหมดการชาร์จ) และ EV Priority (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%) โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ด้วยตนเองตามสภาพถนน สภาพภูมิอากาศ หรือรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ

    • ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง หรือ AYC (Active Yaw Control) เทคโนโลยีจากรถแข่งแรลลี่คาร์ของมิตซูบิชิ ทำงานโดยคำนวณการส่งกำลังลงที่ล้อซ้าย-ล้อขวา ให้หมุนสัมพันธ์กัน ขณะที่รถเข้าโค้ง เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้สามารถขับผ่านทางโค้งได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และมั่นใจในทุกสถานการณ์
    • ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังใช้ ช่วงล่าง ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้เหมาะกับทุกสภาพถนนในประเทศไทย ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้วกว่า 100,000 กิโลเมตร

    ระบบความปลอดภัย

    • เทคโนโลยีความปลอดภัย Diamond Sense จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา ทำงานอย่างแม่นยำผ่านการทำงานของกล้อง เรดาห์ และเซนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น
      • กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะ และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (MAM with MOD)
      • ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าออกตัวหรือเคลื่อนที่ไปด้านหน้า (LCDN)
      • ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW with LCA)
      • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM)
      • ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง (ACC)
      • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
      • ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)

    ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

    ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร 

    ยกระดับการเดินทางของคุณ ให้รู้สึกผ่อนคลายในแบบพรีเมียมด้วย

    • ห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่หัวไหล่ และพื้นที่วางขาที่กว้าง ทำให้สามารถเดินทางได้พร้อมกันถึง 5 คน โดยไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งตอนหลังสามารถพับปรับแบบ 40:20:40 และปรับเอนได้ถึง 8 ระดับ พร้อมด้วยวัสดุหุ้มเบาะ “Heat Guard” ที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด

    • ไดนามิค ซาวด์ ยามาฮ่า พรีเมียม (Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System) เครื่องเสียงและระบบเสียงคุณภาพ พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับ ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น ให้เสียงใส คมชัดในทุกมิติ ให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงโปรดได้เสมือนฟังดนตรีแบบแยกชิ้น

    • ระบบฟอกอากาศ nanoeTM X ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดอากาศเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่นให้คุณตลอดการเดินทาง

    • ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) บริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านหน้า

    ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่

    • รุ่น Ignite ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท
      มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond สีเงิน Blade Silver และ สีเทา Graphite Grey

    • รุ่น Ultimate ราคาเริ่มต้น 1,039,000 บาท
      มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเงิน Blade Silver   สีเทา Graphite Gray  และสีดำ Jet Black Mica

    • รุ่น Ultimate X ราคาเริ่มต้น 1,089,000 บาท
      มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Diamond หลังคาดำ สีเทา Graphite Gray  หลังคาดำ สีเหลือง Energetic Yellow หลังคาดำ  สีแดง Spirit Red  หลังคาดำ และสีดำ Jet Black Mica

    มาพร้อมการรับประกันระบบไฮบริดเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนานสูงสุดถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง หมดกังวลกับเรื่องอะไหล่และบริการหลังการขาย เพราะเป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ จึงสามารถจัดส่งอะไหล่ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมดูแลด้วยช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเชี่ยวชาญกระจายอยู่กับเครือข่ายผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ

    พิเศษสำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของ ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี โดยจองภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 และรับรถภายใน 31 กรกฎาคม 2568 จะได้รับสิทธิพิเศษภายใต้แคมเปญ Early Bird Offers2  เฉพาะช่วงเปิดตัวเท่านั้น  โดยลูกค้าจะได้รับบัตรของขวัญที่พักโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา มูลค่า 10,000 บาท และรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง เป็นเวลา 1 ปี  พร้อมการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)

    พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษที่สามารถเลือกรับอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.99% (เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนชำระ 48 เดือน)2 กับสถาบันการเงินที่กำหนด และ สามารถเลือกรับแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี และสำหรับลูกค้าครอบครัว มิตซูบิชิ หรือลูกค้าเก่ามิตซูบิชิ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 30,000 บาท ผ่านแอฟพลิเคชัน M-Drive

    ลูกค้าสามารถสัมผัสออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ได้ที่งานโรดโชว์ทั่วประเทศ และ ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (A9) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี พร้อมพบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของมิตซูบิชิ ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์มิตซูบิชิได้ทางเว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th และทุกช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค  MitsubishiMotorsTH

    1 ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ระบุในแคตตาล็อกคำนวณตามวิธีที่กำหนด และอาจแตกต่างจากอัตรา
    สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในสภาพการขับขี่จริง

    2 สำหรับรุ่น Ultimate และ Ultimate X


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • อีซูซุเดินหน้าจัดการแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายประจำปี 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

    1 Min Read

    อีซูซุเดินหน้าจัดการแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายประจำปี 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

    อีซูซุตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการรถยนต์เมืองไทย เดินหน้าพัฒนาบุคลากรมืออาชีพ จัดกิจกรรมการแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายประจำปี 2567 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,320,000 บาท  ให้บุคลากรได้แข่งขันเเละโชว์ทักษะความรู้ความสามารถทั้งส่วนงานขายและบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยอีซูซุได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี

    ทั้งนี้ภายในงานยังมีการร่วมแสดงความยินดีกับช่างอีซูซุซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันทักษะระดับนานาชาติ หรือ I-1 Grand-Prix ประเภทรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ หรือ CV Division ประจำปี 2024 ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศ จากผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งสิ้น 35 ประเทศ ได้แก่ คุณณัฐวุฒิ พลฤทธิ์  พนักงานช่างยนต์ รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ จากบริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด และ คุณณัฐพงศ์ วังเขียว  พนักงานช่างยนต์ รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ บริษัท ธาราลำพูนอีซูซุเซลส์ จำกัด

    มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า เพื่อการเติบโตภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพงานบริการทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าตลอดการใช้งานของรถอีซูซุ นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมด้านความรู้และทักษะที่เหมาะสมของบุคลากรยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของ           ผู้จำหน่าย เพื่อให้กลายเป็น “Trusted Buddy” ที่ลูกค้าสามารถพึ่งพาได้ทุกเมื่อ การแข่งขัน ทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมทุกท่านได้แสดงความรู้และทักษะ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการของอีซูซุให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น

    การแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ ประจำปี 2567 รอบชิงชนะเลิศนี้  ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงานแต่ละด้าน ประกอบด้วยการแข่งขัน 6 ประเภท สำหรับรอบชิงชนะเลิศนี้มีเจ้าหน้าที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 107 คน จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 617 คน

    ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดต้องผ่านการคัดเลือกทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติในรอบคัดเลือก และสำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้น  ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน แต่ละด้าน ซึ่งทุกด้านของการแข่งขันล้วนมีส่วนสำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพของการขายและการบริการหลัง   การขาย โดยมีคณาจารย์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำให้เกียรติร่วมเป็นกรรมการตัดสินในครั้งนี้ด้วย โดยผลการแข่งขันมีดังนี้

    • รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ได้แก่

    คุณณัฐพล พึ่งประชา  จาก บริษัท อีซูซุนครหลวง จำกัด

    • รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ได้แก่

    คุณมงคลชัย วงศ์มหาศิริกุล  จาก บริษัท อีซูซุนครหลวงมอเตอร์ จำกัด

    • รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ได้แก่

    คุณสุวัฒน์ จันทร  จาก บริษัท ชลบุรีอีซูซุเซลส์ จำกัด

    • รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ได้แก่

    คุณชัยวัฒน์ ศรีจันทร์  จาก บริษัท อึ้งง่วนไต๋อีซูซุเซลส์ จำกัด

    • รางวัลชนะเลิศ พนักงานมัลติฟังก์ชัน (ที่ปรึกษางานบริการและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์) ได้แก่ คุณธงชัย เย็นรักษา จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

    • รางวัลชนะเลิศ พนักงานอะไหล่ ได้แก่

    คุณมงคล พลฤทธิ์  จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

              “รู้สึกดีใจแบบบรรยายความรู้สึกไม่หมดจริง ๆ ครับ ก่อนแข่งรอบนี้ผมเตรียมตัวโดยการทบทวนความรู้ ทั้งความรู้เก่า และความรู้ใหม่ รวมถึงฝึกซ้อมที่ตัวรถจริงด้วย การแข่งเป็นการจำลอง แต่การทำงานคือการแก้ปัญหาจริง แค่การทำงานจริงจะไม่จำกัดเวลาเท่านั้นเอง ส่วนตัวมองว่าระหว่างการแข่งขันถ้าเราทำได้ในเวลาที่จำกัด การทำงานจริงก็จะถือว่าไม่ยากอีกต่อไป ผมจะเอาขั้นตอนและความรู้การแข่งขันตรงนี้ไปปรับใช้ และแนะนำน้อง ๆ ในทีมต่อไปคุณสุวัฒน์ จันทร รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ จาก บริษัท ชลบุรีอีซูซุเซลส์ จำกัด

              “การแข่งขันครั้งนี้ ทำให้เราได้ความรู้ รวมถึงเทคนิคในส่วนงานต่างๆมาประยุกต์ใช้ได้ดีมากเลยทีเดียวครับ อยากเชิญเพื่อน ๆ ที่มีความพร้อมเข้ารวมการแข่งขันเพื่อแสดงศักยภาพ และนำความรู้ไปต่อยอดครับ ผมหวังไว้เต็มร้อยว่าต้องได้รางวัลกลับไป และก็ได้จริง ๆ ครับ คุณธงชัย เย็นรักษา      รางวัชนะเลิศ พนักงานมัลติฟังก์ชัน (ที่ปรึกษางานบริการและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์) จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

                ผมเก็บประสบการณ์รวมครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วครับ และครั้งนี้ผมก็ทำได้สมความตั้งใจที่เตรียมตัวมาอย่างดี ประสบการณ์ที่สะสมมาจะนำไปส่งต่อให้ที่ปรึกษาการขายคนอื่น ๆ ต่อไป การแข่งขันคือการพัฒนาตัวเอง ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสก็อยากให้มาเข้าลองร่วมการแข่งขันดูครับคุณมงคลชัย วงศ์มหาศิริกุล        รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ จากบริษัท อีซูซุนครหลวงมอเตอร์ จำกัด กล่าวทิ้งท้าย

    ร่วมติดตามและอัพเดทข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดพิธีฉลองความสำเร็จ โครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชนไทยสู่ความยั่งยืน ผ่านองค์ความรู้ “วิถีชุมชนพัฒน์….TSI Way”

    1 Min Read

    โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดพิธีฉลองความสำเร็จ โครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชนไทยสู่ความยั่งยืน ผ่านองค์ความรู้ “วิถีชุมชนพัฒน์….TSI Way”

    ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นเกียรติภายในงานฉลองความสำเร็จ โครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชนไทยสู่ความยั่งยืน เมื่อวันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ Toyota ALIVE บางนา

    บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ริเริ่มโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จากการที่โตโยต้าเล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมุ่งหวังที่จะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหา ปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจชุมชนไทยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มพูนกำไร และดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

    ตลอดระยะเวลา 11 ปี ที่ผ่านมา โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจชุมชนในลักษณะของการเป็น “พี่เลี้ยงทางธุรกิจ” โดยการนำองค์ความรู้ “วิถีชุมชนพัฒน์ หรือ TSI Way” ผสมผสานร่วมกับแนวคิดภูมิปัญญาชุมชน ไปประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของธุรกิจชุมชนนั้นๆ และพัฒนาธุรกิจชุมชนให้มีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น

    เริ่มจากการเข้าไปศึกษาดูกระบวนการทำงานจริงของธุรกิจ (GENCHI GENBUTSU)  มองหาความสูญเปล่าในการดำเนินงานของธุรกิจ (MUDA) ปรึกษาหาแนวทางแก้ไขร่วมกันกับธุรกิจ พร้อมแนะนำวิธีการปรับปรุงพัฒนากระบวนการทำงานต่างๆ (KAIZEN) โดยใช้องค์ความรู้ด้านการผลิตของโตโยต้า (Just in Time, JIDOKA, Karakuri, etc.) ตลอดจนส่งเสริมการสร้างมาตรฐานเพื่อควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอ (STANDARDIZE)

    โดยมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจใน 5 ด้านหลัก ทั้งในด้านผลิตภาพ (Productivity) คุณภาพ (Quality) การส่งมอบสินค้าที่ตรงเวลา (Delivery) การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory) และต้นทุนในกระบวนการ (Work in process) ซึ่งมีส่วนช่วยให้การดำเนินงานของธุรกิจเหล่านี้ มีการพัฒนาและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และสร้างผลกำไร พร้อมทั้งมุ่งหวังให้ธุรกิจต่างๆ เหล่านี้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาและอยู่รอดได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน (JIRITSUKA)

    สำหรับความร่วมมือกันระหว่าง โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นการยกระดับการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็นไปได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมในทุกมิติของการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น ผ่านองค์ความรู้ด้านการผลิตที่เป็นจุดเด่นของโตโยต้า ในขณะที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมซึ่งมีศักยภาพในการให้ความสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการไทย เป็นส่วนที่มาช่วยเติมเต็มการพัฒนาในด้านอื่นๆที่ผู้ประกอบการไทยต้องการ อาทิ ทักษะการบริหารจัดการของผู้ประกอบการ การตลาด การเงินการบัญชี การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ระบบโลจิสติกส์ ตลอดจนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ

    ในปีที่ผ่านมา โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้เข้าไปช่วยปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจชุมชน รวมทั้งสิ้น 9 แห่ง ได้แก่

    • วิสาหกิจชุมชนแปรรูปข้าวและผลไม้น่าน จังหวัดน่าน
    • วิสาหกิจชุมชนหนองหลวงม่วงไข่แปรรูปพริก จังหวัดแพร่
    • วิสาหกิจชุมชนฮัซบีโรตีกรอบจิ๋ว จังหวัดสตูล
    • วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวเม่า จังหวัดบุรีรัมย์
    • วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแคปหมูอิ่มสุข จังหวัดอุดรธานี
    • วิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี จังหวัดราชบุรี
    • วิสาหกิจชุมชนแปรรูปมะม่วงสวนลุงบุญสมบ้านผารังหมี จังหวัดพิษณุโลก
    • วิสาหกิจชุมชนเพชรคีรีโฮมสเตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    • วันมอร์ไทยคราฟช็อกโกแลต จังหวัดนครศรีธรรมราช

    จนถึงปัจจุบัน โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจชุมชนไทยไปแล้วทั้งสิ้น 39 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และสร้างผลกำไร คิดเป็นมูลค่ารวมได้กว่า 320 ล้านบาท พร้อมทั้งได้มีการยกระดับธุรกิจชุมชนที่มีผลการปรับปรุงเป็นเลิศ สู่การเป็น “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

    สำหรับแนวทางการดำเนินงานของโครงการ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ต่อจากนี้ มีความมุ่งหวังที่จะยกระดับการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อช่วยปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจชุมชนไทยให้ครอบคลุมครบทั้ง 23 ประเภทของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในประเทศไทย จากที่ในปัจจุบันทางโครงการได้มีส่วนในการเข้าไปช่วยปรับปรุงแล้ว 9 ประเภทด้วยกัน โดยเชื่อมั่นว่า ภายใต้ความร่วมมือกันของโครงการโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยองค์ประกอบทางความรู้ต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาศักยภาพการขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองได้อย่างครบวงจร และช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • Post Image

    SKILL DRIVING EXPERIENCE อบรมขับขี่ปลอดภัยให้สมาชิก สมาคมผู้สื่อข่าวฯ ปี 2568

    1 Min Read

    SKILL DRIVING EXPERIENCE อบรมขับขี่ปลอดภัยให้สมาชิก สมาคมผู้สื่อข่าวฯ ปี 2568

    ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการโครงการ “ขับเป็น…ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล” สนับสนุนการอบรมขับขี่ปลอดภัย ให้สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ปี 2568 เพื่อเรียนรู้วิธีแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มทักษะการขับขี่ ให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ และอันตรายบนท้องถนน โดยครูฝึกมืออาชีพระดับแนวหน้าของเมืองไทย ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เมื่อวันที่ 15-16 มีนาคม 2568

    นอกจากนี้ ยังเปิดอบรมขับขี่ปลอดภัย หลักสูตรพื้นฐาน สำหรับบุคคลทั่วไปอีก 4 ครั้ง ในปี 2568 ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ skilldriving.imc.co.th หรือ facebook.com/SkillDriving


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • OR ได้รับ 3 รางวัลใหญ่ ในงาน LINE Thailand Awards 2024 ตอกย้ำความสำเร็จด้านการตลาดดิจิทัล

    1 Min Read

    OR ได้รับ 3 รางวัลใหญ่ ในงาน LINE Thailand Awards 2024 ตอกย้ำความสำเร็จด้านการตลาดดิจิทัล

    คุณนุชยา จันทรุเบกษา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร และ คุณวิไล บุญเจริญชัย ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และการตลาดคาเฟ่อเมซอน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เป็นตัวแทนเข้าร่วมงานประกาศผลรางวัล LINE Thailand Awards 2024 เวทีมอบรางวัลให้แก่แบรนด์ที่สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่โดดเด่นบนแพลตฟอร์ม LINE ตลอดปีที่ผ่านมา ณ ห้องนภาลัย แกรนด์บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการตลาดดิจิทัล ด้วยการได้รับ 3 รางวัลใหญ่ ได้แก่ Best Official Account จากบัญชี OR Happy Life ในกลุ่ม Automotive and Energy ที่สามารถเชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ด้วยคอนเทนต์และสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ครบจบในที่เดียว พร้อมได้รับรางวัล Best Sponsored Sticker ในกลุ่ม Food & Beverages จากแบรนด์ คาเฟ่ อเมซอน ในสติกเกอร์ชุด ZonZon in the Rain ที่ได้รับความนิยมและสร้างการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Best Sponsored Sticker ในกลุ่ม Automotive & Energy จากสติกเกอร์สุดฮิตจาก Godji ในชุด Fulfill your happiness with Godji ที่สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ LINE ได้เป็นอย่างมากจากยอดดาวน์โหลดกว่า 1,100,000 ครั้ง

     

    งาน LINE Thailand Awards 2024 จัดโดย บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเชิดชูความสำเร็จของแบรนด์ที่ใช้ LINE เป็นช่องทางการตลาดได้อย่างสร้างสรรค์ และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการพิจารณามอบรางวัลจากหลากหลายหมวดหมู่ เช่น LINE Official Account, Sponsored Sticker, LINE Display Ads และ LINE Ads รวมทั้งสิ้น 40 รางวัล จากผู้สร้างสรรค์ผลงานการตลาดดิจิทัลยอดเยี่ยม 6 รางวัล และรางวัลผู้ใช้งาน LINE Solutions ได้อย่างยอดเยี่ยมใน 9 กลุ่มอุตสาหกรรม ครอบคลุมทุกประเภทธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งจากการได้รับรางวัลในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ OR ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการสื่อสารที่เข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัล พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์แคมเปญที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง

    คุณนุชยา เปิดเผยว่า LINE Official Account เป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงและได้รับการตอบสนองอย่างดีจากลูกค้า โดยมีการเติบโตของจำนวนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน LINE Official Account ของ OR มีสมาชิกมากกว่า 15 ล้านคน ซึ่งช่วยให้สามารถสื่อสารกับแบรนด์ต่าง ๆ ภายใต้การดำเนินธุรกิจของ OR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังรองรับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต การใช้ LINE Solution และการประยุกต์เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร จะช่วยให้ OR สามารถผลักดันกลยุทธ์และแคมเปญต่าง ๆ ไปสู่กลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ซึ่ง OR ให้ความสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงช่องทางการสื่อสารผ่าน LINE Official Account เพื่อให้สามารถเข้าถึงสมาชิกทุกคนและครองใจผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่โดยติดตามข่าวสารและโปรโมชัน OR และผลิตภัณฑ์ในเครือได้ที่ Line Official: @ORHappyLife https://page.line.me/orhappylife


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • GEELY RIDDARA เตรียมแนะนำ RIDDARA RD6 รุ่นใหม่ วิ่งไกล 503 กิโลเมตร ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025

    1 Min Read

    GEELY RIDDARA เตรียมแนะนำ RIDDARA RD6 รุ่นใหม่ วิ่งไกล 503 กิโลเมตร ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์  2025

    GEELY RIDDARA เชิญทุกท่านมาสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ผสานความสะดวกสบายระดับ SUV ตอบโจทย์ทุกการใข้งานแบบรถกระบะได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00 – 22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 11.00 – 22.00 น.

    โดยภายในงาน GEELY RIDDARA ได้เตรียมเปิดตัวรถกระบะพลังงานไฟฟ้า RIDDARA RD6 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 86kWh ซึ่งให้ระยะทางในการขับขี่ที่สูงถึง  503  กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ระยะทางไกลได้มากขึ้นและยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายระดับ SUV พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันของรถกระบะ พร้อมการันตีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป ทำให้ผู้ใช้งานรถกระบะในประเทศไทยได้รับทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้จะเปิดตัวหลังคาซันรูฟ (Sunroof) เป็นตัวเลือกพิเศษ สำหรับ RIDDARA RD6 รุ่น 86kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบเอาท์ดอร์ได้อย่างลงตัว โดยจะเปิดเผยราคารถรุ่นใหม่พร้อมกันภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์นี้

    สำหรับผู้ที่สนใจสามารถชมและทดลองขับ RIDDARA RD6 ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี หรือ ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า RIDDARA Call Center  ที่หมายเลข 02-039-5777

    ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ RIDDARA ได้ที่

    Website : http://th.riddara.com/
    Facebook : Riddara Thailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine

    No Comment
  • 70mai เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ 4K Omni รุ่นใหม่ล่าสุด ยกระดับเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ด้วยมุมมอง 360 องศา ผสานความคมชัดระดับ 4K

    1 Min Read

    70mai เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ 4K Omni รุ่นใหม่ล่าสุด ยกระดับเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ด้วยมุมมอง 360 องศา ผสานความคมชัดระดับ 4K

    70mai ผู้นำด้านนวัตกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับยานยนต์ เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุด 4K Omni อย่างเป็นทางการ โดยผลิตภัณฑ์นี้ได้ผสานความคมชัดระดับ 4K ที่สมบูรณ์แบบเข้ากับเทคโนโลยีกล้องหมุนเก็บภาพได้ 360 องศาแบบไร้ขีดจำกัด เพื่อมอบประสบการณ์ความปลอดภัยและการขับขี่เหนือระดับให้กับผู้ขับขี่ การออกแบบที่ทันสมัยและฟังก์ชันอัจฉริยะของ 4K Omni ไม่เพียงยกระดับการเก็บบันทึกข้อมูลการขับขี่ให้แม่นยำขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ของความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับการเดินทางทุกเส้นทาง

    กล้องหมุนเก็บภาพได้ 360 องศา มุมมองใหม่ที่เหนือกว่าใคร

    การขับขี่ปลอดภัยในทุกวันนี้ ต้องมองเห็นให้ครบทุกมุมมอง 4K Omni มาพร้อมนวัตกรรมมอเตอร์หมุนเก็บภาพได้ 360 องศารุ่นล่าสุด ที่ทำงานอย่างชาญฉลาด เมื่อสตาร์ทรถกล้องจะทำการสแกนสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างอัตโนมัติด้วยการปรับเลนส์แบบไดนามิก ไม่ว่าจะเป็นในลานจอดรถที่แออัดหรือถนนในเมืองที่พลุกพล่าน ระบบจะตรวจจับและบันทึกทุกรายละเอียดอย่างครบถ้วนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีจุดบอดหลงเหลือ ทำให้ผู้ขับขี่คลายกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นรอบตัว

     

    ยกระดับเทคโนโลยีการถ่ายภาพด้วยความคมชัดระดับ 4K ที่เหนือชั้น

    กล้องหน้าของ 4K Omni ติดตั้งเซนเซอร์ IMX678 ล่าสุดจาก Sony ขนาด 1/1.8 นิ้ว ที่ให้ภาพคุณภาพสูงแม้ในสภาพแสงน้อย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน นอกจากนี้ 4K Omni ยังใช้เทคโนโลยีการจับภาพแบบไดนามิก 60FPS เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพ 4K ที่สมบูรณ์แบบ โดยโหมดช่องสัญญาณเดียวรองรับถึง 60FPS และโหมดช่องสัญญาณคู่รองรับ 4K 30FPS ให้ประสิทธิภาพคมชัดสูงสุดระดับ 4K (3840×2160) พร้อมบันทึกภาพที่คมชัดเหนือระดับ

    เพื่อรับมือกับสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงและซับซ้อนในขณะขับขี่ 70mai จึงพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพหลักสามรูปแบบ ได้แก่ เทคโนโลยี 70mai Night Owl Vision™ โซลูชัน 70mai MaiColor Vivid+ (MVS) และเทคโนโลยี 70mai Lumi Vision

    เทคโนโลยี 70mai Night Owl Vision™ ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนคมชัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยการลดสัญญาณรบกวน ปรับสมดุลแสง และควบคุมแสงสะท้อนได้อย่างแม่นยำ แม้แต่ป้ายทะเบียนรถในระยะไกลก็สามารถอ่านได้ชัดเจนในความมืด

    เทคโนโลยีภาพ 70mai MaiColor Vivid+™ ผสานกับเทคโนโลยี 70mai Night Owl Vision™ ทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาพแสง ปรับสมดุลการเปิดรับแสง เพิ่มความแม่นยำของสี และรักษาความเสถียรของภาพ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนของแสงสูง ทำให้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุดทั้งกลางวันและกลางคืน

    เทคโนโลยี 70mai Lumi Vision* ยกระดับการถ่ายภาพกลางคืนสู่มาตรฐานใหม่ ด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมรอบรถได้อย่างชัดเจนแม้ในความมืดเกือบสนิท เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและความปลอดภัยของรถยนต์ในขณะจอด

    การมอนิเตอร์ขณะจอดรถ นิยามใหม่ของการมอนิเตอร์ระดับไฮเอนด์

    4K Omni มาพร้อมฟังก์ชันการตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วย AI รุ่น 2.0 ที่ทรงพลังกว่าเดิม ผสานกับ Hall Sensor คุณภาพสูง สามารถระบุและติดตามวัตถุที่น่าสงสัยได้อย่างแม่นยำ เมื่อตรวจพบความผิดปกติ ระบบจะเริ่มบันทึกภาพ 30 วินาทีโดยอัตโนมัติ ปกป้องรถได้อย่างทั่วถึงแม้ในขณะที่ไม่มีคนดูแล อีกทั้งG-Sensor ที่ฝังอยู่ใน 4K Omni สามารถเปิดใช้งานการตรวจจับการชนแบบอัตโนมัติ โดยกล้องทั้งหน้าและหลังจะทำการบันทึกภาพแบบเรียลไทม์ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ ทำให้ทุกวินาทีของการจอดรถอยู่ภายใต้การดูแลอย่างปลอดภัย

    แบตเตอรี่ของ 4K Omni ได้รับการยกระดับด้วยซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ประสิทธิภาพสูง ที่ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในอุณหภูมิที่แปรปรวนตั้งแต่ -40 ถึง 85 องศาเซลเซียส เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาพอากาศ พร้อมระบบตรวจสอบแรงดันแบตเตอรี่อัจฉริยะที่จัดการพลังงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมระบบป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดด้วยระดับการป้องกันแรงดันไฟที่ปรับได้ถึง 9 ระดับ และระบบปิดเครื่องอัตโนมัติที่แรงดันไฟต่ำเพื่อปกป้องแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ (หมายเหตุ: ฟังก์ชันนี้จำเป็นต้องใช้ชุด hardwire kit 4G ของ70mai)

    เมื่อติดตั้งชุด hardwire kit 4G และฟังก์ชันการมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์จะถูกเปิดใช้งานพร้อมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้สามารถดูภาพมอนิเตอร์รถยนต์แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา ตรวจสอบสถานการณ์หน้ารถ ถ่ายภาพ หรือบันทึกวิดีโอได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส แม้ในที่จอดรถที่แออัด ระบบ GPS สามารถระบุตำแหน่งที่จอดและนำทางไปยังรถโดยใช้แอปพลิเคชันได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดการชนหรือมีเหตุการณ์ที่น่าสงสัย ระบบจะส่งการแจ้งเตือนทันทีไปยังยังโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถตรวจสอบรถได้แม้อยู่ห่างไกล นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้ฟังก์ชันเตือนเมื่อมีคนอื่นขับรถ โดย GPS จะอัปเดตตำแหน่งแบบเรียลไทม์ทุก 15 วินาที ซึ่งสามารถใช้งานได้สูงสุด 15 ครั้งต่อเดือน

     

    การปกป้องอัจฉริยะ ยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่แบบครบวงจร

    ระบบ GPS ความแม่นยำสูงที่ติดตั้งใน 4K Omni สามารถบันทึกความเร็ว เวลา และพิกัดได้อย่างละเอียด พร้อมจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้อย่างเป็นระบบเพื่อตรวจสอบในแอป 70mai ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานการเดินทางและวางแผนเส้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ระบบ ADAS เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ทำงานเสมือนผู้ช่วยคนขับที่ไม่เคยหลับใหล คอยเตือนล่วงหน้าเมื่อมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการออกนอกเลน การชนด้านหน้า การสตาร์ทของรถคันหน้า รวมถึงการตรวจจับคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยาน เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในทุกการเดินทาง

    สำหรับสภาพแสงที่ซับซ้อน เช่น แสงแดดจ้าส่องตรงกระจกหน้ารถ ทำให้ป้ายทะเบียนหรืออักษรที่ขอบถนนมีการเปิดรับแสงมากเกินไป 4K Omni ยังมีฟิลเตอร์ CPL ให้เลือกใช้ ซึ่งเป็นฟิลเตอร์แบบโพลาไรซ์ที่ช่วยให้สีของภาพมีความอิ่มตัวและรักษาความคมชัดที่เหมาะสม ลดแสงสะท้อนที่รบกวนสายตา ป้องกันไม่ให้หน้าจอมีการเปิดรับแสงมากเกินไปจนพลาดช่วงเวลาสำคัญของการบันทึกภาพ

    70mai 4K Omni สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการกล้องติดรถยนต์ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและฟังก์ชันที่ครบครัน ด้วยความคมชัดระดับ 4K ที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีกล้องหมุนเก็บภาพได้ 360 องศา 4K Omni ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในขณะขับขี่เท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบและสะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุกเส้นทาง 70mai มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาอุตสาหกรรม และช่วยให้เจ้าของรถทุกคนได้สัมผัสกับการขับขี่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

    ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับผลิตภัณฑ์ที่จะปฏิวัติวงการ และร่วมกันเปิดนิยามใหม่ของการขับขี่ที่ปลอดภัย พาคุณก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความมั่นใจบนท้องถนนไปด้วยกันกับเรา!

    70mai มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำนวัตกรรมอัจฉริยะที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น กล้องติดรถยนต์ รุ่น 4k Omni ซึ่งจะวางจำหน่ายบน Shopee ราคาเริ่มต้น 8,999 บาท จัดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม เป็นต้น (พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 20 มีนาคม ถึง 4 เมษายน จะได้รับคูปองส่วนลดสูงสุด 360 บาท พร้อมรับฟิลเตอร์ CPL มูลค่า 699 บาท มีจำนวนจำกัด!)


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment