• EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้าอวดโฉมเป็นครั้งแรกในงาน Monterey Car Week

    1 Min Read

     EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้าอวดโฉมเป็นครั้งแรกในงาน Monterey Car Week

    เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยภาพ EXP 15 ยนตรกรรมต้นแบบพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่สะท้อนวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบแห่งอนาคตของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์ในการเปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก ณ งาน Monterey Car Week โดยรถยนต์ต้นแบบแม้จะไม่ได้รับการผลิตเพื่อใช้งานจริง แต่สุดยอดยนตรกรรมอันล้ำสมัยรุ่นนี้ก็ได้มอบแรงบันดาลใจในการออกแบบรถยนต์เบนท์ลีย์ในอนาคตที่รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้

    EXP 15 มาพร้อมกับกระจังหน้าแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ และฝากระโปรงหน้าที่ทอดยาวไปตลอดแนวตัวถังจนถึงห้องโดยสารส่วนหลังเพื่อเป็นการยกย่องรถยนต์คลาสสิกรุ่น Speed ​​Six ปี 1930 อันโด่งดังที่ถูกขนานนามว่า “Blue Train” และเฉกเช่นเดียวกับรุ่น Speed ​​Six ในตำนานเมื่อ 95 ปีก่อน EXP 15 มาในรูปแบบ 3 ที่นั่งเพื่อส่งมอบความหรูหราในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร พร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระภายในห้องโดยสารอันล้ำสมัยสำหรับทั้งสัตว์เลี้ยงแสนรักและกระเป๋าถือส่วนตัว

    แนวคิดการออกแบบ EXP 15 นำเสนอหลักการออกแบบภายนอก 5 ประการที่จะมีบทบาทต่อรถยนต์เบนท์ลีย์ในอนาคต อันได้แก่ Upright Elegance ที่นิยามรูปลักษณ์ของซุ้มล้อหน้า Iconic Grille ที่ตีความกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบของรถยนต์เบนท์ลีย์ในยุคพลังงานไฟฟ้า Endless Bonnet Line ที่สะท้อนมรดกแห่งดีไซน์อันโดดเด่นของแบรนด์ Resting Beast ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง และ Prestigious Shield ที่นำเสนอผ่านแผงด้านหลังที่ล้อมกรอบตราสัญลักษณ์ Winged B โฉมใหม่ โดยหลักการเหล่านี้ได้นิยามรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานของแกรนด์ทัวเรอร์ที่หรูหราและยั่งยืนในแบบฉบับของรถยนต์เบนท์ลีย์

    Robin Page ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ กล่าวว่า “ผู้เข้าชมงาน Monterey Car Week มีทั้งนักสะสม ผู้ที่ชื่นชอบ และผู้หลงใหลในแบรนด์รถยนต์ระดับโลกที่มีรสนิยม ซึ่งหลายคนเป็นเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์อยู่แล้ว EXP 15 จึงถือเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของเรา และเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นรถยนต์ต้นแบบนี้เปล่งประกายท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นในแคลิฟอร์เนีย ความเห็นที่ได้รับจากผู้เข้าชมงานจะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดทิศทางการออกแบบของแบรนด์เพื่อการพัฒนารถยนต์เบนท์ลีย์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในอนาคต

    การเผยโฉมของ EXP 15 ในงาน Monterey Car Week เปิดโอกาสให้ได้เก็บภาพความงามของชายฝั่งริมถนน 17 ไมล์ไดรฟ์ ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของงานนี้  นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงรถยนต์คลาสสิกรุ่น Speed ​​Six ‘Blue Train’ ปี 1930 ที่จอดเคียงคู่ EXP 15 โดยยนตรกรรมทั้งสองรุ่นเดินทางมาจากโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ สถานที่ที่ EXP 15 ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

    สำหรับยนตรกรรมต้นแบบ EXP 15 ได้ถูกนำกลับมาที่โรงงานเมืองครูว์อีกครั้งเพื่อส่งต่อ DNA การออกแบบรถยนต์เบนท์ลีย์ในอนาคต ซึ่งขณะนี้ โครงการกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ณ Design Studio แห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ

    สำหรับผู้ที่สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์ยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองเวลาทดลองขับได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทรอัมพ์ Bonneville T100 รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกเหนือกาลเวลา พร้อมคัสตอมให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร

    1 Min Read

    ไทรอัมพ์ Bonneville T100 รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกเหนือกาลเวลา พร้อมคัสตอมให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร

     

    เมื่อความคลาสสิกคือความเท่ที่ไม่เคยตกยุค… Triumph Bonneville T100 คือหนึ่งในตัวเลือกที่เหล่าไบค์เกอร์สายโมเดิร์นคลาสสิกให้การยอมรับว่า “ครบเครื่อง” ที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์ระดับตำนาน สมรรถนะที่พร้อมพาไปได้ทุกเส้นทาง หรือความยืดหยุ่นในการคัสตอมที่เปิดให้เจ้าของได้ปลดปล่อยตัวตนอย่างอิสระ เพื่อบ่งบอกสไตล์ที่ชัดเจนของตัวเองผ่านการเติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ ใส่ลงไปบนตัวรถ ที่สร้างความแตกต่างให้กับสองล้อคู่ใจที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะนำทาง แต่ยังเป็นตัวแทนและภาพลักษณ์การสื่อสารเรื่องราวและความชอบส่วนบุคคลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

     

    Bonneville T100 คือรถจักรยานยนต์สายพันธุ์แท้ของไทรอัมพ์ ผสมผสานพลังเครื่องยนต์ 900cc สูบคู่ที่แรงแต่ควบคุมง่าย กับดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา เสียงเครื่องยนต์มีเอกลักษณ์แบบอังกฤษ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ขี่ง่าย น้ำหนักเบา เหมาะทั้งมือใหม่และนักขี่ทุกระดับและถือเป็นอีกรุ่นรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกของไทรอัมพ์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่าย และได้รับความนิยมนำไปคัสตอม เพราะมีรูปลักษณ์ดีไซน์คลาสสิกที่ดึงดูดใจ มาพร้อมโครงสร้างตามหลักสรีรศาสตร์ มอบความคล่องตัวทำให้ควบคุมการขับขี่ได้ง่าย 

     

    เมื่อไม่นานมานี้ รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ Bonneville T100 ยังสร้างไวรัลให้กับวงการรถจักรยานยนต์คลาสสิกจากการคัสตอมโดยฝีมือคนไทย “คุณหมูหยอง” จากสำนัก The Zeus Custom หนึ่งในสำนักแต่งรถชั้นนำของไทย ภายใต้ผลงานที่มีชื่อว่า Art of Motorcycle ซึ่งถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบ ZEUS ได้อย่างโดดเด่น ขณะเดียวกันยังคงรักษาเสน่ห์ของ Bonneville และดีเอ็นเอความคลาสสิกของไทรอัมพ์ไว้อย่างครบถ้วน จนสามารถคว้าตำแหน่ง 1 ใน 5 ทีมสุดท้ายจากทั่วโลก ในการแข่งขัน Triumph Originals 2025

     

    มาถึงตรงนี้ คงจะยืนยันได้แล้วว่า Bonneville T100 สะท้อนความเป็นไทรอัมพ์ ได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านดีไซน์ดั้งเดิมแบบอังกฤษ เครื่องยนต์ทรงพลัง เทคโนโลยีสมัยใหม่ และสมรรถนะที่ไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเลือกขี่แบบเดิมจากโรงงาน หรือจะนำไปคัสตอมตามสไตล์ผู้ขี่ก็สามารถทำได้ตามใจ โดยในปี 2025 ล่าสุด ไทรอัมพ์ได้เปิดตัว Bonneville T100 Icon Edition เอาใจคนที่ชื่นชอบความคลาสสิกแบบ DNA อังกฤษขนานแท้ ที่มาในธีมสี Aluminium Silver & Sapphire Black สุดเนี้ยบ ซึ่งมีจิตวิญญาณของความคลาสสิกแบบสัญชาติอังกฤษอย่างครบถ้วน เสริมด้วยความโมเดิร์น งานพื้นผิวสี Aluminium Silver ได้รับการเสริมให้โดดเด่นขึ้นด้วยการเน้นของสี Sapphire Black บนตัวถังและแผงด้านข้าง ที่สื่อถึงความคลาสสิกเหนือกาลเวลา พร้อมดีเทลเส้นขอบวาดด้วยมือพร้อมโลโก้ Triumph ระดับตำนานในปี 1907 สีทอง ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา

     

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงทดลองขี่รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ Bonneville T100 ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตลอดจนติดตามข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ www.triumphmotorcycles.co.th และ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” บุกแซงเดือด ศึกดาวรุ่ง จูเนียร์จีพี เวิลด์ ชิงแชมป์โลกที่ มิซาโน ประเทศอิตาลี

    1 Min Read

    “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” บุกแซงเดือด ศึกดาวรุ่ง จูเนียร์จีพี เวิลด์ ชิงแชมป์โลกที่ มิซาโน ประเทศอิตาลี

    “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ หมายเลข 85 ยอดนักบิดดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงแข่งขันเก็บประสบการณ์สนามระดับโลกในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกรายการเอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 สนาม 5 ที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี ประเทศอิตาลี

    เกมการแข่งขันในเรซแรกมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ออกสตาร์ตด้วยอันดับ 32 และสามารถพิสูจน์ความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะต้องพบกับสถานการณ์ธงแดงจนต้องลดจำนวนรอบการแข่งขัน โดยนักบิดดาวรุ่งไทยสามารถยกระดับความเร็วจนสามารถเข้าเส้นชัยจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 19

    จากนั้นตามต่อด้วยการแข่งขันเรซ 2 ในช่วงบ่าย “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” ต่อสู้อย่างยอดเยี่ยม ขับเคี่ยวแย่งชิงอันดับกับนักบิดระดับดาวรุ่งของโลกอย่างเข้มข้นจนมีลุ้นเก็บคะแนนสะสม ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 18 เก็บประสบการณ์ในสนามแข่งขันระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

    “ไม้คิว-เกียรติศักดิ์” เก็บคะแนนสะสม รายการเอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2025 ได้ทั้งสิ้น 7 คะแนน และเหลือการแข่งขันอีก 2 สนาม โดยสนามต่อไปจะทำการแข่งขันที่ เซอร์กิต เด บาร์เซโลนา-กาตาลุญญา ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน นี้

     

    แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ : Honda Racing Thailand

     

    #HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #RoadToMotoGP #TheNextSuccessor #RookiesCup #Maikiw #Maikiw85 #KS85


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR ชวนเด็กๆ อบรมฟรี! ที่ฟิวเจอร์ พาร์ค และสเปลล์

    1 Min Read

    SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR ชวนเด็กๆ อบรมฟรี! ที่ฟิวเจอร์ พาร์ค และสเปลล์

    กิจกรรม “โตไป…ขับเป็น”  SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR ส่วนหนึ่งของโครงการ “ขับเป็น…ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล” ร่วมสร้างพื้นฐานให้เด็กๆ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ช่วงปิดภาคเรียน เรียนรู้กฎจราจร ฝึกขับขี่บนถนนจำลองที่ปลอดภัย และรับใบขับขี่จำลองเป็นที่ระลึก

    โดยกิจกรรม แบ่งเป็นภาคทฤษฎี โดยมีวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจรมาให้ความรู้ ส่วนภาคปฏิบัติน้องๆ จะได้ฝึกขับขี่รถบังคับขนาดเล็กในสนามจำลอง เพื่อเรียนรู้เครื่องหมายจราจร ปลูกฝังการขับขี่ปลอดภัยขั้นพื้นฐาน และช่วยลดอุบัติเหตุได้ในอนาคต

    ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานของท่านที่มีอายุ 3-8 ปี ความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ไปเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี ที่ลาน Zpotlight ฟิวเจอร์ พาร์ค และ สเปลล์ ชั้น G ระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม 2568 และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/skilldriving


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ฮอนด้า อัปเดตไฮไลต์โมเดลที่ “The M.O.V.E. by Honda” ยกอนาคตมาให้สัมผัส ณ Experience Center

    2 Min Read

    ฮอนด้า อัปเดตไฮไลต์โมเดลที่ “The M.O.V.E. by Honda” ยกอนาคตมาให้สัมผัส ณ Experience Center นำโดย Honda Prelude (Prototype) สปอร์ตคูเป้ในตำนาน พร้อมด้วย Super EV Concept และ New Honda CUV e:

    หลังจากที่บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วยบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัว The M.O.V.E. by Honda” ศูนย์สร้างประสบการณ์เสมือนจริงแห่งแรกของแบรนด์ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างยิ่งใหญ่ ล่าสุด ฮอนด้า ได้ยกระดับความน่าสนใจของงานขึ้นอีกขั้น ด้วยการอัปเดตไฮไลต์นวัตกรรมใหม่ นำโดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด New Honda CUV e: พร้อมด้วยรถยนต์ต้นแบบ Super EV (Concept) และ Honda Prelude (Prototype)
    ที่นำมาจัดแสดงให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ณ EM GLASS ชั้น G ศูนย์การค้า EMSPHERE

    การอัปเดตโมเดลเพื่อจัดแสดงภายในศูนย์ฯ สะท้อนการต่อยอดนวัตกรรมล้ำสมัย ภายใต้แนวคิดหลัก Sense
    the Synergy’
    ที่มุ่งให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางแห่งอนาคต ผ่านทั้ง 5 ประสาทสัมผัสในโซน
    มัลติเซนซอรี ซึ่งผสานกับนวัตกรรมล้ำสมัยเข้ากับอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างกลมกลืน

    ไฮไลต์การอัปเดต ได้แก่

    โซน Future Ride

    ชวนสัมผัสเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้า กับ New Honda CUV e:

    สำหรับ New Honda CUV e: มาพร้อมแบตเตอรี่แบบสลับได้ Honda Mobile Power Pack e: จำนวน 2 ลูก
    ที่รองรับการขับขี่ได้ไกลกว่า 70 กิโลเมตรต่อการชาร์จ พร้อมเปลี่ยนแบตได้รวดเร็วใน 1 นาที ขับขี่ได้หลากหลายโหมด ทั้ง ECON, Normal และ Sport เสริมด้วยระบบ Reverse Assist ช่วยถอยหลังในพื้นที่แคบ และระบบเบรก CBS เพิ่มความมั่นใจ มาพร้อมหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว (รุ่น Standard) หรือ 7 นิ้ว (รุ่น Connectivity) ที่รองรับ
    การเชื่อมต่อผ่าน Honda RoadSync Duo เพื่อนำทาง รับสาย ฟังเพลง และค้นหาสถานีแบตเตอรี่ใกล้ตัว ทั้งยัง
    โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ไฟหน้า-ท้าย LED ครบครันทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบโจทย์
    การใช้ชีวิตคนเมืองยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

    โซน Future Drive

    พบกับ 2 โมเดลสุดล้ำที่ยกมาให้สัมผัสครั้งแรกในไทย! นำโดย Honda Prelude (Prototype) สปอร์ตคูเป้
    ในตำนานที่หวนกลับมาอีกครั้ง และ Super EV (Concept) รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบขนาดเล็ก

    บรรยายภาพ: Honda Prelude (Prototype) สีดำคริสตัล (มุก)

    • Honda Prelude (Prototype) สปอร์ตคูเป้ระดับตำนานของฮอนด้า ที่เคยสร้างชื่อจากดีไซน์ล้ำยุคและเทคโนโลยีล้ำสมัย กลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชันที่ 6 พร้อมบทบาทใหม่ในฐานะ “สัญลักษณ์แห่งอนาคต” ที่หลอมรวมกลิ่นอายแห่งความทรงจำทางอารมณ์ เข้ากับวิสัยทัศน์ของฮอนด้าในการขับเคลื่อนสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง
      เต็มตัว โดยก่อนหน้านี้ Prelude (Prototype) ได้เผยโฉมในอีเวนต์ทั่วโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงาน Goodwood Festival of Speed 2025 ที่ประเทศอังกฤษ และงาน GIIAS 2025 (Gaikindo Indonesia Auto Show)
      ที่อินโดนีเซีย ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา

    โดย Honda Prelude เจเนอเรชันที่ 6 มาพร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ได้รับการพัฒนาให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้รถรุ่นนี้เปรียบเสมือน ‘บทนำ (prelude)’ ในการปูทางสู่การพัฒนารถสปอร์ตของฮอนด้า ในยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในอนาคต

    โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู ตัวถังเตี้ยและเฉียบคม เส้นสายเรียบเนียนแต่แฝงความโดดเด่น มาพร้อมมือจับประตูแบบฝังเรียบ และหลังคาที่ดูคลีนด้วยเทคโนโลยี Laser Blazing ที่ช่วยลดรอยต่อระหว่างหลังคาและตัวถัง กระจังหน้ามินิมอลด้วยเส้นสายแนวนอน เสริมด้วยเส้นสายด้านข้างที่ให้ภาพลักษณ์เฉียบคม
    เปี่ยมพลัง พร้อมด้วยอีกหนึ่งไฮไลต์ คือ เทคโนโลยีใหม่ S+ Shift ในระบบ e:HEV ที่สามารถจำลองการเปลี่ยนเกียร์ได้ถึง 8 สปีดผ่านแป้นแพดเดิลหลังพวงมาลัย มอบการตอบสนองที่ฉับไว และการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างแท้จริง พร้อมด้วยระบบ Active Sound Control ที่ช่วยเพิ่มอารมณ์ความเร้าใจในการขับขี่ สะท้อนถึงความตั้งใจของฮอนด้า ในการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานให้กับผู้หลงใหลในรถสปอร์ต

    บรรยายภาพ: รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Honda Super EV (Concept)

    • Honda Super EV (Concept) รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบขนาดเล็กในกลุ่ม A เซกเมนต์ เผยโฉมครั้งแรกในโลก พร้อมทดสอบวิ่งจริงที่งาน Goodwood Festival of Speed 2025 ณ ประเทศอังกฤษ ตามด้วยการจัดแสดงที่งาน GIIAS 2025 ที่อินโดนีเซีย โดยรถรุ่นนี้ ออกแบบเพื่อสะท้อนความสนุกในการขับขี่ตามแบบฉบับฮอนด้า
      ด้วยตัวถังกะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่ห้องโดยสารกว้างขวางตามปรัชญา “Man Maximum, Machine Minimum” มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัว ฉับไว และเปี่ยมด้วยความสนุก

    และอีกหนึ่งไฮไลต์คือ โซน Simulator Game ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินไปกับเกมจำลองการขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ สัมผัสประสบการณ์หลังแฮนด์บนต้นแบบ EV ที่ถูกออกแบบภายใต้คอนเซปต์เหนือระดับ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต พร้อมระบบอินเตอร์แอคทีฟที่ถ่ายทอดความรู้สึกนักบิดได้สมจริงราวกับอยู่บนท้องถนนจริง ที่จำลองประสบการณ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

    พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดแสดงโซนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โซนทางเข้าที่ถ่ายทอดปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ‘Dream Sphere’ ที่นำเสนอประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณแห่งความท้าทายของฮอนด้า ผ่านการแสดงผล 360 องศา ‘Future Mobility’ ที่พาผู้ชมสัมผัสโลกการเดินทางไร้รอยต่อผ่านระบบนิเวศใหม่ และ ‘Future Drive’ ที่ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ในการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับโลกแห่งการเดินทาง ก่อนจะปิดท้ายด้วย The M.O.V.E Café ที่ผสมผสานการเดินทางเข้ากับประสบการณ์ครบทั้ง 5 ประสาทสัมผัสได้อย่างสมบูรณ์แบบ

     

    สำหรับท่านใดที่สนใจเข้าชมและร่วมสัมผัสประสบการณ์ล้ำสมัยกับงาน “The M.O.V.E. by Honda” Immersive Experience Center แห่งแรกในไทย สามารถเข้าชมได้ฟรีทุกวัน! ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2569 เวลา 10:00 – 22:00 น. ณ EM GLASS ชั้น G ศูนย์การค้า EMSPHERE

    ชื่อกิจกรรม: The M.O.V.E. by Honda

    สถานที่: EM GLASS ชั้น G ศูนย์การค้า EMSPHERE

    628 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

    วันเปิดให้เข้าชม: ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2569

    เวลาเปิดให้เข้าชม: ทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น

    ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี

    LINE Official Account: @TheM.O.V.E.byHonda

    Google map: https://bit.ly/41tRKOz

    จัดโดย: บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด

    ​#TheMOVEbyHonda #ExperienceWhatsNext #Honda #HondaThailand #EV #ThePowerOfDreams #HowWeMoveYou #SenseTheSynergy #HondaMotorcycleThailand #ThaiHonda


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • GWM (Thailand) ส่งออก 3 ปี โตต่อเนื่อง ยอดสะสมคาดทะลุ 5,000 คันสิ้นปี 68 นำโดย ORA และ TANK

    1 Min Read

    GWM (Thailand) ส่งออก 3 ปี โตต่อเนื่อง ยอดสะสมคาดทะลุ 5,000 คันสิ้นปี 68 นำโดย ORA และ TANK 

    GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” GWM (Thailand) สร้างสถิติการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่องทั่วโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2566–2568)  จากไม่กี่ร้อยคันในปีแรก สู่คาดการณ์เกิน 3,000 คัน ในปี 2025 ดันยอดสะสมทั้งปีทะลุ 5,000 คัน โดยมีแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอาเซียน ลาตินอเมริกาและคาริบเบียน ออสเตรเลีย และแอฟริกา นำโดยรถยนต์ 2 กลุ่มพลังงานทั้ง BEV และ HEV จาก GWM ORA และ GWM TANK ร่วมผลักดันการเติบโตนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่มีต่อรถยนต์คุณภาพของ GWM นอกจากนี้ ยอดการส่งออกของ GWM (Thailand) ในกลุ่มประเทศอาเซียน ยังคงรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย เป็น 3 ตลาดสำคัญในภูมิภาค ทั้งหมดนี้ สะท้อนศักยภาพของการเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกของโรงงานอัจฉริยะ GWM Smart Factory จังหวัดระยอง ที่มีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 80,000 คันต่อปี

    เพียง 3 ปี GWM (Thailand) ก้าวกระโดดสู่ Global Export Hub

    GWM (Thailand) ยกระดับมาตรฐานการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เริ่มปักธงปี 2566 ด้วยการส่งออก GWM HAVAL H6 HEV และ GWM HAVAL Jolion HEV ไปยังเวียดนามและอินโดนีเซีย ก่อนขยายพอร์ตในปี 2567 ด้วยการเสริมทัพตระกูล GWM TANK อย่าง GWM TANK 300 HEV และ GWM TANK 500 HEV บุกตลาดอินโดนีเซีย ปี 2568 ขยายสู่ 9 ตลาดใหม่ในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ มาเลเซีย ออสเตรเลีย ภูฏาน มอริเชียส บราซิล แอนติกา จาเมกา เซนต์ลูเซีย และบาร์เบโดส ทำให้ยอดส่งออกในปีนี้มากกว่า 3,000 คันแล้ว โดยนับตั้งแต่เริ่มสายการผลิตเพื่อส่งออกในปี 2566 โรงงานอัจฉริยะ GWM Smart Factory ที่จังหวัดระยองได้ส่งออกรถยนต์เกือบ 4,000 คัน (ตัวเลข ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568) และคาดว่าจะเกิน 5,000 คันภายในสิ้นปี 2568

     

    สำหรับปี 2568 ถือเป็นปีที่มีความสำคัญกับการส่งออกของ GWM (Thailand) ซึ่งนอกจากจะมีการขยายตลาดการส่งออกให้มากขึ้นแล้วนั้น ยังสามารถส่งออกรถยนต์ที่ครอบคลุมพลังงานหลายประเภท (Multi Powertrain) หลากหลายเซกเมนต์ (Multi Category & Segment) ทั้งไฮบริด (HEV), รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) และรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโรงงานการผลิตที่ล้ำสมัยของ GWM ในประเทศไทย และการก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกที่สำคัญระดับโลก

     

    รถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ดันผลงานส่งออก GWM (Thailand) พุ่งในปี 2568

    GWM เป็นแบรนด์แรกที่มีการผลิตเพื่อการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดโลก โดยมีการเริ่มส่งออก GWM ORA Good Cat ไปยังประเทศสำคัญ ๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งบราซิลและออสเตรเลีย ในจำนวนกว่า 1,000 คัน แสดงถึงศักยภาพของโรงงานอัจฉริยะ GWM Smart Factory ที่จังหวัดระยอง ในการตอบสนองความต้องการรถ EV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องไปกับความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ทั่วโลก โดยในต้นปี 2568 นั้น ตลาดรวมทั่วโลกมียอดขาย EV และ PHEV เพิ่มขึ้นกว่า 29% ขณะที่ไทยมียอดผลิต EV เพิ่มขึ้นกว่า 393.12% ในครึ่งปีแรก และรัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดเป็น Zero Emission Vehicles ภายในปี 2573

    ก้าวต่ออย่างมั่นคง สู่การเติบโตการส่งออกที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

    จากจำนวนตัวเลขการส่งออก ประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ 3 อับแรกของ GWM (Thailand) ได้แก่ อินโดนีเซีย บราซิล และเวียดนาม และรถยนต์รุ่นที่ส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก คือ GWM TANK 500 HEV, GWM ORA Good Cat และ GWM TANK 300 ทั้งรุ่น HEV และ Diesel โดยในอนาคต GWM (Thailand) มีแผนที่จะขยายการส่งออกสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้มากขึ้น ในจำนวนที่มากขึ้น และในรุ่นรถยนต์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น สะท้อนถึงความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกอย่างแท้จริง และช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของ GWM (Thailand) ในตลาดโลก

     

    เวยน์ โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “การที่ GWM (Thailand) สามารถส่งออกรถยนต์ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งเอเชีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา และแคริบเบียน แสดงถึงศักยภาพของเราในการก้าวจากตลาดในประเทศสู่ผู้เล่นระดับโลก ครอบคลุมหลายประเภทพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น HEV, BEV หรือดีเซล และท่ามกลางกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราพร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านนี้ด้วยรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะ เทคโนโลยี และพลังงานสะอาด รวมถึงการมอบทางเลือกหลากหลายแก่ผู้บริโภคทั่วโลก และร่วมสร้างอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืนผ่านการเป็นศูนย์กลางการผลิตประจำภูมิภาค”

     

    #GWMTHAILAND #GWMGlobal #Export #GWMSmartFactory

    #GWMTANK #GWMHAVAL #GWMORA #GWMPOER


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • การกีฬาแห่งประเทศไทยเสริมสร้างศักยภาพร่วมพัฒนาทัพนักบิดยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จัดหลักสูตรการพัฒนาการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ

    1 Min Read

    การกีฬาแห่งประเทศไทยเสริมสร้างศักยภาพร่วมพัฒนาทัพนักบิดยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จัดหลักสูตรการพัฒนาการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ไอเดีย กฤตภัทร เขื่อนคำ นักแข่งยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ให้การต้อนรับพร้อมถ่ายภาพร่วมกับ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายพรชลิต จุรารักษ์พงศ์ ผอ.กองวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ใน “โครงการเสริมสร้างศักยภาพนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศด้วยการพัฒนาจิตใจ และร่างกายแบบองค์รวม” ซึ่งโครงการนี้เป็นการยกระดับและพัฒนาการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทยให้ไปสู่เป้าหมายในระดับโลก ทั้งนี้ทาง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้สร้างผลงานในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ออกไปสู่ระดับสากล และเป็น 1 ในทีมที่ดีที่สุดในเอเชียมานานกว่า 18 ปี และยังได้ร่วมผลักดันนักแข่งไทยเข้าสู่การแข่งขันในระดับโลกในการเข้าร่วมแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในรุ่น Moto3, Moto2 และการแข่งขัน World SBK

    ทั้งนี้ภายใต้การสนับสนุนของ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (National Sports Development Fund: NSDF) ร่วมกับฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญของการส่งเสริมศักยภาพนักกีฬาไทยในด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู จิตวิทยาการกีฬา และการใช้เทคโนโลยีการแพทย์ โดยมุ่งเน้นองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างเป็นระบบ ผ่านกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วย 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

    1.สมรรถภาพทางกาย 2.จิตวิทยาการกีฬา 3.เวชศาสตร์ฟื้นฟู 4.โภชนาการ

     

    สำหรับครั้งนี้ทัพนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม และทีมสนับสนุนจากยามาฮ่า ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาทัพนักกีฬาไทยไปสู่เวทีระดับโลกได้อย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักกีฬาทีมชาติ นักกีฬาสมาคมแห่งจังหวัด บุคลากรกีฬา และกลุ่มเป้าหมายในโครงการที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้การสนับสนุน 12 สมาคมกีฬา สำหรับโครงการเสริมสร้างศักยภาพนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศด้วยการพัฒนาจิตใจ และร่างกายแบบองค์รวม ในครั้งนี้จัดขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เมื่อเร็วๆ นี้

    #YamahaThailandRacingTeam #YamahaRacing #NSDF


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • ไทยฮอนด้า ส่งมอบหมวกกันน็อกถึงมือภาคเหนือครบ 15 จังหวัด ปลูกฝังวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยสู่เยาวชนกลุ่มเสี่ยงสูง

    1 Min Read

    ไทยฮอนด้า ส่งมอบหมวกกันน็อกถึงมือภาคเหนือครบ 15 จังหวัด ปลูกฝังวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยสู่เยาวชนกลุ่มเสี่ยงสูง

    ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย  เดินหน้าส่งต่อความห่วงใยสู่สังคมไทยในวาระครบรอบ 60 ปี ภายใต้โครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนระดับประเทศ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” ล่าสุดคาราวานหมวกกันน็อกไทยฮอนด้าได้มอบหมวกนิรภัยมาตรฐาน มอก. ให้แก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ 15 จังหวัดภาคเหนือ ครบ 100% แล้ว รวมทั้งสิ้น 13,750  ใบ ทั้งนี้เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัยและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ถือเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีความเปราะบางและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง

    หมวกนิรภัยถือเป็นเกราะป้องกันชีวิตที่สำคัญที่สุดของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพราะสามารถช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บได้ ทั้งนี้ รายงานของ Motorcycle Safety Solutions (MSS) ชี้ให้เห็นว่า เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีในภาคเหนือของประเทศไทย 25.8% เคยประสบอุบัติเหตุทางถนน แต่มีเพียง 16.5% เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัย ขณะที่ผลสำรวจของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเมื่อปี 2550 พบว่า เด็กอายุ 3–14 ปี ใน 15 จังหวัดทั่วประเทศสวมหมวกฯ เฉลี่ยเพียง 10% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนความจำเป็นเร่งด่วนและความท้าทายสำคัญของสังคมไทย จึงเป็นแรงผลักดันให้ไทยฮอนด้ามุ่งมั่นเดินหน้าปลูกฝังวัฒนธรรมการสวมหมวกกันน็อกตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางสูง เพื่อป้องกันการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นและสร้างสังคมไทยที่ขับขี่ปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว

    คาราวานหมวกกันน็อก 60 ปี ไทยฮอนด้า ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการส่งมอบอุปกรณ์ป้องกัน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการร่วมสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัยในทุกภูมิภาค โดยไทยฮอนด้าร่วมกับร้านผู้จำหน่ายทั่วประเทศสมทบหมวกนิรภัยรวม 112,440 ใบ มูลค่า 112 ล้านบาท กระจายครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยคาราวานได้เริ่มต้นเดินทางตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจะทยอยส่งมอบต่อเนื่องจนถึง กรุงเทพมหานครในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568

    การที่คาราวานครอบคลุมภาคเหนือครบทุกจังหวัด นับเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการ ที่ไม่เพียงสร้างการตระหนักรู้ในกลุ่มเยาวชน แต่ยังย้ำชัดถึงพันธกิจของไทยฮอนด้าในการยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทย ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา และพร้อมเดินหน้าส่งต่อความปลอดภัยให้ยั่งยืนต่อไป

     

    สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
    เกี่ยวกับ “60 ปี ไทยฮอนด้า ขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน” ได้ที่

    เว็บไซต์ : www.thaihonda.co.th

    เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า : www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

    IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand

    Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha

    Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA

     

    #ไทยฮอนด้า60ปี #ThaiHonda60TH #ไทยฮอนด้าเคียงข้างสังคมไทย #HondaSafetyThailand #HaveAGoodRide #ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #ไทยฮอนด้า #ThaiHonda


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • “แจกจริง! กรุงศรี ออโต้ ขอบคุณลูกค้าเก่า แจกทองทั่วไทยในแคมเปญ ‘Welcome Back กรุงศรี นิวคาร์ มอบทอง รวมมูลค่า 1 ล้านบาท’ ถึงสิ้นปี 2568″

    1 Min Read

    “แจกจริงกรุงศรี ออโต้ ขอบคุณลูกค้าเก่า แจกทองทั่วไทยในแคมเปญ ‘Welcome Back กรุงศรี นิวคาร์ มอบทอง รวมมูลค่า ล้านบาท’ ถึงสิ้นปี 2568

    กรุงศรี ออโต้’ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคาร

    กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างความคึกคักให้กับตลาดสินเชื่อรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญพิเศษ ‘Welcome Back กรุงศรี นิว คาร์ มอบทอง รวมมูลค่า 1 ล้านบาท’ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 80 ปี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยล่าสุดได้จับรางวัลครั้งที่ 1 สำหรับลูกค้าที่เป็นสัญญาและรับรถ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2568 – 31 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ประกาศรายชื่อผู้โชคดีจำนวน 24 รายจากทั่วประเทศที่คว้าทองคำหนัก 1 สลึงไปครอบครอง โดยมีนายชวลิต ชื่นเชวง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนมอบรางวัล ณ อาคารกรุงศรี สำนักงานเพลินจิต เมื่อเร็ว ๆ นี้

     

    แคมเปญ ‘Welcome Back กรุงศรี นิว คาร์ มอบทอง รวมมูลค่า 1 ล้านบาท’ จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2568 โดยยังเหลือการจับรางวัลอีก 2 ครั้ง ลูกค้าเก่ากรุงศรี ออโต้ ที่สนใจ เพียงสมัครสินเชื่อรถใหม่ กรุงศรี
    นิว คาร์ และได้รับอนุมัติเป็นเลขที่สัญญา และรับรถ ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2568 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://shorturl.asia/7osXu

     

    “ความไว้วางใจของลูกค้าคือพลังสำคัญที่ทำให้ กรุงศรี ออโต้ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เราจึงอยากขอบคุณและตอบแทนความเชื่อมั่นนี้ ผ่านแคมเปญพิเศษที่มอบทั้งความคุ้มค่าและความสุขให้กับทุกคน โดยเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” นายชวลิต กล่าวปิดท้าย

     

    ภาพประกอบข่าวเพิ่มเติม

     *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่
    *‘กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว’
    *สินเชื่อกรุงศรี นิว คาร์ อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ต่ำสุด 1.98% – สูงสุด 5.25% ต่อปี (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 3.81% – 9.80% ต่อปี)
    *กิจกรรมภายใต้แคมเปญ ‘Welcome Back กรุงศรี นิว คาร์’ ได้รับอนุญาตจากกรมการปกครองแล้ว หมายเลขใบอนุญาต 259-261/2568

    #กรุงศรีออโต้ #รถใหม่ #สินเชื่อรถ #แอปโกบายกรุงศรีออโต้


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment
  • 70mai เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 กล้องติดรถยนต์แบบสามช่องสัญญาณรุ่นแรกที่รองรับการบันทึกภาพแบบ Dual-4K

    1 Min Read

    70mai เปิดตัวกล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 กล้องติดรถยนต์แบบสามช่องสัญญาณรุ่นแรกที่รองรับการบันทึกภาพแบบ Dual-4K

    70mai ผู้นำด้านนวัตกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับยานยนต์ ประกาศเปิดตัวกล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด “กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800” ซึ่งเป็นกล้องติดรถยนต์รุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมมุมมอง HDR ทั้งสามช่องสัญญาณ

     

    ยุคใหม่แห่งการบันทึกภาพแบบ Dual 4K ครอบคลุมสามช่องสัญญาณ

    กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 มาพร้อมความสามารถในการบันทึกภาพจากด้านหน้า ด้านหลัง และภายในรถ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย Sony STARVIS™ 2 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมมุมมองภายในรถแบบ 1080P กล้องทั้งสามตัวรองรับการบันทึกแบบ HDR ซึ่งช่วยเก็บรายละเอียดของแสงและเงาได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ภาพที่มีความลึกและความคมชัดในทุกระดับแสง มั่นใจได้ว่าภาพที่ได้จะคมชัดจากทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการขับขี่ในชีวิตประจำวัน อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด หรือขณะจอดรถในพื้นที่กลางแจ้ง

     

    ภาพคมชัดทุกสถานการณ์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน

    แสงแดดจ้ามักทำให้ภาพเกิดการเปิดรับแสงมากเกินไปจนรายละเอียดสำคัญ เช่น ป้ายทะเบียนหรือเหตุการณ์บนท้องถนนเลือนหายไป ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ภาพในเวลากลางคืนก็มักจะพร่ามัวและขาดความคมชัดเนื่องจากแสงไม่เพียงพอ กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 จึงถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับทั้งสองสถานการณ์ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะคือ MaiColor Vivid+ Solution™ และ 70mai Night Owl Vision™ โดย MaiColor Vivid+ Solution™ ช่วยปรับรายละเอียดสำคัญ เช่น ป้ายทะเบียนและป้ายจราจรให้คมชัดยิ่งขึ้น ส่วน Night Owl Vision™ ช่วยให้ภาพกลางคืนมีความคมชัดเหนือระดับ ลดสัญญาณรบกวน ปรับสมดุลแสง และควบคุมแสงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่ป้ายทะเบียนที่อยู่ในระยะไกลก็ยังคมชัดและสามารถมองเห็นและอ่านออกได้อย่างชัดเจน

    ขับหรือจอด ก็ปลอดภัยไม่มีหยุด

    ความปลอดภัยของคุณไม่หยุดอยู่แค่ตอนขับรถ แต่ยังครอบคลุมถึงทุกช่วงเวลาที่รถจอดนิ่ง กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 มาพร้อมระบบบันทึกภาพ 3 ช่องสัญญาณ และมุมมองกว้างกว่า 146 องศา ให้ภาพรอบคันที่คมชัดและแม่นยำโดยไม่ผิดเพี้ยน นอกจากนี้ เทคโนโลยี Lumi Vision ยังช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงน้อยหรือความมืดเกือบสนิท ขณะเดียวกัน ระบบ Super Sensing ADAS จะคอยตรวจจับสิ่งรอบข้างและแจ้งเตือนด้วยเสียงแบบเรียลไทม์ตลอดการเดินทาง เมื่อรถจอด โหมด Smart Parking Guardian จะเปิดการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว การชน และการบันทึกแบบ time-lapse หากเซ็นเซอร์ G ตรวจพบแรงกระแทก กล้องทั้งสามจะเริ่มทำงานทันที โดยระบบ Buffered Emergency Recording แบบอัปเกรดจะบันทึกภาพก่อนเหตุการณ์ได้นานถึง 3 นาที และหลังเหตุการณ์อีก 30 วินาที เพื่อให้ทุกช่วงเวลาสำคัญถูกเก็บบันทึกไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าคุณจะขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนนหรือจอดนิ่งอยู่กับที่ ระบบดูแลความปลอดภัยนี้ก็พร้อมทำงานอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก

    ขับเคลื่อนหรือพักผ่อน ก็พร้อมตอบโจทย์ทุกครอบครัว

    ไม่พลาดทุกภาพความทรงจำแม้ในขณะจับพวงมาลัย กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงได้หลายภาษาให้คุณบันทึกทุกช่วงเวลาสำคัญได้ง่าย ๆ เมื่อสายลมพัดใบไม้ปลิวไกลไปตามถนนเบื้องหน้า เพียงพูดว่า “ถ่ายภาพ” คุณก็สามารถเก็บภาพทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทาง หรือพูดว่า “บันทึกวิดีโอ” ขณะเสียงหัวเราะของครอบครัวก้องอยู่ในห้องโดยสารเพื่อบันทึกช่วงเวลาแห่งความสุข เพราะความมหัศจรรย์ของการเดินทางนั้นอยู่ในทุกไมล์ ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง ด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ความถี่ 5 กิกะเฮิรตซ์ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดวิดีโอขนาด 200MB ได้ภายในเพียง 5 วินาที (ความเร็วสูงถึง 40MB/วินาที) และแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันก่อนจะถึงไมล์ถัดไป ไม่ว่าสภาพอากาศจะร้อนหรือเย็น กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 ก็ยังคงทำงานได้อย่างมั่นใจ ด้วยระบบซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ลบ 40 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 85 องศาเซลเซียส

    กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 มาพร้อมกับ บริการเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน 12 เดือนแบบ 1 ต่อ 1 และ การรับประกันซ่อมฟรีนาน 24 เดือน ขับขี่อย่างมั่นใจ เพราะกล้องติดรถยนต์ของคุณได้รับการปกป้องตลอดเส้นทางข้างหน้า

    ไม่ว่าคุณจะขับไปสถานที่ใด กล้องก็พร้อมทำงานตลอดเวลา หมดปัญหาภาพเบลอหรือพลาดเหตุการณ์สำคัญ กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 มอบประสบการณ์ใหม่ด้วยการบันทึกวิดีโอ HDR แบบ 3 ช่องสัญญาณ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และภายในรถอย่างคมชัด พร้อมวิดีโอระดับ 4K จากกล้องหน้าและหลัง กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 พลิกโฉมทุกการเดินทางด้วยการปกป้องและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง

    กล้องติดรถยนต์ 70mai 4K T800 จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 9,899 บาท โดยจัดจำหน่ายบนช่องทาง Shopee: 70mai Official Store, Lazada, TikTok หากต้องการใช้บริการติดตั้งกล้องติดรถยนต์สามารถเลือกบริการได้ที่ Shopee , Lazada หรือ TIKTOK  ซึ่งเป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการของ 70mai พร้อมยินดีให้บริการติดตั้งโดยทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของการใช้งาน


    ทาง Realtime car magazine ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมกันนะครับ และยังสามารถไปติดตามเราต่อได้ที่นี่เลย

    Website : https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/
    Facebook : https://www.facebook.com/realtimecarmagazinecom/
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCeamIIu312yD-jYJUzOd7kQ
    instagram : https://www.instagram.com/realtimecar_m
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@realtimecar
    Lemon8 : https://s.lemon8-app.com/al/QdvMMZFrQR
    Thread : https://www.threads.net/@realtimecar_magazine


    No Comment